Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปุคฺคลปญฺญตฺติปาฬิ • Puggalapaññattipāḷi |
๕. ปญฺจกปุคฺคลปญฺญตฺติ
5. Pañcakapuggalapaññatti
๑๙๑. ตตฺร ยฺวายํ ปุคฺคโล อารภติ จ วิปฺปฎิสารี จ โหติ, ตญฺจ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ , โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อายสฺมโต โข อารมฺภชา 1 อาสวา สํวิชฺชนฺติ, วิปฺปฎิสารชา อาสวา ปวฑฺฒนฺติฯ สาธุ วตายสฺมา อารมฺภเช อาสเว ปหาย วิปฺปฎิสารเช อาสเว ปฎิวิโนเทตฺวา จิตฺตํ ปญฺญญฺจ ภาเวตุฯ เอวมายสฺมา อมุนา ปญฺจเมน ปุคฺคเลน สมสโม ภวิสฺสตี’’ติฯ
191. Tatra yvāyaṃ puggalo ārabhati ca vippaṭisārī ca hoti, tañca cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ yathābhūtaṃ nappajānāti, yatthassa te uppannā pāpakā akusalā dhammā aparisesā nirujjhanti , so evamassa vacanīyo – ‘‘āyasmato kho ārambhajā 2 āsavā saṃvijjanti, vippaṭisārajā āsavā pavaḍḍhanti. Sādhu vatāyasmā ārambhaje āsave pahāya vippaṭisāraje āsave paṭivinodetvā cittaṃ paññañca bhāvetu. Evamāyasmā amunā pañcamena puggalena samasamo bhavissatī’’ti.
ตตฺร ยฺวายํ ปุคฺคโล อารภติ น วิปฺปฎิสารี โหติ, ตญฺจ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อายสฺมโต โข อารมฺภชา อาสวา สํวิชฺชนฺติ, วิปฺปฎิสารชา อาสวา นปฺปวฑฺฒนฺติฯ สาธุ วตายสฺมา อารมฺภเช อาสเว ปหาย จิตฺตํ ปญฺญญฺจ ภาเวตุฯ เอวมายสฺมา อมุนา ปญฺจเมน ปุคฺคเลน สมสโม ภวิสฺสตี’’ติฯ
Tatra yvāyaṃ puggalo ārabhati na vippaṭisārī hoti, tañca cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ yathābhūtaṃ nappajānāti, yatthassa te uppannā pāpakā akusalā dhammā aparisesā nirujjhanti, so evamassa vacanīyo – ‘‘āyasmato kho ārambhajā āsavā saṃvijjanti, vippaṭisārajā āsavā nappavaḍḍhanti. Sādhu vatāyasmā ārambhaje āsave pahāya cittaṃ paññañca bhāvetu. Evamāyasmā amunā pañcamena puggalena samasamo bhavissatī’’ti.
ตตฺร ยฺวายํ ปุคฺคโล น อารภติ วิปฺปฎิสารี โหติ, ตญฺจ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อายสฺมโต โข อารมฺภชา อาสวา น สํวิชฺชนฺติ, วิปฺปฎิสารชา อาสวา ปวฑฺฒนฺติฯ สาธุ วตายสฺมา วิปฺปฎิสารเช อาสเว ปฎิวิโนเทตฺวา จิตฺตํ ปญฺญญฺจ ภาเวตุฯ เอวมายสฺมา อมุนา ปญฺจเมน ปุคฺคเลน สมสโม ภวิสฺสตี’’ติฯ
Tatra yvāyaṃ puggalo na ārabhati vippaṭisārī hoti, tañca cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ yathābhūtaṃ nappajānāti, yatthassa te uppannā pāpakā akusalā dhammā aparisesā nirujjhanti, so evamassa vacanīyo – ‘‘āyasmato kho ārambhajā āsavā na saṃvijjanti, vippaṭisārajā āsavā pavaḍḍhanti. Sādhu vatāyasmā vippaṭisāraje āsave paṭivinodetvā cittaṃ paññañca bhāvetu. Evamāyasmā amunā pañcamena puggalena samasamo bhavissatī’’ti.
ตตฺร ยฺวายํ ปุคฺคโล น อารภติ น วิปฺปฎิสารี โหติ, ตญฺจ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ยตฺถสฺส เต ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อายสฺมโต โข อารมฺภชา อาสวา น สํวิชฺชนฺติ, วิปฺปฎิสารชา อาสวา นปฺปวฑฺฒนฺติฯ สาธุ วตายสฺมา จิตฺตํ ปญฺญญฺจ ภาเวตุฯ เอวมายสฺมา อมุนา ปญฺจเมน ปุคฺคเลน สมสโม ภวิสฺสตี’’ติฯ อิเม จตฺตาโร ปุคฺคลา อมุนา ปญฺจเมน ปุคฺคเลน เอวํ โอวทิยมานา เอวํ อนุสาสิยมานา อนุปุเพฺพน อาสวานํ ขยํ ปาปุณนฺติฯ
Tatra yvāyaṃ puggalo na ārabhati na vippaṭisārī hoti, tañca cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ yathābhūtaṃ nappajānāti, yatthassa te pāpakā akusalā dhammā aparisesā nirujjhanti, so evamassa vacanīyo – ‘‘āyasmato kho ārambhajā āsavā na saṃvijjanti, vippaṭisārajā āsavā nappavaḍḍhanti. Sādhu vatāyasmā cittaṃ paññañca bhāvetu. Evamāyasmā amunā pañcamena puggalena samasamo bhavissatī’’ti. Ime cattāro puggalā amunā pañcamena puggalena evaṃ ovadiyamānā evaṃ anusāsiyamānā anupubbena āsavānaṃ khayaṃ pāpuṇanti.
๑๙๒. กถญฺจ ปุคฺคโล ทตฺวา อวชานาติ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ยสฺส ปุคฺคลสฺส เทติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ, ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อหํ ทมฺมิ, อยํ 3 ปฎิคฺคณฺหาตี’’ติ, ตเมนํ ทตฺวา อวชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล ทตฺวา อวชานาติฯ
192. Kathañca puggalo datvā avajānāti? Idhekacco puggalo yassa puggalassa deti cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhāraṃ, tassa evaṃ hoti – ‘‘ahaṃ dammi, ayaṃ 4 paṭiggaṇhātī’’ti, tamenaṃ datvā avajānāti. Evaṃ puggalo datvā avajānāti.
กถญฺจ ปุคฺคโล สํวาเสน อวชานาติ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล เยน ปุคฺคเลน สทฺธิํ สํวสติ เทฺว วา ตีณิ วา วสฺสานิ, ตเมนํ สํวาเสน อวชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล สํวาเสน อวชานาติฯ
Kathañca puggalo saṃvāsena avajānāti? Idhekacco puggalo yena puggalena saddhiṃ saṃvasati dve vā tīṇi vā vassāni, tamenaṃ saṃvāsena avajānāti. Evaṃ puggalo saṃvāsena avajānāti.
กถญฺจ ปุคฺคโล อาเธยฺยมุโข โหติ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปรสฺส วเณฺณ วา อวเณฺณ วา ภาสิยมาเน ขิปฺปเญฺญว อธิมุจฺจิตา โหติฯ เอวํ ปุคฺคโล อาเธยฺยมุโข โหติ ฯ
Kathañca puggalo ādheyyamukho hoti? Idhekacco puggalo parassa vaṇṇe vā avaṇṇe vā bhāsiyamāne khippaññeva adhimuccitā hoti. Evaṃ puggalo ādheyyamukho hoti .
กถญฺจ ปุคฺคโล โลโล โหติ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อิตฺตรสโทฺธ โหติ อิตฺตรภตฺตี อิตฺตรเปโม อิตฺตรปฺปสาโทฯ เอวํ ปุคฺคโล โลโล โหติฯ
Kathañca puggalo lolo hoti? Idhekacco puggalo ittarasaddho hoti ittarabhattī ittarapemo ittarappasādo. Evaṃ puggalo lolo hoti.
กถญฺจ ปุคฺคโล มโนฺท โมมูโห โหติ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล กุสลากุสเล ธเมฺม น ชานาติ, สาวชฺชานวเชฺช ธเมฺม น ชานาติ, หีนปฺปณีเต ธเมฺม น ชานาติ, กณฺหสุกฺกสปฺปฎิภาเค ธเมฺม น ชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล มโนฺท โมมูโห โหติฯ
Kathañca puggalo mando momūho hoti? Idhekacco puggalo kusalākusale dhamme na jānāti, sāvajjānavajje dhamme na jānāti, hīnappaṇīte dhamme na jānāti, kaṇhasukkasappaṭibhāge dhamme na jānāti. Evaṃ puggalo mando momūho hoti.
๑๙๓. ตตฺถ กตเม ปญฺจ โยธาชีวูปมา ปุคฺคลา? ปญฺจ โยธาชีวา – อิเธกโจฺจ โยธาชีโว รชคฺคเญฺญว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ 5 น สโกฺกติ สงฺคามํ โอตริตุํฯ เอวรูโปปิ อิเธกโจฺจ โยธาชีโว โหติฯ อยํ ปฐโม โยธาชีโว สโนฺต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมิํฯ
193. Tattha katame pañca yodhājīvūpamā puggalā? Pañca yodhājīvā – idhekacco yodhājīvo rajaggaññeva disvā saṃsīdati visīdati na santhambhati 6 na sakkoti saṅgāmaṃ otarituṃ. Evarūpopi idhekacco yodhājīvo hoti. Ayaṃ paṭhamo yodhājīvo santo saṃvijjamāno lokasmiṃ.
ปุน จปรํ อิเธกโจฺจ โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ, อปิ จ โข ธชคฺคเญฺญว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สโกฺกติ สงฺคามํ โอตริตุํฯ เอวรูโปปิ อิเธกโจฺจ โยธาชีโว โหติฯ อยํ ทุติโย โยธาชีโว สโนฺต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมิํฯ
Puna caparaṃ idhekacco yodhājīvo sahati rajaggaṃ, api ca kho dhajaggaññeva disvā saṃsīdati visīdati na santhambhati na sakkoti saṅgāmaṃ otarituṃ. Evarūpopi idhekacco yodhājīvo hoti. Ayaṃ dutiyo yodhājīvo santo saṃvijjamāno lokasmiṃ.
ปุน จปรํ อิเธกโจฺจ โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ, อปิ จ โข อุสฺสารณเญฺญว 7 สุตฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สโกฺกติ สงฺคามํ โอตริตุํฯ เอวรูโปปิ อิเธกโจฺจ โยธาชีโว โหติฯ อยํ ตติโย โยธาชีโว สโนฺต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมิํฯ
Puna caparaṃ idhekacco yodhājīvo sahati rajaggaṃ sahati dhajaggaṃ, api ca kho ussāraṇaññeva 8 sutvā saṃsīdati visīdati na santhambhati na sakkoti saṅgāmaṃ otarituṃ. Evarūpopi idhekacco yodhājīvo hoti. Ayaṃ tatiyo yodhājīvo santo saṃvijjamāno lokasmiṃ.
ปุน จปรํ อิเธกโจฺจ โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ สหติ อุสฺสารณํ, อปิ จ โข สมฺปหาเร หญฺญติ พฺยาปชฺชติฯ เอวรูโปปิ อิเธกโจฺจ โยธาชีโว โหติฯ อยํ จตุโตฺถ โยธาชีโว สโนฺต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมิํฯ
Puna caparaṃ idhekacco yodhājīvo sahati rajaggaṃ sahati dhajaggaṃ sahati ussāraṇaṃ, api ca kho sampahāre haññati byāpajjati. Evarūpopi idhekacco yodhājīvo hoti. Ayaṃ catuttho yodhājīvo santo saṃvijjamāno lokasmiṃ.
ปุน จปรํ อิเธกโจฺจ โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ สหติ อุสฺสารณํ สหติ สมฺปหารํฯ โส ตํ สงฺคามํ อภิวิชินิตฺวา วิชิตสงฺคาโม ตเมว สงฺคามสีสํ อชฺฌาวสติฯ เอวรูโปปิ อิเธกโจฺจ โยธาชีโว โหติฯ อยํ ปญฺจโม โยธาชีโว สโนฺต สํวิชฺชมาโน โลกสฺมิํฯ อิเม ปญฺจ โยธาชีวา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ
Puna caparaṃ idhekacco yodhājīvo sahati rajaggaṃ sahati dhajaggaṃ sahati ussāraṇaṃ sahati sampahāraṃ. So taṃ saṅgāmaṃ abhivijinitvā vijitasaṅgāmo tameva saṅgāmasīsaṃ ajjhāvasati. Evarūpopi idhekacco yodhājīvo hoti. Ayaṃ pañcamo yodhājīvo santo saṃvijjamāno lokasmiṃ. Ime pañca yodhājīvā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ.
๑๙๔. เอวเมวํ ปญฺจิเม โยธาชีวูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา ภิกฺขูสุฯ กตเม ปญฺจ? อิเธกโจฺจ ภิกฺขุ รชคฺคเญฺญว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สโกฺกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ 9, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา 10 สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติฯ กิมสฺส รชคฺคสฺมิํ? อิธ ภิกฺขุ สุณาติ – ‘‘อสุกสฺมิํ นาม คาเม วา นิคเม วา อิตฺถี วา กุมารี วา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา’’ติฯ โส ตํ สุตฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สโกฺกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติฯ อิทมสฺส รชคฺคสฺมิํฯ
194. Evamevaṃ pañcime yodhājīvūpamā puggalā santo saṃvijjamānā bhikkhūsu. Katame pañca? Idhekacco bhikkhu rajaggaññeva disvā saṃsīdati visīdati na santhambhati na sakkoti brahmacariyaṃ sandhāretuṃ 11, sikkhādubbalyaṃ āvikatvā 12 sikkhaṃ paccakkhāya hīnāyāvattati. Kimassa rajaggasmiṃ? Idha bhikkhu suṇāti – ‘‘asukasmiṃ nāma gāme vā nigame vā itthī vā kumārī vā abhirūpā dassanīyā pāsādikā paramāya vaṇṇapokkharatāya samannāgatā’’ti. So taṃ sutvā saṃsīdati visīdati na santhambhati na sakkoti brahmacariyaṃ sandhāretuṃ, sikkhādubbalyaṃ āvikatvā sikkhaṃ paccakkhāya hīnāyāvattati. Idamassa rajaggasmiṃ.
เสยฺยถาปิ โส โยธาชีโว รชคฺคเญฺญว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สโกฺกติ สงฺคามํ โอตริตุํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ เอวรูโปปิ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล โหติฯ อยํ ปฐโม โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สโนฺต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุฯ
Seyyathāpi so yodhājīvo rajaggaññeva disvā saṃsīdati visīdati na santhambhati na sakkoti saṅgāmaṃ otarituṃ, tathūpamo ayaṃ puggalo. Evarūpopi idhekacco puggalo hoti. Ayaṃ paṭhamo yodhājīvūpamo puggalo santo saṃvijjamāno bhikkhūsu.
๑๙๕. ปุน จปรํ อิเธกโจฺจ ภิกฺขุ สหติ รชคฺคํ, อปิ จ โข ธชคฺคเญฺญว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สโกฺกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติฯ กิมสฺส ธชคฺคสฺมิํ? อิธ ภิกฺขุ น เหว โข สุณาติ – ‘‘อสุกสฺมิํ นาม คาเม วา นิคเม วา อิตฺถี วา กุมารี วา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา’’ติ, อปิ จ โข สามํ 13 ปสฺสติ อิตฺถิํ วา กุมาริํ วา อภิรูปํ ทสฺสนียํ ปาสาทิกํ ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตํฯ โส ตํ ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สโกฺกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติฯ อิทมสฺส ธชคฺคสฺมิํฯ
195. Puna caparaṃ idhekacco bhikkhu sahati rajaggaṃ, api ca kho dhajaggaññeva disvā saṃsīdati visīdati na santhambhati na sakkoti brahmacariyaṃ sandhāretuṃ, sikkhādubbalyaṃ āvikatvā sikkhaṃ paccakkhāya hīnāyāvattati. Kimassa dhajaggasmiṃ? Idha bhikkhu na heva kho suṇāti – ‘‘asukasmiṃ nāma gāme vā nigame vā itthī vā kumārī vā abhirūpā dassanīyā pāsādikā paramāya vaṇṇapokkharatāya samannāgatā’’ti, api ca kho sāmaṃ 14 passati itthiṃ vā kumāriṃ vā abhirūpaṃ dassanīyaṃ pāsādikaṃ paramāya vaṇṇapokkharatāya samannāgataṃ. So taṃ disvā saṃsīdati visīdati na santhambhati na sakkoti brahmacariyaṃ sandhāretuṃ, sikkhādubbalyaṃ āvikatvā sikkhaṃ paccakkhāya hīnāyāvattati. Idamassa dhajaggasmiṃ.
เสยฺยถาปิ โส โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ, อปิ จ โข ธชคฺคเญฺญว ทิสฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สโกฺกติ สงฺคามํ โอตริตุํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ เอวรูโปปิ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล โหติฯ อยํ ทุติโย โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สโนฺต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุฯ
Seyyathāpi so yodhājīvo sahati rajaggaṃ, api ca kho dhajaggaññeva disvā saṃsīdati visīdati na santhambhati na sakkoti saṅgāmaṃ otarituṃ, tathūpamo ayaṃ puggalo. Evarūpopi idhekacco puggalo hoti. Ayaṃ dutiyo yodhājīvūpamo puggalo santo saṃvijjamāno bhikkhūsu.
๑๙๖. ปุน จปรํ อิเธกโจฺจ ภิกฺขุ สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ, อปิ จ โข อุสฺสารณเญฺญว สุตฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สโกฺกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติฯ กิมสฺส อุสฺสารณาย? อิธ ภิกฺขุํ อรญฺญคตํ วา รุกฺขมูลคตํ วา สุญฺญาคารคตํ วา มาตุคาโม อุปสงฺกมิตฺวา อูหสติ 15 อุลฺลปติ อุชฺชคฺฆติ อุปฺปเณฺฑติฯ โส มาตุคาเมน อูหสิยมาโน อุลฺลปิยมาโน อุชฺชคฺฆิยมาโน อุปฺปณฺฑิยมาโน สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สโกฺกติ พฺรหฺมจริยํ สนฺธาเรตุํ, สิกฺขาทุพฺพลฺยํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติฯ อิทมสฺส อุสฺสารณายฯ
196. Puna caparaṃ idhekacco bhikkhu sahati rajaggaṃ sahati dhajaggaṃ, api ca kho ussāraṇaññeva sutvā saṃsīdati visīdati na santhambhati na sakkoti brahmacariyaṃ sandhāretuṃ, sikkhādubbalyaṃ āvikatvā sikkhaṃ paccakkhāya hīnāyāvattati. Kimassa ussāraṇāya? Idha bhikkhuṃ araññagataṃ vā rukkhamūlagataṃ vā suññāgāragataṃ vā mātugāmo upasaṅkamitvā ūhasati 16 ullapati ujjagghati uppaṇḍeti. So mātugāmena ūhasiyamāno ullapiyamāno ujjagghiyamāno uppaṇḍiyamāno saṃsīdati visīdati na santhambhati na sakkoti brahmacariyaṃ sandhāretuṃ, sikkhādubbalyaṃ āvikatvā sikkhaṃ paccakkhāya hīnāyāvattati. Idamassa ussāraṇāya.
เสยฺยถาปิ โส โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ, อปิ จ โข อุสฺสารณเญฺญว สุตฺวา สํสีทติ วิสีทติ น สนฺถมฺภติ น สโกฺกติ สงฺคามํ โอตริตุํ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ เอวรูโปปิ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล โหติฯ อยํ ตติโย โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สโนฺต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุฯ
Seyyathāpi so yodhājīvo sahati rajaggaṃ sahati dhajaggaṃ, api ca kho ussāraṇaññeva sutvā saṃsīdati visīdati na santhambhati na sakkoti saṅgāmaṃ otarituṃ, tathūpamo ayaṃ puggalo. Evarūpopi idhekacco puggalo hoti. Ayaṃ tatiyo yodhājīvūpamo puggalo santo saṃvijjamāno bhikkhūsu.
๑๙๗. ปุน จปรํ อิเธกโจฺจ ภิกฺขุ สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ สหติ อุสฺสารณํ, อปิ จ โข สมฺปหาเร หญฺญติ พฺยาปชฺชติฯ กิมสฺส สมฺปหารสฺมิํ? อิธ ภิกฺขุํ อรญฺญคตํ วา รุกฺขมูลคตํ วา สุญฺญาคารคตํ วา มาตุคาโม อุปสงฺกมิตฺวา อภินิสีทติ อภินิปชฺชติ อโชฺฌตฺถรติฯ โส มาตุคาเมน อภินิสีทิยมาโน อภินิปชฺชิยมาโน อโชฺฌตฺถริยมาโน สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวติฯ อิทมสฺส สมฺปหารสฺมิํฯ
197. Puna caparaṃ idhekacco bhikkhu sahati rajaggaṃ sahati dhajaggaṃ sahati ussāraṇaṃ, api ca kho sampahāre haññati byāpajjati. Kimassa sampahārasmiṃ? Idha bhikkhuṃ araññagataṃ vā rukkhamūlagataṃ vā suññāgāragataṃ vā mātugāmo upasaṅkamitvā abhinisīdati abhinipajjati ajjhottharati. So mātugāmena abhinisīdiyamāno abhinipajjiyamāno ajjhotthariyamāno sikkhaṃ appaccakkhāya dubbalyaṃ anāvikatvā methunaṃ dhammaṃ paṭisevati. Idamassa sampahārasmiṃ.
เสยฺยถาปิ โส โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ สหติ อุสฺสารณํ, อปิ จ โข สมฺปหาเร หญฺญติ พฺยาปชฺชติ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ เอวรูโปปิ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล โหติฯ อยํ จตุโตฺถ โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สโนฺต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุฯ
Seyyathāpi so yodhājīvo sahati rajaggaṃ sahati dhajaggaṃ sahati ussāraṇaṃ, api ca kho sampahāre haññati byāpajjati, tathūpamo ayaṃ puggalo. Evarūpopi idhekacco puggalo hoti. Ayaṃ catuttho yodhājīvūpamo puggalo santo saṃvijjamāno bhikkhūsu.
๑๙๘. ปุน จปรํ อิเธกโจฺจ ภิกฺขุ สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ สหติ อุสฺสารณํ สหติ สมฺปหารํฯ โส ตํ สงฺคามํ อภิวิชินิตฺวา วิชิตสงฺคาโม ตเมว สงฺคามสีสํ อชฺฌาวสติฯ กิมสฺส สงฺคามวิชยสฺมิํ? อิธ ภิกฺขุํ อรญฺญคตํ วา รุกฺขมูลคตํ วา สุญฺญาคารคตํ วา มาตุคาโม อุปสงฺกมิตฺวา อภินิสีทติ อภินิปชฺชติ อโชฺฌตฺถรติฯ โส มาตุคาเมน อภินิสีทิยมาโน อภินิปชฺชิยมาโน อโชฺฌตฺถริยมาโน วินิเวเฐตฺวา วินิโมเจตฺวา เยน กามํ ปกฺกมติฯ
198. Puna caparaṃ idhekacco bhikkhu sahati rajaggaṃ sahati dhajaggaṃ sahati ussāraṇaṃ sahati sampahāraṃ. So taṃ saṅgāmaṃ abhivijinitvā vijitasaṅgāmo tameva saṅgāmasīsaṃ ajjhāvasati. Kimassa saṅgāmavijayasmiṃ? Idha bhikkhuṃ araññagataṃ vā rukkhamūlagataṃ vā suññāgāragataṃ vā mātugāmo upasaṅkamitvā abhinisīdati abhinipajjati ajjhottharati. So mātugāmena abhinisīdiyamāno abhinipajjiyamāno ajjhotthariyamāno viniveṭhetvā vinimocetvā yena kāmaṃ pakkamati.
โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรญฺญํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อโพฺภกาสํ ปลาลปุญฺชํฯ โส อรญฺญคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุญฺญาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สติํ อุปฎฺฐเปตฺวาฯ โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิเชฺฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ; พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิโตฺต วิหรติ, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ; ถินมิทฺธํ ปหาย วิคตถินมิโทฺธ วิหรติ อาโลกสญฺญี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ; อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิโตฺต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ; วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิโจฺฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธเมฺมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติฯ
So vivittaṃ senāsanaṃ bhajati araññaṃ rukkhamūlaṃ pabbataṃ kandaraṃ giriguhaṃ susānaṃ vanapatthaṃ abbhokāsaṃ palālapuñjaṃ. So araññagato vā rukkhamūlagato vā suññāgāragato vā nisīdati pallaṅkaṃ ābhujitvā ujuṃ kāyaṃ paṇidhāya parimukhaṃ satiṃ upaṭṭhapetvā. So abhijjhaṃ loke pahāya vigatābhijjhena cetasā viharati, abhijjhāya cittaṃ parisodheti; byāpādapadosaṃ pahāya abyāpannacitto viharati, sabbapāṇabhūtahitānukampī byāpādapadosā cittaṃ parisodheti; thinamiddhaṃ pahāya vigatathinamiddho viharati ālokasaññī sato sampajāno, thinamiddhā cittaṃ parisodheti; uddhaccakukkuccaṃ pahāya anuddhato viharati ajjhattaṃ vūpasantacitto, uddhaccakukkuccā cittaṃ parisodheti; vicikicchaṃ pahāya tiṇṇavicikiccho viharati akathaṃkathī kusalesu dhammesu, vicikicchāya cittaṃ parisodheti.
โส อิเม ปญฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา ทุติยํ ฌานํ…เป.… ตติยํ ฌานํ…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ
So ime pañca nīvaraṇe pahāya cetaso upakkilese paññāya dubbalīkaraṇe vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi savitakkaṃ savicāraṃ vivekajaṃ pītisukhaṃ paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati; vitakkavicārānaṃ vūpasamā dutiyaṃ jhānaṃ…pe… tatiyaṃ jhānaṃ…pe… catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati.
โส เอวํ สมาหิเต จิเตฺต ปริสุเทฺธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปเตฺต อาสวานํ ขยญาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อิเม อาสวา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ อาสวสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ , ‘‘อยํ อาสวนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ
So evaṃ samāhite citte parisuddhe pariyodāte anaṅgaṇe vigatūpakkilese mudubhūte kammaniye ṭhite āneñjappatte āsavānaṃ khayañāṇāya cittaṃ abhininnāmeti. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhasamudayo’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodho’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ime āsavā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ āsavasamudayo’’ti yathābhūtaṃ pajānāti , ‘‘ayaṃ āsavanirodho’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ āsavanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti.
ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติฯ วิมุตฺตสฺมิํ วิมุตฺตมิติ ญาณํ โหติฯ ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ ปชานาติฯ อิทมสฺส สงฺคามวิชยสฺมิํฯ เสยฺยถาปิ โส โยธาชีโว สหติ รชคฺคํ สหติ ธชคฺคํ สหติ อุสฺสารณํ สหติ สมฺปหารํ, โส ตํ สงฺคามํ อภิวิชินิตฺวา วิชิตสงฺคาโม ตเมว สงฺคามสีสํ อชฺฌาวสติ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ เอวรูโปปิ อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล โหติฯ อยํ ปญฺจโม โยธาชีวูปโม ปุคฺคโล สโนฺต สํวิชฺชมาโน ภิกฺขูสุฯ อิเม ปญฺจ โยธาชีวูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา ภิกฺขูสุฯ
Tassa evaṃ jānato evaṃ passato kāmāsavāpi cittaṃ vimuccati, bhavāsavāpi cittaṃ vimuccati, avijjāsavāpi cittaṃ vimuccati. Vimuttasmiṃ vimuttamiti ñāṇaṃ hoti. ‘‘Khīṇā jāti, vusitaṃ brahmacariyaṃ, kataṃ karaṇīyaṃ, nāparaṃ itthattāyā’’ti pajānāti. Idamassa saṅgāmavijayasmiṃ. Seyyathāpi so yodhājīvo sahati rajaggaṃ sahati dhajaggaṃ sahati ussāraṇaṃ sahati sampahāraṃ, so taṃ saṅgāmaṃ abhivijinitvā vijitasaṅgāmo tameva saṅgāmasīsaṃ ajjhāvasati, tathūpamo ayaṃ puggalo. Evarūpopi idhekacco puggalo hoti. Ayaṃ pañcamo yodhājīvūpamo puggalo santo saṃvijjamāno bhikkhūsu. Ime pañca yodhājīvūpamā puggalā santo saṃvijjamānā bhikkhūsu.
๑๙๙. ตตฺถ กตเม ปญฺจ ปิณฺฑปาติกา? มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ปิณฺฑปาติโก โหติ, ปาปิโจฺฉ อิจฺฉาปกโต ปิณฺฑปาติโก โหติ, อุมฺมาทา จิตฺตวิเกฺขปา ปิณฺฑปาติโก โหติ, ‘‘วณฺณิตํ พุเทฺธหิ พุทฺธสาวเกหี’’ติ ปิณฺฑปาติโก โหติ, อปิ จ อปฺปิจฺฉตํเยว 17 นิสฺสาย สนฺตุฎฺฐิํเยว นิสฺสาย สเลฺลขํเยว นิสฺสาย อิทมตฺถิตํเยว 18 นิสฺสาย ปิณฺฑปาติโก โหติฯ ตตฺร ยฺวายํ ปิณฺฑปาติโก อปฺปิจฺฉตํเยว นิสฺสาย สนฺตุฎฺฐิํเยว นิสฺสาย สเลฺลขํเยว นิสฺสาย อิทมตฺถิตํเยว นิสฺสาย ปิณฺฑปาติโก, อยํ อิเมสํ ปญฺจนฺนํ ปิณฺฑปาติกานํ อโคฺค จ เสโฎฺฐ จ ปาโมโกฺข 19 จ อุตฺตโม จ ปวโร จฯ
199. Tattha katame pañca piṇḍapātikā? Mandattā momūhattā piṇḍapātiko hoti, pāpiccho icchāpakato piṇḍapātiko hoti, ummādā cittavikkhepā piṇḍapātiko hoti, ‘‘vaṇṇitaṃ buddhehi buddhasāvakehī’’ti piṇḍapātiko hoti, api ca appicchataṃyeva 20 nissāya santuṭṭhiṃyeva nissāya sallekhaṃyeva nissāya idamatthitaṃyeva 21 nissāya piṇḍapātiko hoti. Tatra yvāyaṃ piṇḍapātiko appicchataṃyeva nissāya santuṭṭhiṃyeva nissāya sallekhaṃyeva nissāya idamatthitaṃyeva nissāya piṇḍapātiko, ayaṃ imesaṃ pañcannaṃ piṇḍapātikānaṃ aggo ca seṭṭho ca pāmokkho 22 ca uttamo ca pavaro ca.
เสยฺยถาปิ นาม ควา ขีรํ, ขีรมฺหา ทธิ, ทธิมฺหา นวนีตํ 23, นวนีตมฺหา สปฺปิ, สปฺปิมฺหา สปฺปิมโณฺฑ, สปฺปิมณฺฑํ ตตฺถ อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ ยฺวายํ ปิณฺฑปาติโก อปฺปิจฺฉตํเยว นิสฺสาย สนฺตุฎฺฐิํเยว นิสฺสาย สเลฺลขํเยว นิสฺสาย อิทมตฺถิตํเยว นิสฺสาย ปิณฺฑปาติโก โหติ, อยํ อิเมสํ ปญฺจนฺนํ ปิณฺฑปาติกานํ อโคฺค จ เสโฎฺฐ จ ปาโมโกฺข จ อุตฺตโม จ ปวโร จฯ อิเม ปญฺจ ปิณฺฑปาติกาฯ
Seyyathāpi nāma gavā khīraṃ, khīramhā dadhi, dadhimhā navanītaṃ 24, navanītamhā sappi, sappimhā sappimaṇḍo, sappimaṇḍaṃ tattha aggamakkhāyati; evamevaṃ yvāyaṃ piṇḍapātiko appicchataṃyeva nissāya santuṭṭhiṃyeva nissāya sallekhaṃyeva nissāya idamatthitaṃyeva nissāya piṇḍapātiko hoti, ayaṃ imesaṃ pañcannaṃ piṇḍapātikānaṃ aggo ca seṭṭho ca pāmokkho ca uttamo ca pavaro ca. Ime pañca piṇḍapātikā.
๒๐๐. ตตฺถ กตเม ปญฺจ ขลุปจฺฉาภตฺติกา…เป.… ปญฺจ เอกาสนิกา…เป.… ปญฺจ ปํสุกูลิกา…เป.… ปญฺจ เตจีวริกา…เป.… ปญฺจ อารญฺญิกา…เป.… ปญฺจ รุกฺขมูลิกา …เป.… ปญฺจ อโพฺภกาสิกา…เป.… ปญฺจ เนสชฺชิกา…เป.… ปญฺจ ยถาสนฺถติกา…เป.…ฯ
200. Tattha katame pañca khalupacchābhattikā…pe… pañca ekāsanikā…pe… pañca paṃsukūlikā…pe… pañca tecīvarikā…pe… pañca āraññikā…pe… pañca rukkhamūlikā …pe… pañca abbhokāsikā…pe… pañca nesajjikā…pe… pañca yathāsanthatikā…pe….
๒๐๑. ตตฺถ กตเม ปญฺจ โสสานิกา? มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา โสสานิโก โหติ, ปาปิโจฺฉ อิจฺฉาปกโต โสสานิโก โหติ, อุมฺมาทา จิตฺตวิเกฺขปา โสสานิโก โหติ, ‘‘วณฺณิตํ พุเทฺธหิ พุทฺธสาวเกหี’’ติ โสสานิโก โหติ, อปิ จ อปฺปิจฺฉตํเยว นิสฺสาย สนฺตุฎฺฐิํเยว นิสฺสาย สเลฺลขํเยว นิสฺสาย อิทมตฺถิตํเยว นิสฺสาย โสสานิโก โหติฯ ตตฺร ยฺวายํ โสสานิโก อปฺปิจฺฉตํเยว นิสฺสาย สนฺตุฎฺฐิํเยว นิสฺสาย สเลฺลขํเยว นิสฺสาย อิทมตฺถิตํเยว นิสฺสาย โสสานิโก, อยํ อิเมสํ ปญฺจนฺนํ โสสานิกานํ อโคฺค จ เสโฎฺฐ จ ปาโมโกฺข จ อุตฺตโม จ ปวโร จฯ
201. Tattha katame pañca sosānikā? Mandattā momūhattā sosāniko hoti, pāpiccho icchāpakato sosāniko hoti, ummādā cittavikkhepā sosāniko hoti, ‘‘vaṇṇitaṃ buddhehi buddhasāvakehī’’ti sosāniko hoti, api ca appicchataṃyeva nissāya santuṭṭhiṃyeva nissāya sallekhaṃyeva nissāya idamatthitaṃyeva nissāya sosāniko hoti. Tatra yvāyaṃ sosāniko appicchataṃyeva nissāya santuṭṭhiṃyeva nissāya sallekhaṃyeva nissāya idamatthitaṃyeva nissāya sosāniko, ayaṃ imesaṃ pañcannaṃ sosānikānaṃ aggo ca seṭṭho ca pāmokkho ca uttamo ca pavaro ca.
เสยฺยถาปิ นาม ควา ขีรํ, ขีรมฺหา ทธิ, ทธิมฺหา นวนีตํ, นวนีตมฺหา สปฺปิ, สปฺปิมฺหา สปฺปิมโณฺฑ, สปฺปิมณฺฑํ ตตฺถ อคฺคมกฺขายติ; เอวเมวํ ยฺวายํ โสสานิโก อปฺปิจฺฉตํเยว นิสฺสาย สนฺตุฎฺฐิํเยว นิสฺสาย สเลฺลขํเยว นิสฺสาย อิทมตฺถิตํเยว นิสฺสาย โสสานิโก โหติ, อยํ อิเมสํ ปญฺจนฺนํ โสสานิกานํ อโคฺค จ เสโฎฺฐ จ ปาโมโกฺข จ อุตฺตโม จ ปวโร จฯ อิเม ปญฺจ โสสานิกาฯ
Seyyathāpi nāma gavā khīraṃ, khīramhā dadhi, dadhimhā navanītaṃ, navanītamhā sappi, sappimhā sappimaṇḍo, sappimaṇḍaṃ tattha aggamakkhāyati; evamevaṃ yvāyaṃ sosāniko appicchataṃyeva nissāya santuṭṭhiṃyeva nissāya sallekhaṃyeva nissāya idamatthitaṃyeva nissāya sosāniko hoti, ayaṃ imesaṃ pañcannaṃ sosānikānaṃ aggo ca seṭṭho ca pāmokkho ca uttamo ca pavaro ca. Ime pañca sosānikā.
ปญฺจกนิเทฺทโสฯ
Pañcakaniddeso.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā / ๕. ปญฺจกนิเทฺทสวณฺณนา • 5. Pañcakaniddesavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๕. ปญฺจกนิเทฺทสวณฺณนา • 5. Pañcakaniddesavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๕. ปญฺจกนิเทฺทสวณฺณนา • 5. Pañcakaniddesavaṇṇanā