Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā

    ๔. ปทฎฺฐานหารวิภงฺควณฺณนา

    4. Padaṭṭhānahāravibhaṅgavaṇṇanā

    ๒๒. ตตฺถ กตโม ปทฎฺฐาโน หาโรติอาทิ ปทฎฺฐานหารวิภโงฺคฯ ตตฺถ ยสฺมา ‘‘อิทํ อิมสฺส ปทฎฺฐานํ, อิทํ อิมสฺส ปทฎฺฐาน’’นฺติ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ปทฎฺฐานภูตธมฺมวิภาวนลกฺขโณ ปทฎฺฐาโน หาโร, ตสฺมา ปวตฺติยา มูลภูตํ อวิชฺชํ อาทิํ กตฺวา สภาวธมฺมานํ ปทฎฺฐานํ อาสนฺนการณํ นิทฺธาเรโนฺต อวิชฺชาย สภาวํ นิทฺทิสติ ‘‘สพฺพธมฺมยาถาวอสมฺปฎิเวธลกฺขณา อวิชฺชา’’ติฯ ตสฺสโตฺถ – สเพฺพสํ ธมฺมานํ อวิปรีตสภาโว น สมฺปฎิวิชฺฌียติ เอเตนาติ สพฺพธมฺมยาถาวอสมฺปฎิเวโธฯ โส ลกฺขณํ เอติสฺสาติ สา ตถา วุตฺตาฯ เอเตน ธมฺมสภาวปฺปฎิจฺฉาทนลกฺขณา อวิชฺชาติ วุตฺตํ โหติฯ อถ วา สมฺมา ปฎิเวโธ สมฺปฎิเวโธฯ ตสฺส ปฎิปโกฺข อสมฺปฎิเวโธฯ กตฺถ ปน โส สมฺปฎิเวธสฺส ปฎิปโกฺขติ อาห – ‘‘สพฺพ…เป.… ลกฺขณา’’ติฯ ยสฺมา ปน อสุเภ สุภนฺติอาทิวิปลฺลาเส สติ ตตฺถ สโมฺมโห อุปรูปริ ชายติเยว น หายติ, ตสฺมา ‘‘ตสฺสา วิปลฺลาสา ปทฎฺฐาน’’นฺติ วุตฺตํฯ

    22.Tattha katamo padaṭṭhāno hārotiādi padaṭṭhānahāravibhaṅgo. Tattha yasmā ‘‘idaṃ imassa padaṭṭhānaṃ, idaṃ imassa padaṭṭhāna’’nti tesaṃ tesaṃ dhammānaṃ padaṭṭhānabhūtadhammavibhāvanalakkhaṇo padaṭṭhāno hāro, tasmā pavattiyā mūlabhūtaṃ avijjaṃ ādiṃ katvā sabhāvadhammānaṃ padaṭṭhānaṃ āsannakāraṇaṃ niddhārento avijjāya sabhāvaṃ niddisati ‘‘sabbadhammayāthāvaasampaṭivedhalakkhaṇā avijjā’’ti. Tassattho – sabbesaṃ dhammānaṃ aviparītasabhāvo na sampaṭivijjhīyati etenāti sabbadhammayāthāvaasampaṭivedho. So lakkhaṇaṃ etissāti sā tathā vuttā. Etena dhammasabhāvappaṭicchādanalakkhaṇā avijjāti vuttaṃ hoti. Atha vā sammā paṭivedho sampaṭivedho. Tassa paṭipakkho asampaṭivedho. Kattha pana so sampaṭivedhassa paṭipakkhoti āha – ‘‘sabba…pe… lakkhaṇā’’ti. Yasmā pana asubhe subhantiādivipallāse sati tattha sammoho uparūpari jāyatiyeva na hāyati, tasmā ‘‘tassā vipallāsā padaṭṭhāna’’nti vuttaṃ.

    ปิยรูปํ สาตรูปนฺติ ปิยายิตพฺพชาติยํ อิฎฺฐชาติยญฺจ ปทฎฺฐานํฯ ‘‘ยํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ เอเตฺถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๔๐๐; ม. นิ. ๑.๑๓๓; วิภ. ๒๐๓) หิ วุตฺตํฯ อทินฺนาทานนฺติ อทินฺนาทานเจตนาฯ สา หิ เอกวารํ อุปฺปนฺนาปิ อนาทีนวทสฺสิตาย โลภสฺส อุปฺปตฺติการณํ โหตีติ ตสฺส ปทฎฺฐานํ วุตฺตํฯ โทสสฺส ปาณาติปาโต ปทฎฺฐานํ, โมหสฺส มิจฺฉาปฎิปทา ปทฎฺฐานนฺติ เอตฺถาปิ อิมินาว นเยน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ วณฺณสณฺฐานพฺยญฺชนคฺคหณลกฺขณาติ นิมิตฺตานุพฺยญฺชนคฺคหณลกฺขณาฯ สุขสญฺญาย ผสฺสสฺส อุปคมนลกฺขณตา ผสฺสปจฺจยตาว วุตฺตาฯ ‘‘ผุโฎฺฐ สญฺชานาตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๓) หิ วุตฺตํ ฯ อสฺสาโทติ ตณฺหาฯ สงฺขตลกฺขณานิ อุปฺปาทวยญฺญถตฺตานิฯ เยภุเยฺยน นิจฺจคฺคหณํ วิญฺญาณาธีนนฺติ นิจฺจสญฺญาย วิญฺญาณปทฎฺฐานตา วุตฺตาฯ ตถา หิ โส ภิกฺขุ ตํเยว วิญฺญาณํ สนฺธาวติ สํสรตีติ วิญฺญาณวิสยเมว อตฺตโน นิจฺจคฺคาหํ ปเวเทสิฯ ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ ยทิ อนิจฺจตา ทุกฺขตา จ สุทิฎฺฐา, อตฺตสญฺญา สุขสญฺญา อนวกาสาติ อาห – ‘‘อนิจฺจสญฺญาทุกฺขสญฺญาอสมนุปสฺสนลกฺขณา อตฺตสญฺญา’’ติฯ ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ, ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) หิ วุตฺตํฯ

    Piyarūpaṃ sātarūpanti piyāyitabbajātiyaṃ iṭṭhajātiyañca padaṭṭhānaṃ. ‘‘Yaṃ loke piyarūpaṃ sātarūpaṃ etthesā taṇhā uppajjamānā uppajjatī’’ti (dī. ni. 2.400; ma. ni. 1.133; vibha. 203) hi vuttaṃ. Adinnādānanti adinnādānacetanā. Sā hi ekavāraṃ uppannāpi anādīnavadassitāya lobhassa uppattikāraṇaṃ hotīti tassa padaṭṭhānaṃ vuttaṃ. Dosassa pāṇātipāto padaṭṭhānaṃ, mohassa micchāpaṭipadā padaṭṭhānanti etthāpi imināva nayena attho veditabbo. Vaṇṇasaṇṭhānabyañjanaggahaṇalakkhaṇāti nimittānubyañjanaggahaṇalakkhaṇā. Sukhasaññāya phassassa upagamanalakkhaṇatā phassapaccayatāva vuttā. ‘‘Phuṭṭho sañjānātī’’ti (saṃ. ni. 4.93) hi vuttaṃ . Assādoti taṇhā. Saṅkhatalakkhaṇāni uppādavayaññathattāni. Yebhuyyena niccaggahaṇaṃ viññāṇādhīnanti niccasaññāya viññāṇapadaṭṭhānatā vuttā. Tathā hi so bhikkhu taṃyeva viññāṇaṃ sandhāvati saṃsaratīti viññāṇavisayameva attano niccaggāhaṃ pavedesi. Pañcannaṃ khandhānaṃ yadi aniccatā dukkhatā ca sudiṭṭhā, attasaññā sukhasaññā anavakāsāti āha – ‘‘aniccasaññādukkhasaññāasamanupassanalakkhaṇā attasaññā’’ti. ‘‘Yadaniccaṃ taṃ dukkhaṃ, yaṃ dukkhaṃ tadanattā’’ti (saṃ. ni. 3.15) hi vuttaṃ.

    เยภุเยฺยน อตฺตาภินิเวโส อรูปธเมฺมสูติ อาห – ‘‘ตสฺสา นามกาโย ปทฎฺฐาน’’นฺติฯ สพฺพํ เนยฺยนฺติ จตฺตาริ สจฺจานิ จตุสจฺจวินิมุตฺตสฺส เญยฺยสฺส อภาวโตฯ จิตฺตวิเกฺขปปฎิสํหรณํ อุทฺธจฺจวิกฺขมฺภนํฯ อสุภาติ อสุภานุปสฺสนา, ปฎิภาคนิมิตฺตภูตา อสุภา เอว วา, ตณฺหาปฎิปกฺขตฺตา สมถสฺส อสุภา ปทฎฺฐานนฺติ วุตฺตํฯ อภิชฺฌาย ตนุกรณโต อทินฺนาทานาเวรมณี อโลภสฺส ปทฎฺฐานนฺติ วุตฺตาฯ ตถา พฺยาปาทสฺส ตนุกรณโต ปาณาติปาตาเวรมณี อโทสสฺส ปทฎฺฐานนฺติ วุตฺตาฯ วตฺถุอวิปฺปฎิปตฺติ วิสยสภาวปฎิเวโธ, สมฺมาปฎิปตฺติ สีลสมาธิสมฺปทานํ นิพฺพิทาญาเณน อนภิรติญาณเมว วา ตถา ปวตฺตํฯ สพฺพาปิ เวทนา ทุกฺขทุกฺขตาทิภาวโต ทุกฺขนฺติ กตฺวา วุตฺตํ – ‘‘ทุกฺขสญฺญาย เวทนา ปทฎฺฐาน’’นฺติฯ ธมฺมสญฺญาติ ธมฺมมตฺตนฺติ สญฺญาฯ

    Yebhuyyena attābhiniveso arūpadhammesūti āha – ‘‘tassā nāmakāyo padaṭṭhāna’’nti. Sabbaṃ neyyanti cattāri saccāni catusaccavinimuttassa ñeyyassa abhāvato. Cittavikkhepapaṭisaṃharaṇaṃ uddhaccavikkhambhanaṃ. Asubhāti asubhānupassanā, paṭibhāganimittabhūtā asubhā eva vā, taṇhāpaṭipakkhattā samathassa asubhā padaṭṭhānanti vuttaṃ. Abhijjhāya tanukaraṇato adinnādānāveramaṇī alobhassa padaṭṭhānanti vuttā. Tathā byāpādassa tanukaraṇato pāṇātipātāveramaṇī adosassa padaṭṭhānanti vuttā. Vatthuavippaṭipatti visayasabhāvapaṭivedho, sammāpaṭipatti sīlasamādhisampadānaṃ nibbidāñāṇena anabhiratiñāṇameva vā tathā pavattaṃ. Sabbāpi vedanā dukkhadukkhatādibhāvato dukkhanti katvā vuttaṃ – ‘‘dukkhasaññāya vedanā padaṭṭhāna’’nti. Dhammasaññāti dhammamattanti saññā.

    สตฺตานํ กาเย อวีตราคตา ปญฺจนฺนํ อชฺฌตฺติกายตนานํ วเสน โหตีติ อาห – ‘‘ปญฺจินฺทฺริยานิ รูปีนิ รูปราคสฺส ปทฎฺฐาน’’นฺติฯ กาโย หิ อิธ รูปนฺติ อธิเปฺปโตฯ วิเสสโต ฌานนิสฺสยภูเต มนายตเน จ นิกนฺติ โหตีติ อาห – ‘‘ฉฎฺฐายตนํ ภวราคสฺส ปทฎฺฐาน’’นฺติฯ เอทิสํ มา รูปํ นิพฺพตฺตตุ, มา เอทิสี เวทนาติ เอวํ ปวตฺตา รูปาทิอภินนฺทนา นิพฺพตฺตภวานุปสฺสิตาฯ ญาณทสฺสนสฺสาติ กมฺมสฺสกตญฺญาณทสฺสนสฺสฯ โยนิโสมนสิการวโต หิ ปุเพฺพนิวาสานุสฺสติ กมฺมสฺสกตญฺญาณสฺส การณํ โหติ, น อโยนิโส อุมฺมุชฺชนฺตสฺสฯ อิมสฺส จ อตฺถสฺส วิภาวนตฺถํ มหานารทกสฺสปชาตกํ (ชา. ๒.๒๒.๑๑๕๓ อาทโย), พฺรหฺมชาเล (ที. นิ. ๑.๓๘ อาทโย) เอกจฺจสสฺสตวาโท จ อุทาหริตโพฺพฯ ‘‘โอกปฺปนลกฺขณา’’ติอาทินา สทฺธาปสาทานํ วิเสสํ ทเสฺสติฯ โส ปน สทฺธายเยว อวตฺถาวิเสโส ทฎฺฐโพฺพฯ ตตฺถ โอกปฺปนํ สทฺทหนวเสน อารมฺมณสฺส โอคาหณํ นิจฺฉโยฯ อนาวิลตา อสฺสทฺธิยาปคเมน จิตฺตสฺส อกาลุสฺสิยตาฯ อภิปตฺถิยนา สทฺทหนเมวฯ อเวจฺจปสาโท ปญฺญาสหิโต อายตนคโต อภิปฺปสาโทฯ อปิลาปนํ อสโมฺมโส นิมุชฺชิตฺวา วิย อารมฺมณสฺส โอคาหณํ วา, เอตฺถ จ สทฺธาทีนํ ปสาทสทฺธาสมฺมปฺปธานสติปฎฺฐานฌานงฺคานิ ยถากฺกมํ ปทฎฺฐานนฺติ วทเนฺตน อวตฺถาวิเสสวเสน ปทฎฺฐานภาโว วุโตฺตติ ทฎฺฐพฺพํฯ สติสมาธีนํ วา กายาทโย สติปฎฺฐานาติฯ วิตกฺกาทโย จ ฌานานีติ ปทฎฺฐานภาเวน วุตฺตาฯ

    Sattānaṃ kāye avītarāgatā pañcannaṃ ajjhattikāyatanānaṃ vasena hotīti āha – ‘‘pañcindriyāni rūpīni rūparāgassa padaṭṭhāna’’nti. Kāyo hi idha rūpanti adhippeto. Visesato jhānanissayabhūte manāyatane ca nikanti hotīti āha – ‘‘chaṭṭhāyatanaṃ bhavarāgassa padaṭṭhāna’’nti. Edisaṃ mā rūpaṃ nibbattatu, mā edisī vedanāti evaṃ pavattā rūpādiabhinandanā nibbattabhavānupassitā. Ñāṇadassanassāti kammassakataññāṇadassanassa. Yonisomanasikāravato hi pubbenivāsānussati kammassakataññāṇassa kāraṇaṃ hoti, na ayoniso ummujjantassa. Imassa ca atthassa vibhāvanatthaṃ mahānāradakassapajātakaṃ (jā. 2.22.1153 ādayo), brahmajāle (dī. ni. 1.38 ādayo) ekaccasassatavādo ca udāharitabbo. ‘‘Okappanalakkhaṇā’’tiādinā saddhāpasādānaṃ visesaṃ dasseti. So pana saddhāyayeva avatthāviseso daṭṭhabbo. Tattha okappanaṃ saddahanavasena ārammaṇassa ogāhaṇaṃ nicchayo. Anāvilatā assaddhiyāpagamena cittassa akālussiyatā. Abhipatthiyanā saddahanameva. Aveccapasādo paññāsahito āyatanagato abhippasādo. Apilāpanaṃ asammoso nimujjitvā viya ārammaṇassa ogāhaṇaṃ vā, ettha ca saddhādīnaṃ pasādasaddhāsammappadhānasatipaṭṭhānajhānaṅgāni yathākkamaṃ padaṭṭhānanti vadantena avatthāvisesavasena padaṭṭhānabhāvo vuttoti daṭṭhabbaṃ. Satisamādhīnaṃ vā kāyādayo satipaṭṭhānāti. Vitakkādayo ca jhānānīti padaṭṭhānabhāvena vuttā.

    อสฺสาทมนสิกาโร สํโยชนีเยสุ ธเมฺมสุ อสฺสาทานุปสฺสิตาฯ ปุนพฺภววิโรหณาติ ปุนพฺภวาย วิโรหณา, ปุนพฺภวนิพฺพตฺตนารหตา วิปากธมฺมตาติ อโตฺถฯ โอปปจฺจยิกนิพฺพตฺติลกฺขณนฺติ อุปปตฺติภวภาเวน นิพฺพตฺตนสภาวํฯ นามกายรูปกายสงฺฆาตลกฺขณนฺติ อรูปรูปกายานํ สมูหิยภาวํฯ อินฺทฺริยววตฺถานนฺติ จกฺขาทีนํ ฉนฺนํ อินฺทฺริยานํ ววตฺถิตภาโวฯ โอปปจฺจยิกนฺติ อุปปตฺติกฺขนฺธนิพฺพตฺตกํฯ อุปธีติ อตฺตภาโวฯ อตฺตโน ปิยสฺส มรณํ จิเนฺตนฺตสฺส พาลสฺส เยภุเยฺยน โสโก อุปฺปชฺชตีติ มรณํ โสกสฺส ปทฎฺฐานนฺติ วุตฺตํฯ อุสฺสุกฺกํ เจตโส สนฺตาโปฯ โอทหนนฺติ อวทหนํฯ อตฺตโน นิสฺสยสฺส สนฺตปนเมว ภวสฺสาติ วุตฺตํ ภวํ ทเสฺสตุํ ‘‘อิมานี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ภวสฺส องฺคานิ ภวสงฺขาตานิ จ องฺคานิ ภวงฺคานิฯ เตสุ กิเลสา ภวสฺส องฺคานิฯ กมฺมวิปากวฎฺฎํ ภวสงฺขาตานิ องฺคานิฯ สมคฺคานีติ สพฺพานิฯ ขนฺธายตนาทีนํ อปราปรุปฺปตฺติสํสรณํ สํสาโรฯ ตสฺส ปุริมปุริมชาตินิปฺผนฺนํ กิเลสาทิวฎฺฎํ การณนฺติ อาห – ‘‘ภโว สํสารสฺส ปทฎฺฐาน’’นฺติฯ สมฺปาปกเหตุภาวํ สนฺธาย ‘‘มโคฺค นิโรธสฺส ปทฎฺฐาน’’นฺติ วุตฺตํฯ

    Assādamanasikāro saṃyojanīyesu dhammesu assādānupassitā. Punabbhavavirohaṇāti punabbhavāya virohaṇā, punabbhavanibbattanārahatā vipākadhammatāti attho. Opapaccayikanibbattilakkhaṇanti upapattibhavabhāvena nibbattanasabhāvaṃ. Nāmakāyarūpakāyasaṅghātalakkhaṇanti arūparūpakāyānaṃ samūhiyabhāvaṃ. Indriyavavatthānanti cakkhādīnaṃ channaṃ indriyānaṃ vavatthitabhāvo. Opapaccayikanti upapattikkhandhanibbattakaṃ. Upadhīti attabhāvo. Attano piyassa maraṇaṃ cintentassa bālassa yebhuyyena soko uppajjatīti maraṇaṃ sokassa padaṭṭhānanti vuttaṃ. Ussukkaṃ cetaso santāpo. Odahananti avadahanaṃ. Attano nissayassa santapanameva bhavassāti vuttaṃ bhavaṃ dassetuṃ ‘‘imānī’’tiādi vuttaṃ. Tattha bhavassa aṅgāni bhavasaṅkhātāni ca aṅgāni bhavaṅgāni. Tesu kilesā bhavassa aṅgāni. Kammavipākavaṭṭaṃ bhavasaṅkhātāni aṅgāni. Samaggānīti sabbāni. Khandhāyatanādīnaṃ aparāparuppattisaṃsaraṇaṃ saṃsāro. Tassa purimapurimajātinipphannaṃ kilesādivaṭṭaṃ kāraṇanti āha – ‘‘bhavo saṃsārassa padaṭṭhāna’’nti. Sampāpakahetubhāvaṃ sandhāya ‘‘maggo nirodhassa padaṭṭhāna’’nti vuttaṃ.

    กมฺมฎฺฐาโนคาหกสฺส โอตรณฎฺฐานตาย พหุสฺสุโต ติตฺถํ นาม, ตสฺส สมฺมาปยิรุปาสนา ติตฺถญฺญุตาฯ ธมฺมูปสญฺหิตํ ปาโมชฺชํ ปีตํ นาม, สปฺปายธมฺมสฺสวเนน ตํ อุปฺปาเทตฺวา กมฺมฎฺฐานสฺส พฺรูหนา ปีตญฺญุตา, ภาวนาย โถกมฺปิ ลยาปตฺติยา อุทฺธํปตฺติยา จ ชานนา ปตฺตญฺญุตาฯ อตฺตโน ปญฺจหิ ปธานิยเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส ชานนา อตฺตญฺญุตา, เตสุ ปุริมานํ ปุริมานํ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส ปทฎฺฐานภาโว สุวิเญฺญโยฺย เอวฯ กตปุญฺญเสฺสว ปติรูปเทสวาโส สมฺภวติ , น อิตรสฺสาติ ‘‘ปุเพฺพกตปุญฺญตา ปติรูปเทสวาสสฺส ปทฎฺฐาน’’นฺติ วุตฺตํฯ ยถาภูตญาณทสฺสนํ สห อธิฎฺฐาเนน ตรุณวิปสฺสนาฯ นิพฺพิทาติ พลววิปสฺสนาฯ วิราโคติ มโคฺคฯ วิมุตฺตีติ ผลํฯ เอวนฺติ ยทิทํ ‘‘ตสฺสา วิปลฺลาสา ปทฎฺฐาน’’นฺติอาทินา อวิชฺชาทีนํ ปทฎฺฐานํ ทสฺสิตํ, อิมินา นเยน อถาปิ โย โกจิ อุปนิสฺสโย พลวปจฺจโยติ โย โกจิ อวเสสปจฺจโย, สโพฺพ โส ปทฎฺฐานํ การณนฺติ เวทิตพฺพํฯ ‘‘เอวํ ยา กาจิ อุปนิสา โยคโต จ ปจฺจยโต จา’’ติปิ ปฐนฺติฯ ตตฺถ อุปนิสาติ การณํ, โยคโตติ ยุตฺติโต, ปจฺจยโตติ ปจฺจยภาวมตฺตโตติ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ

    Kammaṭṭhānogāhakassa otaraṇaṭṭhānatāya bahussuto titthaṃ nāma, tassa sammāpayirupāsanā titthaññutā. Dhammūpasañhitaṃ pāmojjaṃ pītaṃ nāma, sappāyadhammassavanena taṃ uppādetvā kammaṭṭhānassa brūhanā pītaññutā, bhāvanāya thokampi layāpattiyā uddhaṃpattiyā ca jānanā pattaññutā. Attano pañcahi padhāniyaṅgehi samannāgatassa jānanā attaññutā, tesu purimānaṃ purimānaṃ pacchimassa pacchimassa padaṭṭhānabhāvo suviññeyyo eva. Katapuññasseva patirūpadesavāso sambhavati , na itarassāti ‘‘pubbekatapuññatā patirūpadesavāsassa padaṭṭhāna’’nti vuttaṃ. Yathābhūtañāṇadassanaṃ saha adhiṭṭhānena taruṇavipassanā. Nibbidāti balavavipassanā. Virāgoti maggo. Vimuttīti phalaṃ. Evanti yadidaṃ ‘‘tassā vipallāsā padaṭṭhāna’’ntiādinā avijjādīnaṃ padaṭṭhānaṃ dassitaṃ, iminā nayena athāpi yo koci upanissayo balavapaccayoti yo koci avasesapaccayo, sabbo so padaṭṭhānaṃ kāraṇanti veditabbaṃ. ‘‘Evaṃ yā kāci upanisā yogato ca paccayato cā’’tipi paṭhanti. Tattha upanisāti kāraṇaṃ, yogatoti yuttito, paccayatoti paccayabhāvamattatoti attho veditabbo. Yaṃ panettha atthato na vibhattaṃ, taṃ suviññeyyameva.

    ปทฎฺฐานหารวิภงฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Padaṭṭhānahāravibhaṅgavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เนตฺติปฺปกรณปาฬิ • Nettippakaraṇapāḷi / ๔. ปทฎฺฐานหารวิภโงฺค • 4. Padaṭṭhānahāravibhaṅgo

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā / ๔. ปทฎฺฐานหารวิภงฺควณฺณนา • 4. Padaṭṭhānahāravibhaṅgavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติวิภาวินี • Nettivibhāvinī / ๔. ปทฎฺฐานหารวิภงฺควิภาวนา • 4. Padaṭṭhānahāravibhaṅgavibhāvanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact