Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมานวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Vimānavatthu-aṭṭhakathā

    ๓. ปลฺลงฺกวิมานวณฺณนา

    3. Pallaṅkavimānavaṇṇanā

    ปลฺลงฺกเสเฎฺฐ มณิโสณฺณจิเตฺตติ ปลฺลงฺกวิมานํฯ ตสฺส กา อุปฺปตฺติ? ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเนฯ เตน จ สมเยน สาวตฺถิยํ อญฺญตรสฺส อุปาสกสฺส ธีตา กุลปเทสาทินา สทิสสฺส ตเตฺถว อญฺญตรสฺส กุลปุตฺตสฺส ทินฺนา, สา จ โหติ อโกฺกธนา สีลาจารสมฺปนฺนา ปติเทวตา สมาทินฺนปญฺจสีลา, อุโปสเถ สกฺกจฺจํ อุโปสถสีลานิ จ รกฺขติฯ สา อปรภาเค กาลํ กตฺวา ตาวติํเสสุ อุปฺปชฺชิฯ ตํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลานเตฺถโร เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว คนฺตฺวา –

    Pallaṅkaseṭṭhemaṇisoṇṇacitteti pallaṅkavimānaṃ. Tassa kā uppatti? Bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane. Tena ca samayena sāvatthiyaṃ aññatarassa upāsakassa dhītā kulapadesādinā sadisassa tattheva aññatarassa kulaputtassa dinnā, sā ca hoti akkodhanā sīlācārasampannā patidevatā samādinnapañcasīlā, uposathe sakkaccaṃ uposathasīlāni ca rakkhati. Sā aparabhāge kālaṃ katvā tāvatiṃsesu uppajji. Taṃ āyasmā mahāmoggallānatthero heṭṭhā vuttanayeneva gantvā –

    ๓๐๗.

    307.

    ‘‘ปลฺลงฺกเสเฎฺฐ มณิโสณฺณจิเตฺต, ปุปฺผาภิกิเณฺณ สยเน อุฬาเร;

    ‘‘Pallaṅkaseṭṭhe maṇisoṇṇacitte, pupphābhikiṇṇe sayane uḷāre;

    ตตฺถจฺฉสิ เทวิ มหานุภาเว, อุจฺจาวจา อิทฺธิ วิกุพฺพมานาฯ

    Tatthacchasi devi mahānubhāve, uccāvacā iddhi vikubbamānā.

    ๓๐๘.

    308.

    ‘‘อิมา จ เต อจฺฉราโย สมนฺตโต, นจฺจนฺติ คายนฺติ ปโมทยนฺติ;

    ‘‘Imā ca te accharāyo samantato, naccanti gāyanti pamodayanti;

    เทวิทฺธิปตฺตาสิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุญฺญํ;

    Deviddhipattāsi mahānubhāve, manussabhūtā kimakāsi puññaṃ;

    เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วโณฺณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ –

    Kenāsi evaṃ jalitānubhāvā, vaṇṇo ca te sabbadisā pabhāsatī’’ti. –

    คาถาหิ ปุจฺฉิฯ

    Gāthāhi pucchi.

    สาปิสฺส อิมาหิ คาถาหิ พฺยากาสิ –

    Sāpissa imāhi gāthāhi byākāsi –

    ๓๐๙.

    309.

    ‘‘อหํ มนุเสฺสสุ มนุสฺสภูตา, อเฑฺฒ กุเล สุณิสา อโหสิํ;

    ‘‘Ahaṃ manussesu manussabhūtā, aḍḍhe kule suṇisā ahosiṃ;

    อโกฺกธนา ภตฺตุ วสานุวตฺตินี, อุโปสเถ อปฺปมตฺตา อโหสิํฯ

    Akkodhanā bhattu vasānuvattinī, uposathe appamattā ahosiṃ.

    ๓๑๐.

    310.

    ‘‘มนุสฺสภูตา ทหรา อปาปิกา, ปสนฺนจิตฺตา ปติมาภิราธยิํ;

    ‘‘Manussabhūtā daharā apāpikā, pasannacittā patimābhirādhayiṃ;

    ทิวา จ รโตฺต จ มนาปจารินี, อหํ ปุเร สีลวตี อโหสิํฯ

    Divā ca ratto ca manāpacārinī, ahaṃ pure sīlavatī ahosiṃ.

    ๓๑๑.

    311.

    ‘‘ปาณาติปาตา วิรตา อโจริกา, สํสุทฺธกายา สุจิพฺรหฺมจารินี;

    ‘‘Pāṇātipātā viratā acorikā, saṃsuddhakāyā sucibrahmacārinī;

    อมชฺชปา โน จ มุสา อภาณิํ, สิกฺขาปเทสุ ปริปูรการินีฯ

    Amajjapā no ca musā abhāṇiṃ, sikkhāpadesu paripūrakārinī.

    ๓๑๒.

    312.

    ‘‘จาตุทฺทสิํ ปญฺจทสิํ, ยา จ ปกฺขสฺส อฎฺฐมี;

    ‘‘Cātuddasiṃ pañcadasiṃ, yā ca pakkhassa aṭṭhamī;

    ปาฎิหาริยปกฺขญฺจ, ปสนฺนมานสา อหํฯ

    Pāṭihāriyapakkhañca, pasannamānasā ahaṃ.

    ๓๑๓.

    313.

    ‘‘อฎฺฐงฺคุเปตํ อนุธมฺมจารินี, อุโปสถํ ปีติมนา อุปาวสิํ;

    ‘‘Aṭṭhaṅgupetaṃ anudhammacārinī, uposathaṃ pītimanā upāvasiṃ;

    อิมญฺจ อริยํ อฎฺฐงฺควเรหุเปตํ, สมาทิยิตฺวา กุสลํ สุขุทฺรยํ;

    Imañca ariyaṃ aṭṭhaṅgavarehupetaṃ, samādiyitvā kusalaṃ sukhudrayaṃ;

    ปติมฺหิ กลฺยาณี วสานุวตฺตินี, อโหสิํ ปุเพฺพ สุคตสฺส สาวิกาฯ

    Patimhi kalyāṇī vasānuvattinī, ahosiṃ pubbe sugatassa sāvikā.

    ๓๑๔.

    314.

    ‘‘เอตาทิสํ กุสลํ ชีวโลเก, กมฺมํ กริตฺวาน วิเสสภาคินี;

    ‘‘Etādisaṃ kusalaṃ jīvaloke, kammaṃ karitvāna visesabhāginī;

    กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ, เทวิทฺธิปตฺตา สุคติมฺหิ อาคตาฯ

    Kāyassa bhedā abhisamparāyaṃ, deviddhipattā sugatimhi āgatā.

    ๓๑๕.

    315.

    ‘‘วิมานปาสาทวเร มโนรเม, ปริวาริตา อจฺฉราสงฺคเณน;

    ‘‘Vimānapāsādavare manorame, parivāritā accharāsaṅgaṇena;

    สยํปภา เทวคณา รเมนฺติ มํ, ทีฆายุกิํ เทววิมานมาคต’’นฺติฯ

    Sayaṃpabhā devagaṇā ramenti maṃ, dīghāyukiṃ devavimānamāgata’’nti.

    ๓๐๗. ตตฺถ ปลฺลงฺกเสเฎฺฐติ ปลฺลงฺกวเร อุตฺตมปลฺลเงฺกฯ ตํเยวสฺส เสฎฺฐตํ ทเสฺสตุํ ‘‘มณิโสณฺณจิเตฺต’’ติ วุตฺตํ, วิวิธรตนรํสิชาลสมุชฺชเลหิ มณีหิ เจว สุวเณฺณน จ วิจิเตฺต ‘‘ตตฺถา’’ติ ‘‘สยเน’’ติ จ วุเตฺต สยิตพฺพฎฺฐานภูเต ปลฺลงฺกเสเฎฺฐฯ

    307. Tattha pallaṅkaseṭṭheti pallaṅkavare uttamapallaṅke. Taṃyevassa seṭṭhataṃ dassetuṃ ‘‘maṇisoṇṇacitte’’ti vuttaṃ, vividharatanaraṃsijālasamujjalehi maṇīhi ceva suvaṇṇena ca vicitte ‘‘tatthā’’ti ‘‘sayane’’ti ca vutte sayitabbaṭṭhānabhūte pallaṅkaseṭṭhe.

    ๓๐๘. เตติ ตุยฺหํ สมนฺตโตฯ ‘‘ปโมทยนฺตี’’ติ ปทํ ปน อเปกฺขิตฺวา ‘‘ต’’นฺติ วิภตฺติ วิปริณาเมตพฺพาฯ ปโมทยนฺตีติ วา ปโมทนํ กโรนฺติ, ปโมทนํ ตุยฺหํ อุปฺปาเทนฺตีติ อโตฺถฯ

    308.Teti tuyhaṃ samantato. ‘‘Pamodayantī’’ti padaṃ pana apekkhitvā ‘‘ta’’nti vibhatti vipariṇāmetabbā. Pamodayantīti vā pamodanaṃ karonti, pamodanaṃ tuyhaṃ uppādentīti attho.

    ๓๑๐. ทหรา อปาปิกาติ ทหราปิ อปาปิกาฯ ‘‘ทหราสุ ปาปิกา’’ติ วา ปาโฐ, โสเยวโตฺถฯ ‘‘ทหรสฺสาปาปิกา’’ติปิ ปฐนฺติ, ทหรสฺส สามิกสฺส อปาปิกา, สกฺกจฺจํ อุปฎฺฐาเนน อนติจริยาย จ ภทฺทิกาติ อโตฺถฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ปสนฺนจิตฺตา’’ติอาทิฯ อภิราธยินฺติ อาราเธสิํฯ รโตฺตติ รตฺติยํฯ

    310.Daharā apāpikāti daharāpi apāpikā. ‘‘Daharāsu pāpikā’’ti vā pāṭho, soyevattho. ‘‘Daharassāpāpikā’’tipi paṭhanti, daharassa sāmikassa apāpikā, sakkaccaṃ upaṭṭhānena anaticariyāya ca bhaddikāti attho. Tena vuttaṃ ‘‘pasannacittā’’tiādi. Abhirādhayinti ārādhesiṃ. Rattoti rattiyaṃ.

    ๓๑๑. อโจริกาติ โจริยรหิตา, อทินฺนาทานา ปฎิวิรตาติ อโตฺถฯ ‘‘วิรตา จ โจริยา’’ติปิ ปาโฐ, เถยฺยโต จ วิรตาติ อโตฺถ ฯ สํสุทฺธกายาติ ปริสุทฺธกายกมฺมนฺตตาย สมฺมเทว สุทฺธกายา, ตโต เอว สุจิพฺรหฺมจารินี สามิกโต อญฺญตฺถ อพฺรหฺมจริยาสมฺภวโตฯ ตถา หิ วุตฺตํ –

    311.Acorikāti coriyarahitā, adinnādānā paṭiviratāti attho. ‘‘Viratā ca coriyā’’tipi pāṭho, theyyato ca viratāti attho . Saṃsuddhakāyāti parisuddhakāyakammantatāya sammadeva suddhakāyā, tato eva sucibrahmacārinī sāmikato aññattha abrahmacariyāsambhavato. Tathā hi vuttaṃ –

    ‘‘มยญฺจ ภริยา นาติกฺกมาม,

    ‘‘Mayañca bhariyā nātikkamāma,

    อเมฺหปิ ภริยา นาติกฺกมนฺติ;

    Amhepi bhariyā nātikkamanti;

    อญฺญตฺร ตาหิ พฺรหฺมจริยํ จราม,

    Aññatra tāhi brahmacariyaṃ carāma,

    ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา นิ มิยฺยเร’’ติฯ (ชา. ๑.๑๐.๙๗);

    Tasmā hi amhaṃ daharā ni miyyare’’ti. (jā. 1.10.97);

    อถ วา สุจิพฺรหฺมจารินีติ สุจิโน สุทฺธสฺส พฺรหฺมสฺส เสฎฺฐสฺส อุโปสถสีลสฺส, มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส วา อนุรูปสฺส ปุพฺพภาคพฺรหฺมจริยสฺส วเสน สุจิพฺรหฺมจารินีฯ

    Atha vā sucibrahmacārinīti sucino suddhassa brahmassa seṭṭhassa uposathasīlassa, maggabrahmacariyassa vā anurūpassa pubbabhāgabrahmacariyassa vasena sucibrahmacārinī.

    ๓๑๓. อนุธมฺมจารินีติ อริยานํ ธมฺมสฺส อนุธมฺมํ จรณสีลาฯ อิมญฺจ อนนฺตรํ วุตฺตํ นิโทฺทสตาย อริยํ, อฎฺฐงฺควเรหิ อฎฺฐหิ อุตฺตมเงฺคหิ อริยตฺตา เอว วา อริยฎฺฐงฺควเรหิ อุเปตํ อาโรคฺยเฎฺฐน อนวชฺชเฎฺฐน จ กุสลํ สุขวิปากตาย สุขานิสํสตาย จ สุขุทฺรยํ อุปาวสินฺติ โยชนาฯ

    313.Anudhammacārinīti ariyānaṃ dhammassa anudhammaṃ caraṇasīlā. Imañca anantaraṃ vuttaṃ niddosatāya ariyaṃ, aṭṭhaṅgavarehi aṭṭhahi uttamaṅgehi ariyattā eva vā ariyaṭṭhaṅgavarehi upetaṃ ārogyaṭṭhena anavajjaṭṭhena ca kusalaṃ sukhavipākatāya sukhānisaṃsatāya ca sukhudrayaṃ upāvasinti yojanā.

    ๓๑๔. วิเสสภาคินีติ วิเสสสฺส ทิพฺพสฺส สมฺปตฺติภวสฺส ภาคินีฯ สุคติมฺหิ อาคตาติ สุคติํ อาคตา อุปคตา, สุคติมฺหิ วา สุคติยํ ทิพฺพสมฺปตฺติยํ อาคตาฯ ‘‘สุคติญฺหิ อาคตา’’ติปิ ปาโฐฯ ตตฺถ หีติ นิปาตมตฺตํ, เหตุอโตฺถ วา, ยสฺมา สุคติํ อาคตา, ตสฺมา วิเสสภาคินีติ โยชนาฯ

    314.Visesabhāginīti visesassa dibbassa sampattibhavassa bhāginī. Sugatimhi āgatāti sugatiṃ āgatā upagatā, sugatimhi vā sugatiyaṃ dibbasampattiyaṃ āgatā. ‘‘Sugatiñhi āgatā’’tipi pāṭho. Tattha ti nipātamattaṃ, hetuattho vā, yasmā sugatiṃ āgatā, tasmā visesabhāginīti yojanā.

    ๓๑๕. วิมานปาสาทวเรติ วิมาเนสุ อุตฺตมปาสาเท, วิมานสงฺขาเต วา อคฺคปาสาเท, วิมาเน วา วิคตมาเน อปฺปมาเณ มหเนฺต วรปาสาเท ปริวาริตา อจฺฉราสงฺคเณน สยํปภา ปโมทามิ, ‘‘อมฺหี’’ติ วา ปทํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํฯ ทีฆายุกินฺติ เหฎฺฐิเมหิ เทเวหิ ทีฆตรายุกตาย ตตฺรูปปเนฺนหิ อนปฺปายุกตาย จ ทีฆายุกิํ มํ ยถาวุตฺตํ เทววิมานมาคตํ อุปคตํ เทวคณา รเมนฺตีติ โยชนาฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ

    315.Vimānapāsādavareti vimānesu uttamapāsāde, vimānasaṅkhāte vā aggapāsāde, vimāne vā vigatamāne appamāṇe mahante varapāsāde parivāritā accharāsaṅgaṇena sayaṃpabhā pamodāmi, ‘‘amhī’’ti vā padaṃ ānetvā yojetabbaṃ. Dīghāyukinti heṭṭhimehi devehi dīghatarāyukatāya tatrūpapannehi anappāyukatāya ca dīghāyukiṃ maṃ yathāvuttaṃ devavimānamāgataṃ upagataṃ devagaṇā ramentīti yojanā. Sesaṃ vuttanayameva.

    ปลฺลงฺกวิมานวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Pallaṅkavimānavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / วิมานวตฺถุปาฬิ • Vimānavatthupāḷi / ๓. ปลฺลงฺกวิมานวตฺถุ • 3. Pallaṅkavimānavatthu


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact