Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อิติวุตฺตก-อฎฺฐกถา • Itivuttaka-aṭṭhakathā

    ๑๐. ปทุฎฺฐจิตฺตสุตฺตวณฺณนา

    10. Paduṭṭhacittasuttavaṇṇanā

    ๒๐. ทสมสฺส กา อุปฺปตฺติ? อฎฺฐุปฺปตฺติเยวฯ เอกทิวสํ กิร ภิกฺขู ธมฺมสภายํ สนฺนิสินฺนา กถํ สมุฎฺฐาเปสุํ – ‘‘อาวุโส, อิเธกโจฺจ พหุํ ปุญฺญกมฺมํ กโรติ, เอกโจฺจ พหุํ ปาปกมฺมํ, เอกโจฺจ อุภยโวมิสฺสกํ กโรติฯ ตตฺถ โวมิสฺสการิโน กีทิโส อภิสมฺปราโย’’ติ? อถ สตฺถา ธมฺมสภํ อุปคนฺวา ปญฺญตฺตวรพุทฺธาสเน นิสิโนฺน ตํ กถํ สุตฺวา ‘‘ภิกฺขเว, มรณาสนฺนกาเล สํกิลิฎฺฐจิตฺตสฺส ทุคฺคติ ปาฎิกงฺขา’’ติ ทเสฺสโนฺต อิมาย อฎฺฐุปฺปตฺติยา อิทํ สุตฺตํ เทเสสิฯ

    20. Dasamassa kā uppatti? Aṭṭhuppattiyeva. Ekadivasaṃ kira bhikkhū dhammasabhāyaṃ sannisinnā kathaṃ samuṭṭhāpesuṃ – ‘‘āvuso, idhekacco bahuṃ puññakammaṃ karoti, ekacco bahuṃ pāpakammaṃ, ekacco ubhayavomissakaṃ karoti. Tattha vomissakārino kīdiso abhisamparāyo’’ti? Atha satthā dhammasabhaṃ upaganvā paññattavarabuddhāsane nisinno taṃ kathaṃ sutvā ‘‘bhikkhave, maraṇāsannakāle saṃkiliṭṭhacittassa duggati pāṭikaṅkhā’’ti dassento imāya aṭṭhuppattiyā idaṃ suttaṃ desesi.

    ตตฺถ อิธาติ เทสาปเทเส นิปาโตฯ สฺวายํ กตฺถจิ ปเทสํ อุปาทาย วุจฺจติ ‘‘อิเธว ติฎฺฐมานสฺส, เทวภูตสฺส เม สโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๖๙)ฯ กตฺถจิ สาสนํ อุปาทาย ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ อิธ ทุติโย สมโณ’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑)ฯ กตฺถจิ ปทปูรณมเตฺต ‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, ภุตฺตาวี อสฺสํ ปวาริโต’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐)ฯ กตฺถจิ โลกํ อุปาทาย วุจฺจติ ‘‘อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๖๑)ฯ อิธาปิ โลเก เอว ทฎฺฐโพฺพฯ เอกจฺจนฺติ เอกํ, อญฺญตรนฺติ อโตฺถฯ ปุคฺคลนฺติ สตฺตํฯ โส หิ ยถาปจฺจยํ กุสลากุสลานํ ตพฺพิปากานญฺจ ปูรณโต มรณวเสน คลนโต จ ปุคฺคโลติ วุจฺจติฯ ปทุฎฺฐจิตฺตนฺติ ปโทเสน อาฆาเตน ทุฎฺฐจิตฺตํฯ อถ วา ปทุฎฺฐจิตฺตนฺติ โทเสน ราคาทินา ปทูสิตจิตฺตํฯ เอตฺถ จ เอกจฺจนฺติ อิทํ ปทุฎฺฐจิตฺตสฺส ปุคฺคลสฺส วิเสสนํฯ ยสฺส หิ ปฎิสนฺธิทายกกมฺมํ โอกาสมกาสิ, โส ตถา วุโตฺตฯ ยสฺส จ อกุสลปฺปวตฺติโต จิตฺตํ นิวเตฺตตฺวา กุสลวเสน โอตาเรตุํ น สกฺกา, เอวํ อาสนฺนมรโณฯ เอวนฺติ อิทานิ วตฺตพฺพาการํ ทเสฺสติฯ เจตสาติ อตฺตโน จิเตฺตน เจโตปริยญาเณนฯ เจโตติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส จิตฺตํฯ ปริจฺจาติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปชานามิ ฯ นนุ จ ยถากมฺมุปคญาณสฺสายํ วิสโยติ? สจฺจเมตํ, ตทา ปวตฺตมานอกุสลจิตฺตวเสน ปเนตํ วุตฺตํฯ

    Tattha idhāti desāpadese nipāto. Svāyaṃ katthaci padesaṃ upādāya vuccati ‘‘idheva tiṭṭhamānassa, devabhūtassa me sato’’tiādīsu (dī. ni. 2.369). Katthaci sāsanaṃ upādāya ‘‘idheva, bhikkhave, samaṇo idha dutiyo samaṇo’’tiādīsu (ma. ni. 1.139; a. ni. 4.241). Katthaci padapūraṇamatte ‘‘idhāhaṃ, bhikkhave, bhuttāvī assaṃ pavārito’’tiādīsu (ma. ni. 1.30). Katthaci lokaṃ upādāya vuccati ‘‘idha tathāgato loke uppajjatī’’tiādīsu (a. ni. 3.61). Idhāpi loke eva daṭṭhabbo. Ekaccanti ekaṃ, aññataranti attho. Puggalanti sattaṃ. So hi yathāpaccayaṃ kusalākusalānaṃ tabbipākānañca pūraṇato maraṇavasena galanato ca puggaloti vuccati. Paduṭṭhacittanti padosena āghātena duṭṭhacittaṃ. Atha vā paduṭṭhacittanti dosena rāgādinā padūsitacittaṃ. Ettha ca ekaccanti idaṃ paduṭṭhacittassa puggalassa visesanaṃ. Yassa hi paṭisandhidāyakakammaṃ okāsamakāsi, so tathā vutto. Yassa ca akusalappavattito cittaṃ nivattetvā kusalavasena otāretuṃ na sakkā, evaṃ āsannamaraṇo. Evanti idāni vattabbākāraṃ dasseti. Cetasāti attano cittena cetopariyañāṇena. Cetoti tassa puggalassa cittaṃ. Pariccāti paricchinditvā pajānāmi. Nanu ca yathākammupagañāṇassāyaṃ visayoti? Saccametaṃ, tadā pavattamānaakusalacittavasena panetaṃ vuttaṃ.

    อิมมฺหิ จายํ สมเยติ อิมสฺมิํ กาเล, อิมายํ วา ปจฺจยสามคฺคิยํ, อยํ ปุคฺคโล ชวนวีถิยา อปรภาเค กาลํ กเรยฺย เจติ อโตฺถฯ น หิ ชวนกฺขเณ กาลํกิริยา อตฺถิฯ ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ นิรเยติ ยถา อาภตํ กิญฺจิ อาหริตฺวา ฐปิตํ, เอวํ อตฺตโน กมฺมุนา นิกฺขิโตฺต นิรเย ฐปิโต เอวาติ อโตฺถฯ กายสฺส เภทาติ อุปาทินฺนกฺขนฺธปริจฺจาคาฯ ปรํ มรณาติ ตทนนฺตรํ อภินิพฺพตฺตกฺขนฺธคฺคหเณฯ อถ วา กายสฺส เภทาติ ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปเจฺฉทาฯ ปรํ มรณาติ จุติโต อุทฺธํฯ

    Imamhicāyaṃ samayeti imasmiṃ kāle, imāyaṃ vā paccayasāmaggiyaṃ, ayaṃ puggalo javanavīthiyā aparabhāge kālaṃ kareyya ceti attho. Na hi javanakkhaṇe kālaṃkiriyā atthi. Yathābhataṃ nikkhitto evaṃ nirayeti yathā ābhataṃ kiñci āharitvā ṭhapitaṃ, evaṃ attano kammunā nikkhitto niraye ṭhapito evāti attho. Kāyassa bhedāti upādinnakkhandhapariccāgā. Paraṃ maraṇāti tadanantaraṃ abhinibbattakkhandhaggahaṇe. Atha vā kāyassa bhedāti jīvitindriyassa upacchedā. Paraṃ maraṇāti cutito uddhaṃ.

    อปายนฺติอาทิ สพฺพํ นิรยเสฺสว เววจนํฯ นิรโย หิ อยสงฺขาตา สุขา อเปโตติ อปาโย; สคฺคโมกฺขเหตุภูตา วา ปุญฺญสมฺมตา อยา อเปโตติปิ อปาโยฯ ทุกฺขสฺส คติ ปฎิสรณนฺติ ทุคฺคติ; โทสพหุลตฺตา วา ทุเฎฺฐน กมฺมุนา นิพฺพตฺตา คตีติปิ ทุคฺคติฯ วิวสา นิปตนฺติ เอตฺถ ทุกฺกฎกมฺมการิโน, วินสฺสนฺตา วา เอตฺถ นิปตนฺติ สมฺภิชฺชมานงฺคปจฺจงฺคาติ วินิปาโตฯ นตฺถิ เอตฺถ อสฺสาทสญฺญิโต อโยติ นิรสฺสาทเฎฺฐน นิรโยฯ อถ วา อปายคฺคหเณน ติรจฺฉานโยนิ วุจฺจติฯ ติรจฺฉานโยนิ หิ อปาโย สุคติโต อเปตตฺตา, น ทุคฺคติ มเหสกฺขานํ นาคราชาทีนํ สมฺภวโตฯ ทุคฺคติคฺคหเณน เปตฺติวิสโยฯ โส หิ อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สุคติโต อเปตตฺตา ทุกฺขสฺส จ คติภูตตฺตา, น วินิปาโต อสุรสทิสํ อวินิปาตตฺตาฯ วินิปาตคฺคหเณน อสุรกาโยฯ โส หิ ยถาวุเตฺตน อเตฺถน อปาโย เจว ทุคฺคติ จ, สพฺพสมฺปตฺติสมุสฺสเยหิ วินิปติตตฺตา วินิปาโตติ จ วุจฺจติฯ นิรยคฺคหเณน อวีจิอาทิอเนกปฺปกาโร นิรโยว วุจฺจติฯ อิธ ปน สพฺพปเทหิปิ นิรโยว วุโตฺตฯ อุปปชฺชนฺตีติ ปฎิสนฺธิํ คณฺหนฺติฯ

    Apāyantiādi sabbaṃ nirayasseva vevacanaṃ. Nirayo hi ayasaṅkhātā sukhā apetoti apāyo; saggamokkhahetubhūtā vā puññasammatā ayā apetotipi apāyo. Dukkhassa gati paṭisaraṇanti duggati; dosabahulattā vā duṭṭhena kammunā nibbattā gatītipi duggati. Vivasā nipatanti ettha dukkaṭakammakārino, vinassantā vā ettha nipatanti sambhijjamānaṅgapaccaṅgāti vinipāto. Natthi ettha assādasaññito ayoti nirassādaṭṭhena nirayo. Atha vā apāyaggahaṇena tiracchānayoni vuccati. Tiracchānayoni hi apāyo sugatito apetattā, na duggati mahesakkhānaṃ nāgarājādīnaṃ sambhavato. Duggatiggahaṇena pettivisayo. So hi apāyo ceva duggati ca sugatito apetattā dukkhassa ca gatibhūtattā, na vinipāto asurasadisaṃ avinipātattā. Vinipātaggahaṇena asurakāyo. So hi yathāvuttena atthena apāyo ceva duggati ca, sabbasampattisamussayehi vinipatitattā vinipātoti ca vuccati. Nirayaggahaṇena avīciādianekappakāro nirayova vuccati. Idha pana sabbapadehipi nirayova vutto. Upapajjantīti paṭisandhiṃ gaṇhanti.

    คาถาสุ ปฐมคาถา สงฺคีติกาเล ธมฺมสงฺคาหกเตฺถเรหิ ฐปิตาฯ ญตฺวานาติ ปุพฺพกาลกิริยาฯ ญาณปุพฺพกญฺหิ พฺยากรณํฯ เหตุอโตฺถ วา ตฺวา-สโทฺท ยถา ‘‘สีหํ ทิสฺวา ภยํ โหตี’’ติ, ชานนเหตูติ อโตฺถ ฯ พุโทฺธ, ภิกฺขูนํ สนฺติเกติ พุโทฺธ ภควา อตฺตโน สนฺติเก ภิกฺขูนํ เอตํ ปรโต ทฺวีหิ คาถาหิ วุจฺจมานํ อตฺถํ พฺยากาสิฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ

    Gāthāsu paṭhamagāthā saṅgītikāle dhammasaṅgāhakattherehi ṭhapitā. Ñatvānāti pubbakālakiriyā. Ñāṇapubbakañhi byākaraṇaṃ. Hetuattho vā tvā-saddo yathā ‘‘sīhaṃ disvā bhayaṃ hotī’’ti, jānanahetūti attho . Buddho, bhikkhūnaṃ santiketi buddho bhagavā attano santike bhikkhūnaṃ etaṃ parato dvīhi gāthāhi vuccamānaṃ atthaṃ byākāsi. Sesaṃ vuttanayameva.

    ทสมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Dasamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ทุติยวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Dutiyavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อิติวุตฺตกปาฬิ • Itivuttakapāḷi / ๑๐. ปทุฎฺฐจิตฺตสุตฺตํ • 10. Paduṭṭhacittasuttaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact