Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กถาวตฺถุปาฬิ • Kathāvatthupāḷi |
๑๕. ปนฺนรสมวโคฺค
15. Pannarasamavaggo
(๑๔๕) ๑. ปจฺจยตากถา
(145) 1. Paccayatākathā
๗๑๑. ปจฺจยตา ววตฺถิตาติ? อามนฺตาฯ นนุ วีมํสา เหตุ, โส จ อธิปตีติ? อามนฺตา ฯ หญฺจิ วีมํสา เหตุ, โส จ อธิปติ, เตน วต เร วตฺตเพฺพ – ‘‘เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย, อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติฯ
711. Paccayatā vavatthitāti? Āmantā. Nanu vīmaṃsā hetu, so ca adhipatīti? Āmantā . Hañci vīmaṃsā hetu, so ca adhipati, tena vata re vattabbe – ‘‘hetupaccayena paccayo, adhipatipaccayena paccayo’’ti.
นนุ ฉนฺทาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปตีติ? อามนฺตาฯ หญฺจิ ฉนฺทาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปติ, เตน วต เร วตฺตเพฺพ – ‘‘อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย, สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติฯ
Nanu chandādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipatīti? Āmantā. Hañci chandādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipati, tena vata re vattabbe – ‘‘adhipatipaccayena paccayo, sahajātapaccayena paccayo’’ti.
๗๑๒. นนุ วีริยาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปตีติ? อามนฺตาฯ หญฺจิ วีริยาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปติ, เตน วต เร วตฺตเพฺพ – ‘‘อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย, สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติฯ
712. Nanu vīriyādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipatīti? Āmantā. Hañci vīriyādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipati, tena vata re vattabbe – ‘‘adhipatipaccayena paccayo, sahajātapaccayena paccayo’’ti.
นนุ วีริยาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปติ, ตญฺจ อินฺทฺริยนฺติ? อามนฺตาฯ หญฺจิ วีริยาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปติ, ตญฺจ อินฺทฺริยํ, เตน วต เร วตฺตเพฺพ – ‘‘อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย, อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติฯ
Nanu vīriyādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipati, tañca indriyanti? Āmantā. Hañci vīriyādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipati, tañca indriyaṃ, tena vata re vattabbe – ‘‘adhipatipaccayena paccayo, indriyapaccayena paccayo’’ti.
นนุ วีริยาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปติ, ตญฺจ มคฺคงฺคนฺติ? อามนฺตาฯ หญฺจิ วีริยาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปติ, ตญฺจ มคฺคงฺคํ, เตน วต เร วตฺตเพฺพ – ‘‘อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย, มคฺคปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติฯ
Nanu vīriyādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipati, tañca maggaṅganti? Āmantā. Hañci vīriyādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipati, tañca maggaṅgaṃ, tena vata re vattabbe – ‘‘adhipatipaccayena paccayo, maggapaccayena paccayo’’ti.
๗๑๓. นนุ จิตฺตาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปตีติ? อามนฺตา ฯ หญฺจิ จิตฺตาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปติ, เตน วต เร วตฺตเพฺพ – ‘‘อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย, สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติฯ
713. Nanu cittādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipatīti? Āmantā . Hañci cittādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipati, tena vata re vattabbe – ‘‘adhipatipaccayena paccayo, sahajātapaccayena paccayo’’ti.
นนุ จิตฺตาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปติ, โส จ อาหาโรติ? อามนฺตาฯ หญฺจิ จิตฺตาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปติ, โส จ อาหาโร, เตน วต เร วตฺตเพฺพ – ‘‘อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย, อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติฯ
Nanu cittādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipati, so ca āhāroti? Āmantā. Hañci cittādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipati, so ca āhāro, tena vata re vattabbe – ‘‘adhipatipaccayena paccayo, āhārapaccayena paccayo’’ti.
นนุ จิตฺตาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปติ, ตญฺจ อินฺทฺริยนฺติ? อามนฺตาฯ หญฺจิ จิตฺตาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปติ, ตญฺจ อินฺทฺริยํ, เตน วต เร วตฺตเพฺพ – ‘‘อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย, อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติฯ
Nanu cittādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipati, tañca indriyanti? Āmantā. Hañci cittādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipati, tañca indriyaṃ, tena vata re vattabbe – ‘‘adhipatipaccayena paccayo, indriyapaccayena paccayo’’ti.
๗๑๔. นนุ วีมํสาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปตีติ? อามนฺตาฯ หญฺจิ วีมํสาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปติ, เตน วต เร วตฺตเพฺพ – ‘‘อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย, สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติฯ
714. Nanu vīmaṃsādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipatīti? Āmantā. Hañci vīmaṃsādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipati, tena vata re vattabbe – ‘‘adhipatipaccayena paccayo, sahajātapaccayena paccayo’’ti.
นนุ วีมํสาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปติ, ตญฺจ อินฺทฺริยนฺติ? อามนฺตาฯ หญฺจิ วีมํสาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปติ, ตญฺจ อินฺทฺริยํ, เตน วต เร วตฺตเพฺพ – ‘‘อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย, อินฺทฺริยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติฯ
Nanu vīmaṃsādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipati, tañca indriyanti? Āmantā. Hañci vīmaṃsādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipati, tañca indriyaṃ, tena vata re vattabbe – ‘‘adhipatipaccayena paccayo, indriyapaccayena paccayo’’ti.
นนุ วีมํสาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปติ, ตญฺจ มคฺคงฺคนฺติ? อามนฺตาฯ หญฺจิ วีมํสาธิปติ สหชาตานํ ธมฺมานํ อธิปติ , ตญฺจ มคฺคงฺคํ, เตน วต เร วตฺตเพฺพ – ‘‘อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย, มคฺคปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติฯ
Nanu vīmaṃsādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipati, tañca maggaṅganti? Āmantā. Hañci vīmaṃsādhipati sahajātānaṃ dhammānaṃ adhipati , tañca maggaṅgaṃ, tena vata re vattabbe – ‘‘adhipatipaccayena paccayo, maggapaccayena paccayo’’ti.
๗๑๕. นนุ อริยํ ธมฺมํ ครุํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ ปจฺจเวกฺขณา, ตญฺจารมฺมณนฺติ? อามนฺตาฯ หญฺจิ อริยํ ธมฺมํ ครุํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ ปจฺจเวกฺขณา, ตญฺจารมฺมณํ, เตน วต เร วตฺตเพฺพ – ‘‘อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย, อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติฯ
715. Nanu ariyaṃ dhammaṃ garuṃ katvā uppajjati paccavekkhaṇā, tañcārammaṇanti? Āmantā. Hañci ariyaṃ dhammaṃ garuṃ katvā uppajjati paccavekkhaṇā, tañcārammaṇaṃ, tena vata re vattabbe – ‘‘adhipatipaccayena paccayo, ārammaṇapaccayena paccayo’’ti.
๗๑๖. นนุ ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย, สา จ อาเสวนาติ? อามนฺตาฯ หญฺจิ ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย, สา จ อาเสวนา, เตน วต เร วตฺตเพฺพ – ‘‘อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย, อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติฯ
716. Nanu purimā purimā kusalā dhammā pacchimānaṃ pacchimānaṃ kusalānaṃ dhammānaṃ anantarapaccayena paccayo, sā ca āsevanāti? Āmantā. Hañci purimā purimā kusalā dhammā pacchimānaṃ pacchimānaṃ kusalānaṃ dhammānaṃ anantarapaccayena paccayo, sā ca āsevanā, tena vata re vattabbe – ‘‘anantarapaccayena paccayo, āsevanapaccayena paccayo’’ti.
นนุ ปุริมา ปุริมา อกุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย, สา จ อาเสวนาติ? อามนฺตาฯ หญฺจิ ปุริมา ปุริมา อกุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย, สา จ อาเสวนา, เตน วต เร วตฺตเพฺพ – ‘‘อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย, อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติฯ
Nanu purimā purimā akusalā dhammā pacchimānaṃ pacchimānaṃ akusalānaṃ dhammānaṃ anantarapaccayena paccayo, sā ca āsevanāti? Āmantā. Hañci purimā purimā akusalā dhammā pacchimānaṃ pacchimānaṃ akusalānaṃ dhammānaṃ anantarapaccayena paccayo, sā ca āsevanā, tena vata re vattabbe – ‘‘anantarapaccayena paccayo, āsevanapaccayena paccayo’’ti.
นนุ ปุริมา ปุริมา กิริยาพฺยากตา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กิริยาพฺยากตานํ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย, สา จ อาเสวนาติ? อามนฺตาฯ หญฺจิ ปุริมา ปุริมา กิริยาพฺยากตา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กิริยาพฺยากตานํ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย, สา จ อาเสวนา, เตน วต เร วตฺตเพฺพ – ‘‘อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย, อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติฯ
Nanu purimā purimā kiriyābyākatā dhammā pacchimānaṃ pacchimānaṃ kiriyābyākatānaṃ dhammānaṃ anantarapaccayena paccayo, sā ca āsevanāti? Āmantā. Hañci purimā purimā kiriyābyākatā dhammā pacchimānaṃ pacchimānaṃ kiriyābyākatānaṃ dhammānaṃ anantarapaccayena paccayo, sā ca āsevanā, tena vata re vattabbe – ‘‘anantarapaccayena paccayo, āsevanapaccayena paccayo’’ti.
๗๑๗. น วตฺตพฺพํ – ‘‘ปจฺจยตา ววตฺถิตา’’ติ? อามนฺตาฯ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย โหตีติ? น เหวํ วตฺตเพฺพฯ เตน หิ ปจฺจยตา ววตฺถิตาติฯ
717. Na vattabbaṃ – ‘‘paccayatā vavatthitā’’ti? Āmantā. Hetupaccayena paccayo hoti, ārammaṇapaccayena paccayo hoti, anantarapaccayena paccayo hoti, samanantarapaccayena paccayo hotīti? Na hevaṃ vattabbe. Tena hi paccayatā vavatthitāti.
ปจฺจยตากถา นิฎฺฐิตาฯ
Paccayatākathā niṭṭhitā.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā / ๑. ปจฺจยตากถาวณฺณนา • 1. Paccayatākathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๑. ปจฺจยตากถาวณฺณนา • 1. Paccayatākathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๑. ปจฺจยตากถาวณฺณนา • 1. Paccayatākathāvaṇṇanā