Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya

    ๕. นิวาปสุตฺตํ

    5. Nivāpasuttaṃ

    ๒๖๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทเนฺต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –

    261. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tatra kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘bhikkhavo’’ti. ‘‘Bhadante’’ti te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca –

    ‘‘น , ภิกฺขเว, เนวาปิโก นิวาปํ นิวปติ มิคชาตานํ – ‘อิมํ เม นิวาปํ นิวุตฺตํ มิคชาตา ปริภุญฺชนฺตา ทีฆายุกา วณฺณวโนฺต จิรํ ทีฆมทฺธานํ ยาเปนฺตู’ติฯ เอวญฺจ โข, ภิกฺขเว, เนวาปิโก นิวาปํ นิวปติ มิคชาตานํ – ‘อิมํ เม นิวาปํ นิวุตฺตํ มิคชาตา อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิสฺสนฺติ, อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา มทํ อาปชฺชิสฺสนฺติ, มตฺตา สมานา ปมาทํ อาปชฺชิสฺสนฺติ, ปมตฺตา สมานา ยถากามกรณียา ภวิสฺสนฺติ อิมสฺมิํ นิวาเป’ติฯ

    ‘‘Na , bhikkhave, nevāpiko nivāpaṃ nivapati migajātānaṃ – ‘imaṃ me nivāpaṃ nivuttaṃ migajātā paribhuñjantā dīghāyukā vaṇṇavanto ciraṃ dīghamaddhānaṃ yāpentū’ti. Evañca kho, bhikkhave, nevāpiko nivāpaṃ nivapati migajātānaṃ – ‘imaṃ me nivāpaṃ nivuttaṃ migajātā anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjissanti, anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjamānā madaṃ āpajjissanti, mattā samānā pamādaṃ āpajjissanti, pamattā samānā yathākāmakaraṇīyā bhavissanti imasmiṃ nivāpe’ti.

    ๒๖๒. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ปฐมา มิคชาตา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ เนวาปิกสฺส อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิํสุ, เต ตตฺถ อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา มทํ อาปชฺชิํสุ, มตฺตา สมานา ปมาทํ อาปชฺชิํสุ, ปมตฺตา สมานา ยถากามกรณียา อเหสุํ เนวาปิกสฺส อมุสฺมิํ นิวาเปฯ เอวญฺหิ เต, ภิกฺขเว, ปฐมา มิคชาตา น ปริมุจฺจิํสุ เนวาปิกสฺส อิทฺธานุภาวาฯ

    262. ‘‘Tatra, bhikkhave, paṭhamā migajātā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ nevāpikassa anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjiṃsu, te tattha anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjamānā madaṃ āpajjiṃsu, mattā samānā pamādaṃ āpajjiṃsu, pamattā samānā yathākāmakaraṇīyā ahesuṃ nevāpikassa amusmiṃ nivāpe. Evañhi te, bhikkhave, paṭhamā migajātā na parimucciṃsu nevāpikassa iddhānubhāvā.

    ๒๖๓. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ทุติยา มิคชาตา เอวํ สมจิเนฺตสุํ – ‘เย โข เต ปฐมา มิคชาตา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ เนวาปิกสฺส อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิํสุฯ เต ตตฺถ อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา มทํ อาปชฺชิํสุ, มตฺตา สมานา ปมาทํ อาปชฺชิํสุ, ปมตฺตา สมานา ยถากามกรณียา อเหสุํ เนวาปิกสฺส อมุสฺมิํ นิวาเปฯ เอวญฺหิ เต ปฐมา มิคชาตา น ปริมุจฺจิํสุ เนวาปิกสฺส อิทฺธานุภาวาฯ ยํนูน มยํ สพฺพโส นิวาปโภชนา ปฎิวิรเมยฺยาม, ภยโภคา ปฎิวิรตา อรญฺญายตนานิ อโชฺฌคาเหตฺวา วิหเรยฺยามา’ติฯ เต สพฺพโส นิวาปโภชนา ปฎิวิรมิํสุ, ภยโภคา ปฎิวิรตา อรญฺญายตนานิ อโชฺฌคาเหตฺวา วิหริํสุฯ เตสํ คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส, ติโณทกสงฺขเย, อธิมตฺตกสิมานํ ปโตฺต กาโย โหติฯ เตสํ อธิมตฺตกสิมานํ ปตฺตกายานํ พลวีริยํ ปริหายิฯ พลวีริเย ปริหีเน ตเมว นิวาปํ นิวุตฺตํ เนวาปิกสฺส ปจฺจาคมิํสุฯ เต ตตฺถ อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิํสุฯ เต ตตฺถ อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา มทํ อาปชฺชิํสุ, มตฺตา สมานา ปมาทํ อาปชฺชิํสุ, ปมตฺตา สมานา ยถากามกรณียา อเหสุํ เนวาปิกสฺส อมุสฺมิํ นิวาเปฯ เอวญฺหิ เต, ภิกฺขเว, ทุติยาปิ มิคชาตา น ปริมุจฺจิํสุ เนวาปิกสฺส อิทฺธานุภาวาฯ

    263. ‘‘Tatra, bhikkhave, dutiyā migajātā evaṃ samacintesuṃ – ‘ye kho te paṭhamā migajātā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ nevāpikassa anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjiṃsu. Te tattha anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjamānā madaṃ āpajjiṃsu, mattā samānā pamādaṃ āpajjiṃsu, pamattā samānā yathākāmakaraṇīyā ahesuṃ nevāpikassa amusmiṃ nivāpe. Evañhi te paṭhamā migajātā na parimucciṃsu nevāpikassa iddhānubhāvā. Yaṃnūna mayaṃ sabbaso nivāpabhojanā paṭivirameyyāma, bhayabhogā paṭiviratā araññāyatanāni ajjhogāhetvā vihareyyāmā’ti. Te sabbaso nivāpabhojanā paṭiviramiṃsu, bhayabhogā paṭiviratā araññāyatanāni ajjhogāhetvā vihariṃsu. Tesaṃ gimhānaṃ pacchime māse, tiṇodakasaṅkhaye, adhimattakasimānaṃ patto kāyo hoti. Tesaṃ adhimattakasimānaṃ pattakāyānaṃ balavīriyaṃ parihāyi. Balavīriye parihīne tameva nivāpaṃ nivuttaṃ nevāpikassa paccāgamiṃsu. Te tattha anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjiṃsu. Te tattha anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjamānā madaṃ āpajjiṃsu, mattā samānā pamādaṃ āpajjiṃsu, pamattā samānā yathākāmakaraṇīyā ahesuṃ nevāpikassa amusmiṃ nivāpe. Evañhi te, bhikkhave, dutiyāpi migajātā na parimucciṃsu nevāpikassa iddhānubhāvā.

    ๒๖๔. ‘‘ตตฺร , ภิกฺขเว, ตติยา มิคชาตา เอวํ สมจิเนฺตสุํ – ‘เย โข เต ปฐมา มิคชาตา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ เนวาปิกสฺส…เป.… เอวญฺหิ เต ปฐมา มิคชาตา น ปริมุจฺจิํสุ เนวาปิกสฺส อิทฺธานุภาวาฯ เยปิ เต ทุติยา มิคชาตา เอวํ สมจิเนฺตสุํ – เย โข เต ปฐมา มิคชาตา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ เนวาปิกสฺส…เป.… เอวญฺหิ เต ปฐมา มิคชาตา น ปริมุจฺจิํสุ เนวาปิกสฺส อิทฺธานุภาวาฯ ยํนูน มยํ สพฺพโส นิวาปโภชนา ปฎิวิรเมยฺยาม, ภยโภคา ปฎิวิรตา อรญฺญายตนานิ อโชฺฌคาเหตฺวา วิหเรยฺยามาติฯ เต สพฺพโส นิวาปโภชนา ปฎิวิรมิํสุ, ภยโภคา ปฎิวิรตา อรญฺญายตนานิ อโชฺฌคาเหตฺวา วิหริํสุฯ เตสํ คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส ติโณทกสงฺขเย อธิมตฺตกสิมานํ ปโตฺต กาโย โหติฯ เตสํ อธิมตฺตกสิมานํ ปตฺตกายานํ พลวีริยํ ปริหายิฯ พลวีริเย ปริหีเน ตเมว นิวาปํ นิวุตฺตํ เนวาปิกสฺส ปจฺจาคมิํสุฯ เต ตตฺถ อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิํสุฯ เต ตตฺถ อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา มทํ อาปชฺชิํสุ, มตฺตา สมานา ปมาทํ อาปชฺชิํสุ, ปมตฺตา สมานา ยถากามกรณียา อเหสุํ เนวาปิกสฺส อมุสฺมิํ นิวาเปฯ เอวญฺหิ เต ทุติยาปิ มิคชาตา น ปริมุจฺจิํสุ เนวาปิกสฺส อิทฺธานุภาวาฯ ยํนูน มยํ อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ เนวาปิกสฺส อุปนิสฺสาย อาสยํ กเปฺปยฺยามฯ ตตฺราสยํ กเปฺปตฺวา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ เนวาปิกสฺส อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิสฺสาม, อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา น มทํ อาปชฺชิสฺสาม, อมตฺตา สมานา น ปมาทํ อาปชฺชิสฺสาม, อปฺปมตฺตา สมานา น ยถากามกรณียา ภวิสฺสาม เนวาปิกสฺส อมุสฺมิํ นิวาเป’ติฯ เต อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ เนวาปิกสฺส อุปนิสฺสาย อาสยํ กปฺปยิํสุฯ ตตฺราสยํ กเปฺปตฺวา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ เนวาปิกสฺส อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิํสุ, เต ตตฺถ อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา น มทํ อาปชฺชิํสุ, อมตฺตา สมานา น ปมาทํ อาปชฺชิํสุ, อปฺปมตฺตา สมานา น ยถากามกรณียา อเหสุํ เนวาปิกสฺส อมุสฺมิํ นิวาเปฯ

    264. ‘‘Tatra , bhikkhave, tatiyā migajātā evaṃ samacintesuṃ – ‘ye kho te paṭhamā migajātā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ nevāpikassa…pe… evañhi te paṭhamā migajātā na parimucciṃsu nevāpikassa iddhānubhāvā. Yepi te dutiyā migajātā evaṃ samacintesuṃ – ye kho te paṭhamā migajātā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ nevāpikassa…pe… evañhi te paṭhamā migajātā na parimucciṃsu nevāpikassa iddhānubhāvā. Yaṃnūna mayaṃ sabbaso nivāpabhojanā paṭivirameyyāma, bhayabhogā paṭiviratā araññāyatanāni ajjhogāhetvā vihareyyāmāti. Te sabbaso nivāpabhojanā paṭiviramiṃsu, bhayabhogā paṭiviratā araññāyatanāni ajjhogāhetvā vihariṃsu. Tesaṃ gimhānaṃ pacchime māse tiṇodakasaṅkhaye adhimattakasimānaṃ patto kāyo hoti. Tesaṃ adhimattakasimānaṃ pattakāyānaṃ balavīriyaṃ parihāyi. Balavīriye parihīne tameva nivāpaṃ nivuttaṃ nevāpikassa paccāgamiṃsu. Te tattha anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjiṃsu. Te tattha anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjamānā madaṃ āpajjiṃsu, mattā samānā pamādaṃ āpajjiṃsu, pamattā samānā yathākāmakaraṇīyā ahesuṃ nevāpikassa amusmiṃ nivāpe. Evañhi te dutiyāpi migajātā na parimucciṃsu nevāpikassa iddhānubhāvā. Yaṃnūna mayaṃ amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ nevāpikassa upanissāya āsayaṃ kappeyyāma. Tatrāsayaṃ kappetvā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ nevāpikassa ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjissāma, ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjamānā na madaṃ āpajjissāma, amattā samānā na pamādaṃ āpajjissāma, appamattā samānā na yathākāmakaraṇīyā bhavissāma nevāpikassa amusmiṃ nivāpe’ti. Te amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ nevāpikassa upanissāya āsayaṃ kappayiṃsu. Tatrāsayaṃ kappetvā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ nevāpikassa ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjiṃsu, te tattha ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjamānā na madaṃ āpajjiṃsu, amattā samānā na pamādaṃ āpajjiṃsu, appamattā samānā na yathākāmakaraṇīyā ahesuṃ nevāpikassa amusmiṃ nivāpe.

    ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เนวาปิกสฺส จ เนวาปิกปริสาย จ เอตทโหสิ – ‘สฐาสฺสุนามิเม ตติยา มิคชาตา เกตพิโน, อิทฺธิมนฺตาสฺสุนามิเม ตติยา มิคชาตา ปรชนา; อิมญฺจ นาม นิวาปํ นิวุตฺตํ ปริภุญฺชนฺติ, น จ เนสํ ชานาม อาคติํ วา คติํ วาฯ ยํนูน มยํ อิมํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มหตีหิ ทณฺฑวากราหิ 1 สมนฺตา สปฺปเทสํ อนุปริวาเรยฺยาม – อเปฺปว นาม ตติยานํ มิคชาตานํ อาสยํ ปเสฺสยฺยาม, ยตฺถ เต คาหํ คเจฺฉยฺยุ’นฺติฯ เต อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มหตีหิ ทณฺฑวากราหิ สมนฺตา สปฺปเทสํ อนุปริวาเรสุํฯ อทฺทสํสุ โข, ภิกฺขเว, เนวาปิโก จ เนวาปิกปริสา จ ตติยานํ มิคชาตานํ อาสยํ, ยตฺถ เต คาหํ อคมํสุฯ เอวญฺหิ เต, ภิกฺขเว, ตติยาปิ มิคชาตา น ปริมุจฺจิํสุ เนวาปิกสฺส อิทฺธานุภาวาฯ

    ‘‘Tatra, bhikkhave, nevāpikassa ca nevāpikaparisāya ca etadahosi – ‘saṭhāssunāmime tatiyā migajātā ketabino, iddhimantāssunāmime tatiyā migajātā parajanā; imañca nāma nivāpaṃ nivuttaṃ paribhuñjanti, na ca nesaṃ jānāma āgatiṃ vā gatiṃ vā. Yaṃnūna mayaṃ imaṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mahatīhi daṇḍavākarāhi 2 samantā sappadesaṃ anuparivāreyyāma – appeva nāma tatiyānaṃ migajātānaṃ āsayaṃ passeyyāma, yattha te gāhaṃ gaccheyyu’nti. Te amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mahatīhi daṇḍavākarāhi samantā sappadesaṃ anuparivāresuṃ. Addasaṃsu kho, bhikkhave, nevāpiko ca nevāpikaparisā ca tatiyānaṃ migajātānaṃ āsayaṃ, yattha te gāhaṃ agamaṃsu. Evañhi te, bhikkhave, tatiyāpi migajātā na parimucciṃsu nevāpikassa iddhānubhāvā.

    ๒๖๕. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, จตุตฺถา มิคชาตา เอวํ สมจิเนฺตสุํ – ‘เย โข เต ปฐมา มิคชาตา…เป.… เอวญฺหิ เต ปฐมา มิคชาตา น ปริมุจฺจิํสุ เนวาปิกสฺส อิทฺธานุภาวาฯ เยปิ เต ทุติยา มิคชาตา เอวํ สมจิเนฺตสุํ ‘เย โข เต ปฐมา มิคชาตา…เป.… เอวญฺหิ เต ปฐมา มิคชาตา น ปริมุจฺจิํสุ เนวาปิกสฺส อิทฺธานุภาวาฯ ยํนูน มยํ สพฺพโส นิวาปโภชนา ปฎิวิรเมยฺยาม, ภยโภคา ปฎิวิรตา อรญฺญายตนานิ อโชฺฌคาเหตฺวา วิหเรยฺยามา’ติฯ เต สพฺพโส นิวาปโภชนา ปฎิวิรมิํสุ…เป.… เอวญฺหิ เต ทุติยาปิ มิคชาตา น ปริมุจฺจิํสุ เนวาปิกสฺส อิทฺธานุภาวาฯ เยปิ เต ตติยา มิคชาตา เอวํ สมจิเนฺตสุํ ‘เย โข เต ปฐมา มิคชาตา…เป.… เอวญฺหิ เต ปฐมา มิคชาตา น ปริมุจฺจิํสุ เนวาปิกสฺส อิทฺธานุภาวาฯ เยปิ เต ทุติยา มิคชาตา เอวํ สมจิเนฺตสุํ ‘เย โข เต ปฐมา มิคชาตา…เป.… เอวญฺหิ เต ปฐมา มิคชาตา น ปริมุจฺจิํสุ เนวาปิกสฺส อิทฺธานุภาวาฯ ยํนูน มยํ สพฺพโส นิวาปโภชนา ปฎิวิรเมยฺยาม, ภยโภคา ปฎิวิรตา อรญฺญายตนานิ อโชฺฌคาเหตฺวา วิหเรยฺยามา’ติฯ เต สพฺพโส นิวาปโภชนา ปฎิวิรมิํสุ…เป.… เอวญฺหิ เต ทุติยาปิ มิคชาตา น ปริมุจฺจิํสุ เนวาปิกสฺส อิทฺธานุภาวาฯ ยํนูน มยํ อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ เนวาปิกสฺส อุปนิสฺสาย อาสยํ กเปฺปยฺยาม, ตตฺราสยํ กเปฺปตฺวา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ เนวาปิกสฺส อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิสฺสาม, อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา น มทํ อาปชฺชิสฺสาม, อมตฺตา สมานา น ปมาทํ อาปชฺชิสฺสาม, อปฺปมตฺตา สมานา น ยถากามกรณียา ภวิสฺสาม เนวาปิกสฺส อมุสฺมิํ นิวาเป’ติฯ เต อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ เนวาปิกสฺส อุปนิสฺสาย อาสยํ กปฺปยิํสุ, ตตฺราสยํ กเปฺปตฺวา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ เนวาปิกสฺส อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิํสุ, เต ตตฺถ อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา น มทํ อาปชฺชิํสุ, อมตฺตา สมานา น ปมาทํ อาปชฺชิํสุ, อปฺปมตฺตา สมานา น ยถากามกรณียา อเหสุํ เนวาปิกสฺส อมุสฺมิํ นิวาเปฯ

    265. ‘‘Tatra, bhikkhave, catutthā migajātā evaṃ samacintesuṃ – ‘ye kho te paṭhamā migajātā…pe… evañhi te paṭhamā migajātā na parimucciṃsu nevāpikassa iddhānubhāvā. Yepi te dutiyā migajātā evaṃ samacintesuṃ ‘ye kho te paṭhamā migajātā…pe… evañhi te paṭhamā migajātā na parimucciṃsu nevāpikassa iddhānubhāvā. Yaṃnūna mayaṃ sabbaso nivāpabhojanā paṭivirameyyāma, bhayabhogā paṭiviratā araññāyatanāni ajjhogāhetvā vihareyyāmā’ti. Te sabbaso nivāpabhojanā paṭiviramiṃsu…pe… evañhi te dutiyāpi migajātā na parimucciṃsu nevāpikassa iddhānubhāvā. Yepi te tatiyā migajātā evaṃ samacintesuṃ ‘ye kho te paṭhamā migajātā…pe… evañhi te paṭhamā migajātā na parimucciṃsu nevāpikassa iddhānubhāvā. Yepi te dutiyā migajātā evaṃ samacintesuṃ ‘ye kho te paṭhamā migajātā…pe… evañhi te paṭhamā migajātā na parimucciṃsu nevāpikassa iddhānubhāvā. Yaṃnūna mayaṃ sabbaso nivāpabhojanā paṭivirameyyāma, bhayabhogā paṭiviratā araññāyatanāni ajjhogāhetvā vihareyyāmā’ti. Te sabbaso nivāpabhojanā paṭiviramiṃsu…pe… evañhi te dutiyāpi migajātā na parimucciṃsu nevāpikassa iddhānubhāvā. Yaṃnūna mayaṃ amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ nevāpikassa upanissāya āsayaṃ kappeyyāma, tatrāsayaṃ kappetvā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ nevāpikassa ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjissāma, ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjamānā na madaṃ āpajjissāma, amattā samānā na pamādaṃ āpajjissāma, appamattā samānā na yathākāmakaraṇīyā bhavissāma nevāpikassa amusmiṃ nivāpe’ti. Te amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ nevāpikassa upanissāya āsayaṃ kappayiṃsu, tatrāsayaṃ kappetvā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ nevāpikassa ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjiṃsu, te tattha ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjamānā na madaṃ āpajjiṃsu, amattā samānā na pamādaṃ āpajjiṃsu, appamattā samānā na yathākāmakaraṇīyā ahesuṃ nevāpikassa amusmiṃ nivāpe.

    ‘‘ตตฺร เนวาปิกสฺส จ เนวาปิกปริสาย จ เอตทโหสิ – ‘สฐาสฺสุนามิเม ตติยา มิคชาตา เกตพิโน, อิทฺธิมนฺตาสฺสุนามิเม ตติยา มิคชาตา ปรชนา, อิมญฺจ นาม นิวาปํ นิวุตฺตํ ปริภุญฺชนฺติฯ น จ เนสํ ชานาม อาคติํ วา คติํ วาฯ ยํนูน มยํ อิมํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มหตีติ ทณฺฑวากราหิ สมนฺตา สปฺปเทสํ อนุปริวาเรยฺยาม, อเปฺปว นาม ตติยานํ มิคชาตานํ อาสยํ ปเสฺสยฺยาม, ยตฺถ เต คาหํ คเจฺฉยฺยุ’นฺติฯ เต อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มหตีติ ทณฺฑวากราหิ สมนฺตา สปฺปเทสํ อนุปริวาเรสุํฯ อทฺทสํสุ โข เนวาปิโก จ เนวาปิกปริสา จ ตติยานํ มิคชาตานํ อาสยํ, ยตฺถ เต คาหํ อคมํสุฯ เอวญฺหิ เต ตติยาปิ มิคชาตา น ปริมุจฺจิํสุ เนวาปิกสฺส อิทฺธานุภาวาฯ ยํนูน มยํ ยตฺถ อคติ เนวาปิกสฺส จ เนวาปิกปริสาย จ ตตฺราสยํ กเปฺปยฺยาม, ตตฺราสยํ กเปฺปตฺวา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ เนวาปิกสฺส อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิสฺสาม, อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา น มทํ อาปชฺชิสฺสาม, อมตฺตา สมานา น ปมาทํ อาปชฺชิสฺสาม, อปฺปมตฺตา สมานา น ยถากามกรณียา ภวิสฺสาม เนวาปิกสฺส อมุสฺมิํ นิวาเป’ติฯ เต ยตฺถ อคติ เนวาปิกสฺส จ เนวาปิกปริสาย จ ตตฺราสยํ กปฺปยิํสุฯ ตตฺราสยํ กเปฺปตฺวา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ เนวาปิกสฺส อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิํสุ, เต ตตฺถ อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา น มทํ อาปชฺชิํสุ, อมตฺตา สมานา น ปมาทํ อาปชฺชิํสุ, อปฺปมตฺตา สมานา น ยถากามกรณียา อเหสุํ เนวาปิกสฺส อมุสฺมิํ นิวาเปฯ

    ‘‘Tatra nevāpikassa ca nevāpikaparisāya ca etadahosi – ‘saṭhāssunāmime tatiyā migajātā ketabino, iddhimantāssunāmime tatiyā migajātā parajanā, imañca nāma nivāpaṃ nivuttaṃ paribhuñjanti. Na ca nesaṃ jānāma āgatiṃ vā gatiṃ vā. Yaṃnūna mayaṃ imaṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mahatīti daṇḍavākarāhi samantā sappadesaṃ anuparivāreyyāma, appeva nāma tatiyānaṃ migajātānaṃ āsayaṃ passeyyāma, yattha te gāhaṃ gaccheyyu’nti. Te amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mahatīti daṇḍavākarāhi samantā sappadesaṃ anuparivāresuṃ. Addasaṃsu kho nevāpiko ca nevāpikaparisā ca tatiyānaṃ migajātānaṃ āsayaṃ, yattha te gāhaṃ agamaṃsu. Evañhi te tatiyāpi migajātā na parimucciṃsu nevāpikassa iddhānubhāvā. Yaṃnūna mayaṃ yattha agati nevāpikassa ca nevāpikaparisāya ca tatrāsayaṃ kappeyyāma, tatrāsayaṃ kappetvā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ nevāpikassa ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjissāma, ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjamānā na madaṃ āpajjissāma, amattā samānā na pamādaṃ āpajjissāma, appamattā samānā na yathākāmakaraṇīyā bhavissāma nevāpikassa amusmiṃ nivāpe’ti. Te yattha agati nevāpikassa ca nevāpikaparisāya ca tatrāsayaṃ kappayiṃsu. Tatrāsayaṃ kappetvā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ nevāpikassa ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjiṃsu, te tattha ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjamānā na madaṃ āpajjiṃsu, amattā samānā na pamādaṃ āpajjiṃsu, appamattā samānā na yathākāmakaraṇīyā ahesuṃ nevāpikassa amusmiṃ nivāpe.

    ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เนวาปิกสฺส จ เนวาปิกปริสาย จ เอตทโหสิ – ‘สฐาสฺสุนามิเม จตุตฺถา มิคชาตา เกตพิโน, อิทฺธิมนฺตาสฺสุนามิเม จตุตฺถา มิคชาตา ปรชนาฯ อิมญฺจ นาม นิวาปํ นิวุตฺตํ ปริภุญฺชนฺติ, น จ เนสํ ชานาม อาคติํ วา คติํ วาฯ ยํนูน มยํ อิมํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มหตีหิ ทณฺฑวากราหิ สมนฺตา สปฺปเทสํ อนุปริวาเรยฺยาม, อเปฺปว นาม จตุตฺถานํ มิคชาตานํ อาสยํ ปเสฺสยฺยาม ยตฺถ เต คาหํ คเจฺฉยฺยุ’นฺติฯ เต อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มหตีหิ ทณฺฑวากราหิ สมนฺตา สปฺปเทสํ อนุปริวาเรสุํฯ เนว โข, ภิกฺขเว, อทฺทสํสุ เนวาปิโก จ เนวาปิกปริสา จ จตุตฺถานํ มิคชาตานํ อาสยํ, ยตฺถ เต คาหํ คเจฺฉยฺยุํฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, เนวาปิกสฺส จ เนวาปิกปริสาย จ เอตทโหสิ – ‘สเจ โข มยํ จตุเตฺถ มิคชาเต ฆเฎฺฎสฺสาม, เต ฆฎฺฎิตา อเญฺญ ฆฎฺฎิสฺสนฺติ เต ฆฎฺฎิตา อเญฺญ ฆฎฺฎิสฺสนฺติฯ เอวํ อิมํ นิวาปํ นิวุตฺตํ สพฺพโส มิคชาตา ปริมุญฺจิสฺสนฺติฯ ยํนูน มยํ จตุเตฺถ มิคชาเต อชฺฌุเปเกฺขยฺยามา’ติฯ อชฺฌุเปกฺขิํสุ โข, ภิกฺขเว, เนวาปิโก จ เนวาปิกปริสา จ จตุเตฺถ มิคชาเตฯ เอวญฺหิ เต, ภิกฺขเว, จตุตฺถา มิคชาตา ปริมุจฺจิํสุ เนวาปิกสฺส อิทฺธานุภาวาฯ

    ‘‘Tatra, bhikkhave, nevāpikassa ca nevāpikaparisāya ca etadahosi – ‘saṭhāssunāmime catutthā migajātā ketabino, iddhimantāssunāmime catutthā migajātā parajanā. Imañca nāma nivāpaṃ nivuttaṃ paribhuñjanti, na ca nesaṃ jānāma āgatiṃ vā gatiṃ vā. Yaṃnūna mayaṃ imaṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mahatīhi daṇḍavākarāhi samantā sappadesaṃ anuparivāreyyāma, appeva nāma catutthānaṃ migajātānaṃ āsayaṃ passeyyāma yattha te gāhaṃ gaccheyyu’nti. Te amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mahatīhi daṇḍavākarāhi samantā sappadesaṃ anuparivāresuṃ. Neva kho, bhikkhave, addasaṃsu nevāpiko ca nevāpikaparisā ca catutthānaṃ migajātānaṃ āsayaṃ, yattha te gāhaṃ gaccheyyuṃ. Tatra, bhikkhave, nevāpikassa ca nevāpikaparisāya ca etadahosi – ‘sace kho mayaṃ catutthe migajāte ghaṭṭessāma, te ghaṭṭitā aññe ghaṭṭissanti te ghaṭṭitā aññe ghaṭṭissanti. Evaṃ imaṃ nivāpaṃ nivuttaṃ sabbaso migajātā parimuñcissanti. Yaṃnūna mayaṃ catutthe migajāte ajjhupekkheyyāmā’ti. Ajjhupekkhiṃsu kho, bhikkhave, nevāpiko ca nevāpikaparisā ca catutthe migajāte. Evañhi te, bhikkhave, catutthā migajātā parimucciṃsu nevāpikassa iddhānubhāvā.

    ๒๖๖. ‘‘อุปมา โข เม อยํ, ภิกฺขเว, กตา อตฺถสฺส วิญฺญาปนายฯ อยํ เจเวตฺถ อโตฺถ – นิวาโปติ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจเนฺนตํ กามคุณานํ อธิวจนํฯ เนวาปิโกติ โข, ภิกฺขเว, มารเสฺสตํ ปาปิมโต อธิวจนํฯ เนวาปิกปริสาติ โข, ภิกฺขเว, มารปริสาเยตํ อธิวจนํฯ มิคชาตาติ โข, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณานเมตํ อธิวจนํฯ

    266. ‘‘Upamā kho me ayaṃ, bhikkhave, katā atthassa viññāpanāya. Ayaṃ cevettha attho – nivāpoti kho, bhikkhave, pañcannetaṃ kāmaguṇānaṃ adhivacanaṃ. Nevāpikoti kho, bhikkhave, mārassetaṃ pāpimato adhivacanaṃ. Nevāpikaparisāti kho, bhikkhave, māraparisāyetaṃ adhivacanaṃ. Migajātāti kho, bhikkhave, samaṇabrāhmaṇānametaṃ adhivacanaṃ.

    ๒๖๗. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ปฐมา สมณพฺราหฺมณา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส อมูนิ จ โลกามิสานิ อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิํสุฯ เต ตตฺถ อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา มทํ อาปชฺชิํสุ, มตฺตา สมานา ปมาทํ อาปชฺชิํสุ, ปมตฺตา สมานา ยถากามกรณียา อเหสุํ มารสฺส อมุสฺมิํ นิวาเป อมุสฺมิญฺจ โลกามิเส ฯ เอวญฺหิ เต, ภิกฺขเว, ปฐมา สมณพฺราหฺมณา น ปริมุจฺจิํสุ มารสฺส อิทฺธานุภาวาฯ เสยฺยถาปิ เต, ภิกฺขเว, ปฐมา มิคชาตา ตถูปเม อหํ อิเม ปฐเม สมณพฺราหฺมเณ วทามิฯ

    267. ‘‘Tatra, bhikkhave, paṭhamā samaṇabrāhmaṇā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa amūni ca lokāmisāni anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjiṃsu. Te tattha anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjamānā madaṃ āpajjiṃsu, mattā samānā pamādaṃ āpajjiṃsu, pamattā samānā yathākāmakaraṇīyā ahesuṃ mārassa amusmiṃ nivāpe amusmiñca lokāmise . Evañhi te, bhikkhave, paṭhamā samaṇabrāhmaṇā na parimucciṃsu mārassa iddhānubhāvā. Seyyathāpi te, bhikkhave, paṭhamā migajātā tathūpame ahaṃ ime paṭhame samaṇabrāhmaṇe vadāmi.

    ๒๖๘. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ทุติยา สมณพฺราหฺมณา เอวํ สมจิเนฺตสุํ – ‘เย โข เต ปฐมา สมณพฺราหฺมณา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส อมูนิ จ โลกามิสานิ อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิํสุฯ เต ตตฺถ อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา มทํ อาปชฺชิํสุ, มตฺตา สมานา ปมาทํ อาปชฺชิํสุ, ปมตฺตา สมานา ยถากามกรณียา อเหสุํ มารสฺส อมุสฺมิํ นิวาเป อมุสฺมิญฺจ โลกามิเสฯ เอวญฺหิ เต ปฐมา สมณพฺราหฺมณา น ปริมุจฺจิํสุ มารสฺส อิทฺธานุภาวาฯ ยํนูน มยํ สพฺพโส นิวาปโภชนา โลกามิสา ปฎิวิรเมยฺยาม, ภยโภคา ปฎิวิรตา อรญฺญายตนานิ อโชฺฌคาเหตฺวา วิหเรยฺยามา’ติฯ เต สพฺพโส นิวาปโภชนา โลกามิสา ปฎิวิรมิํสุ, ภยโภคา ปฎิวิรตา อรญฺญายตนานิ อโชฺฌคาเหตฺวา วิหเรยฺยามาติฯ เต สพฺพโส นิวาปโภชนา โลกามิสา ปฎิวิรมิํสุ, ภยโภคา ปฎิวิรตา อรญฺญายตนานิ อโชฺฌคาเหตฺวา วิหริํสุฯ เต ตตฺถ สากภกฺขาปิ อเหสุํ, สามากภกฺขาปิ อเหสุํ, นีวารภกฺขาปิ อเหสุํ, ททฺทุลภกฺขาปิ อเหสุํ, หฎภกฺขาปิ อเหสุํ, กณภกฺขาปิ อเหสุํ, อาจามภกฺขาปิ อเหสุํ, ปิญฺญากภกฺขาปิ อเหสุํ, ติณภกฺขาปิ อเหสุํ, โคมยภกฺขาปิ อเหสุํ, วนมูลผลาหารา ยาเปสุํ ปวตฺตผลโภชีฯ

    268. ‘‘Tatra, bhikkhave, dutiyā samaṇabrāhmaṇā evaṃ samacintesuṃ – ‘ye kho te paṭhamā samaṇabrāhmaṇā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa amūni ca lokāmisāni anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjiṃsu. Te tattha anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjamānā madaṃ āpajjiṃsu, mattā samānā pamādaṃ āpajjiṃsu, pamattā samānā yathākāmakaraṇīyā ahesuṃ mārassa amusmiṃ nivāpe amusmiñca lokāmise. Evañhi te paṭhamā samaṇabrāhmaṇā na parimucciṃsu mārassa iddhānubhāvā. Yaṃnūna mayaṃ sabbaso nivāpabhojanā lokāmisā paṭivirameyyāma, bhayabhogā paṭiviratā araññāyatanāni ajjhogāhetvā vihareyyāmā’ti. Te sabbaso nivāpabhojanā lokāmisā paṭiviramiṃsu, bhayabhogā paṭiviratā araññāyatanāni ajjhogāhetvā vihareyyāmāti. Te sabbaso nivāpabhojanā lokāmisā paṭiviramiṃsu, bhayabhogā paṭiviratā araññāyatanāni ajjhogāhetvā vihariṃsu. Te tattha sākabhakkhāpi ahesuṃ, sāmākabhakkhāpi ahesuṃ, nīvārabhakkhāpi ahesuṃ, daddulabhakkhāpi ahesuṃ, haṭabhakkhāpi ahesuṃ, kaṇabhakkhāpi ahesuṃ, ācāmabhakkhāpi ahesuṃ, piññākabhakkhāpi ahesuṃ, tiṇabhakkhāpi ahesuṃ, gomayabhakkhāpi ahesuṃ, vanamūlaphalāhārā yāpesuṃ pavattaphalabhojī.

    ‘‘เตสํ คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส, ติโณทกสงฺขเย, อธิมตฺตกสิมานํ ปโตฺต กาโย โหติฯ เตสํ อธิมตฺตกสิมานํ ปตฺตกายานํ พลวีริยํ ปริหายิฯ พลวีริเย ปริหีเน เจโตวิมุตฺติ ปริหายิฯ เจโตวิมุตฺติยา ปริหีนาย ตเมว นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส ปจฺจาคมิํสุ ตานิ จ โลกามิสานิฯ เต ตตฺถ อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิํสุฯ เต ตตฺถ อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา มทํ อาปชฺชิํสุ, มตฺตา สมานา ปมาทํ อาปชฺชิํสุ, ปมตฺตา สมานา ยถากามกรณียา อเหสุํ มารสฺส อมุสฺมิํ นิวาเป อมุสฺมิญฺจ โลกามิเสฯ เอวญฺหิ เต, ภิกฺขเว, ทุติยาปิ สมณพฺราหฺมณา น ปริมุจฺจิํสุ มารสฺส อิทฺธานุภาวาฯ เสยฺยถาปิ เต, ภิกฺขเว, ทุติยา มิคชาตา ตถูปเม อหํ อิเม ทุติเย สมณพฺราหฺมเณ วทามิฯ

    ‘‘Tesaṃ gimhānaṃ pacchime māse, tiṇodakasaṅkhaye, adhimattakasimānaṃ patto kāyo hoti. Tesaṃ adhimattakasimānaṃ pattakāyānaṃ balavīriyaṃ parihāyi. Balavīriye parihīne cetovimutti parihāyi. Cetovimuttiyā parihīnāya tameva nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa paccāgamiṃsu tāni ca lokāmisāni. Te tattha anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjiṃsu. Te tattha anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjamānā madaṃ āpajjiṃsu, mattā samānā pamādaṃ āpajjiṃsu, pamattā samānā yathākāmakaraṇīyā ahesuṃ mārassa amusmiṃ nivāpe amusmiñca lokāmise. Evañhi te, bhikkhave, dutiyāpi samaṇabrāhmaṇā na parimucciṃsu mārassa iddhānubhāvā. Seyyathāpi te, bhikkhave, dutiyā migajātā tathūpame ahaṃ ime dutiye samaṇabrāhmaṇe vadāmi.

    ๒๖๙. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ตติยา สมณพฺราหฺมณา เอวํ สมจิเนฺตสุํ – ‘เย โข เต ปฐมา สมณพฺราหฺมณา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส อมูนิ จ โลกามิสานิ…เป.…ฯ เอวญฺหิ เต ปฐมา สมณพฺราหฺมณา น ปริมุจฺจิํสุ มารสฺส อิทฺธานุภาวาฯ เยปิ เต ทุติยา สมณพฺราหฺมณา เอวํ สมจิเนฺตสุํ – ‘เย โข เต ปฐมา สมณพฺราหฺมณา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส อมูนิ จ โลกามิสานิ…เป.…ฯ เอวญฺหิ เต ปฐมา สมณพฺราหฺมณา น ปริมุจฺจิํสุ มารสฺส อิทฺธานุภาวาฯ ยํนูน มยํ สพฺพโส นิวาปโภชนา โลกามิสา ปฎิวิรเมยฺยาม, ภยโภคา ปฎิวิรตา อรญฺญายตนานิ อโชฺฌคาเหตฺวา วิหเรยฺยามา’ติฯ เต สพฺพโส นิวาปโภชนา โลกามิสา ปฎิวิรมิํสุฯ ภยโภคา ปฎิวิรตา อรญฺญายตนานิ อโชฺฌคาเหตฺวา วิหริํสุฯ เต ตตฺถ สากภกฺขาปิ อเหสุํ…เป.… ปวตฺตผลโภชีฯ เตสํ คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส ติโณทกสงฺขเย อธิมตฺตกสิมานํ ปโตฺต กาโย โหติฯ เตสํ อธิมตฺตกสิมานํ ปตฺตกายานํ พลวีริยํ ปริหายิ, พลวีริเย ปริหีเน เจโตวิมุตฺติ ปริหายิ, เจโตวิมุตฺติยา ปริหีนาย ตเมว นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส ปจฺจาคมิํสุ ตานิ จ โลกามิสานิฯ เต ตตฺถ อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิํสุฯ เต ตตฺถ อนุปขชฺช มุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา มทํ อาปชฺชิํสุ, มตฺตา สมานา ปมาทํ อาปชฺชิํสุ, ปมตฺตา สมานา ยถากามกรณียา อเหสุํ มารสฺส อมุสฺมิํ นิวาเป อมุสฺมิญฺจ โลกามิเสฯ เอวญฺหิ เต ทุติยาปิ สมณพฺราหฺมณา น ปริมุจฺจิํสุ มารสฺส อิทฺธานุภาวาฯ ยํนูน มยํ อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส อมูนิ จ โลกามิสานิ อุปนิสฺสาย อาสยํ กเปฺปยฺยาม, ตตฺราสยํ กเปฺปตฺวา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส อมูนิ จ โลกามิสานิ อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิสฺสาม, อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา น มทํ อาปชฺชิสฺสาม, อมตฺตา สมานา น ปมาทํ อาปชฺชิสฺสาม, อปฺปมตฺตา สมานา น ยถากามกรณียา ภวิสฺสาม มารสฺส อมุสฺมิํ นิวาเป อมุสฺมิญฺจ โลกามิเส’’ติฯ

    269. ‘‘Tatra, bhikkhave, tatiyā samaṇabrāhmaṇā evaṃ samacintesuṃ – ‘ye kho te paṭhamā samaṇabrāhmaṇā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa amūni ca lokāmisāni…pe…. Evañhi te paṭhamā samaṇabrāhmaṇā na parimucciṃsu mārassa iddhānubhāvā. Yepi te dutiyā samaṇabrāhmaṇā evaṃ samacintesuṃ – ‘ye kho te paṭhamā samaṇabrāhmaṇā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa amūni ca lokāmisāni…pe…. Evañhi te paṭhamā samaṇabrāhmaṇā na parimucciṃsu mārassa iddhānubhāvā. Yaṃnūna mayaṃ sabbaso nivāpabhojanā lokāmisā paṭivirameyyāma, bhayabhogā paṭiviratā araññāyatanāni ajjhogāhetvā vihareyyāmā’ti. Te sabbaso nivāpabhojanā lokāmisā paṭiviramiṃsu. Bhayabhogā paṭiviratā araññāyatanāni ajjhogāhetvā vihariṃsu. Te tattha sākabhakkhāpi ahesuṃ…pe… pavattaphalabhojī. Tesaṃ gimhānaṃ pacchime māse tiṇodakasaṅkhaye adhimattakasimānaṃ patto kāyo hoti. Tesaṃ adhimattakasimānaṃ pattakāyānaṃ balavīriyaṃ parihāyi, balavīriye parihīne cetovimutti parihāyi, cetovimuttiyā parihīnāya tameva nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa paccāgamiṃsu tāni ca lokāmisāni. Te tattha anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjiṃsu. Te tattha anupakhajja mucchitā bhojanāni bhuñjamānā madaṃ āpajjiṃsu, mattā samānā pamādaṃ āpajjiṃsu, pamattā samānā yathākāmakaraṇīyā ahesuṃ mārassa amusmiṃ nivāpe amusmiñca lokāmise. Evañhi te dutiyāpi samaṇabrāhmaṇā na parimucciṃsu mārassa iddhānubhāvā. Yaṃnūna mayaṃ amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa amūni ca lokāmisāni upanissāya āsayaṃ kappeyyāma, tatrāsayaṃ kappetvā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa amūni ca lokāmisāni ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjissāma, ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjamānā na madaṃ āpajjissāma, amattā samānā na pamādaṃ āpajjissāma, appamattā samānā na yathākāmakaraṇīyā bhavissāma mārassa amusmiṃ nivāpe amusmiñca lokāmise’’ti.

    ‘‘เต อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส อมูนิ จ โลกามิสานิ อุปนิสฺสาย อาสยํ กปฺปยิํสุฯ ตตฺราสยํ กเปฺปตฺวา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส อมูนิ จ โลกามิสานิ อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิํสุฯ เต ตตฺถ อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา น มทํ อาปชฺชิํสุ, อมตฺตา สมานา น ปมาทํ อาปชฺชิํสุ, อปฺปมตฺตา สมานา น ยถากามกรณียา อเหสุํ มารสฺส อมุสฺมิํ นิวาเป อมุสฺมิญฺจ โลกามิเส ฯ อปิ จ โข เอวํทิฎฺฐิกา อเหสุํ – สสฺสโต โลโก อิติปิ, อสสฺสโต โลโก อิติปิ; อนฺตวา โลโก อิติปิ, อนนฺตวา โลโก อิติปิ; ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ อิติปิ, อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรํ อิติปิ; โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา อิติปิ, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา อิติปิ, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา อิติปิ, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา อิติปิ ฯ เอวญฺหิ เต, ภิกฺขเว, ตติยาปิ สมณพฺราหฺมณา น ปริมุจฺจิํสุ มารสฺส อิทฺธานุภาวาฯ เสยฺยถาปิ เต, ภิกฺขเว, ตติยา มิคชาตา ตถูปเม อหํ อิเม ตติเย สมณพฺราหฺมเณ วทามิฯ

    ‘‘Te amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa amūni ca lokāmisāni upanissāya āsayaṃ kappayiṃsu. Tatrāsayaṃ kappetvā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa amūni ca lokāmisāni ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjiṃsu. Te tattha ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjamānā na madaṃ āpajjiṃsu, amattā samānā na pamādaṃ āpajjiṃsu, appamattā samānā na yathākāmakaraṇīyā ahesuṃ mārassa amusmiṃ nivāpe amusmiñca lokāmise . Api ca kho evaṃdiṭṭhikā ahesuṃ – sassato loko itipi, asassato loko itipi; antavā loko itipi, anantavā loko itipi; taṃ jīvaṃ taṃ sarīraṃ itipi, aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīraṃ itipi; hoti tathāgato paraṃ maraṇā itipi, na hoti tathāgato paraṃ maraṇā itipi, hoti ca na ca hoti tathāgato paraṃ maraṇā itipi, neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā itipi . Evañhi te, bhikkhave, tatiyāpi samaṇabrāhmaṇā na parimucciṃsu mārassa iddhānubhāvā. Seyyathāpi te, bhikkhave, tatiyā migajātā tathūpame ahaṃ ime tatiye samaṇabrāhmaṇe vadāmi.

    ๒๗๐. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, จตุตฺถา สมณพฺราหฺมณา เอวํ สมจิเนฺตสุํ – ‘เย โข เต ปฐมา สมณพฺราหฺมณา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส…เป.…ฯ เอวญฺหิ เต ปฐมา สมณพฺราหฺมณา น ปริมุจฺจิํสุ มารสฺส อิทฺธานุภาวาฯ เยปิ เต ทุติยา สมณพฺราหฺมณา เอวํ สมจิเนฺตสุํ – ‘เย โข เต ปฐมา สมณพฺราหฺมณา…เป.…ฯ เอวญฺหิ เต ปฐมา สมณพฺราหฺมณา น ปริมุจฺจิํสุ มารสฺส อิทฺธานุภาวาฯ ยํนูน มยํ สพฺพโส นิวาปโภชนา โลกามิสา ปฎิวิรเมยฺยาม ภยโภคา ปฎิวิรตา อรญฺญายตนานิ อโชฺฌคาเหตฺวา วิหเรยฺยามา’ติฯ เต สพฺพโส นิวาปโภชนา โลกามิสา ปฎิวิรมิํสุ…เป.…ฯ เอวญฺหิ เต ทุติยาปิ สมณพฺราหฺมณา น ปริมุจฺจิํสุ มารสฺส อิทฺธานุภาวาฯ เยปิ เต ตติยา สมณพฺราหฺมณา เอวํ สมจิเนฺตสุํ เย โข เต ปฐมา สมณพฺราหฺมณา …เป.…ฯ เอวญฺหิ เต ปฐมา สมณพฺราหฺมณา น ปริมุจฺจิํสุ มารสฺส อิทฺธานุภาวาฯ เยปิ เต ทุติยา สมณพฺราหฺมณา เอวํ สมจิเนฺตสุํ เย โข เต ปฐมา สมณพฺราหฺมณา…เป.…ฯ เอวญฺหิ เต ปฐมา สมณพฺราหฺมณา น ปริมุจฺจิํสุ มารสฺส อิทฺธานุภาวาฯ ยํนูน มยํ สพฺพโส นิวาปโภชนา โลกามิสา ปฎิวิรเมยฺยาม, ภยโภคา ปฎิวิรตา อรญฺญายตนานิ อโชฺฌคาเหตฺวา วิหเรยฺยามา’ติฯ เต สพฺพโส นิวาปโภชนา โลกามิสา ปฎิวิรมิํสุ…เป.…ฯ เอวญฺหิ เต ทุติยาปิ สมณพฺราหฺมณา น ปริมุจฺจิํสุ มารสฺส อิทฺธานุภาวาฯ ยํนูน มยํ อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส อมูนิ จ โลกามิสานิ อุปนิสฺสาย อาสยํ กเปฺปยฺยามฯ ตตฺราสยํ กเปฺปตฺวา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส อมูนิ จ โลกามิสานิ อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิสฺสาม, อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา น มทํ อาปชฺชิสฺสาม, อมตฺตา สมานา น ปมาทํ อาปชฺชิสฺสาม, อปฺปมตฺตา สมานา น ยถากามกรณียา ภวิสฺสาม มารสฺส อมุสฺมิํ นิวาเป อมุสฺมิญฺจ โลกามิเสติฯ

    270. ‘‘Tatra, bhikkhave, catutthā samaṇabrāhmaṇā evaṃ samacintesuṃ – ‘ye kho te paṭhamā samaṇabrāhmaṇā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa…pe…. Evañhi te paṭhamā samaṇabrāhmaṇā na parimucciṃsu mārassa iddhānubhāvā. Yepi te dutiyā samaṇabrāhmaṇā evaṃ samacintesuṃ – ‘ye kho te paṭhamā samaṇabrāhmaṇā…pe…. Evañhi te paṭhamā samaṇabrāhmaṇā na parimucciṃsu mārassa iddhānubhāvā. Yaṃnūna mayaṃ sabbaso nivāpabhojanā lokāmisā paṭivirameyyāma bhayabhogā paṭiviratā araññāyatanāni ajjhogāhetvā vihareyyāmā’ti. Te sabbaso nivāpabhojanā lokāmisā paṭiviramiṃsu…pe…. Evañhi te dutiyāpi samaṇabrāhmaṇā na parimucciṃsu mārassa iddhānubhāvā. Yepi te tatiyā samaṇabrāhmaṇā evaṃ samacintesuṃ ye kho te paṭhamā samaṇabrāhmaṇā …pe…. Evañhi te paṭhamā samaṇabrāhmaṇā na parimucciṃsu mārassa iddhānubhāvā. Yepi te dutiyā samaṇabrāhmaṇā evaṃ samacintesuṃ ye kho te paṭhamā samaṇabrāhmaṇā…pe…. Evañhi te paṭhamā samaṇabrāhmaṇā na parimucciṃsu mārassa iddhānubhāvā. Yaṃnūna mayaṃ sabbaso nivāpabhojanā lokāmisā paṭivirameyyāma, bhayabhogā paṭiviratā araññāyatanāni ajjhogāhetvā vihareyyāmā’ti. Te sabbaso nivāpabhojanā lokāmisā paṭiviramiṃsu…pe…. Evañhi te dutiyāpi samaṇabrāhmaṇā na parimucciṃsu mārassa iddhānubhāvā. Yaṃnūna mayaṃ amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa amūni ca lokāmisāni upanissāya āsayaṃ kappeyyāma. Tatrāsayaṃ kappetvā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa amūni ca lokāmisāni ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjissāma, ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjamānā na madaṃ āpajjissāma, amattā samānā na pamādaṃ āpajjissāma, appamattā samānā na yathākāmakaraṇīyā bhavissāma mārassa amusmiṃ nivāpe amusmiñca lokāmiseti.

    ‘‘เต อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส อมูนิ จ โลกามิสานิ อุปนิสฺสาย อาสยํ กปฺปยิํสุฯ ตตฺราสยํ กเปฺปตฺวา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส อมูนิ จ โลกามิสานิ อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิํสุฯ เต ตตฺถ อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา น มทํ อาปชฺชิํสุฯ อมตฺตา สมานา น ปมาทํ อาปชฺชิํสุฯ อปฺปมตฺตา สมานา น ยถากามกรณียา อเหสุํ มารสฺส อมุสฺมิํ นิวาเป อมุสฺมิญฺจ โลกามิเสฯ อปิ จ โข เอวํทิฎฺฐิกา อเหสุํ สสฺสโต โลโก อิติปิ…เป.… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา อิติปิฯ เอวญฺหิ เต ตติยาปิ สมณพฺราหฺมณา น ปริมุจฺจิํสุ มารสฺส อิทฺธานุภาวาฯ ยํนูน มยํ ยตฺถ อคติ มารสฺส จ มารปริสาย จ ตตฺราสยํ กเปฺปยามฯ ตตฺราสยํ กเปฺปตฺวา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส อมูนิ จ โลกามิสานิ อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิสฺสาม, อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา น มทํ อาปชฺชิสฺสาม, อมตฺตา สมานา น ปมาทํ อาปชฺชิสฺสาม, อปฺปมตฺตา สมานา น ยถากามกรณียา ภวิสฺสาม มารสฺส อมุสฺมิํ นิวาเป อมุสฺมิญฺจ โลกามิเสติฯ

    ‘‘Te amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa amūni ca lokāmisāni upanissāya āsayaṃ kappayiṃsu. Tatrāsayaṃ kappetvā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa amūni ca lokāmisāni ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjiṃsu. Te tattha ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjamānā na madaṃ āpajjiṃsu. Amattā samānā na pamādaṃ āpajjiṃsu. Appamattā samānā na yathākāmakaraṇīyā ahesuṃ mārassa amusmiṃ nivāpe amusmiñca lokāmise. Api ca kho evaṃdiṭṭhikā ahesuṃ sassato loko itipi…pe… neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā itipi. Evañhi te tatiyāpi samaṇabrāhmaṇā na parimucciṃsu mārassa iddhānubhāvā. Yaṃnūna mayaṃ yattha agati mārassa ca māraparisāya ca tatrāsayaṃ kappeyāma. Tatrāsayaṃ kappetvā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa amūni ca lokāmisāni ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjissāma, ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjamānā na madaṃ āpajjissāma, amattā samānā na pamādaṃ āpajjissāma, appamattā samānā na yathākāmakaraṇīyā bhavissāma mārassa amusmiṃ nivāpe amusmiñca lokāmiseti.

    ‘‘เต ยตฺถ อคติ มารสฺส จ มารปริสาย จ ตตฺราสยํ กปฺปยิํสุฯ ตตฺราสยํ กเปฺปตฺวา อมุํ นิวาปํ นิวุตฺตํ มารสฺส อมูนิ จ โลกามิสานิ อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชิํสุ, เต ตตฺถ อนนุปขชฺช อมุจฺฉิตา โภชนานิ ภุญฺชมานา น มทํ อาปชฺชิํสุ, อมตฺตา สมานา น ปมาทํ อาปชฺชิํสุ, อปฺปมตฺตา สมานา น ยถากามกรณียา อเหสุํ มารสฺส อมุสฺมิํ นิวาเป อมุสฺมิญฺจ โลกามิเสฯ เอวญฺหิ เต, ภิกฺขเว, จตุตฺถา สมณพฺราหฺมณา ปริมุจฺจิํสุ มารสฺส อิทฺธานุภาวาฯ เสยฺยถาปิ เต, ภิกฺขเว, จตุตฺถา มิคชาตา ตถูปเม อหํ อิเม จตุเตฺถ สมณพฺราหฺมเณ วทามิฯ

    ‘‘Te yattha agati mārassa ca māraparisāya ca tatrāsayaṃ kappayiṃsu. Tatrāsayaṃ kappetvā amuṃ nivāpaṃ nivuttaṃ mārassa amūni ca lokāmisāni ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjiṃsu, te tattha ananupakhajja amucchitā bhojanāni bhuñjamānā na madaṃ āpajjiṃsu, amattā samānā na pamādaṃ āpajjiṃsu, appamattā samānā na yathākāmakaraṇīyā ahesuṃ mārassa amusmiṃ nivāpe amusmiñca lokāmise. Evañhi te, bhikkhave, catutthā samaṇabrāhmaṇā parimucciṃsu mārassa iddhānubhāvā. Seyyathāpi te, bhikkhave, catutthā migajātā tathūpame ahaṃ ime catutthe samaṇabrāhmaṇe vadāmi.

    ๒๗๑. ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, อคติ มารสฺส จ มารปริสาย จ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนฺธมกาสิ มารํ, อปทํ วธิตฺวา มารจกฺขุํ อทสฺสนํ คโต ปาปิมโตฯ

    271. ‘‘Kathañca, bhikkhave, agati mārassa ca māraparisāya ca? Idha, bhikkhave, bhikkhu vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi savitakkaṃ savicāraṃ vivekajaṃ pītisukhaṃ paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, bhikkhu andhamakāsi māraṃ, apadaṃ vadhitvā māracakkhuṃ adassanaṃ gato pāpimato.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว…เป.… ปาปิมโตฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, bhikkhu vitakkavicārānaṃ vūpasamā ajjhattaṃ sampasādanaṃ cetaso ekodibhāvaṃ avitakkaṃ avicāraṃ samādhijaṃ pītisukhaṃ dutiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Ayaṃ vuccati, bhikkhave…pe… pāpimato.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขญฺจ กาเยน ปฎิสํเวเทติ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว…เป.… ปาปิมโตฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, bhikkhu pītiyā ca virāgā upekkhako ca viharati sato ca sampajāno, sukhañca kāyena paṭisaṃvedeti yaṃ taṃ ariyā ācikkhanti ‘upekkhako satimā sukhavihārī’ti tatiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Ayaṃ vuccati, bhikkhave…pe… pāpimato.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุเพฺพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา, อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว…เป.… ปาปิมโตฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, bhikkhu sukhassa ca pahānā dukkhassa ca pahānā, pubbeva somanassadomanassānaṃ atthaṅgamā, adukkhamasukhaṃ upekkhāsatipārisuddhiṃ catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Ayaṃ vuccati, bhikkhave…pe… pāpimato.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสญฺญานํ สมติกฺกมา ปฎิฆสญฺญานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสญฺญานํ อมนสิการา ‘อนโนฺต อากาโส’ติ อากาสานญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว…เป.… ปาปิมโตฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, bhikkhu sabbaso rūpasaññānaṃ samatikkamā paṭighasaññānaṃ atthaṅgamā nānattasaññānaṃ amanasikārā ‘ananto ākāso’ti ākāsānañcāyatanaṃ upasampajja viharati. Ayaṃ vuccati, bhikkhave…pe… pāpimato.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิญฺญาณ’นฺติ วิญฺญาณญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว…เป.… ปาปิมโตฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, bhikkhu sabbaso ākāsānañcāyatanaṃ samatikkamma ‘anantaṃ viññāṇa’nti viññāṇañcāyatanaṃ upasampajja viharati. Ayaṃ vuccati, bhikkhave…pe… pāpimato.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพโส วิญฺญาณญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิญฺจี’ติ อากิญฺจญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว…เป.… ปาปิมโตฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, bhikkhu sabbaso viññāṇañcāyatanaṃ samatikkamma ‘natthi kiñcī’ti ākiñcaññāyatanaṃ upasampajja viharati. Ayaṃ vuccati, bhikkhave…pe… pāpimato.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพโส อากิญฺจญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว…เป.… ปาปิมโตฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, bhikkhu sabbaso ākiñcaññāyatanaṃ samatikkamma nevasaññānāsaññāyatanaṃ upasampajja viharati. Ayaṃ vuccati, bhikkhave…pe… pāpimato.

    ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม สญฺญาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ ปญฺญาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนฺธมกาสิ มารํ, อปทํ วธิตฺวา มารจกฺขุํ อทสฺสนํ คโต ปาปิมโต ติโณฺณ โลเก วิสตฺติก’’นฺติฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, bhikkhu sabbaso nevasaññānāsaññāyatanaṃ samatikkamma saññāvedayitanirodhaṃ upasampajja viharati. Paññāya cassa disvā āsavā parikkhīṇā honti. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, bhikkhu andhamakāsi māraṃ, apadaṃ vadhitvā māracakkhuṃ adassanaṃ gato pāpimato tiṇṇo loke visattika’’nti.

    อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ

    Idamavoca bhagavā. Attamanā te bhikkhū bhagavato bhāsitaṃ abhinandunti.

    นิวาปสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ปญฺจมํฯ

    Nivāpasuttaṃ niṭṭhitaṃ pañcamaṃ.







    Footnotes:
    1. ทณฺฑวาคุราหิ (สฺยา.)
    2. daṇḍavāgurāhi (syā.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๕. นิวาปสุตฺตวณฺณนา • 5. Nivāpasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๕. นิวาปสุตฺตวณฺณนา • 5. Nivāpasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact