Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā |
๑๒. โอตรณหารวิภงฺควณฺณนา
12. Otaraṇahāravibhaṅgavaṇṇanā
๔๒. อินฺทฺริเยหีติ กรเณ กรณวจนํ ‘‘มเคฺคน คจฺฉตี’’ติอาทีสุ วิย, ‘‘ผรสุนา ฉินฺทตี’’ติ เอวมาทีสุ วิย จฯ โอตรณาติ อนุปฺปเวสนาฯ
42.Indriyehīti karaṇe karaṇavacanaṃ ‘‘maggena gacchatī’’tiādīsu viya, ‘‘pharasunā chindatī’’ti evamādīsu viya ca. Otaraṇāti anuppavesanā.
ปญฺญากฺขเนฺธ สงฺคณฺหนวเสน สมฺมาสงฺกโปฺป วิยาติ โยชนาฯ อธิจิตฺตอนุยุตฺตานํ สทฺทหนุสฺสหนุปฎฺฐานสมาทหเนหิ สทฺธาทีสุ อุปกโรเนฺตสุ เอว ปญฺญา ทสฺสนกิจฺจํ สาเธตีติ ทเสฺสโนฺต ‘‘สทฺธา..เป.… วุตฺตานี’’ติ อาหฯ โน จ ภวงฺคาติ เตสํ สงฺขารานํ ปวตฺติการณตาภาวํ ทเสฺสติฯ
Paññākkhandhe saṅgaṇhanavasena sammāsaṅkappo viyāti yojanā. Adhicittaanuyuttānaṃ saddahanussahanupaṭṭhānasamādahanehi saddhādīsu upakarontesu eva paññā dassanakiccaṃ sādhetīti dassento ‘‘saddhā..pe… vuttānī’’ti āha. No ca bhavaṅgāti tesaṃ saṅkhārānaṃ pavattikāraṇatābhāvaṃ dasseti.
๔๓. ตถา วุโตฺตติ ‘‘นิสฺสโย’’ติ วุโตฺตฯ เจตนาสีเสน ตณฺหํ เอว วทติ เจตนาสหจรณโตฯ
43.Tathā vuttoti ‘‘nissayo’’ti vutto. Cetanāsīsena taṇhaṃ eva vadati cetanāsahacaraṇato.
รตฺตสฺสาติ มเคฺคน อสมุจฺฉินฺนราคสฺสฯ เยน ปุคฺคโล ‘‘รโตฺต’’ติ วุจฺจติ, ตสฺส ราคสฺส สมฺพนฺธินี สุขา เวทนา วุตฺตา ตตฺถ ตสฺส อนุสยนโตฯ เตนาห ‘‘สุขาย…เป.… วุตฺต’’นฺติฯ เอส นโย เสเสสุปิฯ เตนาห ‘‘ตถา’’ติอาทิฯ
Rattassāti maggena asamucchinnarāgassa. Yena puggalo ‘‘ratto’’ti vuccati, tassa rāgassa sambandhinī sukhā vedanā vuttā tattha tassa anusayanato. Tenāha ‘‘sukhāya…pe… vutta’’nti. Esa nayo sesesupi. Tenāha ‘‘tathā’’tiādi.
ตานิ เอว อินฺทฺริยานีติ สุขโสมนสฺสุเปกฺขินฺทฺริยานิฯ ‘‘สงฺขารปริยาปนฺนานี’’ติ วจนํ สนฺธายาห ‘‘อิธ เวทนาสีเสน เจตนา วุตฺตา’’ติฯ น หิ เวทนา สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนา โหติฯ ตณฺหาย, ทิฎฺฐิยาติ จ อุปโยเค กรณวจนนฺติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ตณฺหายา’’ติอาทิมาหฯ อิทานิ อุปโยควเสเนว ‘‘ตณฺหายา’’ติอาทีนํ อตฺถํ ทเสฺสตุํ ‘‘ยถา วา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ เสสธมฺมานนฺติ ตณฺหาวชฺชิตอวิสิฎฺฐธมฺมานํฯ ตณฺหาย นิสฺสยภาเวติ ยทา ตณฺหา เตสํ นิสฺสโย โหติฯ
Tāni eva indriyānīti sukhasomanassupekkhindriyāni. ‘‘Saṅkhārapariyāpannānī’’ti vacanaṃ sandhāyāha ‘‘idha vedanāsīsena cetanā vuttā’’ti. Na hi vedanā saṅkhārakkhandhapariyāpannā hoti. Taṇhāya, diṭṭhiyāti ca upayoge karaṇavacananti dassento ‘‘taṇhāyā’’tiādimāha. Idāni upayogavaseneva ‘‘taṇhāyā’’tiādīnaṃ atthaṃ dassetuṃ ‘‘yathā vā’’tiādimāha. Tattha sesadhammānanti taṇhāvajjitaavisiṭṭhadhammānaṃ. Taṇhāya nissayabhāveti yadā taṇhā tesaṃ nissayo hoti.
ตณฺหาย เสสธมฺมานํ ปจฺจยภาเวติ ยทา เสสธมฺมา ตณฺหาปจฺจยา โหนฺติฯ ‘‘กรชกายสนฺนิสฺสิตา’’ติ อิมินา เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยนิสฺสิตาปิ คหิตา กายปฺปสฺสทฺธิภาวโตฯ การณภาวนฺติ ปรมฺปรเหตุภาวํฯ ตณฺหาทิฎฺฐิอุปเยนาติ ทิฎฺฐิอุปเยน จ ทิฎฺฐิสหคตตณฺหาอุปเยน จฯ
Taṇhāya sesadhammānaṃ paccayabhāveti yadā sesadhammā taṇhāpaccayā honti. ‘‘Karajakāyasannissitā’’ti iminā vedanādikkhandhattayanissitāpi gahitā kāyappassaddhibhāvato. Kāraṇabhāvanti paramparahetubhāvaṃ. Taṇhādiṭṭhiupayenāti diṭṭhiupayena ca diṭṭhisahagatataṇhāupayena ca.
‘‘อาคตีติ อิธาคติ, คตีติ เปจฺจภโว’’ติ ปททฺวเยน วุตฺตเมวตฺถํ ปากฎตรํ กาตุํ ปาฬิยํ ‘‘อาคติคตีปิ น ภวนฺตี’’ติ วุตฺตํฯ อิธ หุรนฺติ ทฺวารารมฺมณธมฺมา ทสฺสิตา อาสนฺนทูรภาเวหิ ทฺวารารมฺมเณหิ วินิวเตฺตตฺวา คหิตตฺตาฯ อิธ ทฺวารปฺปวตฺตธมฺมา ‘‘อุภยมนฺตเรนา’’ติ ปทสฺส อตฺถภาเวน วุตฺตาฯ จตุพฺยูหหาเร ปน อนินฺทฺริยพทฺธรูปธมฺมา ตถา วุตฺตาฯ การณภูเตน อนนฺตรปจฺจยภูเตน, อุปนิสฺสยปจฺจยภูเตน จฯ เย ธมฺมา อุปาทาย ‘‘อตฺตา’’ติ สมญฺญา, เตสํ วิญฺญาณาทิธมฺมานํ อภาเวน อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปาทิตตฺตาติ อโตฺถฯ ‘‘อนิสฺสิตสฺส จลิตํ นตฺถี’’ติอาทินา ปฎิโลมโต ปจฺจยภาโว ทสฺสิโตติ ทเสฺสโนฺต ปาฬิยํ ‘‘เอเสวโนฺต ทุกฺขสฺสาติ ปฎิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ วตฺวา นนุ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทิโก ปฎิจฺจสมุปฺปาโทติ โจทนํ สนฺธาย ยถาวุตฺตสฺส ปฎิจฺจสมุปฺปาทภาวํ ทเสฺสตุํ ‘‘โส ทุวิโธ’’ติอาทินา โลกิยโลกุตฺตรวเสน ปฎิจฺจสมุปฺปาโท วิภโตฺตฯ ตทตฺถตายาติ วีตราควิมุตฺติอตฺถตายฯ ตพฺภาวนฺติ โลกุตฺตรปฎิจฺจสมุปฺปาทภาวํฯ
‘‘Āgatītiidhāgati, gatīti peccabhavo’’ti padadvayena vuttamevatthaṃ pākaṭataraṃ kātuṃ pāḷiyaṃ ‘‘āgatigatīpi na bhavantī’’ti vuttaṃ. Idha huranti dvārārammaṇadhammā dassitā āsannadūrabhāvehi dvārārammaṇehi vinivattetvā gahitattā. Idha dvārappavattadhammā ‘‘ubhayamantarenā’’ti padassa atthabhāvena vuttā. Catubyūhahāre pana anindriyabaddharūpadhammā tathā vuttā. Kāraṇabhūtena anantarapaccayabhūtena, upanissayapaccayabhūtena ca. Ye dhammā upādāya ‘‘attā’’ti samaññā, tesaṃ viññāṇādidhammānaṃ abhāvena anuppādadhammataṃ āpāditattāti attho. ‘‘Anissitassa calitaṃ natthī’’tiādinā paṭilomato paccayabhāvo dassitoti dassento pāḷiyaṃ ‘‘esevanto dukkhassāti paṭiccasamuppādo’’ti vatvā nanu ‘‘avijjāpaccayā saṅkhārā’’tiādiko paṭiccasamuppādoti codanaṃ sandhāya yathāvuttassa paṭiccasamuppādabhāvaṃ dassetuṃ ‘‘so duvidho’’tiādinā lokiyalokuttaravasena paṭiccasamuppādo vibhatto. Tadatthatāyāti vītarāgavimuttiatthatāya. Tabbhāvanti lokuttarapaṭiccasamuppādabhāvaṃ.
โอตรณหารวิภงฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Otaraṇahāravibhaṅgavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เนตฺติปฺปกรณปาฬิ • Nettippakaraṇapāḷi / ๑๒. โอตรณหารวิภโงฺค • 12. Otaraṇahāravibhaṅgo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā / ๑๒. โอตรณหารวิภงฺควณฺณนา • 12. Otaraṇahāravibhaṅgavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติวิภาวินี • Nettivibhāvinī / ๑๒. โอตรณหารวิภงฺควิภาวนา • 12. Otaraṇahāravibhaṅgavibhāvanā