Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๙. ปญฺจกงฺคสุตฺตํ
9. Pañcakaṅgasuttaṃ
๒๖๗. อถ โข ปญฺจกโงฺค ถปติ เยนายสฺมา อุทายี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อุทายิํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข ปญฺจกโงฺค ถปติ อายสฺมนฺตํ อุทายิํ เอตทโวจ – ‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต อุทายิ, เวทนา วุตฺตา ภควตา’’ติ? ‘‘ติโสฺส โข, ถปติ, เวทนา วุตฺตา ภควตาฯ สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา – อิมา โข, ถปติ, ติโสฺส เวทนา วุตฺตา ภควตา’’ติฯ เอวํ วุเตฺต, ปญฺจกโงฺค ถปติ อายสฺมนฺตํ อุทายิํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, ภเนฺต อุทายิ, ติโสฺส เวทนา วุตฺตา ภควตาฯ เทฺว เวทนา วุตฺตา ภควตา – สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนาฯ ยายํ, ภเนฺต, อทุกฺขมสุขา เวทนา, สนฺตสฺมิํ เอสา ปณีเต สุเข วุตฺตา ภควตา’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อุทายี ปญฺจกงฺคํ ถปติํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, ถปติ, เทฺว เวทนา วุตฺตา ภควตาฯ ติโสฺส เวทนา วุตฺตา ภควตาฯ สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา – อิมา ติโสฺส เวทนา วุตฺตา ภควตา’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข ปญฺจกโงฺค ถปติ อายสฺมนฺตํ อุทายิํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, ภเนฺต อุทายิ, ติโสฺส เวทนา วุตฺตา ภควตาฯ เทฺว เวทนา วุตฺตา ภควตา – สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนาฯ ยายํ, ภเนฺต, อทุกฺขมสุขา เวทนา, สนฺตสฺมิํ เอสา ปณีเต สุเข วุตฺตา ภควตา’’ติฯ ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อุทายี ปญฺจกงฺคํ ถปติํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, ถปติ, เทฺว เวทนา วุตฺตา ภควตาฯ ติโสฺส เวทนา วุตฺตา ภควตาฯ สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา – อิมา ติโสฺส เวทนา วุตฺตา ภควตา’’ติฯ ตติยมฺปิ โข ปญฺจกโงฺค ถปติ อายสฺมนฺตํ อุทายิํ เอตทโวจ – ‘‘น โข, ภเนฺต อุทายิ, ติโสฺส เวทนา วุตฺตา ภควตาฯ เทฺว เวทนา วุตฺตา ภควตา – สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนาฯ ยายํ, ภเนฺต, อทุกฺขมสุขา เวทนา, สนฺตสฺมิํ เอสา ปณีเต สุเข วุตฺตา ภควตา’’ติฯ เนว สกฺขิ อายสฺมา อุทายี ปญฺจกงฺคํ ถปติํ สญฺญาเปตุํ, น ปนาสกฺขิ ปญฺจกโงฺค ถปติ อายสฺมนฺตํ อุทายิํ สญฺญาเปตุํฯ อโสฺสสิ โข อายสฺมา อานโนฺท อายสฺมโต อุทายิสฺส ปญฺจกเงฺคน ถปตินา สทฺธิํ อิมํ กถาสลฺลาปํฯ
267. Atha kho pañcakaṅgo thapati yenāyasmā udāyī tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ udāyiṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho pañcakaṅgo thapati āyasmantaṃ udāyiṃ etadavoca – ‘‘kati nu kho, bhante udāyi, vedanā vuttā bhagavatā’’ti? ‘‘Tisso kho, thapati, vedanā vuttā bhagavatā. Sukhā vedanā, dukkhā vedanā, adukkhamasukhā vedanā – imā kho, thapati, tisso vedanā vuttā bhagavatā’’ti. Evaṃ vutte, pañcakaṅgo thapati āyasmantaṃ udāyiṃ etadavoca – ‘‘na kho, bhante udāyi, tisso vedanā vuttā bhagavatā. Dve vedanā vuttā bhagavatā – sukhā vedanā, dukkhā vedanā. Yāyaṃ, bhante, adukkhamasukhā vedanā, santasmiṃ esā paṇīte sukhe vuttā bhagavatā’’ti. Dutiyampi kho āyasmā udāyī pañcakaṅgaṃ thapatiṃ etadavoca – ‘‘na kho, thapati, dve vedanā vuttā bhagavatā. Tisso vedanā vuttā bhagavatā. Sukhā vedanā, dukkhā vedanā, adukkhamasukhā vedanā – imā tisso vedanā vuttā bhagavatā’’ti. Dutiyampi kho pañcakaṅgo thapati āyasmantaṃ udāyiṃ etadavoca – ‘‘na kho, bhante udāyi, tisso vedanā vuttā bhagavatā. Dve vedanā vuttā bhagavatā – sukhā vedanā, dukkhā vedanā. Yāyaṃ, bhante, adukkhamasukhā vedanā, santasmiṃ esā paṇīte sukhe vuttā bhagavatā’’ti. Tatiyampi kho āyasmā udāyī pañcakaṅgaṃ thapatiṃ etadavoca – ‘‘na kho, thapati, dve vedanā vuttā bhagavatā. Tisso vedanā vuttā bhagavatā. Sukhā vedanā, dukkhā vedanā, adukkhamasukhā vedanā – imā tisso vedanā vuttā bhagavatā’’ti. Tatiyampi kho pañcakaṅgo thapati āyasmantaṃ udāyiṃ etadavoca – ‘‘na kho, bhante udāyi, tisso vedanā vuttā bhagavatā. Dve vedanā vuttā bhagavatā – sukhā vedanā, dukkhā vedanā. Yāyaṃ, bhante, adukkhamasukhā vedanā, santasmiṃ esā paṇīte sukhe vuttā bhagavatā’’ti. Neva sakkhi āyasmā udāyī pañcakaṅgaṃ thapatiṃ saññāpetuṃ, na panāsakkhi pañcakaṅgo thapati āyasmantaṃ udāyiṃ saññāpetuṃ. Assosi kho āyasmā ānando āyasmato udāyissa pañcakaṅgena thapatinā saddhiṃ imaṃ kathāsallāpaṃ.
อถ โข อายสฺมา อานโนฺท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา อานโนฺท ยาวตโก อายสฺมโต อุทายิสฺส ปญฺจกเงฺคน ถปตินา สทฺธิํ อโหสิ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิฯ
Atha kho āyasmā ānando yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā ānando yāvatako āyasmato udāyissa pañcakaṅgena thapatinā saddhiṃ ahosi kathāsallāpo taṃ sabbaṃ bhagavato ārocesi.
‘‘สนฺตเมว, อานนฺท, ปริยายํ ปญฺจกโงฺค ถปติ อุทายิสฺส ภิกฺขุโน นาพฺภนุโมทิ; สนฺตญฺจ ปนานนฺท, ปริยายํ อุทายี ภิกฺขุ ปญฺจกงฺคสฺส ถปติโน นาพฺภนุโมทิฯ เทฺวปิ มยา, อานนฺท, เวทนา วุตฺตา ปริยาเยนฯ ติโสฺสปิ มยา เวทนา วุตฺตา ปริยาเยนฯ ปญฺจปิ มยา เวทนา วุตฺตา ปริยาเยนฯ ฉปิ มยา เวทนา วุตฺตา ปริยาเยนฯ อฎฺฐารสาปิ มยา เวทนา วุตฺตา ปริยาเยนฯ ฉตฺติํสาปิ มยา เวทนา วุตฺตา ปริยาเยนฯ อฎฺฐสตมฺปฺมฺปฺปิ มยา เวทนา วุตฺตา ปริยาเยนฯ เอวํ ปริยายเทสิโต โข, อานนฺท, มยา ธโมฺมฯ เอวํ ปริยายเทสิเต โข, อานนฺท, มยา ธเมฺม เย อญฺญมญฺญสฺส สุภาสิตํ สุลปิตํ, น สมนุมญฺญิสฺสนฺติ, น สมนุชานิสฺสนฺติ, น สมนุโมทิสฺสนฺติ, เตสํ เอตํ ปาฎิกงฺขํ – ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อญฺญมญฺญํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหริสฺสนฺตีติ 1ฯ เอวํ ปริยายเทสิโต โข, อานนฺท, มยา ธโมฺมฯ เอวํ ปริยายเทสิเต โข, อานนฺท, มยา ธเมฺม เย อญฺญมญฺญสฺส สุภาสิตํ สุลปิตํ สมนุมญฺญิสฺสนฺติ สมนุชานิสฺสนฺติ สมนุโมทิสฺสนฺติ, เตสํ เอตํ ปาฎิกงฺขํ – สมคฺคา สโมฺมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อญฺญมญฺญํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหริสฺสนฺตี’’ติฯ
‘‘Santameva, ānanda, pariyāyaṃ pañcakaṅgo thapati udāyissa bhikkhuno nābbhanumodi; santañca panānanda, pariyāyaṃ udāyī bhikkhu pañcakaṅgassa thapatino nābbhanumodi. Dvepi mayā, ānanda, vedanā vuttā pariyāyena. Tissopi mayā vedanā vuttā pariyāyena. Pañcapi mayā vedanā vuttā pariyāyena. Chapi mayā vedanā vuttā pariyāyena. Aṭṭhārasāpi mayā vedanā vuttā pariyāyena. Chattiṃsāpi mayā vedanā vuttā pariyāyena. Aṭṭhasatampmppi mayā vedanā vuttā pariyāyena. Evaṃ pariyāyadesito kho, ānanda, mayā dhammo. Evaṃ pariyāyadesite kho, ānanda, mayā dhamme ye aññamaññassa subhāsitaṃ sulapitaṃ, na samanumaññissanti, na samanujānissanti, na samanumodissanti, tesaṃ etaṃ pāṭikaṅkhaṃ – bhaṇḍanajātā kalahajātā vivādāpannā aññamaññaṃ mukhasattīhi vitudantā viharissantīti 2. Evaṃ pariyāyadesito kho, ānanda, mayā dhammo. Evaṃ pariyāyadesite kho, ānanda, mayā dhamme ye aññamaññassa subhāsitaṃ sulapitaṃ samanumaññissanti samanujānissanti samanumodissanti, tesaṃ etaṃ pāṭikaṅkhaṃ – samaggā sammodamānā avivadamānā khīrodakībhūtā aññamaññaṃ piyacakkhūhi sampassantā viharissantī’’ti.
‘‘ปญฺจิเม, อานนฺท, กามคุณาฯ กตเม ปญฺจ? จกฺขุวิเญฺญยฺยา รูปา อิฎฺฐา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา…เป.… กายวิเญฺญยฺยา โผฎฺฐพฺพา อิฎฺฐา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียาฯ อิเม โข, อานนฺท, ปญฺจ กามคุณา ฯ ยํ โข, อานนฺท , อิเม ปญฺจ กามคุเณ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ – อิทํ วุจฺจติ กามสุขํฯ เย โข, อานนฺท, เอวํ วเทยฺยุํ – ‘เอตํปรมํ สนฺตํ สุขํ โสมนสฺสํ ปฎิสํเวเทนฺตี’ติ – อิทํ เนสาหํ นานุชานามิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อตฺถานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ
‘‘Pañcime, ānanda, kāmaguṇā. Katame pañca? Cakkhuviññeyyā rūpā iṭṭhā kantā manāpā piyarūpā kāmūpasaṃhitā rajanīyā…pe… kāyaviññeyyā phoṭṭhabbā iṭṭhā kantā manāpā piyarūpā kāmūpasaṃhitā rajanīyā. Ime kho, ānanda, pañca kāmaguṇā . Yaṃ kho, ānanda , ime pañca kāmaguṇe paṭicca uppajjati sukhaṃ somanassaṃ – idaṃ vuccati kāmasukhaṃ. Ye kho, ānanda, evaṃ vadeyyuṃ – ‘etaṃparamaṃ santaṃ sukhaṃ somanassaṃ paṭisaṃvedentī’ti – idaṃ nesāhaṃ nānujānāmi. Taṃ kissa hetu? Atthānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca.
‘‘กตมญฺจานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทํ โข, อานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ เย โข, อานนฺท, เอวํ วเทยฺยุํ – ‘เอตํปรมํ สนฺตํ สุขํ โสมนสฺสํ ปฎิสํเวเทนฺตี’ติ – อิทํ เนสาหํ นานุชานามิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อตฺถานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ
‘‘Katamañcānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca? Idhānanda, bhikkhu vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi savitakkaṃ savicāraṃ vivekajaṃ pītisukhaṃ paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Idaṃ kho, ānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca. Ye kho, ānanda, evaṃ vadeyyuṃ – ‘etaṃparamaṃ santaṃ sukhaṃ somanassaṃ paṭisaṃvedentī’ti – idaṃ nesāhaṃ nānujānāmi. Taṃ kissa hetu? Atthānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca.
‘‘กตมญฺจานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ, วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทํ โข, อานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ เย โข, อานนฺท, เอวํ วเทยฺยุํ – ‘เอตํปรมํ สนฺตํ สุขํ โสมนสฺสํ ปฎิสํเวเทนฺตี’ติ – อิทํ เนสาหํ นานุชานามิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อตฺถานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ
‘‘Katamañcānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca? Idhānanda, bhikkhu, vitakkavicārānaṃ vūpasamā ajjhattaṃ sampasādanaṃ cetaso ekodibhāvaṃ avitakkaṃ avicāraṃ samādhijaṃ pītisukhaṃ dutiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Idaṃ kho, ānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca. Ye kho, ānanda, evaṃ vadeyyuṃ – ‘etaṃparamaṃ santaṃ sukhaṃ somanassaṃ paṭisaṃvedentī’ti – idaṃ nesāhaṃ nānujānāmi. Taṃ kissa hetu? Atthānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca.
‘‘กตมญฺจานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขญฺจ กาเยน ปฎิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทํ โข, อานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ เย โข, อานนฺท, เอวํ วเทยฺยุํ – ‘เอตํปรมํ สนฺตํ สุขํ โสมนสฺสํ ปฎิสํเวเทนฺตี’ติ – อิทํ เนสาหํ นานุชานามิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อตฺถานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ
‘‘Katamañcānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca? Idhānanda, bhikkhu pītiyā ca virāgā upekkhako ca viharati sato ca sampajāno, sukhañca kāyena paṭisaṃvedeti, yaṃ taṃ ariyā ācikkhanti – ‘upekkhako satimā sukhavihārī’ti tatiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Idaṃ kho, ānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca. Ye kho, ānanda, evaṃ vadeyyuṃ – ‘etaṃparamaṃ santaṃ sukhaṃ somanassaṃ paṭisaṃvedentī’ti – idaṃ nesāhaṃ nānujānāmi. Taṃ kissa hetu? Atthānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca.
‘‘กตมญฺจานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจ? อิธานนฺท , ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุเพฺพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทํ โข, อานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ เย โข, อานนฺท, เอวํ วเทยฺยุํ – ‘เอตํปรมํ สนฺตํ สุขํ โสมนสฺสํ ปฎิสํเวเทนฺตี’ติ – อิทํ เนสาหํ นานุชานามิ ฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อตฺถานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ
‘‘Katamañcānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca? Idhānanda , bhikkhu sukhassa ca pahānā dukkhassa ca pahānā pubbeva somanassadomanassānaṃ atthaṅgamā adukkhamasukhaṃ upekkhāsatipārisuddhiṃ catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Idaṃ kho, ānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca. Ye kho, ānanda, evaṃ vadeyyuṃ – ‘etaṃparamaṃ santaṃ sukhaṃ somanassaṃ paṭisaṃvedentī’ti – idaṃ nesāhaṃ nānujānāmi . Taṃ kissa hetu? Atthānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca.
‘‘กตมญฺจานนฺท , เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสญฺญานํ สมติกฺกมา, ปฎิฆสญฺญานํ อตฺถงฺคมา, นานตฺตสญฺญานํ อมนสิการา, ‘อนโนฺต อากาโส’ติ อากาสานญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทํ โข, อานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ เย โข, อานนฺท, เอวํ วเทยฺยุํ – ‘เอตํปรมํ สนฺตํ สุขํ โสมนสฺสํ ปฎิสํเวเทนฺตี’ติ – อิทํ เนสาหํ นานุชานามิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อตฺถานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ
‘‘Katamañcānanda , etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca? Idhānanda, bhikkhu sabbaso rūpasaññānaṃ samatikkamā, paṭighasaññānaṃ atthaṅgamā, nānattasaññānaṃ amanasikārā, ‘ananto ākāso’ti ākāsānañcāyatanaṃ upasampajja viharati. Idaṃ kho, ānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca. Ye kho, ānanda, evaṃ vadeyyuṃ – ‘etaṃparamaṃ santaṃ sukhaṃ somanassaṃ paṭisaṃvedentī’ti – idaṃ nesāhaṃ nānujānāmi. Taṃ kissa hetu? Atthānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca.
‘‘กตมญฺจานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม, ‘อนนฺตํ วิญฺญาณ’นฺติ วิญฺญาณญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทํ โข, อานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ เย โข, อานนฺท, เอวํ วเทยฺยุํ – ‘เอตํปรมํ สนฺตํ สุขํ โสมนสฺสํ ปฎิสํเวเทนฺตี’ติ – อิทํ เนสาหํ นานุชานามิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อตฺถานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ
‘‘Katamañcānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca? Idhānanda, bhikkhu sabbaso ākāsānañcāyatanaṃ samatikkamma, ‘anantaṃ viññāṇa’nti viññāṇañcāyatanaṃ upasampajja viharati. Idaṃ kho, ānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca. Ye kho, ānanda, evaṃ vadeyyuṃ – ‘etaṃparamaṃ santaṃ sukhaṃ somanassaṃ paṭisaṃvedentī’ti – idaṃ nesāhaṃ nānujānāmi. Taṃ kissa hetu? Atthānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca.
‘‘กตมญฺจานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ สพฺพโส วิญฺญาณญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม, ‘นตฺถิ กิญฺจี’ติ อากิญฺจญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทํ โข, อานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจ ฯ เย โข, อานนฺท, เอวํ วเทยฺยุํ – ‘เอตํปรมํ สนฺตํ สุขํ โสมนสฺสํ ปฎิสํเวเทนฺตี’ติ – อิทํ เนสาหํ นานุชานามิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อตฺถานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ
‘‘Katamañcānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca? Idhānanda, bhikkhu sabbaso viññāṇañcāyatanaṃ samatikkamma, ‘natthi kiñcī’ti ākiñcaññāyatanaṃ upasampajja viharati. Idaṃ kho, ānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca . Ye kho, ānanda, evaṃ vadeyyuṃ – ‘etaṃparamaṃ santaṃ sukhaṃ somanassaṃ paṭisaṃvedentī’ti – idaṃ nesāhaṃ nānujānāmi. Taṃ kissa hetu? Atthānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca.
‘‘กตมญฺจานนฺท , เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ สพฺพโส อากิญฺจญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทํ โข, อานนฺท , เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ เย โข, อานนฺท, เอวํ วเทยฺยุํ – ‘เอตํปรมํ สนฺตํ สุขํ โสมนสฺสํ ปฎิสํเวเทนฺตี’ติ – อิทํ เนสาหํ นานุชานามิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อตฺถานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ
‘‘Katamañcānanda , etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca? Idhānanda, bhikkhu sabbaso ākiñcaññāyatanaṃ samatikkamma nevasaññānāsaññāyatanaṃ upasampajja viharati. Idaṃ kho, ānanda , etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca. Ye kho, ānanda, evaṃ vadeyyuṃ – ‘etaṃparamaṃ santaṃ sukhaṃ somanassaṃ paṭisaṃvedentī’ti – idaṃ nesāhaṃ nānujānāmi. Taṃ kissa hetu? Atthānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca.
‘‘กตมญฺจานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม สญฺญาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทํ โข, อานนฺท, เอตมฺหา สุขา อญฺญํ สุขํ อภิกฺกนฺตตรญฺจ ปณีตตรญฺจฯ
‘‘Katamañcānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca? Idhānanda, bhikkhu sabbaso nevasaññānāsaññāyatanaṃ samatikkamma saññāvedayitanirodhaṃ upasampajja viharati. Idaṃ kho, ānanda, etamhā sukhā aññaṃ sukhaṃ abhikkantatarañca paṇītatarañca.
‘‘ฐานํ โข ปเนตํ, อานนฺท, วิชฺชติ ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมโณ โคตโม อาห, ตญฺจ สุขสฺมิํ ปญฺญเปติฯ ตยิทํ กิํสุ, ตยิทํ กถํสู’ติ? เอวํวาทิโน, อานนฺท, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา – ‘น โข, อาวุโส , ภควา สุขเญฺญว เวทนํ สนฺธาย สุขสฺมิํ ปญฺญเปติฯ ยตฺถ ยตฺถ, อาวุโส, สุขํ อุปลพฺภติ, ยหิํ ยหิํ 3, ตํ ตํ ตถาคโต สุขสฺมิํ ปญฺญเปตี’’’ติฯ นวมํฯ
‘‘Ṭhānaṃ kho panetaṃ, ānanda, vijjati yaṃ aññatitthiyā paribbājakā evaṃ vadeyyuṃ – ‘saññāvedayitanirodhaṃ samaṇo gotamo āha, tañca sukhasmiṃ paññapeti. Tayidaṃ kiṃsu, tayidaṃ kathaṃsū’ti? Evaṃvādino, ānanda, aññatitthiyā paribbājakā evamassu vacanīyā – ‘na kho, āvuso , bhagavā sukhaññeva vedanaṃ sandhāya sukhasmiṃ paññapeti. Yattha yattha, āvuso, sukhaṃ upalabbhati, yahiṃ yahiṃ 4, taṃ taṃ tathāgato sukhasmiṃ paññapetī’’’ti. Navamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๙-๑๐. ปญฺจกงฺคสุตฺตาทิวณฺณนา • 9-10. Pañcakaṅgasuttādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๙-๑๐. ปญฺจกงฺคสุตฺตาทิวณฺณนา • 9-10. Pañcakaṅgasuttādivaṇṇanā