Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ขุทฺทสิกฺขา-มูลสิกฺขา • Khuddasikkhā-mūlasikkhā |
๔. ปาจิตฺติยนิเทฺทสวณฺณนา
4. Pācittiyaniddesavaṇṇanā
๓๐. อิทานิ ปาจิตฺติยํ ทเสฺสตุํ ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท’’ตฺยาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ สมฺปชานมุสาวาเทติ นิมิตฺตเตฺถ ภุมฺมวจนํ, ตสฺมา โย ภิกฺขุ สมฺปชานโนฺต มุสา วทติ, ตสฺส ตนฺนิมิตฺตํ ตํเหตุ ตปฺปจฺจยา ปาจิตฺติยํ อุทีริตนฺติ อโตฺถฯ ภิกฺขุญฺจ โอมสนฺตสฺสาติ ชาตินามโคตฺตกมฺมสิปฺปวยอาพาธลิงฺคกิเลสาปตฺติอโกฺกเสสุ ภูเตน วา อภูเตน วา เยน เกนจิ มุขสตฺตินา ภิกฺขุํ โอวิชฺฌนฺตสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติยํ อุทีริตนฺติ อโตฺถฯ เปสุญฺญหรเณปิ จาติ ภิกฺขุสฺส เปสุญฺญหรเณ, ชาติอาทีหิ อโกฺกสวตฺถูหิ ภิกฺขุํ อโกฺกสนฺตสฺส ภิกฺขุโน สุตฺวา ภิกฺขุโน ปิยกมฺยตาย วา เภทาธิปฺปาเยน วา โย อกฺกุโทฺธ, ตสฺส ภิกฺขุสฺส กาเยน วา วาจาย วา เปสุญฺญหรณวจเน ปาจิตฺติยํ อุทีริตนฺติ อโตฺถฯ
30. Idāni pācittiyaṃ dassetuṃ ‘‘sampajānamusāvāde’’tyādi āraddhaṃ. Tattha sampajānamusāvādeti nimittatthe bhummavacanaṃ, tasmā yo bhikkhu sampajānanto musā vadati, tassa tannimittaṃ taṃhetu tappaccayā pācittiyaṃ udīritanti attho. Bhikkhuñca omasantassāti jātināmagottakammasippavayaābādhaliṅgakilesāpattiakkosesu bhūtena vā abhūtena vā yena kenaci mukhasattinā bhikkhuṃ ovijjhantassa bhikkhuno pācittiyaṃ udīritanti attho. Pesuññaharaṇepi cāti bhikkhussa pesuññaharaṇe, jātiādīhi akkosavatthūhi bhikkhuṃ akkosantassa bhikkhuno sutvā bhikkhuno piyakamyatāya vā bhedādhippāyena vā yo akkuddho, tassa bhikkhussa kāyena vā vācāya vā pesuññaharaṇavacane pācittiyaṃ udīritanti attho.
๓๑. สงฺคีติตฺตยมารุฬฺหํ ปิฎกตฺตยํ ธมฺมํ ภิกฺขุญฺจ ภิกฺขุนิญฺจ ฐเปตฺวา อเญฺญน ปุคฺคเลน สทฺธิํ เอกโต ปทํ ปทํ ภณนฺตสฺส ภิกฺขุโน ปทคณนาย ปาจิตฺติยํ อุทีริตนฺติ สมุทายโตฺถฯ
31. Saṅgītittayamāruḷhaṃ piṭakattayaṃ dhammaṃ bhikkhuñca bhikkhuniñca ṭhapetvā aññena puggalena saddhiṃ ekato padaṃ padaṃ bhaṇantassa bhikkhuno padagaṇanāya pācittiyaṃ udīritanti samudāyattho.
๓๒. อนุปสมฺปเนฺนเนวาติ ภิกฺขุํ ฐเปตฺวา อนฺตมโส ปาราชิกวตฺถุภูเตน ติรจฺฉานคเตนาปิ สห ติรตฺติยํ สยิตฺวา จตุตฺถทิวเส อตฺถงฺคเต สูริเย ปุน สหเสยฺยาย ปาจิตฺติ สิยาติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถ สหเสยฺยายาติ สพฺพจฺฉนฺนปริจฺฉิเนฺน, เยภุเยฺยนจฺฉนฺนปริจฺฉิเนฺน วา เสนาสเน ปุพฺพาปริเยน วา เอกกฺขเณ วา เอกโต นิสชฺชนายฯ ตตฺถ ฉทนํ อนาหจฺจ ทิยฑฺฒหตฺถุเพฺพเธน ปาการาทินา ปริจฺฉินฺนมฺปิ สพฺพปริจฺฉินฺนมิเจฺจว เวทิตพฺพํฯ
32.Anupasampannenevāti bhikkhuṃ ṭhapetvā antamaso pārājikavatthubhūtena tiracchānagatenāpi saha tirattiyaṃ sayitvā catutthadivase atthaṅgate sūriye puna sahaseyyāya pācitti siyāti sambandho. Tattha sahaseyyāyāti sabbacchannaparicchinne, yebhuyyenacchannaparicchinne vā senāsane pubbāpariyena vā ekakkhaṇe vā ekato nisajjanāya. Tattha chadanaṃ anāhacca diyaḍḍhahatthubbedhena pākārādinā paricchinnampi sabbaparicchinnamicceva veditabbaṃ.
๓๓. เอกรตฺตมฺปิ อิตฺถิยา สทฺธิํ เสยฺยํ กปฺปยโต ตสฺส ภิกฺขุโนปิ ปาจิตฺติ สิยาติ อโตฺถฯ ตตฺถ อิตฺถิยาติ อนฺตมโส ตทหุชาตายปิ มนุสฺสิตฺถิยาฯ เทเสนฺตสฺส วินา วิญฺญุํ, ธมฺมญฺจ ฉปฺปทุตฺตรินฺติ วิญฺญุํ ปุริสํ วินา อิตฺถิยา ฉปฺปทโต อุตฺตริํ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติ สิยาติ อโตฺถฯ ตตฺถ ‘‘ฉปฺปทุตฺตริ’’นฺติ เอตฺถ เอโก คาถาปาโท เอกํ ปทนฺติ เอวํ สพฺพตฺถ ปทปฺปมาณํ เวทิตพฺพํฯ ฉ ปทานิ ฉปฺปทํ, ฉปฺปทโต อุตฺตริํ ฉปฺปทุตฺตริํฯ
33. Ekarattampi itthiyā saddhiṃ seyyaṃ kappayato tassa bhikkhunopi pācitti siyāti attho. Tattha itthiyāti antamaso tadahujātāyapi manussitthiyā. Desentassa vinā viññuṃ, dhammañca chappaduttarinti viññuṃ purisaṃ vinā itthiyā chappadato uttariṃ dhammaṃ desentassa bhikkhuno pācitti siyāti attho. Tattha ‘‘chappaduttari’’nti ettha eko gāthāpādo ekaṃ padanti evaṃ sabbattha padappamāṇaṃ veditabbaṃ. Cha padāni chappadaṃ, chappadato uttariṃ chappaduttariṃ.
๓๔. ภิกฺขุสมฺมุติํ ฐเปตฺวา ภิกฺขุโน ทุฎฺฐุลฺลํ วชฺชํ อภิกฺขุโน วทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ อุทีริตนฺติ อโตฺถฯ ตตฺถ ทุฎฺฐุลฺลนฺติ อิธ สงฺฆาทิเสสํ อธิเปฺปตํฯ ภิกฺขุสมฺมุติยาติ ยํ สโงฺฆ อภิณฺหาปตฺติกสฺส ภิกฺขุโน อายติํ สํวรตฺถาย อาปตฺตีนญฺจ กุลานญฺจ ปริยนฺตํ กตฺวา วา อกตฺวา วา ติกฺขตฺตุํ อปโลเกตฺวา กติกํ กโรติ, ตํ ฐเปตฺวาฯ อภิกฺขุโนติ อนุปสมฺปนฺนสฺสฯ วทนฺตสฺสาติ อาโรเจนฺตสฺสฯ
34. Bhikkhusammutiṃ ṭhapetvā bhikkhuno duṭṭhullaṃ vajjaṃ abhikkhuno vadantassa pācittiyaṃ udīritanti attho. Tattha duṭṭhullanti idha saṅghādisesaṃ adhippetaṃ. Bhikkhusammutiyāti yaṃ saṅgho abhiṇhāpattikassa bhikkhuno āyatiṃ saṃvaratthāya āpattīnañca kulānañca pariyantaṃ katvā vā akatvā vā tikkhattuṃ apaloketvā katikaṃ karoti, taṃ ṭhapetvā. Abhikkhunoti anupasampannassa. Vadantassāti ārocentassa.
๓๕. โย อกปฺปิยํ ปถวิํ ขเณยฺย วา ขณาเปยฺย วา, ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาฯ ตตฺถ อกปฺปิยนฺติ อุทฺธนปจนาทิวเสน วา ตถา ตถา อทฑฺฒา วา ชาตปถวี วุจฺจติฯ สา ติวิธา สุทฺธมิสฺสปุญฺชวเสนฯ ตตฺถ สุทฺธปถวี นาม ปกติยา สุทฺธปํสุ วา สุทฺธมตฺติกา วาฯ มิสฺสปถวี นาม ยตฺถ ปํสุโต วา มตฺติกโต วา ปาสาณสกฺขรกถลมรุมฺพวาลุกาสุ อญฺญตรสฺส ตติยภาโค โหติฯ ปุญฺชปถวี นาม อติเรกจาตุมาสํ โอวโฎฺฐ ปํสุปุโญฺช วา มตฺติกาปุโญฺช วา โหติฯ วุตฺตลกฺขเณน ปน มิสฺสกปุโญฺชปิ ปิฎฺฐิปาสาเณ ฐิตสุขุมรชมฺปิ จ เทเว ผุสยเนฺต สกิํ เจ ตินฺตํ, จาตุมาสจฺจเยน ติโนฺตกาโส ปุญฺชปถวีสงฺขเมว คจฺฉติฯ โย ภิกฺขุ ภูตคามํ วิโกเปยฺย, ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถ ภูตคามนฺติ ภวนฺติ, อภวุํ จาติ ภูตา, ชายนฺติ วฑฺฒนฺติ ชาตา วฑฺฒิตา จาติ อโตฺถ, คาโมติ ราสิ, ภูตานํ คาโม, ภูตา เอว วา คาโมติ ภูตคาโม, ปติฎฺฐิตหริตติณรุกฺขาทีนเมตํ อธิวจนํฯ ตํ ภูตคามํฯ วิโกเปยฺยาติ เฉทนเภทนาทีนิ กเรยฺยฯ
35. Yo akappiyaṃ pathaviṃ khaṇeyya vā khaṇāpeyya vā, tassa pācittiyaṃ siyā. Tattha akappiyanti uddhanapacanādivasena vā tathā tathā adaḍḍhā vā jātapathavī vuccati. Sā tividhā suddhamissapuñjavasena. Tattha suddhapathavī nāma pakatiyā suddhapaṃsu vā suddhamattikā vā. Missapathavī nāma yattha paṃsuto vā mattikato vā pāsāṇasakkharakathalamarumbavālukāsu aññatarassa tatiyabhāgo hoti. Puñjapathavī nāma atirekacātumāsaṃ ovaṭṭho paṃsupuñjo vā mattikāpuñjo vā hoti. Vuttalakkhaṇena pana missakapuñjopi piṭṭhipāsāṇe ṭhitasukhumarajampi ca deve phusayante sakiṃ ce tintaṃ, cātumāsaccayena tintokāso puñjapathavīsaṅkhameva gacchati. Yo bhikkhu bhūtagāmaṃ vikopeyya, tassa pācittiyaṃ siyāti sambandho. Tattha bhūtagāmanti bhavanti, abhavuṃ cāti bhūtā, jāyanti vaḍḍhanti jātā vaḍḍhitā cāti attho, gāmoti rāsi, bhūtānaṃ gāmo, bhūtā eva vā gāmoti bhūtagāmo, patiṭṭhitaharitatiṇarukkhādīnametaṃ adhivacanaṃ. Taṃ bhūtagāmaṃ. Vikopeyyāti chedanabhedanādīni kareyya.
๓๖. โย ภิกฺขุ สงฺฆิกํ มญฺจาทิํ อโชฺฌกาเส สนฺถรณาทิกํ กตฺวา อาปุจฺฉนาทิกํ อกตฺวา ยาติ, ตสฺส ปาจิตฺติ สิยาติ อโตฺถฯ ตตฺถ สงฺฆิกนฺติ สงฺฆสฺส สนฺตกํฯ มญฺจาทินฺติ เอตฺถ อาทิ-สเทฺทน ปีฐภิสิโกจฺฉาทิํ สงฺคณฺหาติฯ สนฺถรณาทิกนฺติ สนฺถรณาทิํ กตฺวา วา การาเปตฺวา วาฯ อาปุจฺฉนาทิกนฺติ อาปุจฺฉนํ วา อุทฺธรณํ วา อุทฺธราปนํ วาติ อโตฺถฯ ยาตีติ คจฺฉติฯ
36. Yo bhikkhu saṅghikaṃ mañcādiṃ ajjhokāse santharaṇādikaṃ katvā āpucchanādikaṃ akatvā yāti, tassa pācitti siyāti attho. Tattha saṅghikanti saṅghassa santakaṃ. Mañcādinti ettha ādi-saddena pīṭhabhisikocchādiṃ saṅgaṇhāti. Santharaṇādikanti santharaṇādiṃ katvā vā kārāpetvā vā. Āpucchanādikanti āpucchanaṃ vā uddharaṇaṃ vā uddharāpanaṃ vāti attho. Yātīti gacchati.
๓๗. โย ภิกฺขุ สงฺฆิกาวสเถ เสยฺยํ สนฺถรณาทิกํ กตฺวา อาปุจฺฉนาทิกํ อกตฺวา ยาติ, ตสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติ สิยาติ อโตฺถฯ ตตฺถ สงฺฆิกาวสเถติ สงฺฆสฺส สนฺตเก อาวสเถ วิหาเร คเพฺภ วา อญฺญสฺมิํ วา สพฺพปริจฺฉิเนฺน คุตฺตเสนาสเนฯ เสยฺยนฺติ ภิสิ จิมิลิกา ปาวุรณํ อุตฺตรตฺถรณํ ภูมตฺถรณํ ตฎฺฎิกา จมฺมกฺขณฺฑํ นิสีทนํ ปจฺจตฺถรณํ ติณสนฺถาโร ปณฺณสนฺถาโรติ เอวมาทิกํฯ สนฺถรณาทิกนฺติ เตสุ เยน เกนจิ อตฺถรณาทิกํ กตฺวา วา การาเปตฺวา วาฯ
37. Yo bhikkhu saṅghikāvasathe seyyaṃ santharaṇādikaṃ katvā āpucchanādikaṃ akatvā yāti, tassa bhikkhuno pācitti siyāti attho. Tattha saṅghikāvasatheti saṅghassa santake āvasathe vihāre gabbhe vā aññasmiṃ vā sabbaparicchinne guttasenāsane. Seyyanti bhisi cimilikā pāvuraṇaṃ uttarattharaṇaṃ bhūmattharaṇaṃ taṭṭikā cammakkhaṇḍaṃ nisīdanaṃ paccattharaṇaṃ tiṇasanthāro paṇṇasanthāroti evamādikaṃ. Santharaṇādikanti tesu yena kenaci attharaṇādikaṃ katvā vā kārāpetvā vā.
๓๘-๙. โย ปน ภิกฺขุ ชานํ สปฺปาณกํ โตยํ ปริภุญฺชเย, ตสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนาฯ ตตฺถ ชานํ สปฺปาณกนฺติ ‘‘สปฺปาณกมิท’’นฺติ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา เยน เกนจิ อากาเรน ชานโนฺตฯ โตยนฺติ อุทกํฯ ปริภุญฺชเยติ ปริภุเญฺชยฺยฯ โย ภิกฺขุ ปาริวตฺตกํ ฐเปตฺวา อญฺญาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรํ เทติ, ตสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติ สิยาฯ จีวรปฺปฎิคฺคหณสิกฺขาปเท ภิกฺขุ ปฎิคฺคาหโก อิธ ภิกฺขุนี, อยํ วิเสโสฯ อญฺญาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรํ สิพฺพโตปิ ตสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติ สิยาติ อโตฺถฯ จีวรนฺติ นิวาสนปารุปนูปคํฯ สิพฺพโตติ สยํ สิพฺพนฺตสฺส สูจิํ ปเวเสตฺวา นีหรเณ ปโยคคณนาย ปาจิตฺติฯ สิพฺพาเปนฺตสฺส ปน ‘‘สิพฺพา’’ติ วุโตฺต สเจปิ สพฺพํ สูจิกมฺมํ นิฎฺฐาเปสิ, เอกเมว ปาจิตฺติ, อาณตฺตสฺส ปโยคคณนาย ปาจิตฺติ โหติฯ ปวาเรตฺวาน อติริตฺตํ อกาเรตฺวา ภุญฺชโต ปาจิตฺติ สิยาติ อโตฺถฯ ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – โอทโน สตฺตุ กุมฺมาโส มโจฺฉ มํสนฺติ ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตรํ สาสปมตฺตมฺปิ อโชฺฌหริตฺวา โภชนํ ปฎิเกฺขปํ กตฺวา อเญฺญน อิริยาปเถน ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อติริตฺตํ อกาเรตฺวา ปริภุญฺชโต ปาจิตฺติ โหตีติฯ
38-9. Yo pana bhikkhu jānaṃ sappāṇakaṃ toyaṃ paribhuñjaye, tassa bhikkhuno pācitti siyāti yojanā. Tattha jānaṃsappāṇakanti ‘‘sappāṇakamida’’nti disvā vā sutvā vā yena kenaci ākārena jānanto. Toyanti udakaṃ. Paribhuñjayeti paribhuñjeyya. Yo bhikkhu pārivattakaṃ ṭhapetvā aññātikāya bhikkhuniyā cīvaraṃ deti, tassa bhikkhuno pācitti siyā. Cīvarappaṭiggahaṇasikkhāpade bhikkhu paṭiggāhako idha bhikkhunī, ayaṃ viseso. Aññātikāya bhikkhuniyā cīvaraṃ sibbatopi tassa bhikkhuno pācitti siyāti attho. Cīvaranti nivāsanapārupanūpagaṃ. Sibbatoti sayaṃ sibbantassa sūciṃ pavesetvā nīharaṇe payogagaṇanāya pācitti. Sibbāpentassa pana ‘‘sibbā’’ti vutto sacepi sabbaṃ sūcikammaṃ niṭṭhāpesi, ekameva pācitti, āṇattassa payogagaṇanāya pācitti hoti. Pavāretvāna atirittaṃ akāretvā bhuñjato pācitti siyāti attho. Tatrāyaṃ vinicchayo – odano sattu kummāso maccho maṃsanti pañcannaṃ bhojanānaṃ aññataraṃ sāsapamattampi ajjhoharitvā bhojanaṃ paṭikkhepaṃ katvā aññena iriyāpathena ‘‘alametaṃ sabba’’nti atirittaṃ akāretvā paribhuñjato pācitti hotīti.
๔๐. โย ภิกฺขุ อาสาทนาเปโกฺข ภุตฺตาวิํ ปวาริตํ ภิกฺขุํ ‘‘หนฺท, ภิกฺขุ, ขาท วา ภุญฺช วา’’ติ อนติริเตฺตน ปวาเรติ, โภชเน ภุเตฺต ตสฺส ปาจิตฺติยํ อุทีริตนฺติ อโตฺถฯ ตตฺถ อาสาทนาเปโกฺขติ อาสาทนํ โจทนํ มงฺกุกรณภาวํ อเปกฺขมาโนฯ
40. Yo bhikkhu āsādanāpekkho bhuttāviṃ pavāritaṃ bhikkhuṃ ‘‘handa, bhikkhu, khāda vā bhuñja vā’’ti anatirittena pavāreti, bhojane bhutte tassa pācittiyaṃ udīritanti attho. Tattha āsādanāpekkhoti āsādanaṃ codanaṃ maṅkukaraṇabhāvaṃ apekkhamāno.
๔๑-๒. โย ภิกฺขุ สนฺนิธิโภชนํ ภุเญฺชยฺย, ตสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติ สิยาติ อโตฺถฯ ตตฺถ สนฺนิธิโภชนนฺติ ปฎิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตํ วีตินามิตโภชนํฯ วิกาเล ยาวกาลิกํ ภุญฺชโต วาปิ ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนาฯ ตตฺถ วิกาเลติ วิคตกาเล, มชฺฌนฺหิกาติกฺกมโต ปฎฺฐาย ยาว อรุณุคฺคมนาติ อโตฺถฯ ยาวกาลิกนฺติ วนมูลผลาทิกํ อามิสโภชนํฯ อคิลาโน ภิกฺขุ ปณีตกํ สปฺปิภตฺตาทิกมฺปิ วิญฺญาเปตฺวาน ภุเญฺชยฺย, ตสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนาฯ ตตฺถ อคิลาโนติ กลฺลโกฯ ปณีตกนฺติ สปฺปิเตลมธุผาณิตมจฺฉมํสขีรทธิสงฺขาเตหิ สํสฎฺฐํ สตฺตธญฺญนิพฺพตฺตํ ปณีตโภชนํ ฯ โย ภิกฺขุ ทนฺตกโฎฺฐทกํ วเชฺชตฺวา อปฺปฎิคฺคหิตกํ ภุเญฺชยฺย, ปาจิตฺติ สิยาติ อโตฺถฯ ตตฺถ อปฺปฎิคฺคหิตนฺติ กาเยน วา กายปฺปฎิพเทฺธน วา คณฺหนฺตสฺส หตฺถปาเส ฐตฺวา กายกายปฺปฎิพทฺธนิสฺสคฺคิยานํ อญฺญตเรน น ทินฺนํ อปฺปฎิคฺคหิตํ นามฯ
41-2. Yo bhikkhu sannidhibhojanaṃ bhuñjeyya, tassa bhikkhuno pācitti siyāti attho. Tattha sannidhibhojananti paṭiggahetvā ekarattaṃ vītināmitabhojanaṃ. Vikāle yāvakālikaṃ bhuñjato vāpi pācitti siyāti yojanā. Tattha vikāleti vigatakāle, majjhanhikātikkamato paṭṭhāya yāva aruṇuggamanāti attho. Yāvakālikanti vanamūlaphalādikaṃ āmisabhojanaṃ. Agilāno bhikkhu paṇītakaṃ sappibhattādikampi viññāpetvāna bhuñjeyya, tassa bhikkhuno pācitti siyāti yojanā. Tattha agilānoti kallako. Paṇītakanti sappitelamadhuphāṇitamacchamaṃsakhīradadhisaṅkhātehi saṃsaṭṭhaṃ sattadhaññanibbattaṃ paṇītabhojanaṃ . Yo bhikkhu dantakaṭṭhodakaṃ vajjetvā appaṭiggahitakaṃ bhuñjeyya, pācitti siyāti attho. Tattha appaṭiggahitanti kāyena vā kāyappaṭibaddhena vā gaṇhantassa hatthapāse ṭhatvā kāyakāyappaṭibaddhanissaggiyānaṃ aññatarena na dinnaṃ appaṭiggahitaṃ nāma.
๔๓. โย ภิกฺขุ ติตฺถิยสฺส สหตฺถโต กิญฺจิ ภุญฺชิตพฺพํ ทเทยฺย, ตสฺส ปาจิตฺติ สิยาติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถ ติตฺถิยสฺสาติ อญฺญติตฺถิยสฺสฯ กิญฺจิ ภุญฺชิตพฺพนฺติ ยํ กิญฺจิ โภชนียํฯ สหตฺถโตติ สหตฺถาฯ โย ภิกฺขุ มาตุคาเมน เอกโต รโห นิสชฺชํ กเปฺปยฺย, ตสฺส ปาจิตฺติ สิยาติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถ รโหติ ปฎิจฺฉเนฺนฯ กเปฺปติ กเปฺปยฺยฯ เอกโตติ สทฺธิํฯ
43. Yo bhikkhu titthiyassa sahatthato kiñci bhuñjitabbaṃ dadeyya, tassa pācitti siyāti sambandho. Tattha titthiyassāti aññatitthiyassa. Kiñci bhuñjitabbanti yaṃ kiñci bhojanīyaṃ. Sahatthatoti sahatthā. Yo bhikkhu mātugāmena ekato raho nisajjaṃ kappeyya, tassa pācitti siyāti sambandho. Tattha rahoti paṭicchanne. Kappeti kappeyya. Ekatoti saddhiṃ.
๔๔. สุราเมรยปาเนปีติ เอตฺถ ปิฎฺฐาทีหิ กตํ มชฺชํ สุราฯ ปุปฺผาทีหิ กโต อาสโว เมรยํฯ โย ภิกฺขุ ตทุภยมฺปิ พีชโต ปฎฺฐาย กุสเคฺคนาปิ ปิวติ, ตสฺส ตปฺปานปจฺจยา ปาจิตฺติยํ อุทีริตนฺติ อโตฺถฯ องฺคุลิปโตทเก จาปีติ องฺคุลีหิ อุปกจฺฉกาทีนํ ฆฎฺฎนปจฺจยา ปาจิตฺติ สิยาติ อโตฺถฯ หสธเมฺมปิ โจทเกติ อุปริโคปฺผเก อุทเก หสธเมฺม กีฬานิมิตฺตํ ตสฺส ปาจิตฺติ สิยาติ อโตฺถฯ
44.Surāmerayapānepīti ettha piṭṭhādīhi kataṃ majjaṃ surā. Pupphādīhi kato āsavo merayaṃ. Yo bhikkhu tadubhayampi bījato paṭṭhāya kusaggenāpi pivati, tassa tappānapaccayā pācittiyaṃ udīritanti attho. Aṅgulipatodake cāpīti aṅgulīhi upakacchakādīnaṃ ghaṭṭanapaccayā pācitti siyāti attho. Hasadhammepi codaketi uparigopphake udake hasadhamme kīḷānimittaṃ tassa pācitti siyāti attho.
๔๕. อนาทเรปิ ปาจิตฺตีติ ปุคฺคลสฺส วา ธมฺมสฺส วา อนาทรกรเณปิ ปาจิตฺติ สิยาติ อโตฺถฯ โย ภิกฺขุ อุปสมฺปเนฺนน ปญฺญเตฺตน วุจฺจมาโน ตสฺส วา วจนํ อกตฺตุกามตาย, ตํ วา ธมฺมํ อสิกฺขิตุกามตาย อนาทริยํ กโรติ, ตสฺส ตสฺมิํ อนาทริเย ปาจิตฺติ สิยาติ อโตฺถฯ ภยานกํ กถํ กตฺวา วา ภยานกํ รูปํ ทเสฺสตฺวา วา ภิกฺขุํ ภีสยโตปิ ปาจิตฺติ สิยาติ อโตฺถฯ
45.Anādarepi pācittīti puggalassa vā dhammassa vā anādarakaraṇepi pācitti siyāti attho. Yo bhikkhu upasampannena paññattena vuccamāno tassa vā vacanaṃ akattukāmatāya, taṃ vā dhammaṃ asikkhitukāmatāya anādariyaṃ karoti, tassa tasmiṃ anādariye pācitti siyāti attho. Bhayānakaṃ kathaṃ katvā vā bhayānakaṃ rūpaṃ dassetvā vā bhikkhuṃ bhīsayatopi pācitti siyāti attho.
๔๖. โย ภิกฺขุ อคิลาโน กิญฺจิ ปจฺจยํ ฐเปตฺวา โชติํ ชเลยฺย วา ชลาเปยฺย วา, ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถ กิญฺจิ ปจฺจยนฺติ ปทีปุชฺชลนํ วา ปตฺตปจนาทีสุ โชติกรณํ วาติ เอวรูปํ ปจฺจยํ ฐเปตฺวาฯ โชตินฺติ อคฺคิํฯ
46. Yo bhikkhu agilāno kiñci paccayaṃ ṭhapetvā jotiṃ jaleyya vā jalāpeyya vā, tassa pācittiyaṃ siyāti sambandho. Tattha kiñci paccayanti padīpujjalanaṃ vā pattapacanādīsu jotikaraṇaṃ vāti evarūpaṃ paccayaṃ ṭhapetvā. Jotinti aggiṃ.
๔๗-๘. กปฺปพินฺทุํ อนาทาย นวจีวรโภคิโน นวํ จีวรํ ภุญฺชนฺตสฺส ปาจิตฺติ สิยาติ อโตฺถฯ กปฺปพินฺทุนฺติ โมรกฺขิมณฺฑลมงฺคุลปิฎฺฐีนํ อญฺญตรปฺปมาณํ กปฺปพินฺทุํฯ อนาทายาติ อนาทิยิตฺวาฯ ภิกฺขุโน จีวราทิกํ ปริกฺขารํ อปเนตฺวา นิเธนฺตสฺส วา นิธาเปนฺตสฺส วา หสาเปกฺขสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติ สิยาติ อโตฺถฯ จีวราทิกนฺติ อาทิ-สเทฺทน ปตฺตนิสีทนสูจิฆรกายพนฺธนาทิํ สงฺคณฺหาติฯ นิเธนฺตสฺสาติ นิทหนฺตสฺสฯ หสาเปกฺขสฺสาติ หสาธิปฺปายสฺสฯ ชานํ ปาณํ หเน ภิกฺขุ, ติรจฺฉานคตมฺปิ จาติ โย ภิกฺขุ ‘‘ปาโณ’’ติ ชานโนฺต ติรจฺฉานคตํ ปาณํ ขุทฺทกมฺปิ มหนฺตมฺปิ หเนยฺย, ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ อโตฺถฯ
47-8. Kappabinduṃ anādāya navacīvarabhogino navaṃ cīvaraṃ bhuñjantassa pācitti siyāti attho. Kappabindunti morakkhimaṇḍalamaṅgulapiṭṭhīnaṃ aññatarappamāṇaṃ kappabinduṃ. Anādāyāti anādiyitvā. Bhikkhuno cīvarādikaṃ parikkhāraṃ apanetvā nidhentassa vā nidhāpentassa vā hasāpekkhassa bhikkhuno pācitti siyāti attho. Cīvarādikanti ādi-saddena pattanisīdanasūcigharakāyabandhanādiṃ saṅgaṇhāti. Nidhentassāti nidahantassa. Hasāpekkhassāti hasādhippāyassa. Jānaṃ pāṇaṃ hane bhikkhu, tiracchānagatampi cāti yo bhikkhu ‘‘pāṇo’’ti jānanto tiracchānagataṃ pāṇaṃ khuddakampi mahantampi haneyya, tassa pācittiyaṃ siyāti attho.
๔๙. ฉาเทตุกาโม ฉาเทติ, ทุฎฺฐุลฺลํ ภิกฺขุโนปิ จาติ โย ภิกฺขุ ภิกฺขุโน ทุฎฺฐุลฺลสงฺขาตํ สงฺฆาทิเสสํ ฉาเทตุกาโม หุตฺวา ฉาเทติ, ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ อโตฺถฯ อิตฺถิยา สห สํวิธาย คามนฺตรคตสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนาฯ
49.Chādetukāmo chādeti, duṭṭhullaṃ bhikkhunopi cāti yo bhikkhu bhikkhuno duṭṭhullasaṅkhātaṃ saṅghādisesaṃ chādetukāmo hutvā chādeti, tassa pācittiyaṃ siyāti attho. Itthiyā saha saṃvidhāya gāmantaragatassa bhikkhuno pācittiyaṃ siyāti yojanā.
๕๐. ภิกฺขุํ วา ปหเรยฺยาถาติ โย ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปหเรยฺย, ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนาฯ ตลสตฺติกมุคฺคิเรติ โย ภิกฺขุ ปหรณาการํ ทเสฺสโนฺต กายํ วา กายปฺปฎิพทฺธํ วา อุคฺคิเรยฺย, ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ อโตฺถฯ โจเทยฺย วา โจทาเปยฺย, ภิกฺขุํ อมูลเกน จาติ โย ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน โจเทยฺย วา โจทาเปยฺย วา, ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ อโตฺถฯ ตตฺถ อมูลเกนาติ ทิฎฺฐาทิมูลวิรหิเตนฯ
50.Bhikkhuṃvā pahareyyāthāti yo bhikkhu bhikkhuṃ pahareyya, tassa pācittiyaṃ siyāti yojanā. Talasattikamuggireti yo bhikkhu paharaṇākāraṃ dassento kāyaṃ vā kāyappaṭibaddhaṃ vā uggireyya, tassa pācittiyaṃ siyāti attho. Codeyya vā codāpeyya, bhikkhuṃ amūlakena cāti yo bhikkhu bhikkhuṃ amūlakena saṅghādisesena codeyya vā codāpeyya vā, tassa pācittiyaṃ siyāti attho. Tattha amūlakenāti diṭṭhādimūlavirahitena.
๕๑. กุกฺกุจฺจุปฺปาทเน จาปีติ ‘‘อูนวีสติวโสฺส ตฺวํ มเญฺญ’’ติอาทีนิ ภณโนฺต กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทยฺย, ตสฺส กุกฺกุจฺจุปฺปาทนปจฺจยา ปาจิตฺติยํ โหติฯ โย ภิกฺขุ ภณฺฑนตฺถาย ภณฺฑนชาตานํ วจนํ โสตุํ อุปสฺสุติํ ยาติ, ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถ ภณฺฑนตฺถายาติ กลหตฺถายฯ ภณฺฑนชาตานนฺติ กลหชาตานํฯ อุปสฺสุตินฺติ สุติสมีปํฯ
51.Kukkuccuppādane cāpīti ‘‘ūnavīsativasso tvaṃ maññe’’tiādīni bhaṇanto kukkuccaṃ uppādeyya, tassa kukkuccuppādanapaccayā pācittiyaṃ hoti. Yo bhikkhu bhaṇḍanatthāya bhaṇḍanajātānaṃ vacanaṃ sotuṃ upassutiṃ yāti, tassa pācittiyaṃ siyāti sambandho. Tattha bhaṇḍanatthāyāti kalahatthāya. Bhaṇḍanajātānanti kalahajātānaṃ. Upassutinti sutisamīpaṃ.
๕๒. โย ภิกฺขุ สงฺฆสฺส ปริณามิตํ ยํ ลาภํ, ตํ ปรปุคฺคลสฺส นาเมติ, ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถ นาเมตีติ ปริณาเมติฯ ปุจฺฉํ อกตฺวาติ ‘‘วิกาเล คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉามี’’ติ วา ‘‘คามํ ปวิสิสฺสามี’’ติ วา อนาปุจฺฉิตฺวาฯ สนฺตภิกฺขุนฺติ อโนฺตอุปจารสีมาย ทสฺสนูปจาเร ภิกฺขุํ ทิสฺวา ยํ สกฺกา โหติ ปกติวจเนน อาปุจฺฉิตุํ, ตาทิสํ วิชฺชมานํ ภิกฺขุํฯ คามสฺสาติ คามํ, กมฺมเตฺถ สามิวจนํฯ คเตติ สมฺปทานเตฺถ ภุมฺมวจนํ, คตสฺสาติ อโตฺถฯ สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉิตฺวา วิกาเล คามํ คตสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติยํ สิยาติ อโตฺถฯ เสสํ อุตฺตานเมวาติฯ
52. Yo bhikkhu saṅghassa pariṇāmitaṃ yaṃ lābhaṃ, taṃ parapuggalassa nāmeti, tassa pācittiyaṃ siyāti sambandho. Tattha nāmetīti pariṇāmeti. Pucchaṃ akatvāti ‘‘vikāle gāmappavesanaṃ āpucchāmī’’ti vā ‘‘gāmaṃ pavisissāmī’’ti vā anāpucchitvā. Santabhikkhunti antoupacārasīmāya dassanūpacāre bhikkhuṃ disvā yaṃ sakkā hoti pakativacanena āpucchituṃ, tādisaṃ vijjamānaṃ bhikkhuṃ. Gāmassāti gāmaṃ, kammatthe sāmivacanaṃ. Gateti sampadānatthe bhummavacanaṃ, gatassāti attho. Santaṃ bhikkhuṃ anāpucchitvā vikāle gāmaṃ gatassa bhikkhuno pācittiyaṃ siyāti attho. Sesaṃ uttānamevāti.
ปาจิตฺติยนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pācittiyaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.