Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi

    ๕. ปพฺพตงฺคปโญฺห

    5. Pabbataṅgapañho

    . ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ‘ปพฺพตสฺส ปญฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปญฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปพฺพโต อจโล อกมฺปิโต 1 อสมฺปเวธี, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สมฺมานเน วิมานเน สกฺกาเร อสกฺกาเร ครุกาเร อครุกาเร ยเส อยเส นินฺทาย ปสํสาย สุเข ทุเกฺข อิฎฺฐานิเฎฺฐสุ สพฺพตฺถ รูปสทฺทคนฺธรสโผฎฺฐพฺพธเมฺมสุ รชนีเยสุ น รชฺชิตพฺพํ, ทุสฺสนีเยสุ น ทุสฺสิตพฺพํ, มุยฺหนีเยสุ น มุยฺหิตพฺพํ, น กมฺปิตพฺพํ น จลิตพฺพํ, ปพฺพเตน วิย อจเลน ภวิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, ปพฺพตสฺส ปฐมํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –

    5. ‘‘Bhante nāgasena, ‘pabbatassa pañca aṅgāni gahetabbānī’ti yaṃ vadesi, katamāni tāni pañca aṅgāni gahetabbānī’’ti ? ‘‘Yathā, mahārāja, pabbato acalo akampito 2 asampavedhī, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena sammānane vimānane sakkāre asakkāre garukāre agarukāre yase ayase nindāya pasaṃsāya sukhe dukkhe iṭṭhāniṭṭhesu sabbattha rūpasaddagandharasaphoṭṭhabbadhammesu rajanīyesu na rajjitabbaṃ, dussanīyesu na dussitabbaṃ, muyhanīyesu na muyhitabbaṃ, na kampitabbaṃ na calitabbaṃ, pabbatena viya acalena bhavitabbaṃ. Idaṃ, mahārāja, pabbatassa paṭhamaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ. Bhāsitampetaṃ, mahārāja, bhagavatā devātidevena –

    ‘‘‘เสโล ยถา เอกฆโน 3, วาเตน น สมีรติ;

    ‘‘‘Selo yathā ekaghano 4, vātena na samīrati;

    เอวํ นินฺทาปสํสาสุ, น สมิญฺชนฺติ ปณฺฑิตา’ติฯ

    Evaṃ nindāpasaṃsāsu, na samiñjanti paṇḍitā’ti.

    ‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปพฺพโต ถโทฺธ น เกนจิ สํสโฎฺฐ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ถเทฺธน อสํสเฎฺฐน ภวิตพฺพํ, น เกนจิ สํสโคฺค กรณีโยฯ อิทํ, มหาราช, ปพฺพตสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –

    ‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, pabbato thaddho na kenaci saṃsaṭṭho, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena thaddhena asaṃsaṭṭhena bhavitabbaṃ, na kenaci saṃsaggo karaṇīyo. Idaṃ, mahārāja, pabbatassa dutiyaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ. Bhāsitampetaṃ, mahārāja, bhagavatā devātidevena –

    ‘‘‘อสํสฎฺฐํ คหเฎฺฐหิ, อนาคาเรหิ จูภยํ;

    ‘‘‘Asaṃsaṭṭhaṃ gahaṭṭhehi, anāgārehi cūbhayaṃ;

    อโนกสาริมปฺปิจฺฉํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณ’นฺติฯ

    Anokasārimappicchaṃ, tamahaṃ brūmi brāhmaṇa’nti.

    ‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปพฺพเต พีชํ น วิรูหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สกมานเส กิเลสา น วิรูหาเปตพฺพาฯ อิทํ, มหาราช, ปพฺพตสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, เถเรน สุภูตินา –

    ‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, pabbate bījaṃ na virūhati, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena sakamānase kilesā na virūhāpetabbā. Idaṃ, mahārāja, pabbatassa tatiyaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ. Bhāsitampetaṃ, mahārāja, therena subhūtinā –

    ‘‘‘ราคูปสํหิตํ จิตฺตํ, ยทา อุปฺปชฺชเต มม;

    ‘‘‘Rāgūpasaṃhitaṃ cittaṃ, yadā uppajjate mama;

    สยํว ปจฺจเวกฺขามิ 5, เอกโคฺค 6 ตํ ทเมมหํฯ

    Sayaṃva paccavekkhāmi 7, ekaggo 8 taṃ damemahaṃ.

    ‘‘‘รชฺชเส 9 รชนีเย จ, ทุสฺสนีเย จ ทุสฺสเส;

    ‘‘‘Rajjase 10 rajanīye ca, dussanīye ca dussase;

    มุยฺหเส 11 โมหนีเย จ, นิกฺขมสฺสุ วนา ตุวํฯ

    Muyhase 12 mohanīye ca, nikkhamassu vanā tuvaṃ.

    ‘‘‘วิสุทฺธานํ อยํ วาโส, นิมฺมลานํ ตปสฺสินํ;

    ‘‘‘Visuddhānaṃ ayaṃ vāso, nimmalānaṃ tapassinaṃ;

    มา โข วิสุทฺธํ ทูเสสิ, นิกฺขมสฺสุ วนา ตุว’นฺติฯ

    Mā kho visuddhaṃ dūsesi, nikkhamassu vanā tuva’nti.

    ‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปพฺพโต อจฺจุคฺคโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ญาณจฺจุคฺคเตน ภวิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, ปพฺพตสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –

    ‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, pabbato accuggato, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena ñāṇaccuggatena bhavitabbaṃ. Idaṃ, mahārāja, pabbatassa catutthaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ. Bhāsitampetaṃ, mahārāja, bhagavatā devātidevena –

    ‘‘‘ปมาทํ อปฺปมาเทน, ยทา นุทติ ปณฺฑิโต;

    ‘‘‘Pamādaṃ appamādena, yadā nudati paṇḍito;

    ปญฺญาปาสาทมารุยฺห, อโสโก โสกินิํ ปชํ;

    Paññāpāsādamāruyha, asoko sokiniṃ pajaṃ;

    ปพฺพตโฎฺฐว ภูมเฎฺฐ 13, ธีโร พาเล อเวกฺขตี’ติฯ

    Pabbataṭṭhova bhūmaṭṭhe 14, dhīro bāle avekkhatī’ti.

    ‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปพฺพโต อนุนฺนโต อโนนโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อุนฺนตาวนติ น กรณียาฯ อิทํ, มหาราช, ปพฺพตสฺส ปญฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, อุปาสิกาย จูฬสุภทฺทาย สกสมเณ ปริกิตฺตยมานาย –

    ‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, pabbato anunnato anonato, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena unnatāvanati na karaṇīyā. Idaṃ, mahārāja, pabbatassa pañcamaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ. Bhāsitampetaṃ, mahārāja, upāsikāya cūḷasubhaddāya sakasamaṇe parikittayamānāya –

    ‘‘‘ลาเภน อุนฺนโต โลโก, อลาเภน จ โอนโต;

    ‘‘‘Lābhena unnato loko, alābhena ca onato;

    ลาภาลาเภน เอกตฺถา 15, ตาทิสา สมณา มมา’’’ติฯ

    Lābhālābhena ekatthā 16, tādisā samaṇā mamā’’’ti.

    ปพฺพตงฺคปโญฺห ปญฺจโมฯ

    Pabbataṅgapañho pañcamo.







    Footnotes:
    1. อกมฺปิโย (สี. ปี.)
    2. akampiyo (sī. pī.)
    3. เอกคฺฆโน (ก.) ธ. ป. ๘๑ ธมฺมปเท
    4. ekagghano (ka.) dha. pa. 81 dhammapade
    5. ปจฺจเวกฺขิตฺวา (สพฺพตฺถ)
    6. เอกโก (สพฺพตฺถ)
    7. paccavekkhitvā (sabbattha)
    8. ekako (sabbattha)
    9. รชฺชสิ (สี.), รญฺชสิ (ปี.)
    10. rajjasi (sī.), rañjasi (pī.)
    11. มุยฺหสิ (สี.)
    12. muyhasi (sī.)
    13. ภุมฺมเฎฺฐ (สี. ปี.)
    14. bhummaṭṭhe (sī. pī.)
    15. เอกฎฺฐา (สี. ปี.)
    16. ekaṭṭhā (sī. pī.)

    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact