Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga

    ๓. โอวาทวโคฺค

    3. Ovādavaggo

    ๑. โอวาทสิกฺขาปทํ

    1. Ovādasikkhāpadaṃ

    ๑๔๔. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน เถรา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย โอวทนฺตา ลาภิโน โหนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํฯ อถ โข ฉพฺพคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘เอตรหิ โข, อาวุโส, เถรา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย โอวทนฺตา ลาภิโน โหนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํฯ หนฺทาวุโส, มยมฺปิ ภิกฺขุนิโย โอวทามา’’ติฯ อถ โข ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจุํ – ‘‘อเมฺหปิ, ภคินิโย, อุปสงฺกมถ; มยมฺปิ โอวทิสฺสามา’’ติฯ

    144. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena therā bhikkhū bhikkhuniyo ovadantā lābhino honti cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānappaccayabhesajjaparikkhārānaṃ. Atha kho chabbaggiyānaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘etarahi kho, āvuso, therā bhikkhū bhikkhuniyo ovadantā lābhino honti cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānappaccayabhesajjaparikkhārānaṃ. Handāvuso, mayampi bhikkhuniyo ovadāmā’’ti. Atha kho chabbaggiyā bhikkhū bhikkhuniyo upasaṅkamitvā etadavocuṃ – ‘‘amhepi, bhaginiyo, upasaṅkamatha; mayampi ovadissāmā’’ti.

    อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย เยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ อถ โข ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขุนีนํ ปริตฺตเญฺญว ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ทิวสํ ติรจฺฉานกถาย วีตินาเมตฺวา อุโยฺยเชสุํ – ‘‘คจฺฉถ, ภคินิโย’’ติฯ อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐํสุฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข ตา ภิกฺขุนิโย ภควา เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ, ภิกฺขุนิโย, โอวาโท อิโทฺธ อโหสี’’ติ? ‘‘กุโต, ภเนฺต, โอวาโท อิโทฺธ ภวิสฺสติ! อยฺยา ฉพฺพคฺคิยา ปริตฺตเญฺญว ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ทิวสํ ติรจฺฉานกถาย วีตินาเมตฺวา อุโยฺยเชสุ’’นฺติฯ อถ โข ภควา ตา ภิกฺขุนิโย ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิ ฯ อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุเตฺตชิตา สมฺปหํสิตา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมิํสุฯ

    Atha kho tā bhikkhuniyo yena chabbaggiyā bhikkhū tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā chabbaggiye bhikkhū abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Atha kho chabbaggiyā bhikkhū bhikkhunīnaṃ parittaññeva dhammiṃ kathaṃ katvā divasaṃ tiracchānakathāya vītināmetvā uyyojesuṃ – ‘‘gacchatha, bhaginiyo’’ti. Atha kho tā bhikkhuniyo yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhaṃsu. Ekamantaṃ ṭhitā kho tā bhikkhuniyo bhagavā etadavoca – ‘‘kacci, bhikkhuniyo, ovādo iddho ahosī’’ti? ‘‘Kuto, bhante, ovādo iddho bhavissati! Ayyā chabbaggiyā parittaññeva dhammiṃ kathaṃ katvā divasaṃ tiracchānakathāya vītināmetvā uyyojesu’’nti. Atha kho bhagavā tā bhikkhuniyo dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi . Atha kho tā bhikkhuniyo bhagavatā dhammiyā kathāya sandassitā samādapitā samuttejitā sampahaṃsitā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkamiṃsu.

    อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนีนํ ปริตฺตเญฺญว ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ทิวสํ ติรจฺฉานกถาย วีตินาเมตฺวา อุโยฺยเชถา’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, ภิกฺขุนีนํ ปริตฺตเญฺญว ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ทิวสํ ติรจฺฉานกถาย วีตินาเมตฺวา อุโยฺยเชสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโนวาทกํ สมฺมนฺนิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตโพฺพฯ ปฐมํ ภิกฺขุ ยาจิตโพฺพฯ ยาจิตฺวา พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –

    Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā chabbaggiye bhikkhū paṭipucchi – ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, bhikkhunīnaṃ parittaññeva dhammiṃ kathaṃ katvā divasaṃ tiracchānakathāya vītināmetvā uyyojethā’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, bhikkhunīnaṃ parittaññeva dhammiṃ kathaṃ katvā divasaṃ tiracchānakathāya vītināmetvā uyyojessatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, bhikkhunovādakaṃ sammannituṃ. Evañca pana, bhikkhave, sammannitabbo. Paṭhamaṃ bhikkhu yācitabbo. Yācitvā byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –

    ๑๔๕. ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ ภิกฺขุโนวาทกํ สมฺมเนฺนยฺยฯ เอสา ญตฺติฯ

    145. ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho itthannāmaṃ bhikkhuṃ bhikkhunovādakaṃ sammanneyya. Esā ñatti.

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ ภิกฺขุโนวาทกํ สมฺมนฺนติฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุโนวาทกสฺส สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Saṅgho itthannāmaṃ bhikkhuṃ bhikkhunovādakaṃ sammannati. Yassāyasmato khamati itthannāmassa bhikkhuno bhikkhunovādakassa sammuti, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.

    ‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ…เป.… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ – สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ ภิกฺขุโนวาทกํ สมฺมนฺนติฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุโนวาทกสฺส สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ

    ‘‘Dutiyampi etamatthaṃ vadāmi…pe… tatiyampi etamatthaṃ vadāmi – suṇātu me, bhante, saṅgho. Saṅgho itthannāmaṃ bhikkhuṃ bhikkhunovādakaṃ sammannati. Yassāyasmato khamati itthannāmassa bhikkhuno bhikkhunovādakassa sammuti, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.

    ‘‘สมฺมโต สเงฺฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ ภิกฺขุโนวาทโกฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ

    ‘‘Sammato saṅghena itthannāmo bhikkhu bhikkhunovādako. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmī’’ti.

    อถ โข ภควา ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ทุพฺภรตาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Atha kho bhagavā chabbaggiye bhikkhū anekapariyāyena vigarahitvā dubbharatāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๑๔๖. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อสมฺมโต ภิกฺขุนิโย โอวเทยฺย ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    146.‘‘Yo pana bhikkhu asammato bhikkhuniyo ovadeyya pācittiya’’nti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๑๔๗. เตน โข ปน สมเยน เถรา ภิกฺขู สมฺมตา ภิกฺขุนิโย โอวทนฺตา ตเถว ลาภิโน โหนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํฯ อถ โข ฉพฺพคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘เอตรหิ โข, อาวุโส, เถรา ภิกฺขู สมฺมตา ภิกฺขุนิโย โอวทนฺตา ตเถว ลาภิโน โหนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํฯ หนฺทาวุโส, มยมฺปิ นิสฺสีมํ คนฺตฺวา อญฺญมญฺญํ ภิกฺขุโนวาทกํ สมฺมนฺนิตฺวา ภิกฺขุนิโย โอวทามา’’ติฯ อถ โข ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู นิสฺสีมํ คนฺตฺวา อญฺญมญฺญํ ภิกฺขุโนวาทกํ สมฺมนฺนิตฺวา ภิกฺขุนิโย อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจุํ – ‘‘มยมฺปิ, ภคินิโย, สมฺมตาฯ อเมฺหปิ อุปสงฺกมถฯ มยมฺปิ โอวทิสฺสามา’’ติฯ

    147. Tena kho pana samayena therā bhikkhū sammatā bhikkhuniyo ovadantā tatheva lābhino honti cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānappaccayabhesajjaparikkhārānaṃ. Atha kho chabbaggiyānaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘etarahi kho, āvuso, therā bhikkhū sammatā bhikkhuniyo ovadantā tatheva lābhino honti cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānappaccayabhesajjaparikkhārānaṃ. Handāvuso, mayampi nissīmaṃ gantvā aññamaññaṃ bhikkhunovādakaṃ sammannitvā bhikkhuniyo ovadāmā’’ti. Atha kho chabbaggiyā bhikkhū nissīmaṃ gantvā aññamaññaṃ bhikkhunovādakaṃ sammannitvā bhikkhuniyo upasaṅkamitvā etadavocuṃ – ‘‘mayampi, bhaginiyo, sammatā. Amhepi upasaṅkamatha. Mayampi ovadissāmā’’ti.

    อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย เยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ อถ โข ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขุนีนํ ปริตฺตเญฺญว ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ทิวสํ ติรจฺฉานกถาย วีตินาเมตฺวา อุโยฺยเชสุํ – ‘‘คจฺฉถ ภคินิโย’’ติฯ อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐํสุฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข ตา ภิกฺขุนิโย ภควา เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ, ภิกฺขุนิโย, โอวาโท อิโทฺธ อโหสี’’ติ? ‘‘กุโต, ภเนฺต, โอวาโท อิโทฺธ ภวิสฺสติ! อยฺยา ฉพฺพคฺคิยา ปริตฺตเญฺญว ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ทิวสํ ติรจฺฉานกถาย วีตินาเมตฺวา อุโยฺยเชสุ’’นฺติฯ

    Atha kho tā bhikkhuniyo yena chabbaggiyā bhikkhū tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā chabbaggiye bhikkhū abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Atha kho chabbaggiyā bhikkhū bhikkhunīnaṃ parittaññeva dhammiṃ kathaṃ katvā divasaṃ tiracchānakathāya vītināmetvā uyyojesuṃ – ‘‘gacchatha bhaginiyo’’ti. Atha kho tā bhikkhuniyo yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhaṃsu. Ekamantaṃ ṭhitā kho tā bhikkhuniyo bhagavā etadavoca – ‘‘kacci, bhikkhuniyo, ovādo iddho ahosī’’ti? ‘‘Kuto, bhante, ovādo iddho bhavissati! Ayyā chabbaggiyā parittaññeva dhammiṃ kathaṃ katvā divasaṃ tiracchānakathāya vītināmetvā uyyojesu’’nti.

    อถ โข ภควา ตา ภิกฺขุนิโย ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ…เป.… อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุเตฺตชิตา สมฺปหํสิตา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมิํสุฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนีนํ ปริตฺตเญฺญว ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ทิวสํ ติรจฺฉานกถาย วีตินาเมตฺวา อุโยฺยเชถา’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, ภิกฺขุนีนํ ปริตฺตเญฺญว ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ทิวสํ ติรจฺฉานกถาย วีตินาเมตฺวา อุโยฺยเชสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฎฺฐหเงฺคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ ภิกฺขุโนวาทกํ สมฺมนฺนิตุํฯ สีลวา โหติ , ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปโนฺน อณุมเตฺตสุ วเชฺชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มเชฺฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสา อนุเปกฺขิตา ทิฎฺฐิยา สุปฺปฎิวิทฺธา; อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยญฺชนโส; กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ; เยภุเยฺยน ภิกฺขุนีนํ ปิโย โหติ มนาโป; ปฎิพโล โหติ ภิกฺขุนิโย โอวทิตุํ; น โข ปเนตํ 1 ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิตาย กาสายวตฺถวสนาย ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺนปุโพฺพ โหติ; วีสติวโสฺส วา โหติ อติเรกวีสติวโสฺส วา – อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ อฎฺฐหเงฺคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ ภิกฺขุโนวาทกํ สมฺมนฺนิตุ’’นฺติฯ

    Atha kho bhagavā tā bhikkhuniyo dhammiyā kathāya sandassesi…pe… atha kho tā bhikkhuniyo bhagavatā dhammiyā kathāya sandassitā samādapitā samuttejitā sampahaṃsitā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkamiṃsu. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā chabbaggiye bhikkhū paṭipucchi – ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, bhikkhunīnaṃ parittaññeva dhammiṃ kathaṃ katvā divasaṃ tiracchānakathāya vītināmetvā uyyojethā’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, bhikkhunīnaṃ parittaññeva dhammiṃ kathaṃ katvā divasaṃ tiracchānakathāya vītināmetvā uyyojessatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, aṭṭhahaṅgehi samannāgataṃ bhikkhuṃ bhikkhunovādakaṃ sammannituṃ. Sīlavā hoti , pātimokkhasaṃvarasaṃvuto viharati ācāragocarasampanno aṇumattesu vajjesu bhayadassāvī, samādāya sikkhati sikkhāpadesu; bahussuto hoti sutadharo sutasannicayo, ye te dhammā ādikalyāṇā majjhekalyāṇā pariyosānakalyāṇā sātthaṃ sabyañjanaṃ kevalaparipuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ abhivadanti tathārūpāssa dhammā bahussutā honti dhātā vacasā paricitā manasā anupekkhitā diṭṭhiyā suppaṭividdhā; ubhayāni kho panassa pātimokkhāni vitthārena svāgatāni honti suvibhattāni suppavattīni suvinicchitāni suttaso anubyañjanaso; kalyāṇavāco hoti kalyāṇavākkaraṇo; yebhuyyena bhikkhunīnaṃ piyo hoti manāpo; paṭibalo hoti bhikkhuniyo ovadituṃ; na kho panetaṃ 2 bhagavantaṃ uddissa pabbajitāya kāsāyavatthavasanāya garudhammaṃ ajjhāpannapubbo hoti; vīsativasso vā hoti atirekavīsativasso vā – anujānāmi, bhikkhave, imehi aṭṭhahaṅgehi samannāgataṃ bhikkhuṃ bhikkhunovādakaṃ sammannitu’’nti.

    ๑๔๘. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    148.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    อสมฺมโต นาม ญตฺติจตุเตฺถน กเมฺมน อสมฺมโตฯ

    Asammato nāma ñatticatutthena kammena asammato.

    ภิกฺขุนิโย นาม อุภโตสเงฺฆ อุปสมฺปนฺนาฯ

    Bhikkhuniyo nāma ubhatosaṅghe upasampannā.

    โอวเทยฺยาติ อฎฺฐหิ ครุธเมฺมหิ โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อเญฺญน ธเมฺมน โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ เอกโตอุปสมฺปนฺนํ โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Ovadeyyāti aṭṭhahi garudhammehi ovadati, āpatti pācittiyassa. Aññena dhammena ovadati, āpatti dukkaṭassa. Ekatoupasampannaṃ ovadati, āpatti dukkaṭassa.

    ๑๔๙. เตน สมฺมเตน ภิกฺขุนา ปริเวณํ สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฎฺฐาเปตฺวา อาสนํ ปญฺญเปตฺวา ทุติยํ คเหตฺวา นิสีทิตพฺพํฯ ภิกฺขุนีหิ ตตฺถ คนฺตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตพฺพํฯ เตน ภิกฺขุนา ปุจฺฉิตพฺพา – ‘‘สมคฺคาตฺถ, ภคินิโย’’ติ? สเจ ‘‘สมคฺคามฺหายฺยา’’ติ ภณนฺติ, ‘‘วตฺตนฺติ, ภคินิโย, อฎฺฐ ครุธมฺมา’’ติ? สเจ ‘‘วตฺตนฺตายฺยา’’ติ ภณนฺติ, ‘‘เอโส, ภคินิโย, โอวาโท’’ติ นิยฺยาเทตโพฺพ 3ฯ สเจ ‘‘น วตฺตนฺตายฺยา’’ติ ภณนฺติ, โอสาเรตพฺพาฯ ‘‘วสฺสสตูปสมฺปนฺนาย ภิกฺขุนิยา ตทหุปสมฺปนฺนสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุฎฺฐานํ อญฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ กาตพฺพํ; อยมฺปิ ธโมฺม สกฺกตฺวา ครุกตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีวํ อนติกฺกมนีโยฯ น ภิกฺขุนิยา อภิกฺขุเก อาวาเส วสฺสํ วสิตพฺพํ; อยมฺปิ ธโมฺม สกฺกตฺวา ครุกตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีวํ อนติกฺกมนีโยฯ อนฺวทฺธมาสํ ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสงฺฆโต เทฺว ธมฺมา ปจฺจาสีสิตพฺพา 4 อุโปสถปุจฺฉกญฺจ โอวาทุปสงฺกมนญฺจ, อยมฺปิ ธโมฺม…เป.… วสฺสํ วุฎฺฐาย ภิกฺขุนิยา อุภโตสเงฺฆ ตีหิ ฐาเนหิ ปวาเรตพฺพํ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา; อยมฺปิ ธโมฺม…เป.… ครุธมฺมํ อชฺฌาปนฺนาย ภิกฺขุนิยา อุภโตสเงฺฆ ปกฺขมานตฺตํ จริตพฺพํ; อยมฺปิ ธโมฺม…เป.… เทฺว วสฺสานิ ฉสุ ธเมฺมสุ สิกฺขิตสิกฺขาย สิกฺขมานาย อุภโตสเงฺฆ อุปสมฺปทา ปริเยสิตพฺพา; อยมฺปิ ธโมฺม…เป.… น ภิกฺขุนิยา เกน จิ ปริยาเยน ภิกฺขุ อโกฺกสิตโพฺพ ปริภาสิตโพฺพ; อยมฺปิ ธโมฺม…เป.… อชฺชตเคฺค โอวโฎ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูสุ วจนปโถ, อโนวโฎ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีสุ วจนปโถ; อยมฺปิ ธโมฺม สกฺกตฺวา ครุกตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีวํ อนติกฺกมนีโย’’ติฯ

    149. Tena sammatena bhikkhunā pariveṇaṃ sammajjitvā pānīyaṃ paribhojanīyaṃ upaṭṭhāpetvā āsanaṃ paññapetvā dutiyaṃ gahetvā nisīditabbaṃ. Bhikkhunīhi tattha gantvā taṃ bhikkhuṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīditabbaṃ. Tena bhikkhunā pucchitabbā – ‘‘samaggāttha, bhaginiyo’’ti? Sace ‘‘samaggāmhāyyā’’ti bhaṇanti, ‘‘vattanti, bhaginiyo, aṭṭha garudhammā’’ti? Sace ‘‘vattantāyyā’’ti bhaṇanti, ‘‘eso, bhaginiyo, ovādo’’ti niyyādetabbo 5. Sace ‘‘na vattantāyyā’’ti bhaṇanti, osāretabbā. ‘‘Vassasatūpasampannāya bhikkhuniyā tadahupasampannassa bhikkhuno abhivādanaṃ paccuṭṭhānaṃ añjalikammaṃ sāmīcikammaṃ kātabbaṃ; ayampi dhammo sakkatvā garukatvā mānetvā pūjetvā yāvajīvaṃ anatikkamanīyo. Na bhikkhuniyā abhikkhuke āvāse vassaṃ vasitabbaṃ; ayampi dhammo sakkatvā garukatvā mānetvā pūjetvā yāvajīvaṃ anatikkamanīyo. Anvaddhamāsaṃ bhikkhuniyā bhikkhusaṅghato dve dhammā paccāsīsitabbā 6 uposathapucchakañca ovādupasaṅkamanañca, ayampi dhammo…pe… vassaṃ vuṭṭhāya bhikkhuniyā ubhatosaṅghe tīhi ṭhānehi pavāretabbaṃ diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā; ayampi dhammo…pe… garudhammaṃ ajjhāpannāya bhikkhuniyā ubhatosaṅghe pakkhamānattaṃ caritabbaṃ; ayampi dhammo…pe… dve vassāni chasu dhammesu sikkhitasikkhāya sikkhamānāya ubhatosaṅghe upasampadā pariyesitabbā; ayampi dhammo…pe… na bhikkhuniyā kena ci pariyāyena bhikkhu akkositabbo paribhāsitabbo; ayampi dhammo…pe… ajjatagge ovaṭo bhikkhunīnaṃ bhikkhūsu vacanapatho, anovaṭo bhikkhūnaṃ bhikkhunīsu vacanapatho; ayampi dhammo sakkatvā garukatvā mānetvā pūjetvā yāvajīvaṃ anatikkamanīyo’’ti.

    สเจ ‘‘สมคฺคามฺหายฺยา’’ติ ภณนฺตํ อญฺญํ ธมฺมํ ภณติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ สเจ ‘‘วคฺคามฺหายฺยา’’ติ ภณนฺตํ อฎฺฐ ครุธเมฺม ภณติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ โอวาทํ อนิยฺยาเทตฺวา อญฺญํ ธมฺมํ ภณติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Sace ‘‘samaggāmhāyyā’’ti bhaṇantaṃ aññaṃ dhammaṃ bhaṇati, āpatti dukkaṭassa. Sace ‘‘vaggāmhāyyā’’ti bhaṇantaṃ aṭṭha garudhamme bhaṇati, āpatti dukkaṭassa. Ovādaṃ aniyyādetvā aññaṃ dhammaṃ bhaṇati, āpatti dukkaṭassa.

    ๑๕๐. อธมฺมกเมฺม อธมฺมกมฺมสญฺญี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อธมฺมกเมฺม อธมฺมกมฺมสญฺญี วคฺคํ ภิกฺขุนีสงฺฆํ เวมติโก โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อธมฺมกเมฺม อธมฺมกมฺมสญฺญี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ สมคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    150. Adhammakamme adhammakammasaññī vaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vaggasaññī ovadati, āpatti pācittiyassa. Adhammakamme adhammakammasaññī vaggaṃ bhikkhunīsaṅghaṃ vematiko ovadati, āpatti pācittiyassa. Adhammakamme adhammakammasaññī vaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ samaggasaññī ovadati, āpatti pācittiyassa.

    อธมฺมกเมฺม เวมติโก วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อธมฺมกเมฺม เวมติโก วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ เวมติโก โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส ฯ อธมฺมกเมฺม เวมติโก วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ สมคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Adhammakamme vematiko vaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vaggasaññī ovadati, āpatti pācittiyassa. Adhammakamme vematiko vaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vematiko ovadati, āpatti pācittiyassa . Adhammakamme vematiko vaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ samaggasaññī ovadati, āpatti pācittiyassa.

    อธมฺมกเมฺม ธมฺมกมฺมสญฺญี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อธมฺมกเมฺม ธมฺมกมฺมสญฺญี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ เวมติโก โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อธมฺมกเมฺม ธมฺมกมฺมสญฺญี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ สมคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Adhammakamme dhammakammasaññī vaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vaggasaññī ovadati, āpatti pācittiyassa. Adhammakamme dhammakammasaññī vaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vematiko ovadati, āpatti pācittiyassa. Adhammakamme dhammakammasaññī vaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ samaggasaññī ovadati, āpatti pācittiyassa.

    อธมฺมกเมฺม อธมฺมกมฺมสญฺญี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อธมฺมกเมฺม อธมฺมกมฺมสญฺญี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ เวมติโก โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อธมฺมกเมฺม อธมฺมกมฺมสญฺญี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ สมคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Adhammakamme adhammakammasaññī samaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vaggasaññī ovadati, āpatti pācittiyassa. Adhammakamme adhammakammasaññī samaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vematiko ovadati, āpatti pācittiyassa. Adhammakamme adhammakammasaññī samaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ samaggasaññī ovadati, āpatti pācittiyassa.

    อธมฺมกเมฺม เวมติโก สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสญฺญี โอวทติ…เป.… เวมติโก โอวทติ…เป.… สมคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Adhammakamme vematiko samaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vaggasaññī ovadati…pe… vematiko ovadati…pe… samaggasaññī ovadati, āpatti pācittiyassa.

    อธมฺมกเมฺม ธมฺมกมฺมสญฺญี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสญฺญี โอวทติ…เป.… เวมติโก โอวทติ…เป.… สมคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Adhammakamme dhammakammasaññī samaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vaggasaññī ovadati…pe… vematiko ovadati…pe… samaggasaññī ovadati, āpatti pācittiyassa.

    ๑๕๑. ธมฺมกเมฺม อธมฺมกมฺมสญฺญี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ธมฺมกเมฺม อธมฺมกมฺมสญฺญี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ เวมติโก โอวทติ…เป.… สมคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    151. Dhammakamme adhammakammasaññī vaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vaggasaññī ovadati, āpatti dukkaṭassa. Dhammakamme adhammakammasaññī vaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vematiko ovadati…pe… samaggasaññī ovadati, āpatti dukkaṭassa.

    ธมฺมกเมฺม เวมติโก วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสญฺญี โอวทติ…เป.… เวมติโก โอวทติ…เป.… สมคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Dhammakamme vematiko vaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vaggasaññī ovadati…pe… vematiko ovadati…pe… samaggasaññī ovadati, āpatti dukkaṭassa.

    ธมฺมกเมฺม ธมฺมกมฺมสญฺญี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสญฺญี โอวทติ…เป.… เวมติโก โอวทติ…เป.… สมคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Dhammakamme dhammakammasaññī vaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vaggasaññī ovadati…pe… vematiko ovadati…pe… samaggasaññī ovadati, āpatti dukkaṭassa.

    ธมฺมกเมฺม อธมฺมกมฺมสญฺญี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสญฺญี โอวทติ…เป.… เวมติโก โอวทติ…เป.… สมคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Dhammakamme adhammakammasaññī samaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vaggasaññī ovadati…pe… vematiko ovadati…pe… samaggasaññī ovadati, āpatti dukkaṭassa.

    ธมฺมกเมฺม เวมติโก สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสญฺญี โอวทติ…เป.… เวมติโก โอวทติ…เป.… สมคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Dhammakamme vematiko samaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vaggasaññī ovadati…pe… vematiko ovadati…pe… samaggasaññī ovadati, āpatti dukkaṭassa.

    ธมฺมกเมฺม ธมฺมกมฺมสญฺญี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ธมฺมกเมฺม ธมฺมกมฺมสญฺญี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ เวมติโก โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ธมฺมกเมฺม ธมฺมกมฺมสญฺญี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ สมคฺคสญฺญี โอวทติ, อนาปตฺติฯ

    Dhammakamme dhammakammasaññī samaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vaggasaññī ovadati, āpatti dukkaṭassa. Dhammakamme dhammakammasaññī samaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ vematiko ovadati, āpatti dukkaṭassa. Dhammakamme dhammakammasaññī samaggaṃ bhikkhunisaṅghaṃ samaggasaññī ovadati, anāpatti.

    ๑๕๒. อนาปตฺติ อุเทฺทสํ เทโนฺต, ปริปุจฺฉํ เทโนฺต, ‘‘โอสาเรหิ อยฺยา’’ติ วุจฺจมาโน, โอสาเรติ, ปญฺหํ ปุจฺฉติ, ปญฺหํ ปุโฎฺฐ กเถติ, อญฺญสฺสตฺถาย ภณนฺตํ ภิกฺขุนิโย สุณนฺติ, สิกฺขมานาย, สามเณริยา, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    152. Anāpatti uddesaṃ dento, paripucchaṃ dento, ‘‘osārehi ayyā’’ti vuccamāno, osāreti, pañhaṃ pucchati, pañhaṃ puṭṭho katheti, aññassatthāya bhaṇantaṃ bhikkhuniyo suṇanti, sikkhamānāya, sāmaṇeriyā, ummattakassa, ādikammikassāti.

    โอวาทสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ปฐมํฯ

    Ovādasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ paṭhamaṃ.

    ๒. อตฺถงฺคตสิกฺขาปทํ

    2. Atthaṅgatasikkhāpadaṃ

    ๑๕๓. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน เถรา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย โอวทนฺติ ปริยาเยนฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต จูฬปนฺถกสฺส ปริยาโย โหติ ภิกฺขุนิโย โอวทิตุํฯ ภิกฺขุนิโย เอวมาหํสุ – ‘‘น ทานิ อชฺช โอวาโท อิโทฺธ ภวิสฺสติ, ตเญฺญว ทานิ อุทานํ อโยฺย จูฬปนฺถโก ปุนปฺปุนํ ภณิสฺสตี’’ติฯ อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย เยนายสฺมา จูฬปนฺถโก เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ จูฬปนฺถกํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข ตา ภิกฺขุนิโย อายสฺมา จูฬปนฺถโก เอตทโวจ – ‘‘สมคฺคาตฺถ, ภคินิโย’’ติ? ‘‘สมคฺคามฺหายฺยา’’ติฯ ‘‘วตฺตนฺติ, ภคินิโย, อฎฺฐ ครุธมฺมา’’ติ? ‘‘วตฺตนฺตายฺยา’’ติฯ ‘‘เอโส, ภคินิโย, โอวาโท’’ติ นิยฺยาเทตฺวา อิมํ อุทานํ ปุนปฺปุนํ อภาสิ –

    153. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena therā bhikkhū bhikkhuniyo ovadanti pariyāyena. Tena kho pana samayena āyasmato cūḷapanthakassa pariyāyo hoti bhikkhuniyo ovadituṃ. Bhikkhuniyo evamāhaṃsu – ‘‘na dāni ajja ovādo iddho bhavissati, taññeva dāni udānaṃ ayyo cūḷapanthako punappunaṃ bhaṇissatī’’ti. Atha kho tā bhikkhuniyo yenāyasmā cūḷapanthako tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ cūḷapanthakaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinnā kho tā bhikkhuniyo āyasmā cūḷapanthako etadavoca – ‘‘samaggāttha, bhaginiyo’’ti? ‘‘Samaggāmhāyyā’’ti. ‘‘Vattanti, bhaginiyo, aṭṭha garudhammā’’ti? ‘‘Vattantāyyā’’ti. ‘‘Eso, bhaginiyo, ovādo’’ti niyyādetvā imaṃ udānaṃ punappunaṃ abhāsi –

    7 ‘‘อธิเจตโส อปฺปมชฺชโต, มุนิโน โมนปเถสุ สิกฺขโต;

    8 ‘‘Adhicetaso appamajjato, munino monapathesu sikkhato;

    โสกา น ภวนฺติ ตาทิโน, อุปสนฺตสฺส สทา สตีมโต’’ติฯ

    Sokā na bhavanti tādino, upasantassa sadā satīmato’’ti.

    ภิกฺขุนิโย เอวมาหํสุ – ‘‘นนุ อโวจุมฺหา – น ทานิ อชฺช โอวาโท อิโทฺธ ภวิสฺสติ, ตเญฺญว ทานิ อุทานํ อโยฺย จูฬปนฺถโก ปุนปฺปุนํ ภณิสฺสตี’’ติ! อโสฺสสิ โข อายสฺมา จูฬปนฺถโก ตาสํ ภิกฺขุนีนํ อิมํ กถาสลฺลาปํฯ อถ โข อายสฺมา จูฬปนฺถโก เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิเกฺข จงฺกมติปิ ติฎฺฐติปิ นิสีทติปิ เสยฺยมฺปิ กเปฺปติ ธูมายติปิ ปชฺชลติปิ อนฺตรธายติปิ, ตเญฺจว 9 อุทานํ ภณติ อญฺญญฺจ พหุํ พุทฺธวจนํฯ ภิกฺขุนิโย เอวมาหํสุ – ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, น วต โน อิโต ปุเพฺพ โอวาโท เอวํ อิโทฺธ ภูตปุโพฺพ ยถา อยฺยสฺส จูฬปนฺถกสฺสา’’ติฯ อถ โข อายสฺมา จูฬปนฺถโก ตา ภิกฺขุนิโย ยาว สมนฺธการา โอวทิตฺวา อุโยฺยเชสิ – คจฺฉถ ภคินิโยติฯ

    Bhikkhuniyo evamāhaṃsu – ‘‘nanu avocumhā – na dāni ajja ovādo iddho bhavissati, taññeva dāni udānaṃ ayyo cūḷapanthako punappunaṃ bhaṇissatī’’ti! Assosi kho āyasmā cūḷapanthako tāsaṃ bhikkhunīnaṃ imaṃ kathāsallāpaṃ. Atha kho āyasmā cūḷapanthako vehāsaṃ abbhuggantvā ākāse antalikkhe caṅkamatipi tiṭṭhatipi nisīdatipi seyyampi kappeti dhūmāyatipi pajjalatipi antaradhāyatipi, tañceva 10 udānaṃ bhaṇati aññañca bahuṃ buddhavacanaṃ. Bhikkhuniyo evamāhaṃsu – ‘‘acchariyaṃ vata bho, abbhutaṃ vata bho, na vata no ito pubbe ovādo evaṃ iddho bhūtapubbo yathā ayyassa cūḷapanthakassā’’ti. Atha kho āyasmā cūḷapanthako tā bhikkhuniyo yāva samandhakārā ovaditvā uyyojesi – gacchatha bhaginiyoti.

    อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย นครทฺวาเร ถกิเต พหินคเร วสิตฺวา กาลเสฺสว นครํ ปวิสนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘อพฺรหฺมจารินิโย อิมา ภิกฺขุนิโย; อาราเม ภิกฺขูหิ สทฺธิํ วสิตฺวา อิทานิ นครํ ปวิสนฺตี’’ติฯ อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา จูฬปนฺถโก อตฺถงฺคเต สูริเย ภิกฺขุนิโย โอวทิสฺสตี’’ติ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, จูฬปนฺถก, อตฺถงฺคเต สูริเย ภิกฺขุนิโย โอวทสี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, จูฬปนฺถก, อตฺถงฺคเต สูริเย ภิกฺขุนิโย โอวทิสฺสสิ! เนตํ, จูฬปนฺถก, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Atha kho tā bhikkhuniyo nagaradvāre thakite bahinagare vasitvā kālasseva nagaraṃ pavisanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘abrahmacāriniyo imā bhikkhuniyo; ārāme bhikkhūhi saddhiṃ vasitvā idāni nagaraṃ pavisantī’’ti. Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā cūḷapanthako atthaṅgate sūriye bhikkhuniyo ovadissatī’’ti…pe… ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, cūḷapanthaka, atthaṅgate sūriye bhikkhuniyo ovadasī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, cūḷapanthaka, atthaṅgate sūriye bhikkhuniyo ovadissasi! Netaṃ, cūḷapanthaka, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๑๕๔. ‘‘สมฺมโตปิ เจ ภิกฺขุ อตฺถงฺคเต สูริเย ภิกฺขุนิโย โอวเทยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    154.‘‘Sammatopi ce bhikkhu atthaṅgate sūriye bhikkhuniyo ovadeyya, pācittiya’’nti.

    ๑๕๕. สมฺมโต นาม ญตฺติจตุเตฺถน กเมฺมน สมฺมโตฯ

    155.Sammato nāma ñatticatutthena kammena sammato.

    อตฺถงฺคเต สูริเยติ โอคฺคเต สูริเยฯ

    Atthaṅgate sūriyeti oggate sūriye.

    ภิกฺขุนี นาม อุภโตสเงฺฆ อุปสมฺปนฺนาฯ

    Bhikkhunī nāma ubhatosaṅghe upasampannā.

    โอวเทยฺยาติ อฎฺฐหิ วา ครุธเมฺมหิ อเญฺญน วา ธเมฺมน โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Ovadeyyāti aṭṭhahi vā garudhammehi aññena vā dhammena ovadati, āpatti pācittiyassa.

    ๑๕๖. อตฺถงฺคเต อตฺถงฺคตสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อตฺถงฺคเต เวมติโก โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อตฺถงฺคเต อนตฺถงฺคตสญฺญี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    156. Atthaṅgate atthaṅgatasaññī ovadati, āpatti pācittiyassa. Atthaṅgate vematiko ovadati, āpatti pācittiyassa. Atthaṅgate anatthaṅgatasaññī ovadati, āpatti pācittiyassa.

    เอกโตอุปสมฺปนฺนาย โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนตฺถงฺคเต อตฺถงฺคตสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนตฺถงฺคเต เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนตฺถงฺคเต อนตฺถงฺคตสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Ekatoupasampannāya ovadati, āpatti dukkaṭassa. Anatthaṅgate atthaṅgatasaññī, āpatti dukkaṭassa. Anatthaṅgate vematiko, āpatti dukkaṭassa. Anatthaṅgate anatthaṅgatasaññī, anāpatti.

    ๑๕๗. อนาปตฺติ อุเทฺทสํ เทโนฺต, ปริปุจฺฉํ เทโนฺต, ‘‘โอสาเรหิ อยฺยา’’ติ วุจฺจมาโน, โอสาเรติ, ปญฺหํ ปุจฺฉติ, ปญฺหํ ปุโฎฺฐ กเถติ, อญฺญสฺสตฺถาย ภณนฺตํ ภิกฺขุนิโย สุณนฺติ, สิกฺขมานาย สามเณริยา, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    157. Anāpatti uddesaṃ dento, paripucchaṃ dento, ‘‘osārehi ayyā’’ti vuccamāno, osāreti, pañhaṃ pucchati, pañhaṃ puṭṭho katheti, aññassatthāya bhaṇantaṃ bhikkhuniyo suṇanti, sikkhamānāya sāmaṇeriyā, ummattakassa, ādikammikassāti.

    อตฺถงฺคตสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ทุติยํฯ

    Atthaṅgatasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ dutiyaṃ.

    ๓. ภิกฺขุนุปสฺสยสิกฺขาปทํ

    3. Bhikkhunupassayasikkhāpadaṃ

    ๑๕๘. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สเกฺกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมิํ นิโคฺรธาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขุนิโย โอวทนฺติฯ ภิกฺขุนิโย ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขุนิโย เอตทโวจุํ – ‘‘เอถาเยฺย, โอวาทํ คมิสฺสามา’’ติฯ ‘‘ยมฺปิ 11 มยํ, อเยฺย, คเจฺฉยฺยาม โอวาทสฺส การณา, อยฺยา ฉพฺพคฺคิยา อิเธว อาคนฺตฺวา อเมฺห โอวทนฺตี’’ติฯ ภิกฺขุนิโย อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา ภิกฺขุนิโย โอวทิสฺสนฺตี’’ติ 12! อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา ภิกฺขุนิโย โอวทิสฺสนฺตี’’ติ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว , ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา ภิกฺขุนิโย โอวทถา’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา ภิกฺขุนิโย โอวทิสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    158. Tena samayena buddho bhagavā sakkesu viharati kapilavatthusmiṃ nigrodhārāme. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū bhikkhunupassayaṃ upasaṅkamitvā chabbaggiyā bhikkhuniyo ovadanti. Bhikkhuniyo chabbaggiyā bhikkhuniyo etadavocuṃ – ‘‘ethāyye, ovādaṃ gamissāmā’’ti. ‘‘Yampi 13 mayaṃ, ayye, gaccheyyāma ovādassa kāraṇā, ayyā chabbaggiyā idheva āgantvā amhe ovadantī’’ti. Bhikkhuniyo ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū bhikkhunupassayaṃ upasaṅkamitvā bhikkhuniyo ovadissantī’’ti 14! Atha kho tā bhikkhuniyo bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesuṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū bhikkhunupassayaṃ upasaṅkamitvā bhikkhuniyo ovadissantī’’ti…pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave , bhikkhunupassayaṃ upasaṅkamitvā bhikkhuniyo ovadathā’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, bhikkhunupassayaṃ upasaṅkamitvā bhikkhuniyo ovadissatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา ภิกฺขุนิโย โอวเทยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    ‘‘Yo pana bhikkhu bhikkhunupassayaṃ upasaṅkamitvā bhikkhuniyo ovadeyya, pācittiya’’nti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๑๕๙. เตน โข ปน สมเยน มหาปชาปติ โคตมี คิลานา โหติฯ เถรา ภิกฺขู เยน มหาปชาปติ โคตมี เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มหาปชาปติํ โคตมิํ เอตทโวจุํ – ‘‘กจฺจิ เต, โคตมิ, ขมนียํ กจฺจิ ยาปนีย’’นฺติ? ‘‘น เม, อยฺยา, ขมนียํ น ยาปนียํ’’ฯ ‘‘อิงฺฆยฺยา, ธมฺมํ เทเสถา’’ติฯ ‘‘น, ภคินิ, กปฺปติ ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา ภิกฺขุนิโย ธมฺมํ เทเสตุ’’นฺติ กุกฺกุจฺจายนฺตา น เทเสสุํฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน มหาปชาปติ โคตมี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ นิสชฺช โข ภควา มหาปชาปติํ โคตมิํ เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ เต, โคตมิ, ขมนียํ กจฺจิ ยาปนีย’’นฺติ ? ‘‘ปุเพฺพ เม, ภเนฺต, เถรา ภิกฺขู อาคนฺตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺติฯ เตน เม ผาสุ โหติฯ อิทานิ ปน – ‘‘ภควตา ปฎิกฺขิตฺต’’นฺติ, กุกฺกุจฺจายนฺตา น เทเสนฺติฯ เตน เม น ผาสุ โหตี’’ติฯ อถ โข ภควา มหาปชาปติํ โคตมิํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุเตฺตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกามิฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา คิลานํ ภิกฺขุนิํ โอวทิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    159. Tena kho pana samayena mahāpajāpati gotamī gilānā hoti. Therā bhikkhū yena mahāpajāpati gotamī tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā mahāpajāpatiṃ gotamiṃ etadavocuṃ – ‘‘kacci te, gotami, khamanīyaṃ kacci yāpanīya’’nti? ‘‘Na me, ayyā, khamanīyaṃ na yāpanīyaṃ’’. ‘‘Iṅghayyā, dhammaṃ desethā’’ti. ‘‘Na, bhagini, kappati bhikkhunupassayaṃ upasaṅkamitvā bhikkhuniyo dhammaṃ desetu’’nti kukkuccāyantā na desesuṃ. Atha kho bhagavā pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena mahāpajāpati gotamī tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Nisajja kho bhagavā mahāpajāpatiṃ gotamiṃ etadavoca – ‘‘kacci te, gotami, khamanīyaṃ kacci yāpanīya’’nti ? ‘‘Pubbe me, bhante, therā bhikkhū āgantvā dhammaṃ desenti. Tena me phāsu hoti. Idāni pana – ‘‘bhagavatā paṭikkhitta’’nti, kukkuccāyantā na desenti. Tena me na phāsu hotī’’ti. Atha kho bhagavā mahāpajāpatiṃ gotamiṃ dhammiyā kathāya sandassetvā samādapetvā samuttejetvā sampahaṃsetvā uṭṭhāyāsanā pakkāmi. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, bhikkhunupassayaṃ upasaṅkamitvā gilānaṃ bhikkhuniṃ ovadituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๑๖๐. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา ภิกฺขุนิโย โอวเทยฺย, อญฺญตฺร สมยา, ปาจิตฺติยํ ฯ ตตฺถายํ สมโยฯ คิลานา โหติ ภิกฺขุนี – อยํ ตตฺถ สมโย’’ติฯ

    160.‘‘Yo pana bhikkhu bhikkhunupassayaṃ upasaṅkamitvā bhikkhuniyo ovadeyya, aññatra samayā, pācittiyaṃ . Tatthāyaṃ samayo. Gilānā hoti bhikkhunī – ayaṃ tattha samayo’’ti.

    ๑๖๑. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    161.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    ภิกฺขุนุปสฺสโย นาม ยตฺถ ภิกฺขุนิโย เอกรตฺตมฺปิ วสนฺติฯ

    Bhikkhunupassayo nāma yattha bhikkhuniyo ekarattampi vasanti.

    อุปสงฺกมิตฺวาติ ตตฺถ คนฺตฺวาฯ

    Upasaṅkamitvāti tattha gantvā.

    ภิกฺขุนี นาม อุภโตสเงฺฆ อุปสมฺปนฺนาฯ

    Bhikkhunī nāma ubhatosaṅghe upasampannā.

    โอวเทยฺยาติ อฎฺฐหิ ครุธเมฺมหิ โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Ovadeyyāti aṭṭhahi garudhammehi ovadati, āpatti pācittiyassa.

    อญฺญตฺร สมยาติ ฐเปตฺวา สมยํฯ

    Aññatra samayāti ṭhapetvā samayaṃ.

    คิลานา นาม ภิกฺขุนี น สโกฺกติ โอวาทาย วา สํวาสาย วา คนฺตุํฯ

    Gilānā nāma bhikkhunī na sakkoti ovādāya vā saṃvāsāya vā gantuṃ.

    ๑๖๒. อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสญฺญี ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา อญฺญตฺร สมยา โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อุปสมฺปนฺนาย เวมติโก ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา อญฺญตฺร สมยา โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อุปสมฺปนฺนาย อนุปสมฺปนฺนสญฺญี ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา อญฺญตฺร สมยา โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    162. Upasampannāya upasampannasaññī bhikkhunupassayaṃ upasaṅkamitvā aññatra samayā ovadati, āpatti pācittiyassa. Upasampannāya vematiko bhikkhunupassayaṃ upasaṅkamitvā aññatra samayā ovadati, āpatti pācittiyassa. Upasampannāya anupasampannasaññī bhikkhunupassayaṃ upasaṅkamitvā aññatra samayā ovadati, āpatti pācittiyassa.

    อเญฺญน ธเมฺมน โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ เอกโตอุปสมฺปนฺนาย โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺส ฯ อนุปสมฺปนฺนาย เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุปสมฺปนฺนาย อนุปสมฺปนฺนสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Aññena dhammena ovadati, āpatti dukkaṭassa. Ekatoupasampannāya ovadati, āpatti dukkaṭassa. Anupasampannāya upasampannasaññī, āpatti dukkaṭassa . Anupasampannāya vematiko, āpatti dukkaṭassa. Anupasampannāya anupasampannasaññī, anāpatti.

    ๑๖๓. อนาปตฺติ สมเย, อุเทฺทสํ เทโนฺต, ปริปุจฺฉํ เทโนฺต, ‘‘โอสาเรหิ อยฺยา’’ติ วุจฺจมาโน โอสาเรติ, ปญฺหํ ปุจฺฉติ, ปญฺหํ ปุโฎฺฐ กเถติ, อญฺญสฺสตฺถาย ภณนฺตํ ภิกฺขุนิโย สุณนฺติ, สิกฺขมานาย สามเณริยา, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    163. Anāpatti samaye, uddesaṃ dento, paripucchaṃ dento, ‘‘osārehi ayyā’’ti vuccamāno osāreti, pañhaṃ pucchati, pañhaṃ puṭṭho katheti, aññassatthāya bhaṇantaṃ bhikkhuniyo suṇanti, sikkhamānāya sāmaṇeriyā, ummattakassa, ādikammikassāti.

    ภิกฺขุนุปสฺสยสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ตติยํฯ

    Bhikkhunupassayasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ tatiyaṃ.

    ๔. อามิสสิกฺขาปทํ

    4. Āmisasikkhāpadaṃ

    ๑๖๔. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม ฯ เตน โข ปน สมเยน เถรา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย โอวทนฺตา ลาภิโน โหนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํฯ ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู เอวํ วทนฺติ – ‘‘น พหุกตา เถรา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย โอวทิตุํ; อามิสเหตุ เถรา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย โอวทนฺตี’’ติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู เอวํ วกฺขนฺติ – ‘น พหุกตา เถรา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย โอวทิตุํ; อามิสเหตุ เถรา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย โอวทนฺตี’’’ติ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, เอวํ วเทถ – ‘น พหุกตา เถรา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย โอวทิตุํ; อามิสเหตุ เถรา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย โอวทนฺตี’’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, เอวํ วกฺขถ – น พหุกตา เถรา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย โอวทิตุํ; อามิสเหตุ เถรา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย โอวทนฺตีติ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    164. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme . Tena kho pana samayena therā bhikkhū bhikkhuniyo ovadantā lābhino honti cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānappaccayabhesajjaparikkhārānaṃ. Chabbaggiyā bhikkhū evaṃ vadanti – ‘‘na bahukatā therā bhikkhū bhikkhuniyo ovadituṃ; āmisahetu therā bhikkhū bhikkhuniyo ovadantī’’ti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū evaṃ vakkhanti – ‘na bahukatā therā bhikkhū bhikkhuniyo ovadituṃ; āmisahetu therā bhikkhū bhikkhuniyo ovadantī’’’ti…pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, evaṃ vadetha – ‘na bahukatā therā bhikkhū bhikkhuniyo ovadituṃ; āmisahetu therā bhikkhū bhikkhuniyo ovadantī’’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, evaṃ vakkhatha – na bahukatā therā bhikkhū bhikkhuniyo ovadituṃ; āmisahetu therā bhikkhū bhikkhuniyo ovadantīti! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๑๖๕. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อามิสเหตุ เถรา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย โอวนฺทตี’ติ, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    165.‘‘Yo pana bhikkhu evaṃ vadeyya – ‘āmisahetu therā bhikkhū bhikkhuniyo ovandatī’ti, pācittiya’’nti.

    ๑๖๖. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    166.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    อามิสเหตูติ จีวรเหตุ ปิณฺฑปาตเหตุ เสนาสนเหตุ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารเหตุ สกฺการเหตุ ครุการเหตุ มานนเหตุ วนฺทนเหตุ ปูชนเหตุฯ

    Āmisahetūti cīvarahetu piṇḍapātahetu senāsanahetu gilānappaccayabhesajjaparikkhārahetu sakkārahetu garukārahetu mānanahetu vandanahetu pūjanahetu.

    เอวํ วเทยฺยาติ อุปสมฺปนฺนํ สเงฺฆน สมฺมตํ ภิกฺขุโนวาทกํ อวณฺณํ กตฺตุกาโม อยสํ กตฺตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม เอวํ วเทติ – ‘‘จีวรเหตุ ปิณฺฑปาตเหตุ เสนาสนเหตุ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารเหตุ สกฺการเหตุ ครุการเหตุ มานนเหตุ วนฺทนเหตุ ปูชนเหตุ โอวทตี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Evaṃ vadeyyāti upasampannaṃ saṅghena sammataṃ bhikkhunovādakaṃ avaṇṇaṃ kattukāmo ayasaṃ kattukāmo maṅkukattukāmo evaṃ vadeti – ‘‘cīvarahetu piṇḍapātahetu senāsanahetu gilānappaccayabhesajjaparikkhārahetu sakkārahetu garukārahetu mānanahetu vandanahetu pūjanahetu ovadatī’’ti bhaṇati, āpatti pācittiyassa.

    ๑๖๗. ธมฺมกเมฺม ธมฺมกมฺมสญฺญี เอวํ วเทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ธมฺมกเมฺม เวมติโก เอวํ วเทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ธมฺมกเมฺม อธมฺมกมฺมสญฺญี เอวํ วเทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    167. Dhammakamme dhammakammasaññī evaṃ vadeti, āpatti pācittiyassa. Dhammakamme vematiko evaṃ vadeti, āpatti pācittiyassa. Dhammakamme adhammakammasaññī evaṃ vadeti, āpatti pācittiyassa.

    อุปสมฺปนฺนํ สเงฺฆน อสมฺมตํ ภิกฺขุโนวาทกํ อวณฺณํ กตฺตุกาโม อยสํ กตฺตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม เอวํ วเทติ – ‘‘จีวรเหตุ…เป.… ปูชนเหตุ โอวทตี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุปสมฺปนฺนํ สเงฺฆน สมฺมตํ วา อสมฺมตํ วา ภิกฺขุโนวาทกํ อวณฺณํ กตฺตุกาโม อยสํ กตฺตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม เอวํ วเทติ – ‘‘จีวรเหตุ ปิณฺฑปาตเหตุ เสนาสนเหตุ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารเหตุ สกฺการเหตุ ครุการเหตุ มานนเหตุ วนฺทนเหตุ ปูชนเหตุ โอวทตี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อธมฺมกเมฺม ธมฺมกมฺมสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อธมฺมกเมฺม เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อธมฺมกเมฺม อธมฺมกมฺมสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Upasampannaṃ saṅghena asammataṃ bhikkhunovādakaṃ avaṇṇaṃ kattukāmo ayasaṃ kattukāmo maṅkukattukāmo evaṃ vadeti – ‘‘cīvarahetu…pe… pūjanahetu ovadatī’’ti bhaṇati, āpatti dukkaṭassa. Anupasampannaṃ saṅghena sammataṃ vā asammataṃ vā bhikkhunovādakaṃ avaṇṇaṃ kattukāmo ayasaṃ kattukāmo maṅkukattukāmo evaṃ vadeti – ‘‘cīvarahetu piṇḍapātahetu senāsanahetu gilānappaccayabhesajjaparikkhārahetu sakkārahetu garukārahetu mānanahetu vandanahetu pūjanahetu ovadatī’’ti bhaṇati, āpatti dukkaṭassa. Adhammakamme dhammakammasaññī, āpatti dukkaṭassa. Adhammakamme vematiko, āpatti dukkaṭassa. Adhammakamme adhammakammasaññī, āpatti dukkaṭassa.

    ๑๖๘. อนาปตฺติ ปกติยา จีวรเหตุ ปิณฺฑปาตเหตุ เสนาสนเหตุ คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารเหตุ สกฺการเหตุ ครุการเหตุ มานนเหตุ วนฺทนเหตุ ปูชนเหตุ โอวทนฺตํ ภณติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    168. Anāpatti pakatiyā cīvarahetu piṇḍapātahetu senāsanahetu gilānappaccayabhesajjaparikkhārahetu sakkārahetu garukārahetu mānanahetu vandanahetu pūjanahetu ovadantaṃ bhaṇati, ummattakassa, ādikammikassāti.

    อามิสสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ จตุตฺถํฯ

    Āmisasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ catutthaṃ.

    ๕. จีวรทานสิกฺขาปทํ

    5. Cīvaradānasikkhāpadaṃ

    ๑๖๙. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สาวตฺถิยํ อญฺญตริสฺสา วิสิขาย ปิณฺฑาย จรติฯ อญฺญตราปิ ภิกฺขุนี ตสฺสา วิสิขาย ปิณฺฑาย จรติฯ อถ โข โส ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุนิํ เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉ, ภคินิ, อมุกสฺมิํ โอกาเส ภิกฺขา ทิยฺยตี’’ติฯ สาปิ โข เอวมาห – ‘‘คจฺฉายฺย, อมุกสฺมิํ โอกาเส ภิกฺขา ทิยฺยตี’’ติฯ เต อภิณฺหทสฺสเนน สนฺทิฎฺฐา อเหสุํฯ เตน โข ปน สมเยน สงฺฆสฺส จีวรํ ภาชียติฯ อถ โข สา ภิกฺขุนี โอวาทํ คนฺตฺวา เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิตํ โข ตํ ภิกฺขุนิํ โส ภิกฺขุ เอตทโวจ – ‘‘อยํ เม, ภคินิ, จีวรปฎิวีโส 15; สาทิยิสฺสสี’’ติ? ‘‘อามายฺย, ทุพฺพลจีวรามฺหี’’ติฯ

    169. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu sāvatthiyaṃ aññatarissā visikhāya piṇḍāya carati. Aññatarāpi bhikkhunī tassā visikhāya piṇḍāya carati. Atha kho so bhikkhu taṃ bhikkhuniṃ etadavoca – ‘‘gaccha, bhagini, amukasmiṃ okāse bhikkhā diyyatī’’ti. Sāpi kho evamāha – ‘‘gacchāyya, amukasmiṃ okāse bhikkhā diyyatī’’ti. Te abhiṇhadassanena sandiṭṭhā ahesuṃ. Tena kho pana samayena saṅghassa cīvaraṃ bhājīyati. Atha kho sā bhikkhunī ovādaṃ gantvā yena so bhikkhu tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ bhikkhuṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Ekamantaṃ ṭhitaṃ kho taṃ bhikkhuniṃ so bhikkhu etadavoca – ‘‘ayaṃ me, bhagini, cīvarapaṭivīso 16; sādiyissasī’’ti? ‘‘Āmāyya, dubbalacīvarāmhī’’ti.

    อถ โข โส ภิกฺขุ ตสฺสา ภิกฺขุนิยา จีวรํ อทาสิฯ โสปิ โข ภิกฺขุ ทุพฺพลจีวโร โหติฯ ภิกฺขู ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจุํ – ‘‘กโรหิ ทานิ เต, อาวุโส, จีวร’’นฺติ ฯ อถ โข โส ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา จีวรํ ทสฺสตี’’ติ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุนิยา จีวรํ อทาสี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ ‘‘ญาติกา เต , ภิกฺขุ, อญฺญาติกา’’ติ? ‘‘อญฺญาติกา, ภควา’’ติฯ ‘‘อญฺญาตโก, โมฆปุริส, อญฺญาติกาย น ชานาติ ปติรูปํ วา อปฺปติรูปํ วา สนฺตํ วา อสนฺตํ วาฯ กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, อญฺญาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรํ ทสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Atha kho so bhikkhu tassā bhikkhuniyā cīvaraṃ adāsi. Sopi kho bhikkhu dubbalacīvaro hoti. Bhikkhū taṃ bhikkhuṃ etadavocuṃ – ‘‘karohi dāni te, āvuso, cīvara’’nti . Atha kho so bhikkhu bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma bhikkhu bhikkhuniyā cīvaraṃ dassatī’’ti…pe… ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, bhikkhu, bhikkhuniyā cīvaraṃ adāsī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. ‘‘Ñātikā te , bhikkhu, aññātikā’’ti? ‘‘Aññātikā, bhagavā’’ti. ‘‘Aññātako, moghapurisa, aññātikāya na jānāti patirūpaṃ vā appatirūpaṃ vā santaṃ vā asantaṃ vā. Kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, aññātikāya bhikkhuniyā cīvaraṃ dassasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อญฺญาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรํ ทเทยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    ‘‘Yo pana bhikkhu aññātikāya bhikkhuniyā cīvaraṃ dadeyya, pācittiya’’nti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๑๗๐. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา ภิกฺขุนีนํ ปาริวตฺตกํ 17 จีวรํ น เทนฺติฯ ภิกฺขุนิโย อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อยฺยา อมฺหากํ ปาริวตฺตกํ จีวรํ น ทสฺสนฺตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู ตาสํ ภิกฺขุนีนํ อุชฺฌายนฺตีนํ ขิยฺยนฺตีนํ วิปาเจนฺตีนํฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจนฺนํ ปาริวตฺตกํ ทาตุํฯ ภิกฺขุสฺส, ภิกฺขุนิยา, สิกฺขมานาย, สามเณรสฺส, สามเณริยา – อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมสํ ปญฺจนฺนํ ปาริวตฺตกํ ทาตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    170. Tena kho pana samayena bhikkhū kukkuccāyantā bhikkhunīnaṃ pārivattakaṃ 18 cīvaraṃ na denti. Bhikkhuniyo ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma ayyā amhākaṃ pārivattakaṃ cīvaraṃ na dassantī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tāsaṃ bhikkhunīnaṃ ujjhāyantīnaṃ khiyyantīnaṃ vipācentīnaṃ. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, pañcannaṃ pārivattakaṃ dātuṃ. Bhikkhussa, bhikkhuniyā, sikkhamānāya, sāmaṇerassa, sāmaṇeriyā – anujānāmi, bhikkhave, imesaṃ pañcannaṃ pārivattakaṃ dātuṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๑๗๑. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อญฺญาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรํ ทเทยฺย, อญฺญตฺร ปาริวตฺตกา, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    171.‘‘Yo pana bhikkhu aññātikāya bhikkhuniyā cīvaraṃ dadeyya, aññatra pārivattakā, pācittiya’’nti.

    ๑๗๒. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    172.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    อญฺญาติกา นาม มาติโต วา ปิติโต วา ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อสมฺพทฺธาฯ

    Aññātikā nāma mātito vā pitito vā yāva sattamā pitāmahayugā asambaddhā.

    ภิกฺขุนี นาม อุภโตสเงฺฆ อุปสมฺปนฺนาฯ

    Bhikkhunī nāma ubhatosaṅghe upasampannā.

    จีวรํ นาม ฉนฺนํ จีวรานํ อญฺญตรํ จีวรํ วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมํ 19

    Cīvaraṃ nāma channaṃ cīvarānaṃ aññataraṃ cīvaraṃ vikappanupagaṃ pacchimaṃ 20.

    อญฺญตฺร ปาริวตฺตกาติ ฐเปตฺวา ปาริวตฺตกํ เทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Aññatra pārivattakāti ṭhapetvā pārivattakaṃ deti, āpatti pācittiyassa.

    ๑๗๓. อญฺญาติกาย อญฺญาติกสญฺญี จีวรํ เทติ, อญฺญตฺร ปาริวตฺตกา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อญฺญาติกาย เวมติโก จีวรํ เทติ, อญฺญตฺร ปาริวตฺตกา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อญฺญาติกาย ญาติกสญฺญี จีวรํ เทติ, อญฺญตฺร ปาริวตฺตกา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    173. Aññātikāya aññātikasaññī cīvaraṃ deti, aññatra pārivattakā, āpatti pācittiyassa. Aññātikāya vematiko cīvaraṃ deti, aññatra pārivattakā, āpatti pācittiyassa. Aññātikāya ñātikasaññī cīvaraṃ deti, aññatra pārivattakā, āpatti pācittiyassa.

    เอกโต อุปสมฺปนฺนาย จีวรํ เทติ, อญฺญตฺร ปาริวตฺตกา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ญาติกาย อญฺญาติกสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ญาติกาย เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ญาติกาย ญาติกสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Ekato upasampannāya cīvaraṃ deti, aññatra pārivattakā, āpatti dukkaṭassa. Ñātikāya aññātikasaññī, āpatti dukkaṭassa. Ñātikāya vematiko, āpatti dukkaṭassa. Ñātikāya ñātikasaññī, anāpatti.

    ๑๗๔. อนาปตฺติ ญาติกาย, ปาริวตฺตกํ ปริเตฺตน วา วิปุลํ, วิปุเลน วา ปริตฺตํ, ภิกฺขุนี วิสฺสาสํ คณฺหาติ, ตาวกาลิกํ คณฺหาติ, จีวรํ ฐเปตฺวา อญฺญํ ปริกฺขารํ เทติ, สิกฺขมานาย, สามเณริยา, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    174. Anāpatti ñātikāya, pārivattakaṃ parittena vā vipulaṃ, vipulena vā parittaṃ, bhikkhunī vissāsaṃ gaṇhāti, tāvakālikaṃ gaṇhāti, cīvaraṃ ṭhapetvā aññaṃ parikkhāraṃ deti, sikkhamānāya, sāmaṇeriyā, ummattakassa, ādikammikassāti.

    จีวรทานสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ปญฺจมํฯ

    Cīvaradānasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ pañcamaṃ.

    ๖. จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทํ

    6. Cīvarasibbanasikkhāpadaṃ

    ๑๗๕. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุทายี ปโฎฺฎ 21 โหติ จีวรกมฺมํ กาตุํฯ อญฺญตรา ภิกฺขุนี เยนายสฺมา อุทายี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อุทายิํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ เม, ภเนฺต, อโยฺย จีวรํ สิพฺพตู’’ติฯ อถ โข อายสฺมา อุทายี ตสฺสา ภิกฺขุนิยา จีวรํ สิพฺพิตฺวา สุรตฺตํ สุปริกมฺมกตํ กตฺวา มเชฺฌ ปฎิภานจิตฺตํ วุฎฺฐาเปตฺวา สํหริตฺวา นิกฺขิปิฯ อถ โข สา ภิกฺขุนี เยนายสฺมา อุทายี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อุทายิํ เอตทโวจ – ‘‘กหํ ตํ, ภเนฺต, จีวร’’นฺติ? ‘‘หนฺท, ภคินิ , อิมํ จีวรํ ยถาสํหฎํ หริตฺวา นิกฺขิปิตฺวา ยทา ภิกฺขุนิสโงฺฆ โอวาทํ อาคจฺฉติ ตทา อิมํ จีวรํ ปารุปิตฺวา ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ปิฎฺฐิโต ปิฎฺฐิโต อาคจฺฉา’’ติฯ อถ โข สา ภิกฺขุนี ตํ จีวรํ ยถาสํหฎํ หริตฺวา นิกฺขิปิตฺวา ยทา ภิกฺขุนิสโงฺฆ โอวาทํ อาคจฺฉติ ตทา ตํ จีวรํ ปารุปิตฺวา ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ปิฎฺฐิโต ปิฎฺฐิโต อาคจฺฉติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘ยาว ฉินฺนิกา อิมา ภิกฺขุนิโย ธุตฺติกา อหิริกาโย, ยตฺร หิ นาม จีวเร ปฎิภานจิตฺตํ วุฎฺฐาเปสฺสนฺตี’’ติ!

    175. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmā udāyī paṭṭo 22 hoti cīvarakammaṃ kātuṃ. Aññatarā bhikkhunī yenāyasmā udāyī tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ udāyiṃ etadavoca – ‘‘sādhu me, bhante, ayyo cīvaraṃ sibbatū’’ti. Atha kho āyasmā udāyī tassā bhikkhuniyā cīvaraṃ sibbitvā surattaṃ suparikammakataṃ katvā majjhe paṭibhānacittaṃ vuṭṭhāpetvā saṃharitvā nikkhipi. Atha kho sā bhikkhunī yenāyasmā udāyī tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ udāyiṃ etadavoca – ‘‘kahaṃ taṃ, bhante, cīvara’’nti? ‘‘Handa, bhagini , imaṃ cīvaraṃ yathāsaṃhaṭaṃ haritvā nikkhipitvā yadā bhikkhunisaṅgho ovādaṃ āgacchati tadā imaṃ cīvaraṃ pārupitvā bhikkhunisaṅghassa piṭṭhito piṭṭhito āgacchā’’ti. Atha kho sā bhikkhunī taṃ cīvaraṃ yathāsaṃhaṭaṃ haritvā nikkhipitvā yadā bhikkhunisaṅgho ovādaṃ āgacchati tadā taṃ cīvaraṃ pārupitvā bhikkhunisaṅghassa piṭṭhito piṭṭhito āgacchati. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘yāva chinnikā imā bhikkhuniyo dhuttikā ahirikāyo, yatra hi nāma cīvare paṭibhānacittaṃ vuṭṭhāpessantī’’ti!

    ภิกฺขุนิโย เอวมาหํสุ – ‘‘กสฺสิทํ กมฺม’’นฺติ? ‘‘อยฺยสฺส อุทายิสฺสา’’ติฯ ‘‘เยปิ เต ฉินฺนกา ธุตฺตกา อหิริกา เตสมฺปิ เอวรูปํ น โสเภยฺย, กิํ ปน อยฺยสฺส อุทายิสฺสา’’ติ! อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา อุทายี ภิกฺขุนิยา จีวรํ สิพฺพิสฺสตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตฺวํ, อุทายิ, ภิกฺขุนิยา จีวรํ สิพฺพสี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ ‘‘ญาติกา เต, อุทายิ, อญฺญาติกา’’ติ? ‘‘อญฺญาติกา, ภควา’’ติฯ ‘‘อญฺญาตโก, โมฆปุริส, อญฺญาติกาย น ชานาติ ปติรูปํ วา อปฺปติรูปํ วา ปาสาทิกํ วา อปาสาทิกํ วาฯ กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, อญฺญาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรํ สิพฺพิสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Bhikkhuniyo evamāhaṃsu – ‘‘kassidaṃ kamma’’nti? ‘‘Ayyassa udāyissā’’ti. ‘‘Yepi te chinnakā dhuttakā ahirikā tesampi evarūpaṃ na sobheyya, kiṃ pana ayyassa udāyissā’’ti! Atha kho tā bhikkhuniyo bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesuṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā udāyī bhikkhuniyā cīvaraṃ sibbissatī’’ti…pe… saccaṃ kira tvaṃ, udāyi, bhikkhuniyā cīvaraṃ sibbasī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. ‘‘Ñātikā te, udāyi, aññātikā’’ti? ‘‘Aññātikā, bhagavā’’ti. ‘‘Aññātako, moghapurisa, aññātikāya na jānāti patirūpaṃ vā appatirūpaṃ vā pāsādikaṃ vā apāsādikaṃ vā. Kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, aññātikāya bhikkhuniyā cīvaraṃ sibbissasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๑๗๖. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อญฺญาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรํ สิเพฺพยฺย วา สิพฺพาเปยฺย วา, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    176.‘‘Yo pana bhikkhu aññātikāya bhikkhuniyā cīvaraṃ sibbeyya vā sibbāpeyya vā, pācittiya’’nti.

    ๑๗๗. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    177.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    อญฺญาติกา นาม มาติโต วา ปิติโต วา ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อสมฺพทฺธาฯ

    Aññātikā nāma mātito vā pitito vā yāva sattamā pitāmahayugā asambaddhā.

    ภิกฺขุนี นาม อุภโตสเงฺฆ อุปสมฺปนฺนาฯ

    Bhikkhunī nāma ubhatosaṅghe upasampannā.

    จีวรํ นาม ฉนฺนํ จีวรานํ อญฺญตรํ จีวรํฯ

    Cīvaraṃ nāma channaṃ cīvarānaṃ aññataraṃ cīvaraṃ.

    สิเพฺพยฺยาติ สยํ สิพฺพติ อาราปเถ อาราปเถ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Sibbeyyāti sayaṃ sibbati ārāpathe ārāpathe āpatti pācittiyassa.

    สิพฺพาเปยฺยาติ อญฺญํ อาณาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สกิํ อาณโตฺต พหุกมฺปิ สิพฺพติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Sibbāpeyyāti aññaṃ āṇāpeti, āpatti pācittiyassa. Sakiṃ āṇatto bahukampi sibbati, āpatti pācittiyassa.

    ๑๗๘. อญฺญาติกาย อญฺญาติกสญฺญี จีวรํ สิพฺพติ วา สิพฺพาเปติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อญฺญาติกาย เวมติโก จีวรํ สิพฺพติ วา สิพฺพาเปติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อญฺญาติกาย ญาติกสญฺญี จีวรํ สิพฺพติ วา สิพฺพาเปติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    178. Aññātikāya aññātikasaññī cīvaraṃ sibbati vā sibbāpeti vā, āpatti pācittiyassa. Aññātikāya vematiko cīvaraṃ sibbati vā sibbāpeti vā, āpatti pācittiyassa. Aññātikāya ñātikasaññī cīvaraṃ sibbati vā sibbāpeti vā, āpatti pācittiyassa.

    เอกโตอุปสมฺปนฺนาย จีวรํ สิพฺพติ วา สิพฺพาเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ญาติกาย อญฺญาติกสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ญาติกาย เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ญาติกาย ญาติกสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Ekatoupasampannāya cīvaraṃ sibbati vā sibbāpeti vā, āpatti dukkaṭassa. Ñātikāya aññātikasaññī, āpatti dukkaṭassa. Ñātikāya vematiko, āpatti dukkaṭassa. Ñātikāya ñātikasaññī, anāpatti.

    ๑๗๙. อนาปตฺติ ญาติกาย, จีวรํ ฐเปตฺวา อญฺญํ ปริกฺขารํ สิพฺพติ วา สิพฺพาเปติ วา, สิกฺขมานาย, สามเณริยา, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    179. Anāpatti ñātikāya, cīvaraṃ ṭhapetvā aññaṃ parikkhāraṃ sibbati vā sibbāpeti vā, sikkhamānāya, sāmaṇeriyā, ummattakassa, ādikammikassāti.

    จีวรสิพฺพนสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ฉฎฺฐํฯ

    Cīvarasibbanasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ chaṭṭhaṃ.

    ๗. สํวิธานสิกฺขาปทํ

    7. Saṃvidhānasikkhāpadaṃ

    ๑๘๐. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขุนีหิ สทฺธิํ สํวิธาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฎิปชฺชนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘ยเถว มยํ สปชาปติกา อาหิณฺฑาม, เอวเมวิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา ภิกฺขุนีหิ สทฺธิํ สํวิธาย อาหิณฺฑนฺตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขุนีหิ สทฺธิํ สํวิธาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฎิปชฺชิสฺสนฺตี’’ติ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนีหิ สทฺธิํ สํวิธาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฎิปชฺชถา’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, ภิกฺขุนีหิ สทฺธิํ สํวิธาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฎิปชฺชิสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถฯ

    180. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū bhikkhunīhi saddhiṃ saṃvidhāya ekaddhānamaggaṃ paṭipajjanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘yatheva mayaṃ sapajāpatikā āhiṇḍāma, evamevime samaṇā sakyaputtiyā bhikkhunīhi saddhiṃ saṃvidhāya āhiṇḍantī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū bhikkhunīhi saddhiṃ saṃvidhāya ekaddhānamaggaṃ paṭipajjissantī’’ti…pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, bhikkhunīhi saddhiṃ saṃvidhāya ekaddhānamaggaṃ paṭipajjathā’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, bhikkhunīhi saddhiṃ saṃvidhāya ekaddhānamaggaṃ paṭipajjissatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha.

    ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ สํวิธาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฎิปเชฺชยฺย, อนฺตมโส คามนฺตรมฺปิ, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    ‘‘Yo pana bhikkhu bhikkhuniyā saddhiṃ saṃvidhāya ekaddhānamaggaṃ paṭipajjeyya, antamaso gāmantarampi, pācittiya’’nti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๑๘๑. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ สาเกตา สาวตฺถิํ อทฺธานมคฺคปฺปฎิปนฺนา โหนฺติฯ อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย เต ภิกฺขู เอตทโวจุํ – ‘‘มยมฺปิ อเยฺยหิ สทฺธิํ คมิสฺสามา’’ติฯ ‘‘น, ภคินี, กปฺปติ ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ สํวิธาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฎิปชฺชิตุํฯ ตุเมฺห วา ปฐมํ คจฺฉถ มยํ วา คมิสฺสามา’’ติฯ ‘‘อยฺยา, ภเนฺต, อคฺคปุริสาฯ อยฺยาว ปฐมํ คจฺฉนฺตู’’ติฯ อถ โข ตาสํ ภิกฺขุนีนํ ปจฺฉา คจฺฉนฺตีนํ อนฺตรามเคฺค โจรา อจฺฉินฺทิํสุ จ ทูเสสุญฺจฯ อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย สาวตฺถิํ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ภิกฺขุนิโย ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สตฺถคมนีเย มเคฺค สาสงฺกสมฺมเต สปฺปฎิภเย ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ สํวิธาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฎิปชฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    181. Tena kho pana samayena sambahulā bhikkhū ca bhikkhuniyo ca sāketā sāvatthiṃ addhānamaggappaṭipannā honti. Atha kho tā bhikkhuniyo te bhikkhū etadavocuṃ – ‘‘mayampi ayyehi saddhiṃ gamissāmā’’ti. ‘‘Na, bhaginī, kappati bhikkhuniyā saddhiṃ saṃvidhāya ekaddhānamaggaṃ paṭipajjituṃ. Tumhe vā paṭhamaṃ gacchatha mayaṃ vā gamissāmā’’ti. ‘‘Ayyā, bhante, aggapurisā. Ayyāva paṭhamaṃ gacchantū’’ti. Atha kho tāsaṃ bhikkhunīnaṃ pacchā gacchantīnaṃ antarāmagge corā acchindiṃsu ca dūsesuñca. Atha kho tā bhikkhuniyo sāvatthiṃ gantvā bhikkhunīnaṃ etamatthaṃ ārocesuṃ. Bhikkhuniyo bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesuṃ. Bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, satthagamanīye magge sāsaṅkasammate sappaṭibhaye bhikkhuniyā saddhiṃ saṃvidhāya ekaddhānamaggaṃ paṭipajjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๑๘๒. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ สํวิธาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฎิปเชฺชยฺย, อนฺตมโส คามนฺตรมฺปิ, อญฺญตฺร สมยา, ปาจิตฺติยํฯ ตตฺถายํ สมโย ฯ สตฺถคมนีโย โหติ มโคฺค สาสงฺกสมฺมโต สปฺปฎิภโย – อยํ ตตฺถ สมโย’’ติฯ

    182.‘‘Yo pana bhikkhu bhikkhuniyā saddhiṃ saṃvidhāya ekaddhānamaggaṃ paṭipajjeyya, antamaso gāmantarampi, aññatra samayā, pācittiyaṃ. Tatthāyaṃ samayo. Satthagamanīyo hoti maggo sāsaṅkasammato sappaṭibhayo – ayaṃ tattha samayo’’ti.

    ๑๘๓. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    183.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    ภิกฺขุนี นาม อุภโตสเงฺฆ อุปสมฺปนฺนาฯ

    Bhikkhunī nāma ubhatosaṅghe upasampannā.

    สทฺธินฺติ เอกโตฯ

    Saddhinti ekato.

    สํวิธายาติ – ‘‘คจฺฉาม, ภคินิ, คจฺฉามายฺย; คจฺฉามายฺย, คจฺฉาม, ภคินิ; อชฺช วา หิโยฺย วา ปเร วา คจฺฉามา’’ติ สํวิทหติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Saṃvidhāyāti – ‘‘gacchāma, bhagini, gacchāmāyya; gacchāmāyya, gacchāma, bhagini; ajja vā hiyyo vā pare vā gacchāmā’’ti saṃvidahati, āpatti dukkaṭassa.

    อนฺตมโส คามนฺตรมฺปีติ กุกฺกุฎสมฺปาเต คาเม, คามนฺตเร คามนฺตเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อคามเก อรเญฺญ, อทฺธโยชเน อทฺธโยชเน อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Antamaso gāmantarampīti kukkuṭasampāte gāme, gāmantare gāmantare āpatti pācittiyassa. Agāmake araññe, addhayojane addhayojane āpatti pācittiyassa.

    อญฺญตฺร สมยาติ ฐเปตฺวา สมยํฯ

    Aññatra samayāti ṭhapetvā samayaṃ.

    สตฺถคมนีโย นาม มโคฺค น สกฺกา โหติ วินา สเตฺถน คนฺตุํฯ

    Satthagamanīyo nāma maggo na sakkā hoti vinā satthena gantuṃ.

    สาสงฺกํ นาม ตสฺมิํ มเคฺค 23 โจรานํ นิวิโฎฺฐกาโส ทิสฺสติ, ภุโตฺตกาโส ทิสฺสติ, ฐิโตกาโส ทิสฺสติ, นิสิโนฺนกาโส ทิสฺสติ, นิปโนฺนกาโส ทิสฺสติฯ

    Sāsaṅkaṃ nāma tasmiṃ magge 24 corānaṃ niviṭṭhokāso dissati, bhuttokāso dissati, ṭhitokāso dissati, nisinnokāso dissati, nipannokāso dissati.

    สปฺปฎิภยํ นาม ตสฺมิํ มเคฺค โจเรหิ มนุสฺสา หตา ทิสฺสนฺติ, วิลุตฺตา ทิสฺสนฺติ, อาโกฎิตา ทิสฺสนฺติ, สปฺปฎิภยํ คนฺตฺวา อปฺปฎิภยํ ทเสฺสตฺวา อุโยฺยเชตพฺพา – ‘‘คจฺฉถ ภคินิโย’’ติฯ

    Sappaṭibhayaṃ nāma tasmiṃ magge corehi manussā hatā dissanti, viluttā dissanti, ākoṭitā dissanti, sappaṭibhayaṃ gantvā appaṭibhayaṃ dassetvā uyyojetabbā – ‘‘gacchatha bhaginiyo’’ti.

    ๑๘๔. สํวิทหิเต สํวิทหิตสญฺญี เอกทฺธานมคฺคํ ปฎิปชฺชติ, อนฺตมโส คามนฺตรมฺปิ, อญฺญตฺร สมยา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สํวิทหิเต เวมติโก เอกทฺธานมคฺคํ ปฎิปชฺชติ, อนฺตมโส คามนฺตรมฺปิ, อญฺญตฺร สมยา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สํวิทหิเต, อสํวิทหิตสญฺญี เอกทฺธานมคฺคํ ปฎิปชฺชติ, อนฺตมโส คามนฺตรมฺปิ, อญฺญตฺร สมยา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    184. Saṃvidahite saṃvidahitasaññī ekaddhānamaggaṃ paṭipajjati, antamaso gāmantarampi, aññatra samayā, āpatti pācittiyassa. Saṃvidahite vematiko ekaddhānamaggaṃ paṭipajjati, antamaso gāmantarampi, aññatra samayā, āpatti pācittiyassa. Saṃvidahite, asaṃvidahitasaññī ekaddhānamaggaṃ paṭipajjati, antamaso gāmantarampi, aññatra samayā, āpatti pācittiyassa.

    ภิกฺขุ สํวิทหติ ภิกฺขุนี น สํวิทหติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อสํวิทหิเต สํวิทหิตสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อสํวิทหิเต เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อสํวิทหิเต อสํวิทหิตสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhu saṃvidahati bhikkhunī na saṃvidahati, āpatti dukkaṭassa. Asaṃvidahite saṃvidahitasaññī, āpatti dukkaṭassa. Asaṃvidahite vematiko, āpatti dukkaṭassa. Asaṃvidahite asaṃvidahitasaññī, anāpatti.

    ๑๘๕. อนาปตฺติ สมเย, อสํวิทหิตฺวา คจฺฉติ, ภิกฺขุนี สํวิทหติ , ภิกฺขุ น สํวิทหติ, วิสเงฺกเตน คจฺฉนฺติ, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    185. Anāpatti samaye, asaṃvidahitvā gacchati, bhikkhunī saṃvidahati , bhikkhu na saṃvidahati, visaṅketena gacchanti, āpadāsu, ummattakassa, ādikammikassāti.

    สํวิธานสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ สตฺตมํฯ

    Saṃvidhānasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ sattamaṃ.

    ๘. นาวาภิรุหนสิกฺขาปทํ

    8. Nāvābhiruhanasikkhāpadaṃ

    ๑๘๖. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขุนีหิ สทฺธิํ สํวิธาย เอกํ นาวํ 25 อภิรุหนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘ยเถว มยํ สปชาปติกา นาวาย 26 กีฬาม, เอวเมวิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา ภิกฺขุนีหิ สทฺธิํ สํวิธาย นาวาย กีฬนฺตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขุนีหิ สทฺธิํ สํวิธาย เอกํ นาวํ อภิรุหิสฺสนฺตี’’ติ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนีหิ สทฺธิํ สํวิธาย เอกํ นาวํ อภิรุหถา’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, ภิกฺขุนีหิ สทฺธิํ สํวิธาย เอกํ นาวํ อภิรุหิสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    186. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū bhikkhunīhi saddhiṃ saṃvidhāya ekaṃ nāvaṃ 27 abhiruhanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘yatheva mayaṃ sapajāpatikā nāvāya 28 kīḷāma, evamevime samaṇā sakyaputtiyā bhikkhunīhi saddhiṃ saṃvidhāya nāvāya kīḷantī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū bhikkhunīhi saddhiṃ saṃvidhāya ekaṃ nāvaṃ abhiruhissantī’’ti…pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, bhikkhunīhi saddhiṃ saṃvidhāya ekaṃ nāvaṃ abhiruhathā’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, bhikkhunīhi saddhiṃ saṃvidhāya ekaṃ nāvaṃ abhiruhissatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ สํวิธาย เอกํ นาวํ 29 อภิรุเหยฺย, อุทฺธํคามินิํ วา อโธคามินิํ วา, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    ‘‘Yo pana bhikkhu bhikkhuniyā saddhiṃ saṃvidhāya ekaṃ nāvaṃ30abhiruheyya, uddhaṃgāminiṃ vā adhogāminiṃvā, pācittiya’’nti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๑๘๗. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ สาเกตา สาวตฺถิํ อทฺธานมคฺคปฺปฎิปนฺนา โหนฺติฯ อนฺตรามเคฺค นที ตริตพฺพา 31 โหติฯ อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย เต ภิกฺขู เอตทโวจุํ – ‘‘มยมฺปิ อเยฺยหิ สทฺธิํ อุตฺตริสฺสามา’’ติฯ ‘‘น, ภคินี, กปฺปติ ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ สํวิธาย เอกํ นาวํ อภิรุหิตุํ; ตุเมฺห วา ปฐมํ อุตฺตรถ มยํ วา อุตฺตริสฺสามา’’ติ ฯ ‘‘อยฺยา, ภเนฺต, อคฺคปุริสาฯ อยฺยาว ปฐมํ อุตฺตรนฺตู’’ติฯ อถ โข ตาสํ ภิกฺขุนีนํ ปจฺฉา อุตฺตรนฺตีนํ โจรา อจฺฉินฺทิํสุ จ ทูเสสุญฺจ ฯ อถ โข ตา ภิกฺขุนิโย สาวตฺถิํ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ภิกฺขุนิโย ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติริยํ ตรณาย ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ สํวิธาย เอกํ นาวํ อภิรุหิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    187. Tena kho pana samayena sambahulā bhikkhū ca bhikkhuniyo ca sāketā sāvatthiṃ addhānamaggappaṭipannā honti. Antarāmagge nadī taritabbā 32 hoti. Atha kho tā bhikkhuniyo te bhikkhū etadavocuṃ – ‘‘mayampi ayyehi saddhiṃ uttarissāmā’’ti. ‘‘Na, bhaginī, kappati bhikkhuniyā saddhiṃ saṃvidhāya ekaṃ nāvaṃ abhiruhituṃ; tumhe vā paṭhamaṃ uttaratha mayaṃ vā uttarissāmā’’ti . ‘‘Ayyā, bhante, aggapurisā. Ayyāva paṭhamaṃ uttarantū’’ti. Atha kho tāsaṃ bhikkhunīnaṃ pacchā uttarantīnaṃ corā acchindiṃsu ca dūsesuñca . Atha kho tā bhikkhuniyo sāvatthiṃ gantvā bhikkhunīnaṃ etamatthaṃ ārocesuṃ. Bhikkhuniyo bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesuṃ. Bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, tiriyaṃ taraṇāya bhikkhuniyā saddhiṃ saṃvidhāya ekaṃ nāvaṃ abhiruhituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๑๘๘. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ สํวิธาย เอกํ นาวํ อภิรุเหยฺย อุทฺธํคามินิํ วา อโธคามินิํ วา, อญฺญตฺร ติริยํ ตรณาย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    188.‘‘Yo pana bhikkhu bhikkhuniyā saddhiṃ saṃvidhāya ekaṃ nāvaṃ abhiruheyya uddhaṃgāminiṃ vā adhogāminiṃ vā, aññatra tiriyaṃ taraṇāya, pācittiya’’nti.

    ๑๘๙. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    189.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    ภิกฺขุนี นาม อุภโตสเงฺฆ อุปสมฺปนฺนา ฯ

    Bhikkhunī nāma ubhatosaṅghe upasampannā .

    สทฺธินฺติ เอกโตฯ

    Saddhinti ekato.

    สํวิธายาติ ‘‘อภิรุหาม, ภคินิ, อภิรุหามายฺย; อภิรุหามายฺย, อภิรุหาม, ภคินิ; อชฺช วา หิโยฺย วา ปเร วา อภิรุหามา’’ติ สํวิทหติ อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Saṃvidhāyāti ‘‘abhiruhāma, bhagini, abhiruhāmāyya; abhiruhāmāyya, abhiruhāma, bhagini; ajja vā hiyyo vā pare vā abhiruhāmā’’ti saṃvidahati āpatti dukkaṭassa.

    ภิกฺขุนิยา อภิรุเฬฺห ภิกฺขุ อภิรุหติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ภิกฺขุมฺหิ อภิรุเฬฺห ภิกฺขุนี อภิรุหติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อุโภ วา อภิรุหนฺติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Bhikkhuniyā abhiruḷhe bhikkhu abhiruhati, āpatti pācittiyassa. Bhikkhumhi abhiruḷhe bhikkhunī abhiruhati, āpatti pācittiyassa. Ubho vā abhiruhanti, āpatti pācittiyassa.

    อุทฺธํคามินินฺติ อุชฺชวนิกายฯ

    Uddhaṃgāmininti ujjavanikāya.

    อโธคามินินฺติ โอชวนิกายฯ

    Adhogāmininti ojavanikāya.

    อญฺญตฺร ติริยํ ตรณายาติ ฐเปตฺวา ติริยํ ตรณํฯ

    Aññatra tiriyaṃ taraṇāyāti ṭhapetvā tiriyaṃ taraṇaṃ.

    กุกฺกุฎสมฺปาเต คาเม, คามนฺตเร คามนฺตเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อคามเก อรเญฺญ, อฑฺฒโยชเน อฑฺฒโยชเน อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Kukkuṭasampāte gāme, gāmantare gāmantare āpatti pācittiyassa. Agāmake araññe, aḍḍhayojane aḍḍhayojane āpatti pācittiyassa.

    ๑๙๐. สํวิทหิเต สํวิทหิตสญฺญี เอกํ นาวํ อภิรุหติ อุทฺธํคามินิํ วา อโธคามินิํ วา, อญฺญตฺร ติริยํ ตรณาย , อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สํวิทหิเต เวมติโก เอกํ นาวํ อภิรุหติ อุทฺธํคามินิํ วา อโธคามินิํ วา, อญฺญตฺร ติริยํ ตรณาย, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สํวิทหิเต อสํวิทหิตสญฺญี เอกํ นาวํ อภิรุหติ อุทฺธํคามินิํ วา อโธคามินิํ วา, อญฺญตฺร ติริยํ ตรณาย, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    190. Saṃvidahite saṃvidahitasaññī ekaṃ nāvaṃ abhiruhati uddhaṃgāminiṃ vā adhogāminiṃ vā, aññatra tiriyaṃ taraṇāya , āpatti pācittiyassa. Saṃvidahite vematiko ekaṃ nāvaṃ abhiruhati uddhaṃgāminiṃ vā adhogāminiṃ vā, aññatra tiriyaṃ taraṇāya, āpatti pācittiyassa. Saṃvidahite asaṃvidahitasaññī ekaṃ nāvaṃ abhiruhati uddhaṃgāminiṃ vā adhogāminiṃ vā, aññatra tiriyaṃ taraṇāya, āpatti pācittiyassa.

    ภิกฺขุ สํวิทหติ, ภิกฺขุนี น สํวิทหติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อสํวิทหิเต สํวิทหิตสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อสํวิทหิเต เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อสํวิทหิเต, อสํวิทหิตสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Bhikkhu saṃvidahati, bhikkhunī na saṃvidahati, āpatti dukkaṭassa. Asaṃvidahite saṃvidahitasaññī, āpatti dukkaṭassa. Asaṃvidahite vematiko, āpatti dukkaṭassa. Asaṃvidahite, asaṃvidahitasaññī, anāpatti.

    ๑๙๑. อนาปตฺติ ติริยํ ตรณาย, อสํวิทหิตฺวา อภิรุหนฺติ, ภิกฺขุนี สํวิทหติ, ภิกฺขุ น สํวิทหติ, วิสเงฺกเตน อภิรุหนฺติ, อาปทาสุ อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิสฺสาติฯ

    191. Anāpatti tiriyaṃ taraṇāya, asaṃvidahitvā abhiruhanti, bhikkhunī saṃvidahati, bhikkhu na saṃvidahati, visaṅketena abhiruhanti, āpadāsu ummattakassa, ādikammissāti.

    นาวาภิรุหนสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ อฎฺฐมํฯ

    Nāvābhiruhanasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ aṭṭhamaṃ.

    ๙. ปริปาจิตสิกฺขาปทํ

    9. Paripācitasikkhāpadaṃ

    ๑๙๒. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน ถุลฺลนนฺทา ภิกฺขุนี อญฺญตรสฺส กุลสฺส กุลูปิกา โหติ นิจฺจภตฺติกาฯ เตน จ คหปตินา เถรา ภิกฺขู นิมนฺติตา โหนฺติฯ อถ โข ถุลฺลนนฺทา ภิกฺขุนี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ตํ กุลํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ คหปติํ เอตทโวจ – ‘‘กิมิทํ, คหปติ, ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฎิยตฺต’’นฺติ? ‘‘เถรา มยา, อเยฺย, นิมนฺติตา’’ติฯ ‘‘เก ปน เต, คหปติ, เถรา’’ติ? ‘‘อโยฺย สาริปุโตฺต อโยฺย มหาโมคฺคลฺลาโน อโยฺย มหากจฺจาโน อโยฺย มหาโกฎฺฐิโก อโยฺย มหากปฺปิโน อโยฺย มหาจุโนฺท อโยฺย อนุรุโทฺธ อโยฺย เรวโต อโยฺย อุปาลิ อโยฺย อานโนฺท อโยฺย ราหุโล’’ติฯ ‘‘กิํ ปน ตฺวํ, คหปติ, มหานาเค ติฎฺฐมาเน เจฎเก นิมเนฺตสี’’ติ?

    192. Tena samayena buddho bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Tena kho pana samayena thullanandā bhikkhunī aññatarassa kulassa kulūpikā hoti niccabhattikā. Tena ca gahapatinā therā bhikkhū nimantitā honti. Atha kho thullanandā bhikkhunī pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena taṃ kulaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ gahapatiṃ etadavoca – ‘‘kimidaṃ, gahapati, pahūtaṃ khādanīyaṃ bhojanīyaṃ paṭiyatta’’nti? ‘‘Therā mayā, ayye, nimantitā’’ti. ‘‘Ke pana te, gahapati, therā’’ti? ‘‘Ayyo sāriputto ayyo mahāmoggallāno ayyo mahākaccāno ayyo mahākoṭṭhiko ayyo mahākappino ayyo mahācundo ayyo anuruddho ayyo revato ayyo upāli ayyo ānando ayyo rāhulo’’ti. ‘‘Kiṃ pana tvaṃ, gahapati, mahānāge tiṭṭhamāne ceṭake nimantesī’’ti?

    ‘‘เก ปน เต, อเยฺย, มหานาคา’’ติ? ‘‘อโยฺย เทวทโตฺต อโยฺย โกกาลิโก อโยฺย กฎโมทกติสฺสโก 33 อโยฺย ขณฺฑเทวิยา ปุโตฺต อโยฺย สมุทฺททโตฺต’’ติฯ อยํ จรหิ ถุลฺลนนฺทาย ภิกฺขุนิยา อนฺตรา กถา วิปฺปกตา, อถ เต เถรา ภิกฺขู ปวิสิํสุฯ ‘‘สจฺจํ มหานาคา โข ตยา, คหปติ, นิมนฺติตา’’ติฯ ‘‘อิทาเนว โข ตฺวํ, อเยฺย, เจฎเก อกาสิ; อิทานิ มหานาเค’’ติฯ ฆรโต จ นิกฺกฑฺฒิ, นิจฺจภตฺตญฺจ ปจฺฉินฺทิฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม เทวทโตฺต ชานํ ภิกฺขุนิปริปาจิตํ ปิณฺฑปาตํ ภุญฺชิสฺสตี’’ติ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, เทวทตฺต, ชานํ ภิกฺขุนิปริปาจิตํ ปิณฺฑปาตํ ภุญฺชสี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, ชานํ ภิกฺขุนิปริปาจิตํ ปิณฺฑปาตํ ภุญฺชิสฺสสิฯ เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    ‘‘Ke pana te, ayye, mahānāgā’’ti? ‘‘Ayyo devadatto ayyo kokāliko ayyo kaṭamodakatissako 34 ayyo khaṇḍadeviyā putto ayyo samuddadatto’’ti. Ayaṃ carahi thullanandāya bhikkhuniyā antarā kathā vippakatā, atha te therā bhikkhū pavisiṃsu. ‘‘Saccaṃ mahānāgā kho tayā, gahapati, nimantitā’’ti. ‘‘Idāneva kho tvaṃ, ayye, ceṭake akāsi; idāni mahānāge’’ti. Gharato ca nikkaḍḍhi, niccabhattañca pacchindi. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma devadatto jānaṃ bhikkhuniparipācitaṃ piṇḍapātaṃ bhuñjissatī’’ti…pe… ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, devadatta, jānaṃ bhikkhuniparipācitaṃ piṇḍapātaṃ bhuñjasī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, jānaṃ bhikkhuniparipācitaṃ piṇḍapātaṃ bhuñjissasi. Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ชานํ ภิกฺขุนิปริปาจิตํ ปิณฺฑปาตํ ภุเญฺชยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    ‘‘Yopana bhikkhu jānaṃ bhikkhuniparipācitaṃ piṇḍapātaṃ bhuñjeyya, pācittiya’’nti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๑๙๓. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ราชคหา ปพฺพชิโต ญาติกุลํ อคมาสิฯ มนุสฺสา – ‘‘จิรสฺสมฺปิ ภทโนฺต อาคโต’’ติ สกฺกจฺจํ ภตฺตํ อกํสุฯ ตสฺส กุลสฺส กุลูปิกา ภิกฺขุนี เต มนุเสฺส เอตทโวจ – ‘‘เทถยฺยสฺส, อาวุโส, ภตฺต’’นฺติฯ อถ โข โส ภิกฺขุ – ‘‘ภควตา ปฎิกฺขิตฺตํ ชานํ ภิกฺขุนิปริปาจิตํ ปิณฺฑปาตํ ภุญฺชิตุ’’นฺติ กุกฺกุจฺจายโนฺต น ปฎิคฺคเหสิฯ นาสกฺขิ ปิณฺฑาย จริตุํ, ฉินฺนภโตฺต อโหสิฯ อถ โข โส ภิกฺขุ อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปุเพฺพ คิหิสมารเมฺภ ชานํ ภิกฺขุนิปริปาจิตํ ปิณฺฑปาตํ ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    193. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu rājagahā pabbajito ñātikulaṃ agamāsi. Manussā – ‘‘cirassampi bhadanto āgato’’ti sakkaccaṃ bhattaṃ akaṃsu. Tassa kulassa kulūpikā bhikkhunī te manusse etadavoca – ‘‘dethayyassa, āvuso, bhatta’’nti. Atha kho so bhikkhu – ‘‘bhagavatā paṭikkhittaṃ jānaṃ bhikkhuniparipācitaṃ piṇḍapātaṃ bhuñjitu’’nti kukkuccāyanto na paṭiggahesi. Nāsakkhi piṇḍāya carituṃ, chinnabhatto ahosi. Atha kho so bhikkhu ārāmaṃ gantvā bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, pubbe gihisamārambhe jānaṃ bhikkhuniparipācitaṃ piṇḍapātaṃ bhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๑๙๔. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ชานํ ภิกฺขุนิปริปาจิตํ ปิณฺฑปาตํ ภุเญฺชยฺย, อญฺญตฺร ปุเพฺพ คิหิสมารมฺภา, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    194.‘‘Yo pana bhikkhu jānaṃ bhikkhuniparipācitaṃ piṇḍapātaṃ bhuñjeyya, aññatra pubbe gihisamārambhā, pācittiya’’nti.

    ๑๙๕. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    195.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    ชานาติ นาม สามํ วา ชานาติ อเญฺญ วา ตสฺส อาโรเจนฺติ สา วา อาโรเจติฯ

    Jānāti nāma sāmaṃ vā jānāti aññe vā tassa ārocenti sā vā āroceti.

    ภิกฺขุนี นาม อุภโตสเงฺฆ อุปสมฺปนฺนาฯ

    Bhikkhunī nāma ubhatosaṅghe upasampannā.

    ปริปาเจติ นาม ปุเพฺพ อทาตุกามานํ อกตฺตุกามานํ – ‘‘อโยฺย ภาณโก, อโยฺย พหุสฺสุโต, อโยฺย สุตฺตนฺติโก, อโยฺย วินยธโร, อโยฺย ธมฺมกถิโก, เทถ อยฺยสฺส, กโรถ อยฺยสฺสา’’ติ เอสา ปริปาเจติ นามฯ

    Paripāceti nāma pubbe adātukāmānaṃ akattukāmānaṃ – ‘‘ayyo bhāṇako, ayyo bahussuto, ayyo suttantiko, ayyo vinayadharo, ayyo dhammakathiko, detha ayyassa, karotha ayyassā’’ti esā paripāceti nāma.

    ปิณฺฑปาโต นาม ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตรํ โภชนํฯ

    Piṇḍapāto nāma pañcannaṃ bhojanānaṃ aññataraṃ bhojanaṃ.

    อญฺญตฺร ปุเพฺพ คิหิสมารมฺภาติ ฐเปตฺวา คิหิสมารมฺภํฯ

    Aññatra pubbe gihisamārambhāti ṭhapetvā gihisamārambhaṃ.

    คิหิสมารโมฺภ นาม ญาตกา วา โหนฺติ ปวาริตา วา ปกติปฎิยตฺตํ วาฯ

    Gihisamārambho nāma ñātakā vā honti pavāritā vā pakatipaṭiyattaṃ vā.

    อญฺญตฺร ปุเพฺพ คิหิสมารมฺภา ภุญฺชิสฺสามีติ ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Aññatra pubbe gihisamārambhā bhuñjissāmīti paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa. Ajjhohāre ajjhohāre, āpatti pācittiyassa.

    ๑๙๖. ปริปาจิเต ปริปาจิตสญฺญี ภุญฺชติ, อญฺญตฺร ปุเพฺพ คิหิสมารมฺภา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ปริปาจิเต เวมติโก ภุญฺชติ, อญฺญตฺร ปุเพฺพ คิหิสมารมฺภา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปริปาจิเต อปริปาจิตสญฺญี ภุญฺชติ, อญฺญตฺร ปุเพฺพ คิหิสมารมฺภา, อนาปตฺติฯ เอกโตอุปสมฺปนฺนาย ปริปาจิตํ ภุญฺชติ, อญฺญตฺร ปุเพฺพ คิหิสมารมฺภา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อปริปาจิเต ปริปาจิตสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อปริปาจิเตฺต เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อปริปาจิเต อปริปาจิตสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    196. Paripācite paripācitasaññī bhuñjati, aññatra pubbe gihisamārambhā, āpatti pācittiyassa. Paripācite vematiko bhuñjati, aññatra pubbe gihisamārambhā, āpatti dukkaṭassa. Paripācite aparipācitasaññī bhuñjati, aññatra pubbe gihisamārambhā, anāpatti. Ekatoupasampannāya paripācitaṃ bhuñjati, aññatra pubbe gihisamārambhā, āpatti dukkaṭassa. Aparipācite paripācitasaññī, āpatti dukkaṭassa. Aparipācitte vematiko, āpatti dukkaṭassa. Aparipācite aparipācitasaññī, anāpatti.

    ๑๙๗. อนาปตฺติ ปุเพฺพ คิหิสมารเมฺภ, สิกฺขมานา ปริปาเจติ, สามเณรี ปริปาเจติ, ปญฺจ โภชนานิ ฐเปตฺวา สพฺพตฺถ อนาปตฺติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    197. Anāpatti pubbe gihisamārambhe, sikkhamānā paripāceti, sāmaṇerī paripāceti, pañca bhojanāni ṭhapetvā sabbattha anāpatti, ummattakassa, ādikammikassāti.

    ปริปาจิตสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ นวมํฯ

    Paripācitasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ navamaṃ.

    ๑๐. รโหนิสชฺชสิกฺขาปทํ

    10. Rahonisajjasikkhāpadaṃ

    ๑๙๘. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อุทายิสฺส ปุราณทุติยิกา ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตา โหติฯ สา อายสฺมโต อุทายิสฺส สนฺติเก อภิกฺขณํ อาคจฺฉติ, อายสฺมาปิ อุทายี ตสฺสา ภิกฺขุนิยา สนฺติเก อภิกฺขณํ คจฺฉติฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุทายี ตสฺสา ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปสิฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา อุทายี ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปสฺสตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตฺวํ, อุทายิ, ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปสีติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    198. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmato udāyissa purāṇadutiyikā bhikkhunīsu pabbajitā hoti. Sā āyasmato udāyissa santike abhikkhaṇaṃ āgacchati, āyasmāpi udāyī tassā bhikkhuniyā santike abhikkhaṇaṃ gacchati. Tena kho pana samayena āyasmā udāyī tassā bhikkhuniyā saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappesi. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā udāyī bhikkhuniyā saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappessatī’’ti…pe… saccaṃ kira tvaṃ, udāyi, bhikkhuniyā saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappesīti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, bhikkhuniyā saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappessasi! Netaṃ, moghapurisa appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๑๙๙. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กเปฺปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    199.‘‘Yo pana bhikkhu bhikkhuniyā saddhiṃ eko ekāya raho nisajjaṃ kappeyya, pācittiya’’nti.

    ๒๐๐. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    200.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    ภิกฺขุนี นาม อุภโตสเงฺฆ อุปสมฺปนฺนา ฯ

    Bhikkhunī nāma ubhatosaṅghe upasampannā .

    สทฺธินฺติ เอกโตฯ

    Saddhinti ekato.

    เอโก เอกายาติ ภิกฺขุ เจว โหติ ภิกฺขุนี จฯ

    Eko ekāyāti bhikkhu ceva hoti bhikkhunī ca.

    35 รโห นาม จกฺขุสฺส รโห โสตสฺส รโหฯ จกฺขุสฺส รโห นาม น สกฺกา โหติ อกฺขิํ วา นิขณียมาเน ภมุกํ วา อุกฺขิปียมาเน สีสํ วา อุกฺขิปียมาเน ปสฺสิตุํฯ โสตสฺส รโห นาม น สกฺกา โหติ ปกติกถา โสตุํฯ

    36Raho nāma cakkhussa raho sotassa raho. Cakkhussa raho nāma na sakkā hoti akkhiṃ vā nikhaṇīyamāne bhamukaṃ vā ukkhipīyamāne sīsaṃ vā ukkhipīyamāne passituṃ. Sotassa raho nāma na sakkā hoti pakatikathā sotuṃ.

    นิสชฺชํ กเปฺปยฺยาติ ภิกฺขุนิยา นิสินฺนาย ภิกฺขุ อุปนิสิโนฺน วา โหติ อุปนิปโนฺน วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Nisajjaṃkappeyyāti bhikkhuniyā nisinnāya bhikkhu upanisinno vā hoti upanipanno vā, āpatti pācittiyassa.

    ภิกฺขุ นิสิเนฺน ภิกฺขุนี อุปนิสินฺนา วา โหติ อุปนิปนฺนา วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อุโภ วา นิสินฺนา โหนฺติ อุโภ วา นิปนฺนา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Bhikkhu nisinne bhikkhunī upanisinnā vā hoti upanipannā vā, āpatti pācittiyassa. Ubho vā nisinnā honti ubho vā nipannā, āpatti pācittiyassa.

    ๒๐๑. รโห รโหสญฺญี เอโก เอกาย นิสชฺชํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ รโห เวมติโก เอโก เอกาย นิสชฺชํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ รโห อรโหสญฺญี เอโก เอกาย นิสชฺชํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    201. Raho rahosaññī eko ekāya nisajjaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa. Raho vematiko eko ekāya nisajjaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa. Raho arahosaññī eko ekāya nisajjaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa.

    อรโห รโหสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อรโห เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อรโห อรโหสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Araho rahosaññī, āpatti dukkaṭassa. Araho vematiko, āpatti dukkaṭassa. Araho arahosaññī, anāpatti.

    ๒๐๒. อนาปตฺติ โย โกจิ วิญฺญู ทุติโย โหติ, ติฎฺฐติ น นิสีทติ, อรโหเปโกฺข, อญฺญวิหิโต นิสีทติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    202. Anāpatti yo koci viññū dutiyo hoti, tiṭṭhati na nisīdati, arahopekkho, aññavihito nisīdati, ummattakassa, ādikammikassāti.

    รโหนิสชฺชสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ทสมํฯ

    Rahonisajjasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ dasamaṃ.

    โอวาทวโคฺค ตติโยฯ

    Ovādavaggo tatiyo.

    ตสฺสุทฺทานํ –

    Tassuddānaṃ –

    อสมฺมตอตฺถงฺคตู , ปสฺสยามิสทาเนน;

    Asammataatthaṅgatū , passayāmisadānena;

    สิพฺพติ อทฺธานํ นาวํ ภุเญฺชยฺย, เอโก เอกาย เต ทสาติฯ

    Sibbati addhānaṃ nāvaṃ bhuñjeyya, eko ekāya te dasāti.







    Footnotes:
    1. ปน ตํ (?)
    2. pana taṃ (?)
    3. นิยฺยาเตตโพฺพ (อิติปิ)
    4. ปจฺจาสิํสิตพฺพา (อิติปิ)
    5. niyyātetabbo (itipi)
    6. paccāsiṃsitabbā (itipi)
    7. อุทา. ๓๗
    8. udā. 37
    9. ตเญฺญว (อิติปิ)
    10. taññeva (itipi)
    11. ยํ หิ (ก.)
    12. ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขุนิโย โอวาทํ น คจฺฉิสฺสนฺตีติ (สี.)
    13. yaṃ hi (ka.)
    14. chabbaggiyā bhikkhuniyo ovādaṃ na gacchissantīti (sī.)
    15. ปฎิวิํโส (สี.), ปฎิวิโส (อิติปิ)
    16. paṭiviṃso (sī.), paṭiviso (itipi)
    17. ปาริวฎฺฎกํ (อิติปิ)
    18. pārivaṭṭakaṃ (itipi)
    19. วิกปฺปนุปคปจฺฉิมํ (สี.)
    20. vikappanupagapacchimaṃ (sī.)
    21. ปโฎฺฐ (สี. สฺยา.)
    22. paṭṭho (sī. syā.)
    23. ยสฺมิํ มเคฺค (?)
    24. yasmiṃ magge (?)
    25. เอกนาวํ (สฺยา.)
    26. เอกนาวาย (สฺยา.)
    27. ekanāvaṃ (syā.)
    28. ekanāvāya (syā.)
    29. เอกนาวํ (สฺยา.)
    30. ekanāvaṃ (syā.)
    31. อุตฺตริตพฺพา (สฺยา.)
    32. uttaritabbā (syā.)
    33. กฎโมรกติสฺสโก (สี.) กตโมรกติสฺสโก (สฺยา.)
    34. kaṭamorakatissako (sī.) katamorakatissako (syā.)
    35. ปาจิ. ๒๘๖, ๒๙๑; ปารา. ๔๔๕,๔๕๔
    36. pāci. 286, 291; pārā. 445,454



    Related texts:




    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact