Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๓. ปหานสุตฺตวณฺณนา
3. Pahānasuttavaṇṇanā
๒๕๑. ตติเย อเจฺฉจฺฉิ ตณฺหนฺติ สพฺพมฺปิ ตณฺหํ ฉินฺทิ สมุจฺฉินฺทิฯ วิวตฺตยิ สํโยชนนฺติ ทสวิธมฺปิ สํโยชนํ ปริวตฺตยิ นิมฺมูลกมกาสิฯ สมฺมาติ เหตุนา การเณนฯ มานาภิสมยาติ มานสฺส ทสฺสนาภิสมยา, ปหานาภิสมยา จฯ อรหตฺตมโคฺค หิ กิจฺจวเสน มานํ สมฺปสฺสติ, อยมสฺส ทสฺสนาภิสมโยฯ เตน ทิโฎฺฐ ปน โส ตาวเทว ปหียติ, ทิฎฺฐวิเสน ทิฎฺฐสตฺตานํ ชีวิตํ วิยฯ อยมสฺส ปหานาภิสมโยฯ
251. Tatiye acchecchi taṇhanti sabbampi taṇhaṃ chindi samucchindi. Vivattayi saṃyojananti dasavidhampi saṃyojanaṃ parivattayi nimmūlakamakāsi. Sammāti hetunā kāraṇena. Mānābhisamayāti mānassa dassanābhisamayā, pahānābhisamayā ca. Arahattamaggo hi kiccavasena mānaṃ sampassati, ayamassa dassanābhisamayo. Tena diṭṭho pana so tāvadeva pahīyati, diṭṭhavisena diṭṭhasattānaṃ jīvitaṃ viya. Ayamassa pahānābhisamayo.
อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสาติ เอวํ อรหตฺตมเคฺคน มานสฺส ทิฎฺฐตฺตา จ ปหีนตฺตา จ เย อิเม ‘‘กายพนฺธนสฺส อโนฺต ชีรติ (จูฬว. ๒๗๘) หริตนฺตํ วา’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๐๔) เอวํ วุตฺตอนฺติมมริยาทโนฺต จ, ‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกาน’’นฺติ (อิติวุ. ๙๑; สํ. นิ. ๓.๘๐) เอวํ วุตฺตลามกโนฺต จ, ‘‘สกฺกาโย เอโก อโนฺต’’ติ (อ. นิ. ๖.๖๑; จูฬนิ. ติสฺสเมเตฺตยฺยมาณวปุจฺฉานิเทฺทส ๑๑) เอวํ วุตฺตโกฎฺฐาสโนฺต จ, ‘‘เอเสวโนฺต ทุกฺขสฺส สพฺพปจฺจยสงฺขยา’’ติ (สํ นิ. ๒.๕๑; ๒.๔.๗๑; อุทา. ๗๑) เอวํ วุตฺตโกฎโนฺต จาติ จตฺตาโร อนฺตา, เตสุ สพฺพเสฺสว วฎฺฎทุกฺขสฺส อทุํ จตุตฺถโกฎิสงฺขาตํ อนฺตมกาสิ, ปริเจฺฉทํ ปริวฎุมํ อกาสิ, อนฺติมสมุสฺสยมตฺตาวเสสํ ทุกฺขมกาสีติ วุตฺตํ โหติฯ
Antamakāsi dukkhassāti evaṃ arahattamaggena mānassa diṭṭhattā ca pahīnattā ca ye ime ‘‘kāyabandhanassa anto jīrati (cūḷava. 278) haritantaṃ vā’’ti (ma. ni. 1.304) evaṃ vuttaantimamariyādanto ca, ‘‘antamidaṃ, bhikkhave, jīvikāna’’nti (itivu. 91; saṃ. ni. 3.80) evaṃ vuttalāmakanto ca, ‘‘sakkāyo eko anto’’ti (a. ni. 6.61; cūḷani. tissametteyyamāṇavapucchāniddesa 11) evaṃ vuttakoṭṭhāsanto ca, ‘‘esevanto dukkhassa sabbapaccayasaṅkhayā’’ti (saṃ ni. 2.51; 2.4.71; udā. 71) evaṃ vuttakoṭanto cāti cattāro antā, tesu sabbasseva vaṭṭadukkhassa aduṃ catutthakoṭisaṅkhātaṃ antamakāsi, paricchedaṃ parivaṭumaṃ akāsi, antimasamussayamattāvasesaṃ dukkhamakāsīti vuttaṃ hoti.
สมฺปชญฺญํ น ริญฺจตีติ สมฺปชญฺญํ น ชหติฯ สงฺขฺยํ โนเปตีติ รโตฺต ทุโฎฺฐ มูโฬฺหติ ปญฺญตฺติํ น อุเปติ, ตํ ปญฺญตฺติํ ปหาย ขีณาสโว นาม โหตีติ อโตฺถฯ อิมสฺมิํ สุเตฺต อารมฺมณานุสโย กถิโตฯ
Sampajaññaṃ na riñcatīti sampajaññaṃ na jahati. Saṅkhyaṃ nopetīti ratto duṭṭho mūḷhoti paññattiṃ na upeti, taṃ paññattiṃ pahāya khīṇāsavo nāma hotīti attho. Imasmiṃ sutte ārammaṇānusayo kathito.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๓. ปหานสุตฺตํ • 3. Pahānasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๓. ปหานสุตฺตวณฺณนา • 3. Pahānasuttavaṇṇanā