Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā |
๔. ปทโสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา
4. Padasodhammasikkhāpadavaṇṇanā
ปทโส ธมฺมํ วาเจยฺยาติ เอกโต ปทํ ปทํ ธมฺมํ วาเจยฺย, โกฎฺฐาสํ โกฎฺฐาสํ วาเจยฺยาติ อโตฺถฯ ยสฺมา น เกวลํ ติโสฺส สงฺคีติโย อารุฬฺหธมฺมํเยว ปทโส วาเจนฺตสฺส อาปตฺติ, ตสฺมา ‘‘สงฺคีติตฺตยํ อนารุฬฺหมฺปี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อาทิ-สเทฺทน (ปาจิ. อฎฺฐ. ๔๕) สีลูปเทส ธุตงฺคปญฺหอารมฺมณกถา พุทฺธิกทณฺฑกญฺญาณวตฺถุอสุภกถาทีนํ คหณํฯ เมณฺฑกมิลินฺทปเญฺหสุ เถรสฺส สกปฺปฎิภาเน อนาปตฺติฯ ยํ รโญฺญ สญฺญาปนตฺถํ อาหริตฺวา วุตฺตํ, ตตฺถ อาปตฺติฯ วณฺณปิฎกองฺคุลิมาลปิฎกรฎฺฐปาลคชฺชิตอาฬวกคชฺชิตคูฬฺหมคฺคคูฬฺหเวสฺสนฺตรคูฬฺหวินยเวทลฺลปิฎกาทีนิ ปน อพุทฺธวจนานิเยวฯ
Padaso dhammaṃ vāceyyāti ekato padaṃ padaṃ dhammaṃ vāceyya, koṭṭhāsaṃ koṭṭhāsaṃ vāceyyāti attho. Yasmā na kevalaṃ tisso saṅgītiyo āruḷhadhammaṃyeva padaso vācentassa āpatti, tasmā ‘‘saṅgītittayaṃ anāruḷhampī’’tiādi vuttaṃ. Ādi-saddena (pāci. aṭṭha. 45) sīlūpadesa dhutaṅgapañhaārammaṇakathā buddhikadaṇḍakaññāṇavatthuasubhakathādīnaṃ gahaṇaṃ. Meṇḍakamilindapañhesu therassa sakappaṭibhāne anāpatti. Yaṃ rañño saññāpanatthaṃ āharitvā vuttaṃ, tattha āpatti. Vaṇṇapiṭakaaṅgulimālapiṭakaraṭṭhapālagajjitaāḷavakagajjitagūḷhamaggagūḷhavessantaragūḷhavinayavedallapiṭakādīni pana abuddhavacanāniyeva.
ยสฺมา ปน ตํ ปทํ จตุพฺพิธํ โหติ, ตสฺมา ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘ปทานุปทอนฺวกฺขรานุพฺยญฺชเนสู’’ติ วุตฺตํฯ ตตฺถ ปทนฺติ เอโก คาถาปาโท อธิเปฺปโตฯ อนุปทนฺติ ทุติยปาโทฯ อนฺวกฺขรนฺติ เอเกกํ อกฺขรํฯ อนุพฺยญฺชนนฺติ ปุริมพฺยญฺชเนน สทิสํ ปจฺฉาพฺยญฺชนํฯ ยํ กิญฺจิ วา เอกํ อกฺขรํ อนฺวกฺขรํฯ อกฺขรสมูโห อนุพฺยญฺชนํฯ อกฺขรานุพฺยญฺชนสมูโห ปทํฯ ปฐมํ ปทํ ปทเมว, ทุติยํ อนุปทนฺติ เอวเมตฺถ นานากรณํ เวทิตพฺพํฯ เอเตสุ ปทาทีสุ ยํ กญฺจิ โกฎฺฐาสํ ภิกฺขุญฺจ ภิกฺขุนิญฺจ ฐเปตฺวา อวเสสปุคฺคเลหิ สทฺธิํ เอกโต ภณนฺตสฺส ปทาทิคณนาย ปาจิตฺติยนฺติ สมฺพโนฺธฯ
Yasmā pana taṃ padaṃ catubbidhaṃ hoti, tasmā taṃ dassetuṃ ‘‘padānupadaanvakkharānubyañjanesū’’ti vuttaṃ. Tattha padanti eko gāthāpādo adhippeto. Anupadanti dutiyapādo. Anvakkharanti ekekaṃ akkharaṃ. Anubyañjananti purimabyañjanena sadisaṃ pacchābyañjanaṃ. Yaṃ kiñci vā ekaṃ akkharaṃ anvakkharaṃ. Akkharasamūho anubyañjanaṃ. Akkharānubyañjanasamūho padaṃ. Paṭhamaṃ padaṃ padameva, dutiyaṃ anupadanti evamettha nānākaraṇaṃ veditabbaṃ. Etesu padādīsu yaṃ kañci koṭṭhāsaṃ bhikkhuñca bhikkhuniñca ṭhapetvā avasesapuggalehi saddhiṃ ekato bhaṇantassa padādigaṇanāya pācittiyanti sambandho.
เอตฺถ คาถาพเนฺธสุ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๔๕) ตาว ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ (ธ. ป. ๑, ๒) เอกเมกํ ปทํ สามเณเรน สทฺธิํ เอกโต อารภิตฺวา เอกโตเยว นิฎฺฐาเปนฺตสฺส ปทคณนาย ปาจิตฺติยํฯ เถเรน ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ วุเตฺต ตํ ปทํ อปาปุณิตฺวา ‘‘มโนเสฎฺฐา มโนมยา’’ติ วจนกาเล ปเตฺตน สามเณเรน เอกโต ภณนฺตสฺส อนุปทคณนายฯ ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติอาทิ (ม. นิ. ๑.๓๕๓, ๓๕๖) วจนกาเล เตน สทฺธิํ ‘‘รู’’ การมตฺตเมว วาเจนฺตสฺส อนฺวกฺขรคณนายฯ เอส นโย คาถาพเนฺธปิฯ ‘‘รูปํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ, เวทนา อนิจฺจา’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๕๓, ๓๕๖) อิมํ สุตฺตํ วาจยมาโน เถเรน ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติ วุจฺจมาเน สามเณโร สีฆปญฺญตาย ‘‘เวทนา อนิจฺจา’’ติ อิมํ อนิจฺจปทํ เถรสฺส ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติ เอเตน อนิจฺจปเทน สทฺธิํ เอกโต ภณโนฺต วาจํ นิจฺฉาเรติ, เอวํ วาเจนฺตสฺส อนุพฺยญฺชนคณนาย ปาจิตฺติยนฺติ เวทิตพฺพํฯ
Ettha gāthābandhesu (pāci. aṭṭha. 45) tāva ‘‘manopubbaṅgamā dhammā’’ti (dha. pa. 1, 2) ekamekaṃ padaṃ sāmaṇerena saddhiṃ ekato ārabhitvā ekatoyeva niṭṭhāpentassa padagaṇanāya pācittiyaṃ. Therena ‘‘manopubbaṅgamā dhammā’’ti vutte taṃ padaṃ apāpuṇitvā ‘‘manoseṭṭhā manomayā’’ti vacanakāle pattena sāmaṇerena ekato bhaṇantassa anupadagaṇanāya. ‘‘Rūpaṃ anicca’’ntiādi (ma. ni. 1.353, 356) vacanakāle tena saddhiṃ ‘‘rū’’ kāramattameva vācentassa anvakkharagaṇanāya. Esa nayo gāthābandhepi. ‘‘Rūpaṃ, bhikkhave, aniccaṃ, vedanā aniccā’’ti (ma. ni. 1.353, 356) imaṃ suttaṃ vācayamāno therena ‘‘rūpaṃ anicca’’nti vuccamāne sāmaṇero sīghapaññatāya ‘‘vedanā aniccā’’ti imaṃ aniccapadaṃ therassa ‘‘rūpaṃ anicca’’nti etena aniccapadena saddhiṃ ekato bhaṇanto vācaṃ nicchāreti, evaṃ vācentassa anubyañjanagaṇanāya pācittiyanti veditabbaṃ.
ติกปาจิตฺติยนฺติ อนุปสมฺปเนฺน อนุปสมฺปนฺนสญฺญิเวมติกอุปสมฺปนฺนสญฺญีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิฯ อนุปสมฺปเนฺนน สทฺธิํ เอกโต อุเทฺทสคฺคหเณ เอกโต ภณนฺตสฺส อนาปตฺตีติ สมฺพโนฺธฯ เอส นโย ‘‘สชฺฌายกรเณ, ตสฺส สนฺติเก อุเทฺทสคฺคหเณ’’ติ เอตฺถาปิฯ ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – อุปสมฺปโนฺน จ อนุปสมฺปโนฺน จ นิสีทิตฺวา อุทฺทิสาเปนฺติฯ อาจริโย ‘‘นิสินฺนานํ ภณามี’’ติ เตหิ สทฺธิํ เอกโต วทติ, อาจริยเสฺสว อาปตฺติฯ อนุปสมฺปเนฺนน สทฺธิํ คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติฯ เทฺวปิ ฐิตา คณฺหนฺติ, เอเสว นโยฯ ทหรภิกฺขุ นิสิโนฺน, สามเณโร ฐิโต, ‘‘นิสินฺนสฺส ภณามี’’ติ ภณโต อนาปตฺติฯ สเจ ทหโร ติฎฺฐติ, อิตโร นิสีทติ, ‘‘ฐิตสฺส ภณามี’’ติ ภณโตปิ อนาปตฺติฯ สเจ พหูนํ ภิกฺขูนํ อนฺตเร เอโก สามเณโร นิสิโนฺน โหติ, ตสฺมิํ นิสิเนฺน ปทโส ธมฺมํ วาเจนฺตสฺส อจิตฺตกา อาปตฺติฯ สเจ สามเณโร อุปจารํ มุญฺจิตฺวา ฐิโต วา นิสิโนฺน วา โหติ, เยสํ วาเจติ, เตสุ อปริยาปนฺนตฺตา เอเกน ทิสาภาเคน ปลายนกคนฺถํ นาม คณฺหาตีติ สงฺขํ คจฺฉติ, ตสฺมา อนาปตฺติฯ
Tikapācittiyanti anupasampanne anupasampannasaññivematikaupasampannasaññīnaṃ vasena tīṇi pācittiyāni. Anupasampannena saddhiṃ ekato uddesaggahaṇe ekato bhaṇantassa anāpattīti sambandho. Esa nayo ‘‘sajjhāyakaraṇe, tassa santike uddesaggahaṇe’’ti etthāpi. Tatrāyaṃ vinicchayo – upasampanno ca anupasampanno ca nisīditvā uddisāpenti. Ācariyo ‘‘nisinnānaṃ bhaṇāmī’’ti tehi saddhiṃ ekato vadati, ācariyasseva āpatti. Anupasampannena saddhiṃ gaṇhantassa anāpatti. Dvepi ṭhitā gaṇhanti, eseva nayo. Daharabhikkhu nisinno, sāmaṇero ṭhito, ‘‘nisinnassa bhaṇāmī’’ti bhaṇato anāpatti. Sace daharo tiṭṭhati, itaro nisīdati, ‘‘ṭhitassa bhaṇāmī’’ti bhaṇatopi anāpatti. Sace bahūnaṃ bhikkhūnaṃ antare eko sāmaṇero nisinno hoti, tasmiṃ nisinne padaso dhammaṃ vācentassa acittakā āpatti. Sace sāmaṇero upacāraṃ muñcitvā ṭhito vā nisinno vā hoti, yesaṃ vāceti, tesu apariyāpannattā ekena disābhāgena palāyanakaganthaṃ nāma gaṇhātīti saṅkhaṃ gacchati, tasmā anāpatti.
สชฺฌายกรเณติ อนุปสมฺปเนฺนน สทฺธิํ เอกโต สชฺฌายกรเณฯ ตสฺส สนฺติเก อุเทฺทสคฺคหเณติ อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก อุเทฺทสคฺคหเณฯ เยภุเยฺยน ปคุณคนฺถํ ภณนฺตสฺสาติ สเจ เอกคาถาย เอโก ปาโท นาคจฺฉติ, อวเสสา อาคจฺฉนฺติ, อยํ เยภุเยฺยน ปคุณคโนฺถ นามฯ เอเตน นเยน สุเตฺตปิ เวทิตโพฺพ, ตํ ภณนฺตสฺสฯ โอสาเรนฺตสฺส จาติ ปริสามเชฺฌ สุตฺตํ อุจฺจาเรนฺตสฺส จฯ
Sajjhāyakaraṇeti anupasampannena saddhiṃ ekato sajjhāyakaraṇe. Tassa santike uddesaggahaṇeti anupasampannassa santike uddesaggahaṇe. Yebhuyyena paguṇaganthaṃ bhaṇantassāti sace ekagāthāya eko pādo nāgacchati, avasesā āgacchanti, ayaṃ yebhuyyena paguṇagantho nāma. Etena nayena suttepi veditabbo, taṃ bhaṇantassa. Osārentassa cāti parisāmajjhe suttaṃ uccārentassa ca.
ปทโสธมฺมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Padasodhammasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.