Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติวิภาวินี • Nettivibhāvinī

    ๔. ปทฎฺฐานหารวิภงฺควิภาวนา

    4. Padaṭṭhānahāravibhaṅgavibhāvanā

    ๒๒. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน ยุตฺติหารวิภงฺคภูเตน ปญฺหาวิสฺสชฺชนาทีนํ ยุตฺตายุตฺตภาโว วิภโตฺต, โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต ยุตฺติหารวิภโงฺค ปริปุโณฺณ, ‘‘กตโม ปทฎฺฐานหารวิภโงฺค’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม ปทฎฺฐาโน หาโร’’ติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ นิทฺทิเฎฺฐสุ โสฬสสุ เทสนาหาราทีสุ หาเรสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส ปทฎฺฐาโน หาโร ปทฎฺฐานหารวิภโงฺคติ ปุจฺฉติฯ ‘‘ธมฺมํ เทเสสิ ชิโน’’ติอาทินิเทฺทสสฺส อิทานิ มยา วุจฺจมาโน ‘‘อยํ ปทฎฺฐาโน หาโร’’ติอาทิโก วิตฺถารสํวณฺณนาวิเสโส ปทฎฺฐานหารวิภโงฺคติ วิเญฺญโยฺยฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘ตตฺถ กตโม ปทฎฺฐาโน หาโรติอาทิ ปทฎฺฐานหารวิภโงฺค’’ติ (เนตฺติ. อฎฺฐ. ๒๒)ฯ ‘‘อยํ อิทานิ วุจฺจมาโน วิตฺถารภูโต ปทฎฺฐาโน หาโร ปิฎกตฺตเย เทสิเตสุ ธเมฺมสุ กิํ นาม ธมฺมํ เทสยติ สํวเณฺณตี’’ติ ปุจฺฉํ ฐเปตฺวา ‘‘อิทํ อาสนฺนการณํ อิมสฺส อาสนฺนผลสฺส ปทฎฺฐาน’’นฺติ นิยเมตฺวา วิภชิตุํ ‘‘อยํ ปทฎฺฐาโน’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตสฺสโตฺถ – สเพฺพสุ วิเญฺญยฺยธเมฺมสุ ยาถาวโต อสมฺปฎิเวโธ ลกฺขณํ เอติสฺสา อวิชฺชายาติ สพฺพธมฺมยาถาวอสมฺปฎิเวธลกฺขณา, อวิชฺชา, ตสฺสา อวิชฺชาย อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติอาทิวิปลฺลาสา ปทฎฺฐานํ อาสนฺนการณํฯ วิปลฺลาเส สติ อวิชฺชา วตฺตติ อุปรูปริ ชายติ น หายติ, ตสฺมา วิปลฺลาสา อวิชฺชาย ปทฎฺฐานํ อาสนฺนการณํ ภวนฺติฯ อวิชฺชาย วฎฺฎมูลกตฺตา ตํ อาทิํ กตฺวา ปทฎฺฐานํ วิภตฺตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ

    22. Yena yena saṃvaṇṇanāvisesabhūtena yuttihāravibhaṅgabhūtena pañhāvissajjanādīnaṃ yuttāyuttabhāvo vibhatto, so saṃvaṇṇanāvisesabhūto yuttihāravibhaṅgo paripuṇṇo, ‘‘katamo padaṭṭhānahāravibhaṅgo’’ti pucchitabbattā ‘‘tattha katamo padaṭṭhāno hāro’’tiādi āraddhaṃ. Tattha tatthāti tesu niddiṭṭhesu soḷasasu desanāhārādīsu hāresu katamo saṃvaṇṇanāviseso padaṭṭhāno hāro padaṭṭhānahāravibhaṅgoti pucchati. ‘‘Dhammaṃ desesi jino’’tiādiniddesassa idāni mayā vuccamāno ‘‘ayaṃ padaṭṭhāno hāro’’tiādiko vitthārasaṃvaṇṇanāviseso padaṭṭhānahāravibhaṅgoti viññeyyo. Tena vuttaṃ – ‘‘tattha katamo padaṭṭhāno hārotiādi padaṭṭhānahāravibhaṅgo’’ti (netti. aṭṭha. 22). ‘‘Ayaṃ idāni vuccamāno vitthārabhūto padaṭṭhāno hāro piṭakattaye desitesu dhammesu kiṃ nāma dhammaṃ desayati saṃvaṇṇetī’’ti pucchaṃ ṭhapetvā ‘‘idaṃ āsannakāraṇaṃ imassa āsannaphalassa padaṭṭhāna’’nti niyametvā vibhajituṃ ‘‘ayaṃ padaṭṭhāno’’tiādi vuttaṃ. Tassattho – sabbesu viññeyyadhammesu yāthāvato asampaṭivedho lakkhaṇaṃ etissā avijjāyāti sabbadhammayāthāvaasampaṭivedhalakkhaṇā, avijjā, tassā avijjāya asubhe ‘‘subha’’ntiādivipallāsā padaṭṭhānaṃ āsannakāraṇaṃ. Vipallāse sati avijjā vattati uparūpari jāyati na hāyati, tasmā vipallāsā avijjāya padaṭṭhānaṃ āsannakāraṇaṃ bhavanti. Avijjāya vaṭṭamūlakattā taṃ ādiṃ katvā padaṭṭhānaṃ vibhattanti daṭṭhabbaṃ.

    ตณฺหายปิ วฎฺฎมูลกตฺตา ตทนนฺตรํ ตณฺหาย ปทฎฺฐานํ วิภชิตุํ ‘‘อโชฺฌสานลกฺขณา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ปิยรูปํ สาตรูปนฺติ ปิยสภาวํ สาตสภาวํ จกฺขาทิธมฺมชาตํฯ ปิยนียสาตนีเย จกฺขาทิเก สติ ตณฺหา วตฺตติ อุปรูปริ ชายติ, ตสฺมา ปิยรูปํ สาตรูปํ ตณฺหาย ปทฎฺฐานํ อาสนฺนการณํ ภวติฯ

    Taṇhāyapi vaṭṭamūlakattā tadanantaraṃ taṇhāya padaṭṭhānaṃ vibhajituṃ ‘‘ajjhosānalakkhaṇā’’tiādi vuttaṃ. Tattha piyarūpaṃ sātarūpanti piyasabhāvaṃ sātasabhāvaṃ cakkhādidhammajātaṃ. Piyanīyasātanīye cakkhādike sati taṇhā vattati uparūpari jāyati, tasmā piyarūpaṃ sātarūpaṃ taṇhāya padaṭṭhānaṃ āsannakāraṇaṃ bhavati.

    อทินฺนาทาเน สติ โลโภ วตฺตติ, ตสฺมา อทินฺนาทานํ โลภสฺส ปทฎฺฐานํ ภวติฯ อทินฺนาทานญฺหิ เอกวารํ อุปฺปนฺนมฺปิ อนาทีนวทสฺสนโต โลภสฺส อาสนฺนการณํ ภวเตฺววฯ

    Adinnādāne sati lobho vattati, tasmā adinnādānaṃ lobhassa padaṭṭhānaṃ bhavati. Adinnādānañhi ekavāraṃ uppannampi anādīnavadassanato lobhassa āsannakāraṇaṃ bhavatveva.

    เกสาทีสุ อสุเภสุ ปวตฺตายปิ สุภสญฺญาย นีลาทิวณฺณทีฆาทิสณฺฐานหสนาทิพฺยญฺชนคฺคหณลกฺขณตฺตา จกฺขุนฺทฺริยาทีนํ อสํวโร สุภสญฺญาย ปทฎฺฐานํ ภวติฯ

    Kesādīsu asubhesu pavattāyapi subhasaññāya nīlādivaṇṇadīghādisaṇṭhānahasanādibyañjanaggahaṇalakkhaṇattā cakkhundriyādīnaṃ asaṃvaro subhasaññāya padaṭṭhānaṃ bhavati.

    ทุกฺขทุกฺขาทีสุ ปวตฺตายปิ สุขสญฺญาย สาสวผสฺสูปคมนลกฺขณตฺตา รูปาทีสุ อสฺสาโท สุขสญฺญาย ปทฎฺฐานํ

    Dukkhadukkhādīsu pavattāyapi sukhasaññāya sāsavaphassūpagamanalakkhaṇattā rūpādīsu assādo sukhasaññāya padaṭṭhānaṃ.

    รูปกฺขนฺธาทีสุ อนิเจฺจสุ ปวตฺตายปิ นิจฺจสญฺญาย สงฺขตลกฺขณานํ ธมฺมานํ อสมนุปสฺสนลกฺขณตฺตา รูปกฺขนฺธาทีสุ นิจฺจคฺคหณํ วิญฺญาณํ นิจฺจสญฺญาย ปทฎฺฐานํ

    Rūpakkhandhādīsu aniccesu pavattāyapi niccasaññāya saṅkhatalakkhaṇānaṃ dhammānaṃ asamanupassanalakkhaṇattā rūpakkhandhādīsu niccaggahaṇaṃ viññāṇaṃ niccasaññāya padaṭṭhānaṃ.

    อนิจฺจทุกฺขานตฺตสงฺขาเตสุ ขนฺธาทีสุ ปวตฺตายปิ อตฺตสญฺญาย อนิจฺจสญฺญาทุกฺขสญฺญานํ อสมนุปสฺสนลกฺขณตฺตา อหํมมาทิวเสน ปวโตฺต นามกาโย อตฺตสญฺญาย ปทฎฺฐานํ

    Aniccadukkhānattasaṅkhātesu khandhādīsu pavattāyapi attasaññāya aniccasaññādukkhasaññānaṃ asamanupassanalakkhaṇattā ahaṃmamādivasena pavatto nāmakāyo attasaññāya padaṭṭhānaṃ.

    เอวํ อวิชฺชาทีนํ อกุสลปกฺขานํ ธมฺมานํ ปทฎฺฐานํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ ตปฺปฎิปกฺขานํ วิชฺชาทีนํ ธมฺมานํ ปทฎฺฐานํ ทเสฺสตุํ ‘‘สพฺพธมฺมสมฺปฎิเวธลกฺขณา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ สเพฺพสุ เญยฺยธเมฺมสุ ปวตฺตาย วิชฺชาย สพฺพธมฺมสมฺปฎิเวธลกฺขณตฺตา สพฺพํ เนยฺยํ วิชฺชาย ปทฎฺฐานํ

    Evaṃ avijjādīnaṃ akusalapakkhānaṃ dhammānaṃ padaṭṭhānaṃ dassetvā idāni tappaṭipakkhānaṃ vijjādīnaṃ dhammānaṃ padaṭṭhānaṃ dassetuṃ ‘‘sabbadhammasampaṭivedhalakkhaṇā’’tiādi vuttaṃ. Sabbesu ñeyyadhammesu pavattāya vijjāya sabbadhammasampaṭivedhalakkhaṇattā sabbaṃ neyyaṃ vijjāya padaṭṭhānaṃ.

    สมถสฺส จิตฺตวิเกฺขปสงฺขาตอุทฺธจฺจปฎิสํหรณสงฺขาตวิกฺขมฺภนลกฺขณตฺตา ปฎิภาคนิมิตฺตภูตา อสุภา สมถสฺส ปทฎฺฐานํฯ อสุภาย หิ ตณฺหาปฎิปกฺขตฺตา, ตณฺหาย จ อภาเว สมโถ ติฎฺฐตีติฯ

    Samathassa cittavikkhepasaṅkhātauddhaccapaṭisaṃharaṇasaṅkhātavikkhambhanalakkhaṇattā paṭibhāganimittabhūtā asubhā samathassa padaṭṭhānaṃ. Asubhāya hi taṇhāpaṭipakkhattā, taṇhāya ca abhāve samatho tiṭṭhatīti.

    อทินฺนาทานา เวรมณิวเสน ปวตฺตสฺส อโลภสฺส อิจฺฉาวจรปฎิสํหรณลกฺขณตฺตา อทินฺนาทานา เวรมณี อโลภสฺส ปทฎฺฐานํ

    Adinnādānā veramaṇivasena pavattassa alobhassa icchāvacarapaṭisaṃharaṇalakkhaṇattā adinnādānā veramaṇī alobhassa padaṭṭhānaṃ.

    ปาณาติปาตา เวรมณิวเสน ปวตฺตสฺส อโทสสฺส อพฺยาปชฺชลกฺขณตฺตา ปาณาติปาตา เวรมณี อโทสสฺส ปทฎฺฐานํ

    Pāṇātipātā veramaṇivasena pavattassa adosassa abyāpajjalakkhaṇattā pāṇātipātā veramaṇī adosassa padaṭṭhānaṃ.

    สมฺมาปฎิปตฺติวเสน ปวตฺตสฺส อโมหสฺส วตฺถุอวิปฺปฎิปตฺติลกฺขณตฺตา สมฺมาปฎิปตฺติ อโมหสฺส ปทฎฺฐานํ

    Sammāpaṭipattivasena pavattassa amohassa vatthuavippaṭipattilakkhaṇattā sammāpaṭipatti amohassa padaṭṭhānaṃ.

    นิพฺพิทาวเสน ปวตฺตาย อสุภสญฺญาย วินีลกวิปุพฺพกคหณลกฺขณตฺตา นิพฺพิทา อสุภสญฺญาย ปทฎฺฐานํฯ นิพฺพิทาญาเณน หิ อนภิรติ ปวตฺตติ, อนภิรติยา จ อสุภสญฺญา ฐิตาติฯ

    Nibbidāvasena pavattāya asubhasaññāya vinīlakavipubbakagahaṇalakkhaṇattā nibbidā asubhasaññāya padaṭṭhānaṃ. Nibbidāñāṇena hi anabhirati pavattati, anabhiratiyā ca asubhasaññā ṭhitāti.

    ทุกฺขเวทนาวเสน ปวตฺตาย ทุกฺขสญฺญาย สาสวผสฺสปริชานนลกฺขณตฺตา เวทนา ทุกฺขสญฺญาย ปทฎฺฐานํ

    Dukkhavedanāvasena pavattāya dukkhasaññāya sāsavaphassaparijānanalakkhaṇattā vedanā dukkhasaññāya padaṭṭhānaṃ.

    อุปฺปาทวยวเสน ปวตฺตาย อนิจฺจสญฺญาย สงฺขตลกฺขณานํ ธมฺมานํ สมนุปสฺสนลกฺขณตฺตา อุปฺปาทวยา อนิจฺจสญฺญาย ปทฎฺฐานํฯ อุปฺปาทวยญฺหิ สมนุปสฺสิตฺวา อนิจฺจสญฺญา ปวตฺตาฯ

    Uppādavayavasena pavattāya aniccasaññāya saṅkhatalakkhaṇānaṃ dhammānaṃ samanupassanalakkhaṇattā uppādavayā aniccasaññāya padaṭṭhānaṃ. Uppādavayañhi samanupassitvā aniccasaññā pavattā.

    ธมฺมมตฺตสญฺญาวเสน ปวตฺตาย อนตฺตสญฺญาย สพฺพธมฺมอภินิเวสลกฺขณตฺตา ธมฺมสญฺญา อนตฺตสญฺญาย ปทฎฺฐานํ

    Dhammamattasaññāvasena pavattāya anattasaññāya sabbadhammaabhinivesalakkhaṇattā dhammasaññā anattasaññāya padaṭṭhānaṃ.

    กามราคสฺส รูปาทิปญฺจกามคุณารมฺมณตฺตา ปญฺจ กามคุณา กามราคสฺส ปทฎฺฐานํ

    Kāmarāgassa rūpādipañcakāmaguṇārammaṇattā pañca kāmaguṇā kāmarāgassa padaṭṭhānaṃ.

    รูปสงฺขาเต กาเย อารพฺภ ปวตฺตสฺส รูปราคสฺส จกฺขาทิปญฺจินฺทฺริยานํ อนุสาเรน ปวตฺตนโต ปญฺจินฺทฺริยานิ รูปานิ รูปราคสฺส ปทฎฺฐานํ

    Rūpasaṅkhāte kāye ārabbha pavattassa rūparāgassa cakkhādipañcindriyānaṃ anusārena pavattanato pañcindriyāni rūpāni rūparāgassa padaṭṭhānaṃ.

    ภวนิกนฺติวเสน ปวตฺตสฺส ภวราคสฺส ฉฬายตนํ ปทฎฺฐานํฯ นิพฺพตฺตภวานุปสฺสิตาติ ‘‘เอทิสํ อนิฎฺฐํ รูปํ มา นิพฺพตฺตตุ, เอทิสํ อิฎฺฐํ รูปํ นิพฺพตฺตตุ เอทิสี ทุกฺขา เวทนา มา นิพฺพตฺตตุ, เอทิสี สุขา เวทนา นิพฺพตฺตตู’’ติ เอวมาทินา ปกาเรน ปวตฺตา รูปาภินนฺทนา, สา ปญฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ ปทฎฺฐานํ

    Bhavanikantivasena pavattassa bhavarāgassa chaḷāyatanaṃ padaṭṭhānaṃ. Nibbattabhavānupassitāti ‘‘edisaṃ aniṭṭhaṃ rūpaṃ mā nibbattatu, edisaṃ iṭṭhaṃ rūpaṃ nibbattatu edisī dukkhā vedanā mā nibbattatu, edisī sukhā vedanā nibbattatū’’ti evamādinā pakārena pavattā rūpābhinandanā, sā pañcannaṃ upādānakkhandhānaṃ padaṭṭhānaṃ.

    กมฺมสฺสกตญฺญาณสฺส ปุเพฺพนิวาสานุสฺสติญาณานุคตตฺตา ปุเพฺพนิวาสานุสฺสติญาณทสฺสนํ กมฺมสฺสกตญฺญาณสฺส ปทฎฺฐานํ

    Kammassakataññāṇassa pubbenivāsānussatiñāṇānugatattā pubbenivāsānussatiñāṇadassanaṃ kammassakataññāṇassa padaṭṭhānaṃ.

    โอกปฺปนํ ลกฺขณํ ยสฺสา สทฺธายาติ โอกปฺปนลกฺขณา สทฺธาฯ อธิมุตฺติ ปจฺจุปฎฺฐานํ ยสฺสา สทฺธายาติ อธิมุตฺติปจฺจุปฎฺฐานา จ สทฺธาฯ อนาวิลํ ลกฺขณํ ยสฺส ปสาทสฺสาติ อนาวิลลกฺขโณติ ปสาโทฯ สมฺปสีทนํ ปจฺจุปฎฺฐานํ ยสฺส ปสาทสฺสาติ สมฺปสีทนปจฺจุปฎฺฐาโน จ ปสาโทฯ โส ปน ปสาโท สทฺธาย เอว อวตฺถาวิเสโสติ เวทิตโพฺพฯ อเวจฺจปสาโท อภิปตฺถิยนลกฺขณาย สทฺธาย ปทฎฺฐานํ, โอกปฺปนลกฺขณา สทฺธา อนาวิลลกฺขณสฺส ปสาทสฺส ปทฎฺฐานํ, จตุพฺพิธํ สมฺมปฺปธานํ วีริยํ อารมฺภลกฺขณสฺส วีริยสฺส ปทฎฺฐานํ, กายาทิสติปฎฺฐานํ อปิลาปนลกฺขณาย สติยา ปทฎฺฐานํ, ฌานสหิตสฺส สมาธิสฺส เอกคฺคลกฺขณตฺตา วิตกฺกาทิฌานานิ สมาธิสฺส ปทฎฺฐานํ, ปญฺญาย กิจฺจปชานนอารมฺมณปชานนลกฺขณตฺตา สจฺจานิ ปญฺญาย ปทฎฺฐานํฯ

    Okappanaṃ lakkhaṇaṃ yassā saddhāyāti okappanalakkhaṇā saddhā. Adhimutti paccupaṭṭhānaṃ yassā saddhāyāti adhimuttipaccupaṭṭhānā ca saddhā. Anāvilaṃ lakkhaṇaṃ yassa pasādassāti anāvilalakkhaṇoti pasādo. Sampasīdanaṃ paccupaṭṭhānaṃ yassa pasādassāti sampasīdanapaccupaṭṭhāno ca pasādo. So pana pasādo saddhāya eva avatthāvisesoti veditabbo. Aveccapasādo abhipatthiyanalakkhaṇāya saddhāya padaṭṭhānaṃ, okappanalakkhaṇā saddhā anāvilalakkhaṇassa pasādassa padaṭṭhānaṃ, catubbidhaṃ sammappadhānaṃ vīriyaṃ ārambhalakkhaṇassa vīriyassa padaṭṭhānaṃ, kāyādisatipaṭṭhānaṃ apilāpanalakkhaṇāya satiyā padaṭṭhānaṃ, jhānasahitassa samādhissa ekaggalakkhaṇattā vitakkādijhānāni samādhissa padaṭṭhānaṃ, paññāya kiccapajānanaārammaṇapajānanalakkhaṇattā saccāni paññāya padaṭṭhānaṃ.

    ‘‘เยสํ อวิชฺชาทีนํ ปทฎฺฐานานิ อาจริเยน วิภตฺตานิ, เต อวิชฺชาทโย กตเมสํ ธมฺมานํ ปทฎฺฐานานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา เต อวิชฺชาทโยปิ อิเมสํ ธมฺมานํ ปทฎฺฐานาติ ทเสฺสตุํ ‘‘อปโร นโย’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อวิชฺชา อสฺสาทมนสิการลกฺขณสฺส อโยนิโสมนสิการสฺส ปทฎฺฐานํฯ อวิชฺชาย หิ อาทีนวจฺฉาทนโต อโยนิโสมนสิกาโร ชาโตติฯ สจฺจสโมฺมหนลกฺขณา อวิชฺชา ปุญฺญาปุญฺญาเนญฺชาภิสงฺขารานํ ปทฎฺฐานํ, ปุนพฺภววิโรหนลกฺขณา เตภูมกเจตนา สงฺขารา วิปากวิญฺญาณสฺส ปทฎฺฐานํ, โอปปจฺจยิกสงฺขาเตน อุปปตฺติภวภาเวน นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปฎิสนฺธิวิญฺญาณํ นามรูปสฺส ปทฎฺฐานํ, นามกายรูปกายสงฺฆาตลกฺขณํ นามรูปํ ฉฬายตนสฺส ปทฎฺฐานํ สหชาตาทิปจฺจยภาวโต, จกฺขาทีนํ ฉนฺนํ อินฺทฺริยานํ ปวตฺตานํ ลกฺขณํ ฉฬายตนํ ฉพฺพิธสฺส ผสฺสสฺส ยถากฺกมํ ปทฎฺฐานํ นิสฺสยาทิปจฺจยภาวโต, จกฺขุปสาทรูปารมฺมณํ จกฺขุวิญฺญาณาทิสนฺนิปาตลกฺขโณ ฉพฺพิโธ ผโสฺส, ตํ เวทนาย เตน ฉพฺพิเธน ผเสฺสน สหชาตาย ฉพฺพิธาย เวทนาย ยถากฺกมํ ปทฎฺฐานํ สหชาตาทิปจฺจยภาวโต, อิฎฺฐานุภวนอนิฎฺฐานุภวนอิฎฺฐานิฎฺฐานุภวนลกฺขณา ติวิธา เวทนา, ตํ ตณฺหาย ตาย ติวิธาย เวทนาย วเสน ปวตฺตาย ตณฺหาย ปทฎฺฐานํ อุปนิสฺสยาทิปจฺจยภาวโต, สปรสนฺตาเนสุ อโชฺฌสานลกฺขณา ตณฺหา, ตํ อุปาทานสฺส ตาย ตณฺหาย วเสน ปวตฺตสฺส จตุพฺพิธสฺส อุปาทานสฺส ปทฎฺฐานํ อุปนิสฺสยาทิปจฺจยภาวโตฯ ‘‘โส เวทนายา’’ติ จ ‘‘สา ตณฺหายา’’ติ จ ‘‘สา อุปาทานสฺสา’’ติ จ ปาเฐน ภวิตพฺพํ, ลิงฺควิปลฺลาสนิเทฺทโส วา สิยาฯ

    ‘‘Yesaṃ avijjādīnaṃ padaṭṭhānāni ācariyena vibhattāni, te avijjādayo katamesaṃ dhammānaṃ padaṭṭhānānī’’ti pucchitabbattā te avijjādayopi imesaṃ dhammānaṃ padaṭṭhānāti dassetuṃ ‘‘aparo nayo’’tiādi vuttaṃ. Avijjā assādamanasikāralakkhaṇassa ayonisomanasikārassa padaṭṭhānaṃ. Avijjāya hi ādīnavacchādanato ayonisomanasikāro jātoti. Saccasammohanalakkhaṇā avijjā puññāpuññāneñjābhisaṅkhārānaṃ padaṭṭhānaṃ, punabbhavavirohanalakkhaṇā tebhūmakacetanā saṅkhārā vipākaviññāṇassa padaṭṭhānaṃ, opapaccayikasaṅkhātena upapattibhavabhāvena nibbattilakkhaṇaṃ paṭisandhiviññāṇaṃ nāmarūpassa padaṭṭhānaṃ, nāmakāyarūpakāyasaṅghātalakkhaṇaṃ nāmarūpaṃ chaḷāyatanassa padaṭṭhānaṃ sahajātādipaccayabhāvato, cakkhādīnaṃ channaṃ indriyānaṃ pavattānaṃ lakkhaṇaṃ chaḷāyatanaṃ chabbidhassa phassassa yathākkamaṃ padaṭṭhānaṃ nissayādipaccayabhāvato, cakkhupasādarūpārammaṇaṃ cakkhuviññāṇādisannipātalakkhaṇo chabbidho phasso, taṃ vedanāya tena chabbidhena phassena sahajātāya chabbidhāya vedanāya yathākkamaṃ padaṭṭhānaṃ sahajātādipaccayabhāvato, iṭṭhānubhavanaaniṭṭhānubhavanaiṭṭhāniṭṭhānubhavanalakkhaṇā tividhā vedanā, taṃ taṇhāya tāya tividhāya vedanāya vasena pavattāya taṇhāya padaṭṭhānaṃ upanissayādipaccayabhāvato, saparasantānesu ajjhosānalakkhaṇā taṇhā, taṃ upādānassa tāya taṇhāya vasena pavattassa catubbidhassa upādānassa padaṭṭhānaṃ upanissayādipaccayabhāvato. ‘‘So vedanāyā’’ti ca ‘‘sā taṇhāyā’’ti ca ‘‘sā upādānassā’’ti ca pāṭhena bhavitabbaṃ, liṅgavipallāsaniddeso vā siyā.

    ยํ อุปาทานํ โอปปจฺจยิกํ อุปปตฺติกฺขนฺธนิพฺพตฺตกํ, ตํ อุปาทานํ ทุวิธสฺส ภวสฺส ปทฎฺฐานํฯ โย กมฺมภโว นามกายรูปกายสมฺภวนลกฺขโณ, โส กมฺมภโว ชาติยา ปทฎฺฐานํฯ ยา อุปปตฺติภูตา ชาติ ขนฺธปาตุภาวลกฺขณา, ตํ สา ชาติ ชราย ปทฎฺฐานํฯ ยา ชิณฺณชรา อุปธิกฺขนฺธปริปากลกฺขณา, ตํ สา ชิณฺณชรา มรณสฺส ปทฎฺฐานํฯ ยมฺปิ ยสฺส สมฺมุติมรณํ ชีวิตินฺทฺริยุปเจฺฉทลกฺขณํ, ตมฺปิ ตสฺส สมฺมุติมรณํ โสกสฺส ปทฎฺฐานํฯ ปิยสฺส มรณํ จิเนฺตนฺตสฺส เยภุเยฺยน โสกุปฺปชฺชนโต โย โสโก ญาติอาทิปิเยสุ อุสฺสุกฺกการโก, ตํ โส โสโก ปริเทวสฺส ปทฎฺฐานํฯ โย ปริเทโว ลาลปฺปการโก, ตํ โส ปริเทโว กายิกทุกฺขสฺส ปทฎฺฐานํฯ ยํ กายิกํ ทุกฺขํ กายสมฺปีฬนลกฺขณํ, ตํ กายิกํ ทุกฺขํ โทมนสฺสสฺส ปทฎฺฐานํฯ ยํ โทมนสฺสํ จิตฺตสมฺปีฬนลกฺขณํ, ตํ โทมนสฺสํ อุปายาสสฺส ปทฎฺฐานํฯ โย อุปายาโส โอทหนการโก อวทหนการโก, ตํ โส อุปายาโส ภวสฺส อุปายาสสฺส นิสฺสยสนฺตานภวสฺส ปทฎฺฐานํ

    Yaṃ upādānaṃ opapaccayikaṃ upapattikkhandhanibbattakaṃ, taṃ upādānaṃ duvidhassa bhavassa padaṭṭhānaṃ. Yo kammabhavo nāmakāyarūpakāyasambhavanalakkhaṇo, so kammabhavo jātiyā padaṭṭhānaṃ. Yā upapattibhūtā jāti khandhapātubhāvalakkhaṇā, taṃ sā jāti jarāya padaṭṭhānaṃ. Yā jiṇṇajarā upadhikkhandhaparipākalakkhaṇā, taṃ sā jiṇṇajarā maraṇassa padaṭṭhānaṃ. Yampi yassa sammutimaraṇaṃ jīvitindriyupacchedalakkhaṇaṃ, tampi tassa sammutimaraṇaṃ sokassa padaṭṭhānaṃ. Piyassa maraṇaṃ cintentassa yebhuyyena sokuppajjanato yo soko ñātiādipiyesu ussukkakārako, taṃ so soko paridevassa padaṭṭhānaṃ. Yo paridevo lālappakārako, taṃ so paridevo kāyikadukkhassa padaṭṭhānaṃ. Yaṃ kāyikaṃ dukkhaṃ kāyasampīḷanalakkhaṇaṃ, taṃ kāyikaṃ dukkhaṃ domanassassa padaṭṭhānaṃ. Yaṃ domanassaṃ cittasampīḷanalakkhaṇaṃ, taṃ domanassaṃ upāyāsassa padaṭṭhānaṃ. Yo upāyāso odahanakārako avadahanakārako, taṃ so upāyāso bhavassa upāyāsassa nissayasantānabhavassa padaṭṭhānaṃ.

    ภวสฺสาติ วุตฺตภวํ ทเสฺสตุํ ‘‘อิมานี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ภวงฺคานิ กิเลโส ภวสฺส องฺคํ การณํ กมฺมวฎฺฎวิปากวฎฺฎานิ ภวสงฺขาตานิ องฺคานิ อวยวานิฯ ยทา ปจฺจุปฺปนฺนาทิกาเล สมคฺคานิ นิพฺพตฺตานิ ภวนฺติ, ตทา โส กิเลสวฎฺฎกมฺมวฎฺฎวิปากวฎฺฎสงฺขาโต ธมฺมสมูโห ‘‘ภวสฺสา’’ติ เอตฺถ ภโวติ ทฎฺฐโพฺพฯ ตํ ภวสงฺขาตํ กิเลสวฎฺฎกมฺมวฎฺฎวิปากวฎฺฎตฺตยํ สํสารสฺส ปทฎฺฐานํ ปุริมํ ปุริมํ ชาตินิปฺผนฺนกิเลสาทิวเฎฺฎน สํสารสฺส อโพฺพจฺฉินฺนุปฺปชฺชนโต, โย อริยมโคฺค นิยฺยานิกลกฺขโณ, ตํ โส อริยมโคฺค นิโรธสฺส นิพฺพานสฺส ปทฎฺฐานํ สมฺปาปกเหตุภาวโตฯ

    Bhavassāti vuttabhavaṃ dassetuṃ ‘‘imānī’’tiādi vuttaṃ. Tattha bhavaṅgāni kileso bhavassa aṅgaṃ kāraṇaṃ kammavaṭṭavipākavaṭṭāni bhavasaṅkhātāni aṅgāni avayavāni. Yadā paccuppannādikāle samaggāni nibbattāni bhavanti, tadā so kilesavaṭṭakammavaṭṭavipākavaṭṭasaṅkhāto dhammasamūho ‘‘bhavassā’’ti ettha bhavoti daṭṭhabbo. Taṃ bhavasaṅkhātaṃ kilesavaṭṭakammavaṭṭavipākavaṭṭattayaṃ saṃsārassa padaṭṭhānaṃ purimaṃ purimaṃ jātinipphannakilesādivaṭṭena saṃsārassa abbocchinnuppajjanato, yo ariyamaggo niyyānikalakkhaṇo, taṃ so ariyamaggo nirodhassa nibbānassa padaṭṭhānaṃ sampāpakahetubhāvato.

    พหุสฺสุโต สพฺพสิสฺสาทีนํ ปติฎฺฐานตฺตา ติตฺถํ วิยาติ ติตฺถํ, ชานาตีติ ญู, ติตฺถํ ญูติ ติตฺถญฺญู, ติตฺถญฺญุโน ภาโว ติตฺถญฺญุตา, สมฺมาปยิรุปาสนา, สา ปีตญฺญุตาย ปทฎฺฐานํฯ พหุสฺสุตสฺส หิ สมฺมาปยิรุปาสนาย ธมฺมูปสญฺหิตํ ปาโมชฺชํ ชายติ, ปาโมเชฺชน จ กมฺมฎฺฐานพฺรูหนา ชายตีติ สปฺปายธมฺมสฺสวเนน ปีติํ ชานาตีติ ปีตญฺญู, ปีตญฺญุโน ภาโว ปีตญฺญุตา, กมฺมฎฺฐานสฺส พฺรูหนา, สา ปตฺตญฺญุตาย ปทฎฺฐานํฯ กมฺมฎฺฐานพฺรูหนาย หิ ภาวนาปตฺตชานนตา ชายตีติ ปตฺตญฺญุตาฯ ภาวนาปตฺตชานนตา อตฺตญฺญุตาย ปทฎฺฐานํฯ ภาวนาปตฺตชานนตาย หิ ปญฺจหิ ปธานิยเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส อตฺตโน ชานนตา ชายตีติ อตฺตญฺญุตา ปุเพฺพกตปุญฺญตาย ปทฎฺฐานํ

    Bahussuto sabbasissādīnaṃ patiṭṭhānattā titthaṃ viyāti titthaṃ, jānātīti ñū, titthaṃ ñūti titthaññū, titthaññuno bhāvo titthaññutā, sammāpayirupāsanā, sā pītaññutāya padaṭṭhānaṃ. Bahussutassa hi sammāpayirupāsanāya dhammūpasañhitaṃ pāmojjaṃ jāyati, pāmojjena ca kammaṭṭhānabrūhanā jāyatīti sappāyadhammassavanena pītiṃ jānātīti pītaññū, pītaññuno bhāvo pītaññutā, kammaṭṭhānassa brūhanā, sā pattaññutāya padaṭṭhānaṃ. Kammaṭṭhānabrūhanāya hi bhāvanāpattajānanatā jāyatīti pattaññutā. Bhāvanāpattajānanatā attaññutāya padaṭṭhānaṃ. Bhāvanāpattajānanatāya hi pañcahi padhāniyaṅgehi samannāgatassa attano jānanatā jāyatīti attaññutā pubbekatapuññatāya padaṭṭhānaṃ.

    ปธานิยเงฺคสุ สมนฺนาคตตฺตชานนตาย หิ ปุเพฺพ ปุญฺญกรณํ ชาตํ, ปุเพฺพกตปุญฺญตา ปติรูปเทสวาสสฺส ปทฎฺฐานํฯ ปุเพฺพ หิ กเตน ปุเญฺญน ปติรูปเทสวาโส ลโทฺธ, ปติรูปเทสวาโส สปฺปุริสูปนิสฺสยสฺส ปทฎฺฐานํฯ ปติรูปเทสวาเสน หิ สปฺปุริสูปนิสฺสโย ลโทฺธ, สปฺปุริสูปนิสฺสโย อตฺตสมฺมาปณิธานสฺส ปทฎฺฐานํฯ สปฺปุริสูปนิสฺสเยน หิ อตฺตสมฺมาปณิธานํ ชาตํ, อตฺตสมฺมาปณิธานํ สีลานํ ปทฎฺฐานํฯ อตฺตสมฺมาปณิธาเนน หิ สีลานิ สมฺปติฎฺฐิตานิ, สีลานิ อวิปฺปฎิสารสฺส ปทฎฺฐานํฯ อตฺตนิ หิ สมฺปติฎฺฐิตํ สีลํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส วิปฺปฎิสาโร นเตฺถวาติ, อวิปฺปฎิสาเรน ปาโมชฺชํ ชายติ, ตสฺมา อวิปฺปฎิสาโร ปาโมชฺชสฺส ปทฎฺฐานํฯ ปาโมเชฺชน ปีติ ชายติ, ตสฺมา ปาโมชฺชํ ปีติยา ปทฎฺฐานํฯ ปีติยา ปสฺสทฺธิ ชายติ, ตสฺมา ปีติ ปสฺสทฺธิยา ปทฎฺฐานํฯ ปสฺสทฺธิยา สุขํ ชายติ, ตสฺมา ปสฺสทฺธิ สุขสฺส ปทฎฺฐานํฯ สุเขน สมาธิ ชายติ, ตสฺมา สุขํ สมาธิสฺส ปทฎฺฐานํฯ สมาธินา ยถาภูตญาณทสฺสนํ ชายติ, ตสฺมา สมาธิ ยถาภูตญาณสฺส ปทฎฺฐานํฯ ยถาภูตญาณทสฺสเนน นิพฺพิทาญาณํ ชายติ, ตสฺมา ยถาภูตญาณทสฺสนํ นิพฺพิทาย ปทฎฺฐานํฯ นิพฺพิทาย วิราโค ชายติ, ตสฺมา นิพฺพิทา วิราคสฺส ปทฎฺฐานํฯ วิราเคน วิมุตฺติ ชายติ, ตสฺมา วิราโค วิมุตฺติยา ปทฎฺฐานํฯ วิมุตฺติยา วิมุตฺติญาณทสฺสนํ ชายติ, ตสฺมา วิมุตฺติ วิมุตฺติญาณทสฺสนสฺส ปทฎฺฐานํฯ เอวํ ยถาวุตฺตนเยน โย โกจิ ธโมฺม อุปนิสฺสโย โหติ, โย โกจิ ธโมฺม ปจฺจโย โหติ, สโพฺพ โส ธโมฺม อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺส ปทฎฺฐานนฺติ ทฎฺฐโพฺพฯ

    Padhāniyaṅgesu samannāgatattajānanatāya hi pubbe puññakaraṇaṃ jātaṃ, pubbekatapuññatā patirūpadesavāsassa padaṭṭhānaṃ. Pubbe hi katena puññena patirūpadesavāso laddho, patirūpadesavāso sappurisūpanissayassapadaṭṭhānaṃ. Patirūpadesavāsena hi sappurisūpanissayo laddho, sappurisūpanissayo attasammāpaṇidhānassa padaṭṭhānaṃ. Sappurisūpanissayena hi attasammāpaṇidhānaṃ jātaṃ, attasammāpaṇidhānaṃ sīlānaṃ padaṭṭhānaṃ. Attasammāpaṇidhānena hi sīlāni sampatiṭṭhitāni, sīlāni avippaṭisārassa padaṭṭhānaṃ. Attani hi sampatiṭṭhitaṃ sīlaṃ paccavekkhantassa vippaṭisāro natthevāti, avippaṭisārena pāmojjaṃ jāyati, tasmā avippaṭisāro pāmojjassa padaṭṭhānaṃ. Pāmojjena pīti jāyati, tasmā pāmojjaṃ pītiyā padaṭṭhānaṃ. Pītiyā passaddhi jāyati, tasmā pīti passaddhiyā padaṭṭhānaṃ. Passaddhiyā sukhaṃ jāyati, tasmā passaddhi sukhassa padaṭṭhānaṃ. Sukhena samādhi jāyati, tasmā sukhaṃ samādhissa padaṭṭhānaṃ. Samādhinā yathābhūtañāṇadassanaṃ jāyati, tasmā samādhi yathābhūtañāṇassa padaṭṭhānaṃ. Yathābhūtañāṇadassanena nibbidāñāṇaṃ jāyati, tasmā yathābhūtañāṇadassanaṃ nibbidāya padaṭṭhānaṃ. Nibbidāya virāgo jāyati, tasmā nibbidā virāgassa padaṭṭhānaṃ. Virāgena vimutti jāyati, tasmā virāgo vimuttiyā padaṭṭhānaṃ. Vimuttiyā vimuttiñāṇadassanaṃ jāyati, tasmā vimutti vimuttiñāṇadassanassa padaṭṭhānaṃ. Evaṃ yathāvuttanayena yo koci dhammo upanissayo hoti, yo koci dhammo paccayo hoti, sabbo so dhammo attano paccayuppannassa dhammassa padaṭṭhānanti daṭṭhabbo.

    ‘‘อุปนิสฺสยธมฺมสฺส, ปจฺจยธมฺมสฺส วา ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมสฺส ปทฎฺฐานภาโว เกน สทฺทหิตโพฺพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ เตนาติ ยสฺส กสฺสจิ อุปนิสฺสยธมฺมสฺส, ปจฺจยธมฺมสฺส จ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมสฺส ปทฎฺฐานภาเวน อายสฺมา มหากจฺจาโน ‘‘ธมฺมํ เทเสติ ชิโน’’ติอาทิกํ ยํ วจนํ อาห, เตน วจเนน เตสํ อุปนิสฺสยธมฺมปจฺจยธมฺมานํ ปทฎฺฐานภาโว สทฺทหิตโพฺพติฯ ‘‘ยถาวุโตฺต ปทฎฺฐาโน หาโร ปริปุโณฺณ กิํ, อุทาหุ อโญฺญ นิทฺธาเรตฺวา โยเชตโพฺพ อตฺถิ กิ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุโตฺต ปทฎฺฐาโน หาโร’’ติ วุตฺตํฯ อิธ ปาฬิยํ อวิภตฺตมฺปิ ยถาลาภวเสน ปทฎฺฐาโน หาโร นีหริตฺวา ยุโตฺต ยุชฺชิตโพฺพ, วิภชิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติฯ

    ‘‘Upanissayadhammassa, paccayadhammassa vā paccayuppannadhammassa padaṭṭhānabhāvo kena saddahitabbo’’ti vattabbattā ‘‘tenāhā’’tiādi vuttaṃ. Tattha tenāti yassa kassaci upanissayadhammassa, paccayadhammassa ca paccayuppannadhammassa padaṭṭhānabhāvena āyasmā mahākaccāno ‘‘dhammaṃ deseti jino’’tiādikaṃ yaṃ vacanaṃ āha, tena vacanena tesaṃ upanissayadhammapaccayadhammānaṃ padaṭṭhānabhāvo saddahitabboti. ‘‘Yathāvutto padaṭṭhāno hāro paripuṇṇo kiṃ, udāhu añño niddhāretvā yojetabbo atthi ki’’nti vattabbattā ‘‘niyutto padaṭṭhāno hāro’’ti vuttaṃ. Idha pāḷiyaṃ avibhattampi yathālābhavasena padaṭṭhāno hāro nīharitvā yutto yujjitabbo, vibhajitabbanti vuttaṃ hoti.

    อิติ ปทฎฺฐานหารวิภเงฺค สตฺติพลานุรูปา รจิตา

    Iti padaṭṭhānahāravibhaṅge sattibalānurūpā racitā

    วิภาวนา นิฎฺฐิตาฯ

    Vibhāvanā niṭṭhitā.

    ปณฺฑิเตหิ ปน อฎฺฐกถาฎีกานุสาเรน คมฺภีรโตฺถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตโพฺพติฯ

    Paṇḍitehi pana aṭṭhakathāṭīkānusārena gambhīrattho vitthārato vibhajitvā gahetabboti.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เนตฺติปฺปกรณปาฬิ • Nettippakaraṇapāḷi / ๔. ปทฎฺฐานหารวิภโงฺค • 4. Padaṭṭhānahāravibhaṅgo

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā / ๔. ปทฎฺฐานหารวิภงฺควณฺณนา • 4. Padaṭṭhānahāravibhaṅgavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā / ๔. ปทฎฺฐานหารวิภงฺควณฺณนา • 4. Padaṭṭhānahāravibhaṅgavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact