Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā |
๑๒. โอตรณหารวิภงฺควณฺณนา
12. Otaraṇahāravibhaṅgavaṇṇanā
๔๒. ตตฺถ กตโม โอตรโณ หาโรติ โอตรณหารวิภโงฺคฯ ตตฺถ อเสกฺขา วิมุตฺตีติ อยํ เตธาตุเก วีตราคตา อเสกฺขา ผลวิมุตฺติฯ ตานิเยวาติ ตานิ อเสกฺขายํ วิมุตฺติยํ สทฺธาทีนิ ฯ อยํ อินฺทฺริเยหิ โอตรณาติ อเสกฺขาย วิมุตฺติยา นิทฺธาริเตหิ สทฺธาทีหิ อินฺทฺริเยหิ สํวณฺณนาย โอตรณาฯ
42.Tattha katamo otaraṇo hāroti otaraṇahāravibhaṅgo. Tattha asekkhā vimuttīti ayaṃ tedhātuke vītarāgatā asekkhā phalavimutti. Tāniyevāti tāni asekkhāyaṃ vimuttiyaṃ saddhādīni . Ayaṃ indriyehi otaraṇāti asekkhāya vimuttiyā niddhāritehi saddhādīhi indriyehi saṃvaṇṇanāya otaraṇā.
ปญฺจินฺทฺริยานิ วิชฺชาติ สมฺมาสงฺกโปฺป วิย สมฺมาทิฎฺฐิยา อุปการกตฺตา ปญฺญากฺขเนฺธ สทฺธาทีนิ จตฺตาริ อินฺทฺริยานิ วิชฺชาย อุปการกตฺตา สงฺคณฺหนวเสน วุตฺตานิฯ สงฺขารปริยาปนฺนานีติ ปญฺจสุ ขเนฺธสุ สงฺขารกฺขเนฺธ อโนฺตคธานิฯ เย สงฺขารา อนาสวาติ ตํ สงฺขารกฺขนฺธํ วิเสเสติ, อคฺคผลสฺส อธิเปฺปตตฺตาฯ ตโต เอว จ โน ภวงฺคาฯ ธมฺมธาตุสงฺคหิตาติ อฎฺฐารสธาตูสุ ธมฺมธาตุสงฺคหิตาฯ ยทิปิ ปุเพฺพ วีตราคตา อเสกฺขา วิมุตฺติ ทสฺสิตา, ตสฺสา ปน ปฎิปตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘อยํ อหมสฺมีติ อนานุปสฺสี’’ติ ทสฺสนมโคฺค อิธ วุโตฺตติ อิมมตฺถํ ทเสฺสตุํ ‘‘อยํ อหมสฺมีติ อนานุปสฺสี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ สพฺพํ วุตฺตนยเมวฯ
Pañcindriyāni vijjāti sammāsaṅkappo viya sammādiṭṭhiyā upakārakattā paññākkhandhe saddhādīni cattāri indriyāni vijjāya upakārakattā saṅgaṇhanavasena vuttāni. Saṅkhārapariyāpannānīti pañcasu khandhesu saṅkhārakkhandhe antogadhāni. Ye saṅkhārā anāsavāti taṃ saṅkhārakkhandhaṃ viseseti, aggaphalassa adhippetattā. Tato eva ca no bhavaṅgā. Dhammadhātusaṅgahitāti aṭṭhārasadhātūsu dhammadhātusaṅgahitā. Yadipi pubbe vītarāgatā asekkhā vimutti dassitā, tassā pana paṭipattidassanatthaṃ ‘‘ayaṃ ahamasmīti anānupassī’’ti dassanamaggo idha vuttoti imamatthaṃ dassetuṃ ‘‘ayaṃ ahamasmīti anānupassī’’tiādi vuttaṃ. Sabbaṃ vuttanayameva.
๔๓. นิสฺสิตสฺส จลิตนฺติ ตณฺหาทิฎฺฐิวเสน กมฺมํ อนวฎฺฐานํฯ จุตูปปาโตติ อปราปรํ จวนํ อุปปตนญฺจฯ นิสฺสิตปเท ลพฺภมานํ นิสฺสยนํ อุทฺธรโนฺต อาห – ‘‘นิสฺสโย นามา’’ติฯ ตณฺหานิสฺสโยติ ตณฺหาภินิเวโสฯ โส หิ ตณฺหาจริตสฺส ปติฎฺฐาภาเวน ตถา วุโตฺตฯ เอวํ ทิฎฺฐินิสฺสโยปิ ทฎฺฐโพฺพฯ รตฺตสฺส เจตนาติ เจตนาปธานตฺตา สงฺขารกฺขนฺธธมฺมานํ เจตนาสีเสน ตณฺหํ เอว วทติฯ เตเนวาห – ‘‘อยํ ตณฺหานิสฺสโย’’ติฯ ยสฺมา ปน วิปรีตาภินิเวโส โมหสฺส พลวภาเว เอว โหติ, ตสฺมา ‘‘ยา มูฬฺหสฺส เจตนา, อยํ ทิฎฺฐินิสฺสโย’’ติ วุตฺตํฯ
43.Nissitassa calitanti taṇhādiṭṭhivasena kammaṃ anavaṭṭhānaṃ. Cutūpapātoti aparāparaṃ cavanaṃ upapatanañca. Nissitapade labbhamānaṃ nissayanaṃ uddharanto āha – ‘‘nissayo nāmā’’ti. Taṇhānissayoti taṇhābhiniveso. So hi taṇhācaritassa patiṭṭhābhāvena tathā vutto. Evaṃ diṭṭhinissayopi daṭṭhabbo. Rattassa cetanāti cetanāpadhānattā saṅkhārakkhandhadhammānaṃ cetanāsīsena taṇhaṃ eva vadati. Tenevāha – ‘‘ayaṃ taṇhānissayo’’ti. Yasmā pana viparītābhiniveso mohassa balavabhāve eva hoti, tasmā ‘‘yā mūḷhassa cetanā, ayaṃ diṭṭhinissayo’’ti vuttaṃ.
เอวํ เจตนาสีเสน ตณฺหาทิฎฺฐิโย วตฺวา อิทานิ ตตฺถ นิปฺปริยาเยน เจตนํเยว คณฺหโนฺต ‘‘เจตนา ปน สงฺขารา’’ติ อาหฯ ยา รตฺตสฺส เวทนา, อยํ สุขา เวทนาติ สุขาย เวทนาย ราโค อนุเสตีติ กตฺวา วุตฺตํฯ ตถา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชา อนุเสตีติ อาห – ‘‘ยา สมฺมูฬฺหสฺส เวทนา, อยํ อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติฯ อิธ เวทนาสีเสน เจตนา วุตฺตาฯ ตณฺหายาติ ตณฺหํฯ ทิฎฺฐิยาติ ทิฎฺฐิํฯ ยถา วา เสสธมฺมานํ ตณฺหาย นิสฺสยภาเว ปุคฺคโล ตณฺหาย นิสฺสิโตติ วุจฺจติฯ เอวํ ตณฺหาย เสสธมฺมานํ ปจฺจยภาเว ปุคฺคโล ตณฺหาย นิสฺสิโตติ วุจฺจตีติ อาห – ‘‘ตณฺหาย อนิสฺสิโต’’ติฯ
Evaṃ cetanāsīsena taṇhādiṭṭhiyo vatvā idāni tattha nippariyāyena cetanaṃyeva gaṇhanto ‘‘cetanā pana saṅkhārā’’ti āha. Yā rattassa vedanā, ayaṃ sukhā vedanāti sukhāya vedanāya rāgo anusetīti katvā vuttaṃ. Tathā adukkhamasukhāya vedanāya avijjā anusetīti āha – ‘‘yā sammūḷhassa vedanā, ayaṃ adukkhamasukhā vedanā’’ti. Idha vedanāsīsena cetanā vuttā. Taṇhāyāti taṇhaṃ. Diṭṭhiyāti diṭṭhiṃ. Yathā vā sesadhammānaṃ taṇhāya nissayabhāve puggalo taṇhāya nissitoti vuccati. Evaṃ taṇhāya sesadhammānaṃ paccayabhāve puggalo taṇhāya nissitoti vuccatīti āha – ‘‘taṇhāya anissito’’ti.
ปสฺสทฺธีติ ทรถปฎิปฺปสฺสมฺภนาฯ กายิกาติ กรชกายสนฺนิสฺสิตาฯ เจตสิกาติ จิตฺตสนฺนิสฺสิตาฯ ยสฺมา ปน สา ทรถปฎิปฺปสฺสทฺธิ กายจิตฺตานํ สุเข สติ ปากฎา โหติ, ตสฺมา ‘‘ยํ กายิกํ สุข’’นฺติอาทินา ผลูปจาเรน วุตฺตาย ปสฺสทฺธิยา นติอภาวสฺส การณภาวํ ทเสฺสตุํ ‘‘ปสฺสทฺธกาโย’’ติอาทิ วุตฺตํฯ โสติ เอวํ วิมุตฺตจิโตฺต ขีณาสโวฯ รูปสงฺขเย วิมุโตฺตติ รูปานํ สงฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน วิมุโตฺตฯ อตฺถีติปิ น อุเปตีติ สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จาติปิ ตณฺหาทิฎฺฐิอุปเยน น อุเปติ น คณฺหาติฯ นตฺถีติ อสสฺสโตติฯ อตฺถิ นตฺถีติ เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตนฺติฯ เนวตฺถิ โน นตฺถีติ อมราวิเกฺขปวเสนฯ คมฺภีโรติ อุตฺตานภาวเหตูนํ กิเลสานํ อภาเวน คมฺภีโรฯ นิพฺพุโตติ อตฺถีติอาทินา อุปคมนกิเลสานํ วูปสเมน ปรินิพฺพุโต สีติภูโตฯ
Passaddhīti darathapaṭippassambhanā. Kāyikāti karajakāyasannissitā. Cetasikāti cittasannissitā. Yasmā pana sā darathapaṭippassaddhi kāyacittānaṃ sukhe sati pākaṭā hoti, tasmā ‘‘yaṃ kāyikaṃ sukha’’ntiādinā phalūpacārena vuttāya passaddhiyā natiabhāvassa kāraṇabhāvaṃ dassetuṃ ‘‘passaddhakāyo’’tiādi vuttaṃ. Soti evaṃ vimuttacitto khīṇāsavo. Rūpasaṅkhaye vimuttoti rūpānaṃ saṅkhayasaṅkhāte nibbāne vimutto. Atthītipi na upetīti sassato attā ca loko cātipi taṇhādiṭṭhiupayena na upeti na gaṇhāti. Natthīti asassatoti. Atthi natthīti ekaccaṃ sassataṃ ekaccaṃ asassatanti. Nevatthi no natthīti amarāvikkhepavasena. Gambhīroti uttānabhāvahetūnaṃ kilesānaṃ abhāvena gambhīro. Nibbutoti atthītiādinā upagamanakilesānaṃ vūpasamena parinibbuto sītibhūto.
อิธาคตีติ ปรโลกโต อิธ อาคติฯ คตีติ อิธโลกโต ปรโลกคมนํฯ ตํ ปน ปุนพฺภโวติ อาห ‘‘เปจฺจภโว’’ติฯ อิธ หุรนฺติ ทฺวารารมฺมณธมฺมา ทสฺสิตาติ ‘‘อุภยมนฺตเรนา’’ติ ปเทน ทฺวารปฺปวตฺตธเมฺม ทเสฺสโนฺต ‘‘ผสฺสสมุทิเตสุ ธเมฺมสู’’ติ อาหฯ ตสฺสโตฺถ – ผเสฺสน สทฺธิํ ผเสฺสน การณภูเตน จ สมุทิเตสุ สมฺภูเตสุ วิญฺญาณเวทนาสญฺญาเจตนาวิตกฺกวิจาราทิธเมฺมสุฯ อตฺตานํ น ปสฺสตีติ เตสํ ธมฺมานํ อนตฺตภาเวเนว ตตฺถ อตฺตานํ น ปสฺสติฯ วิรชฺชติ วิราคา วิมุจฺจตีติ ปเทหิ โลกุตฺตรธมฺมานํ ปฎิจฺจสมุปฺปาทภาวํ ทเสฺสโนฺต ตทตฺถตาย สีลาทีนมฺปิ ปริยาเยน ตพฺภาวมาห ‘‘โลกุตฺตโร’’ติอาทินาฯ
Idhāgatīti paralokato idha āgati. Gatīti idhalokato paralokagamanaṃ. Taṃ pana punabbhavoti āha ‘‘peccabhavo’’ti. Idha huranti dvārārammaṇadhammā dassitāti ‘‘ubhayamantarenā’’ti padena dvārappavattadhamme dassento ‘‘phassasamuditesu dhammesū’’ti āha. Tassattho – phassena saddhiṃ phassena kāraṇabhūtena ca samuditesu sambhūtesu viññāṇavedanāsaññācetanāvitakkavicārādidhammesu. Attānaṃ na passatīti tesaṃ dhammānaṃ anattabhāveneva tattha attānaṃ na passati. Virajjati virāgā vimuccatīti padehi lokuttaradhammānaṃ paṭiccasamuppādabhāvaṃ dassento tadatthatāya sīlādīnampi pariyāyena tabbhāvamāha ‘‘lokuttaro’’tiādinā.
๔๔. นามสมฺปยุโตฺตติ นาเมน มิสฺสิโตฯ สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตูติ อรหตฺตผลํ อธิเปฺปตํฯ ตญฺจ ปญฺญาปธานนฺติ อาห – ‘‘สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ วิชฺชาติฯ เสสํ สพฺพํ อุตฺตานเมวฯ
44.Nāmasampayuttoti nāmena missito. Saupādisesā nibbānadhātūti arahattaphalaṃ adhippetaṃ. Tañca paññāpadhānanti āha – ‘‘saupādisesā nibbānadhātu vijjāti. Sesaṃ sabbaṃ uttānameva.
โอตรณหารวิภงฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Otaraṇahāravibhaṅgavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เนตฺติปฺปกรณปาฬิ • Nettippakaraṇapāḷi / ๑๒. โอตรณหารวิภโงฺค • 12. Otaraṇahāravibhaṅgo
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā / ๑๒. โอตรณหารวิภงฺควณฺณนา • 12. Otaraṇahāravibhaṅgavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติวิภาวินี • Nettivibhāvinī / ๑๒. โอตรณหารวิภงฺควิภาวนา • 12. Otaraṇahāravibhaṅgavibhāvanā