Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā |
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา
Pakiṇṇakakathāvaṇṇanā
ปกิณฺณกนฺติ โวมิสฺสกนยํฯ สมุฎฺฐานนฺติ อุปฺปตฺติการณํฯ กิริยาติอาทิ นิทสฺสนมตฺตํ, อกิริยาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฎฺฐโพฺพฯ เวทนายาติ สหโยเค กรณวจนํ, เวทนาย สห กุสลญฺจาติ วุตฺตํ โหติฯ สพฺพสงฺคาหกวเสนาติ สเพฺพสํ สิกฺขาปทานํ สงฺคาหกวเสนฯ ฉ สิกฺขาปทสมุฎฺฐานานีติ กาโย วาจา กายวาจา กายจิตฺตํ วาจาจิตฺตํ กายวาจาจิตฺตนฺติ เอวํ วุตฺตานิ ฉ อาปตฺติสมุฎฺฐานานิฯ อาปตฺติเยว หิ สิกฺขาปทสีเสน วุตฺตาฯ สมุฎฺฐานาทโย หิ อาปตฺติยา โหนฺติ, น สิกฺขาปทสฺส, อิเมสุ ปน ฉสุ สมุฎฺฐาเนสุ ปุริมานิ ตีณิ อจิตฺตกานิ, ปจฺฉิมานิ สจิตฺตกานิฯ เตสุ เอเกน วา ทฺวีหิ วา ตีหิ วา จตูหิ วา ฉหิ วา สมุฎฺฐาเนหิ อาปตฺติโย สมุฎฺฐหนฺติ, ปญฺจสมุฎฺฐานา อาปตฺติ นาม นตฺถิฯ ตตฺถ เอกสมุฎฺฐานา จตุเตฺถน จ ปญฺจเมน จ ฉเฎฺฐน จ สมุฎฺฐาเนน สมุฎฺฐาติ, น อเญฺญนฯ ทฺวิสมุฎฺฐานา ปฐมจตุเตฺถหิ จ ทุติยปญฺจเมหิ จ ตติยฉเฎฺฐหิ จ จตุตฺถฉเฎฺฐหิ จ ปญฺจมฉเฎฺฐหิ จ สมุฎฺฐาเนหิ สมุฎฺฐาติ, น อเญฺญหิฯ ติสมุฎฺฐานา ปฐเมหิ จ ตีหิ, ปจฺฉิเมหิ จ ตีหิ สมุฎฺฐาเนหิ สมุฎฺฐาติ, น อเญฺญหิฯ จตุสมุฎฺฐานา ปฐมตติยจตุตฺถฉเฎฺฐหิ จ ทุติยตติยปญฺจมฉเฎฺฐหิ จ สมุฎฺฐาเนหิ สมุฎฺฐาติ, น อเญฺญหิฯ ฉสมุฎฺฐานา ฉหิปิ สมุฎฺฐาติฯ
Pakiṇṇakanti vomissakanayaṃ. Samuṭṭhānanti uppattikāraṇaṃ. Kiriyātiādi nidassanamattaṃ, akiriyādīnampi saṅgaho daṭṭhabbo. Vedanāyāti sahayoge karaṇavacanaṃ, vedanāya saha kusalañcāti vuttaṃ hoti. Sabbasaṅgāhakavasenāti sabbesaṃ sikkhāpadānaṃ saṅgāhakavasena. Cha sikkhāpadasamuṭṭhānānīti kāyo vācā kāyavācā kāyacittaṃ vācācittaṃ kāyavācācittanti evaṃ vuttāni cha āpattisamuṭṭhānāni. Āpattiyeva hi sikkhāpadasīsena vuttā. Samuṭṭhānādayo hi āpattiyā honti, na sikkhāpadassa, imesu pana chasu samuṭṭhānesu purimāni tīṇi acittakāni, pacchimāni sacittakāni. Tesu ekena vā dvīhi vā tīhi vā catūhi vā chahi vā samuṭṭhānehi āpattiyo samuṭṭhahanti, pañcasamuṭṭhānā āpatti nāma natthi. Tattha ekasamuṭṭhānā catutthena ca pañcamena ca chaṭṭhena ca samuṭṭhānena samuṭṭhāti, na aññena. Dvisamuṭṭhānā paṭhamacatutthehi ca dutiyapañcamehi ca tatiyachaṭṭhehi ca catutthachaṭṭhehi ca pañcamachaṭṭhehi ca samuṭṭhānehi samuṭṭhāti, na aññehi. Tisamuṭṭhānā paṭhamehi ca tīhi, pacchimehi ca tīhi samuṭṭhānehi samuṭṭhāti, na aññehi. Catusamuṭṭhānā paṭhamatatiyacatutthachaṭṭhehi ca dutiyatatiyapañcamachaṭṭhehi ca samuṭṭhānehi samuṭṭhāti, na aññehi. Chasamuṭṭhānā chahipi samuṭṭhāti.
สิกฺขาปทํ นาม อตฺถิ ฉสมุฎฺฐานนฺติ เอตฺถาปิ สิกฺขาปทสีเสน อาปตฺติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพาฯ เตเนว วกฺขติ ‘‘สพฺพเญฺจตํ อาปตฺติยํ ยุชฺชติ, สิกฺขาปทสีเสน ปน สพฺพอฎฺฐกถาสุ เทสนา อารุฬฺหา’’ติฯ กายาทีหิ ฉหิ สมุฎฺฐานํ อุปฺปตฺติ, ฉ วา สมุฎฺฐานานิ เอตสฺสาติ ฉสมุฎฺฐานํฯ อตฺถิ จตุสมุฎฺฐานนฺติ กาโย กายวาจา กายจิตฺตํ กายวาจาจิตฺตนฺติ อิมานิ จตฺตาริ, วาจา กายวาจา วาจาจิตฺตํ กายวาจาจิตฺตนฺติ อิมานิ วา จตฺตาริ สมุฎฺฐานานิ เอตสฺสาติ จตุสมุฎฺฐานํฯ อตฺถิ ติสมุฎฺฐานนฺติ กาโย วาจา กายวาจาติ อิมานิ ตีณิ, กายจิตฺตํ วาจาจิตฺตํ กายวาจาจิตฺตนฺติ อิมานิ วา ตีณิ สมุฎฺฐานานิ เอตสฺสาติ ติสมุฎฺฐานํฯ ทฺวิสมุฎฺฐานํ เอกสมุฎฺฐานญฺจ สมุฎฺฐานสีสวเสน ทเสฺสโนฺต ‘‘อตฺถิ กถินสมุฎฺฐาน’’นฺติอาทิมาหฯ เตรส หิ สมุฎฺฐานสีสานิ ปฐมปาราชิกสมุฎฺฐานํ อทินฺนาทานสมุฎฺฐานํ สญฺจริตฺตสมุฎฺฐานํ สมนุภาสนสมุฎฺฐานํ กถินสมุฎฺฐานํ เอฬกโลมสมุฎฺฐานํ ปทโสธมฺมสมุฎฺฐานํ อทฺธานสมุฎฺฐานํ เถยฺยสตฺถสมุฎฺฐานํ ธมฺมเทสนาสมุฎฺฐานํ ภูตาโรจนสมุฎฺฐานํ โจริวุฎฺฐาปนสมุฎฺฐานํ อนนุญฺญาตสมุฎฺฐานนฺติฯ
Sikkhāpadaṃ nāma atthi chasamuṭṭhānanti etthāpi sikkhāpadasīsena āpatti vuttāti veditabbā. Teneva vakkhati ‘‘sabbañcetaṃ āpattiyaṃ yujjati, sikkhāpadasīsena pana sabbaaṭṭhakathāsu desanā āruḷhā’’ti. Kāyādīhi chahi samuṭṭhānaṃ uppatti, cha vā samuṭṭhānāni etassāti chasamuṭṭhānaṃ. Atthi catusamuṭṭhānanti kāyo kāyavācā kāyacittaṃ kāyavācācittanti imāni cattāri, vācā kāyavācā vācācittaṃ kāyavācācittanti imāni vā cattāri samuṭṭhānāni etassāti catusamuṭṭhānaṃ. Atthi tisamuṭṭhānanti kāyo vācā kāyavācāti imāni tīṇi, kāyacittaṃ vācācittaṃ kāyavācācittanti imāni vā tīṇi samuṭṭhānāni etassāti tisamuṭṭhānaṃ. Dvisamuṭṭhānaṃ ekasamuṭṭhānañca samuṭṭhānasīsavasena dassento ‘‘atthi kathinasamuṭṭhāna’’ntiādimāha. Terasa hi samuṭṭhānasīsāni paṭhamapārājikasamuṭṭhānaṃ adinnādānasamuṭṭhānaṃ sañcarittasamuṭṭhānaṃ samanubhāsanasamuṭṭhānaṃ kathinasamuṭṭhānaṃ eḷakalomasamuṭṭhānaṃ padasodhammasamuṭṭhānaṃ addhānasamuṭṭhānaṃ theyyasatthasamuṭṭhānaṃ dhammadesanāsamuṭṭhānaṃ bhūtārocanasamuṭṭhānaṃ corivuṭṭhāpanasamuṭṭhānaṃ ananuññātasamuṭṭhānanti.
ตตฺถ ‘‘อตฺถิ ฉสมุฎฺฐาน’’นฺติ อิมินา สญฺจริตฺตสมุฎฺฐานํ วุตฺตํฯ ‘‘อตฺถิ จตุสมุฎฺฐาน’’นฺติ อิมินา ปน อทฺธานสมุฎฺฐานํ อนนุญฺญาตสมุฎฺฐานญฺจ สงฺคหิตํฯ ยญฺหิ ปฐมตติยจตุตฺถฉเฎฺฐหิ สมุฎฺฐาติ, อิทํ อทฺธานสมุฎฺฐานํฯ ยํ ปน ทุติยตติยปญฺจมฉเฎฺฐหิ สมุฎฺฐาติ, อิทํ อนนุญฺญาตสมุฎฺฐานํฯ ‘‘อตฺถิ ติสมุฎฺฐาน’’นฺติ อิมินา อทินฺนาทานสมุฎฺฐานํ ภูตาโรจนสมุฎฺฐานญฺจ สงฺคหิตํฯ ยญฺหิ สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฎฺฐาเนหิ สมุฎฺฐาติ, อิทํ อทินฺนาทานสมุฎฺฐานํฯ ยํ ปน อจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฎฺฐาติ, อิทํ ภูตาโรจนสมุฎฺฐานํฯ ‘‘อตฺถิ กถินสมุฎฺฐาน’’นฺติอาทินา ปน อวเสสสมุฎฺฐานสีเสน ทฺวิสมุฎฺฐานํ เอกสมุฎฺฐานญฺจ สงฺคณฺหาติฯ ตถา หิ ยํ ตติยฉเฎฺฐหิ สมุฎฺฐาติ, อิทํ กถินสมุฎฺฐานนฺติ วุจฺจติฯ ยํ ปฐมจตุเตฺถหิ สมุฎฺฐาติ, อิทํ เอฬกโลมสมุฎฺฐานํฯ ยํ ฉเฎฺฐเนว สมุฎฺฐาติ, อิทํ ธุรนิเกฺขปสมุฎฺฐานํ, สมนุภาสนสมุฎฺฐานนฺติปิ ตเสฺสว นามํฯ อาทิ-สทฺทสงฺคหิเตสุ ปน ปฐมปาราชิกสมุฎฺฐานปทโสธมฺมเถยฺยสตฺถธมฺมเทสนาโจริวุฎฺฐาปนสมุฎฺฐาเนสุ ยํ กายจิตฺตโต สมุฎฺฐาติ, อิทํ ปฐมปาราชิกสมุฎฺฐานํฯ ยํ ทุติยปญฺจเมหิ สมุฎฺฐาติ, อิทํ ปทโสธมฺมสมุฎฺฐานํฯ ยํ จตุตฺถฉเฎฺฐหิ สมุฎฺฐาติ, อิทํ เถยฺยสตฺถสมุฎฺฐานํฯ ยํ ปญฺจเมเนว สมุฎฺฐาติ, อิทํ ธมฺมเทสนาสมุฎฺฐานํฯ ยํ ปญฺจมฉเฎฺฐหิ สมุฎฺฐาติ, อิทํ โจริวุฎฺฐาปนสมุฎฺฐานนฺติ เวทิตพฺพํฯ
Tattha ‘‘atthi chasamuṭṭhāna’’nti iminā sañcarittasamuṭṭhānaṃ vuttaṃ. ‘‘Atthi catusamuṭṭhāna’’nti iminā pana addhānasamuṭṭhānaṃ ananuññātasamuṭṭhānañca saṅgahitaṃ. Yañhi paṭhamatatiyacatutthachaṭṭhehi samuṭṭhāti, idaṃ addhānasamuṭṭhānaṃ. Yaṃ pana dutiyatatiyapañcamachaṭṭhehi samuṭṭhāti, idaṃ ananuññātasamuṭṭhānaṃ. ‘‘Atthi tisamuṭṭhāna’’nti iminā adinnādānasamuṭṭhānaṃ bhūtārocanasamuṭṭhānañca saṅgahitaṃ. Yañhi sacittakehi tīhi samuṭṭhānehi samuṭṭhāti, idaṃ adinnādānasamuṭṭhānaṃ. Yaṃ pana acittakehi tīhi samuṭṭhāti, idaṃ bhūtārocanasamuṭṭhānaṃ. ‘‘Atthi kathinasamuṭṭhāna’’ntiādinā pana avasesasamuṭṭhānasīsena dvisamuṭṭhānaṃ ekasamuṭṭhānañca saṅgaṇhāti. Tathā hi yaṃ tatiyachaṭṭhehi samuṭṭhāti, idaṃ kathinasamuṭṭhānanti vuccati. Yaṃ paṭhamacatutthehi samuṭṭhāti, idaṃ eḷakalomasamuṭṭhānaṃ. Yaṃ chaṭṭheneva samuṭṭhāti, idaṃ dhuranikkhepasamuṭṭhānaṃ, samanubhāsanasamuṭṭhānantipi tasseva nāmaṃ. Ādi-saddasaṅgahitesu pana paṭhamapārājikasamuṭṭhānapadasodhammatheyyasatthadhammadesanācorivuṭṭhāpanasamuṭṭhānesu yaṃ kāyacittato samuṭṭhāti, idaṃ paṭhamapārājikasamuṭṭhānaṃ. Yaṃ dutiyapañcamehi samuṭṭhāti, idaṃ padasodhammasamuṭṭhānaṃ. Yaṃ catutthachaṭṭhehi samuṭṭhāti, idaṃ theyyasatthasamuṭṭhānaṃ. Yaṃ pañcameneva samuṭṭhāti, idaṃ dhammadesanāsamuṭṭhānaṃ. Yaṃ pañcamachaṭṭhehi samuṭṭhāti, idaṃ corivuṭṭhāpanasamuṭṭhānanti veditabbaṃ.
เอวํ สมุฎฺฐานสีเสน สพฺพสิกฺขาปทานิ เตรสธา ทเสฺสตฺวา อิทานิ กิริยาวเสน ปญฺจธา ทเสฺสโนฺต ‘‘ตตฺราปิ กิญฺจิ กิริยโต สมุฎฺฐาตี’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ กิญฺจีติ สิกฺขาปทสีเสน อาปตฺติํ วทติฯ ตสฺมา ยา กาเยน วา วาจาย วา ปถวีขณนาทีสุ วิย วีติกฺกมํ กโรนฺตสฺส โหติ, อยํ กิริยโต สมุฎฺฐาติ นามฯ ยา กายวาจาย กตฺตพฺพํ อกโรนฺตสฺส โหติ ปฐมกถินาปตฺติ วิย, อยํ อกิริยโต สมุฎฺฐาติ นามฯ ยา กโรนฺตสฺส จ อกโรนฺตสฺส จ โหติ อญฺญาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต จีวรปฎิคฺคหณาปตฺติ วิย, อยํ กิริยากิริยโต สมุฎฺฐาติ นามฯ ยา สิยา กโรนฺตสฺส จ สิยา อกโรนฺตสฺส จ โหติ รูปิยปฎิคฺคหณาปตฺติ วิย, อยํ สิยา กิริยโต สิยา อกิริยโต สมุฎฺฐาติ นามฯ ยา สิยา กโรนฺตสฺส จ สิยา กโรนฺตสฺส จ อกโรนฺตสฺส จ โหติ กุฎิการาปตฺติ วิย, อยํ สิยา กิริยโต สิยา กิริยากิริยโต สมุฎฺฐาติ นามฯ
Evaṃ samuṭṭhānasīsena sabbasikkhāpadāni terasadhā dassetvā idāni kiriyāvasena pañcadhā dassento ‘‘tatrāpi kiñci kiriyato samuṭṭhātī’’tiādimāha. Tattha kiñcīti sikkhāpadasīsena āpattiṃ vadati. Tasmā yā kāyena vā vācāya vā pathavīkhaṇanādīsu viya vītikkamaṃ karontassa hoti, ayaṃ kiriyato samuṭṭhāti nāma. Yā kāyavācāya kattabbaṃ akarontassa hoti paṭhamakathināpatti viya, ayaṃ akiriyato samuṭṭhāti nāma. Yā karontassa ca akarontassa ca hoti aññātikāya bhikkhuniyā hatthato cīvarapaṭiggahaṇāpatti viya, ayaṃ kiriyākiriyato samuṭṭhāti nāma. Yā siyā karontassa ca siyā akarontassa ca hoti rūpiyapaṭiggahaṇāpatti viya, ayaṃ siyā kiriyato siyā akiriyato samuṭṭhāti nāma. Yā siyā karontassa ca siyā karontassa ca akarontassa ca hoti kuṭikārāpatti viya, ayaṃ siyā kiriyato siyā kiriyākiriyato samuṭṭhāti nāma.
อิทานิ สพฺพสิกฺขาปทานิ สญฺญาวเสน ทฺวิธา กตฺวา ทเสฺสโนฺต ‘‘ตตฺราปิ อตฺถิ สญฺญาวิโมกฺข’’นฺติอาทิมาหฯ สญฺญาย อภาเวน วิโมโกฺข อสฺสาติ สญฺญาวิโมกฺขนฺติ มเชฺฌปทโลปสมาโส ทฎฺฐโพฺพฯ ยโต หิ วีติกฺกมสญฺญาอภาเวน มุจฺจติ, อิทํ สญฺญาวิโมกฺขนฺติ วุจฺจติฯ จิตฺตงฺคํ ลภติเยวาติ กายจิตฺตาทิสจิตฺตกสมุฎฺฐาเนเหว สมุฎฺฐหนโต ฯ ‘‘ลภติเยวา’’ติ อวธารเณน โน น ลภตีติ ทเสฺสติฯ ตสฺมา ยํ จิตฺตงฺคํ ลภติ, น ลภติ จ, ตํ ‘‘อิตร’’นฺติ วุตฺตํ อิตร-สทฺทสฺส วุตฺตปฎิโยควิสยตฺตาฯ
Idāni sabbasikkhāpadāni saññāvasena dvidhā katvā dassento ‘‘tatrāpi atthi saññāvimokkha’’ntiādimāha. Saññāya abhāvena vimokkho assāti saññāvimokkhanti majjhepadalopasamāso daṭṭhabbo. Yato hi vītikkamasaññāabhāvena muccati, idaṃ saññāvimokkhanti vuccati. Cittaṅgaṃ labhatiyevāti kāyacittādisacittakasamuṭṭhāneheva samuṭṭhahanato . ‘‘Labhatiyevā’’ti avadhāraṇena no na labhatīti dasseti. Tasmā yaṃ cittaṅgaṃ labhati, na labhati ca, taṃ ‘‘itara’’nti vuttaṃ itara-saddassa vuttapaṭiyogavisayattā.
ปุน สพฺพสิกฺขาปทานิ จิตฺตวเสน ทฺวิธา ทเสฺสโนฺต ‘‘ปุน อตฺถิ สจิตฺตก’’นฺติอาทิมาหฯ ยํ สเหว จิเตฺตน อาปชฺชตีติ ยํ สจิตฺตเกเนว สมุฎฺฐาเนน อาปชฺชติ, โน อจิตฺตเกนฯ วินาปีติ อปิ-สเทฺทน สหาปิ จิเตฺตน อาปชฺชตีติ ทเสฺสติฯ ยญฺหิ กทาจิ อจิตฺตเกน, กทาจิ สจิตฺตเกน สมุฎฺฐาเนน สมุฎฺฐาติ, ตํ อจิตฺตกนฺติ วุจฺจติฯ เอตฺถ จ สญฺญาทุกํ อนาปตฺติมุเขน, สจิตฺตกทุกํ อาปตฺติมุเขน วุตฺตนฺติ อิทเมเตสํ นานากรณนฺติ เวทิตพฺพํฯ
Puna sabbasikkhāpadāni cittavasena dvidhā dassento ‘‘puna atthi sacittaka’’ntiādimāha. Yaṃ saheva cittena āpajjatīti yaṃ sacittakeneva samuṭṭhānena āpajjati, no acittakena. Vināpīti api-saddena sahāpi cittena āpajjatīti dasseti. Yañhi kadāci acittakena, kadāci sacittakena samuṭṭhānena samuṭṭhāti, taṃ acittakanti vuccati. Ettha ca saññādukaṃ anāpattimukhena, sacittakadukaṃ āpattimukhena vuttanti idametesaṃ nānākaraṇanti veditabbaṃ.
โลกวชฺชทุกสฺส เหฎฺฐา วุตฺตลกฺขณตฺตา ตํ อวิภชิตฺวา อิทานิ สพฺพสิกฺขาปทานิ กมฺมวเสน ทุวิธานิ, กุสลาทิวเสน เวทนาวเสน จ ติวิธานิ โหนฺตีติ ทเสฺสโนฺต ‘‘กมฺมกุสลเวทนาวเสนา’’ติอาทิมาหฯ เอตฺถ ปน กิญฺจาปิ อฎฺฐกถาสุ อาคตนเยน กายกมฺมํ วจีกมฺมนฺติ กมฺมวเสน ทุกํ วุตฺตํ, ติกเมว ปน ทเสฺสตุํ วฎฺฎติฯ สพฺพเมว หิ สิกฺขาปทํ กายทฺวาเร อาปชฺชิตพฺพโต วจีทฺวาเร อาปชฺชิตพฺพโต กายวจีทฺวาเร อาปชฺชิตพฺพโต จ ติวิธํ โหติฯ เตเนว มาติกาฎฺฐกถายํ (กงฺขา. อฎฺฐ. ปฐมปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตํ ‘‘สพฺพาว กายกมฺมวจีกมฺมตทุภยวเสน ติวิธา โหนฺติฯ ตตฺถ กายทฺวาเร อาปชฺชิตพฺพา กายกมฺมนฺติ วุจฺจติ, วจีทฺวาเร อาปชฺชิตพฺพา วจีกมฺมนฺติ วุจฺจติ, อุภยตฺถ อาปชฺชิตพฺพา กายกมฺมวจีกมฺม’’นฺติฯ ตโตเยว จ อทินฺนาทานสิกฺขาปทาทีสุ กายกมฺมวจีกมฺมนฺติ ตทุภยวเสน ทสฺสิตํฯ
Lokavajjadukassa heṭṭhā vuttalakkhaṇattā taṃ avibhajitvā idāni sabbasikkhāpadāni kammavasena duvidhāni, kusalādivasena vedanāvasena ca tividhāni hontīti dassento ‘‘kammakusalavedanāvasenā’’tiādimāha. Ettha pana kiñcāpi aṭṭhakathāsu āgatanayena kāyakammaṃ vacīkammanti kammavasena dukaṃ vuttaṃ, tikameva pana dassetuṃ vaṭṭati. Sabbameva hi sikkhāpadaṃ kāyadvāre āpajjitabbato vacīdvāre āpajjitabbato kāyavacīdvāre āpajjitabbato ca tividhaṃ hoti. Teneva mātikāṭṭhakathāyaṃ (kaṅkhā. aṭṭha. paṭhamapārājikavaṇṇanā) vuttaṃ ‘‘sabbāva kāyakammavacīkammatadubhayavasena tividhā honti. Tattha kāyadvāre āpajjitabbā kāyakammanti vuccati, vacīdvāre āpajjitabbā vacīkammanti vuccati, ubhayattha āpajjitabbā kāyakammavacīkamma’’nti. Tatoyeva ca adinnādānasikkhāpadādīsu kāyakammavacīkammanti tadubhayavasena dassitaṃ.
อตฺถิ ปน สิกฺขาปทํ กุสลนฺติอาทินา อาปตฺติํ อาปชฺชโนฺต กุสลจิตฺตสมงฺคี วา อาปชฺชติ อกุสลจิตฺตสมงฺคี วา อพฺยากตจิตฺตสมงฺคี วาติ ทเสฺสติ, น ปน กุสลาปิ อาปตฺติ อตฺถีติฯ น หิ กุสลา อาปตฺติ นาม อตฺถิ ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากตํ, นตฺถิ อาปตฺตาธิกรณํ กุสล’’นฺติ (ปริ. ๓๐๓) วจนโตฯ ทส กามาวจรกิริยจิตฺตานีติ หสิตุปฺปาทโวฎฺฐพฺพเนหิ สทฺธิํ อฎฺฐ มหากิริยจิตฺตานิฯ ทฺวินฺนํ อภิญฺญาจิตฺตานํ อาปตฺติสมุฎฺฐาปกตฺตํ ปญฺญตฺติํ อชานนฺตสฺส อิทฺธิวิกุพฺพนาทีสุ ทฎฺฐพฺพํฯ ยํ กุสลจิเตฺตน อาปชฺชตีติ ยํ สิกฺขาปทสีเสน คหิตํ อาปตฺติํ กุสลจิตฺตสมงฺคี อาปชฺชติฯ อิมินา ปน วจเนน ตํ กุสลนฺติ อาปตฺติยา วุจฺจมาโน กุสลภาโว ปริยายโตว, น ปรมตฺถโตติ ทเสฺสติฯ กุสลจิเตฺตน หิ อาปตฺติํ อาปชฺชโนฺต สวิญฺญตฺติกํ อวิญฺญตฺติกํ วา สิกฺขาปทวีติกฺกมาการปฺปวตฺตํ รูปกฺขนฺธสงฺขาตํ อพฺยากตาปตฺติํ อาปชฺชติฯ อิตเรหิ อิตรนฺติ อิตเรหิ อกุสลาพฺยากตจิเตฺตหิ ยํ อาปชฺชติ, ตํ อิตรํ, อกุสลํ อพฺยากตญฺจาติ อโตฺถฯ อิทญฺจ อาปตฺติํ อาปชฺชโนฺต อกุสลจิตฺตสมงฺคี วา อาปชฺชติ กุสลาพฺยากตจิตฺตสมงฺคี วาติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ เอวํ สเนฺตปิ สพฺพสิกฺขาปเทสุ กิญฺจิ อกุสลจิตฺตเมว กิญฺจิ กุสลาพฺยากตวเสน ทฺวิจิตฺตํ, กิญฺจิ สเพฺพสํ วเสน ติจิตฺตนฺติ อยเมว ปเภโท ลพฺภติ, น อโญฺญติ เวทิตพฺพํฯ
Atthi pana sikkhāpadaṃ kusalantiādinā āpattiṃ āpajjanto kusalacittasamaṅgī vā āpajjati akusalacittasamaṅgī vā abyākatacittasamaṅgī vāti dasseti, na pana kusalāpi āpatti atthīti. Na hi kusalā āpatti nāma atthi ‘‘āpattādhikaraṇaṃ siyā akusalaṃ siyā abyākataṃ, natthi āpattādhikaraṇaṃ kusala’’nti (pari. 303) vacanato. Dasa kāmāvacarakiriyacittānīti hasituppādavoṭṭhabbanehi saddhiṃ aṭṭha mahākiriyacittāni. Dvinnaṃ abhiññācittānaṃ āpattisamuṭṭhāpakattaṃ paññattiṃ ajānantassa iddhivikubbanādīsu daṭṭhabbaṃ. Yaṃ kusalacittena āpajjatīti yaṃ sikkhāpadasīsena gahitaṃ āpattiṃ kusalacittasamaṅgī āpajjati. Iminā pana vacanena taṃ kusalanti āpattiyā vuccamāno kusalabhāvo pariyāyatova, na paramatthatoti dasseti. Kusalacittena hi āpattiṃ āpajjanto saviññattikaṃ aviññattikaṃ vā sikkhāpadavītikkamākārappavattaṃ rūpakkhandhasaṅkhātaṃ abyākatāpattiṃ āpajjati. Itarehi itaranti itarehi akusalābyākatacittehi yaṃ āpajjati, taṃ itaraṃ, akusalaṃ abyākatañcāti attho. Idañca āpattiṃ āpajjanto akusalacittasamaṅgī vā āpajjati kusalābyākatacittasamaṅgī vāti dassanatthaṃ vuttaṃ. Evaṃ santepi sabbasikkhāpadesu kiñci akusalacittameva kiñci kusalābyākatavasena dvicittaṃ, kiñci sabbesaṃ vasena ticittanti ayameva pabhedo labbhati, na aññoti veditabbaṃ.
ติเวทนํ ทฺวิเวทนํ เอกเวทนนฺติ อิทญฺจ ยถาวุตฺตเวทนาวเสเนว ลพฺภติ, นาญฺญถาติ ทฎฺฐพฺพํฯ นิปชฺชิตฺวา นิโรธํ สมาปนฺนสฺส สหเสยฺยวเสน ตทาการปฺปวตฺตรูปกฺขนฺธเสฺสว อาปตฺติภาวโต ‘‘อตฺถิ อเวทน’’นฺติปิ วตฺตพฺพเมตํ, กทาจิ กรหจิ ยทิจฺฉกํ สมฺภวตีติ อคฺคเหตฺวา เยภุยฺยวเสน ลพฺภมานํเยว คเหตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ
Tivedanaṃ dvivedanaṃ ekavedananti idañca yathāvuttavedanāvaseneva labbhati, nāññathāti daṭṭhabbaṃ. Nipajjitvā nirodhaṃ samāpannassa sahaseyyavasena tadākārappavattarūpakkhandhasseva āpattibhāvato ‘‘atthi avedana’’ntipi vattabbametaṃ, kadāci karahaci yadicchakaṃ sambhavatīti aggahetvā yebhuyyavasena labbhamānaṃyeva gahetvā vuttanti veditabbaṃ.
อิทานิ ยถาวุตฺตสมุฎฺฐานาทีนิ อิมสฺมิํ สํวณฺณิยมานสิกฺขาปเท วิภชิตฺวา ทเสฺสโนฺต ‘‘อิมํ ปกิณฺณกํ วิทิตฺวา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ วิทิตฺวาติ อิมสฺส ‘‘เวทิตพฺพ’’นฺติ อิมินา อปรกาลกิริยาวจเนน สมฺพโนฺธ เวทิตโพฺพฯ กิริยสมุฎฺฐานนฺติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ ปรูปกฺกเม สติ สาทิยนฺตสฺส อกิริยสมุฎฺฐานภาวโตฯ ‘‘มโนทฺวาเร อาปตฺติ นาม นตฺถีติ อิทมฺปิ พาหุลฺลวเสเนว วุตฺต’’นฺติ วทนฺติฯ จิตฺตํ ปเนตฺถ องฺคมตฺตํ โหตีติ ปฐมปาราชิกํ กายจิตฺตโต สมุฎฺฐาตีติ จิตฺตเมตฺถ อาปตฺติยา องฺคเมว โหติฯ น ตสฺส วเสน กมฺมภาโว ลพฺภตีติ วิญฺญตฺติชนกวเสน กายทฺวาเร ปวตฺตตฺตา ตสฺส จิตฺตสฺส วเสน อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส มโนกมฺมภาโว น ลพฺภตีติ อโตฺถฯ สิกฺขาปทสฺส เหฎฺฐา วุตฺตนเยน ปญฺญตฺติภาวโต ‘‘สพฺพเญฺจตํ อาปตฺติยํ ยุชฺชตี’’ติ วุตฺตํฯ น หิ ยถาวุตฺตสมุฎฺฐานาทิ ปญฺญตฺติยํ ยุชฺชติฯ
Idāni yathāvuttasamuṭṭhānādīni imasmiṃ saṃvaṇṇiyamānasikkhāpade vibhajitvā dassento ‘‘imaṃ pakiṇṇakaṃ viditvā’’tiādimāha. Tattha viditvāti imassa ‘‘veditabba’’nti iminā aparakālakiriyāvacanena sambandho veditabbo. Kiriyasamuṭṭhānanti idaṃ yebhuyyavasena vuttaṃ parūpakkame sati sādiyantassa akiriyasamuṭṭhānabhāvato. ‘‘Manodvāre āpatti nāma natthīti idampi bāhullavaseneva vutta’’nti vadanti. Cittaṃ panettha aṅgamattaṃ hotīti paṭhamapārājikaṃ kāyacittato samuṭṭhātīti cittamettha āpattiyā aṅgameva hoti. Na tassa vasena kammabhāvo labbhatīti viññattijanakavasena kāyadvāre pavattattā tassa cittassa vasena imassa sikkhāpadassa manokammabhāvo na labbhatīti attho. Sikkhāpadassa heṭṭhā vuttanayena paññattibhāvato ‘‘sabbañcetaṃ āpattiyaṃ yujjatī’’ti vuttaṃ. Na hi yathāvuttasamuṭṭhānādi paññattiyaṃ yujjati.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pakiṇṇakakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.