Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi |
๒. โอมสวาท สิกฺขาปทํ
2. Omasavāda sikkhāpadaṃ
๑๒. ทุติเย มสธาตุ วิชฺฌนเตฺถ ปวตฺตติ ‘‘โอมฎฺฐํ อุมฺมฎฺฐ’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. อฎฺฐ. ๑.๑.๒๑) วิยาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘โอมสนฺตีติ โอวิชฺฌนฺตี’’ติฯ
12. Dutiye masadhātu vijjhanatthe pavattati ‘‘omaṭṭhaṃ ummaṭṭha’’ntiādīsu (saṃ. ni. aṭṭha. 1.1.21) viyāti dassento āha ‘‘omasantīti ovijjhantī’’ti.
๑๓. ‘‘อิทํ วตฺถุ’’นฺติ ปทํ ‘‘อาหรี’’ติ ปเท กมฺมํฯ นนฺทิตโพฺพติ นโนฺท วณฺณพลาทิ, โส เอตสฺสตฺถีติ นนฺทีฯ วิสาลานิ มหนฺตานิ วิสาณานิ เอตสฺสตฺถีติ วิสาโล, นนฺที จ โส วิสาโล เจติ นนฺทิวิสาโลติ วจนตฺถํ ทเสฺสติ ‘‘นนฺทิวิสาโล นามา’’ติอาทินาฯ โสติ นนฺทิวิสาโล, ‘‘อาหา’’ติ ปเท กตฺตาฯ ตเตฺถวาติ ยุญฺชิตฎฺฐาเนเยวฯ อเหตุกปฎิสนฺธิกาเลปีติ ปิ-สโทฺท อนุคฺคหตฺถวาจโก, ปเคว ทฺวิเหตุก ติเหตุก ปฎิสนฺธิกาเลติ อโตฺถฯ ‘‘เตน จา’’ติ จการสฺส อวุตฺตสมฺปิณฺฑนตฺถตฺตา ‘‘อตฺตโน กเมฺมน จา’’ติ อตฺถํ สมฺปิเณฺฑตีติ อาห ‘‘อตฺตโน กเมฺมน จา’’ติฯ อตฺตโนติ นนฺทิวิสาลสฺสฯ
13. ‘‘Idaṃ vatthu’’nti padaṃ ‘‘āharī’’ti pade kammaṃ. Nanditabboti nando vaṇṇabalādi, so etassatthīti nandī. Visālāni mahantāni visāṇāni etassatthīti visālo, nandī ca so visālo ceti nandivisāloti vacanatthaṃ dasseti ‘‘nandivisālo nāmā’’tiādinā. Soti nandivisālo, ‘‘āhā’’ti pade kattā. Tatthevāti yuñjitaṭṭhāneyeva. Ahetukapaṭisandhikālepīti pi-saddo anuggahatthavācako, pageva dvihetuka tihetuka paṭisandhikāleti attho. ‘‘Tena cā’’ti cakārassa avuttasampiṇḍanatthattā ‘‘attano kammena cā’’ti atthaṃ sampiṇḍetīti āha ‘‘attano kammena cā’’ti. Attanoti nandivisālassa.
๑๕. เอตฺถาติ เอติสฺสํ ปทภาชนิยํ, ‘‘อาหา’’ติ ปเท อาธาโรฯ ‘‘ยสฺมา’’ติ ปทํ วิภชิตุกาโม’’ติ ปเท เหตุฯ อฎฺฐุปฺปตฺติยํเยว ‘‘หีเนนาปี’’ติ วตฺวา ปทภาชนิยํ อวุตฺตตฺตา อิทํ วุตฺตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ เวณุการชาตีติ วิลีวการชาติฯ เนสาทชาตีติ เอตฺถ เกวฎฺฎชาติปิ สงฺคหิตาฯ
15.Etthāti etissaṃ padabhājaniyaṃ, ‘‘āhā’’ti pade ādhāro. ‘‘Yasmā’’ti padaṃ vibhajitukāmo’’ti pade hetu. Aṭṭhuppattiyaṃyeva ‘‘hīnenāpī’’ti vatvā padabhājaniyaṃ avuttattā idaṃ vuttanti daṭṭhabbaṃ. Veṇukārajātīti vilīvakārajāti. Nesādajātīti ettha kevaṭṭajātipi saṅgahitā.
ปุ วุจฺจติ กรีสํ, ตํ กุสติ อปเนตีติ ปุกฺกุโสฯ ปุปฺผํ วุจฺจติ กรีสํ, กุสุมํ วา, ตํ ฉเฑฺฑตีติ ปุปฺผฉฑฺฑโกฯ
Pu vuccati karīsaṃ, taṃ kusati apanetīti pukkuso. Pupphaṃ vuccati karīsaṃ, kusumaṃ vā, taṃ chaḍḍetīti pupphachaḍḍako.
กุฎติ ฉินฺทตีติ โกโฎฺฐ, โสเยว โกฎฺฐโกฯ ยการภกาเร เอกโต โยเชตฺวา ‘‘ยภา’’ติ โย อโกฺกโส อตฺถิ, เอโส หีโน นาม อโกฺกโสติ โยชนาฯ
Kuṭati chindatīti koṭṭho, soyeva koṭṭhako. Yakārabhakāre ekato yojetvā ‘‘yabhā’’ti yo akkoso atthi, eso hīno nāma akkosoti yojanā.
๑๖. สพฺพปเทสูติ นามาทีสุ สพฺพปเทสุฯ เอตฺถาติ อิมสฺมิํ สิกฺขาปเทฯ อลิกนฺติ อสจฺจํ, มิจฺฉาวาจนฺติ สมฺพโนฺธฯ โยปิ วทตีติ โยชนาฯ
16.Sabbapadesūti nāmādīsu sabbapadesu. Etthāti imasmiṃ sikkhāpade. Alikanti asaccaṃ, micchāvācanti sambandho. Yopi vadatīti yojanā.
๒๖. ปริหริตฺวาติ ปริมุขํ กถนํ อปเนตฺวาฯ ทวํ ปริหาสํ กาเมตีติ ทวกาโม, ตสฺส ภาโว ทวกมฺยํ, ตํเยว ทวกมฺยตาฯ อนุปสมฺปนฺนนฺติ เอตฺถ อการสฺส สทิสตฺถมคฺคเหตฺวา อญฺญโตฺถว คเหตโพฺพติ อาห ‘‘ฐเปตฺวา ภิกฺขุ’’นฺติอาทิฯ ยทิ หิ สทิสโตฺถ ภเวยฺย, สามเณโรว อนุปสมฺปโนฺน นาม สิยา สณฺฐาเนน จ ปุริสภาเวน จ สทิสตฺตา, ตสฺมา อญฺญโตฺถว คเหตโพฺพติ ทฎฺฐพฺพํฯ สพฺพสตฺตาติ เอตฺถ สพฺพสโทฺท อนวเสสโตฺถ มนุเสฺส อุปาทาย วจนตฺถชานนาชานนปกติกานํ สพฺพสตฺตานมฺปิ คหิตตฺตาฯ
26.Pariharitvāti parimukhaṃ kathanaṃ apanetvā. Davaṃ parihāsaṃ kāmetīti davakāmo, tassa bhāvo davakamyaṃ, taṃyeva davakamyatā. Anupasampannanti ettha akārassa sadisatthamaggahetvā aññatthova gahetabboti āha ‘‘ṭhapetvā bhikkhu’’ntiādi. Yadi hi sadisattho bhaveyya, sāmaṇerova anupasampanno nāma siyā saṇṭhānena ca purisabhāvena ca sadisattā, tasmā aññatthova gahetabboti daṭṭhabbaṃ. Sabbasattāti ettha sabbasaddo anavasesattho manusse upādāya vacanatthajānanājānanapakatikānaṃ sabbasattānampi gahitattā.
๓๕. อตฺถปุเรกฺขาโร นามาติ เวทิตโพฺพติ สมฺพโนฺธฯ สิกฺขาปทมเปกฺขิย นปุํสกลิงฺควเสน ‘‘กิริย’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ อาปตฺติมเปกฺขิย อิตฺถิลิงฺควเสน ‘‘กิริยา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ วชฺชกมฺมสทฺทา สิกฺขาปทมเปกฺขนฺตาปิ อาปตฺติ, มเปกฺขนฺตาปิ นิยตนปุํสกลิงฺคตฺตา นปุํสกาเยว, ตสฺมา เต เทฺว อาปตฺติฎฺฐาเน น วุตฺตาติ ทฎฺฐพฺพนฺติฯ ทุติยํฯ
35. Atthapurekkhāro nāmāti veditabboti sambandho. Sikkhāpadamapekkhiya napuṃsakaliṅgavasena ‘‘kiriya’’ntiādi vuttaṃ. Āpattimapekkhiya itthiliṅgavasena ‘‘kiriyā’’tiādi vuttaṃ. Vajjakammasaddā sikkhāpadamapekkhantāpi āpatti, mapekkhantāpi niyatanapuṃsakaliṅgattā napuṃsakāyeva, tasmā te dve āpattiṭṭhāne na vuttāti daṭṭhabbanti. Dutiyaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๑. มุสาวาทวโคฺค • 1. Musāvādavaggo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๒. โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Omasavādasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๒. โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Omasavādasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๒. โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Omasavādasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๒. โอมสวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Omasavādasikkhāpadavaṇṇanā