Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สโมฺมหวิโนทนี-อฎฺฐกถา • Sammohavinodanī-aṭṭhakathā |
(๕.) ปญฺจกนิเทฺทสวณฺณนา
(5.) Pañcakaniddesavaṇṇanā
๙๔๐. ปญฺจกนิเทฺทเส ยสฺมา เยสํ สกฺกายทิฎฺฐิอาทีนิ อปฺปหีนานิ, เต ภวเคฺคปิ นิพฺพเตฺต เอตานิ อากฑฺฒิตฺวา กามภเวเยว ปาเตนฺติ, ตสฺมา โอรมฺภาคิยานิ สํโยชนานีติ วุตฺตานิฯ อิติ เอตานิ ปญฺจ คจฺฉนฺตํ น วาเรนฺติ, คตํ ปน อาเนนฺติฯ รูปราคาทีนิปิ ปญฺจ คจฺฉนฺตํ น วาเรนฺติ, อาคนฺตุํ ปน น เทนฺติฯ ราคาทโย ปญฺจ ลคฺคนเฎฺฐน สงฺคา, อนุปวิฎฺฐเฎฺฐน ปน สลฺลาติ วุตฺตาฯ
940. Pañcakaniddese yasmā yesaṃ sakkāyadiṭṭhiādīni appahīnāni, te bhavaggepi nibbatte etāni ākaḍḍhitvā kāmabhaveyeva pātenti, tasmā orambhāgiyāni saṃyojanānīti vuttāni. Iti etāni pañca gacchantaṃ na vārenti, gataṃ pana ānenti. Rūparāgādīnipi pañca gacchantaṃ na vārenti, āgantuṃ pana na denti. Rāgādayo pañca lagganaṭṭhena saṅgā, anupaviṭṭhaṭṭhena pana sallāti vuttā.
๙๔๑. เจโตขิลาติ จิตฺตสฺส ถทฺธภาวา กจวรภาวา ขาณุกภาวาฯ สตฺถริ กงฺขตีติ สตฺถุ สรีเร วา คุเณ วา กงฺขติฯ สรีเร กงฺขมาโน ‘ทฺวตฺติํสวรลกฺขณปฎิมณฺฑิตํ นาม สรีรํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติฯ คุเณ กงฺขมาโน ‘อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนชานนสมตฺถํ สพฺพญฺญุตญาณํ อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติฯ วิจิกิจฺฉตีติ วิจินโนฺต กิจฺฉติ, ทุกฺขํ อาปชฺชติ, วินิเจฺฉตุํ น สโกฺกติฯ นาธิมุจฺจตีติ ‘เอวเมต’นฺติ อธิโมกฺขํ น ปฎิลภติ ฯ น สมฺปสีทตีติ คุเณสุ โอตริตฺวา นิพฺพิจิกิจฺฉภาเวน ปสีทิตุํ อนาวิโล ภวิตุํ น สโกฺกติฯ
941. Cetokhilāti cittassa thaddhabhāvā kacavarabhāvā khāṇukabhāvā. Satthari kaṅkhatīti satthu sarīre vā guṇe vā kaṅkhati. Sarīre kaṅkhamāno ‘dvattiṃsavaralakkhaṇapaṭimaṇḍitaṃ nāma sarīraṃ atthi nu kho natthī’ti kaṅkhati. Guṇe kaṅkhamāno ‘atītānāgatapaccuppannajānanasamatthaṃ sabbaññutañāṇaṃ atthi nu kho natthī’ti kaṅkhati. Vicikicchatīti vicinanto kicchati, dukkhaṃ āpajjati, vinicchetuṃ na sakkoti. Nādhimuccatīti ‘evameta’nti adhimokkhaṃ na paṭilabhati . Na sampasīdatīti guṇesu otaritvā nibbicikicchabhāvena pasīdituṃ anāvilo bhavituṃ na sakkoti.
ธเมฺมติ ปริยตฺติธเมฺม จ ปฎิเวธธเมฺม จฯ ปริยตฺติธเมฺม กงฺขมาโน ‘เตปิฎกํ พุทฺธวจนํ จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานีติ วทนฺติ, อตฺถิ นุ โข เอตํ นตฺถี’ติ กงฺขติฯ ปฎิเวธธเมฺม กงฺขมาโน ‘วิปสฺสนานิสฺสโนฺท มโคฺค นาม , มคฺคนิสฺสโนฺท ผลํ นาม, สพฺพสงฺขารปฎินิสฺสโคฺค นิพฺพานํ นามาติ วทนฺติ, ตํ อตฺถิ นุ โข นตฺถีติ กงฺขติ’ฯ
Dhammeti pariyattidhamme ca paṭivedhadhamme ca. Pariyattidhamme kaṅkhamāno ‘tepiṭakaṃ buddhavacanaṃ caturāsītidhammakkhandhasahassānīti vadanti, atthi nu kho etaṃ natthī’ti kaṅkhati. Paṭivedhadhamme kaṅkhamāno ‘vipassanānissando maggo nāma , magganissando phalaṃ nāma, sabbasaṅkhārapaṭinissaggo nibbānaṃ nāmāti vadanti, taṃ atthi nu kho natthīti kaṅkhati’.
สเงฺฆ กงฺขตีติ ‘อุชุปฺปฎิปโนฺนติอาทีนํ ปทานํ วเสน เอวรูปํ ปฎิปทํ ปฎิปนฺนา จตฺตาโร มคฺคฎฺฐา จตฺตาโร ผลฎฺฐาติ อฎฺฐนฺนํ ปุคฺคลานํ สมูหภูโต สโงฺฆ นาม อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติฯ สิกฺขาย กงฺขมาโน ‘อธิสีลสิกฺขา นาม อธิจิตฺตสิกฺขา นาม อธิปญฺญา สิกฺขา นามาติ วทนฺติ, สา อตฺถิ นุ โข นตฺถี’ติ กงฺขติฯ
Saṅghe kaṅkhatīti ‘ujuppaṭipannotiādīnaṃ padānaṃ vasena evarūpaṃ paṭipadaṃ paṭipannā cattāro maggaṭṭhā cattāro phalaṭṭhāti aṭṭhannaṃ puggalānaṃ samūhabhūto saṅgho nāma atthi nu kho natthī’ti kaṅkhati. Sikkhāya kaṅkhamāno ‘adhisīlasikkhā nāma adhicittasikkhā nāma adhipaññā sikkhā nāmāti vadanti, sā atthi nu kho natthī’ti kaṅkhati.
เจตโสวินิพนฺธาติ จิตฺตํ พนฺธิตฺวา มุฎฺฐิยํ กตฺวา วิย คณฺหนฺตีติ เจตโสวินิพนฺธาฯ กาเมติ วตฺถุกาเมปิ กิเลสกาเมปิฯ กาเยติ อตฺตโน กาเยฯ รูเปติ พหิทฺธา รูเปฯ ยาวทตฺถนฺติ ยตฺตกํ อิจฺฉติ ตตฺตกํฯ อุทราวเทหกนฺติ อุทรปูรํฯ ตญฺหิ อุทรํ อวเทหนโต อุทราวเทหกนฺติ วุจฺจติฯ เสยฺยสุขนฺติ มญฺจปีฐสุขํ อุตุสุขํ วาฯ ปสฺสสุขนฺติ ยถา สมฺปริวตฺตกํ สยนฺตสฺส ทกฺขิณปสฺสวามปสฺสานํ สุขํ โหติ, เอวํ อุปฺปนฺนสุขํฯ มิทฺธสุขนฺติ นิทฺทาสุขํฯ อนุยุโตฺตติ ยุตฺตปยุโตฺต วิหรติฯ ปณิธายาติ ปตฺถยิตฺวาฯ สีเลนาติอาทีสุ สีลนฺติ จตุปาริสุทฺธิสีลํฯ วตนฺติ วตสมาทานํฯ ตโปติ ตปจรณํฯ พฺรหฺมจริยนฺติ เมถุนวิรติฯ เทโว วา ภวิสฺสามีติ มเหสกฺขเทโว วา ภวิสฺสามิฯ เทวญฺญตโร วาติ อเปฺปสกฺขเทเวสุ วา อญฺญตโรฯ กุสลธเมฺม อาวรนฺติ นิวาเรนฺตีติ นีวรณานิฯ
Cetasovinibandhāti cittaṃ bandhitvā muṭṭhiyaṃ katvā viya gaṇhantīti cetasovinibandhā. Kāmeti vatthukāmepi kilesakāmepi. Kāyeti attano kāye. Rūpeti bahiddhā rūpe. Yāvadatthanti yattakaṃ icchati tattakaṃ. Udarāvadehakanti udarapūraṃ. Tañhi udaraṃ avadehanato udarāvadehakanti vuccati. Seyyasukhanti mañcapīṭhasukhaṃ utusukhaṃ vā. Passasukhanti yathā samparivattakaṃ sayantassa dakkhiṇapassavāmapassānaṃ sukhaṃ hoti, evaṃ uppannasukhaṃ. Middhasukhanti niddāsukhaṃ. Anuyuttoti yuttapayutto viharati. Paṇidhāyāti patthayitvā. Sīlenātiādīsu sīlanti catupārisuddhisīlaṃ. Vatanti vatasamādānaṃ. Tapoti tapacaraṇaṃ. Brahmacariyanti methunavirati. Devo vā bhavissāmīti mahesakkhadevo vā bhavissāmi. Devaññataro vāti appesakkhadevesu vā aññataro. Kusaladhamme āvaranti nivārentīti nīvaraṇāni.
มาตา ชีวิตา โวโรปิตา โหตีติ มนุเสฺสเนว สกชนิกา มนุสฺสมาตา ชีวิตา โวโรปิตา โหติฯ ปิตาปิ มนุสฺสปิตาวฯ อรหาปิ มนุสฺสอรหาวฯ ทุเฎฺฐน จิเตฺตนาติ วธกจิเตฺตนฯ
Mātā jīvitā voropitā hotīti manusseneva sakajanikā manussamātā jīvitā voropitā hoti. Pitāpi manussapitāva. Arahāpi manussaarahāva. Duṭṭhena cittenāti vadhakacittena.
สญฺญีติ สญฺญาสมงฺคีฯ อโรโคติ นิโจฺจฯ อิเตฺถเก อภิวทนฺตีติ อิตฺถํ เอเก อภิวทนฺติ, เอวเมเก อภิวทนฺตีติ อโตฺถฯ เอตฺตาวตา โสฬส สญฺญีวาทา กถิตาฯ อสญฺญีติ สญฺญาวิรหิโตฯ อิมินา ปเทน อฎฺฐ อสญฺญีวาทา กถิตาฯ ตติยปเทน อฎฺฐ เนวสญฺญีนาสญฺญีวาทา กถิตาฯ สโต วา ปน สตฺตสฺสาติ อถวา ปน วิชฺชมานเสฺสว สตฺตสฺสฯ อุเจฺฉทนฺติ อุปเจฺฉทํฯ วินาสนฺติ อทสฺสนํฯ วิภวนฺติ ภาววิคมํฯ สพฺพาเนตานิ อญฺญมญฺญเววจนาเนวฯ ตตฺถ เทฺว ชนา อุเจฺฉททิฎฺฐิํ คณฺหนฺติ – ลาภี จ อลาภี จฯ ตตฺถ ลาภี อรหโต ทิเพฺพน จกฺขุนา จุติํ ทิสฺวา อุปปตฺติํ อปสฺสโนฺต, โย วา จุติมตฺตเมว ทฎฺฐุํ สโกฺกติ น อุปปาตํ, โส อุเจฺฉททิฎฺฐิํ คณฺหาติฯ อลาภี ‘โก ปรโลกํ ชานาตี’ติ กามสุขคิทฺธตาย วา ‘ยถา รุกฺขโต ปณฺณานิ ปติตานิ น ปุน วิรุหนฺติ, เอวํ สตฺตา’ติอาทินา วิตเกฺกน วา อุเจฺฉทํ คณฺหาติฯ อิธ ปน ตณฺหาทิฎฺฐีนํ วเสน ตถา จ อญฺญถา จ วิกเปฺปตฺวาว อุปฺปนฺนา สตฺต อุเจฺฉทวาทา กถิตาฯ เตสญฺหิ อิทํ สงฺคหวจนํฯ ทิฎฺฐธมฺมนิพฺพานํ วา ปเนเกติ เอตฺถ ทิฎฺฐธโมฺมติ ปจฺจกฺขธโมฺม วุจฺจติฯ ตตฺถ ตตฺถ ปฎิลทฺธตฺตภาวเสฺสตํ อธิวจนํฯ ทิฎฺฐธเมฺม นิพฺพานํ ทิฎฺฐธมฺมนิพฺพานํ; อิมสฺมิํเยว อตฺตภาเว ทุกฺขา วูปสมฺมนฺติ อโตฺถฯ อิทํ ปญฺจนฺนํ ทิฎฺฐธมฺมนิพฺพานวาทานํ สงฺคหวจนํฯ
Saññīti saññāsamaṅgī. Arogoti nicco. Ittheke abhivadantīti itthaṃ eke abhivadanti, evameke abhivadantīti attho. Ettāvatā soḷasa saññīvādā kathitā. Asaññīti saññāvirahito. Iminā padena aṭṭha asaññīvādā kathitā. Tatiyapadena aṭṭha nevasaññīnāsaññīvādā kathitā. Sato vā pana sattassāti athavā pana vijjamānasseva sattassa. Ucchedanti upacchedaṃ. Vināsanti adassanaṃ. Vibhavanti bhāvavigamaṃ. Sabbānetāni aññamaññavevacanāneva. Tattha dve janā ucchedadiṭṭhiṃ gaṇhanti – lābhī ca alābhī ca. Tattha lābhī arahato dibbena cakkhunā cutiṃ disvā upapattiṃ apassanto, yo vā cutimattameva daṭṭhuṃ sakkoti na upapātaṃ, so ucchedadiṭṭhiṃ gaṇhāti. Alābhī ‘ko paralokaṃ jānātī’ti kāmasukhagiddhatāya vā ‘yathā rukkhato paṇṇāni patitāni na puna viruhanti, evaṃ sattā’tiādinā vitakkena vā ucchedaṃ gaṇhāti. Idha pana taṇhādiṭṭhīnaṃ vasena tathā ca aññathā ca vikappetvāva uppannā satta ucchedavādā kathitā. Tesañhi idaṃ saṅgahavacanaṃ. Diṭṭhadhammanibbānaṃ vā paneketi ettha diṭṭhadhammoti paccakkhadhammo vuccati. Tattha tattha paṭiladdhattabhāvassetaṃ adhivacanaṃ. Diṭṭhadhamme nibbānaṃ diṭṭhadhammanibbānaṃ; imasmiṃyeva attabhāve dukkhā vūpasammanti attho. Idaṃ pañcannaṃ diṭṭhadhammanibbānavādānaṃ saṅgahavacanaṃ.
๙๔๒. เวราติ เวรเจตนาฯ พฺยสนาติ วินาสาฯ อกฺขนฺติยาติ อนธิวาสนายฯ อปฺปิโยติ ทสฺสนสวนปฎิกูลตาย น ปิยายิตโพฺพฯ จิเนฺตตุมฺปิ ปฎิกูลตฺตา มโน เอตสฺมิํ น อเปฺปตีติ อมนาโปฯ เวรพหุโลติ พหุเวโรฯ วชฺชพหุโลติ พหุโทโสฯ
942. Verāti veracetanā. Byasanāti vināsā. Akkhantiyāti anadhivāsanāya. Appiyoti dassanasavanapaṭikūlatāya na piyāyitabbo. Cintetumpi paṭikūlattā mano etasmiṃ na appetīti amanāpo. Verabahuloti bahuvero. Vajjabahuloti bahudoso.
อาชีวกภยนฺติ อาชีวํ ชีวิตวุตฺติํ ปฎิจฺจ อุปฺปนฺนํ ภยํ ฯ ตํ อคาริกสฺสปิ โหติ อนคาริกสฺสปิฯ ตตฺถ อคาริเกน ตาว อาชีวเหตุ พหุํ อกุสลํ กตํ โหติฯ อถสฺส มรณสมเย นิรเย อุปฎฺฐหเนฺต ภยํ อุปฺปชฺชติฯ อนคาริเกนาปิ พหุ อเนสนา กตา โหติฯ อถสฺส มรณกาเล นิรเย อุปฎฺฐหเนฺต ภยํ อุปฺปชฺชติฯ อิทํ อาชีวกภยํ นามฯ อสิโลกภยนฺติ ครหภยํ ปริสสารชฺชภยนฺติ กตปาปสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิปติตํ ปริสํ อุปสงฺกมนฺตสฺส สารชฺชสงฺขาตํ ภยํ อุปฺปชฺชติฯ อิทํ ปริสสารชฺชภยํ นามฯ อิตรทฺวยํ ปากฎเมวฯ
Ājīvakabhayanti ājīvaṃ jīvitavuttiṃ paṭicca uppannaṃ bhayaṃ . Taṃ agārikassapi hoti anagārikassapi. Tattha agārikena tāva ājīvahetu bahuṃ akusalaṃ kataṃ hoti. Athassa maraṇasamaye niraye upaṭṭhahante bhayaṃ uppajjati. Anagārikenāpi bahu anesanā katā hoti. Athassa maraṇakāle niraye upaṭṭhahante bhayaṃ uppajjati. Idaṃ ājīvakabhayaṃ nāma. Asilokabhayanti garahabhayaṃ parisasārajjabhayanti katapāpassa puggalassa sannipatitaṃ parisaṃ upasaṅkamantassa sārajjasaṅkhātaṃ bhayaṃ uppajjati. Idaṃ parisasārajjabhayaṃ nāma. Itaradvayaṃ pākaṭameva.
๙๔๓. ทิฎฺฐธมฺมนิพฺพานวาเรสุ ปญฺจหิ กามคุเณหีติ มนาปิยรูปาทีหิ ปญฺจหิ กามโกฎฺฐาเสหิ พนฺธเนหิ วาฯ สมปฺปิโตติ สุฎฺฐุ อปฺปิโต อลฺลีโน หุตฺวาฯ สมงฺคีภูโตติ สมนฺนาคโตฯ ปริจาเรตีติ เตสุ กามคุเณสุ ยถาสุขํ อินฺทฺริยานิ จาเรติ สญฺจาเรติ อิโต จิโต จ อุปเนติ; อถ วา ปน ลฬติ รมติ กีฬตีติฯ เอตฺถ จ ทุวิธา กามคุณา – มานุสฺสกา เจว ทิพฺพา จฯ มานุสฺสกา มนฺธาตุกามคุณสทิสา ทฎฺฐพฺพา; ทิพฺพา ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทวราชสฺส กามคุณสทิสาติฯ เอวรูเป กาเม อุปคตญฺหิ เต ปรมทิฎฺฐธมฺมนิพฺพานปฺปโตฺต โหตีติ วทนฺติฯ ตตฺถ ปรมทิฎฺฐธมฺมนิพฺพานนฺติ ปรมํ ทิฎฺฐธมฺมนิพฺพานํ, อุตฺตมนฺติ อโตฺถฯ
943. Diṭṭhadhammanibbānavāresu pañcahi kāmaguṇehīti manāpiyarūpādīhi pañcahi kāmakoṭṭhāsehi bandhanehi vā. Samappitoti suṭṭhu appito allīno hutvā. Samaṅgībhūtoti samannāgato. Paricāretīti tesu kāmaguṇesu yathāsukhaṃ indriyāni cāreti sañcāreti ito cito ca upaneti; atha vā pana laḷati ramati kīḷatīti. Ettha ca duvidhā kāmaguṇā – mānussakā ceva dibbā ca. Mānussakā mandhātukāmaguṇasadisā daṭṭhabbā; dibbā paranimmitavasavattidevarājassa kāmaguṇasadisāti. Evarūpe kāme upagatañhi te paramadiṭṭhadhammanibbānappatto hotīti vadanti. Tattha paramadiṭṭhadhammanibbānanti paramaṃ diṭṭhadhammanibbānaṃ, uttamanti attho.
ทุติยวาเร หุตฺวา อภาวเฎฺฐน อนิจฺจา; ปฎิปีฬนเฎฺฐน ทุกฺขา; ปกติชหนเฎฺฐน วิปริณามธมฺมาติ เวทิตพฺพาฯ เตสํ วิปริณามญฺญถาภาวาติ เตสํ กามานํ วิปริณามสงฺขาตา อญฺญถาภาวาฯ ‘ยมฺปิ เม อโหสิ ตมฺปิ เม นตฺถี’ติ วุตฺตนเยน อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาฯ ตตฺถ อโนฺตนิชฺฌายนลกฺขโณ โสโก; ตนฺนิสฺสิตลาลปฺปลกฺขโณ ปริเทโว; กายปฎิปีฬนลกฺขณํ ทุกฺขํ; มโนวิฆาตลกฺขณํ โทมนสฺสํ; วิฆาตลกฺขโณ อุปายาโสฯ
Dutiyavāre hutvā abhāvaṭṭhena aniccā; paṭipīḷanaṭṭhena dukkhā; pakatijahanaṭṭhena vipariṇāmadhammāti veditabbā. Tesaṃ vipariṇāmaññathābhāvāti tesaṃ kāmānaṃ vipariṇāmasaṅkhātā aññathābhāvā. ‘Yampi me ahosi tampi me natthī’ti vuttanayena uppajjanti sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā. Tattha antonijjhāyanalakkhaṇo soko; tannissitalālappalakkhaṇo paridevo; kāyapaṭipīḷanalakkhaṇaṃ dukkhaṃ; manovighātalakkhaṇaṃ domanassaṃ; vighātalakkhaṇo upāyāso.
วิตกฺกิตนฺติ อภินิโรปนวเสน ปวโตฺต วิตโกฺกฯ วิจาริตนฺติ อนุมชฺชนวเสน ปวโตฺต วิจาโรฯ เอเตน เอตนฺติ เอเตน วิตเกฺกน จ วิจาเรน จ เอตํ ปฐมชฺฌานํ โอฬาริกํ สกณฺฎกํ วิย ขายติฯ
Vitakkitanti abhiniropanavasena pavatto vitakko. Vicāritanti anumajjanavasena pavatto vicāro. Etena etanti etena vitakkena ca vicārena ca etaṃ paṭhamajjhānaṃ oḷārikaṃ sakaṇṭakaṃ viya khāyati.
ปีติคตนฺติ ปีติเมวฯ เจตโส อุปฺปิลาวิตนฺติ จิตฺตสฺส อุปฺปิลภาวกรณํฯ เจตโส อาโภโคติ ฌานา วุฎฺฐาย ตสฺมิํ สุเข ปุนปฺปุนํ จิตฺตสฺส อาโภโค มนสิกาโรติฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ
Pītigatanti pītimeva. Cetaso uppilāvitanti cittassa uppilabhāvakaraṇaṃ. Cetaso ābhogoti jhānā vuṭṭhāya tasmiṃ sukhe punappunaṃ cittassa ābhogo manasikāroti. Sesaṃ sabbattha uttānatthamevāti.
ปญฺจกนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pañcakaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / วิภงฺคปาฬิ • Vibhaṅgapāḷi / ๑๗. ขุทฺทกวตฺถุวิภโงฺค • 17. Khuddakavatthuvibhaṅgo
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-มูลฎีกา • Vibhaṅga-mūlaṭīkā / ๑๗. ขุทฺทกวตฺถุวิภโงฺค • 17. Khuddakavatthuvibhaṅgo
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-อนุฎีกา • Vibhaṅga-anuṭīkā / ๑๗. ขุทฺทกวตฺถุวิภโงฺค • 17. Khuddakavatthuvibhaṅgo