Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā

    นิสฺสยปฎิปฺปสฺสทฺธิกถา

    Nissayapaṭippassaddhikathā

    ๘๓. อุปชฺฌายมฺหา นิสฺสยปฎิปฺปสฺสทฺธีสุ – อุปชฺฌาโย ปกฺกโนฺต วาติอาทีสุ อยํ วินิจฺฉโย – ปกฺกโนฺตติ ตมฺหา อาวาสา วิปฺปวสิตุกาโม ปกฺกโนฺต ทิสํ คโตฯ เอวํ คเต จ ปน ตสฺมิํ สเจ วิหาเร นิสฺสยทายโก อตฺถิ, ยสฺส สนฺติเก อญฺญทาปิ นิสฺสโย วา คหิตปุโพฺพ โหติ, โย วา เอกสโมฺภคปริโภโค, ตสฺส สนฺติเก นิสฺสโย คเหตโพฺพ, เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถิฯ สเจ ตาทิโส นตฺถิ, อโญฺญ ลชฺชี เปสโล อตฺถิ, ตสฺส ลชฺชีเปสลภาวํ ชานเนฺตน ตทเหว นิสฺสโย ยาจิตโพฺพฯ สเจ เทติ, อิเจฺจตํ กุสลํฯ อถ ปน ‘‘ตุมฺหากํ อุปชฺฌาโย ลหุํ อาคมิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉติ, อุปชฺฌาเยน จ ตถา วุตฺตํ, ‘‘อาม, ภเนฺต’’ติ วตฺตพฺพํฯ สเจ วทติ ‘‘เตน หิ อุปชฺฌายสฺส อาคมนํ อาคเมถา’’ติ วฎฺฎติฯ อถ ปนสฺส ปกติยา เปสลภาวํ น ชานาติ, จตฺตาริ ปญฺจ ทิวสานิ ตสฺส ภิกฺขุโน สภาคตํ โอโลเกตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา นิสฺสโย คเหตโพฺพฯ

    83. Upajjhāyamhā nissayapaṭippassaddhīsu – upajjhāyo pakkanto vātiādīsu ayaṃ vinicchayo – pakkantoti tamhā āvāsā vippavasitukāmo pakkanto disaṃ gato. Evaṃ gate ca pana tasmiṃ sace vihāre nissayadāyako atthi, yassa santike aññadāpi nissayo vā gahitapubbo hoti, yo vā ekasambhogaparibhogo, tassa santike nissayo gahetabbo, ekadivasampi parihāro natthi. Sace tādiso natthi, añño lajjī pesalo atthi, tassa lajjīpesalabhāvaṃ jānantena tadaheva nissayo yācitabbo. Sace deti, iccetaṃ kusalaṃ. Atha pana ‘‘tumhākaṃ upajjhāyo lahuṃ āgamissatī’’ti pucchati, upajjhāyena ca tathā vuttaṃ, ‘‘āma, bhante’’ti vattabbaṃ. Sace vadati ‘‘tena hi upajjhāyassa āgamanaṃ āgamethā’’ti vaṭṭati. Atha panassa pakatiyā pesalabhāvaṃ na jānāti, cattāri pañca divasāni tassa bhikkhuno sabhāgataṃ oloketvā okāsaṃ kāretvā nissayo gahetabbo.

    สเจ ปน วิหาเร นิสฺสยทายโก นตฺถิ, อุปชฺฌาโย จ ‘‘อหํ กติปาเหน อาคมิสฺสามิ, มา อุกฺกณฺฐิตฺถา’’ติ วตฺวา คโต, ยาว อาคมนา ปริหาโร ลพฺภติฯ อถาปิ นํ ตตฺถ มนุสฺสา ปริจฺฉินฺนกาลโต อุตฺตริปิ ปญฺจ วา ทส วา ทิวสานิ วาเสนฺติเยว, เตน วิหารํ ปวตฺติ เปเสตพฺพา ‘‘ทหรา มา อุกฺกณฺฐนฺตุ, อหํ อสุกทิวสํ นาม อาคมิสฺสามี’’ติฯ เอวมฺปิ ปริหาโร ลพฺภติฯ อถ อาคจฺฉโต อนฺตรามเคฺค นทีปูเรน วา โจราทีหิ วา อุปทฺทโว โหติ, เถโร อุทโกสกฺกนํ วา อาคเมติ, สหาเย วา ปริเยสติ, ตเญฺจ ปวตฺติํ ทหรา สุณนฺติ, ยาว อาคมนา ปริหาโร ลพฺภติฯ สเจ ปน โส ‘‘อิเธวาหํ วสิสฺสามี’’ติ ปหิณติ, ปริหาโร นตฺถิฯ ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํฯ

    Sace pana vihāre nissayadāyako natthi, upajjhāyo ca ‘‘ahaṃ katipāhena āgamissāmi, mā ukkaṇṭhitthā’’ti vatvā gato, yāva āgamanā parihāro labbhati. Athāpi naṃ tattha manussā paricchinnakālato uttaripi pañca vā dasa vā divasāni vāsentiyeva, tena vihāraṃ pavatti pesetabbā ‘‘daharā mā ukkaṇṭhantu, ahaṃ asukadivasaṃ nāma āgamissāmī’’ti. Evampi parihāro labbhati. Atha āgacchato antarāmagge nadīpūrena vā corādīhi vā upaddavo hoti, thero udakosakkanaṃ vā āgameti, sahāye vā pariyesati, tañce pavattiṃ daharā suṇanti, yāva āgamanā parihāro labbhati. Sace pana so ‘‘idhevāhaṃ vasissāmī’’ti pahiṇati, parihāro natthi. Yattha nissayo labbhati, tattha gantabbaṃ.

    วิพฺภเนฺต ปน กาลงฺกเต ปกฺขสงฺกเนฺต วา เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถิฯ ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํฯ อาณตฺตีติ ปน นิสฺสยปณามนา วุจฺจติฯ ตสฺมา ‘‘ปณาเมมิ ต’’นฺติ วา ‘‘มา อิธ ปฎิกฺกมี’’ติ วา ‘‘นีหร เต ปตฺตจีวร’’นฺติ วา ‘‘นาหํ ตยา อุปฎฺฐาตโพฺพ’’ติ วาติ อิมินา ปาฬินเยน ‘‘มา มํ คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉี’’ติอาทินา ปาฬิมุตฺตกนเยน วา โย นิสฺสยปณามนาย ปณามิโต โหติ, เตน อุปชฺฌาโย ขมาเปตโพฺพฯ

    Vibbhante pana kālaṅkate pakkhasaṅkante vā ekadivasampi parihāro natthi. Yattha nissayo labbhati, tattha gantabbaṃ. Āṇattīti pana nissayapaṇāmanā vuccati. Tasmā ‘‘paṇāmemi ta’’nti vā ‘‘mā idha paṭikkamī’’ti vā ‘‘nīhara te pattacīvara’’nti vā ‘‘nāhaṃ tayā upaṭṭhātabbo’’ti vāti iminā pāḷinayena ‘‘mā maṃ gāmappavesanaṃ āpucchī’’tiādinā pāḷimuttakanayena vā yo nissayapaṇāmanāya paṇāmito hoti, tena upajjhāyo khamāpetabbo.

    สเจ อาทิโตว น ขมติ, ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา ติกฺขตฺตุํ ตาว สยเมว ขมาเปตโพฺพฯ โน เจ ขมติ, ตสฺมิํ วิหาเร มหาเถเร คเหตฺวา ขมาเปตโพฺพฯ โน เจ ขมติ, สามนฺตวิหาเร ภิกฺขู คเหตฺวา ขมาเปตโพฺพฯ สเจ เอวมฺปิ น ขมติ, อญฺญตฺถ คนฺตฺวา อุปชฺฌายสฺส สภาคานํ สนฺติเก วสิตพฺพํ ‘‘อเปฺปว นาม สภาคานํ เม สนฺติเก วสตีติ ญตฺวาปิ ขเมยฺยา’’ติฯ สเจ เอวมฺปิ น ขมติ, ตเตฺรว วสิตพฺพํฯ ตตฺร เจ ทุพฺภิกฺขาทิโทเสน น สกฺกา โหติ วสิตุํ, ตํเยว วิหารํ อาคนฺตฺวา อญฺญสฺส สนฺติเก นิสฺสยํ คเหตฺวา วสิตุํ วฎฺฎติฯ อยมาณตฺติยํ วินิจฺฉโยฯ

    Sace āditova na khamati, daṇḍakammaṃ āharitvā tikkhattuṃ tāva sayameva khamāpetabbo. No ce khamati, tasmiṃ vihāre mahāthere gahetvā khamāpetabbo. No ce khamati, sāmantavihāre bhikkhū gahetvā khamāpetabbo. Sace evampi na khamati, aññattha gantvā upajjhāyassa sabhāgānaṃ santike vasitabbaṃ ‘‘appeva nāma sabhāgānaṃ me santike vasatīti ñatvāpi khameyyā’’ti. Sace evampi na khamati, tatreva vasitabbaṃ. Tatra ce dubbhikkhādidosena na sakkā hoti vasituṃ, taṃyeva vihāraṃ āgantvā aññassa santike nissayaṃ gahetvā vasituṃ vaṭṭati. Ayamāṇattiyaṃ vinicchayo.

    อาจริยมฺหา นิสฺสยปฎิปฺปสฺสทฺธีสุ อาจริโย ปกฺกโนฺต วา โหตีติ เอตฺถ โกจิ อาจริโย อาปุจฺฉิตฺวา ปกฺกมติ, โกจิ อนาปุจฺฉิตฺวาฯ อเนฺตวาสิโกปิ เอวเมวฯ ตตฺร สเจ อเนฺตวาสิโก อาจริยํ อาปุจฺฉติ ‘‘อสุกํ นาม ภเนฺต ฐานํ คนฺตุํ อิจฺฉามิ เกนจิเทว กรณีเยนา’’ติ, อาจริเยน จ ‘‘กทา คมิสฺสสี’’ติ วุโตฺต ‘‘สายเนฺห วา รตฺติํ วา อุฎฺฐหิตฺวา คมิสฺสามี’’ติ วทติ, อาจริโยปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฎิจฺฉติ, ตงฺขณเญฺญว นิสฺสโย ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ

    Ācariyamhā nissayapaṭippassaddhīsu ācariyo pakkanto vāhotīti ettha koci ācariyo āpucchitvā pakkamati, koci anāpucchitvā. Antevāsikopi evameva. Tatra sace antevāsiko ācariyaṃ āpucchati ‘‘asukaṃ nāma bhante ṭhānaṃ gantuṃ icchāmi kenacideva karaṇīyenā’’ti, ācariyena ca ‘‘kadā gamissasī’’ti vutto ‘‘sāyanhe vā rattiṃ vā uṭṭhahitvā gamissāmī’’ti vadati, ācariyopi ‘‘sādhū’’ti sampaṭicchati, taṅkhaṇaññeva nissayo paṭippassambhati.

    สเจ ปน ‘‘ภเนฺต อสุกํ นาม ฐานํ คนฺตุกาโมมฺหี’’ติ วุเตฺต อาจริโย ‘‘อสุกสฺมิํ นาม คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉา ชานิสฺสสี’’ติ วทติ, โส จ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฎิจฺฉติ, ตโต เจ คโต, สุคโตฯ สเจ ปน น คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ อถาปิ ‘‘คจฺฉามี’’ติ วุเตฺต อาจริเยน ‘‘มา ตาว คจฺฉ, รตฺติํ มเนฺตตฺวา ชานิสฺสามา’’ติ วุโตฺต มเนฺตตฺวา คจฺฉติ, สุคโตฯ โน เจ คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ อาจริยํ อนาปุจฺฉา ปกฺกมนฺตสฺส ปน อุปจารสีมาติกฺกเม นิสฺสโย ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ อโนฺตอุปจารสีมโต ปฎินิวตฺตนฺตสฺส น ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ

    Sace pana ‘‘bhante asukaṃ nāma ṭhānaṃ gantukāmomhī’’ti vutte ācariyo ‘‘asukasmiṃ nāma gāme piṇḍāya caritvā pacchā jānissasī’’ti vadati, so ca ‘‘sādhū’’ti sampaṭicchati, tato ce gato, sugato. Sace pana na gacchati, nissayo na paṭippassambhati. Athāpi ‘‘gacchāmī’’ti vutte ācariyena ‘‘mā tāva gaccha, rattiṃ mantetvā jānissāmā’’ti vutto mantetvā gacchati, sugato. No ce gacchati, nissayo na paṭippassambhati. Ācariyaṃ anāpucchā pakkamantassa pana upacārasīmātikkame nissayo paṭippassambhati. Antoupacārasīmato paṭinivattantassa na paṭippassambhati.

    สเจ ปน อาจริโย อเนฺตวาสิกํ อาปุจฺฉติ ‘‘อาวุโส อสุกํ นาม ฐานํ คมิสฺสามี’’ติ, อเนฺตวาสิเกน จ ‘‘กทา’’ติ วุเตฺต ‘‘สายเนฺห วา รตฺติภาเค วา’’ติ วทติ, อเนฺตวาสิโกปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฎิจฺฉติ, ตงฺขณเญฺญว นิสฺสโย ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ

    Sace pana ācariyo antevāsikaṃ āpucchati ‘‘āvuso asukaṃ nāma ṭhānaṃ gamissāmī’’ti, antevāsikena ca ‘‘kadā’’ti vutte ‘‘sāyanhe vā rattibhāge vā’’ti vadati, antevāsikopi ‘‘sādhū’’ti sampaṭicchati, taṅkhaṇaññeva nissayo paṭippassambhati.

    สเจ ปน อาจริโย ‘‘เสฺว ปิณฺฑาย จริตฺวา คมิสฺสามี’’ติ วทติ, อิตโร จ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฎิจฺฉติ, เอกทิวสํ ตาว นิสฺสโย น ปฎิปฺปสฺสมฺภติ, ปุนทิวเส ปฎิปฺปสฺสโทฺธ โหติฯ ‘‘อสุกสฺมิํ นาม คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ชานิสฺสามิ มม คมนํ วา อคมนํ วา’’ติ วตฺวา สเจ น คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ อถาปิ ‘‘คจฺฉามี’’ติ วุเตฺต อเนฺตวาสิเกน ‘‘มา ตาว คจฺฉถ, รตฺติํ มเนฺตตฺวา ชานิสฺสถา’’ติ วุโตฺต มเนฺตตฺวาปิ น คจฺฉติ, นิสฺสโย น ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ

    Sace pana ācariyo ‘‘sve piṇḍāya caritvā gamissāmī’’ti vadati, itaro ca ‘‘sādhū’’ti sampaṭicchati, ekadivasaṃ tāva nissayo na paṭippassambhati, punadivase paṭippassaddho hoti. ‘‘Asukasmiṃ nāma gāme piṇḍāya caritvā jānissāmi mama gamanaṃ vā agamanaṃ vā’’ti vatvā sace na gacchati, nissayo na paṭippassambhati. Athāpi ‘‘gacchāmī’’ti vutte antevāsikena ‘‘mā tāva gacchatha, rattiṃ mantetvā jānissathā’’ti vutto mantetvāpi na gacchati, nissayo na paṭippassambhati.

    สเจ อุโภปิ อาจริยเนฺตวาสิกา เกนจิ กรณีเยน พหิสีมํ คจฺฉนฺติ, ตโต เจ อาจริโย คมิยจิเตฺต อุปฺปเนฺน อนาปุจฺฉาว คนฺตฺวา ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อโนฺตเยว นิวตฺตติ, นิสฺสโย น ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ สเจ เทฺว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา นิวตฺตติ, ปฎิปฺปสฺสโทฺธ โหติฯ อาจริยุปชฺฌายา เทฺว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมฺม อญฺญสฺมิํ วิหาเร วสนฺติ, นิสฺสโย ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ

    Sace ubhopi ācariyantevāsikā kenaci karaṇīyena bahisīmaṃ gacchanti, tato ce ācariyo gamiyacitte uppanne anāpucchāva gantvā dvinnaṃ leḍḍupātānaṃ antoyeva nivattati, nissayo na paṭippassambhati. Sace dve leḍḍupāte atikkamitvā nivattati, paṭippassaddho hoti. Ācariyupajjhāyā dve leḍḍupāte atikkamma aññasmiṃ vihāre vasanti, nissayo paṭippassambhati.

    อาจริเย วิพฺภเนฺต กาลงฺกเต ปกฺขสงฺกเนฺต จ ตงฺขณเญฺญว ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ อาณตฺติยํ ปน สเจปิ อาจริโย มุญฺจิตุกาโมว หุตฺวา นิสฺสยปณามนาย ปณาเมติ, อเนฺตวาสิโก จ ‘‘กิญฺจาปิ มํ อาจริโย ปณาเมติ, อถ โข หทเยน มุทุโก’’ติ สาลโยว โหติ, นิสฺสโย น ปฎิปฺปสฺสมฺภติเยวฯ สเจปิ อาจริโย สาลโย, อเนฺตวาสิโก นิราลโย, ‘‘น ทานิ อิมํ นิสฺสาย วสิสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, เอวมฺปิ น ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ อุภินฺนํ สาลยภาเว ปน น ปฎิปฺปสฺสมฺภติเยวฯ อุภินฺนํ ธุรนิเกฺขเปน ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ ปณามิเตน ทณฺฑกมฺมํ อาหริตฺวา ติกฺขตฺตุํ ขมาเปตโพฺพฯ โน เจ ขมติ, อุปชฺฌาเย วุตฺตนเยน ปฎิปชฺชิตพฺพํฯ

    Ācariye vibbhante kālaṅkate pakkhasaṅkante ca taṅkhaṇaññeva paṭippassambhati. Āṇattiyaṃ pana sacepi ācariyo muñcitukāmova hutvā nissayapaṇāmanāya paṇāmeti, antevāsiko ca ‘‘kiñcāpi maṃ ācariyo paṇāmeti, atha kho hadayena muduko’’ti sālayova hoti, nissayo na paṭippassambhatiyeva. Sacepi ācariyo sālayo, antevāsiko nirālayo, ‘‘na dāni imaṃ nissāya vasissāmī’’ti dhuraṃ nikkhipati, evampi na paṭippassambhati. Ubhinnaṃ sālayabhāve pana na paṭippassambhatiyeva. Ubhinnaṃ dhuranikkhepena paṭippassambhati. Paṇāmitena daṇḍakammaṃ āharitvā tikkhattuṃ khamāpetabbo. No ce khamati, upajjhāye vuttanayena paṭipajjitabbaṃ.

    อุปชฺฌาเยน วา สโมธานคโตติ เอตฺถ ทสฺสนสวนวเสน สโมธานํ เวทิตพฺพํฯ สเจ หิ อาจริยํ นิสฺสาย วสโนฺต สทฺธิวิหาริโก เอกวิหาเร เจติยํ วา วนฺทนฺตํ เอกคาเม ปิณฺฑาย วา จรนฺตํ อุปชฺฌายํ ปสฺสติ, นิสฺสโย ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ อุปชฺฌาโย ปสฺสติ, สทฺธิวิหาริโก ปน น ปสฺสติ, น ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ มคฺคปฺปฎิปนฺนํ วา อากาเสน วา คจฺฉนฺตํ อุปชฺฌายํ ทิสฺวา ทูรตฺตา ภิกฺขูติ ชานาติ, อุปชฺฌาโยติ น ชานาติ, น ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ สเจ ชานาติ, ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ อุปริปาสาเท อุปชฺฌาโย วสติ, เหฎฺฐา สทฺธิวิหาริโก, ตํ อทิสฺวาว ยาคุํ ปิวิตฺวา ปกฺกมติ, อาสนสาลาย วา นิสินฺนํ อทิสฺวาว เอกมเนฺต ภุญฺชิตฺวา ปกฺกมติ, ธมฺมสฺสวนมณฺฑเป วา นิสินฺนมฺปิ ตํ อทิสฺวาว ธมฺมํ สุตฺวา ปกฺกมติ, นิสฺสโย น ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ เอวํ ตาว ทสฺสนวเสน สโมธานํ เวทิตพฺพํฯ

    Upajjhāyena vā samodhānagatoti ettha dassanasavanavasena samodhānaṃ veditabbaṃ. Sace hi ācariyaṃ nissāya vasanto saddhivihāriko ekavihāre cetiyaṃ vā vandantaṃ ekagāme piṇḍāya vā carantaṃ upajjhāyaṃ passati, nissayo paṭippassambhati. Upajjhāyo passati, saddhivihāriko pana na passati, na paṭippassambhati. Maggappaṭipannaṃ vā ākāsena vā gacchantaṃ upajjhāyaṃ disvā dūrattā bhikkhūti jānāti, upajjhāyoti na jānāti, na paṭippassambhati. Sace jānāti, paṭippassambhati. Uparipāsāde upajjhāyo vasati, heṭṭhā saddhivihāriko, taṃ adisvāva yāguṃ pivitvā pakkamati, āsanasālāya vā nisinnaṃ adisvāva ekamante bhuñjitvā pakkamati, dhammassavanamaṇḍape vā nisinnampi taṃ adisvāva dhammaṃ sutvā pakkamati, nissayo na paṭippassambhati. Evaṃ tāva dassanavasena samodhānaṃ veditabbaṃ.

    สวนวเสน ปน สเจ อุปชฺฌายสฺส วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา ธมฺมํ กเถนฺตสฺส อนุโมทนํ วา กโรนฺตสฺส สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อุปชฺฌายสฺส เม สโทฺท’’ติ สญฺชานาติ, นิสฺสโย ปฎิปฺปสฺสมฺภติฯ อสญฺชานนฺตสฺส น ปฎิปฺปสฺสมฺภตีติ อยํ สโมธาเน วินิจฺฉโยฯ

    Savanavasena pana sace upajjhāyassa vihāre vā antaraghare vā dhammaṃ kathentassa anumodanaṃ vā karontassa saddaṃ sutvā ‘‘upajjhāyassa me saddo’’ti sañjānāti, nissayo paṭippassambhati. Asañjānantassa na paṭippassambhatīti ayaṃ samodhāne vinicchayo.

    นิสฺสยปฎิปฺปสฺสทฺธิกถา นิฎฺฐิตาฯ

    Nissayapaṭippassaddhikathā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๒๒. นิสฺสยปฎิปฺปสฺสทฺธิกถา • 22. Nissayapaṭippassaddhikathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / นิสฺสยปฎิปฺปสฺสทฺธิกถาวณฺณนา • Nissayapaṭippassaddhikathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / นิสฺสยปฎิปฺปสฺสทฺธิกถาวณฺณนา • Nissayapaṭippassaddhikathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / นิสฺสยปฎิปฺปสฺสทฺธิกถาวณฺณนา • Nissayapaṭippassaddhikathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒๒. นิสฺสยปฎิปฺปสฺสทฺธิกถา • 22. Nissayapaṭippassaddhikathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact