Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā)

    ๙. ปหาราทสุตฺตวณฺณนา

    9. Pahārādasuttavaṇṇanā

    ๑๙. นวเม ปหาราโทติ เอวํนามโกฯ อสุริโนฺทติ อสุรเชฎฺฐโกฯ อสุเรสุ หิ เวปจิตฺติ ราหุ ปหาราโทติ อิเม ตโย เชฎฺฐกาฯ เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ ทสพลสฺส อภิสมฺพุทฺธทิวสโต ปฎฺฐาย ‘‘อชฺช คมิสฺสามิ เสฺว คมิสฺสามี’’ติ เอกาทส วสฺสานิ อติกฺกมิตฺวา ทฺวาทสเม วเสฺส สตฺถุ เวรญฺชายํ วสนกาเล ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘มม ‘อชฺช เสฺว’ติ ทฺวาทส วสฺสานิ ชาตานิ, หนฺทาหํ อิทาเนว คจฺฉามี’’ติ ตงฺขณํเยว อสุรคณปริวุโต อสุรภวนา นิกฺขมิตฺวา ทิวา ทิวสฺส เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, เอกมนฺตํ อฎฺฐาสีติ โส กิร ‘‘ตถาคตํ ปญฺหํ ปุจฺฉิตฺวา เอว ธมฺมํ สุณิสฺสามี’’ติ อาคโต, ตถาคตสฺส ปน ทิฎฺฐกาลโต ปฎฺฐาย พุทฺธคารเวน ปุจฺฉิตุํ อสโกฺกโนฺต อปิ สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ ตโต สตฺถา จิเนฺตสิ – ‘‘อยํ ปหาราโท มยิ อกเถเนฺต ปฐมตรํ กเถตุํ น สกฺขิสฺสติ, จิณฺณวสิฎฺฐาเนเยว นํ กถาสมุฎฺฐาปนตฺถํ เอกํ ปญฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ฯ

    19. Navame pahārādoti evaṃnāmako. Asurindoti asurajeṭṭhako. Asuresu hi vepacitti rāhu pahārādoti ime tayo jeṭṭhakā. Yena bhagavā tenupasaṅkamīti dasabalassa abhisambuddhadivasato paṭṭhāya ‘‘ajja gamissāmi sve gamissāmī’’ti ekādasa vassāni atikkamitvā dvādasame vasse satthu verañjāyaṃ vasanakāle ‘‘sammāsambuddhassa santikaṃ gamissāmī’’ti cittaṃ uppādetvā ‘‘mama ‘ajja sve’ti dvādasa vassāni jātāni, handāhaṃ idāneva gacchāmī’’ti taṅkhaṇaṃyeva asuragaṇaparivuto asurabhavanā nikkhamitvā divā divassa yena bhagavā tenupasaṅkami, ekamantaṃ aṭṭhāsīti so kira ‘‘tathāgataṃ pañhaṃ pucchitvā eva dhammaṃ suṇissāmī’’ti āgato, tathāgatassa pana diṭṭhakālato paṭṭhāya buddhagāravena pucchituṃ asakkonto api satthāraṃ vanditvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Tato satthā cintesi – ‘‘ayaṃ pahārādo mayi akathente paṭhamataraṃ kathetuṃ na sakkhissati, ciṇṇavasiṭṭhāneyeva naṃ kathāsamuṭṭhāpanatthaṃ ekaṃ pañhaṃ pucchissāmī’’ti .

    อถ นํ ปุจฺฉโนฺต อปิ ปน ปหาราทาติอาทิมาหฯ ตตฺถ อภิรมนฺตีติ รติํ วินฺทนฺติ, อนุกฺกณฺฐมานา วสนฺตีติ อโตฺถฯ โส ‘‘ปริจิณฺณฎฺฐาเนเยว มํ ภควา ปุจฺฉตี’’ติ อตฺตมโน หุตฺวา อภิรมนฺติ, ภเนฺตติ อาหฯ อนุปุพฺพนิโนฺนติอาทีนิ สพฺพานิ อนุปฎิปาฎิยา นินฺนภาวสฺส เววจนานิฯ น อายตเกเนว ปปาโตติ น ฉินฺนตฎมหาโสโพฺภ วิย อาทิโตว ปปาโต ฯ โส หิ ตีรโต ปฎฺฐาย เอกงฺคุลทฺวงฺคุลวิทตฺถิรตนยฎฺฐิอุสภอฑฺฒคาวุตคาวุตอฑฺฒโยชนาทิวเสน คมฺภีโร หุตฺวา คจฺฉโนฺต สิเนรุปาทมูเล จตุราสีติโยชนสหสฺสคมฺภีโร หุตฺวา ฐิโตติ ทเสฺสติฯ

    Atha naṃ pucchanto api pana pahārādātiādimāha. Tattha abhiramantīti ratiṃ vindanti, anukkaṇṭhamānā vasantīti attho. So ‘‘pariciṇṇaṭṭhāneyeva maṃ bhagavā pucchatī’’ti attamano hutvā abhiramanti, bhanteti āha. Anupubbaninnotiādīni sabbāni anupaṭipāṭiyā ninnabhāvassa vevacanāni. Na āyatakeneva papātoti na chinnataṭamahāsobbho viya āditova papāto . So hi tīrato paṭṭhāya ekaṅguladvaṅgulavidatthiratanayaṭṭhiusabhaaḍḍhagāvutagāvutaaḍḍhayojanādivasena gambhīro hutvā gacchanto sinerupādamūle caturāsītiyojanasahassagambhīro hutvā ṭhitoti dasseti.

    ฐิตธโมฺมติ ฐิตสภาโวฯ กุณเปนาติ เยน เกนจิ หตฺถิอสฺสาทีนํ กเฬวเรนฯ ถลํ อุสฺสาเรตีติ หเตฺถน คเหตฺวา วิย วีจิปหาเรเนว ถลํ ขิปติฯ

    Ṭhitadhammoti ṭhitasabhāvo. Kuṇapenāti yena kenaci hatthiassādīnaṃ kaḷevarena. Thalaṃ ussāretīti hatthena gahetvā viya vīcipahāreneva thalaṃ khipati.

    คงฺคายมุนาติ อิธ ฐตฺวา อิมาสํ นทีนํ อุปฺปตฺติกถํ กเถตุํ วฎฺฎติฯ อยํ ตาว ชมฺพุทีโป ทสสหสฺสโยชนปริมาโณ, ตตฺถ จตุสหสฺสโยชนปริมาโณ ปเทโส อุทเกน อโชฺฌตฺถโฎ มหาสมุโทฺทติ สงฺขํ คโต, ติสหสฺสโยชนปฺปมาเณ มนุสฺสา วสนฺติ, ติสหสฺสโยชนปฺปมาเณ หิมวา ปติฎฺฐิโต อุเพฺพเธน ปญฺจโยชนสติโก จตุราสีติกูฎสหสฺสปฎิมณฺฑิโต สมนฺตโต สนฺทมานปญฺจสตนทีวิจิโตฺต, ยตฺถ อายามวิตฺถาเรน จ คมฺภีรโต จ ปณฺณาสปณฺณาสโยชนา ทิยฑฺฒโยชนสตปริมณฺฑลา อโนตตฺตทโห กณฺณมุณฺฑทโห รถการทโห ฉทฺทนฺตทโห กุณาลทโห มนฺทากินิทโห สีหปฺปปาตทโหติ สตฺต มหาสรา ปติฎฺฐหนฺติฯ

    Gaṅgāyamunāti idha ṭhatvā imāsaṃ nadīnaṃ uppattikathaṃ kathetuṃ vaṭṭati. Ayaṃ tāva jambudīpo dasasahassayojanaparimāṇo, tattha catusahassayojanaparimāṇo padeso udakena ajjhotthaṭo mahāsamuddoti saṅkhaṃ gato, tisahassayojanappamāṇe manussā vasanti, tisahassayojanappamāṇe himavā patiṭṭhito ubbedhena pañcayojanasatiko caturāsītikūṭasahassapaṭimaṇḍito samantato sandamānapañcasatanadīvicitto, yattha āyāmavitthārena ca gambhīrato ca paṇṇāsapaṇṇāsayojanā diyaḍḍhayojanasataparimaṇḍalā anotattadaho kaṇṇamuṇḍadaho rathakāradaho chaddantadaho kuṇāladaho mandākinidaho sīhappapātadahoti satta mahāsarā patiṭṭhahanti.

    เตสุ อโนตโตฺต สุทสฺสนกูฎํ จิตฺตกูฎํ กาฬกูฎํ คนฺธมาทนกูฎํ เกลาสกูฎนฺติ อิเมหิ ปญฺจหิ ปพฺพเตหิ ปริกฺขิโตฺตฯ ตตฺถ สุทสฺสนกูฎํ โสวณฺณมยํ ทฺวิโยชนสตุเพฺพธํ อโนฺตวงฺกํ กากมุขสณฺฐานํ ตเมว สรํ ปฎิจฺฉาเทตฺวา ติฎฺฐติ, จิตฺตกูฎํ สพฺพรตนมยํ, กาฬกูฎํ อญฺชนมยํ, คนฺธมาทนกูฎํ สานุมยํ อพฺภนฺตเร มุคฺควณฺณํ, มูลคโนฺธ สารคโนฺธ เผคฺคุคโนฺธ ตจคโนฺธ ปปฎิกาคโนฺธ รสคโนฺธ ปตฺตคโนฺธ ปุปฺผคโนฺธ ผลคโนฺธ คนฺธคโนฺธติ อิเมหิ ทสหิ คเนฺธหิ อุสฺสนฺนํ, นานปฺปการโอสธสญฺฉนฺนํ กาฬปกฺขอุโปสถทิวเส อาทิตฺตมิว องฺคารํ ชลนฺตํ ติฎฺฐติ, เกลาสกูฎํ รชตมยํฯ สพฺพานิ สุทสฺสเนน สมานุเพฺพธสณฺฐานานิ ตเมว สรํ ปฎิจฺฉาเทตฺวา ฐิตานิฯ ตานิ สพฺพานิ เทวานุภาเวน นาคานุภาเวน จ วสฺสนฺติ, นทิโย เจเตสุ สนฺทนฺติฯ ตํ สพฺพมฺปิ อุทกํ อโนตตฺตเมว ปวิสติฯ จนฺทิมสูริยา ทกฺขิเณน วา อุตฺตเรน วา คจฺฉนฺตา ปพฺพตนฺตเรน ตตฺถ โอภาสํ กโรนฺติ, อุชุํ คจฺฉนฺตา น กโรนฺติฯ เตเนวสฺส อโนตโตฺต ติสงฺขา อุทปาทิฯ

    Tesu anotatto sudassanakūṭaṃ cittakūṭaṃ kāḷakūṭaṃ gandhamādanakūṭaṃ kelāsakūṭanti imehi pañcahi pabbatehi parikkhitto. Tattha sudassanakūṭaṃ sovaṇṇamayaṃ dviyojanasatubbedhaṃ antovaṅkaṃ kākamukhasaṇṭhānaṃ tameva saraṃ paṭicchādetvā tiṭṭhati, cittakūṭaṃ sabbaratanamayaṃ, kāḷakūṭaṃ añjanamayaṃ, gandhamādanakūṭaṃ sānumayaṃ abbhantare muggavaṇṇaṃ, mūlagandho sāragandho pheggugandho tacagandho papaṭikāgandho rasagandho pattagandho pupphagandho phalagandho gandhagandhoti imehi dasahi gandhehi ussannaṃ, nānappakāraosadhasañchannaṃ kāḷapakkhauposathadivase ādittamiva aṅgāraṃ jalantaṃ tiṭṭhati, kelāsakūṭaṃ rajatamayaṃ. Sabbāni sudassanena samānubbedhasaṇṭhānāni tameva saraṃ paṭicchādetvā ṭhitāni. Tāni sabbāni devānubhāvena nāgānubhāvena ca vassanti, nadiyo cetesu sandanti. Taṃ sabbampi udakaṃ anotattameva pavisati. Candimasūriyā dakkhiṇena vā uttarena vā gacchantā pabbatantarena tattha obhāsaṃ karonti, ujuṃ gacchantā na karonti. Tenevassa anotatto tisaṅkhā udapādi.

    ตตฺถ มโนหรสิลาตลานิ นิมฺมจฺฉกจฺฉปานิ ผลิกสทิสนิมฺมโลทกานิ นฺหานติตฺถานิ สุปฎิยตฺตานิ โหนฺติ , เยสุ พุทฺธา ขีณาสวา จ ปเจฺจกพุทฺธา จ อิทฺธิมนฺตา จ อิสโย นฺหายนฺติ, เทวยกฺขาทโย อุทกกีฬํ กีฬนฺติฯ

    Tattha manoharasilātalāni nimmacchakacchapāni phalikasadisanimmalodakāni nhānatitthāni supaṭiyattāni honti , yesu buddhā khīṇāsavā ca paccekabuddhā ca iddhimantā ca isayo nhāyanti, devayakkhādayo udakakīḷaṃ kīḷanti.

    ตสฺส จตูสุ ปเสฺสสุ สีหมุขํ, หตฺถิมุขํ, อสฺสมุขํ, อุสภมุขนฺติ จตฺตาริ มุขานิ โหนฺติ, เยหิ จตโสฺส นทิโย สนฺทนฺติฯ สีหมุเขน นิกฺขนฺตนทีตีเร สีหา พหุตรา โหนฺติ, หตฺถิมุขาทีหิ หตฺถิอสฺสอุสภาฯ ปุรตฺถิมทิสโต นิกฺขนฺตนที อโนตตฺตํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อิตรา ติโสฺส นทิโย อนุปคมฺม ปาจีนหิมวเนฺตเนว อมนุสฺสปถํ คนฺตฺวา มหาสมุทฺทํ ปวิสติฯ ปจฺฉิมทิสโต จ อุตฺตรทิสโต จ นิกฺขนฺตนทิโยปิ ตเถว ปทกฺขิณํ กตฺวา ปจฺฉิมหิมวเนฺตเนว อุตฺตรหิมวเนฺตเนว จ อมนุสฺสปถํ คนฺตฺวา มหาสมุทฺทํ ปวิสนฺติฯ ทกฺขิณมุขโต นิกฺขนฺตนที ปน ตํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อุตฺตเรน อุชุกํ ปาสาณปิเฎฺฐเนว สฎฺฐิ โยชนานิ คนฺตฺวา ปพฺพตํ ปหริตฺวา อุฎฺฐาย ปริเกฺขเปน ติคาวุตปฺปมาณา อุทกธารา หุตฺวา อากาเสน สฎฺฐิ โยชนานิ คนฺตฺวา ติยคฺคเฬ นาม ปาสาเณ ปติตา, ปาสาโณ อุทกธาราเวเคน ภิโนฺนฯ ตตฺถ ปญฺญาสโยชนปฺปมาณา ติยคฺคฬา นาม มหาโปกฺขรณี ชาตา, โปกฺขรณิยา กูลํ ภินฺทิตฺวา ปาสาณํ ปวิสิตฺวา สฎฺฐิ โยชนานิ คตาฯ ตโต ฆนปถวิํ ภินฺทิตฺวา อุมฺมเงฺคน สฎฺฐิ โยชนานิ คนฺตฺวา คิญฺฌํ นาม ติรจฺฉานปพฺพตํ ปหริตฺวา หตฺถตเล ปญฺจงฺคุลิสทิสา ปญฺจ ธารา หุตฺวา ปวตฺตติฯ สา ติกฺขตฺตุํ อโนตตฺตํ ปทกฺขิณํ กตฺวา คตฎฺฐาเน อาวตฺตคงฺคาติ วุจฺจติ ฯ อุชุกํ ปาสาณปิเฎฺฐน สฎฺฐิ โยชนานิ คตฎฺฐาเน กณฺหคงฺคา, อากาเสน สฎฺฐิ โยชนานิ คตฎฺฐาเน อากาสคงฺคา, ติยคฺคฬปาสาเณ ปญฺญาสโยชโนกาเส ฐิตา ติยคฺคฬโปกฺขรณี, กูลํ ภินฺทิตฺวา ปาสาณํ ปวิสิตฺวา สฎฺฐิ โยชนานิ คตฎฺฐาเน พหลคงฺคาติ, อุมเงฺคน สฎฺฐิ โยชนานิ คตฎฺฐาเน อุมงฺคคงฺคาติ วุจฺจติฯ วิญฺฌํ นาม ติรจฺฉานปพฺพตํ ปหริตฺวา ปญฺจ ธารา หุตฺวา ปวตฺตนฎฺฐาเน ปน คงฺคา, ยมุนา, อจิรวตี, สรภู, มหีติ ปญฺจ สงฺขํ คตาฯ เอวเมตา ปญฺจ มหานทิโย หิมวนฺตโต ปวตฺตนฺตีติ เวทิตพฺพาฯ

    Tassa catūsu passesu sīhamukhaṃ, hatthimukhaṃ, assamukhaṃ, usabhamukhanti cattāri mukhāni honti, yehi catasso nadiyo sandanti. Sīhamukhena nikkhantanadītīre sīhā bahutarā honti, hatthimukhādīhi hatthiassausabhā. Puratthimadisato nikkhantanadī anotattaṃ tikkhattuṃ padakkhiṇaṃ katvā itarā tisso nadiyo anupagamma pācīnahimavanteneva amanussapathaṃ gantvā mahāsamuddaṃ pavisati. Pacchimadisato ca uttaradisato ca nikkhantanadiyopi tatheva padakkhiṇaṃ katvā pacchimahimavanteneva uttarahimavanteneva ca amanussapathaṃ gantvā mahāsamuddaṃ pavisanti. Dakkhiṇamukhato nikkhantanadī pana taṃ tikkhattuṃ padakkhiṇaṃ katvā uttarena ujukaṃ pāsāṇapiṭṭheneva saṭṭhi yojanāni gantvā pabbataṃ paharitvā uṭṭhāya parikkhepena tigāvutappamāṇā udakadhārā hutvā ākāsena saṭṭhi yojanāni gantvā tiyaggaḷe nāma pāsāṇe patitā, pāsāṇo udakadhārāvegena bhinno. Tattha paññāsayojanappamāṇā tiyaggaḷā nāma mahāpokkharaṇī jātā, pokkharaṇiyā kūlaṃ bhinditvā pāsāṇaṃ pavisitvā saṭṭhi yojanāni gatā. Tato ghanapathaviṃ bhinditvā ummaṅgena saṭṭhi yojanāni gantvā giñjhaṃ nāma tiracchānapabbataṃ paharitvā hatthatale pañcaṅgulisadisā pañca dhārā hutvā pavattati. Sā tikkhattuṃ anotattaṃ padakkhiṇaṃ katvā gataṭṭhāne āvattagaṅgāti vuccati . Ujukaṃ pāsāṇapiṭṭhena saṭṭhi yojanāni gataṭṭhāne kaṇhagaṅgā, ākāsena saṭṭhi yojanāni gataṭṭhāne ākāsagaṅgā, tiyaggaḷapāsāṇe paññāsayojanokāse ṭhitā tiyaggaḷapokkharaṇī, kūlaṃ bhinditvā pāsāṇaṃ pavisitvā saṭṭhi yojanāni gataṭṭhāne bahalagaṅgāti, umaṅgena saṭṭhi yojanāni gataṭṭhāne umaṅgagaṅgāti vuccati. Viñjhaṃ nāma tiracchānapabbataṃ paharitvā pañca dhārā hutvā pavattanaṭṭhāne pana gaṅgā, yamunā, aciravatī, sarabhū, mahīti pañca saṅkhaṃ gatā. Evametā pañca mahānadiyo himavantato pavattantīti veditabbā.

    สวนฺติโยติ ยา กาจิ สวมานา คจฺฉนฺตี มหานทิโย วา กุนฺนทิโย วาฯ อเปฺปนฺตีติ อลฺลียนฺติ โอสรนฺติฯ ธาราติ วุฎฺฐิธาราฯ ปูรตฺตนฺติ ปุณฺณภาโวฯ มหาสมุทฺทสฺส หิ อยํ ธมฺมตา – ‘‘อิมสฺมิํ กาเล เทโว มโนฺท ชาโต, ชาลกฺขิปาทีนิ อาทาย มจฺฉกจฺฉเป คณฺหิสฺสามา’’ติ วา ‘‘อิมสฺมิํ กาเล มหนฺตา วุฎฺฐิ, ลภิสฺสาม นุ โข ปิฎฺฐิปสารณฎฺฐาน’’นฺติ วา วตฺตุํ น สกฺกาฯ ปฐมกปฺปิกกาลโต ปฎฺฐาย หิ ยํ สิเนรุเมขลํ อาหจฺจ อุทกํ ฐิตํ, ตโต เอกงฺคุลมตฺตมฺปิ อุทกํ เนว เหฎฺฐา โอสีทติ, น อุทฺธํ อุตฺตรติฯ เอกรโสติ อสมฺภินฺนรโสฯ

    Savantiyoti yā kāci savamānā gacchantī mahānadiyo vā kunnadiyo vā. Appentīti allīyanti osaranti. Dhārāti vuṭṭhidhārā. Pūrattanti puṇṇabhāvo. Mahāsamuddassa hi ayaṃ dhammatā – ‘‘imasmiṃ kāle devo mando jāto, jālakkhipādīni ādāya macchakacchape gaṇhissāmā’’ti vā ‘‘imasmiṃ kāle mahantā vuṭṭhi, labhissāma nu kho piṭṭhipasāraṇaṭṭhāna’’nti vā vattuṃ na sakkā. Paṭhamakappikakālato paṭṭhāya hi yaṃ sinerumekhalaṃ āhacca udakaṃ ṭhitaṃ, tato ekaṅgulamattampi udakaṃ neva heṭṭhā osīdati, na uddhaṃ uttarati. Ekarasoti asambhinnaraso.

    มุตฺตาติ ขุทฺทกมหนฺตวฎฺฎทีฆาทิเภทา อเนกวิธา ฯ มณีติ รตฺตนีลาทิเภโท อเนกวิโธฯ เวฬุริโยติ วํสวณฺณสิรีสปุปฺผวณฺณาทิเภโท อเนกวิโธฯ สโงฺขติ ทกฺขิณาวฎฺฎตมฺพกุจฺฉิกธมนสงฺขาทิเภโท อเนกวิโธฯ สิลาติ เสตกาฬมุคฺควณฺณาทิเภโท อเนกวิธาฯ ปวาฬนฺติ ขุทฺทกมหนฺตรตฺตฆนรตฺตาทิเภทํ อเนกวิธํฯ มสารคลฺลนฺติ กพรมณิฯ นาคาติ อูมิปิฎฺฐวาสิโนปิ วิมานฎฺฐกา นาคาปิฯ

    Muttāti khuddakamahantavaṭṭadīghādibhedā anekavidhā . Maṇīti rattanīlādibhedo anekavidho. Veḷuriyoti vaṃsavaṇṇasirīsapupphavaṇṇādibhedo anekavidho. Saṅkhoti dakkhiṇāvaṭṭatambakucchikadhamanasaṅkhādibhedo anekavidho. Silāti setakāḷamuggavaṇṇādibhedo anekavidhā. Pavāḷanti khuddakamahantarattaghanarattādibhedaṃ anekavidhaṃ. Masāragallanti kabaramaṇi. Nāgāti ūmipiṭṭhavāsinopi vimānaṭṭhakā nāgāpi.

    อฎฺฐ ปหาราทาติ สตฺถา อฎฺฐปิ ธเมฺม วตฺตุํ สโกฺกติ, โสฬสปิ พาตฺติํสปิ จตุสฎฺฐิปิ สหสฺสมฺปิ, ปหาราเทน ปน อฎฺฐ กถิตา, อหมฺปิ เตเหว สริกฺขเก กตฺวา กเถสฺสามีติ จิเนฺตตฺวา เอวมาหฯ อนุปุพฺพสิกฺขาติอาทีสุ อนุปุพฺพสิกฺขาย ติโสฺส สิกฺขา คหิตา, อนุปุพฺพกิริยาย เตรส ธุตงฺคานิ, อนุปุพฺพปฎิปทาย สตฺต อนุปสฺสนา อฎฺฐารส มหาวิปสฺสนา อฎฺฐติํส อารมฺมณวิภตฺติโย สตฺตติํส โพธปกฺขิยธมฺมา ฯ น อายตเกเนว อญฺญาปฎิเวโธติ มณฺฑูกสฺส อุปฺปติตฺวา คมนํ วิย อาทิโตว สีลปูรณาทิํ อกตฺวา อรหตฺตปฺปฎิเวโธ นาม นตฺถิ, ปฎิปาฎิยา ปน สีลสมาธิปญฺญาโย ปูเรตฺวาว สกฺกา อรหตฺตํ ปตฺตุนฺติ อโตฺถฯ

    Aṭṭha pahārādāti satthā aṭṭhapi dhamme vattuṃ sakkoti, soḷasapi bāttiṃsapi catusaṭṭhipi sahassampi, pahārādena pana aṭṭha kathitā, ahampi teheva sarikkhake katvā kathessāmīti cintetvā evamāha. Anupubbasikkhātiādīsu anupubbasikkhāya tisso sikkhā gahitā, anupubbakiriyāya terasa dhutaṅgāni, anupubbapaṭipadāya satta anupassanā aṭṭhārasa mahāvipassanā aṭṭhatiṃsa ārammaṇavibhattiyo sattatiṃsa bodhapakkhiyadhammā . Na āyatakeneva aññāpaṭivedhoti maṇḍūkassa uppatitvā gamanaṃ viya āditova sīlapūraṇādiṃ akatvā arahattappaṭivedho nāma natthi, paṭipāṭiyā pana sīlasamādhipaññāyo pūretvāva sakkā arahattaṃ pattunti attho.

    อารกาวาติ ทูเรเยวฯ น เตน นิพฺพานธาตุยา อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วาติ อสเงฺขฺยเยฺยปิ กเปฺป พุเทฺธสุ อนุปฺปเนฺนสุ เอกสโตฺตปิ ปรินิพฺพาตุํ น สโกฺกติ, ตทาปิ ‘‘ตุจฺฉา นิพฺพานธาตู’’ติ น สกฺกา วตฺตุํฯ พุทฺธกาเล จ ปน เอเกกสฺมิํ สมาคเม อสเงฺขฺยยฺยาปิ สตฺตา อมตํ อาราเธนฺติ, ตทาปิ น สกฺกา วตฺตุํ – ‘‘ปูรา นิพฺพานธาตู’’ติฯ

    Ārakāvāti dūreyeva. Na tena nibbānadhātuyā ūnattaṃ vā pūrattaṃ vāti asaṅkhyeyyepi kappe buddhesu anuppannesu ekasattopi parinibbātuṃ na sakkoti, tadāpi ‘‘tucchā nibbānadhātū’’ti na sakkā vattuṃ. Buddhakāle ca pana ekekasmiṃ samāgame asaṅkhyeyyāpi sattā amataṃ ārādhenti, tadāpi na sakkā vattuṃ – ‘‘pūrā nibbānadhātū’’ti.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๙. ปหาราทสุตฺตํ • 9. Pahārādasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๙. ปหาราทสุตฺตวณฺณนา • 9. Pahārādasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact