Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติวิภาวินี • Nettivibhāvinī |
๑๒. โอตรณหารวิภงฺควิภาวนา
12. Otaraṇahāravibhaṅgavibhāvanā
๔๒. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน ปญฺญตฺติหารวิภเงฺคน ปญฺญตฺติโย วิภตฺตา, โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต วิภโงฺค ปริปุโณฺณ, ‘‘กตโม โอตรโณ หารวิภโงฺค’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม โอตรโณ หาโร’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ นิทฺทิเฎฺฐสุ โสฬสสุ เทสนาหาราทีสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส โอตรโณ หาโร โอตรณหารวิภโงฺค นามาติ ปุจฺฉติฯ ‘‘โย จ ปฎิจฺจุปฺปาโท’’ติอาทินิเทฺทสสฺส อิทานิ มยา วุจฺจมาโน ‘‘อุทฺธํ อโธ สพฺพธิ วิปฺปมุโตฺต’’ติอาทิโก วิตฺถารสํวณฺณนาวิเสโส โอตรโณ หาโร โอตรณหารวิภโงฺค นามาติ คเหตโพฺพฯ
42. Yena yena saṃvaṇṇanāvisesabhūtena paññattihāravibhaṅgena paññattiyo vibhattā, so saṃvaṇṇanāvisesabhūto vibhaṅgo paripuṇṇo, ‘‘katamo otaraṇo hāravibhaṅgo’’ti pucchitabbattā ‘‘tattha katamo otaraṇo hāro’’tiādi vuttaṃ. Tattha tatthāti tesu niddiṭṭhesu soḷasasu desanāhārādīsu katamo saṃvaṇṇanāviseso otaraṇo hāro otaraṇahāravibhaṅgo nāmāti pucchati. ‘‘Yo ca paṭiccuppādo’’tiādiniddesassa idāni mayā vuccamāno ‘‘uddhaṃ adho sabbadhi vippamutto’’tiādiko vitthārasaṃvaṇṇanāviseso otaraṇo hāro otaraṇahāravibhaṅgo nāmāti gahetabbo.
ตตฺถ ปาเฐ ‘‘กตเม ปฎิจฺจสมุปฺปาทาทโย นิทฺธาเรตฺวา กตเมหิ นิทฺธาริเตหิ ธเมฺมหิ โอตรตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อิมสฺมิํ ปาเฐ อิเม ปฎิจฺจสมุปฺปาทาทโย นิทฺธาเรตฺวา อิเมหิ นิทฺธาริเตหิ ธเมฺมหิ โอตรตีติ ทเสฺสตุํ ‘‘อุทฺธํ อโธ สพฺพธิ วิปฺปมุโตฺต’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ อุทฺธนฺติ กามธาตุโต อุทฺธํ อุปริภาเค ปวตฺตาย รูปธาตุอรูปธาตุยาฯ อโธติ รูปธาตุโต เหฎฺฐาภาเค ปวตฺตาย กามธาตุยาฯ สพฺพธีติ สพฺพสฺมิํ กามรูปอรูปธาตุมฺหิฯ วิปฺปมุโตฺตติ ปฎิสนฺธิวเสน อปฺปวตฺตนโต วิปฺปมุโตฺต อเสโกฺขฯ อยํ เสโกฺข ทสฺสนมเคฺคน สกฺกายทิฎฺฐิยา สมุคฺฆาตตฺตา ‘‘อหํ อสฺมี’’ติ อนานุปสฺสี วิหรติฯ เอวํ เสกฺขาย วิมุตฺติยา เจว อเสกฺขาย วิมุตฺติยา จ เสโกฺข เจว อเสโกฺข จ อติณฺณปุพฺพํ โอฆํ อปุนพฺภวาย วิมุโตฺต อุทตารีติ คาถาโตฺถ คเหตโพฺพฯ
Tattha pāṭhe ‘‘katame paṭiccasamuppādādayo niddhāretvā katamehi niddhāritehi dhammehi otaratī’’ti pucchitabbattā imasmiṃ pāṭhe ime paṭiccasamuppādādayo niddhāretvā imehi niddhāritehi dhammehi otaratīti dassetuṃ ‘‘uddhaṃ adho sabbadhi vippamutto’’tiādi vuttaṃ. Tattha uddhanti kāmadhātuto uddhaṃ uparibhāge pavattāya rūpadhātuarūpadhātuyā. Adhoti rūpadhātuto heṭṭhābhāge pavattāya kāmadhātuyā. Sabbadhīti sabbasmiṃ kāmarūpaarūpadhātumhi. Vippamuttoti paṭisandhivasena appavattanato vippamutto asekkho. Ayaṃ sekkho dassanamaggena sakkāyadiṭṭhiyā samugghātattā ‘‘ahaṃ asmī’’ti anānupassī viharati. Evaṃ sekkhāya vimuttiyā ceva asekkhāya vimuttiyā ca sekkho ceva asekkho ca atiṇṇapubbaṃ oghaṃ apunabbhavāya vimutto udatārīti gāthāttho gahetabbo.
ตสฺมิํ คาถาปาเฐ ‘‘กตเม นิทฺธาเรตฺวา กตเมหิ โอตรตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อุทฺธนฺติ รูปธาตู’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อุทฺธนฺติ มนุสฺสโลกโต อุทฺธํ จาตุมหาราชิกาทโยปิ คหิตาติ อตฺถสมฺภวโต ตํ นิวเตฺตตุํ ‘‘รูปธาตุ อรูปธาตู’’ติ วุตฺตํฯ อโธติ มนุสฺสภวโต อโธ จตฺตาโร อปายภูมิโย จ คหิตาติ อตฺถสมฺภวโต ตํ นิวเตฺตตุํ ‘‘กามธาตู’’ติ วุตฺตํฯ สพฺพธีติ จตุภูมิเกติ อตฺถสมฺภวโต ‘‘เตธาตุเก’’ติ วุตฺตํฯ อยํ อเสกฺขา วิมุตฺตีติ วิมุตฺตสฺส อเสกฺขสฺส ยา วิราคตา อตฺถิ, อยมฺปิ วิราคตา อเสกฺขผลวิมุตฺติฯ ‘‘อุทฺธํ อโธ สพฺพธิ วิปฺปมุโตฺต’’ติ ปาเฐ วุตฺตปฺปการา อยํ อเสกฺขา วิมุตฺติ นิทฺธาริตาติ อโตฺถฯ นิทฺธาริตาย อเสกฺขาย วิมุตฺติยา ยานิ สทฺธาทิปญฺจินฺทฺริยานิ นิทฺธาริตานิ, ตานิเยว อเสกฺขานิ ปญฺจินฺทฺริยานิ ภวนฺติฯ อยํ วุตฺตปฺปการา โอตรณา อินฺทฺริเยหิ วิมุตฺติยา โอตรณา นาม ปเวสนา นามฯ
Tasmiṃ gāthāpāṭhe ‘‘katame niddhāretvā katamehi otaratī’’ti pucchitabbattā ‘‘uddhanti rūpadhātū’’tiādi vuttaṃ. Uddhanti manussalokato uddhaṃ cātumahārājikādayopi gahitāti atthasambhavato taṃ nivattetuṃ ‘‘rūpadhātu arūpadhātū’’ti vuttaṃ. Adhoti manussabhavato adho cattāro apāyabhūmiyo ca gahitāti atthasambhavato taṃ nivattetuṃ ‘‘kāmadhātū’’ti vuttaṃ. Sabbadhīti catubhūmiketi atthasambhavato ‘‘tedhātuke’’ti vuttaṃ. Ayaṃ asekkhā vimuttīti vimuttassa asekkhassa yā virāgatā atthi, ayampi virāgatā asekkhaphalavimutti. ‘‘Uddhaṃ adho sabbadhi vippamutto’’ti pāṭhe vuttappakārā ayaṃ asekkhā vimutti niddhāritāti attho. Niddhāritāya asekkhāya vimuttiyā yāni saddhādipañcindriyāni niddhāritāni, tāniyeva asekkhāni pañcindriyāni bhavanti. Ayaṃ vuttappakārā otaraṇā indriyehi vimuttiyā otaraṇā nāma pavesanā nāma.
ตานิเยว อเสกฺขานิ ปญฺจินฺทฺริยานิ วิชฺชาย อุปการกตฺตา, ปญฺญาปทฎฺฐานตฺตา วา วิชฺชา ภวนฺติฯ วิชฺชุปฺปาทา ตาทิสาย วิชฺชาย อุปฺปาทา อุปฺปาทเหตุโต อวิชฺชานิโรโธ อวิชฺชาย นิโรโธ โหติ…เป.… ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหติ, อยํ วุตฺตปฺปการา โอตรณา ปฎิจฺจสมุปฺปาเทหิ โอตรณา นามฯ
Tāniyeva asekkhāni pañcindriyāni vijjāya upakārakattā, paññāpadaṭṭhānattā vā vijjā bhavanti. Vijjuppādā tādisāya vijjāya uppādā uppādahetuto avijjānirodho avijjāya nirodho hoti…pe… dukkhakkhandhassa nirodho hoti, ayaṃ vuttappakārā otaraṇā paṭiccasamuppādehi otaraṇā nāma.
ตานิเยว อเสกฺขานิ ปญฺจินฺทฺริยานิ ตีหิ ขเนฺธหิ สงฺคหิตานิ สทฺธาวีริเยหิ สีลสมฺภวโต, สติยา จ ปญฺญานุวตฺตกตฺตาฯ เสสา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพาฯ
Tāniyeva asekkhāni pañcindriyāni tīhi khandhehi saṅgahitāni saddhāvīriyehi sīlasambhavato, satiyā ca paññānuvattakattā. Sesā vuttanayānusārena veditabbā.
‘‘อุทฺธํ อโธ สพฺพธิ วิปฺปมุโตฺต’’ติ ปาเฐ นิทฺธาเรตฺวา โอตรณา อาจริเยน วิภตฺตา, อเมฺหหิ จ ญาตา, ‘‘อยํ อหสฺมีติ อนานุปสฺสี’’ติ ปาเฐ ‘‘กตเม นิทฺธาเรตฺวา กตเมหิ โอตรเณหิ โอตรตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อยํ อหสฺมีติ อนานุปสฺสีติ อยํ สกฺกายทิฎฺฐิยา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ โย อยํ เสโกฺข ‘‘อหมสฺมี’’ติ นานุปสฺสี, ตสฺส เสกฺขสฺส สกฺกายทิฎฺฐิยา โย สมุคฺฆาโต อตฺถิ, ยา สมุคฺฆาตสงฺขาตา สมุคฺฆาตวิมุตฺติ เสกฺขา วิมุตฺติ โหติ, ตสฺสา เสกฺขาย วิมุตฺติยา ยานิ สทฺธาทิปญฺจินฺทฺริยานิ นิทฺธาริตานิ, ตานิเยว เสกฺขานิ ปญฺจินฺทฺริยานิ ภวนฺติฯ อยํ วุตฺตปฺปการา โอตรณา อินฺทฺริเยหิ โอตรณา นามฯ เสสา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพาฯ
‘‘Uddhaṃ adho sabbadhi vippamutto’’ti pāṭhe niddhāretvā otaraṇā ācariyena vibhattā, amhehi ca ñātā, ‘‘ayaṃ ahasmīti anānupassī’’ti pāṭhe ‘‘katame niddhāretvā katamehi otaraṇehi otaratī’’ti vattabbattā ‘‘ayaṃ ahasmīti anānupassīti ayaṃ sakkāyadiṭṭhiyā’’tiādi vuttaṃ. Yo ayaṃ sekkho ‘‘ahamasmī’’ti nānupassī, tassa sekkhassa sakkāyadiṭṭhiyā yo samugghāto atthi, yā samugghātasaṅkhātā samugghātavimutti sekkhā vimutti hoti, tassā sekkhāya vimuttiyā yāni saddhādipañcindriyāni niddhāritāni, tāniyeva sekkhāni pañcindriyāni bhavanti. Ayaṃ vuttappakārā otaraṇā indriyehi otaraṇā nāma. Sesā vuttanayānusārena veditabbā.
๔๓. ‘‘อุทฺธํ อโธ’’ติอาทิคาถายํ โอตรณา อาจริเยน วิภตฺตา, อเมฺหหิ จ ญาตา, ‘‘นิสฺสิตสฺส จลิต’’นฺติอาทิปาเฐ ‘‘กตเม นิทฺธาเรตฺวา กตเมหิ โอตรตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘นิสฺสิตสฺส จลิตํ, อนิสฺสิตสฺส จลิตํ นตฺถี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ นิสฺสิตสฺส ปุคฺคลสฺส จลิตํ จลนํ อตฺถิ, อนิสฺสิตสฺส ปุคฺคลสฺส จลิตํ จลนํ นตฺถิฯ จลิเต จลเน อสติ ปสฺสทฺธิ ภวติ, ปสฺสทฺธิยา สติ วิชฺชมานาย นติ น โหติ, นติยา อสติ อวิชฺชมานาย อาคติคติ น โหติ, อาคติคติยา อสติ อวิชฺชมานาย จุตูปปาโต น โหติ, จุตูปปาเต อสติ อวิชฺชมาเน อิธ ฉสุ อชฺฌตฺติกายตเนสุ อตฺตานํ เนว ปสฺสติ, หุรํ วา ฉสุ พาหิรายตเนสุ อตฺตานํ น ปสฺสติ, อุภยํ อนฺตเรน วเชฺชตฺวา ผสฺสาทิสมุทาเยสุ ธเมฺมสุ อตฺตานํ น ปสฺสติ, เอโสว ปฎิจฺจสมุปฺปาโท ‘‘อวิชฺชานิโรธา’’ติอาทิโก ทุกฺขสฺส อโนฺต อวสานํ กโรตีติ อโตฺถฯ
43. ‘‘Uddhaṃ adho’’tiādigāthāyaṃ otaraṇā ācariyena vibhattā, amhehi ca ñātā, ‘‘nissitassa calita’’ntiādipāṭhe ‘‘katame niddhāretvā katamehi otaratī’’ti pucchitabbattā ‘‘nissitassa calitaṃ, anissitassa calitaṃ natthī’’tiādi vuttaṃ. Nissitassa puggalassa calitaṃ calanaṃ atthi, anissitassa puggalassa calitaṃ calanaṃ natthi. Calite calane asati passaddhi bhavati, passaddhiyā sati vijjamānāya nati na hoti, natiyā asati avijjamānāya āgatigati na hoti, āgatigatiyā asati avijjamānāya cutūpapāto na hoti, cutūpapāte asati avijjamāne idha chasu ajjhattikāyatanesu attānaṃ neva passati, huraṃ vā chasu bāhirāyatanesu attānaṃ na passati, ubhayaṃ antarena vajjetvā phassādisamudāyesu dhammesu attānaṃ na passati, esova paṭiccasamuppādo ‘‘avijjānirodhā’’tiādiko dukkhassa anto avasānaṃ karotīti attho.
นิสฺสิตสฺส จลิตนฺติ เอตฺถ ‘‘นิสฺสโย กติวิโธ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘นิสฺสิตสฺส จลิตนฺติ นิสฺสโย นามา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถาติ เตสุ ทุวิเธสุ ตณฺหานิสฺสยทิฎฺฐินิสฺสเยสุ ยา เจตนา รตฺตสฺส ปุคฺคลสฺส นิทฺธาริตา, อยํ เจตนาธโมฺม ตณฺหานิสฺสโย นามฯ ยา เจตนา มูฬฺหสฺส ปุคฺคลสฺส นิทฺธาริตาฯ อยํ เจตนาธโมฺม ทิฎฺฐินิสฺสโย นามฯ สา ทุวิธา เจตนา ปน สงฺขารา นามฯ สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณํ…เป.… สโพฺพ ปฎิจฺจสมุปฺปาโท นิทฺธาริโตฯ อยํ วุตฺตปฺปการา โอตรณา ปฎิจฺจสมุปฺปาเทหิ โอตรณา นามฯ
Nissitassacalitanti ettha ‘‘nissayo katividho’’ti pucchitabbattā ‘‘nissitassa calitanti nissayo nāmā’’tiādi vuttaṃ. Tatthāti tesu duvidhesu taṇhānissayadiṭṭhinissayesu yā cetanā rattassa puggalassa niddhāritā, ayaṃ cetanādhammo taṇhānissayo nāma. Yā cetanā mūḷhassa puggalassa niddhāritā. Ayaṃ cetanādhammo diṭṭhinissayo nāma. Sā duvidhā cetanā pana saṅkhārā nāma. Saṅkhārapaccayā viññāṇaṃ…pe… sabbo paṭiccasamuppādo niddhārito. Ayaṃ vuttappakārā otaraṇā paṭiccasamuppādehi otaraṇā nāma.
ตตฺถาติ ตสฺมิํ ตณฺหานิสฺสยทิฎฺฐินิสฺสเย ยา เวทนา รตฺตสฺส ปุคฺคลสฺส นิทฺธาริตา, อยํ สุขา เวทนาฯ ยา เจตนา สมฺมูฬฺหสฺส ปุคฺคลสฺส นิทฺธาริตา, อยํ อทุกฺขมสุขา เวทนาฯ เยภุเยฺยน เสสา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพาฯ
Tatthāti tasmiṃ taṇhānissayadiṭṭhinissaye yā vedanā rattassa puggalassa niddhāritā, ayaṃ sukhā vedanā. Yā cetanā sammūḷhassa puggalassa niddhāritā, ayaṃ adukkhamasukhā vedanā. Yebhuyyena sesā vuttanayānusārena veditabbā.
๔๔. ‘‘นิสฺสิตสฺส จลิต’’นฺติอาทิปาเฐ โอตรณา อาจริเยน วิภตฺตา, อเมฺหหิ จ ญาตาฯ
44. ‘‘Nissitassa calita’’ntiādipāṭhe otaraṇā ācariyena vibhattā, amhehi ca ñātā.
‘‘เย เกจิ โสกา ปริเทวิตา วา…เป.…
‘‘Ye keci sokā paridevitā vā…pe…
ปิยํ น กยิราถ กุหิญฺจิ โลเก’’ติฯ –
Piyaṃ na kayirātha kuhiñci loke’’ti. –
คาถาปาเฐ ‘‘กตเม นิทฺธาเรตฺวา กตเมหิ โอตรตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เย เกจิ โสกา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เย เกจิ โสกา วา ยา กาจิ ปริเทวิตา วา อเนกรูปา ยา กาจิ ทุกฺขา วา โลกสฺมิํ สมฺภวนฺติฯ เอเต โสกาทโย ปิยํ ปฎิจฺจ ปภวนฺติ, ปิเย อสเนฺต เอเต โสกาทโย น ภวนฺติฯ ตสฺมา ปิเย อสเนฺต โสกาทีนํ อภาวโต เยสํ วีตโสกานํ กุหิญฺจิ โลเกปิ นตฺถิ, เต วีตโสกา สุขิโน ภวนฺติฯ ตสฺมา วีตโสกานํ สุขสมฺปนฺนตฺตา อโสกํ วิรชํ ปตฺถยาโน สปฺปุริโส กุหิญฺจิ โลเก ปิยํ น กยิราถาติ คาถาโตฺถฯ
Gāthāpāṭhe ‘‘katame niddhāretvā katamehi otaratī’’ti pucchitabbattā ‘‘ye keci sokā’’tiādi vuttaṃ. Ye keci sokā vā yā kāci paridevitā vā anekarūpā yā kāci dukkhā vā lokasmiṃ sambhavanti. Ete sokādayo piyaṃ paṭicca pabhavanti, piye asante ete sokādayo na bhavanti. Tasmā piye asante sokādīnaṃ abhāvato yesaṃ vītasokānaṃ kuhiñci lokepi natthi, te vītasokā sukhino bhavanti. Tasmā vītasokānaṃ sukhasampannattā asokaṃ virajaṃ patthayāno sappuriso kuhiñci loke piyaṃ na kayirāthāti gāthāttho.
‘‘เย เกจิ โสกา ปริเทวิตา วา, ทุกฺขา จ โลกสฺมิมเนกรูปา ปิยํ ปฎิจฺจ ปภวนฺติ เอเต’’ติ เอตฺถ ปาเฐ ยา เวทนา นิทฺธาริตา, อยํ ทุกฺขา เวทนาฯ เสสา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพาฯ
‘‘Ye keci sokā paridevitā vā, dukkhā ca lokasmimanekarūpā piyaṃ paṭicca pabhavanti ete’’ti ettha pāṭhe yā vedanā niddhāritā, ayaṃ dukkhā vedanā. Sesā vuttanayānusārena veditabbā.
‘‘เย เกจิ โสกา’’ติอาทิคาถาปาเฐ โอตรณา อาจริเยน วิภตฺตา, อเมฺหหิ จ ญาตา , ‘‘กามํ กามยมานสฺสา’’ติอาทิคาถาปาเฐ ‘‘กตเม นิทฺธาเรตฺวา กตเมหิ โอตรตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘กามํ กามยมานสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตสฺสํ คาถายํ อโตฺถ เหฎฺฐา วุโตฺตวฯ
‘‘Ye keci sokā’’tiādigāthāpāṭhe otaraṇā ācariyena vibhattā, amhehi ca ñātā , ‘‘kāmaṃ kāmayamānassā’’tiādigāthāpāṭhe ‘‘katame niddhāretvā katamehi otaratī’’ti vattabbattā ‘‘kāmaṃ kāmayamānassā’’tiādi vuttaṃ. Tassaṃ gāthāyaṃ attho heṭṭhā vuttova.
ตตฺถาติ ตสฺมิํ ‘‘ปีติมโน โหตี’’ติ ปาเฐ ยา ปีติมนตา วุตฺตา นิทฺธาริตา, อยํ ปีติมนตา อนุนโย โหติฯ ‘‘สลฺลวิโทฺธว รุปฺปตี’’ติ ปาเฐ ยํ รุปฺปนํ อาห, อิทํ รุปฺปนํ ปฎิฆํ โหติ, อนุนโย จ ปฎิฆญฺจ นิทฺธาริตาติ อโตฺถฯ
Tatthāti tasmiṃ ‘‘pītimano hotī’’ti pāṭhe yā pītimanatā vuttā niddhāritā, ayaṃ pītimanatā anunayo hoti. ‘‘Sallaviddhova ruppatī’’ti pāṭhe yaṃ ruppanaṃ āha, idaṃ ruppanaṃ paṭighaṃ hoti, anunayo ca paṭighañca niddhāritāti attho.
‘‘อนุนเย จ ปฎิเฆ จ นิทฺธาริเต กตโม ธโมฺม นิทฺธาริโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อนุนโย ปฎิฆญฺจ ปน ตณฺหาปโกฺข’’ติ วุตฺตํฯ ตณฺหาปโกฺขติ ตณฺหาปกฺขตฺตา ตณฺหา นิทฺธาริตาฯ ‘‘อนุนโย ตณฺหาปโกฺข โหตุ, ปฎิฆํ ปน ตณฺหาปกฺขํ น สิยา’’ติ เจ วเทยฺย? ปฎิฆสฺส อตฺตสิเนหวเสน ปวตฺตนโต ปฎิฆมฺปิ ตณฺหาปกฺขํ โหติฯ ‘‘ตณฺหาย นิทฺธาริตาย กตโม นิทฺธาริโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตณฺหาย จ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ทสนฺนํ รูปายตนานํ ตณฺหาย ปทฎฺฐานตฺตา ทส รูปานิ อายตนานิ นิทฺธาริตานิฯ อยํ วุตฺตปฺปการา โอตรณา อายตเนหิ โอตรณา นามฯ สุเตฺต อาคตา ปฎิจฺจสมุปฺปาทาทโย เตน สํวณฺณนาวิเสเสน นเยน นิทฺธาริตา, สุตฺตตฺถมุเขน วา นิทฺธาริตา, เตน…เป.… นเยน นิทฺธาริเตสุ ปฎิจฺจสมุปฺปาทาทีสุ โย สํวณฺณนานยวิเสโส ตทตฺถวาจกวเสน วา ตทตฺถญาปกวเสน วา โอตรติ ปวิสติ สโมสรติ, โส สํวณฺณนานยวิเสโส โอตรโณ หาโร นามาติ อธิปฺปาโย ทฎฺฐโพฺพฯ เสเสสุปิ วุตฺตนยานุสาเรน โอตรณา คเหตพฺพาฯ ‘‘เตนาห อายสฺมา’’ติอาทฺยานุสนฺธฺยาทิอโตฺถ เจว ‘‘นิยุโตฺต โอตรโณ หาโร’’ติ อนุสนฺธฺยาทิอโตฺถ จ วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตโพฺพฯ
‘‘Anunaye ca paṭighe ca niddhārite katamo dhammo niddhārito’’ti vattabbattā ‘‘anunayo paṭighañca pana taṇhāpakkho’’ti vuttaṃ. Taṇhāpakkhoti taṇhāpakkhattā taṇhā niddhāritā. ‘‘Anunayo taṇhāpakkho hotu, paṭighaṃ pana taṇhāpakkhaṃ na siyā’’ti ce vadeyya? Paṭighassa attasinehavasena pavattanato paṭighampi taṇhāpakkhaṃ hoti. ‘‘Taṇhāya niddhāritāya katamo niddhārito’’ti vattabbattā ‘‘taṇhāya ca panā’’tiādi vuttaṃ. Dasannaṃ rūpāyatanānaṃ taṇhāya padaṭṭhānattā dasa rūpāni āyatanāni niddhāritāni. Ayaṃ vuttappakārā otaraṇā āyatanehi otaraṇā nāma. Sutte āgatā paṭiccasamuppādādayo tena saṃvaṇṇanāvisesena nayena niddhāritā, suttatthamukhena vā niddhāritā, tena…pe… nayena niddhāritesu paṭiccasamuppādādīsu yo saṃvaṇṇanānayaviseso tadatthavācakavasena vā tadatthañāpakavasena vā otarati pavisati samosarati, so saṃvaṇṇanānayaviseso otaraṇo hāro nāmāti adhippāyo daṭṭhabbo. Sesesupi vuttanayānusārena otaraṇā gahetabbā. ‘‘Tenāha āyasmā’’tiādyānusandhyādiattho ceva ‘‘niyutto otaraṇo hāro’’ti anusandhyādiattho ca vuttanayānusārena veditabbo.
อิติ โอตรณหารวิภเงฺค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
Iti otaraṇahāravibhaṅge sattibalānurūpā racitā
วิภาวนา นิฎฺฐิตาฯ
Vibhāvanā niṭṭhitā.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฎฺฐกถาฎีกานุสาเรน คมฺภีรโตฺถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตโพฺพติฯ
Paṇḍitehi pana aṭṭhakathāṭīkānusārena gambhīrattho vitthārato vibhajitvā gahetabboti.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เนตฺติปฺปกรณปาฬิ • Nettippakaraṇapāḷi / ๑๒. โอตรณหารวิภโงฺค • 12. Otaraṇahāravibhaṅgo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā / ๑๒. โอตรณหารวิภงฺควณฺณนา • 12. Otaraṇahāravibhaṅgavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā / ๑๒. โอตรณหารวิภงฺควณฺณนา • 12. Otaraṇahāravibhaṅgavaṇṇanā