Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā |
ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉยวณฺณนา
Pāḷimuttakavinicchayavaṇṇanā
เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวเจ ปเตฺต ธาเรนฺติ, อุจฺจาวจานิ ปตฺตมณฺฑลานิ ธาเรนฺตี’’ติ (จุฬว. ๒๕๓) เอวมาทีนิ วตฺถูนิ นิสฺสาย ‘‘น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจา ปตฺตา ธาเรตพฺพา, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติอาทินา นเยน อกปฺปิยปริกฺขาเรสุ จ ทุกฺกฎํ ปญฺญตฺตํฯ กสฺมา? ตทนุโลมตฺตาฯ ยตฺถาปิ น ปญฺญตฺตํ, ตตฺถ ‘‘น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจานิ ฉตฺตานิ ธาเรตพฺพานิ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติอาทินา (จูฬว. ๒๖๙-๒๗๐) นเยน ทุกฺกฎํ สมฺภวติ, ตสฺมา ‘‘ตตฺรายํ ปาฬิมุตฺตโก’’ติ อารภิตฺวา สพฺพปริกฺขาเรสุ วณฺณมฎฺฐํ, สวิการํ วา กโรนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎนฺติ ทีเปเนฺตน ‘‘น วฎฺฎตี’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ เอตฺถาห – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ฐเปตฺวา ปหรณิํ สพฺพํ โลหภณฺฑํ, ฐเปตฺวา อาสนฺทิํ ปลฺลงฺกํ ทารุปตฺตํ ทารุปาทุกํ สพฺพํ ทารุภณฺฑํ, ฐเปตฺวา กตกญฺจ กุมฺภการิกญฺจ สพฺพํ มตฺติกาภณฺฑ’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๓) วุตฺตตฺตา ยถาฐปิตํ วเชฺชตฺวา อิตรํ สพฺพํ วณฺณมฎฺฐมฺปิ สวิการมฺปิ อวิเสเสน วฎฺฎตีติ? วุจฺจเต – ตํ น ยุตฺตํ ยถาทสฺสิตปาฬิวิโรธโต, ตสฺมา ‘‘ฐเปตฺวา ปหรณิ’’นฺติ เอวํ ชาติวเสน อยํ ปาฬิ ปวตฺตา, ยถาทสฺสิตา ปาฬิ วณฺณมฎฺฐาทิวิการปฎิเสธนวเสน ปวตฺตาติ เอวํ อุภยมฺปิ น วิรุชฺฌติ, ตสฺมา ยถาวุตฺตเมวฯ อารเคฺคน นิขาทนเคฺคน, ‘‘อารเคฺคริว สาสโป’’ติ (ม. นิ. ๒.๔๕๘; ธ. ป. ๔๐๑; สุ. นิ. ๖๓๐) เอตฺถ วุตฺตนยโต อารเคฺคนฯ
Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū uccāvace patte dhārenti, uccāvacāni pattamaṇḍalāni dhārentī’’ti (cuḷava. 253) evamādīni vatthūni nissāya ‘‘na, bhikkhave, uccāvacā pattā dhāretabbā, yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassā’’tiādinā nayena akappiyaparikkhāresu ca dukkaṭaṃ paññattaṃ. Kasmā? Tadanulomattā. Yatthāpi na paññattaṃ, tattha ‘‘na, bhikkhave, uccāvacāni chattāni dhāretabbāni, yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassā’’tiādinā (cūḷava. 269-270) nayena dukkaṭaṃ sambhavati, tasmā ‘‘tatrāyaṃ pāḷimuttako’’ti ārabhitvā sabbaparikkhāresu vaṇṇamaṭṭhaṃ, savikāraṃ vā karontassa āpatti dukkaṭanti dīpentena ‘‘na vaṭṭatī’’ti vuttanti veditabbaṃ. Etthāha – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ṭhapetvā paharaṇiṃ sabbaṃ lohabhaṇḍaṃ, ṭhapetvā āsandiṃ pallaṅkaṃ dārupattaṃ dārupādukaṃ sabbaṃ dārubhaṇḍaṃ, ṭhapetvā katakañca kumbhakārikañca sabbaṃ mattikābhaṇḍa’’nti (cūḷava. 293) vuttattā yathāṭhapitaṃ vajjetvā itaraṃ sabbaṃ vaṇṇamaṭṭhampi savikārampi avisesena vaṭṭatīti? Vuccate – taṃ na yuttaṃ yathādassitapāḷivirodhato, tasmā ‘‘ṭhapetvā paharaṇi’’nti evaṃ jātivasena ayaṃ pāḷi pavattā, yathādassitā pāḷi vaṇṇamaṭṭhādivikārapaṭisedhanavasena pavattāti evaṃ ubhayampi na virujjhati, tasmā yathāvuttameva. Āraggena nikhādanaggena, ‘‘āraggeriva sāsapo’’ti (ma. ni. 2.458; dha. pa. 401; su. ni. 630) ettha vuttanayato āraggena.
ปฎฺฎมุเข วาติ ปฎฺฎโกฎิยํฯ ปริยเนฺตติ จีวรปริยเนฺตฯ เวณิอุหุมุนิยุเปญฺญามฯ อคฺฆิยนฺติ เจติยํฯ คยมุคฺครนฺติ ตุลาทณฺฑสณฺฐานํ, คยา สีเส สูจิกา โหติ, มุขปตฺตา ลทฺราฯ อุกฺกิรนฺติ นีหรนฺติ กโรนฺติ ฐเปนฺติฯ โกณสุตฺตปิฬกา นาม คณฺฐิกปฎฺฎาทิโกเณสุ สุตฺตมยปิฬกาฯ ยํ เอตฺถ จีวรํ วา ปโตฺต วา ‘‘น วฎฺฎตี’’ติ วุโตฺต, ตตฺถ อธิฎฺฐานํ รุหติ, วิกปฺปนาปิ รุหตีติ เวทิตพฺพํฯ เทฑฺฑุโภติ อุทกสโปฺปฯ อจฺฉีติ กุญฺชรกฺขิฯ โคมุตฺตกนฺติ โคมุตฺตสณฺฐานา ราชิโยฯ กุญฺจิกาย เสนาสนปริกฺขารตฺตา สุวณฺณรูปิยมยาปิ วฎฺฎตีติ ฉายา ทิสฺสติ, ‘‘กุญฺจิกาย วณฺณมฎฺฐกมฺมํ น วฎฺฎตี’’ติ วจนโต อเญฺญ กปฺปิยโลหาทิมยาว กุญฺจิกา กปฺปนฺติ ปริหรณียปริกฺขารตฺตาฯ อารกณฺฎโก โปตฺถกาทิกรณสตฺถกชาติฯ ‘‘อามณฺฑกสารโก อามลกผลมโย’’ติ วทนฺติ ฯ ตาลปณฺณพีชนีอาทีสุ ‘‘วณฺณมฎฺฐกมฺมํ วฎฺฎตี’’ติ วุตฺตํฯ กิญฺจาปิ ตานิ กุญฺจิกา วิย ปริหรณียานิ, อถ โข ‘‘อุจฺจาวจานิ น ธาเรตพฺพานี’’ติ ปฎิเกฺขปาภาวโต วุตฺตํฯ เกวลญฺหิ ตานิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิธูปนญฺจ ตาลวณฺฎญฺจา’’ติอาทินา (จูฬว. ๒๖๙) วุตฺตานิฯ คณฺฐิปเท ปน ‘‘เตลภาชเนสุ วณฺณมฎฺฐกมฺมํ วฎฺฎตีติ เสนาสนปริกฺขารตฺตา’’ติ วุตฺตํฯ ราชวลฺลภาติ ราชกุลูปกาฯ สีมาติ อิธาธิเปฺปตา ภูมิ, พทฺธสีมา จฯ ‘‘เยสํ สนฺตกา เตสํ สีมา, ตตฺถ ปเรหิ น กตฺตพฺพ’’นฺติ อนุคณฺฐิปเท วุตฺตํฯ ‘‘ภูมิ จ สีมา จ เยสํ สนฺตกา, เตหิ เอว วาเรตพฺพาฯ เยสํ ปน อเญฺญสํ ภูมิยํ สีมา กตา, เต วาเรตุํ น อิสฺสรา’’ติ วทนฺติ ฯ ‘‘สงฺฆเภทาทีนํ การณตฺตา ‘มา กโรถา’ติ ปฎิเสเธตพฺพา เอวา’’ติ อนฺธกฎฺฐกถายํ วุตฺตํ กิรฯ
Paṭṭamukhe vāti paṭṭakoṭiyaṃ. Pariyanteti cīvarapariyante. Veṇiuhumuniyupeññāma. Agghiyanti cetiyaṃ. Gayamuggaranti tulādaṇḍasaṇṭhānaṃ, gayā sīse sūcikā hoti, mukhapattā ladrā. Ukkiranti nīharanti karonti ṭhapenti. Koṇasuttapiḷakā nāma gaṇṭhikapaṭṭādikoṇesu suttamayapiḷakā. Yaṃ ettha cīvaraṃ vā patto vā ‘‘na vaṭṭatī’’ti vutto, tattha adhiṭṭhānaṃ ruhati, vikappanāpi ruhatīti veditabbaṃ. Deḍḍubhoti udakasappo. Acchīti kuñjarakkhi. Gomuttakanti gomuttasaṇṭhānā rājiyo. Kuñcikāya senāsanaparikkhārattā suvaṇṇarūpiyamayāpi vaṭṭatīti chāyā dissati, ‘‘kuñcikāya vaṇṇamaṭṭhakammaṃ na vaṭṭatī’’ti vacanato aññe kappiyalohādimayāva kuñcikā kappanti pariharaṇīyaparikkhārattā. Ārakaṇṭako potthakādikaraṇasatthakajāti. ‘‘Āmaṇḍakasārako āmalakaphalamayo’’ti vadanti . Tālapaṇṇabījanīādīsu ‘‘vaṇṇamaṭṭhakammaṃ vaṭṭatī’’ti vuttaṃ. Kiñcāpi tāni kuñcikā viya pariharaṇīyāni, atha kho ‘‘uccāvacāni na dhāretabbānī’’ti paṭikkhepābhāvato vuttaṃ. Kevalañhi tāni ‘‘anujānāmi, bhikkhave, vidhūpanañca tālavaṇṭañcā’’tiādinā (cūḷava. 269) vuttāni. Gaṇṭhipade pana ‘‘telabhājanesu vaṇṇamaṭṭhakammaṃ vaṭṭatīti senāsanaparikkhārattā’’ti vuttaṃ. Rājavallabhāti rājakulūpakā. Sīmāti idhādhippetā bhūmi, baddhasīmā ca. ‘‘Yesaṃ santakā tesaṃ sīmā, tattha parehi na kattabba’’nti anugaṇṭhipade vuttaṃ. ‘‘Bhūmi ca sīmā ca yesaṃ santakā, tehi eva vāretabbā. Yesaṃ pana aññesaṃ bhūmiyaṃ sīmā katā, te vāretuṃ na issarā’’ti vadanti . ‘‘Saṅghabhedādīnaṃ kāraṇattā ‘mā karothā’ti paṭisedhetabbā evā’’ti andhakaṭṭhakathāyaṃ vuttaṃ kira.
๘๖-๗. ทารุกุฎิกํ กาตุํ, กตฺตุนฺติ จ อตฺถิฯ ขณฺฑาขณฺฑิกนฺติ ผลาผลํ วิย ทฎฺฐพฺพํฯ อาณาเปหีติ วจนํ อนิเฎฺฐ เอว วุจฺจตีติ กตฺวา พนฺธํ อาณาเปสิฯ อิสฺสริยมตฺตายาติ สมิทฺธิยํ มตฺตาสโทฺทติ ญาเปติฯ
86-7. Dārukuṭikaṃ kātuṃ, kattunti ca atthi. Khaṇḍākhaṇḍikanti phalāphalaṃ viya daṭṭhabbaṃ. Āṇāpehīti vacanaṃ aniṭṭhe eva vuccatīti katvā bandhaṃ āṇāpesi. Issariyamattāyāti samiddhiyaṃ mattāsaddoti ñāpeti.
๘๘. ‘‘เอวรูปํ วาจํ ภาสิตฺวา’’ติ จ ปาโฐฯ โลเมน ตฺวํ มุโตฺต, มา ปุนปิ เอวรูปมกาสีติ อิทํ กิํ พฺยาปาททีปกํ, ทารูสุปิ โลภกฺขนฺธทีปกํ วจนํ โสตาปนฺนสฺส สโต ตสฺส ราชสฺส ปติรูปํฯ นนุ นาม ‘‘ปุเพฺพ กตํ สุกตํ ภเนฺต, วเทยฺยาถ ปุนปิ เยนโตฺถ’’ติ ปวาเรตฺวา อตีว ปีติปาโมชฺชํ อุปฺปาเทตพฺพํ เตน สิยาติ? สจฺจเมตํ โสตาปนฺนตฺตา อตีว พุทฺธมามโก ธมฺมมามโก สงฺฆมามโก จ, ตสฺมา ภิกฺขูนํ อกปฺปิยํ อสหโนฺต, สิกฺขาปทปญฺญตฺติยา จ โอกาสํ กตฺตุกาโม ‘‘สุปยุตฺตานิ เม ทารูนี’’ติ ตุฎฺฐจิโตฺตปิ เอวมาหาติ เวทิตพฺพํฯ อิเมหิ นาม เอวรูเป ฐาเนฯ ‘‘อาคตปทานุรูเปนาติ อเญฺญหิ วา ปเทหิ, อิโต โถกตเรหิ วา อาคตกาเล ตทนุรูปา โยชนา กาตพฺพา’’ติ คณฺฐิปเท วุตฺตํฯ ‘‘น เกวลํ อิมสฺมิํเยว สิกฺขาปเท, อเญฺญสุปิ อาคจฺฉนฺติ, ตสฺมา ตตฺถ ตตฺถ อาคตปทานุรูเปน โยชนา เวทิตพฺพา’’ติ อนุคณฺฐิปเท วุตฺตํฯ อุชฺฌายนโตฺถ อทินฺนสฺสาทินฺนตฺตาว, เต อุชฺฌายิํสุฯ
88. ‘‘Evarūpaṃ vācaṃ bhāsitvā’’ti ca pāṭho. Lomena tvaṃ mutto, mā punapi evarūpamakāsīti idaṃ kiṃ byāpādadīpakaṃ, dārūsupi lobhakkhandhadīpakaṃ vacanaṃ sotāpannassa sato tassa rājassa patirūpaṃ. Nanu nāma ‘‘pubbe kataṃ sukataṃ bhante, vadeyyātha punapi yenattho’’ti pavāretvā atīva pītipāmojjaṃ uppādetabbaṃ tena siyāti? Saccametaṃ sotāpannattā atīva buddhamāmako dhammamāmako saṅghamāmako ca, tasmā bhikkhūnaṃ akappiyaṃ asahanto, sikkhāpadapaññattiyā ca okāsaṃ kattukāmo ‘‘supayuttāni me dārūnī’’ti tuṭṭhacittopi evamāhāti veditabbaṃ. Imehi nāma evarūpe ṭhāne. ‘‘Āgatapadānurūpenāti aññehi vā padehi, ito thokatarehi vā āgatakāle tadanurūpā yojanā kātabbā’’ti gaṇṭhipade vuttaṃ. ‘‘Na kevalaṃ imasmiṃyeva sikkhāpade, aññesupi āgacchanti, tasmā tattha tattha āgatapadānurūpena yojanā veditabbā’’ti anugaṇṭhipade vuttaṃ. Ujjhāyanattho adinnassādinnattāva, te ujjhāyiṃsu.
รุทฺรทามโก นาม รุทฺรทามกาทีหิ อุปฺปาทิโตฯ พาราณสินคราทีสุ เตหิ เตหิ ราชูหิ โปราณสตฺถานุรูปํ ลกฺขณสมฺปนฺนา อุปฺปาทิตา นีลกหาปณาฯ เตสํ กิร ติภาคํ อคฺฆติ รุทฺรทามโก, ตสฺมา ตสฺส ปาโท ถุลฺลจฺจยวตฺถุ โหติฯ มาสโก ปน อิธ อปฺปมาณํฯ กหาปโณ กิญฺจิกาเล อูนวีสติมาสโก โหติ, กิญฺจิ กาเล อติเรกวีสติมาสโกฯ ตสฺมา ตสฺส กหาปณสฺส จตุตฺถภาโค ปญฺจมาสโก วิย อติเรกปญฺจมาสโก วา อูนปญฺจมาสโก วา ปาโทติ เวทิตพฺพํฯ อิมสฺสตฺถสฺส ทีปนตฺถํ ‘‘ตทา ราชคเห วีสติมาสโก กหาปโณ โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ รชตมโย สุวณฺณมโย ตมฺพมโย จ กหาปโณ โหติฯ สุวณฺณภูมิยํ วิย ปาโทปิ ยตฺถ ตมฺพมโยว กโต โหติ, ตตฺถ โสว ปาโทติ อาจริโยฯ ยสฺมา ปาโท เอกนีลกหาปณคฺฆนโก, ตสฺมา ตสฺส ปาทสฺส จตุตฺถภาโคว สิยา ปาโทติ เอเกฯ อิทํ น ยุชฺชติฯ โย จ ตตฺถ ปาทารโห ภโณฺฑ, ตสฺส จตุตฺถภาคเสฺสว ปาราชิกวตฺถุภาวปฺปสงฺคโตฯ ยทิ ปาทารหํ ภณฺฑํ ปาราชิกวตฺถุ, สิทฺธํ ‘‘โสว ปาโท ปจฺฉิมํ ปาราชิกวตฺถู’’ติ ฯ น หิ สพฺพตฺถ ภณฺฑํ คเหตฺวา นีลกหาปณเคฺฆน อคฺฆาเปนฺติฯ ยสฺมา ตสฺส ตเสฺสว กหาปณเคฺฆน อคฺฆาเปนฺติ, ตสฺมา ตสฺส ตสฺส ชนปทสฺส ปาโทว ปาโทติ ตทคฺฆนกเมว ปาทคฺฆนกนฺติ สิทฺธํ, ‘‘โส จ โข โปราณสฺส นีลกหาปณสฺส วเสน, น อิตเรสนฺติ ยตฺถ ปน นีลกหาปณา วฬญฺชํ คจฺฉนฺติ, ตเตฺถวา’’ติ เกจิ วทนฺติ, อุปปริกฺขิตฺวา คเหตพฺพํฯ
Rudradāmako nāma rudradāmakādīhi uppādito. Bārāṇasinagarādīsu tehi tehi rājūhi porāṇasatthānurūpaṃ lakkhaṇasampannā uppāditā nīlakahāpaṇā. Tesaṃ kira tibhāgaṃ agghati rudradāmako, tasmā tassa pādo thullaccayavatthu hoti. Māsako pana idha appamāṇaṃ. Kahāpaṇo kiñcikāle ūnavīsatimāsako hoti, kiñci kāle atirekavīsatimāsako. Tasmā tassa kahāpaṇassa catutthabhāgo pañcamāsako viya atirekapañcamāsako vā ūnapañcamāsako vā pādoti veditabbaṃ. Imassatthassa dīpanatthaṃ ‘‘tadā rājagahe vīsatimāsako kahāpaṇo hotī’’tiādi vuttaṃ. Tattha rajatamayo suvaṇṇamayo tambamayo ca kahāpaṇo hoti. Suvaṇṇabhūmiyaṃ viya pādopi yattha tambamayova kato hoti, tattha sova pādoti ācariyo. Yasmā pādo ekanīlakahāpaṇagghanako, tasmā tassa pādassa catutthabhāgova siyā pādoti eke. Idaṃ na yujjati. Yo ca tattha pādāraho bhaṇḍo, tassa catutthabhāgasseva pārājikavatthubhāvappasaṅgato. Yadi pādārahaṃ bhaṇḍaṃ pārājikavatthu, siddhaṃ ‘‘sova pādo pacchimaṃ pārājikavatthū’’ti . Na hi sabbattha bhaṇḍaṃ gahetvā nīlakahāpaṇagghena agghāpenti. Yasmā tassa tasseva kahāpaṇagghena agghāpenti, tasmā tassa tassa janapadassa pādova pādoti tadagghanakameva pādagghanakanti siddhaṃ, ‘‘so ca kho porāṇassa nīlakahāpaṇassa vasena, na itaresanti yattha pana nīlakahāpaṇā vaḷañjaṃ gacchanti, tatthevā’’ti keci vadanti, upaparikkhitvā gahetabbaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๒. ทุติยปาราชิกํ • 2. Dutiyapārājikaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๒. ทุติยปาราชิกํ • 2. Dutiyapārājikaṃ
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉยวณฺณนา • Pāḷimuttakavinicchayavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉยวณฺณนา • Pāḷimuttakavinicchayavaṇṇanā