Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā |
ปทภาชนียวณฺณนา
Padabhājanīyavaṇṇanā
๙๒. ปุนปิ ‘‘อาคนฺตุกามา’’ติ วุตฺตตฺตา จ สพฺพถา มนุเสฺสหิ อนิวุตฺถปุเพฺพ อภินวมาปิเต, ‘‘ปุน น ปวิสิสฺสามา’’ติ นิราลเยหิ ปริจฺจเตฺต จ คาเม คามโวหาราภาวา คามปฺปเวสนาปุจฺฉนาทิกิจฺจํ นตฺถีติ เวทิตพฺพํฯ อรญฺญปริเจฺฉททสฺสนตฺถนฺติ คามคามูปจาเรสุ ทสฺสิเตสุ ตทญฺญํ อรญฺญนฺติ อรญฺญปริเจฺฉโท สกฺกา ญาตุนฺติ วุตฺตํฯ มาติกายํ ปน คามคฺคหเณเนว คามูปจาโรปิ คหิโตติ ทฎฺฐโพฺพฯ อินฺทขีเลติ อุมฺมาเรฯ อรญฺญสเงฺขปํ คจฺฉติ ตถา อภิธเมฺม วุตฺตตฺตาฯ อสติปิ อินฺทขีเล อินฺทขีลฎฺฐานิยตฺตา ‘‘เวมชฺฌเมว อินฺทขีโลติ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํฯ ยตฺถ ปน ทฺวารพาหาปิ นตฺถิ, ตตฺถ ปาการเวมชฺฌเมว อินฺทขีโลติ คเหตพฺพํฯ ลุฐิตฺวาติ ปวฎฺฎิตฺวาฯ
92.Punapi ‘‘āgantukāmā’’ti vuttattā ca sabbathā manussehi anivutthapubbe abhinavamāpite, ‘‘puna na pavisissāmā’’ti nirālayehi pariccatte ca gāme gāmavohārābhāvā gāmappavesanāpucchanādikiccaṃ natthīti veditabbaṃ. Araññaparicchedadassanatthanti gāmagāmūpacāresu dassitesu tadaññaṃ araññanti araññaparicchedo sakkā ñātunti vuttaṃ. Mātikāyaṃ pana gāmaggahaṇeneva gāmūpacāropi gahitoti daṭṭhabbo. Indakhīleti ummāre. Araññasaṅkhepaṃ gacchati tathā abhidhamme vuttattā. Asatipi indakhīle indakhīlaṭṭhāniyattā ‘‘vemajjhameva indakhīloti vuccatī’’ti vuttaṃ. Yattha pana dvārabāhāpi natthi, tattha pākāravemajjhameva indakhīloti gahetabbaṃ. Luṭhitvāti pavaṭṭitvā.
มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สุปฺปปาโต วาติอาทิ มาตุคามสฺส กากุฎฺฐาปนวเสน คเหตพฺพํ, น พลทสฺสนวเสน ‘‘มาตุคาโม ภาชนโธวนอุทกํ ฉเฑฺฑตี’’ติ (ปารา. อฎฺฐ. ๑.๙๒) อุปริ วุจฺจมานตฺตา, เตเนว ‘‘เลฑฺฑุปาโต’’ติ อวตฺวา สุปฺปปาโตติอาทิ วุตฺตํฯ กุรุนฺทฎฺฐกถายํ มหาปจฺจริยญฺจ ฆรูปจาโรว คาโมติ อธิปฺปาเยน ‘‘ฆรูปจาเร ฐิตสฺส เลฑฺฑุปาโต คามูปจาโร’’ติ วุตฺตํฯ กตปริเกฺขโปติ อิมินา ปริเกฺขปโต พหิ อุปจาโร น คเหตโพฺพติ ทเสฺสติฯ สุปฺปมุสลปาโตปิ อปริกฺขิตฺตเคหเสฺสว, โส จ ยโต ปโหติ, ตเตฺถว คเหตโพฺพ, อปฺปโหนฎฺฐาเน ปน วิชฺชมานฎฺฐานเมว คเหตพฺพํฯ ยสฺส ปน ฆรสฺส สมนฺตโต ปาการาทีหิ ปริเกฺขโป กโต โหติ, ตตฺถ โสว ปริเกฺขโป ฆรูปจาโรติ คเหตพฺพํฯ
Majjhimassa purisassa suppapāto vātiādi mātugāmassa kākuṭṭhāpanavasena gahetabbaṃ, na baladassanavasena ‘‘mātugāmo bhājanadhovanaudakaṃ chaḍḍetī’’ti (pārā. aṭṭha. 1.92) upari vuccamānattā, teneva ‘‘leḍḍupāto’’ti avatvā suppapātotiādi vuttaṃ. Kurundaṭṭhakathāyaṃ mahāpaccariyañca gharūpacārova gāmoti adhippāyena ‘‘gharūpacāre ṭhitassa leḍḍupāto gāmūpacāro’’ti vuttaṃ. Kataparikkhepoti iminā parikkhepato bahi upacāro na gahetabboti dasseti. Suppamusalapātopi aparikkhittagehasseva, so ca yato pahoti, tattheva gahetabbo, appahonaṭṭhāne pana vijjamānaṭṭhānameva gahetabbaṃ. Yassa pana gharassa samantato pākārādīhi parikkhepo kato hoti, tattha sova parikkhepo gharūpacāroti gahetabbaṃ.
ปุเพฺพ วุตฺตนเยนาติ ปริกฺขิตฺตคาเม วุตฺตนเยนฯ สงฺกรียตีติ มิสฺสียติฯ วิกาเล คามปฺปเวสเน ‘‘ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริเกฺขปํ อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๕๑๓) วุตฺตตฺตา คามคามูปจารานํ อสงฺกรตา อิจฺฉิตพฺพาติ อาห อสงฺกรโต จาติอาทิฯ เกจิ ปเนตฺถ ปาฬิยํ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺตสฺสาติ อิทํ ปริเกฺขปารหฎฺฐานํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ตโต ปรํ เอกเลฑฺฑุปาตปริจฺฉินฺนํ อุปจารํ ฯ ตสฺมา ปริเกฺขปารหฎฺฐานสงฺขาตํ คามํ โอกฺกมนฺตเสฺสว อาปตฺติ, น อุปจาร’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ ‘‘ฆรูปจาเร ฐิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาตพฺภนฺตรํ คาโม นามฯ ตโต อญฺญสฺส เลฑฺฑุปาตสฺส อพฺภนฺตรํ คามูปจาโร นามา’’ติ (ปารา. อฎฺฐ. ๑.๙๒) อิเธว อฎฺฐกถายํ วุตฺตตฺตาฯ วิกาเล คามปฺปเวสนสิกฺขาปทฎฺฐกถายญฺหิ อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจาโร อทินฺนาทาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพติ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๕๑๒) อยเมว นโย อติทิสิโตฯ เตเนว มาติกาฎฺฐกถายมฺปิ ‘‘ยฺวายํ อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจาโร ทสฺสิโต, ตสฺส วเสน วิกาเล คามปฺปเวสนาทีสุ อาปตฺติ ปริจฺฉินฺทิตพฺพา’’ติ (กงฺขา. อฎฺฐ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตํ, ตสฺมา ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริเกฺขปํ อติกฺกมนฺตสฺส, อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ฆรูปจารโต ปฎฺฐาย ทุติยเลฑฺฑุปาตสงฺขาตํ คามูปจารํ โอกฺกมนฺตสฺส วิกาเล คามปฺปเวสนาปตฺติ โหติ, มาติกายญฺจ วิกาเล คามํ ปวิเสยฺยาติ คามคฺคหเณเนว คามูปจาโรปิ คหิโตติ เวทิตพฺพํฯ วิกาเล คามปฺปเวสนาทีสูติ อาทิ-สเทฺทน ฆรฆรูปจาราทีสุ ฐิตานํ อุปฺปนฺนลาภภาชนาทิํ สงฺคณฺหาติฯ
Pubbe vuttanayenāti parikkhittagāme vuttanayena. Saṅkarīyatīti missīyati. Vikāle gāmappavesane ‘‘parikkhittassa gāmassa parikkhepaṃ atikkamantassa āpatti pācittiyassa. Aparikkhittassa gāmassa upacāraṃ okkamantassa āpatti pācittiyassā’’ti (pāci. 513) vuttattā gāmagāmūpacārānaṃ asaṅkaratā icchitabbāti āha asaṅkarato cātiādi. Keci panettha pāḷiyaṃ ‘‘aparikkhittassa gāmassa upacāraṃ okkamantassāti idaṃ parikkhepārahaṭṭhānaṃ sandhāya vuttaṃ, na tato paraṃ ekaleḍḍupātaparicchinnaṃ upacāraṃ . Tasmā parikkhepārahaṭṭhānasaṅkhātaṃ gāmaṃ okkamantasseva āpatti, na upacāra’’nti vadanti, taṃ na gahetabbaṃ ‘‘gharūpacāre ṭhitassa majjhimassa purisassa leḍḍupātabbhantaraṃ gāmo nāma. Tato aññassa leḍḍupātassa abbhantaraṃ gāmūpacāro nāmā’’ti (pārā. aṭṭha. 1.92) idheva aṭṭhakathāyaṃ vuttattā. Vikāle gāmappavesanasikkhāpadaṭṭhakathāyañhi aparikkhittassa gāmassa upacāro adinnādāne vuttanayeneva veditabboti (pāci. aṭṭha. 512) ayameva nayo atidisito. Teneva mātikāṭṭhakathāyampi ‘‘yvāyaṃ aparikkhittassa gāmassa upacāro dassito, tassa vasena vikāle gāmappavesanādīsu āpatti paricchinditabbā’’ti (kaṅkhā. aṭṭha. dutiyapārājikavaṇṇanā) vuttaṃ, tasmā parikkhittassa gāmassa parikkhepaṃ atikkamantassa, aparikkhittassa gāmassa gharūpacārato paṭṭhāya dutiyaleḍḍupātasaṅkhātaṃ gāmūpacāraṃ okkamantassa vikāle gāmappavesanāpatti hoti, mātikāyañca vikāle gāmaṃ paviseyyāti gāmaggahaṇeneva gāmūpacāropi gahitoti veditabbaṃ. Vikāle gāmappavesanādīsūti ādi-saddena gharagharūpacārādīsu ṭhitānaṃ uppannalābhabhājanādiṃ saṅgaṇhāti.
นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลาติ อินฺทขีลโต พหิ นิกฺขมิตฺวา ฐิตํ ยํ ฐานํ สพฺพเมตํ อรญฺญนฺติ โยชนาฯ อาจริยธนุ นาม ปกติหเตฺถน นววิทตฺถิปมาณํ, ชิยาย ปน อาโรปิตาย สตฺตฎฺฐวิทตฺถิมตฺตนฺติ วทนฺติฯ
Nikkhamitvā bahi indakhīlāti indakhīlato bahi nikkhamitvā ṭhitaṃ yaṃ ṭhānaṃ sabbametaṃ araññanti yojanā. Ācariyadhanu nāma pakatihatthena navavidatthipamāṇaṃ, jiyāya pana āropitāya sattaṭṭhavidatthimattanti vadanti.
กปฺปิยนฺติ อนุรูปวเสน วุตฺตํ อกปฺปิยสฺสาปิ อปฺปฎิคฺคหิตสฺส ปริโภเค ปาจิตฺติยตฺตาฯ ปริจฺจาคาทิมฺหิ อกเต ‘‘อิทํ มยฺหํ สนฺตก’’นฺติ วตฺถุสามินา อวิทิตมฺปิ ปริคฺคหิตเมว พาลุมฺมตฺตาทีนํ สนฺตกํ วิย, ตาทิสํ อวหรโนฺตปิ ญาตกาทีหิ ปจฺฉา ญตฺวา วตฺถุสามินา จ อนุพนฺธิตพฺพโต ปาราชิโกว โหติฯ ยสฺส วเสน ปุริโส เถโน โหติ, ตํ เถยฺยนฺติ อาห ‘‘อวหรณจิตฺตเสฺสตํ อธิวจน’’นฺติฯ ปปญฺจสงฺขาติ ตณฺหามานทิฎฺฐิสงฺขาตา ปปญฺจโกฎฺฐาสาฯ เอโก จิตฺตโกฎฺฐาโสติ ฐานาจาวนปโยคสมุฎฺฐาปโก เอโก จิตฺตโกฎฺฐาโสติ อโตฺถฯ
Kappiyanti anurūpavasena vuttaṃ akappiyassāpi appaṭiggahitassa paribhoge pācittiyattā. Pariccāgādimhi akate ‘‘idaṃ mayhaṃ santaka’’nti vatthusāminā aviditampi pariggahitameva bālummattādīnaṃ santakaṃ viya, tādisaṃ avaharantopi ñātakādīhi pacchā ñatvā vatthusāminā ca anubandhitabbato pārājikova hoti. Yassa vasena puriso theno hoti, taṃ theyyanti āha ‘‘avaharaṇacittassetaṃ adhivacana’’nti. Papañcasaṅkhāti taṇhāmānadiṭṭhisaṅkhātā papañcakoṭṭhāsā. Eko cittakoṭṭhāsoti ṭhānācāvanapayogasamuṭṭhāpako eko cittakoṭṭhāsoti attho.
อภิโยควเสนาติ อฎฺฎกรณวเสนฯ สวิญฺญาณเกเนวาติ อิทํ สวิญฺญาณกานเญฺญว อาเวณิกวินิจฺฉยํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ปาโณ อปทนฺติอาทีสุ หิ ‘‘ปทสา เนสฺสามี’’ติ ปฐมํ ปาทํ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสาติอาทินา ปาฬิยํ (ปารา. ๑๑๑), ภิกฺขุ ทาสํ ทิสฺวา สุขทุกฺขํ ปุจฺฉิตฺวา วา อปุจฺฉิตฺวา วา ‘‘คจฺฉ, ปลายิตฺวา สุขํ ชีวา’’ติ วทติ, โส เจ ปลายติ, ทุติยปทวาเร ปาราชิกนฺติอาทินา (ปารา. อฎฺฐ. ๑.๑๑๔) อฎฺฐกถายญฺจ โย สวิญฺญาณกานเญฺญว อาเวณิโก วินิจฺฉโย วุโตฺต, โส อารามาทิอวิญฺญาณเกสุ น ลพฺภตีติ ตาทิสํ สนฺธาย ‘‘สวิญฺญาณเกเนวา’’ติ วุตฺตํฯ โย ปน วินิจฺฉโย อารามาทิอวิญฺญาณเกสุ ลพฺภติ, โส ยสฺมา สวิญฺญาณเกสุ อลพฺภนโก นาม นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘นานาภณฺฑวเสน สวิญฺญาณกาวิญฺญาณกมิสฺสเกนา’’ติฯ สวิญฺญาณเกน จ อวิญฺญาณเกน จาติ อโตฺถฯ ยสฺมา เจตฺถ อวิญฺญาณเกเนว อาทิยนาทีนิ ฉปิ ปทานิ น สกฺกา โยเชตุํ อิริยาปถวิโกปนสฺส สวิญฺญาณกวเสเนว โยเชตพฺพโต, ตสฺมา ‘‘อวิญฺญาณเกเนวา’’ติ ตติยํ ปการํ น วุตฺตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ
Abhiyogavasenāti aṭṭakaraṇavasena. Saviññāṇakenevāti idaṃ saviññāṇakānaññeva āveṇikavinicchayaṃ sandhāya vuttaṃ. Pāṇo apadantiādīsu hi ‘‘padasā nessāmī’’ti paṭhamaṃ pādaṃ saṅkāmeti, āpatti thullaccayassātiādinā pāḷiyaṃ (pārā. 111), bhikkhu dāsaṃ disvā sukhadukkhaṃ pucchitvā vā apucchitvā vā ‘‘gaccha, palāyitvā sukhaṃ jīvā’’ti vadati, so ce palāyati, dutiyapadavāre pārājikantiādinā (pārā. aṭṭha. 1.114) aṭṭhakathāyañca yo saviññāṇakānaññeva āveṇiko vinicchayo vutto, so ārāmādiaviññāṇakesu na labbhatīti tādisaṃ sandhāya ‘‘saviññāṇakenevā’’ti vuttaṃ. Yo pana vinicchayo ārāmādiaviññāṇakesu labbhati, so yasmā saviññāṇakesu alabbhanako nāma natthi, tasmā vuttaṃ ‘‘nānābhaṇḍavasena saviññāṇakāviññāṇakamissakenā’’ti. Saviññāṇakena ca aviññāṇakena cāti attho. Yasmā cettha aviññāṇakeneva ādiyanādīni chapi padāni na sakkā yojetuṃ iriyāpathavikopanassa saviññāṇakavaseneva yojetabbato, tasmā ‘‘aviññāṇakenevā’’ti tatiyaṃ pakāraṃ na vuttanti daṭṭhabbaṃ.
อารามนฺติ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ ทาสาทิสวิญฺญาณกสฺสาปิ อิธ สงฺคเหตพฺพโต, นานาภณฺฑวเสน เหตฺถ โยชนา ทสฺสิยติฯ ปริกปฺปิตฎฺฐานนฺติ ปริกปฺปิโตกาสํฯ สุงฺกฆาตนฺติ เอตฺถ มคฺคํ คจฺฉเนฺตหิ สตฺถิเกหิ อตฺตนา นียมานภณฺฑโต รโญฺญ ทาตพฺพภาโค สุโงฺก นาม, โส เอตฺถ หญฺญติ อทตฺวา คจฺฉเนฺตหิ อวหรียติ, ตํ วา หนฺติ เอตฺถ ราชปุริสา อททนฺตานํ สนฺตกํ พลกฺกาเรนาติ สุงฺกฆาโต, ‘‘เอตฺถ ปวิเฎฺฐหิ สุโงฺก ทาตโพฺพ’’ติ รุกฺขปพฺพตาทิสญฺญาเณน นิยมิตปฺปเทสเสฺสตํ อธิวจนํฯ
Ārāmanti idaṃ upalakkhaṇamattaṃ dāsādisaviññāṇakassāpi idha saṅgahetabbato, nānābhaṇḍavasena hettha yojanā dassiyati. Parikappitaṭṭhānanti parikappitokāsaṃ. Suṅkaghātanti ettha maggaṃ gacchantehi satthikehi attanā nīyamānabhaṇḍato rañño dātabbabhāgo suṅko nāma, so ettha haññati adatvā gacchantehi avaharīyati, taṃ vā hanti ettha rājapurisā adadantānaṃ santakaṃ balakkārenāti suṅkaghāto, ‘‘ettha paviṭṭhehi suṅko dātabbo’’ti rukkhapabbatādisaññāṇena niyamitappadesassetaṃ adhivacanaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๒. ทุติยปาราชิกํ • 2. Dutiyapārājikaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๒. ทุติยปาราชิกํ • 2. Dutiyapārājikaṃ
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ปทภาชนียวณฺณนา • Padabhājanīyavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ปทภาชนียวณฺณนา • Padabhājanīyavaṇṇanā