Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๓๗๐] ๑๐. ปลาสชาตกวณฺณนา
[370] 10. Palāsajātakavaṇṇanā
หํโส ปลาสมวจาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต กิเลสนิคฺคหํ อารพฺภ กเถสิฯ วตฺถุ ปญฺญาสชาตเก อาวิ ภวิสฺสติฯ อิธ ปน สตฺถา ภิกฺขู อามเนฺตตฺวา ‘‘ภิกฺขเว, กิเลโส นาม อาสงฺกิตโพฺพว, อปฺปมตฺตโก สมาโนปิ นิโคฺรธคโจฺฉ วิย วินาสํ ปาเปติ, โปราณกปณฺฑิตาปิ อาสงฺกิตพฺพํ อาสงฺกิํสุเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Haṃso palāsamavacāti idaṃ satthā jetavane viharanto kilesaniggahaṃ ārabbha kathesi. Vatthu paññāsajātake āvi bhavissati. Idha pana satthā bhikkhū āmantetvā ‘‘bhikkhave, kileso nāma āsaṅkitabbova, appamattako samānopi nigrodhagaccho viya vināsaṃ pāpeti, porāṇakapaṇḍitāpi āsaṅkitabbaṃ āsaṅkiṃsuyevā’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต สุวณฺณหํสโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต จิตฺตกูฎปพฺพเต สุวณฺณคุหายํ วสโนฺต หิมวนฺตปเทเส ชาตสฺสเร สยํชาตสาลิํ ขาทิตฺวา อาคจฺฉติฯ ตสฺส คมนาคมนมเคฺค มหาปลาสรุโกฺข อโหสิฯ โส คจฺฉโนฺตปิ ตตฺถ วิสฺสมิตฺวา คจฺฉติ, อาคจฺฉโนฺตปิ ตตฺถ วิสฺสมิตฺวา อาคจฺฉติ ฯ อถสฺส ตสฺมิํ รุเกฺข นิพฺพตฺตเทวตาย สทฺธิํ วิสฺสาโส อโหสิฯ อปรภาเค เอกา สกุณิกา เอกสฺมิํ นิโคฺรธรุเกฺข นิโคฺรธปกฺกํ ขาทิตฺวา อาคนฺตฺวา ตสฺมิํ ปลาสรุเกฺข นิสีทิตฺวา วิฎปนฺตเร วจฺจํ ปาเตสิฯ ตตฺถ นิโคฺรธคโจฺฉ ชาโต, โส จตุรงฺคุลมตฺตกาเล รตฺตงฺกุรปลาสตาย โสภติฯ หํสราชา ตํ ทิสฺวา รุกฺขเทวตํ อามเนฺตตฺวา ‘‘สมฺม ปลาส, นิโคฺรโธ นาม ยมฺหิ รุเกฺข ชายติ, วฑฺฒโนฺต ตํ นาเสติ, อิมสฺส วฑฺฒิตุํ มา เทติ, วิมานํ เต นาเสสฺสติ, ปฎิกเจฺจว นํ อุทฺธริตฺวา ฉเฑฺฑหิ, อาสงฺกิตพฺพยุตฺตกํ นาม อาสงฺกิตุํ วฎฺฎตี’’ติ ปลาสเทวตาย สทฺธิํ มเนฺตโนฺต ปฐมํ คาถมาห –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto suvaṇṇahaṃsayoniyaṃ nibbattitvā vayappatto cittakūṭapabbate suvaṇṇaguhāyaṃ vasanto himavantapadese jātassare sayaṃjātasāliṃ khāditvā āgacchati. Tassa gamanāgamanamagge mahāpalāsarukkho ahosi. So gacchantopi tattha vissamitvā gacchati, āgacchantopi tattha vissamitvā āgacchati . Athassa tasmiṃ rukkhe nibbattadevatāya saddhiṃ vissāso ahosi. Aparabhāge ekā sakuṇikā ekasmiṃ nigrodharukkhe nigrodhapakkaṃ khāditvā āgantvā tasmiṃ palāsarukkhe nisīditvā viṭapantare vaccaṃ pātesi. Tattha nigrodhagaccho jāto, so caturaṅgulamattakāle rattaṅkurapalāsatāya sobhati. Haṃsarājā taṃ disvā rukkhadevataṃ āmantetvā ‘‘samma palāsa, nigrodho nāma yamhi rukkhe jāyati, vaḍḍhanto taṃ nāseti, imassa vaḍḍhituṃ mā deti, vimānaṃ te nāsessati, paṭikacceva naṃ uddharitvā chaḍḍehi, āsaṅkitabbayuttakaṃ nāma āsaṅkituṃ vaṭṭatī’’ti palāsadevatāya saddhiṃ mantento paṭhamaṃ gāthamāha –
๑๐๕.
105.
‘‘หํโส ปลาสมวจ, นิโคฺรโธ สมฺม ชายติ;
‘‘Haṃso palāsamavaca, nigrodho samma jāyati;
องฺกสฺมิํ เต นิสิโนฺนว, โส เต มมฺมานิ เฉจฺฉตี’’ติฯ
Aṅkasmiṃ te nisinnova, so te mammāni checchatī’’ti.
ปฐมปาโท ปเนตฺถ อภิสมฺพุเทฺธน หุตฺวา สตฺถารา วุโตฺตฯ ปลาสนฺติ ปลาสเทวตํฯ สมฺมาติ วยสฺสฯ องฺกสฺมินฺติ วิฎภิยํฯ โส เต มมฺมานิ เฉจฺฉตีติ โส เต อเงฺก สํวโฑฺฒ สปโตฺต วิย ชีวิตํ ฉินฺทิสฺสตีติ อโตฺถฯ ชีวิตสงฺขารา หิ อิธ ‘‘มมฺมานี’’ติ วุตฺตาฯ
Paṭhamapādo panettha abhisambuddhena hutvā satthārā vutto. Palāsanti palāsadevataṃ. Sammāti vayassa. Aṅkasminti viṭabhiyaṃ. So te mammāni checchatīti so te aṅke saṃvaḍḍho sapatto viya jīvitaṃ chindissatīti attho. Jīvitasaṅkhārā hi idha ‘‘mammānī’’ti vuttā.
ตํ สุตฺวา ตสฺส วจนํ อคณฺหนฺตี ปลาสเทวตา ทุติยํ คาถมาห –
Taṃ sutvā tassa vacanaṃ agaṇhantī palāsadevatā dutiyaṃ gāthamāha –
๑๐๖.
106.
‘‘วฑฺฒตาเมว นิโคฺรโธ, ปติฎฺฐสฺส ภวามหํ;
‘‘Vaḍḍhatāmeva nigrodho, patiṭṭhassa bhavāmahaṃ;
ยถา ปิตา จ มาตา จ, เอวํ เม โส ภวิสฺสตี’’ติฯ
Yathā pitā ca mātā ca, evaṃ me so bhavissatī’’ti.
ตสฺสโตฺถ – สมฺม, น ตฺวํ ชานาสิ วฑฺฒตเมว เอส, อหมสฺส ยถา พาลกาเล ปุตฺตานํ มาตาปิตโร ปติฎฺฐา โหนฺติ, ตถา ภวิสฺสามิ, ยถา ปน สํวฑฺฒา ปุตฺตา ปจฺฉา มหลฺลกกาเล มาตาปิตูนํ ปติฎฺฐา โหนฺติ, มยฺหมฺปิ ปจฺฉา มหลฺลกกาเล เอวเมว โส ปติโฎฺฐ ภวิสฺสตีติฯ
Tassattho – samma, na tvaṃ jānāsi vaḍḍhatameva esa, ahamassa yathā bālakāle puttānaṃ mātāpitaro patiṭṭhā honti, tathā bhavissāmi, yathā pana saṃvaḍḍhā puttā pacchā mahallakakāle mātāpitūnaṃ patiṭṭhā honti, mayhampi pacchā mahallakakāle evameva so patiṭṭho bhavissatīti.
ตโต หํโส ตติยํ คาถมาห –
Tato haṃso tatiyaṃ gāthamāha –
๑๐๗.
107.
‘‘ยํ ตฺวํ องฺกสฺมิํ วเฑฺฒสิ, ขีรรุกฺขํ ภยานกํ;
‘‘Yaṃ tvaṃ aṅkasmiṃ vaḍḍhesi, khīrarukkhaṃ bhayānakaṃ;
อามนฺต โข ตํ คจฺฉาม, วุฑฺฒิ มสฺส น รุจฺจตี’’ติฯ
Āmanta kho taṃ gacchāma, vuḍḍhi massa na ruccatī’’ti.
ตตฺถ ยํ ตฺวนฺติ ยสฺมา ตฺวํ เอตญฺจ ภยทายกเตฺตน ภยานกํ ขีรรุกฺขํ สปตฺตํ วิย อเงฺก วเฑฺฒสิฯ อามนฺต โข ตนฺติ ตสฺมา มยํ ตํ อามเนฺตตฺวา ชานาเปตฺวา คจฺฉามฯ วุฑฺฒิ มสฺสาติ อสฺส วุฑฺฒิ มยฺหํ น รุจฺจตีติฯ
Tattha yaṃ tvanti yasmā tvaṃ etañca bhayadāyakattena bhayānakaṃ khīrarukkhaṃ sapattaṃ viya aṅke vaḍḍhesi. Āmanta kho tanti tasmā mayaṃ taṃ āmantetvā jānāpetvā gacchāma. Vuḍḍhi massāti assa vuḍḍhi mayhaṃ na ruccatīti.
เอวญฺจ ปน วตฺวา หํสราชา ปเกฺข ปสาเรตฺวา จิตฺตกูฎปพฺพตเมว คโตฯ ตโต ปฎฺฐาย ปุน นาคจฺฉิฯ อปรภาเค นิโคฺรโธ วฑฺฒิํ, ตสฺมิํ เอกา รุกฺขเทวตาปิ นิพฺพตฺติฯ โส วฑฺฒโนฺต ปลาสํ ภญฺชิ, สาขาหิ สทฺธิํเยว เทวตาย วิมานํ ปติฯ สา ตสฺมิํ กาเล หํสรโญฺญ วจนํ สลฺลเกฺขตฺวา ‘‘อิทํ อนาคตภยํ ทิสฺวา หํสราชา กเถสิ , อหํ ปนสฺส วจนํ นากาสิ’’นฺติ ปริเทวมานา จตุตฺถํ คาถมาห –
Evañca pana vatvā haṃsarājā pakkhe pasāretvā cittakūṭapabbatameva gato. Tato paṭṭhāya puna nāgacchi. Aparabhāge nigrodho vaḍḍhiṃ, tasmiṃ ekā rukkhadevatāpi nibbatti. So vaḍḍhanto palāsaṃ bhañji, sākhāhi saddhiṃyeva devatāya vimānaṃ pati. Sā tasmiṃ kāle haṃsarañño vacanaṃ sallakkhetvā ‘‘idaṃ anāgatabhayaṃ disvā haṃsarājā kathesi , ahaṃ panassa vacanaṃ nākāsi’’nti paridevamānā catutthaṃ gāthamāha –
๑๐๘.
108.
‘‘อิทานิ โข มํ ภาเยติ, มหาเนรุนิทสฺสนํ;
‘‘Idāni kho maṃ bhāyeti, mahānerunidassanaṃ;
หํสสฺส อนภิญฺญาย, มหา เม ภยมาคต’’นฺติฯ
Haṃsassa anabhiññāya, mahā me bhayamāgata’’nti.
ตตฺถ อิทานิ โข มํ ภาเยตีติ อยํ นิโคฺรโธ ตรุณกาเล โตเสตฺวา อิทานิ มํ ภายาเปติ สนฺตาเสติฯ มหาเนรุนิทสฺสนนฺติ สิเนรุปพฺพตสทิสํ มหนฺตํ หํสราชสฺส วจนํ สุตฺวา อชานิตฺวา ตรุณกาเลเยว เอตสฺส อนุทฺธฎตฺตาฯ มหา เม ภยมาคตนฺติ อิทานิ มยฺหํ มหนฺตํ ภยํ อาคตนฺติ ปริเทวิฯ
Tattha idāni kho maṃ bhāyetīti ayaṃ nigrodho taruṇakāle tosetvā idāni maṃ bhāyāpeti santāseti. Mahānerunidassananti sinerupabbatasadisaṃ mahantaṃ haṃsarājassa vacanaṃ sutvā ajānitvā taruṇakāleyeva etassa anuddhaṭattā. Mahā me bhayamāgatanti idāni mayhaṃ mahantaṃ bhayaṃ āgatanti paridevi.
นิโคฺรโธปิ วฑฺฒโนฺต สพฺพํ ปลาสํ ภญฺชิตฺวา ขาณุกมตฺตเมว อกาสิฯ เทวตาย วิมานํ สพฺพํ อนฺตรธายิฯ
Nigrodhopi vaḍḍhanto sabbaṃ palāsaṃ bhañjitvā khāṇukamattameva akāsi. Devatāya vimānaṃ sabbaṃ antaradhāyi.
๑๐๙.
109.
‘‘น ตสฺส วุฑฺฒิ กุสลปฺปสตฺถา, โย วฑฺฒมาโน ฆสเต ปติฎฺฐํ;
‘‘Na tassa vuḍḍhi kusalappasatthā, yo vaḍḍhamāno ghasate patiṭṭhaṃ;
ตสฺสูปโรธํ ปริสงฺกมาโน, ปตารยี มูลวธาย ธีโร’’ติฯ –
Tassūparodhaṃ parisaṅkamāno, patārayī mūlavadhāya dhīro’’ti. –
ปญฺจมา อภิสมฺพุทฺธคาถาฯ
Pañcamā abhisambuddhagāthā.
ตตฺถ กุสลปฺปสตฺถาติ กุสเลหิ ปสตฺถาฯ ฆสเตติ ขาทติ, วินาเสตีติ อโตฺถฯ ปตารยีติ ปตรติ วายมติฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ภิกฺขเว, โย วฑฺฒมาโน อตฺตโน ปติฎฺฐํ นาเสติ, ตสฺส วุฑฺฒิ ปณฺฑิเตหิ น ปสตฺถา, ตสฺส ปน อพฺภนฺตรสฺส วา พาหิรสฺส วา ปริสฺสยสฺส ‘‘อิโต เม อุปโรโธ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ อุปโรธํ วินาสํ ปริสงฺกมาโน วีโร ญาณสมฺปโนฺน มูลวธาย ปรกฺกมตีติฯ
Tattha kusalappasatthāti kusalehi pasatthā. Ghasateti khādati, vināsetīti attho. Patārayīti patarati vāyamati. Idaṃ vuttaṃ hoti – bhikkhave, yo vaḍḍhamāno attano patiṭṭhaṃ nāseti, tassa vuḍḍhi paṇḍitehi na pasatthā, tassa pana abbhantarassa vā bāhirassa vā parissayassa ‘‘ito me uparodho bhavissatī’’ti evaṃ uparodhaṃ vināsaṃ parisaṅkamāno vīro ñāṇasampanno mūlavadhāya parakkamatīti.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน ปญฺจสตา ภิกฺขู อรหตฺตํ ปาปุณิํสุฯ ตทา สุวณฺณหํโส อหเมว อโหสินฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā saccāni pakāsetvā jātakaṃ samodhānesi, saccapariyosāne pañcasatā bhikkhū arahattaṃ pāpuṇiṃsu. Tadā suvaṇṇahaṃso ahameva ahosinti.
ปลาสชาตกวณฺณนา ทสมาฯ
Palāsajātakavaṇṇanā dasamā.
วณฺณาโรหวโคฺค ทุติโยฯ
Vaṇṇārohavaggo dutiyo.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๗๐. ปลาสชาตกํ • 370. Palāsajātakaṃ