Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ธมฺมสงฺคณี-มูลฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-mūlaṭīkā

    โลกุตฺตรกุสลํ

    Lokuttarakusalaṃ

    ปกิณฺณกกถาวณฺณนา

    Pakiṇṇakakathāvaṇṇanā

    ตตฺราติ โลกุตฺตรชฺฌาเนฯ อชฺฌตฺตญฺจาติ อุปฑฺฒคาถาย อภินิวิสิตพฺพํ วุฎฺฐาตพฺพํ วิปสฺสนาภูมิํ ปญฺจธา อุทฺทิสติฯ สตฺตอฎฺฐาทีนิ องฺคานิ สตฺตฎฺฐงฺคานีติ อาทิสทฺทสฺส โลโป ทฎฺฐโพฺพฯ นิมิตฺตนฺติ ยโต วุฎฺฐานํ, ตานิ นิมิตฺตปวตฺตานิ นิมิตฺตวจเนเนว อุทฺทิสติฯ สงฺขารุเปกฺขาญาณเมว อริยมคฺคสฺส โพชฺฌงฺคาทิวิเสสํ นิยเมติฯ กสฺมา? ตโต ตโต ทุติยาทิปาทกชฺฌานโต อุปฺปนฺนสฺส สสงฺขารุเปกฺขาญาณสฺส ปาทกชฺฌานาติกฺกนฺตานํ องฺคานํ อสมาปชฺชิตุกามตาวิราคภาวนาภาวโต อิตรสฺส จ อตพฺภาวโตฯ เตสมฺปิ วาเทสุ…เป.… วิปสฺสนาว นิยเมตีติ เวทิตพฺพาฯ กสฺมา? วิปสฺสนานิยเมเนว หิ ปฐมเตฺถรวาเทปิ อปาทกปฐมชฺฌานปาทกมคฺคา ปฐมชฺฌานิกาว โหนฺติ, อิตเร จ ปาทกชฺฌานวิปสฺสนานิยเมหิ ตํตํฌานิกาฯ เอวํ เสสวาเทสุปิ วิปสฺสนานิยโม ยถาสมฺภวํ โยเชตโพฺพฯ

    Tatrāti lokuttarajjhāne. Ajjhattañcāti upaḍḍhagāthāya abhinivisitabbaṃ vuṭṭhātabbaṃ vipassanābhūmiṃ pañcadhā uddisati. Sattaaṭṭhādīni aṅgāni sattaṭṭhaṅgānīti ādisaddassa lopo daṭṭhabbo. Nimittanti yato vuṭṭhānaṃ, tāni nimittapavattāni nimittavacaneneva uddisati. Saṅkhārupekkhāñāṇameva ariyamaggassa bojjhaṅgādivisesaṃ niyameti. Kasmā? Tato tato dutiyādipādakajjhānato uppannassa sasaṅkhārupekkhāñāṇassa pādakajjhānātikkantānaṃ aṅgānaṃ asamāpajjitukāmatāvirāgabhāvanābhāvato itarassa ca atabbhāvato. Tesampi vādesu…pe… vipassanāva niyametīti veditabbā. Kasmā? Vipassanāniyameneva hi paṭhamattheravādepi apādakapaṭhamajjhānapādakamaggā paṭhamajjhānikāva honti, itare ca pādakajjhānavipassanāniyamehi taṃtaṃjhānikā. Evaṃ sesavādesupi vipassanāniyamo yathāsambhavaṃ yojetabbo.

    ปกิณฺณกสงฺขาเรติ ปาทกชฺฌานโต อญฺญสงฺขาเรฯ เตน ปาทกชฺฌานสงฺขาเรสุ สมฺมสิเตสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทเสฺสติฯ ตตฺราปีติ ทุติยเตฺถรวาเทปิฯ ตํตํฌานิกตา ตํตํสมฺมสิตสงฺขารวิปสฺสนานิยเมหิ โหติฯ ตตฺราปิ หิ วิปสฺสนา ตํตํวิราคาวิราคภาวนาภาเวน โสมนสฺสสหคตา อุเปกฺขาสหคตา จ หุตฺวา ฌานงฺคาทินิยมํ มคฺคสฺส กโรตีติ เอวํ วิปสฺสนานิยโม วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพ

    Pakiṇṇakasaṅkhāreti pādakajjhānato aññasaṅkhāre. Tena pādakajjhānasaṅkhāresu sammasitesu vattabbameva natthīti dasseti. Tatrāpīti dutiyattheravādepi. Taṃtaṃjhānikatā taṃtaṃsammasitasaṅkhāravipassanāniyamehi hoti. Tatrāpi hi vipassanā taṃtaṃvirāgāvirāgabhāvanābhāvena somanassasahagatā upekkhāsahagatā ca hutvā jhānaṅgādiniyamaṃ maggassa karotīti evaṃ vipassanāniyamo vuttanayeneva veditabbo.

    นฺติ ตํตํฌานสทิสภวนํฯ สฺวายมโตฺถ ปาทกชฺฌานสมฺมสิตชฺฌานุปนิสฺสเยหิ วินา อชฺฌาสยมเตฺตน อสิชฺฌนา อุปนิสฺสเยน วินา สงฺกปฺปมเตฺตน สกทาคามิผลาทีนํ อสิชฺฌนทีปเกน นนฺทโกวาเทน (ม. นิ. ๓.๓๙๘ อาทโย) ทีเปตโพฺพฯ ตตฺถ หิ โสตาปนฺนายปิ ปริปุณฺณสงฺกปฺปภาวํ วทเนฺตน ภควตา ยสฺส ยสฺส อุปนิสฺสโย อตฺถิ, ตสฺส ตเสฺสว อชฺฌาสโย นิยามโก, นาญฺญสฺสาติ เตน เตน ปริปุณฺณสงฺกปฺปตา โหติ, น ตโต ปรํ สงฺกปฺปสพฺภาเวปิ อสิชฺฌนโตติ อยมโตฺถ ทีปิโต โหติฯ เอวมิธาปิ ยสฺส ยสฺส ทุติยาทิฌานิกสฺส มคฺคสฺส ยถาวุโตฺต อุปนิสฺสโย อตฺถิ, ตสฺส ตเสฺสว อชฺฌาสโย นิยามโก, นาญฺญสฺส สติปิ ตสฺมิํ อสิชฺฌนโตฯ อิมสฺมิํ ปน วาเท ปาทกสมฺมสิตชฺฌานุปนิสฺสยสพฺภาเว อชฺฌาสโย เอกเนฺตน โหติ, ตํตํผลูปนิสฺสยสพฺภาเว ตํตํสงฺกโปฺป วิยาติ ตทภาวาภาวโต อชฺฌาสโย นิยเมตีติ วุตฺตํฯ

    Tanti taṃtaṃjhānasadisabhavanaṃ. Svāyamattho pādakajjhānasammasitajjhānupanissayehi vinā ajjhāsayamattena asijjhanā upanissayena vinā saṅkappamattena sakadāgāmiphalādīnaṃ asijjhanadīpakena nandakovādena (ma. ni. 3.398 ādayo) dīpetabbo. Tattha hi sotāpannāyapi paripuṇṇasaṅkappabhāvaṃ vadantena bhagavatā yassa yassa upanissayo atthi, tassa tasseva ajjhāsayo niyāmako, nāññassāti tena tena paripuṇṇasaṅkappatā hoti, na tato paraṃ saṅkappasabbhāvepi asijjhanatoti ayamattho dīpito hoti. Evamidhāpi yassa yassa dutiyādijhānikassa maggassa yathāvutto upanissayo atthi, tassa tasseva ajjhāsayo niyāmako, nāññassa satipi tasmiṃ asijjhanato. Imasmiṃ pana vāde pādakasammasitajjhānupanissayasabbhāve ajjhāsayo ekantena hoti, taṃtaṃphalūpanissayasabbhāve taṃtaṃsaṅkappo viyāti tadabhāvābhāvato ajjhāsayo niyametīti vuttaṃ.

    ยสฺมิํ ปน ปาทกชฺฌานํ นตฺถีติ จตุตฺถชฺฌานิกวชฺชานํ ปาทกานิ โลกิยชฺฌานานิ สนฺธาย วุตฺตํฯ อปฺปนาปฺปตฺติ จ โอฬาริกงฺคาติกฺกมนุปนิสฺสยาภาเว ปญฺจหิ อเงฺคหิ วินา น โหตีติ ‘‘โสมนสฺสสหคตมโคฺค โหตี’’ติ อาหฯ อุเปกฺขาสหคตมโคฺคติ เอเตน จตุตฺถชฺฌานิกตาปิ สมานา อนุสยสมุคฺฆาฎนสมตฺถสฺส น สงฺขาราวเสสตาติ ทเสฺสติฯ เต จ วาทา น วิรุชฺฌนฺติ อชฺฌาสยวเสน ปญฺจมชฺฌานิกตาย ปฐมาทิชฺฌานิกตาย จ สมฺภวโตติ อธิปฺปาโยฯ อชฺฌาสโย จ สาตฺถโก โหติ, อญฺญถา ปาทกสมฺมสิตชฺฌาเนเหว นิยมสฺส สิทฺธตฺตา อชฺฌาสโย นิยามโก วุจฺจมาโน นิรตฺถโก สิยาติฯ อิธ ปน อฎฺฐสาลินิยา นิยามเน เอกนฺติกํ วิปสฺสนาสงฺขาตํ อตฺถเมว อุทฺธริตฺวา ‘‘เตสมฺปิ วาเทสุ อยํ…เป.… วิปสฺสนาว นิยเมตี’’ติ วทเนฺตน ตโยเปเต วาเท วิปสฺสนาว นิยเมตีติ ทสฺสิตํฯ ตํตํวาทานญฺหิ วิปสฺสนาสหิตานเมว สิทฺธิ, นาญฺญถาติ ทสฺสิตนฺติฯ

    Yasmiṃ pana pādakajjhānaṃ natthīti catutthajjhānikavajjānaṃ pādakāni lokiyajjhānāni sandhāya vuttaṃ. Appanāppatti ca oḷārikaṅgātikkamanupanissayābhāve pañcahi aṅgehi vinā na hotīti ‘‘somanassasahagatamaggo hotī’’ti āha. Upekkhāsahagatamaggoti etena catutthajjhānikatāpi samānā anusayasamugghāṭanasamatthassa na saṅkhārāvasesatāti dasseti. Te ca vādā na virujjhanti ajjhāsayavasena pañcamajjhānikatāya paṭhamādijjhānikatāya ca sambhavatoti adhippāyo. Ajjhāsayo ca sātthako hoti, aññathā pādakasammasitajjhāneheva niyamassa siddhattā ajjhāsayo niyāmako vuccamāno niratthako siyāti. Idha pana aṭṭhasāliniyā niyāmane ekantikaṃ vipassanāsaṅkhātaṃ atthameva uddharitvā ‘‘tesampi vādesu ayaṃ…pe… vipassanāva niyametī’’ti vadantena tayopete vāde vipassanāva niyametīti dassitaṃ. Taṃtaṃvādānañhi vipassanāsahitānameva siddhi, nāññathāti dassitanti.

    ปเวธตีติ โคตฺรภุสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ น สโกฺกตีติ อโตฺถฯ ยทิ ปญฺจมจิตฺตกฺขเณ ชวนํ ปติตํ นาม โหติ, กถํ ตทา โคตฺรภุ ตทนนฺตรญฺจ มโคฺค ชวนสฺส ปติตกฺขเณ อุปฺปชฺชตีติ? อปุพฺพสฺส ชวนนฺตรสฺส ปติตตาภาวโตฯ ตเทว หิ ชวนํ อเนกกฺขตฺตุํ ปวตฺตมานํ ปติตํ สิยาติ, โคตฺรภุ ปน อารมฺมณนฺตเร อุปฺปนฺนํ อปุพฺพํ ชวนํ, ตถา มโคฺค ภูมนฺตรโต จาติฯ นนุ จ สตฺตมชวนเจตนาย พลวตาย อุปปชฺชเวทนียภาโว โหติ อานนฺตริยตาปีติ, ตตฺถายํ อธิปฺปาโย สิยา ‘‘ปฎิสนฺธิยา อนนฺตรปจฺจยภาวิโน วิปากสนฺตานสฺส อนนฺตรปจฺจยภาเวน อนฺติมชวนเจตนาย สุสงฺขตตฺตา สา สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียา อานนฺตริกา จ โหติ, น อปติตชวนเจตนา วิย พลวตายา’’ติฯ

    Pavedhatīti gotrabhussa paccayo bhavituṃ na sakkotīti attho. Yadi pañcamacittakkhaṇe javanaṃ patitaṃ nāma hoti, kathaṃ tadā gotrabhu tadanantarañca maggo javanassa patitakkhaṇe uppajjatīti? Apubbassa javanantarassa patitatābhāvato. Tadeva hi javanaṃ anekakkhattuṃ pavattamānaṃ patitaṃ siyāti, gotrabhu pana ārammaṇantare uppannaṃ apubbaṃ javanaṃ, tathā maggo bhūmantarato cāti. Nanu ca sattamajavanacetanāya balavatāya upapajjavedanīyabhāvo hoti ānantariyatāpīti, tatthāyaṃ adhippāyo siyā ‘‘paṭisandhiyā anantarapaccayabhāvino vipākasantānassa anantarapaccayabhāvena antimajavanacetanāya susaṅkhatattā sā sattamajavanacetanā upapajjavedanīyā ānantarikā ca hoti, na apatitajavanacetanā viya balavatāyā’’ti.

    ปุน อนุโลมํ ตํ อนุพเนฺธยฺยาติ โคตฺรภุสฺส หิ สงฺขารารมฺมณเตฺต สติ ตทปิ อนุโลมเมวาติ ปุริมอนุโลมํ วิย ตํ ตทปิ อญฺญํ อนุโลมํ อนุพเนฺธยฺย, น มโคฺคติ มคฺควุฎฺฐานเมว จ น ภเวยฺย อตฺตโน สทิสาลมฺพนสฺส อาวชฺชนฎฺฐานิยสฺส ปจฺจยสฺส อลาภาฯ อปฺปหีนภาเวน ปญฺจสุ อุปาทานกฺขเนฺธสุ อนุสยิตา กิเลสา สา ภูมิ เอเตหิ ลทฺธาติ กตฺวา ภูมิลทฺธาฯ วฎฺฎํ สิโนนฺติ พนฺธนฺตีติ กตฺวา วฎฺฎเสตู จ, เตสํ สมุคฺฆาตกรณนฺติปิ เอตเทวสฺส โลภกฺขนฺธาทิปทาลนํ วุจฺจติฯ นฺติ ปวตฺตํฯ เอกํ ภวนฺติ อนาคามิโน อเนกกฺขตฺตุญฺจ ตเตฺถว อุปปชฺชนฺตสฺส เหฎฺฐา อนาคมนวเสน เอโก ภโวติ คเหตฺวา วุตฺตํฯ

    Puna anulomaṃ taṃ anubandheyyāti gotrabhussa hi saṅkhārārammaṇatte sati tadapi anulomamevāti purimaanulomaṃ viya taṃ tadapi aññaṃ anulomaṃ anubandheyya, na maggoti maggavuṭṭhānameva ca na bhaveyya attano sadisālambanassa āvajjanaṭṭhāniyassa paccayassa alābhā. Appahīnabhāvena pañcasu upādānakkhandhesu anusayitā kilesā sā bhūmi etehi laddhāti katvā bhūmiladdhā. Vaṭṭaṃ sinonti bandhantīti katvā vaṭṭasetū ca, tesaṃ samugghātakaraṇantipi etadevassa lobhakkhandhādipadālanaṃ vuccati. Tanti pavattaṃ. Ekaṃ bhavanti anāgāmino anekakkhattuñca tattheva upapajjantassa heṭṭhā anāgamanavasena eko bhavoti gahetvā vuttaṃ.

    อิมสฺส ปนตฺถสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส อุปาทินฺนกปวตฺตโต วุฎฺฐานสฺสฯ อปาเยสุ สตฺตมภวโต อุทฺธํ สุคติยญฺจ วิปากทายกสฺส อภิสงฺขารวิญฺญาณสฺส ปจฺจยฆาโต โสตาปตฺติมคฺคญาเณน อภิสงฺขารวิญฺญาณสฺส นิโรโธ ทฎฺฐโพฺพฯ ทฺวีสุ ภเวสูติ อนาคามิมเคฺค อภาวิเต สกทาคามิสฺส กามธาตุยํ เย เทฺว ภวา อุปฺปเชฺชยฺยุํ, เตสูติ อโตฺถฯ จลตีติ เอเตน จลนสภาวเมว ทเสฺสติ, น อจลนาภาวํ, ตสฺมา อจลนํ ทเสฺสตฺวา ปุน จลนํ ทเสฺสตุํ ‘‘ตถาคตสฺส หี’’ติอาทิมาหฯ เยปิ วา กตฺถจิ จตฺตาโรปิ มเคฺค สมานปฎิปเท ทิสฺวา สภาวโต อจลนเมว คเณฺหยฺยุํ, เตสํ ตํคหณนิวารณตฺถํ ‘‘จลตี’’ติ วุตฺตํ, น จลนาวธารณตฺถนฺติ ยุตฺตํ อุภยทสฺสนํฯ อถ วา ยทิปิ เกสญฺจิ จตฺตาโรปิ มคฺคา สมานปฎิปทา, ตถาปิ กิเลสินฺทฺริเยหิ สิชฺฌมานา ปฎิปทา เตสํ วเสน จลนปกติกา เอวาติ ‘‘จลติ’’เจฺจว วุตฺตํ, น ‘‘น จลตี’’ติฯ

    Imassa panatthassāti yathāvuttassa upādinnakapavattato vuṭṭhānassa. Apāyesu sattamabhavato uddhaṃ sugatiyañca vipākadāyakassa abhisaṅkhāraviññāṇassa paccayaghāto sotāpattimaggañāṇena abhisaṅkhāraviññāṇassa nirodho daṭṭhabbo. Dvīsu bhavesūti anāgāmimagge abhāvite sakadāgāmissa kāmadhātuyaṃ ye dve bhavā uppajjeyyuṃ, tesūti attho. Calatīti etena calanasabhāvameva dasseti, na acalanābhāvaṃ, tasmā acalanaṃ dassetvā puna calanaṃ dassetuṃ ‘‘tathāgatassa hī’’tiādimāha. Yepi vā katthaci cattāropi magge samānapaṭipade disvā sabhāvato acalanameva gaṇheyyuṃ, tesaṃ taṃgahaṇanivāraṇatthaṃ ‘‘calatī’’ti vuttaṃ, na calanāvadhāraṇatthanti yuttaṃ ubhayadassanaṃ. Atha vā yadipi kesañci cattāropi maggā samānapaṭipadā, tathāpi kilesindriyehi sijjhamānā paṭipadā tesaṃ vasena calanapakatikā evāti ‘‘calati’’cceva vuttaṃ, na ‘‘na calatī’’ti.

    โลกุตฺตรกุสลปกิณฺณกกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Lokuttarakusalapakiṇṇakakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact