Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi |
๓. โอวาทวโคฺค
3. Ovādavaggo
๑. โอวาทสิกฺขาปท-อตฺถโยชนา
1. Ovādasikkhāpada-atthayojanā
๑๔๔. ภิกฺขุนิวคฺคสฺส ปฐเม เตสนฺติ เถรานํฯ มหากุเลหิ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตาติ โยชนาฯ กุลธีตโร วิชฺชมานคุณํ กถยนฺตีติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘ญาติมนุสฺสาน’’นฺติปทํ ‘‘กถยนฺตี’’ติปเท สมฺปทานํฯ กุโตติ กสฺส เถรสฺส สนฺติกาติ อโตฺถฯ เตสนฺติ เถรานํ คุณนฺติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘กเถตุ’’นฺติปทมเปกฺขิตฺวา ‘‘วิชฺชมานคุเณ’’ติ วตฺตเพฺพ อวตฺวา ‘‘วฎฺฎนฺตี’’ติปทมเปกฺขิย ‘‘วิชฺชมานคุณา’’ติ วุตฺตํฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ ตโตติ กถนการณา อภิหริํสูติ สมฺพโนฺธฯ เตนาติ อภิหรณเหตุนาฯ
144. Bhikkhunivaggassa paṭhame tesanti therānaṃ. Mahākulehi nikkhamitvā pabbajitāti yojanā. Kuladhītaro vijjamānaguṇaṃ kathayantīti sambandho. ‘‘Ñātimanussāna’’ntipadaṃ ‘‘kathayantī’’tipade sampadānaṃ. Kutoti kassa therassa santikāti attho. Tesanti therānaṃ guṇanti sambandho. ‘‘Kathetu’’ntipadamapekkhitvā ‘‘vijjamānaguṇe’’ti vattabbe avatvā ‘‘vaṭṭantī’’tipadamapekkhiya ‘‘vijjamānaguṇā’’ti vuttaṃ. Hīti saccaṃ, yasmā vā. Tatoti kathanakāraṇā abhihariṃsūti sambandho. Tenāti abhiharaṇahetunā.
เตสนฺติ ฉพฺพคฺคิยานํฯ ตาสูติ ภิกฺขุนีสุฯ ‘‘ภิกฺขุนิโย’’ติปทํ ‘‘อุปสงฺกมิตฺวา’’ติปเท กมฺมํฯ ฉพฺพคฺคิยานํ ภิกฺขุนีสุ อุปสงฺกมนํ ลาภตณฺหาย โหติ, ภิกฺขุนีนํ ฉพฺพคฺคีสุ อุปสงฺกมนํ จลจิตฺตตาย โหตีติ อญฺญมญฺญูปสงฺกมนฺตานํ วิเสโสฯ ติรจฺฉานภูตา กถา ติรจฺฉานกถา นิรตฺถกกถาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ติรจฺฉานกถนฺตี’’ติฯ สคฺคมคฺคคมเนปีติ ปิสโทฺท โมกฺขคมเน ปน กา นาม กถาติ ทเสฺสติฯ ราชาโน อารพฺภ ปวตฺตา กถา ราชกถาฯ อาทิสเทฺทน โจรกถาทโย สงฺคณฺหาติฯ
Tesanti chabbaggiyānaṃ. Tāsūti bhikkhunīsu. ‘‘Bhikkhuniyo’’tipadaṃ ‘‘upasaṅkamitvā’’tipade kammaṃ. Chabbaggiyānaṃ bhikkhunīsu upasaṅkamanaṃ lābhataṇhāya hoti, bhikkhunīnaṃ chabbaggīsu upasaṅkamanaṃ calacittatāya hotīti aññamaññūpasaṅkamantānaṃ viseso. Tiracchānabhūtā kathā tiracchānakathā niratthakakathāti dassento āha ‘‘tiracchānakathantī’’ti. Saggamaggagamanepīti pisaddo mokkhagamane pana kā nāma kathāti dasseti. Rājāno ārabbha pavattā kathā rājakathā. Ādisaddena corakathādayo saṅgaṇhāti.
๑๔๗. เต ภิกฺขูติ ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภเวยฺยุนฺติ สมฺพโนฺธฯ อทิฎฺฐํ สจฺจํ เยหีติ อทิฎฺฐสจฺจา, เตสํ ภาโว อทิฎฺฐสจฺจตฺตํ, ตสฺมา อทิฎฺฐสจฺจตฺตา พนฺธิตฺวาติ โยชนาฯ เนสนฺติ ฉพฺพคฺคิยานํฯ อเญฺญเนว อุปาเยนาติ อลทฺธสมฺมุติโต อเญฺญเนว ลทฺธสมฺมุติสงฺขาเตน การเณน กตฺตุกาโมติ สมฺพโนฺธฯ ปรโตติ ปรสฺมิํ ปจฺฉา, อุปรีติ อโตฺถฯ กโรโนฺต วาติ ปริพาหิเร กโรโนฺต เอว หุตฺวา อาหาติ โยชนาฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ ยสฺมา น ภูตปุพฺพานิ, อิติ ตสฺมา ปริพาหิรํ กโรโนฺต วาติ อโตฺถฯ
147.Te bhikkhūti chabbaggiyā bhikkhū bhaveyyunti sambandho. Adiṭṭhaṃ saccaṃ yehīti adiṭṭhasaccā, tesaṃ bhāvo adiṭṭhasaccattaṃ, tasmā adiṭṭhasaccattā bandhitvāti yojanā. Nesanti chabbaggiyānaṃ. Aññeneva upāyenāti aladdhasammutito aññeneva laddhasammutisaṅkhātena kāraṇena kattukāmoti sambandho. Paratoti parasmiṃ pacchā, uparīti attho. Karonto vāti paribāhire karonto eva hutvā āhāti yojanā. Hīti saccaṃ, yasmā vā. Yasmā na bhūtapubbāni, iti tasmā paribāhiraṃ karonto vāti attho.
ตตฺถาติ ‘‘อนุชานามี’’ติอาทิวจเนฯ สีลวาติ เอตฺถ วนฺตุสโทฺท ปสํสเตฺถ จ อติสยเตฺถ จ นิจฺจโยคเตฺถ จ โหติฯ ตสฺสาติ ลทฺธสมฺมุติกสฺสฯ ตนฺติ สีลํฯ ปาติโมกฺขสํวรสทฺทานํ กมฺมธารยภาวํ, เตหิ จ สํวุตสทฺทสฺส ตปฺปุริสภาวํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘ปาติโมโกฺขวา’’ติอาทิฯ ตตฺถ เอวสเทฺทน กมฺมธารยภาวํ, เอนสเทฺทน จ ตปฺปุริสภาวํ ทเสฺสตีติ ทฎฺฐพฺพํฯ
Tatthāti ‘‘anujānāmī’’tiādivacane. Sīlavāti ettha vantusaddo pasaṃsatthe ca atisayatthe ca niccayogatthe ca hoti. Tassāti laddhasammutikassa. Tanti sīlaṃ. Pātimokkhasaṃvarasaddānaṃ kammadhārayabhāvaṃ, tehi ca saṃvutasaddassa tappurisabhāvaṃ dassetuṃ vuttaṃ ‘‘pātimokkhovā’’tiādi. Tattha evasaddena kammadhārayabhāvaṃ, enasaddena ca tappurisabhāvaṃ dassetīti daṭṭhabbaṃ.
วตฺตตีติ อตฺตภาวํ ปวเตฺตติฯ การิตปจฺจโย หิ อทสฺสนํ คโตฯ อิมินา อิริยาปถวิหาร ทิพฺพวิหาร พฺรหฺมวิหาร อริยวิหาเรสุ จตูสุ วิหาเรสุ อตฺตภาววตฺตนํ อิริยาปถวิหารํ ทเสฺสติฯ หีติ สจฺจํฯ เอตนฺติ ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรตี’’ติวจนํฯ วิภเงฺคติ ฌานวิภเงฺคฯ
Vattatīti attabhāvaṃ pavatteti. Kāritapaccayo hi adassanaṃ gato. Iminā iriyāpathavihāra dibbavihāra brahmavihāra ariyavihāresu catūsu vihāresu attabhāvavattanaṃ iriyāpathavihāraṃ dasseti. Hīti saccaṃ. Etanti ‘‘pātimokkhasaṃvarasaṃvuto viharatī’’tivacanaṃ. Vibhaṅgeti jhānavibhaṅge.
‘‘สีล’’นฺติอาทีนิ อฎฺฐ ปทานิ ตุลฺยาธิกรณานิฯ อยํ ปเนตฺถ สมฺพโนฺธ – สีลํ กุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา ปติฎฺฐา อาทิ จรณํ สํยโม สํวโร โมกฺขํ ปโมกฺขนฺติฯ สมาปตฺติยาติ สมาปตฺตตฺถายฯ ‘‘อุเปโต’’ติอาทีนิ สตฺต ปทานิ อญฺญมญฺญเววจนานิฯ ตตฺถ อุปปโนฺนติ ยุโตฺต อนุยุโตฺตฯ สมนฺนาคโตติ สมนฺตโต อนุ ปุนปฺปุนํ อาคโตติ สมนฺนาคโต, สมงฺคีภูโตติ อโตฺถฯ เอตฺถ หิ สํสโทฺท สมนฺตตฺถวาจโก, อนุสโทฺท นอุปจฺฉินฺนตฺถวาจโกฯ เตนาติ เตน การเณนฯ ปาเลตีติ อตฺตภาวํ พาธนโต รกฺขติฯ ยเปตีติ อตฺตภาโว ปวตฺตติฯ ยาเปตีติ อตฺตภาวํ ปวตฺตาเปติฯ ยป ยาปเนฯ ยาปนํ ปวตฺตนนฺติ หิ ธาตุปาเฐสุ วุตฺตํ (สทฺทนีติธาตุมาลายํ ๑๘ ปการนฺตธาตุ)ฯ วิหรตีติ เอตฺถ เอโก อาการตฺถวาจโก อิติสโทฺท ลุตฺตนิทฺทิโฎฺฐ, อิติ วุจฺจติ, อิติ วุตฺตนฺติ วา โยชนาฯ
‘‘Sīla’’ntiādīni aṭṭha padāni tulyādhikaraṇāni. Ayaṃ panettha sambandho – sīlaṃ kusalānaṃ dhammānaṃ samāpattiyā patiṭṭhā ādi caraṇaṃ saṃyamo saṃvaro mokkhaṃ pamokkhanti. Samāpattiyāti samāpattatthāya. ‘‘Upeto’’tiādīni satta padāni aññamaññavevacanāni. Tattha upapannoti yutto anuyutto. Samannāgatoti samantato anu punappunaṃ āgatoti samannāgato, samaṅgībhūtoti attho. Ettha hi saṃsaddo samantatthavācako, anusaddo naupacchinnatthavācako. Tenāti tena kāraṇena. Pāletīti attabhāvaṃ bādhanato rakkhati. Yapetīti attabhāvo pavattati. Yāpetīti attabhāvaṃ pavattāpeti. Yapa yāpane. Yāpanaṃ pavattananti hi dhātupāṭhesu vuttaṃ (saddanītidhātumālāyaṃ 18 pakārantadhātu). Viharatīti ettha eko ākāratthavācako itisaddo luttaniddiṭṭho, iti vuccati, iti vuttanti vā yojanā.
อาจารโคจรสทฺทานํ ทฺวนฺทภาวํ, เตหิ จ สมฺปนฺนสทฺทสฺส ตปฺปุริสภาวํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อาจารโคจรสมฺปโนฺน’’ติอาทิฯ ตตฺถ จสเทฺทน ทฺวนฺทภาวํ, เอนสเทฺทน จ ตปฺปุริสภาวํ ทเสฺสติฯ อณุสโทฺท อปฺปโตฺถ, มตฺตสโทฺท ปมาณโตฺถติ อาห ‘‘อปฺปมตฺตเกสู’’ติฯ ‘‘ทสฺสนสีโล’’ติอิมินา ‘‘ทสฺสาวี’’ติเอตฺถ อาวีสทฺทสฺส ตสฺสีลตฺถภาวํ ทเสฺสติฯ ‘‘สมาทายา’’ติ เอตฺถ สํปุพฺพอาปุพฺพสฺส ทาสทฺทสฺส กมฺมาเปกฺขตฺตา ตสฺส กมฺมํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘ตํ ตํ สิกฺขาปท’’นฺติฯ อิมินา ‘‘สิกฺขาปเทสู’’ติ อุปโยคเตฺถ ภุมฺมวจนนฺติ ทเสฺสติฯ อถ วา สิกฺขาปเทสูติ นิทฺธารณเตฺถ ภุมฺมวจนเมตํฯ ‘‘ตํ ตํ สิกฺขาปท’’นฺติ กมฺมํ ปน อชฺฌาหริตพฺพนฺติ ทเสฺสติฯ ‘‘สมาทายา’’ติ เอตฺถ สํสทฺทสฺส จ อาปุพฺพสฺส ทาสทฺทสฺส จ ยการสฺส จ อตฺถํ ทเสฺสตุํ ‘‘สาธุกํ คเหตฺวา’’ติ วุตฺตํฯ เอตฺถาติ อิมิสฺสํ อฎฺฐกถายํฯ วิตฺถาโร ปน คเหตโพฺพติ โยชนาฯ โยติ กุลปุโตฺตฯ
Ācāragocarasaddānaṃ dvandabhāvaṃ, tehi ca sampannasaddassa tappurisabhāvaṃ dassento āha ‘‘ācāragocarasampanno’’tiādi. Tattha casaddena dvandabhāvaṃ, enasaddena ca tappurisabhāvaṃ dasseti. Aṇusaddo appattho, mattasaddo pamāṇatthoti āha ‘‘appamattakesū’’ti. ‘‘Dassanasīlo’’tiiminā ‘‘dassāvī’’tiettha āvīsaddassa tassīlatthabhāvaṃ dasseti. ‘‘Samādāyā’’ti ettha saṃpubbaāpubbassa dāsaddassa kammāpekkhattā tassa kammaṃ dassetuṃ vuttaṃ ‘‘taṃ taṃ sikkhāpada’’nti. Iminā ‘‘sikkhāpadesū’’ti upayogatthe bhummavacananti dasseti. Atha vā sikkhāpadesūti niddhāraṇatthe bhummavacanametaṃ. ‘‘Taṃ taṃ sikkhāpada’’nti kammaṃ pana ajjhāharitabbanti dasseti. ‘‘Samādāyā’’ti ettha saṃsaddassa ca āpubbassa dāsaddassa ca yakārassa ca atthaṃ dassetuṃ ‘‘sādhukaṃ gahetvā’’ti vuttaṃ. Etthāti imissaṃ aṭṭhakathāyaṃ. Vitthāro pana gahetabboti yojanā. Yoti kulaputto.
อสฺสาติ ลทฺธสมฺมุติกสฺสฯ ยํ ตํ พหุ สุตํ นาม อตฺถิ, ตํ น สุตมตฺตเมวาติ โยชนาฯ มญฺชูสายนฺติ เปฬายํฯ สา หิ สามิกสฺส สธนตฺตํ มญฺญเต อิมายาติ ‘‘มญฺชูสา’’ติ วุจฺจติฯ มญฺชูสายํ รตนํ สนฺนิจิตํ วิย สุตํ สนฺนิจิตํ อสฺมิํ ปุคฺคเลติ โยชนา, เอเตนาติ ‘‘สนฺนิจิต’’นฺติปเทน, ทเสฺสตีติ สมฺพโนฺธฯ โสติ ลทฺธสมฺมุติโก ภิกฺขุฯ สนฺนิจิตรตนเสฺสวาติ สนฺนิจิตรตนสฺส อิวฯ ตนฺติ ‘‘เย เต ธมฺมา’’ติอาทิวจนํฯ เอตฺถาติ อิมสฺมิํ สิกฺขาปเทฯ อสฺสาติ ลทฺธสมฺมุติกสฺส ภิกฺขุโนฯ ตตฺถาติ ‘‘วจสา ปริจิตา’’ติอาทิวจเนฯ เอวมโตฺถ เวทิตโพฺพติ โยชนาฯ ปคุณาติ อุชุกาฯ อุชุโก หิ อชิมฺหตฺตา ปกโฎฺฐ อุตฺตโม คุโณติ อเตฺถน ‘‘ปคุโณ’’ติ วุจฺจติฯ อนุเปกฺขิตาติ ปุนปฺปุนํ อุปคนฺตฺวา อิกฺขิตา, ปสฺสิตา ทสฺสิตาติ อโตฺถฯ อตฺถโตติ อภิเธยฺยตฺถโต, อฎฺฐกถาโตติ อโตฺถฯ การณโตติ ธมฺมโต, ปาฬิโตติ อโตฺถฯ ทิฎฺฐิสทฺทสฺส ปญฺญาสทฺทเววจนตฺตา ‘‘ปญฺญายา’’ติ วุตฺตํฯ สุปจฺจกฺขกตาติ สุฎฺฐุ อกฺขานํ อินฺทฺริยานํ ปฎิมุขํ กตาฯ
Assāti laddhasammutikassa. Yaṃ taṃ bahu sutaṃ nāma atthi, taṃ na sutamattamevāti yojanā. Mañjūsāyanti peḷāyaṃ. Sā hi sāmikassa sadhanattaṃ maññate imāyāti ‘‘mañjūsā’’ti vuccati. Mañjūsāyaṃ ratanaṃ sannicitaṃ viya sutaṃ sannicitaṃ asmiṃ puggaleti yojanā, etenāti ‘‘sannicita’’ntipadena, dassetīti sambandho. Soti laddhasammutiko bhikkhu. Sannicitaratanassevāti sannicitaratanassa iva. Tanti ‘‘ye te dhammā’’tiādivacanaṃ. Etthāti imasmiṃ sikkhāpade. Assāti laddhasammutikassa bhikkhuno. Tatthāti ‘‘vacasā paricitā’’tiādivacane. Evamattho veditabboti yojanā. Paguṇāti ujukā. Ujuko hi ajimhattā pakaṭṭho uttamo guṇoti atthena ‘‘paguṇo’’ti vuccati. Anupekkhitāti punappunaṃ upagantvā ikkhitā, passitā dassitāti attho. Atthatoti abhidheyyatthato, aṭṭhakathātoti attho. Kāraṇatoti dhammato, pāḷitoti attho. Diṭṭhisaddassa paññāsaddavevacanattā ‘‘paññāyā’’ti vuttaṃ. Supaccakkhakatāti suṭṭhu akkhānaṃ indriyānaṃ paṭimukhaṃ katā.
‘‘พหุสฺสุโต’’ติ เอตฺถ พหุสฺสุตสฺส ติวิธภาวํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อยํ ปนา’’ติอาทิฯ นิสฺสยโต มุจฺจตีติ นิสฺสยมุจฺจนโกฯ ปริสํ อุปฎฺฐาเปตีติ ปริสุปฎฺฐาโกฯ ภิกฺขุนิโย โอวทตีติ ภิกฺขุโนวาทโกฯ ตตฺถาติ ติวิเธสุ พหุสฺสุเตสุฯ นิสฺสยมุจฺจนเกน เอตฺตกํ อุคฺคเหตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ อุปสมฺปทายาติ อุปสมฺปาเทตฺวาฯ ปญฺจ วสฺสานิ เอตสฺสาติ ปญฺจวโสฺสฯ เตน อุคฺคเหตพฺพนฺติ โยชนาฯ สพฺพนฺติเมนาติ สเพฺพสํ ปริเจฺฉทานํ อเนฺต ลามเก ปวเตฺตนฯ ปคุณาติ อชิมฺหา อุชุกาฯ วาจุคฺคตาติ ตเสฺสว เววจนํฯ ยสฺส หิ ปาฬิปาฐา สชฺฌายนกาเล ปคุณา โหนฺติ, ตสฺส วาจุคฺคตาฯ ยสฺส วา ปน วาจุคฺคตา โหนฺติ, ตสฺส ปคุณาฯ ตสฺมา ตานิ ปทานิ อญฺญมญฺญการณเววจนานิฯ ปกฺขทิวเสสูติ ชุณฺหปกฺขกาฬปกฺขปริยาปเนฺนสุ ทิวเสสุฯ ธมฺมสาวนตฺถายาติ สมฺปตฺตานํ ปริสานํ ธมฺมสฺส สาวนตฺถาย สุณาปนตฺถายาติ อธิปฺปาโยฯ สาวนตฺถายาติ เอตฺถ ยุปจฺจยปรตฺตา การิตปจฺจโย โลโป โหตีติ ทฎฺฐพฺพํฯ ตสฺมา สาวียเต สุณาปียเต สาวนนฺติ วจนโตฺถ กาตโพฺพฯ ภาณวารา อุคฺคเหตพฺพาติ สมฺพโนฺธฯ สมฺปตฺตานนฺติ อตฺตโน สนฺติกํ สมฺปตฺตานํฯ ปริกถนตฺถายาติ ปริสฺสเงฺคน อาลิงฺคเนน กถนตฺถํ, อปฺปสทฺทสงฺขาตาย วาจาย กถนตฺถนฺติ อโตฺถฯ ‘‘กถามโคฺค’’ติ วุตฺตตฺตา วตฺถุกถาเยว อธิเปฺปตา, น สุตฺตสงฺขาโต ปาฬิปาโฐฯ อนุ ปจฺฉา, ปุนปฺปุนํ วา ทายกา โมทนฺติ เอตายาติ อนุโมทนาฯ ฌานํ วา มโคฺค วา ผลํ วา สมณธโมฺม นามฯ ตสฺส กรณตฺถํ อุคฺคเหตพฺพนฺติ โยชนาฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ จตูสุ ทิสาสุ อปฎิหโตติ จาตุทฺทิโส, อปฎิหตเตฺถ ณปจฺจโยฯ
‘‘Bahussuto’’ti ettha bahussutassa tividhabhāvaṃ dassento āha ‘‘ayaṃ panā’’tiādi. Nissayato muccatīti nissayamuccanako. Parisaṃ upaṭṭhāpetīti parisupaṭṭhāko. Bhikkhuniyo ovadatīti bhikkhunovādako. Tatthāti tividhesu bahussutesu. Nissayamuccanakena ettakaṃ uggahetabbanti sambandho. Upasampadāyāti upasampādetvā. Pañca vassāni etassāti pañcavasso. Tena uggahetabbanti yojanā. Sabbantimenāti sabbesaṃ paricchedānaṃ ante lāmake pavattena. Paguṇāti ajimhā ujukā. Vācuggatāti tasseva vevacanaṃ. Yassa hi pāḷipāṭhā sajjhāyanakāle paguṇā honti, tassa vācuggatā. Yassa vā pana vācuggatā honti, tassa paguṇā. Tasmā tāni padāni aññamaññakāraṇavevacanāni. Pakkhadivasesūti juṇhapakkhakāḷapakkhapariyāpannesu divasesu. Dhammasāvanatthāyāti sampattānaṃ parisānaṃ dhammassa sāvanatthāya suṇāpanatthāyāti adhippāyo. Sāvanatthāyāti ettha yupaccayaparattā kāritapaccayo lopo hotīti daṭṭhabbaṃ. Tasmā sāvīyate suṇāpīyate sāvananti vacanattho kātabbo. Bhāṇavārā uggahetabbāti sambandho. Sampattānanti attano santikaṃ sampattānaṃ. Parikathanatthāyāti parissaṅgena āliṅganena kathanatthaṃ, appasaddasaṅkhātāya vācāya kathanatthanti attho. ‘‘Kathāmaggo’’ti vuttattā vatthukathāyeva adhippetā, na suttasaṅkhāto pāḷipāṭho. Anu pacchā, punappunaṃ vā dāyakā modanti etāyāti anumodanā. Jhānaṃ vā maggo vā phalaṃ vā samaṇadhammo nāma. Tassa karaṇatthaṃ uggahetabbanti yojanā. Hīti saccaṃ, yasmā vā. Catūsu disāsu apaṭihatoti cātuddiso, apaṭihatatthe ṇapaccayo.
ปริสุปฎฺฐาปเกน กาตพฺพาติ โยชนาฯ อภิวินเยติ อญฺญมญฺญปริจฺฉิเนฺน วินยปิฎเกฯ เทฺว วิภงฺคาติ ภิกฺขุวิภโงฺค จ ภิกฺขุนิวิภโงฺค จฯ อสโกฺกเนฺตน ปริสุปฎฺฐาปเกน ภิกฺขุนาติ สมฺพโนฺธฯ เอวํ อตฺตโน อตฺถาย อุคฺคเหตพฺพํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ ปริสาย อตฺถาย อุคฺคเหตพฺพํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ปริสาย ปนา’’ติอาทิฯ อภิธเมฺมติ อญฺญมญฺญปริจฺฉิเนฺน สุตฺตนฺตปิฎเก เอว, น อภิธมฺมปิฎเกฯ ตโย วคฺคาติ สคาถาวโคฺค นิทานวโคฺค ขนฺธวโคฺคติ ตโย วคฺคาฯ วาสโทฺท อนิยมวิกปฺปโตฺถฯ เอกนฺติ เอกํ นิปาตํฯ ตโต ตโตติ นิกายโตฯ สมุจฺจยํ กตฺวาติ ราสิํ กตฺวาฯ น วุตฺตนฺติ อฎฺฐกถาสุ น กถิตํฯ ยสฺส ปน นตฺถิ, โส น ลภตีติ โยชนาฯ สุตฺตเนฺต จาติ สุตฺตนฺตปิฎเก ปนฯ อุคฺคหิโตติ สรูปกถเนน คหิโต, อุจฺจาริโตติ อโตฺถฯ ทิสาปาโมโกฺขติ ทิสาสุ ฐิตานํ ภิกฺขุอาทีนํ ปาโมโกฺขฯ เยน กามํ คโมติ ยถากามํ คโมฯ
Parisupaṭṭhāpakena kātabbāti yojanā. Abhivinayeti aññamaññaparicchinne vinayapiṭake. Dve vibhaṅgāti bhikkhuvibhaṅgo ca bhikkhunivibhaṅgo ca. Asakkontena parisupaṭṭhāpakena bhikkhunāti sambandho. Evaṃ attano atthāya uggahetabbaṃ dassetvā idāni parisāya atthāya uggahetabbaṃ dassento āha ‘‘parisāya panā’’tiādi. Abhidhammeti aññamaññaparicchinne suttantapiṭake eva, na abhidhammapiṭake. Tayo vaggāti sagāthāvaggo nidānavaggo khandhavaggoti tayo vaggā. Vāsaddo aniyamavikappattho. Ekanti ekaṃ nipātaṃ. Tato tatoti nikāyato. Samuccayaṃ katvāti rāsiṃ katvā. Na vuttanti aṭṭhakathāsu na kathitaṃ. Yassa pana natthi, so na labhatīti yojanā. Suttante cāti suttantapiṭake pana. Uggahitoti sarūpakathanena gahito, uccāritoti attho. Disāpāmokkhoti disāsu ṭhitānaṃ bhikkhuādīnaṃ pāmokkho. Yena kāmaṃ gamoti yathākāmaṃ gamo.
จตูสุ นิกาเยสูติ ขุทฺทกนิกายโต อเญฺญสุ ทีฆนิกายาทีสุฯ เอกสฺสาติ อญฺญตรสฺส เอกสฺส ฯ เอกนิกาเยนาติ เอกสฺมิํ นิกาเย ลทฺธนเยนฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ ตตฺถาติ จตุปฺปกรณสฺส อฎฺฐกถายํฯ นานตฺถนฺติ นานาปโยชนํฯ ตนฺติ วินยปิฎกํฯ เอตฺตาวตาติ เอตฺตกปมาเณน ปคุเณนฯ โหตีติ อิติสโทฺท ปริสมาปนโตฺถฯ อิติ ปริสมาปนํ เวทิตพฺพนฺติ โยชนาฯ
Catūsu nikāyesūti khuddakanikāyato aññesu dīghanikāyādīsu. Ekassāti aññatarassa ekassa . Ekanikāyenāti ekasmiṃ nikāye laddhanayena. Hīti saccaṃ, yasmā vā. Tatthāti catuppakaraṇassa aṭṭhakathāyaṃ. Nānatthanti nānāpayojanaṃ. Tanti vinayapiṭakaṃ. Ettāvatāti ettakapamāṇena paguṇena. Hotīti itisaddo parisamāpanattho. Iti parisamāpanaṃ veditabbanti yojanā.
อุภยานิ โข ปนสฺสาติ อาทิ ปน วุตฺตนฺติ สมฺพโนฺธฯ อญฺญสฺมินฺติ วินยปิฎกโต อิตรสฺมิํฯ ตตฺถาติ ‘‘อุภยานิ โข ปนสฺสา’’ติอาทิวจเนฯ ยถา เยนากาเรน อาคตานิ, ตํ อาการํ ทเสฺสตุนฺติ โยชนาฯ ปทปจฺจาภฎฺฐสงฺกรโทสวิรหิตานีติ ปทานํ ปจฺจาภฎฺฐสงฺกรภูเตหิ โทเสหิ วิรหิตานิฯ เอตฺถ จ ปทปจฺจาภฎฺฐนฺติ ปทานํ ปฎินิวตฺติตฺวา อาภสฺสนํ คฬนํ, จุตนฺติ อโตฺถฯ ปทสงฺกรนฺติ ปทานํ วิปตฺติ, วินาโสติ อโตฺถฯ ‘‘สุตฺตโส’’ติ สามญฺญโต วุเตฺตปิ ขนฺธกปริวารสุตฺตํ เอว คเหตพฺพนฺติ อาห ‘‘ขนฺธกปริวารโต’’ติฯ อนุพฺยญฺชนโสติ เอตฺถ พฺยญฺชนสโทฺท อกฺขรสฺส จ ปทสฺส จ วาจโกติ อาห ‘‘อกฺขรปทปาริปูริยา จา’’ติฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ
Ubhayāni kho panassāti ādi pana vuttanti sambandho. Aññasminti vinayapiṭakato itarasmiṃ. Tatthāti ‘‘ubhayāni kho panassā’’tiādivacane. Yathā yenākārena āgatāni, taṃ ākāraṃ dassetunti yojanā. Padapaccābhaṭṭhasaṅkaradosavirahitānīti padānaṃ paccābhaṭṭhasaṅkarabhūtehi dosehi virahitāni. Ettha ca padapaccābhaṭṭhanti padānaṃ paṭinivattitvā ābhassanaṃ gaḷanaṃ, cutanti attho. Padasaṅkaranti padānaṃ vipatti, vināsoti attho. ‘‘Suttaso’’ti sāmaññato vuttepi khandhakaparivārasuttaṃ eva gahetabbanti āha ‘‘khandhakaparivārato’’ti. Anubyañjanasoti ettha byañjanasaddo akkharassa ca padassa ca vācakoti āha ‘‘akkharapadapāripūriyā cā’’ti. Hīti saccaṃ, yasmā vā.
‘‘สิถิลธนิตาทีน’’นฺติปทํ ‘‘วจเนนา’’ติปเท กมฺมํ, ‘‘วจเนนา’’ติปทํ ‘‘สมฺปนฺนาคโต’’ติปเท เหตุ, ‘‘วิสฺสฎฺฐาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิญฺญาปนิยา’’ติปทานิ ‘‘วาจายา’’ติปเท วิเสสนานิฯ สิถิลธนิตาทีนนฺติ อาทิสเทฺทน นิคฺคหิตวิมุตฺตสมฺพนฺธววตฺถิตทีฆ รสฺส ครุ ลหุ สงฺขาตา อฎฺฐ พฺยญฺชนพุทฺธิโย สงฺคณฺหาติฯ ยถาวิธานวจเนนาติ อกฺขรจินฺตกานํ ยถา สํวิทหนวจเนนฯ วาจาเยว กรียติ กถียติ อุจฺจารียติ วากฺกรณํ จการสฺส กการํ กตฺวาฯ หีติ ตเทว ยุตฺตํฯ มาตุคาโม ยสฺมา สรสมฺปตฺติรโต, ตสฺมา หีเฬตีติ โยชนาฯ ‘‘สรสมฺปตฺติรหิต’’นฺติปทํ ‘‘วจน’’นฺติปเท วิเสสนภาเวน วิเสสํ กตฺวา ‘‘หีเฬตี’’ติปเท เหตุภาเวน สมฺปชฺชนโต เหตุอโนฺตคธวิเสสนนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ สพฺพาสนฺติ ภิกฺขุนีนํฯ ‘‘สีลาจารสมฺปตฺติยา’’ติอิมินา ชาติ โคตฺต รูป โภคาทินาติอตฺถํ นิวเตฺตติฯ การณญฺจาติ อฎฺฐกถญฺจฯ ตเชฺชตฺวาติ อุเพฺพเชตฺวาฯ ตาสนฺติ ภิกฺขุนีนํฯ คิหิกาเลติ ภิกฺขุโนวาทกสฺส คิหิกาเล อนชฺฌาปนฺนปุโพฺพ โหตีติ สมฺพโนฺธฯ หิ ตเทว ยุตฺตํฯ ‘‘มาตุคาโม’’ติปทํ ‘‘น กโรตี’’ติปเท สุทฺธกตฺตา, ‘‘อุปฺปาเทตี’’ติปเท เหตุกตฺตาฯ ฐิตสฺส ภิกฺขุโน ธมฺมเทสนายาปีติ โยชนาฯ อปิสโทฺท ครหโตฺถฯ วิสภาเคหีติ วิรุเทฺธหิ วตฺถารมฺมเณหิฯ อยุตฺตฎฺฐาเนติ ปพฺพชิตานํ อนนุรูปฎฺฐาเนฯ ฉนฺทราคนฺติ พลวตณฺหํฯ เตนาติ เตน เหตุนาฯ
‘‘Sithiladhanitādīna’’ntipadaṃ ‘‘vacanenā’’tipade kammaṃ, ‘‘vacanenā’’tipadaṃ ‘‘sampannāgato’’tipade hetu, ‘‘vissaṭṭhāya anelagaḷāya atthassa viññāpaniyā’’tipadāni ‘‘vācāyā’’tipade visesanāni. Sithiladhanitādīnanti ādisaddena niggahitavimuttasambandhavavatthitadīgha rassa garu lahu saṅkhātā aṭṭha byañjanabuddhiyo saṅgaṇhāti. Yathāvidhānavacanenāti akkharacintakānaṃ yathā saṃvidahanavacanena. Vācāyeva karīyati kathīyati uccārīyati vākkaraṇaṃ cakārassa kakāraṃ katvā. Hīti tadeva yuttaṃ. Mātugāmo yasmā sarasampattirato, tasmā hīḷetīti yojanā. ‘‘Sarasampattirahita’’ntipadaṃ ‘‘vacana’’ntipade visesanabhāvena visesaṃ katvā ‘‘hīḷetī’’tipade hetubhāvena sampajjanato hetuantogadhavisesananti daṭṭhabbaṃ. Sabbāsanti bhikkhunīnaṃ. ‘‘Sīlācārasampattiyā’’tiiminā jāti gotta rūpa bhogādinātiatthaṃ nivatteti. Kāraṇañcāti aṭṭhakathañca. Tajjetvāti ubbejetvā. Tāsanti bhikkhunīnaṃ. Gihikāleti bhikkhunovādakassa gihikāle anajjhāpannapubbo hotīti sambandho. Hi tadeva yuttaṃ. ‘‘Mātugāmo’’tipadaṃ ‘‘na karotī’’tipade suddhakattā, ‘‘uppādetī’’tipade hetukattā. Ṭhitassa bhikkhuno dhammadesanāyāpīti yojanā. Apisaddo garahattho. Visabhāgehīti viruddhehi vatthārammaṇehi. Ayuttaṭṭhāneti pabbajitānaṃ ananurūpaṭṭhāne. Chandarāganti balavataṇhaṃ. Tenāti tena hetunā.
‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิมฺหิ อยํ ปน สงฺคโห –
‘‘Ettha cā’’tiādimhi ayaṃ pana saṅgaho –
‘‘สีลวา พหุสฺสุโต จ, สฺวาคโต จ สุวาจโก;
‘‘Sīlavā bahussuto ca, svāgato ca suvācako;
ปิโย ปฎิพโล จาปิ, นชฺฌาปโนฺน จ วีสตี’’ติฯ
Piyo paṭibalo cāpi, najjhāpanno ca vīsatī’’ti.
๑๔๘. วตฺถุสฺมินฺติ อฎฺฐุปฺปตฺติยํฯ กการโลปํ กตฺวา ครุธมฺมาติ วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘ครุเกหิ ธเมฺมหี’’ติฯ เตติ ครุธมฺมาฯ หีติ ยสฺมาฯ ‘‘เอกโต’’ติ สามเญฺญน วุตฺตวจนสฺส วิเสเสน คเหตพฺพตํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก’’ติฯ ยถาวตฺถุกเมวาติ ปาจิตฺติยเมวฯ ตญฺหิ วตฺถุสฺส อาปตฺติการณสฺส อนุรูปํ ปวตฺตตฺตา ‘‘ยถาวตฺถุก’’นฺติ วุจฺจติฯ
148.Vatthusminti aṭṭhuppattiyaṃ. Kakāralopaṃ katvā garudhammāti vuccantīti āha ‘‘garukehi dhammehī’’ti. Teti garudhammā. Hīti yasmā. ‘‘Ekato’’ti sāmaññena vuttavacanassa visesena gahetabbataṃ dassetuṃ vuttaṃ ‘‘bhikkhunīnaṃ santike’’ti. Yathāvatthukamevāti pācittiyameva. Tañhi vatthussa āpattikāraṇassa anurūpaṃ pavattattā ‘‘yathāvatthuka’’nti vuccati.
๑๔๙. ปาโตติ ปเคว, ปฐมนฺติ อโตฺถฯ อสมฺมฎฺฐํ สมฺมชฺชีตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ อสมฺมชฺชเน โทสํ ปากฎํ กโรโนฺต อาห ‘‘อสมฺมฎฺฐํ หี’’ติอาทิฯ หีติ ตปฺปากฎีกรณโชตโกฯ ตนฺติ ปริเวณํฯ ทิสฺวา ภเวยฺยุนฺติ สมฺพโนฺธฯ เตนาติ อโสตุกามานํ วิย ภวนเหตุนาฯ ปริเวณสมฺมชฺชนสฺส อานิสํสํ ทเสฺสตฺวา ปานียปริโภชนียอุปฎฺฐานสฺส ตเมว ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อโนฺต คามโต ปนา’’ติ อาทิฯ ตสฺมินฺติ ปานียปริโภชนีเยฯ
149.Pātoti pageva, paṭhamanti attho. Asammaṭṭhaṃ sammajjītabbanti sambandho. Asammajjane dosaṃ pākaṭaṃ karonto āha ‘‘asammaṭṭhaṃ hī’’tiādi. Hīti tappākaṭīkaraṇajotako. Tanti pariveṇaṃ. Disvā bhaveyyunti sambandho. Tenāti asotukāmānaṃ viya bhavanahetunā. Pariveṇasammajjanassa ānisaṃsaṃ dassetvā pānīyaparibhojanīyaupaṭṭhānassa tameva dassento āha ‘‘anto gāmato panā’’ti ādi. Tasminti pānīyaparibhojanīye.
สาขาภงฺคมฺปีติ ภญฺชิตพฺพสาขมฺปิฯ ทุติโยติ วิญฺญู ปุริโส ทุติโยฯ นิสีทิตพฺพฎฺฐานํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘นิสีทิตพฺพ’’นฺติอาทิฯ ‘‘วิหารมเชฺฌ’’ติ สามญฺญโต วตฺวา วิเสสโต ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘ทฺวาเร’’ติฯ โอสรนฺติ อวสรนฺติ เอตฺถาติ โอสรณํ, ตญฺจ ตํ ฐานเญฺจติ โอสรณฎฺฐานํ, ตสฺมิํฯ สมคฺคตฺถาติ เอตฺถ สํปุโพฺพ จ อาปุโพฺพ จ คมุสโทฺท โหติ, ตโต หิยฺยตฺตนีสงฺขาตํ ตฺถวจนํ วา โหติ, ปญฺจมีสงฺขาตสฺส ถวจนสฺส ตฺถตฺตํ วา โหติ, สํโยคปรตฺตา อา อุปสโคฺค รโสฺส จ โหติ, อิติ อตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สมฺมา อาคตตฺถา’’ติฯ ตตฺถ ‘‘สมฺมา’’ติปเทน สํสทฺทสฺส อตฺถํ ทเสฺสติ, ‘‘อา’’อิติปเทน อาตฺยูปสคฺคํ, ‘‘คต’’อิติปเทน คมุธาตุํ, ‘‘ตฺถ’’อิติปเทน หิยฺยตฺตนีสงฺขาตํ ตฺถวจนํ วา, ปญฺจมีสงฺขาตสฺส ถวจนสฺส ตฺถตฺตํ วา ทเสฺสติฯ อยํ ปเนตฺถโตฺถ – สมํ ตุเมฺห อาคตตฺถาติฯ ปญฺจมีสงฺขาตสฺส ถวจนสฺส ตฺถตฺตกาเล สมํ ตุเมฺห อาคา อตฺถ ภวถาติฯ ‘‘อาคจฺฉนฺตี’’ติปเทน ‘‘วตฺตนฺตี’’ติ เอตฺถ วตุธาตุยา อตฺถํ ทเสฺสติ, ‘‘ปคุณา วาจุคฺคตา’’ติปเทหิ อธิปฺปายํ ทเสฺสติฯ ปาฬีติ ครุธมฺมปาฬิฯ
Sākhābhaṅgampīti bhañjitabbasākhampi. Dutiyoti viññū puriso dutiyo. Nisīditabbaṭṭhānaṃ dassento āha ‘‘nisīditabba’’ntiādi. ‘‘Vihāramajjhe’’ti sāmaññato vatvā visesato dassetuṃ vuttaṃ ‘‘dvāre’’ti. Osaranti avasaranti etthāti osaraṇaṃ, tañca taṃ ṭhānañceti osaraṇaṭṭhānaṃ, tasmiṃ. Samaggatthāti ettha saṃpubbo ca āpubbo ca gamusaddo hoti, tato hiyyattanīsaṅkhātaṃ tthavacanaṃ vā hoti, pañcamīsaṅkhātassa thavacanassa tthattaṃ vā hoti, saṃyogaparattā ā upasaggo rasso ca hoti, iti atthaṃ dassento āha ‘‘sammā āgatatthā’’ti. Tattha ‘‘sammā’’tipadena saṃsaddassa atthaṃ dasseti, ‘‘ā’’itipadena ātyūpasaggaṃ, ‘‘gata’’itipadena gamudhātuṃ, ‘‘ttha’’itipadena hiyyattanīsaṅkhātaṃ tthavacanaṃ vā, pañcamīsaṅkhātassa thavacanassa tthattaṃ vā dasseti. Ayaṃ panetthattho – samaṃ tumhe āgatatthāti. Pañcamīsaṅkhātassa thavacanassa tthattakāle samaṃ tumhe āgā attha bhavathāti. ‘‘Āgacchantī’’tipadena ‘‘vattantī’’ti ettha vatudhātuyā atthaṃ dasseti, ‘‘paguṇā vācuggatā’’tipadehi adhippāyaṃ dasseti. Pāḷīti garudhammapāḷi.
ตตฺถาติ ตสฺสํ ปาฬิยํ, เตสุ วา อภิวาทนาทีสุ จตูสุฯ มคฺคสมฺปทานนฺติ มคฺคํ ปริหริตฺวา ภิกฺขุสฺส โอกาสทานํฯ พีชนนฺติ พีชนิยา วิธูปนํฯ ปานียาปุจฺฉนนฺติ ปานียสฺส อาปุจฺฉนํฯ อาทิสเทฺทน ปริโภชนียาปุจฺฉนาทิกํ สงฺคณฺหาติฯ เอตฺถ จาติ เอเตสุ จตูสุ อภิวาทนาทีสุฯ ‘‘อโนฺต คาเม วา’’ติอาทีนิ ฉ ปทานิ ‘‘กาตพฺพเมวา’’ติปเท อาธาโรฯ ราชุสฺสารณายาติ รโญฺญ อานุภาเวน ชนานํ อุสฺสารณายฯ มหาภิกฺขุสโงฺฆ สนฺนิปตติ เอตฺถาติ มหาสนฺนิปาตํ, ตสฺมิํ มหาสนฺนิปาเต ฐาเน นิสิเนฺน สตีติ โยชนาฯ ปจฺจุฎฺฐานนฺติ ปฎิกเจฺจว อุฎฺฐานํฯ ตํ ตนฺติ สามีจิกมฺมํฯ
Tatthāti tassaṃ pāḷiyaṃ, tesu vā abhivādanādīsu catūsu. Maggasampadānanti maggaṃ pariharitvā bhikkhussa okāsadānaṃ. Bījananti bījaniyā vidhūpanaṃ. Pānīyāpucchananti pānīyassa āpucchanaṃ. Ādisaddena paribhojanīyāpucchanādikaṃ saṅgaṇhāti. Ettha cāti etesu catūsu abhivādanādīsu. ‘‘Anto gāme vā’’tiādīni cha padāni ‘‘kātabbamevā’’tipade ādhāro. Rājussāraṇāyāti rañño ānubhāvena janānaṃ ussāraṇāya. Mahābhikkhusaṅgho sannipatati etthāti mahāsannipātaṃ, tasmiṃ mahāsannipāte ṭhāne nisinne satīti yojanā. Paccuṭṭhānanti paṭikacceva uṭṭhānaṃ. Taṃ tanti sāmīcikammaṃ.
สกฺกตฺวาติ จิตฺติํ กตฺวา, สํ อาทรํ กตฺวาติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘ยถา กโต’’ติอาทิฯ ติณฺณํ กิจฺจานนฺติ ‘‘สกฺกตฺวา ครุํกตฺวา มาเนตฺวา’’ติสงฺขาตานํ ติณฺณํ กิจฺจานํฯ อนียสโทฺท กมฺมโตฺถติ อาห ‘‘น อติกฺกมิตโพฺพ’’ติฯ
Sakkatvāti cittiṃ katvā, saṃ ādaraṃ katvāti attho. Tenāha ‘‘yathā kato’’tiādi. Tiṇṇaṃ kiccānanti ‘‘sakkatvā garuṃkatvā mānetvā’’tisaṅkhātānaṃ tiṇṇaṃ kiccānaṃ. Anīyasaddo kammatthoti āha ‘‘na atikkamitabbo’’ti.
นตฺถิ ภิกฺขุ เอตฺถาติ อภิกฺขุโก อาวาโส, โส กิตฺตเก ฐาเน อภิกฺขุโก, โย อาวาโส อภิกฺขุโก นาม โหตีติ อาห ‘‘สเจ’’ติ อาทิฯ ‘‘อุปสฺสยโต’’ติปทํ ‘‘อพฺภนฺตเร’’ติปเท อปาทานํฯ เอตฺถาติ อภิกฺขุเก อาวาเสฯ หีติ สจฺจํฯ ตโตติ อฑฺฒโยชนพฺภนฺตเร ฐิตอาวาสโตฯ ปรนฺติ อญฺญสฺมิํ อาวาเส, ภุมฺมเตฺถ เจตํ อุปโยควจนํฯ ปจฺฉาภตฺตนฺติ ภตฺตโต ปจฺฉาฯ ตตฺถาติ อภิกฺขุเก อาวาเสฯ ‘‘ภิกฺขุนิโย’’ติปทํ ‘‘วทนฺตี’’ติปเท กมฺมํฯ วุตฺตปฺปมาเณติ อฑฺฒโยชนพฺภนฺตรสงฺขาเต วุตฺตปฺปมาเณฯ สาขามณฺฑเปปีติ สาขาย ฉาทิตมณฺฑเปปิฯ ปิสเทฺทน อาวาเส ปน กา นาม กถาติ ทเสฺสติฯ วุตฺตาติ วสิตาฯ เอตฺตาวตาติ เอกรตฺตํ วสิตมเตฺตนฯ เอตฺถาติ สภิกฺขุเก อาวาเสฯ อุปคจฺฉนฺตีหิ ภิกฺขุนีหิ ยาจิตพฺพาติ โยชนาฯ ปกฺขสฺสาติ อาสฬฺหีมาสสฺส ชุณฺหปกฺขสฺสฯ ‘‘เตรสิย’’นฺติปเทน อวยวิอวยวภาเวน โยเชตพฺพํฯ มยนฺติ อเมฺหฯ ยโตติ เยน อุชุนา มเคฺคนาติ สมฺพโนฺธฯ เตนาห ‘‘เตน มเคฺคนา’’ติฯ อเญฺญน มเคฺคนาติ อุชุมคฺคโต อเญฺญน ชิมฺหมเคฺคนฯ อยนฺติ อยํ อาวาโสฯ ตโตติ ภิกฺขูนํ อาวาสโต, ภิกฺขุนิอุปสฺสยโต วา, อิทเมว ยุตฺตตรํฯ วกฺขติ หิ ‘‘อมฺหากํ อุปสฺสยโต คาวุตมเตฺต’’ติฯ เขมฎฺฐาเนติ อภยฎฺฐาเนฯ ตญฺหิ ขียนฺติ ภยา เอตฺถาติ เขมํ, เขมญฺจ ตํ ฐานเญฺจติ เขมฎฺฐานนฺติ กตฺวา ‘‘เขมฎฺฐาน’’นฺติ วุจฺจติฯ ตาหิ ภิกฺขุนีหีติ อฑฺฒโยชนมเตฺต ฐาเน วสนฺตีหิฯ ตา ภิกฺขุนิโยติ คาวุตมเตฺต ฐาเน วสนฺติโยฯ อนฺตราติ ตุมฺหากํ, อมฺหากญฺจ นิวาสนฎฺฐานสฺส, นิวาสนฎฺฐานโต วา อนฺตเร เวมเชฺฌฯ ภุมฺมเตฺถ เจตํ นิสฺสกฺกวจนํฯ ฐิเต มเคฺคติ สมฺพโนฺธ ‘‘สนฺติกา’’ติปทํ ‘‘อาคต’’อิติปเท อปาทานํฯ ตตฺถาติ อญฺญาสํ ภิกฺขุนีนํ อุปสฺสเยฯ อิติ ยาจิตพฺพาติ โยชนาฯ ตโตติ ภิกฺขูนํ ยาจิตพฺพโต, ปรนฺติ สมฺพโนฺธฯ
Natthi bhikkhu etthāti abhikkhuko āvāso, so kittake ṭhāne abhikkhuko, yo āvāso abhikkhuko nāma hotīti āha ‘‘sace’’ti ādi. ‘‘Upassayato’’tipadaṃ ‘‘abbhantare’’tipade apādānaṃ. Etthāti abhikkhuke āvāse. Hīti saccaṃ. Tatoti aḍḍhayojanabbhantare ṭhitaāvāsato. Paranti aññasmiṃ āvāse, bhummatthe cetaṃ upayogavacanaṃ. Pacchābhattanti bhattato pacchā. Tatthāti abhikkhuke āvāse. ‘‘Bhikkhuniyo’’tipadaṃ ‘‘vadantī’’tipade kammaṃ. Vuttappamāṇeti aḍḍhayojanabbhantarasaṅkhāte vuttappamāṇe. Sākhāmaṇḍapepīti sākhāya chāditamaṇḍapepi. Pisaddena āvāse pana kā nāma kathāti dasseti. Vuttāti vasitā. Ettāvatāti ekarattaṃ vasitamattena. Etthāti sabhikkhuke āvāse. Upagacchantīhi bhikkhunīhi yācitabbāti yojanā. Pakkhassāti āsaḷhīmāsassa juṇhapakkhassa. ‘‘Terasiya’’ntipadena avayaviavayavabhāvena yojetabbaṃ. Mayanti amhe. Yatoti yena ujunā maggenāti sambandho. Tenāha ‘‘tena maggenā’’ti. Aññena maggenāti ujumaggato aññena jimhamaggena. Ayanti ayaṃ āvāso. Tatoti bhikkhūnaṃ āvāsato, bhikkhuniupassayato vā, idameva yuttataraṃ. Vakkhati hi ‘‘amhākaṃ upassayato gāvutamatte’’ti. Khemaṭṭhāneti abhayaṭṭhāne. Tañhi khīyanti bhayā etthāti khemaṃ, khemañca taṃ ṭhānañceti khemaṭṭhānanti katvā ‘‘khemaṭṭhāna’’nti vuccati. Tāhi bhikkhunīhīti aḍḍhayojanamatte ṭhāne vasantīhi. Tā bhikkhuniyoti gāvutamatte ṭhāne vasantiyo. Antarāti tumhākaṃ, amhākañca nivāsanaṭṭhānassa, nivāsanaṭṭhānato vā antare vemajjhe. Bhummatthe cetaṃ nissakkavacanaṃ. Ṭhite maggeti sambandho ‘‘santikā’’tipadaṃ ‘‘āgata’’itipade apādānaṃ. Tatthāti aññāsaṃ bhikkhunīnaṃ upassaye. Iti yācitabbāti yojanā. Tatoti bhikkhūnaṃ yācitabbato, paranti sambandho.
จาตุทฺทเสติ อาสฬฺหีมาสสฺส ชุณฺหปกฺขสฺส จตุทฺทสนฺนํ ทิวสานํ ปูรเณ ทิวเสฯ อิธาติ อิมสฺมิํ วิหาเรฯ ‘‘โอวาท’’นฺติปทํ ‘‘อนุ’’อิติปเท กมฺมํฯ อนุชีวนฺติโยติ อนุคนฺตฺวา ชีวนํ วุตฺติํ กโรนฺติโยฯ วุตฺตา ภิกฺขูติ สมฺพโนฺธฯ ทุติยทิวเสติ อาสฬฺหีปุณฺณมิยํฯ อถาติ ปกฺกมนานนฺตรํฯ เอตฺถาติ ภิกฺขูนํ ปกฺกนฺตตฺตา อปสฺสเนฯ ‘‘อาโภคํ กตฺวา’’ติอิมินา อาโภคํ อกตฺวา วสิตุํ น วฎฺฎตีติ ทีเปติฯ สภิกฺขุกาวาสํ คนฺตพฺพเมวาติ อธิปฺปาโยฯ สาติ วสฺสเจฺฉทาปตฺติฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ เกนจิ การเณนาติ ภิกฺขาจารสฺส อสมฺปทาทินา เกนจิ นิมิเตฺตนฯ หีติ สจฺจํฯ ภิกฺขูนํ ปกฺกนฺตาทิการณา อภิกฺขุกาวาเส วสนฺติยา กิํ อภิกฺขุกาวาเสว ปวาเรตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปวาเรนฺติยา ปนา’’ติอาทิฯ
Cātuddaseti āsaḷhīmāsassa juṇhapakkhassa catuddasannaṃ divasānaṃ pūraṇe divase. Idhāti imasmiṃ vihāre. ‘‘Ovāda’’ntipadaṃ ‘‘anu’’itipade kammaṃ. Anujīvantiyoti anugantvā jīvanaṃ vuttiṃ karontiyo. Vuttā bhikkhūti sambandho. Dutiyadivaseti āsaḷhīpuṇṇamiyaṃ. Athāti pakkamanānantaraṃ. Etthāti bhikkhūnaṃ pakkantattā apassane. ‘‘Ābhogaṃ katvā’’tiiminā ābhogaṃ akatvā vasituṃ na vaṭṭatīti dīpeti. Sabhikkhukāvāsaṃ gantabbamevāti adhippāyo. Sāti vassacchedāpatti. Hīti saccaṃ, yasmā vā. Kenaci kāraṇenāti bhikkhācārassa asampadādinā kenaci nimittena. Hīti saccaṃ. Bhikkhūnaṃ pakkantādikāraṇā abhikkhukāvāse vasantiyā kiṃ abhikkhukāvāseva pavāretabbanti āha ‘‘pavārentiyā panā’’tiādi.
อนฺวทฺธมาสนฺติ เอตฺถ อนุสโทฺท วิจฺฉตฺถวาจโก กมฺมปฺปวจนีโย, เตน ปโยคตฺตา ภุมฺมเตฺถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘อทฺธมาเส อทฺธมาเส’’ติฯ ปจฺจาสีสิตพฺพาติ เอตฺถ ปติปุโพฺพ จ อาปุโพฺพ จ สิธาตุ อิจฺฉเตฺถติ อาห ‘‘อิจฺฉิตพฺพา’’ติฯ สิธาตุยา เทฺวภาโว โหติฯ อาปุโพฺพ สิสิ อิจฺฉายนฺติปิ ธาตุปาเฐสุ วุตฺตํฯ ตตฺถาติ ‘‘อุโปสถปุจฺฉก’’นฺติวจเนฯ ปกฺขสฺสาติ ยสฺส กสฺสจิ ปกฺขสฺสฯ มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตนฺติ สมฺพโนฺธฯ โอวาทสฺส ยาจนํ โอวาโท อุตฺตรปทโลเปน, โสเยว อโตฺถ ปโยชนํ โอวาทโตฺถ, ตทตฺถายฯ ปาฎิปททิวสโตติ ทุติยทิวสโตฯ โส หิ จโนฺท วุทฺธิญฺจ หานิญฺจ ปฎิมุขํ ปชฺชติ เอตฺถ, เอเตนาติ วา ปาฎิปโทติ วุจฺจติฯ อิตีติ เอวํ วุตฺตนเยนฯ ภควา ปญฺญเปตีติ โยชนาฯ อญฺญสฺสาติ ธมฺมสฺสวนกมฺมโต อญฺญสฺสฯ นิรนฺตรนฺติ อภิกฺขณํ, ‘‘ปญฺญเปตี’’ติปเท ภาวนปุํสกํฯ หีติ วิตฺถาโรฯ เอวญฺจ สตีติ เอวํ พหูปกาเร สติ จฯ ยนฺติ ยํ ธมฺมํฯ สาตฺถิกนฺติ สปโยชนํฯ ยถานุสิฎฺฐนฺติ อนุสิฎฺฐิยา อนุรูปํฯ สพฺพาเยว ภิกฺขุนิโยปีติ โยชนาฯ หีติ สจฺจํฯ
Anvaddhamāsanti ettha anusaddo vicchatthavācako kammappavacanīyo, tena payogattā bhummatthe upayogavacananti āha ‘‘addhamāse addhamāse’’ti. Paccāsīsitabbāti ettha patipubbo ca āpubbo ca sidhātu icchattheti āha ‘‘icchitabbā’’ti. Sidhātuyā dvebhāvo hoti. Āpubbo sisi icchāyantipi dhātupāṭhesu vuttaṃ. Tatthāti ‘‘uposathapucchaka’’ntivacane. Pakkhassāti yassa kassaci pakkhassa. Mahāpaccariyaṃ pana vuttanti sambandho. Ovādassa yācanaṃ ovādo uttarapadalopena, soyeva attho payojanaṃ ovādattho, tadatthāya. Pāṭipadadivasatoti dutiyadivasato. So hi cando vuddhiñca hāniñca paṭimukhaṃ pajjati ettha, etenāti vā pāṭipadoti vuccati. Itīti evaṃ vuttanayena. Bhagavā paññapetīti yojanā. Aññassāti dhammassavanakammato aññassa. Nirantaranti abhikkhaṇaṃ, ‘‘paññapetī’’tipade bhāvanapuṃsakaṃ. Hīti vitthāro. Evañca satīti evaṃ bahūpakāre sati ca. Yanti yaṃ dhammaṃ. Sātthikanti sapayojanaṃ. Yathānusiṭṭhanti anusiṭṭhiyā anurūpaṃ. Sabbāyeva bhikkhuniyopīti yojanā. Hīti saccaṃ.
โอวาทํ คจฺฉตีติ โอวาทํ ยาจิตุํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อารามํ คจฺฉติฯ น โอวาโท คนฺตโพฺพติ โอวาทํ ยาจิตุํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาราโม น คนฺตโพฺพฯ โอวาโทติ จ อุปโยคเตฺถ ปจฺจตฺตวจนนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ อิตรถา หิ สทฺทปโยโค วิรุเชฺฌยฺยฯ โอวาทํ คนฺตุนฺติ โอวาทํ ยาจนตฺถาย ภิกฺขุสงฺฆสฺส อารามํ คนฺตุํฯ
Ovādaṃ gacchatīti ovādaṃ yācituṃ bhikkhusaṅghassa ārāmaṃ gacchati. Na ovādo gantabboti ovādaṃ yācituṃ bhikkhusaṅghassa ārāmo na gantabbo. Ovādoti ca upayogatthe paccattavacananti daṭṭhabbaṃ. Itarathā hi saddapayogo virujjheyya. Ovādaṃ gantunti ovādaṃ yācanatthāya bhikkhusaṅghassa ārāmaṃ gantuṃ.
‘‘เทฺว ติโสฺส ภิกฺขุนิโย’’ติปทํ ‘‘ยาจิตฺวา’’ติปเท ทุติยากมฺมํฯ ‘‘เปเสตพฺพา’’ติปเท ปฐมากมฺมํฯ โอวาทูปสงฺกมนนฺติ โอวาทสฺส คหณตฺถาย อุปสงฺกมนํฯ อารามนฺติ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อารามํฯ ตโตติ คมนโต ปรนฺติ สมฺพโนฺธฯ เตน ภิกฺขุนาติ โอวาทปฎิคฺคาหเกน ภิกฺขุนาฯ ตนฺติ สมฺมตํ ภิกฺขุํฯ
‘‘Dve tisso bhikkhuniyo’’tipadaṃ ‘‘yācitvā’’tipade dutiyākammaṃ. ‘‘Pesetabbā’’tipade paṭhamākammaṃ. Ovādūpasaṅkamananti ovādassa gahaṇatthāya upasaṅkamanaṃ. Ārāmanti bhikkhusaṅghassa ārāmaṃ. Tatoti gamanato paranti sambandho. Tena bhikkhunāti ovādapaṭiggāhakena bhikkhunā. Tanti sammataṃ bhikkhuṃ.
อุสฺสหตีติ สโกฺกติฯ ปาสาทิเกนาติ ปสาทํ อาวเหน ปสาทชนเกน กายวจีมโนกเมฺมนาติ อโตฺถฯ สมฺปาเทตูติ ติวิธํ สิกฺขํ สมฺปาเทตุฯ เอตฺตาวตาติ เอตฺตเกน ‘‘ปาสาทิเกน สมฺปาเทตู’’ติ วจนมเตฺตนฯ หีติ ผลโชตโกฯ เอตนฺติ ‘‘ตาหี’’ติวจนํฯ
Ussahatīti sakkoti. Pāsādikenāti pasādaṃ āvahena pasādajanakena kāyavacīmanokammenāti attho. Sampādetūti tividhaṃ sikkhaṃ sampādetu. Ettāvatāti ettakena ‘‘pāsādikena sampādetū’’ti vacanamattena. Hīti phalajotako. Etanti ‘‘tāhī’’tivacanaṃ.
เอตฺถ จ ภิกฺขูนํ สงฺฆคณปุคฺคลวเสน วจนวาโร ติวิโธ โหติ, ตํ ติวิธํ วจนวารํ ภิกฺขุนีนํ สงฺฆคณปุคฺคลวเสน ตีหิ วจนวาเรหิ คุณิตํ กตฺวา นว วจนวารา โหนฺติ, ตํ อาการํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ตตฺรายํ วจนกฺกโม’’ติฯ ตตฺราติ ปุริมวจนาเปกฺขํฯ วจนากาโร ปากโฎวฯ
Ettha ca bhikkhūnaṃ saṅghagaṇapuggalavasena vacanavāro tividho hoti, taṃ tividhaṃ vacanavāraṃ bhikkhunīnaṃ saṅghagaṇapuggalavasena tīhi vacanavārehi guṇitaṃ katvā nava vacanavārā honti, taṃ ākāraṃ dassento āha ‘‘tatrāyaṃ vacanakkamo’’ti. Tatrāti purimavacanāpekkhaṃ. Vacanākāro pākaṭova.
เอกา ภิกฺขุนี วา พหูหิ ภิกฺขุนีอุปสฺสเยหิ โอวาทตฺถาย เปสิเต วจนาการํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ภิกฺขุนิสโงฺฆ จ อยฺยา’’ติอาทิฯ
Ekā bhikkhunī vā bahūhi bhikkhunīupassayehi ovādatthāya pesite vacanākāraṃ dassento āha ‘‘bhikkhunisaṅgho ca ayyā’’tiādi.
เตนาปีติ โอวาทปฎิคฺคาหเกนาปิ ‘‘โอวาท’’นฺติปทํ ‘‘ปฎิคฺคาหเกนา’’ติ ปเท กมฺมํฯ ปุน ‘‘โอวาท’’นฺติปทํ ‘‘อปฎิคฺคเหตุ’’นฺติปเท กมฺมํฯ พลติ อสฺสาสปสฺสาสมเตฺตน ชีวติ, น ปญฺญาชีวิเตนาติ พาโลฯ คิลายติ รุชตีติ คิลาโนฯ คมิสฺสติ คนฺตุํ ภโพฺพติ คมิโกฯ อยํ ปเนตฺถ โยชนา – คนฺตุํ ภโพฺพ โย ภิกฺขุ คมิสฺสติ คมนํ กริสฺสติ, อิติ ตสฺมา โส ภิกฺขุ คมิโก นามฯ อถ วา โย ภิกฺขุ คนฺตุํ ภพฺพตฺตา คมิสฺสติ คมนํ กริสฺสติ, อิติ ตสฺมา โส ภิกฺขุ คมิโก นามาติฯ ‘‘ภโพฺพ’’ติ จ เหตุอโนฺตคธวิเสสนํฯ
Tenāpīti ovādapaṭiggāhakenāpi ‘‘ovāda’’ntipadaṃ ‘‘paṭiggāhakenā’’ti pade kammaṃ. Puna ‘‘ovāda’’ntipadaṃ ‘‘apaṭiggahetu’’ntipade kammaṃ. Balati assāsapassāsamattena jīvati, na paññājīvitenāti bālo. Gilāyati rujatīti gilāno. Gamissati gantuṃ bhabboti gamiko. Ayaṃ panettha yojanā – gantuṃ bhabbo yo bhikkhu gamissati gamanaṃ karissati, iti tasmā so bhikkhu gamiko nāma. Atha vā yo bhikkhu gantuṃ bhabbattā gamissati gamanaṃ karissati, iti tasmā so bhikkhu gamiko nāmāti. ‘‘Bhabbo’’ti ca hetuantogadhavisesanaṃ.
ตตฺถาติ พาลาทีสุ ตีสุ ปุคฺคเลสุฯ ทุติยปกฺขทิวเสติ ปาฎิปทโต ทุติยปกฺขทิวเสฯ อุโปสถเคฺคติ อุโปสถเคเหฯ ตญฺหิ อุโปสถํ คณฺหนฺติ, อุโปสโถ วา คยฺหติ อสฺมินฺติ ‘‘อุโปสถคฺค’’นฺติ วุจฺจติฯ ตสฺมิํ อุโปสถเคฺคฯ ‘‘อนาโรเจตุ’’นฺติ วจนสฺส ญาปกํ ทเสฺสตฺวา ‘‘อปจฺจาหริตุ’’นฺติ วจนสฺส ตเมว ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อปรมฺปิ วุตฺต’’นฺติอาทิฯ
Tatthāti bālādīsu tīsu puggalesu. Dutiyapakkhadivaseti pāṭipadato dutiyapakkhadivase. Uposathaggeti uposathagehe. Tañhi uposathaṃ gaṇhanti, uposatho vā gayhati asminti ‘‘uposathagga’’nti vuccati. Tasmiṃ uposathagge. ‘‘Anārocetu’’nti vacanassa ñāpakaṃ dassetvā ‘‘apaccāharitu’’nti vacanassa tameva dassento āha ‘‘aparampi vutta’’ntiādi.
ตตฺถาติ โอวาทปฎิคฺคาหเกสุ ภิกฺขูสุฯ โน จสฺสาติ โน เจ อสฺสฯ สภํ วาติ สมชฺชํ วาฯ สา หิ สห ภาสนฺติ เอตฺถ, สเนฺตหิ วา ภาติ ทิพฺพตีติ ‘‘สภา’’ติ วุจฺจติ, ตํ สภํ วา อุปสงฺกมิสฺสามีติ โยชนาฯ ตตฺราติ ตสฺมิํ สภาทิเกฯ เอวํ ‘‘ตตฺถา’’ติปเทปิฯ
Tatthāti ovādapaṭiggāhakesu bhikkhūsu. No cassāti no ce assa. Sabhaṃ vāti samajjaṃ vā. Sā hi saha bhāsanti ettha, santehi vā bhāti dibbatīti ‘‘sabhā’’ti vuccati, taṃ sabhaṃ vā upasaṅkamissāmīti yojanā. Tatrāti tasmiṃ sabhādike. Evaṃ ‘‘tatthā’’tipadepi.
จตุทฺทสนฺนํ ปูรโณ จาตุทฺทโส, ตสฺมิํ ปวาเรตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ ภิกฺขุสเงฺฆติ ภิกฺขุสงฺฆสฺส สนฺติเก, สมีปเตฺถ เจตํ ภุมฺมวจนํฯ อชฺชตนาติ เอตฺถ อสฺมิํ อหนิ อชฺช, อิมสทฺทโต อหนีติ อเตฺถ ชฺชปจฺจโย, อิมสทฺทสฺส จ อกาโร, อชฺช เอว อชฺชตนา, สฺวโตฺถ หิ ตนปจฺจโยฯ อปรสฺมิํ อหนิ อปรชฺช, อปรสทฺทโต อหนีติ อเตฺถ ชฺชปจฺจโย สตฺตมฺยโนฺตเยวฯ เอตฺถาติ ปวารเณ, ‘‘อนุชานามี’’ติอาทิวจเน วาฯ หีติ สจฺจํฯ
Catuddasannaṃ pūraṇo cātuddaso, tasmiṃ pavāretvāti sambandho. Bhikkhusaṅgheti bhikkhusaṅghassa santike, samīpatthe cetaṃ bhummavacanaṃ. Ajjatanāti ettha asmiṃ ahani ajja, imasaddato ahanīti atthe jjapaccayo, imasaddassa ca akāro, ajja eva ajjatanā, svattho hi tanapaccayo. Aparasmiṃ ahani aparajja, aparasaddato ahanīti atthe jjapaccayo sattamyantoyeva. Etthāti pavāraṇe, ‘‘anujānāmī’’tiādivacane vā. Hīti saccaṃ.
โกลาหลนฺติ โกตูหลํฯ ปฐมํ ภิกฺขุนี ยาจิตพฺพาติ สเงฺฆน ปฐมํ ภิกฺขุนี ยาจิตพฺพาฯ
Kolāhalanti kotūhalaṃ. Paṭhamaṃ bhikkhunī yācitabbāti saṅghena paṭhamaṃ bhikkhunī yācitabbā.
ตาย ภิกฺขุนิยา วจนีโย อสฺสาติ โยชนาฯ ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสตีติ วชฺชาวชฺชํ ปสฺสโนฺต หุตฺวา ปฎิกริสฺสติฯ
Tāya bhikkhuniyā vacanīyo assāti yojanā. Passanto paṭikarissatīti vajjāvajjaṃ passanto hutvā paṭikarissati.
อุภินฺนนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํฯ ยถาฐาเนเยวาติ ยํ ยํ ฐานํ ยถาฐานํ, ตสฺมิํ ยถาฐาเนเยวฯ เกนจิ ปริยาเยนาติ เกนจิ การเณนฯ อวปุโพฺพ วรสโทฺท ปิหิตโตฺถติ อาห ‘‘ปิหิโต’’ติฯ วจนํเยวาติ โอวาทวจนํเยวฯ ปโถติ เชฎฺฐกฎฺฐาเน ฐานสฺส การณตฺตา ปโถฯ โทสํ ปนาติ อภิกฺกมนาทีสุ อาทีนวํ ปนฯ อเญฺชนฺตีติ มเกฺขนฺติฯ ภิกฺขูหิ ปน โอวทิตุํ อนุสาสิตุํ วฎฺฎตีติ โยชนาฯ
Ubhinnanti bhikkhubhikkhunīnaṃ. Yathāṭhāneyevāti yaṃ yaṃ ṭhānaṃ yathāṭhānaṃ, tasmiṃ yathāṭhāneyeva. Kenaci pariyāyenāti kenaci kāraṇena. Avapubbo varasaddo pihitatthoti āha ‘‘pihito’’ti. Vacanaṃyevāti ovādavacanaṃyeva. Pathoti jeṭṭhakaṭṭhāne ṭhānassa kāraṇattā patho. Dosaṃ panāti abhikkamanādīsu ādīnavaṃ pana. Añjentīti makkhenti. Bhikkhūhi pana ovadituṃ anusāsituṃ vaṭṭatīti yojanā.
อญฺญนฺติ โอวาทโต อญฺญํฯ เอโสติ ครุธโมฺมฯ
Aññanti ovādato aññaṃ. Esoti garudhammo.
๑๕๐. ‘‘อธมฺมกเมฺม’’ติ เอตฺถ กตมํ กมฺมํ นามาติ อาห ‘‘อธมฺมกเมฺมติอาทีสู’’ติอาทิฯ ตตฺถาติ อธมฺมกมฺมธมฺมกเมฺมสุฯ
150. ‘‘Adhammakamme’’ti ettha katamaṃ kammaṃ nāmāti āha ‘‘adhammakammetiādīsū’’tiādi. Tatthāti adhammakammadhammakammesu.
๑๕๒. อุเทฺทสํ เทโนฺต ภณติ, อนาปตฺตีติ โยชนาฯ โอสาเรตีติ กเถติฯ จตุปริสตีติ จตุปริสสฺมิํฯ ตตฺราปีติ เตน ภิกฺขุนีนํ สุณนการเณนาติฯ ปฐมํฯ
152. Uddesaṃ dento bhaṇati, anāpattīti yojanā. Osāretīti katheti. Catuparisatīti catuparisasmiṃ. Tatrāpīti tena bhikkhunīnaṃ suṇanakāraṇenāti. Paṭhamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๓. โอวาทวโคฺค • 3. Ovādavaggo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Ovādasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๑. โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Ovādasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๑. โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Ovādasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๑. โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Ovādasikkhāpadavaṇṇanā