Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi

    ๒๖. ปญฺจาพาธวตฺถุ

    26. Pañcābādhavatthu

    ๘๘. เตน โข ปน สมเยน มคเธสุ ปญฺจ อาพาธา อุสฺสนฺนา โหนฺติ – กุฎฺฐํ, คโณฺฑ, กิลาโส, โสโส, อปมาโรฯ มนุสฺสา ปญฺจหิ อาพาเธหิ ผุฎฺฐา ชีวกํ โกมารภจฺจํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทนฺติ – ‘‘สาธุ โน, อาจริย, ติกิจฺฉาหี’’ติฯ ‘‘อหํ ขฺวโยฺย, พหุกิโจฺจ พหุกรณีโย; ราชา จ เม มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อุปฎฺฐาตโพฺพ อิตฺถาคารญฺจ พุทฺธปฺปมุโข จ ภิกฺขุสโงฺฆ; นาหํ สโกฺกมิ ติกิจฺฉิตุ’’นฺติฯ ‘‘สพฺพํ สาปเตยฺยญฺจ เต, อาจริย, โหตุ; มยญฺจ เต ทาสา; สาธุ, โน, อาจริย, ติกิจฺฉาหี’’ติฯ ‘‘อหํ ขฺวโยฺย, พหุกิโจฺจ พหุกรณีโย ราชา จ เม มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อุปฎฺฐาตโพฺพ อิตฺถาคารญฺจ พุทฺธปฺปมุโข จ ภิกฺขุสโงฺฆ; นาหํ สโกฺกมิ ติกิจฺฉิตุ’’นฺติฯ อถ โข เตสํ มนุสฺสานํ เอตทโหสิ – ‘‘อิเม โข สมณา สกฺยปุตฺติยา สุขสีลา สุขสมาจารา, สุโภชนานิ ภุญฺชิตฺวา นิวาเตสุ สยเนสุ สยนฺติฯ ยํนูน มยํ สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพเชยฺยามฯ ตตฺถ ภิกฺขู เจว อุปฎฺฐหิสฺสนฺติ, ชีวโก จ โกมารภโจฺจ ติกิจฺฉิสฺสตี’’ติ ฯ อถ โข เต มนุสฺสา ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิํสุฯ เต ภิกฺขู ปพฺพาเชสุํ, อุปสมฺปาเทสุํฯ เต ภิกฺขู เจว อุปฎฺฐหิํสุ ชีวโก จ โกมารภโจฺจ ติกิจฺฉิฯ เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู พหู คิลาเน ภิกฺขู อุปฎฺฐหนฺตา ยาจนพหุลา วิญฺญตฺติพหุลา วิหรนฺติ – คิลานภตฺตํ เทถ, คิลานุปฎฺฐากภตฺตํ เทถ, คิลานเภสชฺชํ เทถาติฯ ชีวโกปิ โกมารภโจฺจ พหู คิลาเน ภิกฺขู ติกิจฺฉโนฺต อญฺญตรํ ราชกิจฺจํ ปริหาเปสิฯ

    88. Tena kho pana samayena magadhesu pañca ābādhā ussannā honti – kuṭṭhaṃ, gaṇḍo, kilāso, soso, apamāro. Manussā pañcahi ābādhehi phuṭṭhā jīvakaṃ komārabhaccaṃ upasaṅkamitvā evaṃ vadanti – ‘‘sādhu no, ācariya, tikicchāhī’’ti. ‘‘Ahaṃ khvayyo, bahukicco bahukaraṇīyo; rājā ca me māgadho seniyo bimbisāro upaṭṭhātabbo itthāgārañca buddhappamukho ca bhikkhusaṅgho; nāhaṃ sakkomi tikicchitu’’nti. ‘‘Sabbaṃ sāpateyyañca te, ācariya, hotu; mayañca te dāsā; sādhu, no, ācariya, tikicchāhī’’ti. ‘‘Ahaṃ khvayyo, bahukicco bahukaraṇīyo rājā ca me māgadho seniyo bimbisāro upaṭṭhātabbo itthāgārañca buddhappamukho ca bhikkhusaṅgho; nāhaṃ sakkomi tikicchitu’’nti. Atha kho tesaṃ manussānaṃ etadahosi – ‘‘ime kho samaṇā sakyaputtiyā sukhasīlā sukhasamācārā, subhojanāni bhuñjitvā nivātesu sayanesu sayanti. Yaṃnūna mayaṃ samaṇesu sakyaputtiyesu pabbajeyyāma. Tattha bhikkhū ceva upaṭṭhahissanti, jīvako ca komārabhacco tikicchissatī’’ti . Atha kho te manussā bhikkhū upasaṅkamitvā pabbajjaṃ yāciṃsu. Te bhikkhū pabbājesuṃ, upasampādesuṃ. Te bhikkhū ceva upaṭṭhahiṃsu jīvako ca komārabhacco tikicchi. Tena kho pana samayena bhikkhū bahū gilāne bhikkhū upaṭṭhahantā yācanabahulā viññattibahulā viharanti – gilānabhattaṃ detha, gilānupaṭṭhākabhattaṃ detha, gilānabhesajjaṃ dethāti. Jīvakopi komārabhacco bahū gilāne bhikkhū tikicchanto aññataraṃ rājakiccaṃ parihāpesi.

    ๘๙. อญฺญตโรปิ ปุริโส ปญฺจหิ อาพาเธหิ ผุโฎฺฐ ชีวกํ โกมารภจฺจํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจ – ‘‘สาธุ มํ, อาจริย, ติกิจฺฉาหี’’ติฯ ‘‘อหํ ขฺวโยฺย, พหุกิโจฺจ, พหุกรณีโย, ราชา จ เม มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อุปฎฺฐาตโพฺพ อิตฺถาคารญฺจ พุทฺธปฺปมุโข จ ภิกฺขุสโงฺฆ; นาหํ สโกฺกมิ ติกิจฺฉิตุ’’นฺติฯ ‘‘สพฺพํ สาปเตยฺยญฺจ เต, อาจริย, โหตุ, อหญฺจ เต ทาโส; สาธุ มํ, อาจริย, ติกิจฺฉาหี’’ติฯ ‘‘อหํ ขฺวโยฺย, พหุกิโจฺจ พหุกรณีโย, ราชา จ เม มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อุปฎฺฐาตโพฺพ อิตฺถาคารญฺจ พุทฺธปฺปมุโข จ ภิกฺขุสโงฺฆ, นาหํ สโกฺกมิ ติกิจฺฉิตุ’’นฺติฯ อถ โข ตสฺส ปุริสสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม โข สมณา สกฺยปุตฺติยา สุขสีลา สุขสมาจารา, สุโภชนานิ ภุญฺชิตฺวา นิวาเตสุ สยเนสุ สยนฺติฯ ยํนูนาหํ สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพเชยฺยํฯ ตตฺถ ภิกฺขู เจว อุปฎฺฐหิสฺสนฺติ, ชีวโก จ โกมารภโจฺจ ติกิจฺฉิสฺสติฯ โสมฺหิ 1 อโรโค วิพฺภมิสฺสามี’’ติ ฯ อถ โข โส ปุริโส ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิฯ ตํ ภิกฺขู ปพฺพาเชสุํ, อุปสมฺปาเทสุํฯ ตํ ภิกฺขู เจว อุปฎฺฐหิํสุ, ชีวโก จ โกมารภโจฺจ ติกิจฺฉิฯ โส อโรโค วิพฺภมิฯ อทฺทสา โข ชีวโก โกมารภโจฺจ ตํ ปุริสํ วิพฺภนฺตํ, ทิสฺวาน ตํ ปุริสํ เอตทโวจ – ‘‘นนุ ตฺวํ, อโยฺย, ภิกฺขูสุ ปพฺพชิโต อโหสี’’ติ? ‘‘เอวํ, อาจริยา’’ติฯ ‘‘กิสฺส ปน ตฺวํ, อโยฺย, เอวรูปมกาสี’’ติ? อถ โข โส ปุริโส ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ชีวโก โกมารภโจฺจ อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภทนฺตา 2 ปญฺจหิ อาพาเธหิ ผุฎฺฐํ ปพฺพาเชสฺสนฺตี’’ติฯ อถ โข ชีวโก โกมารภโจฺจ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข ชีวโก โกมารภโจฺจ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ, ภเนฺต, อยฺยา ปญฺจหิ อาพาเธหิ ผุฎฺฐํ น ปพฺพาเชยฺยุ’’นฺติฯ อถ โข ภควา ชีวกํ โกมารภจฺจํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข ชีวโก โกมารภโจฺจ ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุเตฺตชิโต สมฺปหํสิโต อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ อาพาเธหิ ผุโฎฺฐ ปพฺพาเชตโพฺพฯ โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    89. Aññataropi puriso pañcahi ābādhehi phuṭṭho jīvakaṃ komārabhaccaṃ upasaṅkamitvā etadavoca – ‘‘sādhu maṃ, ācariya, tikicchāhī’’ti. ‘‘Ahaṃ khvayyo, bahukicco, bahukaraṇīyo, rājā ca me māgadho seniyo bimbisāro upaṭṭhātabbo itthāgārañca buddhappamukho ca bhikkhusaṅgho; nāhaṃ sakkomi tikicchitu’’nti. ‘‘Sabbaṃ sāpateyyañca te, ācariya, hotu, ahañca te dāso; sādhu maṃ, ācariya, tikicchāhī’’ti. ‘‘Ahaṃ khvayyo, bahukicco bahukaraṇīyo, rājā ca me māgadho seniyo bimbisāro upaṭṭhātabbo itthāgārañca buddhappamukho ca bhikkhusaṅgho, nāhaṃ sakkomi tikicchitu’’nti. Atha kho tassa purisassa etadahosi – ‘‘ime kho samaṇā sakyaputtiyā sukhasīlā sukhasamācārā, subhojanāni bhuñjitvā nivātesu sayanesu sayanti. Yaṃnūnāhaṃ samaṇesu sakyaputtiyesu pabbajeyyaṃ. Tattha bhikkhū ceva upaṭṭhahissanti, jīvako ca komārabhacco tikicchissati. Somhi 3 arogo vibbhamissāmī’’ti . Atha kho so puriso bhikkhu upasaṅkamitvā pabbajjaṃ yāci. Taṃ bhikkhū pabbājesuṃ, upasampādesuṃ. Taṃ bhikkhū ceva upaṭṭhahiṃsu, jīvako ca komārabhacco tikicchi. So arogo vibbhami. Addasā kho jīvako komārabhacco taṃ purisaṃ vibbhantaṃ, disvāna taṃ purisaṃ etadavoca – ‘‘nanu tvaṃ, ayyo, bhikkhūsu pabbajito ahosī’’ti? ‘‘Evaṃ, ācariyā’’ti. ‘‘Kissa pana tvaṃ, ayyo, evarūpamakāsī’’ti? Atha kho so puriso jīvakassa komārabhaccassa etamatthaṃ ārocesi. Jīvako komārabhacco ujjhāyati khiyyati vipāceti – ‘‘kathañhi nāma bhadantā 4 pañcahi ābādhehi phuṭṭhaṃ pabbājessantī’’ti. Atha kho jīvako komārabhacco yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho jīvako komārabhacco bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘sādhu, bhante, ayyā pañcahi ābādhehi phuṭṭhaṃ na pabbājeyyu’’nti. Atha kho bhagavā jīvakaṃ komārabhaccaṃ dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi. Atha kho jīvako komārabhacco bhagavatā dhammiyā kathāya sandassito samādapito samuttejito sampahaṃsito uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkāmi. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘na, bhikkhave, pañcahi ābādhehi phuṭṭho pabbājetabbo. Yo pabbājeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    ปญฺจาพาธวตฺถุ นิฎฺฐิตํฯ

    Pañcābādhavatthu niṭṭhitaṃ.







    Footnotes:
    1. โสหํ (พหูสุ, วิมติวิโนทนีฎีกา โอโลเกตพฺพา)
    2. ภทฺทนฺตา (ก.)
    3. sohaṃ (bahūsu, vimativinodanīṭīkā oloketabbā)
    4. bhaddantā (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / ปญฺจาพาธวตฺถุกถา • Pañcābādhavatthukathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ปญฺจาพาธวตฺถุกถาวณฺณนา • Pañcābādhavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ปญฺจาพาธวตฺถุกถาวณฺณนา • Pañcābādhavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ปญฺจาพาธวตฺถุกถาวณฺณนา • Pañcābādhavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒๖. ปญฺจาพาธวตฺถุกถา • 26. Pañcābādhavatthukathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact