Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi

    ๗. ปาทุกวคฺค-อตฺถโยชนา

    7. Pādukavagga-atthayojanā

    ๖๓๘. องฺคุลนฺตรนฺติ ปาทงฺคุลวิวรํฯ ปาทุกนฺติ อุปาหนวิเสโสฯ โส หิ ปชฺชเต อิมายาติ ปาทุกาติ วุจฺจติ, สา พหุปฎลา จมฺมมยา วา โหติ กฎฺฐมยา วาฯ ปฎิมุญฺจิตฺวาติ ปาทุกํ ปฎิมุญฺจีตฺวาฯ

    638.Aṅgulantaranti pādaṅgulavivaraṃ. Pādukanti upāhanaviseso. So hi pajjate imāyāti pādukāti vuccati, sā bahupaṭalā cammamayā vā hoti kaṭṭhamayā vā. Paṭimuñcitvāti pādukaṃ paṭimuñcītvā.

    ๖๔๐. ทฺวีหิ ชเนหิ คหิโตติ สมฺพโนฺธฯ วํเสนาติ เวณุนา, ยาเน นิสิโนฺนติ สมฺพโนฺธฯ วิสงฺขริตฺวาติ วิปตฺติํ กริตฺวาฯ เทฺวปีติ ธมฺมกถิกธมฺมปฎิคฺคาหกสงฺขาตา อุโภปิ ชนาฯ วฎฺฎตีติ เทเสตุํ วฎฺฎติฯ

    640. Dvīhi janehi gahitoti sambandho. Vaṃsenāti veṇunā, yāne nisinnoti sambandho. Visaṅkharitvāti vipattiṃ karitvā. Dvepīti dhammakathikadhammapaṭiggāhakasaṅkhātā ubhopi janā. Vaṭṭatīti desetuṃ vaṭṭati.

    ๖๔๑. สยนคตสฺสาติ สยนํ คตสฺส, สยเน นิปนฺนสฺสาติ อโตฺถฯ นิปนฺนสฺส เทเสตุํ น วฎฺฎตีติ สมฺพโนฺธฯ

    641.Sayanagatassāti sayanaṃ gatassa, sayane nipannassāti attho. Nipannassa desetuṃ na vaṭṭatīti sambandho.

    ๖๔๒. ตีสุ ปลฺลตฺถิกาสุ ยาย กายจิ ปลฺลตฺถิกาย นิสินฺนสฺส ธมฺมํ เทเสตุํ น วฎฺฎตีติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ปลฺลตฺถิกายา’’ติอาทิฯ

    642. Tīsu pallatthikāsu yāya kāyaci pallatthikāya nisinnassa dhammaṃ desetuṃ na vaṭṭatīti dassento āha ‘‘pallatthikāyā’’tiādi.

    ๖๔๓. ยถา เวฐิยมาเน เกสโนฺต น ทิสฺสติ, เอวํ เวฐิตสีสสฺสาติ โยชนาฯ

    643. Yathā veṭhiyamāne kesanto na dissati, evaṃ veṭhitasīsassāti yojanā.

    ๖๔๗. ฉปกสทฺทสฺส จ จณฺฑาลสทฺทสฺส จ เววจนตฺตา วุตฺตํ ‘‘จณฺฑาลสฺสา’’ติฯ จณฺฑาโล หิ สํ สุนขํ ปจตีติ ฉปโกติ วุจฺจติ สการสฺส ฉการํ กตฺวาฯ ฉปกสฺส เอสา ฉปกี, จณฺฑาลภริยาฯ ยตฺราติ เอตฺถ ตฺรปจฺจโย ปจฺจเตฺต โหตีติ อาห ‘‘โย หิ นามา’’ติฯ โย ราชา อุเจฺจ อาสเน นิสีทิตฺวา มนฺตํ ปริยาปุณิสฺสติ นาม, อยํ ราชา ยาว อติวิย อธมฺมิโกติ วุตฺตํ โหติฯ ‘‘สพฺพมิท’’นฺติ อยํ สโทฺท ลิงฺควิปลฺลาโสติ อาห ‘‘สโพฺพ อย’’นฺติ ฯ ‘‘โลโก’’ติ อิมินา อิธสทฺทสฺส วิสยํ ทเสฺสติฯ จริมสโทฺท อนฺติมปริยาโยฯ อนฺติโมติ จ ลามโกฯ ลามโกติ จ นาม อิธ วิปตฺตีติ อาห ‘‘สงฺกร’’นฺติฯ สงฺกรนฺติ วิปตฺติํฯ ‘‘นิมฺมริยาโท’’ติ อิมินา ‘‘สงฺกรํ คโต’’ติ ปทานํ อธิปฺปายตฺถํ ทเสฺสติฯ จริมํ คตํ จริมคตํ, สโพฺพ อยํ โลโก จริมคโตติ อโตฺถฯ อิธ จ ชาตเก (ชา. ๑.๔.๓๓) จ เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘จมริกต’’นฺติ ปาโฐ อตฺถิ, โส อยุโตฺตเยวฯ ตเตฺถวาติ อมฺพรุกฺขมูเลเยวฯ เตสนฺติ ราชพฺราหฺมณานํฯ

    647. Chapakasaddassa ca caṇḍālasaddassa ca vevacanattā vuttaṃ ‘‘caṇḍālassā’’ti. Caṇḍālo hi saṃ sunakhaṃ pacatīti chapakoti vuccati sakārassa chakāraṃ katvā. Chapakassa esā chapakī, caṇḍālabhariyā. Yatrāti ettha trapaccayo paccatte hotīti āha ‘‘yo hi nāmā’’ti. Yo rājā ucce āsane nisīditvā mantaṃ pariyāpuṇissati nāma, ayaṃ rājā yāva ativiya adhammikoti vuttaṃ hoti. ‘‘Sabbamida’’nti ayaṃ saddo liṅgavipallāsoti āha ‘‘sabbo aya’’nti . ‘‘Loko’’ti iminā idhasaddassa visayaṃ dasseti. Carimasaddo antimapariyāyo. Antimoti ca lāmako. Lāmakoti ca nāma idha vipattīti āha ‘‘saṅkara’’nti. Saṅkaranti vipattiṃ. ‘‘Nimmariyādo’’ti iminā ‘‘saṅkaraṃ gato’’ti padānaṃ adhippāyatthaṃ dasseti. Carimaṃ gataṃ carimagataṃ, sabbo ayaṃ loko carimagatoti attho. Idha ca jātake (jā. 1.4.33) ca kesuci potthakesu ‘‘camarikata’’nti pāṭho atthi, so ayuttoyeva. Tatthevāti ambarukkhamūleyeva. Tesanti rājabrāhmaṇānaṃ.

    ตตฺถาติ ติสฺสํ คาถายํฯ ปาฬิยาติ อตฺตโน อาจารปกาสกคนฺถสงฺขาตาย ปาฬิยาฯ น ปสฺสเรติ เอตฺถ เรสโทฺท อนฺติสฺส การิโยติ อาห ‘‘น ปสฺสนฺตี’’ติฯ โย จายนฺติ โย จ อยํฯ อยํสโทฺท ปทาลงฺการมโตฺต, พฺราหฺมโณติ อโตฺถฯ อธียตีติ อชฺฌายติ, สิกฺขตีติ อโตฺถฯ

    Tatthāti tissaṃ gāthāyaṃ. Pāḷiyāti attano ācārapakāsakaganthasaṅkhātāya pāḷiyā. Na passareti ettha resaddo antissa kāriyoti āha ‘‘na passantī’’ti. Yo cāyanti yo ca ayaṃ. Ayaṃsaddo padālaṅkāramatto, brāhmaṇoti attho. Adhīyatīti ajjhāyati, sikkhatīti attho.

    ตโตติ โพธิสเตฺตน วุตฺตคาถาโต ปรนฺติ สมฺพโนฺธฯ ตสฺสาติ คาถายฯ โภติ โพธิสตฺตํ อามเนฺตติฯ ‘‘ภุโตฺต’’ติ ปทสฺส กมฺมวาจกภาวมาวิกาตุํ วุตฺตํ ‘‘มยา’’ติฯ อสฺสาติ โอทนสฺสฯ อิมินา สุจิ ปริสุทฺธํ มํสํ สุจิมํสํ, เตน อุปเสจนมสฺสาติ สุจิมํสูปเสจโนติ พาหิรตฺถสมาสํ ทเสฺสติฯ ธเมฺมติ อาจารธเมฺมฯ พโทฺธ หุตฺวาติ ถโทฺธ หุตฺวา, อยเมว วา ปาโฐ ฯ วณฺณสทฺทสฺส สณฺฐานาทิเก อเญฺญ อเตฺถ ปฎิกฺขิปิตุํ วุตฺตํ ‘‘ปสโตฺถ’’ติฯ โถมิโตติ ตเสฺสว เววจนํฯ

    Tatoti bodhisattena vuttagāthāto paranti sambandho. Tassāti gāthāya. Bhoti bodhisattaṃ āmanteti. ‘‘Bhutto’’ti padassa kammavācakabhāvamāvikātuṃ vuttaṃ ‘‘mayā’’ti. Assāti odanassa. Iminā suci parisuddhaṃ maṃsaṃ sucimaṃsaṃ, tena upasecanamassāti sucimaṃsūpasecanoti bāhiratthasamāsaṃ dasseti. Dhammeti ācāradhamme. Baddho hutvāti thaddho hutvā, ayameva vā pāṭho . Vaṇṇasaddassa saṇṭhānādike aññe atthe paṭikkhipituṃ vuttaṃ ‘‘pasattho’’ti. Thomitoti tasseva vevacanaṃ.

    อถาติ อนนฺตเรฯ นฺติ พฺราหฺมณํฯ ตสฺสาติ คาถาทฺวยสฺสฯ พฺราหฺมณาติ ปุโรหิตํ อาลปติฯ สมฺปตีติ สนฺทีฎฺฐิเกฯ ‘‘ยา วุตฺติ วินิปาเตน, อธมฺมจรเณน วา’’ติ ปทานํ สมฺพนฺธํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘นิปฺปชฺชตี’’ติฯ

    Athāti anantare. Nanti brāhmaṇaṃ. Tassāti gāthādvayassa. Brāhmaṇāti purohitaṃ ālapati. Sampatīti sandīṭṭhike. ‘‘Yā vutti vinipātena, adhammacaraṇena vā’’ti padānaṃ sambandhaṃ dassetuṃ vuttaṃ ‘‘nippajjatī’’ti.

    มหาพฺรเหฺมติ เอตฺถ พฺรหฺมสโทฺท พฺราหฺมณวาจโกติ อาห ‘‘มหาพฺราหฺมณา’’ติฯ อเญฺญปีติ ราชพฺราหฺมเณหิ อปเรปิฯ ‘‘ปจนฺตี’’ติ วุเตฺต อวินาภาวโต ‘‘ภุญฺชนฺตี’’ติ อโตฺถปิ คเหตโพฺพติ อาห ‘‘ปจนฺติ เจว ภุญฺชนฺติ จา’’ติฯ ‘‘น เกวล’’นฺติอาทินา อเญฺญปีติ เอตฺถ ปิสทฺทสฺส สมฺปิณฺฑนตฺถํ ทเสฺสติ, ตฺวํ อาจริสฺสสีติ สมฺพโนฺธฯ ปุน ตฺวนฺติ ตํ, อุปโยคเตฺถ เจตํ ปจฺจตฺตวจนํ, ‘‘มา ภิทา’’ติอิมินา สมฺพนฺธิตพฺพํฯ ‘‘ปาสาโณ’’ติอิมินา อสฺมสโทฺท ปาสาณปริยาโยติ ทเสฺสติฯ เตนาติ ภินฺทนเหตุนาฯ

    Mahābrahmeti ettha brahmasaddo brāhmaṇavācakoti āha ‘‘mahābrāhmaṇā’’ti. Aññepīti rājabrāhmaṇehi aparepi. ‘‘Pacantī’’ti vutte avinābhāvato ‘‘bhuñjantī’’ti atthopi gahetabboti āha ‘‘pacanti ceva bhuñjanti cā’’ti. ‘‘Na kevala’’ntiādinā aññepīti ettha pisaddassa sampiṇḍanatthaṃ dasseti, tvaṃ ācarissasīti sambandho. Puna tvanti taṃ, upayogatthe cetaṃ paccattavacanaṃ, ‘‘mā bhidā’’tiiminā sambandhitabbaṃ. ‘‘Pāsāṇo’’tiiminā asmasaddo pāsāṇapariyāyoti dasseti. Tenāti bhindanahetunā.

    ๖๔๘. อตฺตโน กงฺขาฐานสฺส ปุจฺฉนํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘น กเถตพฺพ’’นฺติฯ

    648. Attano kaṅkhāṭhānassa pucchanaṃ sandhāya vuttaṃ ‘‘na kathetabba’’nti.

    ๖๔๙. สมธุเรนาติ สมํ ธุเรน, สมํ มุเขนาติ อโตฺถฯ

    649.Samadhurenāti samaṃ dhurena, samaṃ mukhenāti attho.

    ๖๕๒. ยํ มูลํ วา ยา สาขา วา คจฺฉตีติ โยชนาฯ ขเนฺธติ รุกฺขสฺส ขเนฺธฯ นิกฺขมตีติ อุจฺจารปสฺสาโว นิกฺขมติฯ ติณณฺฑุปกนฺติ ติเณน กตํ, ติณมยํ วา อณฺฑุปกํฯ เอตฺถาติ อุจฺจารปสฺสาวเขเฬสุฯ

    652. Yaṃ mūlaṃ vā yā sākhā vā gacchatīti yojanā. Khandheti rukkhassa khandhe. Nikkhamatīti uccārapassāvo nikkhamati. Tiṇaṇḍupakanti tiṇena kataṃ, tiṇamayaṃ vā aṇḍupakaṃ. Etthāti uccārapassāvakheḷesu.

    ๖๕๓. อธิเปฺปตอุทกํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘ปริโภคอุทกเมวา’’ติฯ สตฺตโม วโคฺคฯ

    653. Adhippetaudakaṃ dassetuṃ vuttaṃ ‘‘paribhogaudakamevā’’ti. Sattamo vaggo.

    เอตฺถาติ เสขิเยสุฯ สูปพฺยญฺชนปฎิจฺฉาทเนติ สูปพฺยญฺชเน โอทเนน ปฎิจฺฉาเทติฯ สมตฺตา เสขิยาฯ

    Etthāti sekhiyesu. Sūpabyañjanapaṭicchādaneti sūpabyañjane odanena paṭicchādeti. Samattā sekhiyā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๗. ปาทุกวโคฺค • 7. Pādukavaggo

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๗. ปาทุกวคฺควณฺณนา • 7. Pādukavaggavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๗. ปาทุกวคฺควณฺณนา • 7. Pādukavaggavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๗. ปาทุกวคฺควณฺณนา • 7. Pādukavaggavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๗. ปาทุกวคฺควณฺณนา • 7. Pādukavaggavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact