Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā |
๖. เภสชฺชกฺขนฺธกํ
6. Bhesajjakkhandhakaṃ
ปญฺจเภสชฺชาทิกถา
Pañcabhesajjādikathā
๒๖๐. เภสชฺชกฺขนฺธเก – สารทิเกน อาพาเธนาติ สรทกาเล อุปฺปเนฺนน ปิตฺตาพาเธน, ตสฺมิญฺหิ กาเล วโสฺสทเกนปิ เตเมนฺติ, กทฺทมมฺปิ มทฺทนฺติ, อนฺตรนฺตรา อาตโปปิ ขโร โหติ, เตน เตสํ ปิตฺตํ โกฎฺฐพฺภนฺตรคตํ โหติฯ อาหารตฺถญฺจ ผเรยฺยาติ อาหารตฺถํ สาเธยฺยฯ
260. Bhesajjakkhandhake – sāradikena ābādhenāti saradakāle uppannena pittābādhena, tasmiñhi kāle vassodakenapi tementi, kaddamampi maddanti, antarantarā ātapopi kharo hoti, tena tesaṃ pittaṃ koṭṭhabbhantaragataṃ hoti. Āhāratthañca phareyyāti āhāratthaṃ sādheyya.
๒๖๑. นจฺฉาเทนฺตีติ น ชิรนฺติ, น วาตโรคํ ปฎิปฺปสฺสเมฺภตุํ สโกฺกนฺติฯ เสเนสิตานีติ สินิทฺธานิฯ ภตฺตาจฺฉาทเกนาติ ภตฺตํ อโรจิเกนฯ
261.Nacchādentīti na jiranti, na vātarogaṃ paṭippassambhetuṃ sakkonti. Senesitānīti siniddhāni. Bhattācchādakenāti bhattaṃ arocikena.
๒๖๒. อจฺฉวสนฺติอาทีสุ นิสฺสคฺคิยวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพฯ กาเล ปฎิคฺคหิตนฺติอาทีสุ มชฺฌนฺหิเก อวีติวเตฺต ปฎิคฺคเหตฺวา ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา จาติ อโตฺถฯ เตลปริโภเคน ปริภุญฺชิตุนฺติ สตฺตาหกาลิกเตลปริโภเคน ปริภุญฺชิตุํฯ
262.Acchavasantiādīsu nissaggiyavaṇṇanāyaṃ vuttanayeneva vinicchayo veditabbo. Kāle paṭiggahitantiādīsu majjhanhike avītivatte paṭiggahetvā pacitvā parissāvetvā cāti attho. Telaparibhogenaparibhuñjitunti sattāhakālikatelaparibhogena paribhuñjituṃ.
๒๖๓. มูลเภสชฺชาทิ วินิจฺฉโยปิ ขุทฺทกวณฺณนายํ วุโตฺตเยวฯ ตสฺมา อิธ ยํ ยํ ปุเพฺพ อวุตฺตํ ตํ ตเทว วณฺณยิสฺสามฯ วจตฺตนฺติ เสตวจํฯ นิสทํ นิสทโปตกนฺติ ปิสนสิลา จ ปิสนโปโต จฯ ผคฺควนฺติ ลตาชาติฯ นตฺตมาลนฺติ กรญฺชํฯ หิงฺคุหิงฺคุชตุหิงฺคุสิปาฎิกา หิงฺคุชาติโยเยวฯ ตกตกปตฺติตกปณฺณิโย ลาขาชาติโยฯ
263.Mūlabhesajjādi vinicchayopi khuddakavaṇṇanāyaṃ vuttoyeva. Tasmā idha yaṃ yaṃ pubbe avuttaṃ taṃ tadeva vaṇṇayissāma. Vacattanti setavacaṃ. Nisadaṃ nisadapotakanti pisanasilā ca pisanapoto ca. Phaggavanti latājāti. Nattamālanti karañjaṃ. Hiṅguhiṅgujatuhiṅgusipāṭikā hiṅgujātiyoyeva. Takatakapattitakapaṇṇiyo lākhājātiyo.
สามุทฺทนฺติ สมุทฺทตีเร วาลุกา วิย สนฺติฎฺฐติฯ กาฬโลณนฺติ ปกติโลณํฯ สินฺธวนฺติ เสตวณฺณํ ปพฺพเต อุฎฺฐหติฯ อุพฺภิทนฺติ ภูมิโต องฺกุรํ อุฎฺฐหติฯ พิลนฺติ ทพฺพสมฺภาเรหิ สทฺธิํ ปจิตํ, ตํ รตฺตวณฺณํฯ
Sāmuddanti samuddatīre vālukā viya santiṭṭhati. Kāḷaloṇanti pakatiloṇaṃ. Sindhavanti setavaṇṇaṃ pabbate uṭṭhahati. Ubbhidanti bhūmito aṅkuraṃ uṭṭhahati. Bilanti dabbasambhārehi saddhiṃ pacitaṃ, taṃ rattavaṇṇaṃ.
๒๖๔-๖. กาโย วา ทุคฺคโนฺธติ กสฺสจิ อสฺสาทีนํ วิย กายคโนฺธ โหติ, ตสฺสาปิ สิรีสโกสุมฺพาทิจุณฺณานิ วา คนฺธจุณฺณานิ วา สพฺพานิ วฎฺฎนฺติฯ ฉกณนฺติ โคมยํฯ รชนนิปฺปกฺกนฺติ รชนกสฎํฯ ปากติกจุณฺณมฺปิ โกเฎฺฎตฺวา อุทเกน เตเมตฺวา นฺหายิตุํ วฎฺฎติ; เอตมฺปิ รชนนิปฺปกฺกสเงฺขปเมว คจฺฉติฯ
264-6.Kāyo vā duggandhoti kassaci assādīnaṃ viya kāyagandho hoti, tassāpi sirīsakosumbādicuṇṇāni vā gandhacuṇṇāni vā sabbāni vaṭṭanti. Chakaṇanti gomayaṃ. Rajananippakkanti rajanakasaṭaṃ. Pākatikacuṇṇampi koṭṭetvā udakena temetvā nhāyituṃ vaṭṭati; etampi rajananippakkasaṅkhepameva gacchati.
อามกมํสญฺจ ขาทิ อามกโลหิตญฺจ ปิวีติ น ตํ ภิกฺขุ ขาทิ น ปิวิ, อมนุโสฺส ขาทิตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปกฺกโนฺต, เตน วุตฺตํ – ‘‘ตสฺส โส อมนุสฺสิกาพาโธ ปฎิปฺปสฺสมฺภี’’ติฯ
Āmakamaṃsañcakhādi āmakalohitañca pivīti na taṃ bhikkhu khādi na pivi, amanusso khāditvā ca pivitvā ca pakkanto, tena vuttaṃ – ‘‘tassa so amanussikābādho paṭippassambhī’’ti.
อญฺชนนฺติ สพฺพสงฺคาหิกวจนเมตํฯ กาฬฺญฺชนนฺติ เอกา อญฺชนชาติฯ รสญฺชนํ นานาสมฺภาเรหิ กตํฯ โสตญฺชนนฺติ นทีโสตาทีสุ อุปฺปชฺชนกํ อญฺชนํฯ เครุโก นาม สุวณฺณเครุโกฯ กปลฺลนฺติ ทีปสิขโต คหิตมสิฯ อญฺชนูปปิํสเนหีติ อญฺชเนน สทฺธิํ เอกโต ปิํสิตเพฺพหิ, น หิ กิญฺจิ อญฺญนูปปิํสนํ น วฎฺฎติฯ จนฺทนนฺติ โลหิตจนฺทนาทิกํ ยํกิญฺจิฯ ตคราทีนิ ปากฎานิ, อญฺญานิปิ นีลุปฺปลาทีนิ วฎฺฎนฺติเยวฯ
Añjananti sabbasaṅgāhikavacanametaṃ. Kāḷñjananti ekā añjanajāti. Rasañjanaṃ nānāsambhārehi kataṃ. Sotañjananti nadīsotādīsu uppajjanakaṃ añjanaṃ. Geruko nāma suvaṇṇageruko. Kapallanti dīpasikhato gahitamasi. Añjanūpapiṃsanehīti añjanena saddhiṃ ekato piṃsitabbehi, na hi kiñci aññanūpapiṃsanaṃ na vaṭṭati. Candananti lohitacandanādikaṃ yaṃkiñci. Tagarādīni pākaṭāni, aññānipi nīluppalādīni vaṭṭantiyeva.
อฎฺฐิมยนฺติ มนุสฺสฎฺฐิํ ฐเปตฺวา อวเสสอฎฺฐิมยํฯ ทนฺตมยนฺติ หตฺถิทนฺตาทิสพฺพทนฺตมยํฯ วิสาณมเยปิ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ, นฬมยาทโย เอกนฺตกปฺปิยาเยวฯ สลากฎฺฐานิยนฺติ ยตฺถ สลากํ โอทหนฺติ, ตํ สุสิรทณฺฑกํ วา ถวิกํ วา อนุชานามีติ อโตฺถฯ อํสพทฺธโกติ อญฺชนิตฺถวิกาย อํสพทฺธโกฯ ยมกนตฺถุกรณินฺติ สมโสตาหิ ทฺวีหิ ปนาฬิกาหิ เอกํ นตฺถุกรณิํฯ
Aṭṭhimayanti manussaṭṭhiṃ ṭhapetvā avasesaaṭṭhimayaṃ. Dantamayanti hatthidantādisabbadantamayaṃ. Visāṇamayepi akappiyaṃ nāma natthi, naḷamayādayo ekantakappiyāyeva. Salākaṭṭhāniyanti yattha salākaṃ odahanti, taṃ susiradaṇḍakaṃ vā thavikaṃ vā anujānāmīti attho. Aṃsabaddhakoti añjanitthavikāya aṃsabaddhako. Yamakanatthukaraṇinti samasotāhi dvīhi panāḷikāhi ekaṃ natthukaraṇiṃ.
๒๖๗. อนุชานามิ ภิกฺขเว เตลปากนฺติ ยํกิญฺจิ เภสชฺชปกฺขิตฺตํ สพฺพํ อนุญฺญาตเมว โหติฯ อติปกฺขิตฺตมชฺชานีติ อติวิย ขิตฺตมชฺชานิ; พหุํ มชฺชํ ปกฺขิปิตฺวา โยชิตานีติ อโตฺถฯ
267.Anujānāmi bhikkhave telapākanti yaṃkiñci bhesajjapakkhittaṃ sabbaṃ anuññātameva hoti. Atipakkhittamajjānīti ativiya khittamajjāni; bahuṃ majjaṃ pakkhipitvā yojitānīti attho.
องฺควาโตติ หตฺถปาเท วาโตฯ สมฺภารเสทนฺติ นานาวิธปณฺณภงฺคเสทํฯ มหาเสทนฺติ มหนฺตํ เสทํ; โปริสปฺปมาณํ อาวาฎํ องฺคารานํ ปูเรตฺวา ปํสุวาลิกาทีหิ ปิทหิตฺวา ตตฺถ นานาวิธานิ วาตหรณปณฺณานิ สนฺถริตฺวา เตลมกฺขิเตน คเตฺตน ตตฺถ นิปชฺชิตฺวา สมฺปริวตฺตเนฺตน สรีรํ เสเทตุํ อนุชานามีติ อโตฺถฯ ภโงฺคทกนฺติ นานาปณฺณภงฺคกุถิตํ อุทกํ; เตหิ ปเณฺณหิ จ อุทเกน จ สิญฺจิตฺวา สิญฺจิตฺวา เสเทตโพฺพฯ อุทกโกฎฺฐกนฺติ อุทกโกเฎฺฐ จาฎิํ วา โทณิํ วา อุโณฺหทกสฺส ปูเรตฺวา ตตฺถ ปวิสิตฺวา เสทกมฺมกรณํ อนุชานามีติ อโตฺถฯ
Aṅgavātoti hatthapāde vāto. Sambhārasedanti nānāvidhapaṇṇabhaṅgasedaṃ. Mahāsedanti mahantaṃ sedaṃ; porisappamāṇaṃ āvāṭaṃ aṅgārānaṃ pūretvā paṃsuvālikādīhi pidahitvā tattha nānāvidhāni vātaharaṇapaṇṇāni santharitvā telamakkhitena gattena tattha nipajjitvā samparivattantena sarīraṃ sedetuṃ anujānāmīti attho. Bhaṅgodakanti nānāpaṇṇabhaṅgakuthitaṃ udakaṃ; tehi paṇṇehi ca udakena ca siñcitvā siñcitvā sedetabbo. Udakakoṭṭhakanti udakakoṭṭhe cāṭiṃ vā doṇiṃ vā uṇhodakassa pūretvā tattha pavisitvā sedakammakaraṇaṃ anujānāmīti attho.
ปพฺพวาโต โหตีติ ปเพฺพ ปเพฺพ วาโต วิชฺฌติฯ โลหิตํ โมเจตุนฺติ สตฺถเกน โลหิตํ โมเจตุํฯ ปชฺชํ อภิสงฺขริตุนฺติ เยน ผาลิตปาทา ปากติกา โหนฺติ; ตํ นาฬิเกราทีสุ นานาเภสชฺชานิ ปกฺขิปิตฺวา ปชฺชํ อภิสงฺขริตุํ; ปาทานํ สปฺปายเภสชฺชํ ปจิตุนฺติ อโตฺถฯ ติลกเกฺกน อโตฺถติ ปิเฎฺฐหิ ติเลหิ อโตฺถฯ กพฬิกนฺติ วณมุเข สตฺตุปิณฺฑํ ปกฺขิปิตุํฯ สาสปกุเฑฺฑนาติ สาสปปิเฎฺฐนฯ วฑฺฒมํสนฺติ อธิกมํสํ อาณิ วิย อุฎฺฐหติฯ โลณสกฺขริกาย ฉินฺทิตุนฺติ ขุเรน ฉินฺทิตุํฯ วิกาสิกนฺติ เตลรุนฺธนปิโลติกํฯ สพฺพํ วณปฎิกมฺมนฺติ ยํกิญฺจิ วณปริกมฺมํ นาม อตฺถิ; สพฺพํ อนุชานามีติ อโตฺถฯ
Pabbavātohotīti pabbe pabbe vāto vijjhati. Lohitaṃ mocetunti satthakena lohitaṃ mocetuṃ. Pajjaṃ abhisaṅkharitunti yena phālitapādā pākatikā honti; taṃ nāḷikerādīsu nānābhesajjāni pakkhipitvā pajjaṃ abhisaṅkharituṃ; pādānaṃ sappāyabhesajjaṃ pacitunti attho. Tilakakkena atthoti piṭṭhehi tilehi attho. Kabaḷikanti vaṇamukhe sattupiṇḍaṃ pakkhipituṃ. Sāsapakuḍḍenāti sāsapapiṭṭhena. Vaḍḍhamaṃsanti adhikamaṃsaṃ āṇi viya uṭṭhahati. Loṇasakkharikāya chinditunti khurena chindituṃ. Vikāsikanti telarundhanapilotikaṃ. Sabbaṃ vaṇapaṭikammanti yaṃkiñci vaṇaparikammaṃ nāma atthi; sabbaṃ anujānāmīti attho.
๒๖๘. สามํ คเหตฺวาติ อิทํ น เกวลํ สปฺปทฎฺฐเสฺสว, อญฺญสฺมิมฺปิ ทฎฺฐวิเส สติ สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตพฺพํ; อเญฺญสุ ปน การเณสุ ปฎิคฺคหิตเมว วฎฺฎติฯ กโต น ปุน ปฎิคฺคเหตโพฺพติ สเจ ภูมิปฺปโตฺต, ปฎิคฺคเหตโพฺพ; อปฺปตฺตํ ปน คเหตุํ วฎฺฎติฯ
268.Sāmaṃ gahetvāti idaṃ na kevalaṃ sappadaṭṭhasseva, aññasmimpi daṭṭhavise sati sāmaṃ gahetvā paribhuñjitabbaṃ; aññesu pana kāraṇesu paṭiggahitameva vaṭṭati. Kato na puna paṭiggahetabboti sace bhūmippatto, paṭiggahetabbo; appattaṃ pana gahetuṃ vaṭṭati.
๒๖๙. ฆรทินฺนกาพาโธติ วสีกรณปานกสมุฎฺฐิตโรโคฯ สีตาโลฬินฺติ นงฺคเลน กสนฺตสฺส ผาเล ลคฺคมตฺติกํ อุทเกน อาโลเฬตฺวา ปาเยตุํ อนุชานามีติ อโตฺถฯ
269.Gharadinnakābādhoti vasīkaraṇapānakasamuṭṭhitarogo. Sītāloḷinti naṅgalena kasantassa phāle laggamattikaṃ udakena āloḷetvā pāyetuṃ anujānāmīti attho.
ทุฎฺฐคหณิโกติ วิปนฺนคหณิโก; กิเจฺฉน อุจฺจาโร นิกฺขมตีติ อโตฺถฯ อามิสขารนฺติ สุโกฺขทนํ ฌาเปตฺวา ตาย ฉาริกาย ปคฺฆริตํ ขาโรทกํฯ มุตฺตหรีตกนฺติ โคมุตฺตปริภาวิตํ หรีตกํฯ อภิสนฺนกาโยติ อุสฺสนฺนโทสกาโยฯ อจฺฉกญฺชิยนฺติ ตณฺฑุโลทกมโณฺฑฯ อกฎยุสนฺติ อสินิโทฺธ มุคฺคปจิตปานีโยฯ กฎากฎนฺติ โสว โธตสินิโทฺธฯ ปฎิจฺฉาทนีเยนาติ มํสรเสนฯ
Duṭṭhagahaṇikoti vipannagahaṇiko; kicchena uccāro nikkhamatīti attho. Āmisakhāranti sukkhodanaṃ jhāpetvā tāya chārikāya paggharitaṃ khārodakaṃ. Muttaharītakanti gomuttaparibhāvitaṃ harītakaṃ. Abhisannakāyoti ussannadosakāyo. Acchakañjiyanti taṇḍulodakamaṇḍo. Akaṭayusanti asiniddho muggapacitapānīyo. Kaṭākaṭanti sova dhotasiniddho. Paṭicchādanīyenāti maṃsarasena.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi
๑๖๐. ปญฺจเภสชฺชกถา • 160. Pañcabhesajjakathā
๑๖๑. มูลาทิเภสชฺชกถา • 161. Mūlādibhesajjakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ปญฺจเภสชฺชาทิกถาวณฺณนา • Pañcabhesajjādikathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ปญฺจเภสชฺชาทิกถาวณฺณนา • Pañcabhesajjādikathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ปญฺจเภสชฺชาทิกถาวณฺณนา • Pañcabhesajjādikathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi
๑๖๐. ปญฺจเภสชฺชาทิกถา • 160. Pañcabhesajjādikathā
๑๖๑. มูลาทิเภสชฺชกถา • 161. Mūlādibhesajjakathā