Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā

    ๓. โอวาทวโคฺค

    3. Ovādavaggo

    ๑. โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา

    1. Ovādasikkhāpadavaṇṇanā

    ๑๔๔. ตติยวคฺคสฺส ปฐเม ติรจฺฉานภูตนฺติ ติโรกรณภูตํ, พาหิรภูตนฺติ อโตฺถฯ สมิโทฺธติ ปริปุโณฺณฯ สหิตโตฺถ อตฺถยุโตฺตฯ อตฺถคมฺภีรตาทินา คมฺภีโร

    144. Tatiyavaggassa paṭhame tiracchānabhūtanti tirokaraṇabhūtaṃ, bāhirabhūtanti attho. Samiddhoti paripuṇṇo. Sahitattho atthayutto. Atthagambhīratādinā gambhīro.

    ๑๔๕-๑๔๗. ปรโตติ อุตฺตริฯ กโรโนฺตวาติ ปริพาหิเร กโรโนฺตฯ วิภเงฺคติ ฌานวิภเงฺคฯ จรณนฺติ นิพฺพานคมนาย ปาทํฯ

    145-147.Paratoti uttari. Karontovāti paribāhire karonto. Vibhaṅgeti jhānavibhaṅge. Caraṇanti nibbānagamanāya pādaṃ.

    ยทสฺสาติ ยํ อสฺสฯ ธาเรตีติ อวินสฺสมานํ ธาเรติฯ ปริกถนตฺถนฺติ ปกิณฺณกกถาวเสน ปริจฺฉินฺนธมฺมกถนตฺถํฯ ติโสฺส อนุโมทนาติ สงฺฆภตฺตาทีสุ ทานานิสํสปฺปฎิสํยุตฺตา นิธิกุณฺฑสุตฺตาทิ (ขุ. ปา. ๘.๑ อาทโย) -อนุโมทนา, เคหปฺปเวสมงฺคลาทีสุ มงฺคลสุตฺตาทิ (ขุ. ปา. ๕.๑ อาทโย; สุ. นิ. มงฺคลสุตฺต) -อนุโมทนา, มตกภตฺตาทิอมงฺคเลสุ ติโรกุฎฺฎาทิ (ขุ. ปา. ๗.๑ อาทโย; เป. ว. ๑๔ อาทโย) -อนุโมทนาติ อิมา ติโสฺส อนุโมทนาฯ กมฺมากมฺมวินิจฺฉโยติ ปริวาราวสาเน กมฺมวเคฺค (ปริ. ๔๘๒ อาทโย) วุตฺตวินิจฺฉโยฯ สมาธิวเสนาติ สมถปุพฺพกวเสนฯ วิปสฺสนาวเสน วาติ ทิฎฺฐิวิสุทฺธิอาทิกาย สุกฺขวิปสฺสนาย วเสนฯ อตฺตโน สีลรกฺขณตฺถํ อปรานเปกฺขตาย เยน กามํ คนฺตุํ จตโสฺส ทิสา อรหติ, อสฺส วา สนฺติ, ตาสุ วา สาธูติ จาตุทฺทิโส

    Yadassāti yaṃ assa. Dhāretīti avinassamānaṃ dhāreti. Parikathanatthanti pakiṇṇakakathāvasena paricchinnadhammakathanatthaṃ. Tisso anumodanāti saṅghabhattādīsu dānānisaṃsappaṭisaṃyuttā nidhikuṇḍasuttādi (khu. pā. 8.1 ādayo) -anumodanā, gehappavesamaṅgalādīsu maṅgalasuttādi (khu. pā. 5.1 ādayo; su. ni. maṅgalasutta) -anumodanā, matakabhattādiamaṅgalesu tirokuṭṭādi (khu. pā. 7.1 ādayo; pe. va. 14 ādayo) -anumodanāti imā tisso anumodanā. Kammākammavinicchayoti parivārāvasāne kammavagge (pari. 482 ādayo) vuttavinicchayo. Samādhivasenāti samathapubbakavasena. Vipassanāvasena vāti diṭṭhivisuddhiādikāya sukkhavipassanāya vasena. Attano sīlarakkhaṇatthaṃ aparānapekkhatāya yena kāmaṃ gantuṃ catasso disā arahati, assa vā santi, tāsu vā sādhūti cātuddiso.

    อภิวินเยติ ปาติโมกฺขสํวรสงฺขาเต สํวรวินเย, ตปฺปกาสเก วา วินยปิฎเกฯ วิเนตุนฺติ สิกฺขาเปตุํ ปกาเสตุํฯ ปคุณา วาจุคฺคตาติ ปาฐโต จ อตฺถโต จ ปคุณา มุเข สนฺนิธาปนวเสน วาจุคฺคตา กาตพฺพาฯ อตฺถมตฺตวเสนเปตฺถ โยชนํ กโรนฺติฯ อภิธเมฺมติ ลกฺขณรสาทิวเสน ปริจฺฉิเนฺน นามรูปธเมฺมฯ ปุเพฺพ กิร มหาเถรา ปริยตฺติอนนฺตรธานาย เอเกกสฺส คณสฺส ทีฆนิกายาทิเอเกกธมฺมโกฎฺฐาสํ นิยฺยาเตนฺตา ‘‘ตุเมฺห เอตํ ปาฬิโต จ อฎฺฐกถาโต จ ปริหรถ, สโกฺกนฺตา อุตฺตริปิ อุคฺคณฺหถา’’ติ เอวํ สกลธมฺมํ คนฺถวเสน นิยฺยาเตนฺติ, ตตฺถ เต จ ภิกฺขู คนฺถนาเมน ทีฆภาณกา มชฺฌิมภาณกาติ โวหรียนฺติ, เต จ อตฺตโน ภารภูตํ โกฎฺฐาสํ ปริจฺจชิตฺวา อญฺญํ อุคฺคเหตุํ น ลภนฺติฯ ตํ สนฺธายาห ‘‘สเจ มชฺฌิมภาณโก โหตี’’ติอาทิฯ

    Abhivinayeti pātimokkhasaṃvarasaṅkhāte saṃvaravinaye, tappakāsake vā vinayapiṭake. Vinetunti sikkhāpetuṃ pakāsetuṃ. Paguṇā vācuggatāti pāṭhato ca atthato ca paguṇā mukhe sannidhāpanavasena vācuggatā kātabbā. Atthamattavasenapettha yojanaṃ karonti. Abhidhammeti lakkhaṇarasādivasena paricchinne nāmarūpadhamme. Pubbe kira mahātherā pariyattianantaradhānāya ekekassa gaṇassa dīghanikāyādiekekadhammakoṭṭhāsaṃ niyyātentā ‘‘tumhe etaṃ pāḷito ca aṭṭhakathāto ca pariharatha, sakkontā uttaripi uggaṇhathā’’ti evaṃ sakaladhammaṃ ganthavasena niyyātenti, tattha te ca bhikkhū ganthanāmena dīghabhāṇakā majjhimabhāṇakāti voharīyanti, te ca attano bhārabhūtaṃ koṭṭhāsaṃ pariccajitvā aññaṃ uggahetuṃ na labhanti. Taṃ sandhāyāha ‘‘sace majjhimabhāṇako hotī’’tiādi.

    ตตฺถ เหฎฺฐิมา วา ตโย วคฺคาติ มหาวคฺคโต เหฎฺฐิมา สคาถกวโคฺค (สํ. นิ. ๑.๑ อาทโย), นิทานวโคฺค (สํ. นิ. ๒.๑ อาทโย), ขนฺธวโคฺคติ (สํ. นิ. ๓.๑ อาทิโย) อิเม ตโย วคฺคาฯ ติกนิปาตโต ปฎฺฐาย เหฎฺฐาติ เอกกนิปาตทุกนิปาเต สนฺธาย วุตฺตํฯ ธมฺมปทมฺปิ สห วตฺถุนา ชาตกภาณเกน อตฺตโน ชาตเกน สทฺธิํ อุคฺคเหตพฺพํฯ ตโต โอรํ น วฎฺฎตีติ มหาปจฺจริวาทสฺส อธิปฺปาโยฯ ตโต ตโตติ ทีฆนิกายาทิโตฯ อุจฺจินิตฺวา อุคฺคหิตํ สทฺธมฺมสฺส ฐิติยา, ภิกฺขุโนปิ ปุพฺพาปรานุสนฺธิอาทิกุสลตาย จ น โหตีติ ‘‘ตํ น วฎฺฎตี’’ติ ปฎิกฺขิตฺตํฯ อภิธเมฺม กิญฺจิ อุคฺคเหตพฺพนฺติ น วุตฺตนฺติ เอตฺถ ยสฺมา วินเย กุสลตฺติกาทิวิภาโค, สุตฺตเนฺตสุ สมถวิปสฺสนามโคฺค จ อภิธมฺมปาฐํ วินา น วิญฺญายติ, อนฺธกาเร ปวิฎฺฐกาโล วิย โหติ, ตสฺมา สุตฺตวินยานํ คหณวเสน อภิธมฺมคฺคหณํ วุตฺตเมวาติ วิสุํ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ยถา ‘‘โภชนํ ภุญฺชิตพฺพ’’นฺติ วุเตฺต ‘‘พฺยญฺชนํ ขาทิตพฺพ’’นฺติ อวุตฺตมฺปิ วุตฺตเมว โหติ ตทวินาภาวโต, เอวํสมฺปทมิทํ ทฎฺฐพฺพํฯ

    Tattha heṭṭhimā vā tayo vaggāti mahāvaggato heṭṭhimā sagāthakavaggo (saṃ. ni. 1.1 ādayo), nidānavaggo (saṃ. ni. 2.1 ādayo), khandhavaggoti (saṃ. ni. 3.1 ādiyo) ime tayo vaggā. Tikanipātato paṭṭhāya heṭṭhāti ekakanipātadukanipāte sandhāya vuttaṃ. Dhammapadampi saha vatthunā jātakabhāṇakena attano jātakena saddhiṃ uggahetabbaṃ. Tato oraṃ na vaṭṭatīti mahāpaccarivādassa adhippāyo. Tato tatoti dīghanikāyādito. Uccinitvā uggahitaṃ saddhammassa ṭhitiyā, bhikkhunopi pubbāparānusandhiādikusalatāya ca na hotīti ‘‘taṃ na vaṭṭatī’’ti paṭikkhittaṃ. Abhidhamme kiñci uggahetabbanti na vuttanti ettha yasmā vinaye kusalattikādivibhāgo, suttantesu samathavipassanāmaggo ca abhidhammapāṭhaṃ vinā na viññāyati, andhakāre paviṭṭhakālo viya hoti, tasmā suttavinayānaṃ gahaṇavasena abhidhammaggahaṇaṃ vuttamevāti visuṃ na vuttanti veditabbaṃ. Yathā ‘‘bhojanaṃ bhuñjitabba’’nti vutte ‘‘byañjanaṃ khāditabba’’nti avuttampi vuttameva hoti tadavinābhāvato, evaṃsampadamidaṃ daṭṭhabbaṃ.

    ปริมณฺฑลปทพฺยญฺชนายาติ ปริมณฺฑลานิ ปริปุณฺณานิ ปเทสุ สิถิลธนิตาทิพฺยญฺชนานิ ยสฺสํ, ตายฯ ปุรสฺส เอสาติ โปรี, นครวาสีนํ กถาติ อโตฺถฯ อเนลคฬายาติ เอตฺถ เอลาติ เขฬํ ตคฺคฬนวิรหิตายฯ กลฺยาณวากฺกรโณติ เอตฺถ วาจา เอว วากฺกรณํ, อุทาหรณโฆโสฯ กลฺยาณํ มธุรํ วากฺกรณมสฺสาติ กลฺยาณวากฺกรโณฯ อุปสมฺปนฺนาย เมถุเนเนว อภโพฺพ โหติ, น สิกฺขมานาสามเณรีสูติ อาห ‘‘ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺคํ วา’’ติอาทิฯ

    Parimaṇḍalapadabyañjanāyāti parimaṇḍalāni paripuṇṇāni padesu sithiladhanitādibyañjanāni yassaṃ, tāya. Purassa esāti porī, nagaravāsīnaṃ kathāti attho. Anelagaḷāyāti ettha elāti kheḷaṃ taggaḷanavirahitāya. Kalyāṇavākkaraṇoti ettha vācā eva vākkaraṇaṃ, udāharaṇaghoso. Kalyāṇaṃ madhuraṃ vākkaraṇamassāti kalyāṇavākkaraṇo. Upasampannāya methuneneva abhabbo hoti, na sikkhamānāsāmaṇerīsūti āha ‘‘bhikkhuniyā kāyasaṃsaggaṃ vā’’tiādi.

    ๑๔๘. ครุเกหีติ ครุกภเณฺฑหิฯ เอกโตอุปสมฺปนฺนายาติ อุปโยคเตฺถ ภุมฺมวจนํฯ ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนา นาม ปริวตฺตลิงฺคา วา ปญฺจสตสากิยานิโย วาฯ เอตา ปน เอกโตอุปสมฺปนฺนา โอวทนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมวฯ

    148.Garukehīti garukabhaṇḍehi. Ekatoupasampannāyāti upayogatthe bhummavacanaṃ. Bhikkhūnaṃ santike upasampannā nāma parivattaliṅgā vā pañcasatasākiyāniyo vā. Etā pana ekatoupasampannā ovadantassa pācittiyameva.

    ๑๔๙. น นิมนฺติตา หุตฺวา คนฺตุกามาติ นิมนฺติตา หุตฺวา โภชนปริโยสาเน คนฺตุกามา น โหนฺติ, ตเตฺถว วสิตุกามา โหนฺตีติ อโตฺถฯ ยโตติ ภิกฺขุนุปสฺสยโตฯ ยาจิตฺวาติ ‘‘ตุเมฺหหิ อานีตโอวาเทเนว มยมฺปิ วสิสฺสามา’’ติ ยาจิตฺวาฯ ตตฺถาติ ตสฺมิํ ภิกฺขุนุปสฺสเยฯ อภิกฺขุกาวาเส วสฺสํ วสนฺติยา ปาจิตฺติยํ, อปคจฺฉนฺติยา ทุกฺกฎํฯ

    149.Na nimantitā hutvā gantukāmāti nimantitā hutvā bhojanapariyosāne gantukāmā na honti, tattheva vasitukāmā hontīti attho. Yatoti bhikkhunupassayato. Yācitvāti ‘‘tumhehi ānītaovādeneva mayampi vasissāmā’’ti yācitvā. Tatthāti tasmiṃ bhikkhunupassaye. Abhikkhukāvāse vassaṃ vasantiyā pācittiyaṃ, apagacchantiyā dukkaṭaṃ.

    อิมาสุ กตราปตฺติ ปริหริตพฺพาติ โจทนํ ปริหรโนฺต อาห ‘‘สา รกฺขิตพฺพา’’ติฯ สา วสฺสานุคมนมูลิกา อาปตฺติ รกฺขิตพฺพา, อิตราย อนาปตฺติการณํ อตฺถีติ อธิปฺปาโยฯ เตนาห ‘‘อาปทาสุ หี’’ติอาทิฯ

    Imāsu katarāpatti pariharitabbāti codanaṃ pariharanto āha ‘‘sā rakkhitabbā’’ti. Sā vassānugamanamūlikā āpatti rakkhitabbā, itarāya anāpattikāraṇaṃ atthīti adhippāyo. Tenāha ‘‘āpadāsu hī’’tiādi.

    โอวาทตฺถายาติ โอวาเท ยาจนตฺถายฯ เทฺว ติโสฺสติ ทฺวีหิ ตีหิ, กรณเตฺถ เจตํ ปจฺจตฺตวจนํฯ ปาสาทิเกนาติ ปสาทชนเกน กายกมฺมาทินาฯ สมฺปาเทตูติ ติวิธํ สิกฺขํ สมฺปาเทตุฯ อสมฺมตตา, ภิกฺขุนิยา ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, โอวาทวเสน อฎฺฐครุธมฺมทานนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ

    Ovādatthāyāti ovāde yācanatthāya. Dve tissoti dvīhi tīhi, karaṇatthe cetaṃ paccattavacanaṃ. Pāsādikenāti pasādajanakena kāyakammādinā. Sampādetūti tividhaṃ sikkhaṃ sampādetu. Asammatatā, bhikkhuniyā paripuṇṇūpasampannatā, ovādavasena aṭṭhagarudhammadānanti imānettha tīṇi aṅgāni.

    โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Ovādasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๓. โอวาทวโคฺค • 3. Ovādavaggo

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Ovādasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๑. โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Ovādasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๑. โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Ovādasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑. โอวาทสิกฺขาปท-อตฺถโยชนา • 1. Ovādasikkhāpada-atthayojanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact