Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā |
๗. ปาทุกวคฺควณฺณนา
7. Pādukavaggavaṇṇanā
๖๓๘. อกฺกนฺตสฺสาติ ฉตฺตทณฺฑเก องฺคุลนฺตรํ อปฺปเวเสตฺวา เกวลํ ปาทุกํ อกฺกมิตฺวา ฐิตสฺสฯ ปฎิมุกฺกสฺสาติ ปฎิมุญฺจิตฺวา ฐิตสฺสฯ อุปาหนายปิ เอเสว นโยฯ โอมุโกฺกติ ปเนตฺถ ปณฺหิกพทฺธํ โอมุญฺจิตฺวา ฐิโต วุจฺจติฯ
638.Akkantassāti chattadaṇḍake aṅgulantaraṃ appavesetvā kevalaṃ pādukaṃ akkamitvā ṭhitassa. Paṭimukkassāti paṭimuñcitvā ṭhitassa. Upāhanāyapi eseva nayo. Omukkoti panettha paṇhikabaddhaṃ omuñcitvā ṭhito vuccati.
๖๔๐. ยานคตสฺสาติ เอตฺถ สเจปิ ทฺวีหิ ชเนหิ หตฺถสงฺฆาเฎน คหิโต, สาฎเก วา ฐเปตฺวา วํเสน วยฺหติ, อยุเตฺต วา วยฺหาทิเก ยาเน , วิสงฺขริตฺวา วา ฐปิเต จกฺกมเตฺตปิ นิสิโนฺน ยานคโตเตฺวว สงฺขฺยํ คจฺฉติฯ สเจ ปน เทฺวปิ เอกยาเน นิสินฺนา โหนฺติ, วฎฺฎติฯ วิสุํ นิสิเนฺนสุปิ อุเจฺจ ยาเน นิสิเนฺนน นีเจ นิสินฺนสฺส เทเสตุํ วฎฺฎติ, สมปฺปมาเณปิ วฎฺฎติฯ ปุริเม ยาเน นิสิเนฺนน ปจฺฉิเม นิสินฺนสฺส วฎฺฎติฯ ปจฺฉิเม ปน อุจฺจตเรปิ นิสิเนฺนน เทเสตุํ น วฎฺฎติฯ
640.Yānagatassāti ettha sacepi dvīhi janehi hatthasaṅghāṭena gahito, sāṭake vā ṭhapetvā vaṃsena vayhati, ayutte vā vayhādike yāne , visaṅkharitvā vā ṭhapite cakkamattepi nisinno yānagatotveva saṅkhyaṃ gacchati. Sace pana dvepi ekayāne nisinnā honti, vaṭṭati. Visuṃ nisinnesupi ucce yāne nisinnena nīce nisinnassa desetuṃ vaṭṭati, samappamāṇepi vaṭṭati. Purime yāne nisinnena pacchime nisinnassa vaṭṭati. Pacchime pana uccatarepi nisinnena desetuṃ na vaṭṭati.
๖๔๑. สยนคตสฺสาติ อนฺตมโส กฎสารเกปิ ปกติภูมิยมฺปิ นิปนฺนสฺส อุเจฺจปิ มญฺจปีเฐ วา ภูมิปเทเส วา ฐิเตน นิสิเนฺนน วา เทเสตุํ น วฎฺฎติฯ สยนคเตน ปน สยนคตสฺส อุจฺจตเร วา สมปฺปมาเณ วา นิปเนฺนน เทเสตุํ วฎฺฎติฯ นิปเนฺนน จ ฐิตสฺส วา นิสินฺนสฺส วา เทเสตุํ วฎฺฎติ, นิสิเนฺนนาปิ ฐิตสฺส วา นิสินฺนสฺส วา วฎฺฎติฯ ฐิเตน ฐิตเสฺสว วฎฺฎติฯ
641.Sayanagatassāti antamaso kaṭasārakepi pakatibhūmiyampi nipannassa uccepi mañcapīṭhe vā bhūmipadese vā ṭhitena nisinnena vā desetuṃ na vaṭṭati. Sayanagatena pana sayanagatassa uccatare vā samappamāṇe vā nipannena desetuṃ vaṭṭati. Nipannena ca ṭhitassa vā nisinnassa vā desetuṃ vaṭṭati, nisinnenāpi ṭhitassa vā nisinnassa vā vaṭṭati. Ṭhitena ṭhitasseva vaṭṭati.
๖๔๒. ปลฺลตฺถิกายาติ อาโยคปลฺลตฺถิกาย วา หตฺถปลฺลตฺถิกาย วา ทุสฺสปลฺลตฺถิกาย วา ยาย กายจิ ปลฺลตฺถิกาย นิสินฺนสฺส อคิลานสฺส เทเสตุํ น วฎฺฎติฯ
642.Pallatthikāyāti āyogapallatthikāya vā hatthapallatthikāya vā dussapallatthikāya vā yāya kāyaci pallatthikāya nisinnassa agilānassa desetuṃ na vaṭṭati.
๖๔๓. เวฐิตสีสสฺสาติ ทุสฺสเวฐเนน วา โมฬิอาทีหิ วา ยถา เกสโนฺต น ทิสฺสติ; เอวํ เวฐิตสีสสฺสฯ
643.Veṭhitasīsassāti dussaveṭhanena vā moḷiādīhi vā yathā kesanto na dissati; evaṃ veṭhitasīsassa.
๖๔๔. โอคุณฺฐิตสีสสฺสาติ สสีสํ ปารุตสฺสฯ
644.Oguṇṭhitasīsassāti sasīsaṃ pārutassa.
๖๔๕. ฉมายํ นิสิเนฺนนาติ ภูมิยํ นิสิเนฺนนฯ อาสเน นิสินฺนสฺสาติ อนฺตมโส วตฺถมฺปิ ติณานิปิ สนฺถริตฺวา นิสินฺนสฺสฯ
645.Chamāyaṃ nisinnenāti bhūmiyaṃ nisinnena. Āsane nisinnassāti antamaso vatthampi tiṇānipi santharitvā nisinnassa.
๖๔๗. ฉปกสฺสาติ จณฺฑาลสฺสฯ ฉปกีติ จณฺฑาลีฯ นิลีโนติ ปฎิจฺฉโนฺน หุตฺวาฯ ยตฺร หิ นามาติ โย หิ นามฯ สพฺพมิทํ จริมํ กตนฺติ ตเตฺถว ปริปตีติ ‘‘สโพฺพ อยํ โลโก สงฺกรํ คโต นิมฺมริยาโท’’ติ อิมํ วจนํ วตฺวา ตเตฺถว เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ อนฺตรา รุกฺขโต ปติโตฯ ปติตฺวา จ ปน อุภินฺนมฺปิ ปุรโต ฐตฺวา อิมํ คาถํ อภาสิ –
647.Chapakassāti caṇḍālassa. Chapakīti caṇḍālī. Nilīnoti paṭicchanno hutvā. Yatra hi nāmāti yo hi nāma. Sabbamidaṃ carimaṃ katanti tattheva paripatīti ‘‘sabbo ayaṃ loko saṅkaraṃ gato nimmariyādo’’ti imaṃ vacanaṃ vatvā tattheva tesaṃ dvinnampi antarā rukkhato patito. Patitvā ca pana ubhinnampi purato ṭhatvā imaṃ gāthaṃ abhāsi –
‘‘อุโภ อตฺถํ น ชานนฺติ…เป.… อสฺมา กุมฺภมิวาภิทา’’ติฯ
‘‘Ubho atthaṃ na jānanti…pe… asmā kumbhamivābhidā’’ti.
ตตฺถ อุโภ อตฺถํ น ชานนฺตีติ เทฺวปิ ชนา ปาฬิยา อตฺถํ น ชานนฺติฯ ธมฺมํ น ปสฺสเรติ ปาฬิํ น ปสฺสนฺติฯ กตเม เต อุโภติ? ‘‘โย จายํ มนฺตํ วาเจติ, โย จาธเมฺมนธียตี’’ติฯ เอวํ พฺราหฺมณญฺจ ราชานญฺจ อุโภปิ อธมฺมิกภาเว ฐเปสิฯ
Tattha ubho atthaṃ na jānantīti dvepi janā pāḷiyā atthaṃ na jānanti. Dhammaṃ na passareti pāḷiṃ na passanti. Katame te ubhoti? ‘‘Yo cāyaṃ mantaṃvāceti, yo cādhammenadhīyatī’’ti. Evaṃ brāhmaṇañca rājānañca ubhopi adhammikabhāve ṭhapesi.
ตโต พฺราหฺมโณ สาลีนนฺติ คาถมาหฯ ตสฺสโตฺถ – ชานามหํ โภ ‘‘อยํ อธโมฺม’’ติ; อปิ จ โข มยา ทีฆรตฺตํ สปุตฺตทารปริชเนน รโญฺญ สนฺตโก สาลีนํ โอทโน ภุโตฺตฯ สุจิมํสูปเสจโนติ นานปฺปการวิกติสมฺปาทิตํ สุจิมํสูปเสจนํ มิสฺสีกรณมสฺสาติ สุจิมํสูปเสจโนฯ ตสฺมา ธเมฺม น วตฺตามีติ ยสฺมา เอวํ มยา รโญฺญ โอทโน ภุโตฺต, อเญฺญ จ พหู ลาภา ลทฺธา, ตสฺมา ธเมฺม อหํ น วตฺตามิ อุทเร พโทฺธ หุตฺวา, น ธมฺมํ อชานโนฺตฯ อยญฺหิ ธโมฺม อริเยหิ วณฺณิโต ปสโตฺถ โถมิโตติ ชานามิฯ
Tato brāhmaṇo sālīnanti gāthamāha. Tassattho – jānāmahaṃ bho ‘‘ayaṃ adhammo’’ti; api ca kho mayā dīgharattaṃ saputtadāraparijanena rañño santako sālīnaṃ odano bhutto. Sucimaṃsūpasecanoti nānappakāravikatisampāditaṃ sucimaṃsūpasecanaṃ missīkaraṇamassāti sucimaṃsūpasecano. Tasmā dhamme na vattāmīti yasmā evaṃ mayā rañño odano bhutto, aññe ca bahū lābhā laddhā, tasmā dhamme ahaṃ na vattāmi udare baddho hutvā, na dhammaṃ ajānanto. Ayañhi dhammo ariyehi vaṇṇito pasattho thomitoti jānāmi.
อถ นํ ฉปโก ‘‘ธิรตฺถู’’ติอาทินา คาถาทฺวเยน อชฺฌภาสิฯ ตสฺสโตฺถ – โย ตยา ธนลาโภ จ ยสลาโภ จ ลโทฺธ, ธิรตฺถุ ตํ ธนลาภํ ยสลาภญฺจ พฺราหฺมณฯ กสฺมา? ยสฺมา อยํ ตยา ลโทฺธ ลาโภ อายติํ อปาเยสุ วินิปาตนเหตุนา สมฺปติ จ อธมฺมจรเณน วุตฺติ นาม โหติฯ เอวรูปา ยา วุตฺติ อายติํ วินิปาเตน อิธ อธมฺมจรเณน วา นิปฺปชฺชติ, กิํ ตาย วุตฺติยา? เตน วุตฺตํ –
Atha naṃ chapako ‘‘dhiratthū’’tiādinā gāthādvayena ajjhabhāsi. Tassattho – yo tayā dhanalābho ca yasalābho ca laddho, dhiratthu taṃ dhanalābhaṃ yasalābhañca brāhmaṇa. Kasmā? Yasmā ayaṃ tayā laddho lābho āyatiṃ apāyesu vinipātanahetunā sampati ca adhammacaraṇena vutti nāma hoti. Evarūpā yā vutti āyatiṃ vinipātena idha adhammacaraṇena vā nippajjati, kiṃ tāya vuttiyā? Tena vuttaṃ –
‘‘ธิรตฺถุ ตํ ธนลาภํ, ยสลาภญฺจ พฺราหฺมณ;
‘‘Dhiratthu taṃ dhanalābhaṃ, yasalābhañca brāhmaṇa;
ยา วุตฺติ วินิปาเตน, อธมฺมจรเณน วา’’ติฯ
Yā vutti vinipātena, adhammacaraṇena vā’’ti.
ปริพฺพช มหาพฺรเหฺมติ มหาพฺราหฺมณ อิโต ทิสา สีฆํ ปลายสฺสุฯ ปจนฺตเญฺญปิ ปาณิโนติ อเญฺญปิ สตฺตา ปจนฺติ เจว ภุญฺชนฺติ จ; น เกวลํ ตฺวเญฺจว ราชา จฯ มา ตฺวํ อธโมฺม อาจริโต อสฺมา กุมฺภมิวาภิทาติ สเจ หิ ตฺวํ อิโต อปริพฺพชิตฺวา อิมํ อธมฺมํ อาจริสฺสสิ , ตโต ตฺวํ โส อธโมฺม เอวํ อาจริโต ยถา อุทกกุมฺภํ ปาสาโณ ภิเนฺทยฺย; เอวํ เภจฺฉติ, เตน มยํ ตํ วทาม –
Paribbaja mahābrahmeti mahābrāhmaṇa ito disā sīghaṃ palāyassu. Pacantaññepi pāṇinoti aññepi sattā pacanti ceva bhuñjanti ca; na kevalaṃ tvañceva rājā ca. Mā tvaṃ adhammo ācarito asmā kumbhamivābhidāti sace hi tvaṃ ito aparibbajitvā imaṃ adhammaṃ ācarissasi , tato tvaṃ so adhammo evaṃ ācarito yathā udakakumbhaṃ pāsāṇo bhindeyya; evaṃ bhecchati, tena mayaṃ taṃ vadāma –
‘‘ปริพฺพช มหาพฺรเหฺม, ปจนฺตเญฺญปิ ปาณิโน;
‘‘Paribbaja mahābrahme, pacantaññepi pāṇino;
มา ตฺวํ อธโมฺม อาจริโต, อสฺมา กุมฺภมิวาภิทา’’ติฯ
Mā tvaṃ adhammo ācarito, asmā kumbhamivābhidā’’ti.
อุเจฺจ อาสเนติ อนฺตมโส ภูมิปฺปเทเสปิ อุนฺนตฎฺฐาเน นิสินฺนสฺส เทเสตุํ น วฎฺฎติฯ
Ucce āsaneti antamaso bhūmippadesepi unnataṭṭhāne nisinnassa desetuṃ na vaṭṭati.
๖๔๘. น ฐิโต นิสินฺนสฺสาติ สเจปิ เถรุปฎฺฐานํ คนฺตฺวา ฐิตํ ทหรภิกฺขุํ อาสเน นิสิโนฺน มหาเถโร ปญฺหํ ปุจฺฉติ, น กเถตพฺพํฯ คารเวน ปน เถรํ อุฎฺฐหิตฺวา ปุจฺฉถาติ วตฺตุํ น สกฺกา, ปเสฺส ฐิตภิกฺขุสฺส กเถมีติ กเถตุํ วฎฺฎติฯ
648.Naṭhito nisinnassāti sacepi therupaṭṭhānaṃ gantvā ṭhitaṃ daharabhikkhuṃ āsane nisinno mahāthero pañhaṃ pucchati, na kathetabbaṃ. Gāravena pana theraṃ uṭṭhahitvā pucchathāti vattuṃ na sakkā, passe ṭhitabhikkhussa kathemīti kathetuṃ vaṭṭati.
๖๔๙. น ปจฺฉโต คจฺฉเนฺตนาติ เอตฺถ สเจ ปุรโต คจฺฉโนฺต ปจฺฉโต คจฺฉนฺตํ ปญฺหํ ปุจฺฉติ, น กเถตพฺพํฯ ปจฺฉิมสฺส ภิกฺขุโน กเถมีติ กเถตุํ วฎฺฎติฯ สทฺธิํ อุคฺคหิตธมฺมํ ปน สชฺฌายิตุํ วฎฺฎติฯ สมธุเรน คจฺฉนฺตสฺส กเถตุํ วฎฺฎติฯ
649.Na pacchato gacchantenāti ettha sace purato gacchanto pacchato gacchantaṃ pañhaṃ pucchati, na kathetabbaṃ. Pacchimassa bhikkhuno kathemīti kathetuṃ vaṭṭati. Saddhiṃ uggahitadhammaṃ pana sajjhāyituṃ vaṭṭati. Samadhurena gacchantassa kathetuṃ vaṭṭati.
๖๕๐. น อุปฺปเถนาติ เอตฺถาปิ สเจ เทฺวปิ สกฎปเถ เอเกกจกฺกปเถน วา อุปฺปเถน วา สมธุรํ คจฺฉนฺติ, วฎฺฎติฯ
650.Na uppathenāti etthāpi sace dvepi sakaṭapathe ekekacakkapathena vā uppathena vā samadhuraṃ gacchanti, vaṭṭati.
๖๕๑. อสญฺจิจฺจาติ ปฎิจฺฉนฺนฎฺฐานํ คจฺฉนฺตสฺส สหสา อุจฺจาโร วา ปสฺสาโว วา นิกฺขมติ, อสญฺจิจฺจ กโต นาม อนาปตฺติฯ
651.Asañciccāti paṭicchannaṭṭhānaṃ gacchantassa sahasā uccāro vā passāvo vā nikkhamati, asañcicca kato nāma anāpatti.
๖๕๒. น หริเตติ เอตฺถ ยมฺปิ ชีวรุกฺขสฺส มูลํ ปถวิยํ ทิสฺสมานํ คจฺฉติ, สาขา วา ภูมิลคฺคา คจฺฉติ, สพฺพํ หริตสงฺขาตเมวฯ ขเนฺธ นิสีทิตฺวา อปฺปหริตฎฺฐาเน ปาเตตุํ วฎฺฎติฯ อปฺปหริตฎฺฐานํ โอโลเกนฺตเสฺสว สหสา นิกฺขมติ, คิลานฎฺฐาเน ฐิโต โหติ, วฎฺฎติฯ อปฺปหริเต กโตติ อปฺปหริตํ อลภเนฺตน ติณณฺฑุปกํ วา ปลาลณฺฑุปกํ วา ฐเปตฺวา กโตปิ ปจฺฉา หริตํ โอตฺถรติ, วฎฺฎติเยวฯ เขเฬน เจตฺถ สิงฺฆาณิกาปิ สงฺคหิตาติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํฯ
652.Na hariteti ettha yampi jīvarukkhassa mūlaṃ pathaviyaṃ dissamānaṃ gacchati, sākhā vā bhūmilaggā gacchati, sabbaṃ haritasaṅkhātameva. Khandhe nisīditvā appaharitaṭṭhāne pātetuṃ vaṭṭati. Appaharitaṭṭhānaṃ olokentasseva sahasā nikkhamati, gilānaṭṭhāne ṭhito hoti, vaṭṭati. Appaharite katoti appaharitaṃ alabhantena tiṇaṇḍupakaṃ vā palālaṇḍupakaṃ vā ṭhapetvā katopi pacchā haritaṃ ottharati, vaṭṭatiyeva. Kheḷena cettha siṅghāṇikāpi saṅgahitāti mahāpaccariyaṃ vuttaṃ.
๖๕๓. น อุทเกติ เอตํ ปริโภคอุทกเมว สนฺธาย วุตฺตํ, วจฺจกุฎิสมุทฺทาทิอุทเกสุ ปน อปริโภเคสุ อนาปตฺติฯ เทเว วสฺสเนฺต สมนฺตโต อุทโกโฆ โหติ, อนุทกฎฺฐานํ โอโลเกนฺตเสฺสว นิกฺขมติ, วฎฺฎติฯ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ – ‘‘เอตาทิเส กาเล อนุทกฎฺฐานํ อลภเนฺตน กาตุํ วฎฺฎตี’’ติฯ เสสํ สพฺพสิกฺขาปเทสุ อุตฺตานตฺถเมวฯ
653.Na udaketi etaṃ paribhogaudakameva sandhāya vuttaṃ, vaccakuṭisamuddādiudakesu pana aparibhogesu anāpatti. Deve vassante samantato udakogho hoti, anudakaṭṭhānaṃ olokentasseva nikkhamati, vaṭṭati. Mahāpaccariyaṃ vuttaṃ – ‘‘etādise kāle anudakaṭṭhānaṃ alabhantena kātuṃ vaṭṭatī’’ti. Sesaṃ sabbasikkhāpadesu uttānatthameva.
สตฺตโม วโคฺคฯ
Sattamo vaggo.
สมุฎฺฐานาทิทีปนตฺถาย ปเนตฺถ อิทํ ปกิณฺณกํ – อุชฺชคฺฆิกอุจฺจาสทฺทปฎิสํยุตฺตานิ จตฺตาริ, สกพเฬน มุเขน พฺยาหรณํ เอกํ, ฉมานีจาสนฐานปจฺฉโตคมนอุปฺปถคมนปฎิสํยุตฺตานิ ปญฺจาติ อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ สมนุภาสนสมุฎฺฐานานิ กายวาจาจิตฺตโต สมุฎฺฐหนฺติ, กิริยานิ, สญฺญาวิโมกฺขานิ , สจิตฺตกานิ, โลกวชฺชานิ, กายกมฺมวจีกมฺมานิ, อกุสลจิตฺตานิ, ทุกฺขเวทนานีติฯ
Samuṭṭhānādidīpanatthāya panettha idaṃ pakiṇṇakaṃ – ujjagghikauccāsaddapaṭisaṃyuttāni cattāri, sakabaḷena mukhena byāharaṇaṃ ekaṃ, chamānīcāsanaṭhānapacchatogamanauppathagamanapaṭisaṃyuttāni pañcāti imāni dasa sikkhāpadāni samanubhāsanasamuṭṭhānāni kāyavācācittato samuṭṭhahanti, kiriyāni, saññāvimokkhāni , sacittakāni, lokavajjāni, kāyakammavacīkammāni, akusalacittāni, dukkhavedanānīti.
สูโปทนวิญฺญตฺติสิกฺขาปทํ เถยฺยสตฺถสมุฎฺฐานํ กายจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฎฺฐาติ, กิริยํ, สญฺญาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติฯ
Sūpodanaviññattisikkhāpadaṃ theyyasatthasamuṭṭhānaṃ kāyacittato kāyavācācittato ca samuṭṭhāti, kiriyaṃ, saññāvimokkhaṃ, sacittakaṃ, lokavajjaṃ, kāyakammaṃ, vacīkammaṃ, akusalacittaṃ, dukkhavedananti.
ฉตฺตปาณิทณฺฑปาณิสตฺถปาณิอาวุธปาณิปาทุกอุปาหนยานสยนปลฺลตฺถิกเวฐิตโอคุณฺฐิตนามกานิ เอกาทส สิกฺขาปทานิ ธมฺมเทสนสมุฎฺฐานานิ วาจาจิตฺตโต สมุฎฺฐหนฺติ, กิริยากิริยานิ, สญฺญาวิโมกฺขานิ, สจิตฺตกานิ, โลกวชฺชานิ, วจีกมฺมานิ, อกุสลจิตฺตานิ, ทุกฺขเวทนานีติฯ
Chattapāṇidaṇḍapāṇisatthapāṇiāvudhapāṇipādukaupāhanayānasayanapallatthikaveṭhitaoguṇṭhitanāmakāni ekādasa sikkhāpadāni dhammadesanasamuṭṭhānāni vācācittato samuṭṭhahanti, kiriyākiriyāni, saññāvimokkhāni, sacittakāni, lokavajjāni, vacīkammāni, akusalacittāni, dukkhavedanānīti.
อวเสสานิ เตปณฺณาส สิกฺขาปทานิ ปฐมปาราชิกสมุฎฺฐานานีติฯ
Avasesāni tepaṇṇāsa sikkhāpadāni paṭhamapārājikasamuṭṭhānānīti.
สพฺพเสขิเยสุ อาพาธปจฺจยา อนาปตฺติ, ถูปีกตปิณฺฑปาเต สูปพฺยญฺชเนน ปฎิจฺฉาทเน อุชฺฌานสญฺญิมฺหีติ ตีสุ สิกฺขาปเทสุ คิลาโน นตฺถีติฯ
Sabbasekhiyesu ābādhapaccayā anāpatti, thūpīkatapiṇḍapāte sūpabyañjanena paṭicchādane ujjhānasaññimhīti tīsu sikkhāpadesu gilāno natthīti.
เสขิยวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sekhiyavaṇṇanā niṭṭhitā.
เสขิยกณฺฑํ นิฎฺฐิตํฯ
Sekhiyakaṇḍaṃ niṭṭhitaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๗. ปาทุกวโคฺค • 7. Pādukavaggo
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๗. ปาทุกวคฺควณฺณนา • 7. Pādukavaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๗. ปาทุกวคฺควณฺณนา • 7. Pādukavaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๗. ปาทุกวคฺควณฺณนา • 7. Pādukavaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๗. ปาทุกวคฺค-อตฺถโยชนา • 7. Pādukavagga-atthayojanā