Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๒. ปจฺจยเตฺถรคาถาวณฺณนา

    2. Paccayattheragāthāvaṇṇanā

    ปญฺจาหาหํ ปพฺพชิโตติ อายสฺมโต ปจฺจยเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุญฺญานิ อุปจินโนฺต อิโต เอกนวุเต กเปฺป วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต เอกทิวสํ สตฺถารํ วินตาย นาม นทิยา ตีเร คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส มนุญฺญทสฺสนานิ มหนฺตานิ อุทุมฺพรผลานิ โอจินิตฺวา อุปนาเมสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน สุคตีสุเยว สํสรโนฺต อิมสฺมิํ ภทฺทกเปฺป กสฺสเป ภควติ โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺตวรธมฺมจเกฺก เวเนยฺยชนานุคฺคหํ กโรเนฺต ตสฺส สาสเน ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ ปฎฺฐเปตฺวา ภาวนมนุยุญฺชโนฺต เอกทิวสํ สํสารทุกฺขํ จิเนฺตตฺวา

    Pañcāhāhaṃpabbajitoti āyasmato paccayattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave puññāni upacinanto ito ekanavute kappe vipassissa bhagavato kāle kulagehe nibbattitvā viññutaṃ patto ekadivasaṃ satthāraṃ vinatāya nāma nadiyā tīre gacchantaṃ disvā pasannamānaso manuññadassanāni mahantāni udumbaraphalāni ocinitvā upanāmesi. So tena puññakammena sugatīsuyeva saṃsaranto imasmiṃ bhaddakappe kassape bhagavati loke uppajjitvā pavattavaradhammacakke veneyyajanānuggahaṃ karonte tassa sāsane pabbajitvā vipassanaṃ paṭṭhapetvā bhāvanamanuyuñjanto ekadivasaṃ saṃsāradukkhaṃ cintetvā

    อติวิย สญฺชาตสํเวโค วิหาเร นิสิโนฺน ‘‘อรหตฺตํ อปฺปตฺวา อิโต น นิกฺขมิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อธิฎฺฐาย วายมโนฺต ญาณสฺส อปริปกฺกตฺตา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตุํ นาสกฺขิฯ โส กาลงฺกตฺวา เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท โรหิตนคเร ขตฺติยกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ปจฺจโยติ ลทฺธนาโม วยปฺปโตฺต ปิตุ อจฺจเยน รเชฺช ปติฎฺฐิโต เอกทิวสํ มหาราชพลิํ กาตุํ อารภิฯ ตตฺถ มหาชโน สนฺนิปติฯ ตสฺมิํ สมาคเม ตสฺส ปสาทญฺชนนตฺถํ สตฺถา มหาชนสฺส เปกฺขนฺตเสฺสว อากาเส เวสฺสวเณน นิมฺมิเต รตนมยกูฎาคาเร รตนมยสีหาสเน นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสสิฯ มหโต ชนกายสฺส ธมฺมาภิสมโย อโหสิฯ ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ปจฺจยราชาปิ รชฺชํ ปหาย ปุริมเหตุสโญฺจทิโต ปพฺพชิฯ โส ยถา กสฺสปสฺส ภควโต กาเล ปฎิญฺญํ อกาสิ, เอวํ ปฎิญฺญํ กตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา วิปสฺสนํ วเฑฺฒโนฺต ญาณสฺส ปริปากํ คตตฺตา ตาวเทว อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๓๙.๑๕-๒๐) –

    Ativiya sañjātasaṃvego vihāre nisinno ‘‘arahattaṃ appatvā ito na nikkhamissāmī’’ti cittaṃ adhiṭṭhāya vāyamanto ñāṇassa aparipakkattā vipassanaṃ ussukkāpetuṃ nāsakkhi. So kālaṅkatvā devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde rohitanagare khattiyakule nibbattitvā paccayoti laddhanāmo vayappatto pitu accayena rajje patiṭṭhito ekadivasaṃ mahārājabaliṃ kātuṃ ārabhi. Tattha mahājano sannipati. Tasmiṃ samāgame tassa pasādañjananatthaṃ satthā mahājanassa pekkhantasseva ākāse vessavaṇena nimmite ratanamayakūṭāgāre ratanamayasīhāsane nisīditvā dhammaṃ desesi. Mahato janakāyassa dhammābhisamayo ahosi. Taṃ dhammaṃ sutvā paccayarājāpi rajjaṃ pahāya purimahetusañcodito pabbaji. So yathā kassapassa bhagavato kāle paṭiññaṃ akāsi, evaṃ paṭiññaṃ katvā vihāraṃ pavisitvā vipassanaṃ vaḍḍhento ñāṇassa paripākaṃ gatattā tāvadeva arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.39.15-20) –

    ‘‘วินตานทิยา ตีเร, วิหาสิ ปุริสุตฺตโม;

    ‘‘Vinatānadiyā tīre, vihāsi purisuttamo;

    อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, เอกคฺคํ สุสมาหิตํฯ

    Addasaṃ virajaṃ buddhaṃ, ekaggaṃ susamāhitaṃ.

    ‘‘ตสฺมิํ ปสนฺนมานโส, กิเลสมลโธวเน;

    ‘‘Tasmiṃ pasannamānaso, kilesamaladhovane;

    อุทุมฺพรผลํ คยฺห, พุทฺธเสฎฺฐสฺสทาสหํฯ

    Udumbaraphalaṃ gayha, buddhaseṭṭhassadāsahaṃ.

    ‘‘เอกนวุติโต กเปฺป, ยํ ผลมททิํ ตทา;

    ‘‘Ekanavutito kappe, yaṃ phalamadadiṃ tadā;

    ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ผลทานสฺสิทํ ผลํฯ

    Duggatiṃ nābhijānāmi, phaladānassidaṃ phalaṃ.

    ‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กเปฺป, สํวิคฺคมานมานโส;

    ‘‘Imamhi bhaddake kappe, saṃviggamānamānaso;

    กสฺสปสฺส ภควโต, สาสเน ปพฺพชิํ อหํฯ

    Kassapassa bhagavato, sāsane pabbajiṃ ahaṃ.

    ‘‘ตถา ปพฺพชิโต สโนฺต, ภาวนํ อนุยุญฺชิสํ;

    ‘‘Tathā pabbajito santo, bhāvanaṃ anuyuñjisaṃ;

    น วิหารา นิกฺขมิสฺสํ, อิติ กตฺวาน มานสํฯ

    Na vihārā nikkhamissaṃ, iti katvāna mānasaṃ.

    ‘‘อุตฺตมตฺถํ อสมฺปโตฺต, น จ ปโตฺตมฺหิ ตาวเท;

    ‘‘Uttamatthaṃ asampatto, na ca pattomhi tāvade;

    อิทานิ ปน ญาณสฺส, ปริปาเกน นิพฺพุโต;

    Idāni pana ñāṇassa, paripākena nibbuto;

    ปโตฺตมฺหิ อจลํ ฐานํ, ผุสิตฺวา อจฺจุตํ ปทํฯ

    Pattomhi acalaṃ ṭhānaṃ, phusitvā accutaṃ padaṃ.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปฎิปตฺติกิตฺตนมุเขน อญฺญํ พฺยากโรโนฺต –

    Arahattaṃ pana patvā attano paṭipattikittanamukhena aññaṃ byākaronto –

    ๒๒๒.

    222.

    ‘‘ปญฺจาหาหํ ปพฺพชิโต, เสโข อปฺปตฺตมานโส;

    ‘‘Pañcāhāhaṃ pabbajito, sekho appattamānaso;

    วิหารํ เม ปวิฎฺฐสฺส, เจตโส ปณิธี อหุฯ

    Vihāraṃ me paviṭṭhassa, cetaso paṇidhī ahu.

    ๒๒๓.

    223.

    ‘‘นาสิสฺสํ น ปิวิสฺสามิ, วิหารโต น นิกฺขเม;

    ‘‘Nāsissaṃ na pivissāmi, vihārato na nikkhame;

    นปิ ปสฺสํ นิปาเตสฺสํ, ตณฺหาสเลฺล อนูหเตฯ

    Napi passaṃ nipātessaṃ, taṇhāsalle anūhate.

    ๒๒๔.

    224.

    ‘‘ตสฺส เมวํ วิหรโต, ปสฺส วีริยปรกฺกมํ;

    ‘‘Tassa mevaṃ viharato, passa vīriyaparakkamaṃ;

    ติโสฺส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ –

    Tisso vijjā anuppattā, kataṃ buddhassa sāsana’’nti. –

    อิมา ติโสฺส คาถา อภาสิฯ

    Imā tisso gāthā abhāsi.

    ตตฺถ ปญฺจาหาหํ ปพฺพชิโตติ ปญฺจาโห อหํ, ปพฺพชิโต หุตฺวา ปญฺจาโห, ปพฺพชิตทิวสโต ปญฺจโม อโห นิฎฺฐิโตติ อโตฺถฯ เสโข อปฺปตฺตมานโสติ อธิสีลสิกฺขาทีนํ สิกฺขนโต เสโขฯ อนวเสสโต มานํ สิยติ สมุจฺฉินฺทตีติ มานโส, อคฺคมโคฺค, ตํนิพฺพตฺติโต มานสโต อาคตํ มานสํ, อรหตฺตํ, ตํ, โส วา อปฺปโตฺต เอเตนาติ อปฺปตฺตมานโสฯ วิหารํ เม ปวิฎฺฐสฺส, เจตโส ปณิธี อหูติ เอวํ เสขสฺส เม วสนกวิหารํ โอวรกํ ปวิฎฺฐสฺส สโต เอวรูโป อิทานิ วุจฺจมานากาโร เจโตปณิธิ อโหสิ, เอวํ มยา จิตฺตํ ปณิหิตนฺติ อโตฺถฯ

    Tattha pañcāhāhaṃ pabbajitoti pañcāho ahaṃ, pabbajito hutvā pañcāho, pabbajitadivasato pañcamo aho niṭṭhitoti attho. Sekho appattamānasoti adhisīlasikkhādīnaṃ sikkhanato sekho. Anavasesato mānaṃ siyati samucchindatīti mānaso, aggamaggo, taṃnibbattito mānasato āgataṃ mānasaṃ, arahattaṃ, taṃ, so vā appatto etenāti appattamānaso. Vihāraṃ me paviṭṭhassa, cetaso paṇidhī ahūti evaṃ sekhassa me vasanakavihāraṃ ovarakaṃ paviṭṭhassa sato evarūpo idāni vuccamānākāro cetopaṇidhi ahosi, evaṃ mayā cittaṃ paṇihitanti attho.

    นาสิสฺสนฺติอาทินา จิตฺตปณิธิํ ทเสฺสติฯ ตตฺถ นาสิสฺสนฺติ ยํกิญฺจิ โภชนํ น ภุญฺชิสฺสํ น ภุญฺชิสฺสามิ ตณฺหาสเลฺล มม หทยคเต อนูหเต อนุทฺธเตติ เอวํ สพฺพปเทสุ โยเชตพฺพํฯ น ปิวิสฺสามีติ ยํกิญฺจิ ปาตพฺพํ น ปิวิสฺสามิฯ วิหารโต น นิกฺขเมติ อิมสฺมา อิทานิ มยา นิสินฺนคพฺภโต น นิกฺขเมยฺยํฯ นปิ ปสฺสํ นิปาเตสฺสนฺติ มม สรีรสฺส ทฺวีสุ ปเสฺสสุ เอกมฺปิ ปสฺสํ กายกิลมถวิโนทนตฺถํ น นิปาเตสฺสํ, เอกปเสฺสนปิ น นิปชฺชิสฺสามีติ อโตฺถฯ

    Nāsissantiādinā cittapaṇidhiṃ dasseti. Tattha nāsissanti yaṃkiñci bhojanaṃ na bhuñjissaṃ na bhuñjissāmi taṇhāsalle mama hadayagate anūhate anuddhateti evaṃ sabbapadesu yojetabbaṃ. Na pivissāmīti yaṃkiñci pātabbaṃ na pivissāmi. Vihārato na nikkhameti imasmā idāni mayā nisinnagabbhato na nikkhameyyaṃ. Napi passaṃ nipātessanti mama sarīrassa dvīsu passesu ekampi passaṃ kāyakilamathavinodanatthaṃ na nipātessaṃ, ekapassenapi na nipajjissāmīti attho.

    ตสฺส เมวํ วิหรโตติ ตสฺส เม เอวํ จิตฺตํ ปณิธาย ทฬฺหวีริยาธิฎฺฐานํ กตฺวา วิปสฺสนานุโยควเสน วิหรโตฯ ปสฺส วีริยปรกฺกมนฺติ วิธินา อีรยิตพฺพโต ‘‘วีริยํ’’ ปรํ ฐานํ อกฺกมนโต ‘‘ปรกฺกโม’’ติ จ ลทฺธนามํ อุโสฺสฬฺหีภูตํ วายามํ ปสฺส ชานาหิฯ ยสฺส ปนานุภาเวน มยา ติโสฺส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนนฺติ วุตฺตตฺถเมวฯ

    Tassa mevaṃ viharatoti tassa me evaṃ cittaṃ paṇidhāya daḷhavīriyādhiṭṭhānaṃ katvā vipassanānuyogavasena viharato. Passa vīriyaparakkamanti vidhinā īrayitabbato ‘‘vīriyaṃ’’ paraṃ ṭhānaṃ akkamanato ‘‘parakkamo’’ti ca laddhanāmaṃ ussoḷhībhūtaṃ vāyāmaṃ passa jānāhi. Yassa panānubhāvena mayā tisso vijjā anuppattā, kataṃ buddhassa sāsananti vuttatthameva.

    ปจฺจยเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Paccayattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๒. ปจฺจยเตฺถรคาถา • 2. Paccayattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact