Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi |
๒๑๒. ปํสุกูลปริเยสนกถา
212. Paṃsukūlapariyesanakathā
๓๔๑. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู โกสเลสุ ชนปเท อทฺธานมคฺคปฺปฎิปนฺนา โหนฺติฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู สุสานํ โอกฺกมิํสุ ปํสุกูลาย, เอกเจฺจ ภิกฺขู นาคเมสุํฯ เย เต ภิกฺขู สุสานํ โอกฺกมิํสุ ปํสุกูลาย เต ปํสุกูลานิ ลภิํสุฯ เย เต ภิกฺขู นาคเมสุํ เต เอวมาหํสุ – ‘‘อมฺหากมฺปิ, อาวุโส, ภาคํ เทถา’’ติฯ เต เอวมาหํสุ – ‘‘น มยํ, อาวุโส, ตุมฺหากํ ภาคํ ทสฺสามฯ กิสฺส ตุเมฺห นาคมิตฺถา’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นาคเมนฺตานํ นากามา ภาคํ ทาตุนฺติฯ
341. Tena kho pana samayena sambahulā bhikkhū kosalesu janapade addhānamaggappaṭipannā honti. Ekacce bhikkhū susānaṃ okkamiṃsu paṃsukūlāya, ekacce bhikkhū nāgamesuṃ. Ye te bhikkhū susānaṃ okkamiṃsu paṃsukūlāya te paṃsukūlāni labhiṃsu. Ye te bhikkhū nāgamesuṃ te evamāhaṃsu – ‘‘amhākampi, āvuso, bhāgaṃ dethā’’ti. Te evamāhaṃsu – ‘‘na mayaṃ, āvuso, tumhākaṃ bhāgaṃ dassāma. Kissa tumhe nāgamitthā’’ti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, nāgamentānaṃ nākāmā bhāgaṃ dātunti.
เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู โกสเลสุ ชนปเท อทฺธานมคฺคปฺปฎิปนฺนา โหนฺติฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู สุสานํ โอกฺกมิํสุ ปํสุกูลาย, เอกเจฺจ ภิกฺขู อาคเมสุํฯ เย เต ภิกฺขู สุสานํ โอกฺกมิํสุ ปํสุกูลาย เต ปํสุกูลานิ ลภิํสุฯ เย เต ภิกฺขู อาคเมสุํ เต เอวมาหํสุ – ‘‘อมฺหากมฺปิ, อาวุโส, ภาคํ เทถา’’ติฯ เต เอวมาหํสุ – ‘‘น มยํ, อาวุโส, ตุมฺหากํ ภาคํ ทสฺสามฯ กิสฺส ตุเมฺห น โอกฺกมิตฺถา’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาคเมนฺตานํ อกามา ภาคํ ทาตุนฺติฯ
Tena kho pana samayena sambahulā bhikkhū kosalesu janapade addhānamaggappaṭipannā honti. Ekacce bhikkhū susānaṃ okkamiṃsu paṃsukūlāya, ekacce bhikkhū āgamesuṃ. Ye te bhikkhū susānaṃ okkamiṃsu paṃsukūlāya te paṃsukūlāni labhiṃsu. Ye te bhikkhū āgamesuṃ te evamāhaṃsu – ‘‘amhākampi, āvuso, bhāgaṃ dethā’’ti. Te evamāhaṃsu – ‘‘na mayaṃ, āvuso, tumhākaṃ bhāgaṃ dassāma. Kissa tumhe na okkamitthā’’ti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, āgamentānaṃ akāmā bhāgaṃ dātunti.
เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู โกสเลสุ ชนปเท อทฺธานมคฺคปฺปฎิปนฺนา โหนฺติฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู ปฐมํ สุสานํ โอกฺกมิํสุ ปํสุกูลาย, เอกเจฺจ ภิกฺขู ปจฺฉา โอกฺกมิํสุฯ เย เต ภิกฺขู ปฐมํ สุสานํ โอกฺกมิํสุ ปํสุกูลาย เต ปํสุกูลานิ ลภิํสุฯ เย เต ภิกฺขู ปจฺฉา โอกฺกมิํสุ เต น ลภิํสุฯ เต เอวมาหํสุ – ‘‘อมฺหากมฺปิ, อาวุโส , ภาคํ เทถา’’ติฯ เต เอวมาหํสุ – ‘‘น มยํ, อาวุโส, ตุมฺหากํ ภาคํ ทสฺสามฯ กิสฺส ตุเมฺห ปจฺฉา โอกฺกมิตฺถา’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปจฺฉา โอกฺกนฺตานํ นากามา ภาคํ ทาตุนฺติฯ
Tena kho pana samayena sambahulā bhikkhū kosalesu janapade addhānamaggappaṭipannā honti. Ekacce bhikkhū paṭhamaṃ susānaṃ okkamiṃsu paṃsukūlāya, ekacce bhikkhū pacchā okkamiṃsu. Ye te bhikkhū paṭhamaṃ susānaṃ okkamiṃsu paṃsukūlāya te paṃsukūlāni labhiṃsu. Ye te bhikkhū pacchā okkamiṃsu te na labhiṃsu. Te evamāhaṃsu – ‘‘amhākampi, āvuso , bhāgaṃ dethā’’ti. Te evamāhaṃsu – ‘‘na mayaṃ, āvuso, tumhākaṃ bhāgaṃ dassāma. Kissa tumhe pacchā okkamitthā’’ti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, pacchā okkantānaṃ nākāmā bhāgaṃ dātunti.
เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู โกสเลสุ ชนปเท อทฺธานมคฺคปฺปฎิปนฺนา โหนฺติฯ เต สทิสา สุสานํ โอกฺกมิํสุ ปํสุกูลายฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู ปํสุกูลานิ ลภิํสุ, เอกเจฺจ ภิกฺขู น ลภิํสุ ฯ เย เต ภิกฺขู น ลภิํสุ, เต เอวมาหํสุ – ‘‘อมฺหากมฺปิ, อาวุโส, ภาคํ เทถา’’ติฯ เต เอวมาหํสุ – ‘‘น มยํ, อาวุโส, ตุมฺหากํ ภาคํ ทสฺสามฯ กิสฺส ตุเมฺห น ลภิตฺถา’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สทิสานํ โอกฺกนฺตานํ อกามา ภาคํ ทาตุนฺติฯ
Tena kho pana samayena sambahulā bhikkhū kosalesu janapade addhānamaggappaṭipannā honti. Te sadisā susānaṃ okkamiṃsu paṃsukūlāya. Ekacce bhikkhū paṃsukūlāni labhiṃsu, ekacce bhikkhū na labhiṃsu . Ye te bhikkhū na labhiṃsu, te evamāhaṃsu – ‘‘amhākampi, āvuso, bhāgaṃ dethā’’ti. Te evamāhaṃsu – ‘‘na mayaṃ, āvuso, tumhākaṃ bhāgaṃ dassāma. Kissa tumhe na labhitthā’’ti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, sadisānaṃ okkantānaṃ akāmā bhāgaṃ dātunti.
เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู โกสเลสุ ชนปเท อทฺธานมคฺคปฺปฎิปนฺนา โหนฺติฯ เต กติกํ กตฺวา สุสานํ โอกฺกมิํสุ ปํสุกูลายฯ เอกเจฺจ ภิกฺขู ปํสุกูลานิ ลภิํสุ, เอกเจฺจ ภิกฺขู น ลภิํสุฯ เย เต ภิกฺขู น ลภิํสุ เต เอวมาหํสุ – ‘‘อมฺหากมฺปิ, อาวุโส, ภาคํ เทถา’’ติฯ เต เอวมาหํสุ – ‘‘น มยํ, อาวุโส, ตุมฺหากํ ภาคํ ทสฺสามฯ กิสฺส ตุเมฺห น ลภิตฺถา’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กติกํ กตฺวา โอกฺกนฺตานํ อกามา ภาคํ ทาตุนฺติฯ
Tena kho pana samayena sambahulā bhikkhū kosalesu janapade addhānamaggappaṭipannā honti. Te katikaṃ katvā susānaṃ okkamiṃsu paṃsukūlāya. Ekacce bhikkhū paṃsukūlāni labhiṃsu, ekacce bhikkhū na labhiṃsu. Ye te bhikkhū na labhiṃsu te evamāhaṃsu – ‘‘amhākampi, āvuso, bhāgaṃ dethā’’ti. Te evamāhaṃsu – ‘‘na mayaṃ, āvuso, tumhākaṃ bhāgaṃ dassāma. Kissa tumhe na labhitthā’’ti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, katikaṃ katvā okkantānaṃ akāmā bhāgaṃ dātunti.
ปํสุกูลปริเยสนกถา นิฎฺฐิตาฯ
Paṃsukūlapariyesanakathā niṭṭhitā.
Related texts:
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ชีวกวตฺถุกถาทิวณฺณนา • Jīvakavatthukathādivaṇṇanā