Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi |
๘. ปาทสกลิกาหตปโญฺห
8. Pādasakalikāhatapañho
๘. ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ตุเมฺห ภณถ ‘ภควโต คจฺฉนฺตสฺส อยํ อเจตนา มหาปถวี นินฺนํ อุนฺนมติ, อุนฺนตํ โอนมตี’ติ, ปุน จ ภณถ ‘ภควโต ปาโท สกลิกาย ขโต’ติฯ ยา สา สกลิกา ภควโต ปาเท ปติตา, กิสฺส ปน สา สกลิกา ภควโต ปาทา น นิวตฺตาฯ ยทิ, ภเนฺต นาคเสน, ภควโต คจฺฉนฺตสฺส อยํ อเจตนา มหาปถวี นินฺนํ อุนฺนมติ, อุนฺนตํ โอนมติ, เตน หิ ‘ภควโต ปาโท สกลิกาย ขโต’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉาฯ ยทิ ภควโต ปาโท สกลิกาย ขโต, เตน หิ ‘ภควโต คจฺฉนฺตสฺส อยํ อเจตนา มหาปถวี นินฺนํ อุนฺนมติ อุนฺนตํ โอนมตี’ติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉาฯ อยมฺปิ อุภโต โกฎิโก ปโญฺห ตวานุปฺปโตฺต, โส ตยา นิพฺพาหิตโพฺพ’’ติฯ
8. ‘‘Bhante nāgasena, tumhe bhaṇatha ‘bhagavato gacchantassa ayaṃ acetanā mahāpathavī ninnaṃ unnamati, unnataṃ onamatī’ti, puna ca bhaṇatha ‘bhagavato pādo sakalikāya khato’ti. Yā sā sakalikā bhagavato pāde patitā, kissa pana sā sakalikā bhagavato pādā na nivattā. Yadi, bhante nāgasena, bhagavato gacchantassa ayaṃ acetanā mahāpathavī ninnaṃ unnamati, unnataṃ onamati, tena hi ‘bhagavato pādo sakalikāya khato’ti yaṃ vacanaṃ, taṃ micchā. Yadi bhagavato pādo sakalikāya khato, tena hi ‘bhagavato gacchantassa ayaṃ acetanā mahāpathavī ninnaṃ unnamati unnataṃ onamatī’ti tampi vacanaṃ micchā. Ayampi ubhato koṭiko pañho tavānuppatto, so tayā nibbāhitabbo’’ti.
‘‘สจฺจํ , มหาราช, อเตฺถตํ ภควโต คจฺฉนฺตสฺส อยํ อเจตนา มหาปถวี นินฺนํ อุนฺนมติ อุนฺนตํ โอนมติ, ภควโต จ ปาโท สกลิกาย ขโต, น จ ปน สา สกลิกา อตฺตโน ธมฺมตาย ปติตา, เทวทตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปติตาฯ เทวทโตฺต, มหาราช, พหูนิ ชาติสตสหสฺสานิ ภควติ อาฆาตํ พนฺธิ, โส เตน อาฆาเตน ‘มหนฺตํ กูฎาคารปฺปมาณํ ปาสาณํ ภควโต อุปริ ปาเตสฺสามี’ติ มุญฺจิฯ อถ เทฺว เสลา ปถวิโต อุฎฺฐหิตฺวา ตํ ปาสาณํ สมฺปฎิจฺฉิํสุ, อถ เนสํ สมฺปหาเรน ปาสาณโต ปปฎิกา ภิชฺชิตฺวา เยน วา เตน วา ปตนฺตี ภควโต ปาเท ปติตา’’ติฯ
‘‘Saccaṃ , mahārāja, atthetaṃ bhagavato gacchantassa ayaṃ acetanā mahāpathavī ninnaṃ unnamati unnataṃ onamati, bhagavato ca pādo sakalikāya khato, na ca pana sā sakalikā attano dhammatāya patitā, devadattassa upakkamena patitā. Devadatto, mahārāja, bahūni jātisatasahassāni bhagavati āghātaṃ bandhi, so tena āghātena ‘mahantaṃ kūṭāgārappamāṇaṃ pāsāṇaṃ bhagavato upari pātessāmī’ti muñci. Atha dve selā pathavito uṭṭhahitvā taṃ pāsāṇaṃ sampaṭicchiṃsu, atha nesaṃ sampahārena pāsāṇato papaṭikā bhijjitvā yena vā tena vā patantī bhagavato pāde patitā’’ti.
‘‘ยถา จ, ภเนฺต นาคเสน, เทฺว เสลา ปาสาณํ สมฺปฎิจฺฉิํสุ, ตเถว ปปฎิกาปิ สมฺปฎิจฺฉิตพฺพา’’ติ? ‘‘สมฺปฎิจฺฉิตมฺปิ, มหาราช, อิเธกจฺจํ ปคฺฆรติ ปสวติ น ฐานมุปคจฺฉติ, ยถา, มหาราช, อุทกํ ปาณินา คหิตํ องฺคุลนฺตริกาหิ ปคฺฆรติ ปสวติ น ฐานมุปคจฺฉติ, ขีรํ ตกฺกํ มธุํ สปฺปิ เตสํ มจฺฉรสํ มํสรสํ ปาณินา คหิตํ องฺคุลนฺตริกาหิ ปคฺฆรติ ปสวติ น ฐานมุปคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, สมฺปฎิจฺฉนตฺถํ อุปคตานํ ทฺวินฺนํ เสลานํ สมฺปหาเรน ปาสาณโต ปปฎิกา ภิชฺชิตฺวา เยน วา เตน วา ปตนฺตี ภควโต ปาเท ปติตาฯ
‘‘Yathā ca, bhante nāgasena, dve selā pāsāṇaṃ sampaṭicchiṃsu, tatheva papaṭikāpi sampaṭicchitabbā’’ti? ‘‘Sampaṭicchitampi, mahārāja, idhekaccaṃ paggharati pasavati na ṭhānamupagacchati, yathā, mahārāja, udakaṃ pāṇinā gahitaṃ aṅgulantarikāhi paggharati pasavati na ṭhānamupagacchati, khīraṃ takkaṃ madhuṃ sappi tesaṃ maccharasaṃ maṃsarasaṃ pāṇinā gahitaṃ aṅgulantarikāhi paggharati pasavati na ṭhānamupagacchati, evameva kho, mahārāja, sampaṭicchanatthaṃ upagatānaṃ dvinnaṃ selānaṃ sampahārena pāsāṇato papaṭikā bhijjitvā yena vā tena vā patantī bhagavato pāde patitā.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, สณฺหสุขุมอณุรชสมํ ปุฬินํ มุฎฺฐินา คหิตํ องฺคุลนฺตริกาหิ ปคฺฆรติ ปสวติ น ฐานมุปคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, สมฺปฎิจฺฉนตฺถํ อุปคตานํ ทฺวินฺนํ เสลานํ สมฺปหาเรน ปาสาณโต ปปฎิกา ภิชฺชิตฺวา เยน วา เตน วา ปตนฺตี ภควโต ปาเท ปติตาฯ
‘‘Yathā vā pana, mahārāja, saṇhasukhumaaṇurajasamaṃ puḷinaṃ muṭṭhinā gahitaṃ aṅgulantarikāhi paggharati pasavati na ṭhānamupagacchati, evameva kho, mahārāja, sampaṭicchanatthaṃ upagatānaṃ dvinnaṃ selānaṃ sampahārena pāsāṇato papaṭikā bhijjitvā yena vā tena vā patantī bhagavato pāde patitā.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, กพโฬ มุเขน คหิโต อิเธกจฺจสฺส มุขโต มุจฺจิตฺวา ปคฺฆรติ ปสวติ น ฐานมุปคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, สมฺปฎิจฺฉนตฺถํ อุปคตานํ ทฺวินฺนํ เสลานํ สมฺปหาเรน ปาสาณโต ปปฎิกา ภิชฺชิตฺวา เยน วา เตน วา ปตนฺตี ภควโต ปาเท ปติตา’’ติฯ
‘‘Yathā vā pana, mahārāja, kabaḷo mukhena gahito idhekaccassa mukhato muccitvā paggharati pasavati na ṭhānamupagacchati, evameva kho, mahārāja, sampaṭicchanatthaṃ upagatānaṃ dvinnaṃ selānaṃ sampahārena pāsāṇato papaṭikā bhijjitvā yena vā tena vā patantī bhagavato pāde patitā’’ti.
‘‘โหตุ, ภเนฺต นาคเสน, เสเลหิ ปาสาโณ สมฺปฎิจฺฉิโต, อถ ปปฎิกายปิ อปจิติ กาตพฺพา ยเถว มหาปถวิยา’’ติ? ‘‘ทฺวาทสิเม, มหาราช, อปจิติํ น กโรนฺติฯ กตเม ทฺวาทส? รโตฺต ราควเสน อปจิติํ น กโรติ, ทุโฎฺฐ โทสวเสน, มูโฬฺห โมหวเสน, อุนฺนโต มานวเสน, นิคฺคุโณ อวิเสสตาย, อติถโทฺธ อนิเสธนตาย, หีโน หีนสภาวตาย, วจนกโร อนิสฺสรตาย, ปาโป กทริยตาย, ทุกฺขาปิโต ปฎิทุกฺขาปนตาย, ลุโทฺธ โลภาภิภูตตาย, อายูหิโต อตฺถสาธนตาย 1 อปจิติํ น กโรติฯ อิเม โข มหาราช ทฺวาทส อปจิติํ น กโรนฺติฯ สา จ ปน ปปฎิกา ปาสาณสมฺปหาเรน ภิชฺชิตฺวา อนิมิตฺตกตทิสา เยน วา เตน วา ปตมานา ภควโต ปาเท ปติตาฯ
‘‘Hotu, bhante nāgasena, selehi pāsāṇo sampaṭicchito, atha papaṭikāyapi apaciti kātabbā yatheva mahāpathaviyā’’ti? ‘‘Dvādasime, mahārāja, apacitiṃ na karonti. Katame dvādasa? Ratto rāgavasena apacitiṃ na karoti, duṭṭho dosavasena, mūḷho mohavasena, unnato mānavasena, nigguṇo avisesatāya, atithaddho anisedhanatāya, hīno hīnasabhāvatāya, vacanakaro anissaratāya, pāpo kadariyatāya, dukkhāpito paṭidukkhāpanatāya, luddho lobhābhibhūtatāya, āyūhito atthasādhanatāya 2 apacitiṃ na karoti. Ime kho mahārāja dvādasa apacitiṃ na karonti. Sā ca pana papaṭikā pāsāṇasampahārena bhijjitvā animittakatadisā yena vā tena vā patamānā bhagavato pāde patitā.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, สณฺหสุขุมอณุรโช อนิลพลสมาหโต อนิมิตฺตกตทิโส เยน วา เตน วา อภิกิรติ, เอวเมว โข, มหาราช, สา ปปฎิกา ปาสาณสมฺปหาเรน ภิชฺชิตฺวา อนิมิตฺตกตทิสา เยน วา เตน วา ปตมานา ภควโต ปาเท ปติตาฯ ยทิ ปน, มหาราช, สา ปปฎิกา ปาสาณโต วิสุํ น ภเวยฺย, ตมฺปิ เต เสลา ปาสาณปปฎิกํ อุปฺปติตฺวา คเณฺหยฺยุํฯ เอสา ปน, มหาราช, ปปฎิกา น ภูมฎฺฐา น อากาสฎฺฐา, ปาสาณสมฺปหารเวเคน ภิชฺชิตฺวา อนิมิตฺตกตทิสา เยน วา เตน วา ปตมานา ภควโต ปาเท ปติตาฯ
‘‘Yathā vā pana, mahārāja, saṇhasukhumaaṇurajo anilabalasamāhato animittakatadiso yena vā tena vā abhikirati, evameva kho, mahārāja, sā papaṭikā pāsāṇasampahārena bhijjitvā animittakatadisā yena vā tena vā patamānā bhagavato pāde patitā. Yadi pana, mahārāja, sā papaṭikā pāsāṇato visuṃ na bhaveyya, tampi te selā pāsāṇapapaṭikaṃ uppatitvā gaṇheyyuṃ. Esā pana, mahārāja, papaṭikā na bhūmaṭṭhā na ākāsaṭṭhā, pāsāṇasampahāravegena bhijjitvā animittakatadisā yena vā tena vā patamānā bhagavato pāde patitā.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, วาตมณฺฑลิกาย อุกฺขิตฺตํ ปุราณปณฺณํ อนิมิตฺตกตทิสํ เยน วา เตน วา ปตติ, เอวเมว โข, มหาราช, เอสา ปปฎิกา ปาสาณสมฺปหารเวเคน อนิมิตฺตกตทิสา เยน วา เตน วา ปตมานา ภควโต ปาเท ปติตาฯ อปิ จ, มหาราช, อกตญฺญุสฺส กทริยสฺส เทวทตฺตสฺส ทุกฺขานุภวนาย ปปฎิกา ภควโต ปาเท ปติตา’’ติฯ ‘‘สาธุ, ภเนฺต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฎิจฺฉามี’’ติฯ
‘‘Yathā vā pana, mahārāja, vātamaṇḍalikāya ukkhittaṃ purāṇapaṇṇaṃ animittakatadisaṃ yena vā tena vā patati, evameva kho, mahārāja, esā papaṭikā pāsāṇasampahāravegena animittakatadisā yena vā tena vā patamānā bhagavato pāde patitā. Api ca, mahārāja, akataññussa kadariyassa devadattassa dukkhānubhavanāya papaṭikā bhagavato pāde patitā’’ti. ‘‘Sādhu, bhante nāgasena, evametaṃ tathā sampaṭicchāmī’’ti.
ปาทสกลิกาหตปโญฺห อฎฺฐโมฯ
Pādasakalikāhatapañho aṭṭhamo.
Footnotes: