Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā

    ๕. ปญฺจมนโย อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา

    5. Pañcamanayo asaṅgahitenaasaṅgahitapadavaṇṇanā

    ๑๙๓. วุตฺตนเยนาติ ยสฺมา สงฺคหปฺปวตฺติวิเสสวิรหิโต อสงฺคหิตธมฺมวิเสสนิสฺสิโต ปญฺจมนโย, ตสฺมา โย เอตฺถ เกนจิ อสงฺคหิเตน ธมฺมวิเสเสน ปุน อสงฺคหิโต ธมฺมวิเสโส อสงฺคหิเตน อสงฺคหิโต อสงฺคหิตตาย ปุจฺฉิตโพฺพ วิสฺสชฺชิตโพฺพ จฯ ตเมว ตาว ยถานิทฺธาริตํ ทเสฺสโนฺต ‘‘รูปกฺขเนฺธน เย ธมฺมา ขนฺธ…เป.… อสงฺคหิตา, เตหิ ธเมฺมหิ เย ธมฺมา ขนฺธ…เป.… อสงฺคหิตาติ อาหา’’ติ จตุตฺถนเย วุตฺตนยานุสาเรนฯ ยถานิทฺธาริตธมฺมทสฺสนนฺติ ปาฬิยํ นิทฺธาริตปฺปการธมฺมทสฺสนํฯ สห สุขุมรูเปนาติ สสุขุมรูปํ, เตน สุขุมรูเปน สทฺธิํ คหิตํ วิญฺญาณํ, เตน สหิตธมฺมสมุทายา สสุขุม…เป.… ทายาฯ เก ปน เตติ อาห ‘‘ทุกฺขสจฺจา’’ติอาทิฯ เกสญฺจีติ นิพฺพานจกฺขายตนาทีนํฯ ตีหิปิ สงฺคเหหิฯ ปริปุณฺณสงฺคเหหิ ตีหิปิ สงฺคเหหิ อสงฺคาหกา ปริปุณฺณสงฺคหาสงฺคาหกาอพฺยากตธมฺมสทิสา เนวทสฺสเนนนภาวนายปหาตพฺพเนวเสกฺขานาเสกฺขาทโยฯ อิตเรติ รูปกฺขนฺธาทโยฯ ตพฺพิปริยาเยนาติ วุตฺตวิปริยาเยน, ตีหิปิ สงฺคเหหิ อสงฺคเหตพฺพสฺส อตฺถิตาย ปริปุณฺณสงฺคหาสงฺคาหกตฺตาติ อโตฺถฯ

    193. Vuttanayenāti yasmā saṅgahappavattivisesavirahito asaṅgahitadhammavisesanissito pañcamanayo, tasmā yo ettha kenaci asaṅgahitena dhammavisesena puna asaṅgahito dhammaviseso asaṅgahitena asaṅgahito asaṅgahitatāya pucchitabbo vissajjitabbo ca. Tameva tāva yathāniddhāritaṃ dassento ‘‘rūpakkhandhena ye dhammā khandha…pe… asaṅgahitā, tehi dhammehi ye dhammā khandha…pe… asaṅgahitāti āhā’’ti catutthanaye vuttanayānusārena. Yathāniddhāritadhammadassananti pāḷiyaṃ niddhāritappakāradhammadassanaṃ. Saha sukhumarūpenāti sasukhumarūpaṃ, tena sukhumarūpena saddhiṃ gahitaṃ viññāṇaṃ, tena sahitadhammasamudāyā sasukhuma…pe… dāyā. Ke pana teti āha ‘‘dukkhasaccā’’tiādi. Kesañcīti nibbānacakkhāyatanādīnaṃ. Tīhipi saṅgahehi. Paripuṇṇasaṅgahehi tīhipi saṅgahehi asaṅgāhakā paripuṇṇasaṅgahāsaṅgāhakā. Abyākatadhammasadisā nevadassanenanabhāvanāyapahātabbanevasekkhānāsekkhādayo. Itareti rūpakkhandhādayo. Tabbipariyāyenāti vuttavipariyāyena, tīhipi saṅgahehi asaṅgahetabbassa atthitāya paripuṇṇasaṅgahāsaṅgāhakattāti attho.

    อสงฺคาหเกสุ นิพฺพานํ อโนฺตคธํ, ตสฺมา ตํ อนิทสฺสนอปฺปฎิเฆหิ อสงฺคเหตพฺพํ น โหตีติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘น จ ตเทว ตสฺส อสงฺคาหก’’นฺติฯ ‘‘เวทนากฺขเนฺธน เย ธมฺมา’’ติอาทโย นว ปญฺหา ทุติยปญฺหาทโย, เต ปฐมปเญฺหน สทฺธิํ ทส, นามรูปปญฺหาทโย ปน จตุวีสตีติ อาห ‘‘สเพฺพปิ จตุตฺติํส โหนฺตี’’ติฯ รูปกฺขนฺธาทิวิเสสกปทนฺติ ‘‘รูปกฺขเนฺธนา’’ติอาทินา อสงฺคาหกเตฺตน วิเสสกํ รูปกฺขนฺธาทิปทํฯ ปุจฺฉายาติ จ ปุจฺฉนตฺถนฺติ อโตฺถฯ ‘‘รูปกฺขเนฺธนา’’ติอาทิ สพฺพมฺปิ วา วิญฺญาเปตุํ อิจฺฉิตภาเวน วจนํ ปญฺหภาวโต ปุจฺฉาฯ เตนาห อฎฺฐกถายํ ‘‘ปญฺหา ปเนตฺถ…เป.… จตุตฺติํส โหนฺตี’’ติฯ เต หิ ลกฺขณโต ทสฺสิตาติ เต นิทฺธาริตธมฺมา เตเนว อสงฺคหิตาสงฺคหิตตาย นิทฺธารณสงฺขาเตน ลกฺขเณน ทสฺสิตาฯ

    Asaṅgāhakesu nibbānaṃ antogadhaṃ, tasmā taṃ anidassanaappaṭighehi asaṅgahetabbaṃ na hotīti attho. Tenāha ‘‘na ca tadeva tassa asaṅgāhaka’’nti. ‘‘Vedanākkhandhena ye dhammā’’tiādayo nava pañhā dutiyapañhādayo, te paṭhamapañhena saddhiṃ dasa, nāmarūpapañhādayo pana catuvīsatīti āha ‘‘sabbepi catuttiṃsa hontī’’ti. Rūpakkhandhādivisesakapadanti ‘‘rūpakkhandhenā’’tiādinā asaṅgāhakattena visesakaṃ rūpakkhandhādipadaṃ. Pucchāyāti ca pucchanatthanti attho. ‘‘Rūpakkhandhenā’’tiādi sabbampi vā viññāpetuṃ icchitabhāvena vacanaṃ pañhabhāvato pucchā. Tenāha aṭṭhakathāyaṃ ‘‘pañhā panettha…pe… catuttiṃsa hontī’’ti. Te hi lakkhaṇato dassitāti te niddhāritadhammā teneva asaṅgahitāsaṅgahitatāya niddhāraṇasaṅkhātena lakkhaṇena dassitā.

    ตเทวาติ เอว-สเทฺทนาติ ‘‘ตเทวา’’ติ เอตฺถ เอว-สเทฺทนฯ ‘‘ยํ ปุจฺฉาย อุทฺธฎํ ปทํ, ตํ ขนฺธาทีหิ อสงฺคหิต’’นฺติ เอตฺถ ‘‘ขนฺธาทีเหวา’’ติ อวธารณํ นิปฺปโยชนํ ปการนฺตรสฺส อภาวโตฯ ‘‘ตีหิ อสงฺคโห’’ติ หิ วุตฺตํฯ ตถา ‘‘อสงฺคหิตเมวา’’ติ สงฺคหิตตานิวตฺตนสฺส อนธิเปฺปตตฺตาฯ ตเทวาติ ปน อิจฺฉิตํ อุทฺธฎเสฺสว อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตภาวสฺส อวธาเรตพฺพตฺตาติ ทเสฺสโนฺต ‘‘น กทาจี’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ อญฺญสฺสาติ อนุทฺธฎสฺสฯ อนิยตตํ ทเสฺสตีติ อิทํ อวธารณผลทสฺสนํฯ นิยมโตติ สกฺกา วจนเสโส โยเชตุนฺติ อิทมฺปิ เอว-กาเรน สิทฺธเมวตฺถํ ปากฎตรํ กาตุํ วุตฺตํฯ ยโต หิ เอว-กาโร, ตโต อญฺญตฺถ นิยโมติฯ เอวํปการเมวาติ ปุจฺฉาย อุทฺธฎปฺปการเมว, ยํ ปการํ ปุจฺฉาย อุทฺธฎํ, ตํปการเมวาติ อโตฺถฯ ตสฺสาติ อสงฺคหิตสฺสฯ อญฺญสฺสาติ ปุจฺฉาย อนุทฺธฎปฺปการสฺสฯ เอเตน โย ปุจฺฉาย อุทฺธโฎ ตีหิปิ สงฺคเหหิ อสงฺคหิโต, ตเสฺสว อิธ ปุจฺฉิตพฺพวิสฺสชฺชิตพฺพภาโว, น อญฺญสฺสาติ ทเสฺสติฯ เตนาห ‘‘ปุจฺฉาย อุทฺธฎญฺหี’’ติอาทิฯ อายตนธาตุสงฺคหวเสน เจตฺถ รูปกฺขนฺธาทีนํ อญฺญสหิตตา, วิญฺญาณกฺขนฺธาทีนํ อสหิตตา จ เวทิตพฺพาฯ

    Tadevāti eva-saddenāti ‘‘tadevā’’ti ettha eva-saddena. ‘‘Yaṃ pucchāya uddhaṭaṃ padaṃ, taṃ khandhādīhi asaṅgahita’’nti ettha ‘‘khandhādīhevā’’ti avadhāraṇaṃ nippayojanaṃ pakārantarassa abhāvato. ‘‘Tīhi asaṅgaho’’ti hi vuttaṃ. Tathā ‘‘asaṅgahitamevā’’ti saṅgahitatānivattanassa anadhippetattā. Tadevāti pana icchitaṃ uddhaṭasseva asaṅgahitenaasaṅgahitabhāvassa avadhāretabbattāti dassento ‘‘na kadācī’’tiādimāha. Tattha aññassāti anuddhaṭassa. Aniyatataṃ dassetīti idaṃ avadhāraṇaphaladassanaṃ. Niyamatoti sakkā vacanaseso yojetunti idampi eva-kārena siddhamevatthaṃ pākaṭataraṃ kātuṃ vuttaṃ. Yato hi eva-kāro, tato aññattha niyamoti. Evaṃpakāramevāti pucchāya uddhaṭappakārameva, yaṃ pakāraṃ pucchāya uddhaṭaṃ, taṃpakāramevāti attho. Tassāti asaṅgahitassa. Aññassāti pucchāya anuddhaṭappakārassa. Etena yo pucchāya uddhaṭo tīhipi saṅgahehi asaṅgahito, tasseva idha pucchitabbavissajjitabbabhāvo, na aññassāti dasseti. Tenāha ‘‘pucchāya uddhaṭañhī’’tiādi. Āyatanadhātusaṅgahavasena cettha rūpakkhandhādīnaṃ aññasahitatā, viññāṇakkhandhādīnaṃ asahitatā ca veditabbā.

    อวเสสา เวทนาทโย ตโย ขนฺธา นิพฺพานญฺจ สกเลน รูปกฺขเนฺธน เตสํ สงฺคโห นตฺถีติ ‘‘สงฺคหิตา’’ติ น สกฺกา วตฺตุํ, เอกเทเสน ปน สงฺคโห อตฺถีติ ‘‘อสงฺคหิตา น โหนฺตีติ เอวํ ทฎฺฐพฺพ’’นฺติ อาหฯ ‘‘รูปธมฺมาวา’’ติ นิยมนํ ปุจฺฉาย อุทฺธฎภาวาเปกฺขนฺติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ปุจฺฉาย…เป.… อธิปฺปาโย’’ติ อาหฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อนุทฺธฎา เวทนาทโยปิ หิ อสงฺคหิตา เอวา’’ติฯ เอตฺถาติ เอตสฺมิํ ปญฺจมนยนิเทฺทเสฯ ปฐเม นเยติ ปฐเม อตฺถวิกเปฺปฯ ตถา ทุติเยติ เอตฺถาปิฯ รูปวิญฺญาเณหีติ อสุขุมรูปธเมฺมหิ วิญฺญาเณน จาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโยติ ทเสฺสโนฺต ‘‘โอฬาริก…เป.… อโตฺถ’’ติ อาหฯ กถํ ปน รูปธมฺมาติ วุเตฺต โอฬาริกรูปเสฺสว คหณนฺติ อาห ‘‘รูเปกเทโส หิ เอตฺถ รูปคฺคหเณน คหิโต’’ติฯ

    Avasesā vedanādayo tayo khandhā nibbānañca sakalena rūpakkhandhena tesaṃ saṅgaho natthīti ‘‘saṅgahitā’’ti na sakkā vattuṃ, ekadesena pana saṅgaho atthīti ‘‘asaṅgahitā na hontīti evaṃ daṭṭhabba’’nti āha. ‘‘Rūpadhammāvā’’ti niyamanaṃ pucchāya uddhaṭabhāvāpekkhanti dassento ‘‘pucchāya…pe… adhippāyo’’ti āha. Tena vuttaṃ ‘‘anuddhaṭā vedanādayopi hi asaṅgahitā evā’’ti. Etthāti etasmiṃ pañcamanayaniddese. Paṭhame nayeti paṭhame atthavikappe. Tathā dutiyeti etthāpi. Rūpaviññāṇehīti asukhumarūpadhammehi viññāṇena cāti ayamettha adhippāyoti dassento ‘‘oḷārika…pe… attho’’ti āha. Kathaṃ pana rūpadhammāti vutte oḷārikarūpasseva gahaṇanti āha ‘‘rūpekadeso hi ettha rūpaggahaṇena gahito’’ti.

    ๑๙๖. อสงฺคาหกนฺติ ‘‘จกฺขายตเนน…เป.… อสงฺคหิตา’’ติ เอวํ อสงฺคาหกภาเวน วุตฺตํ ปุจฺฉิตพฺพวิสฺสเชฺชตพฺพภาเวน วุตฺตมฺปิ กามํ เวทนาทีเหว จตูหิ อสงฺคหิตํ, ตํ ปน น จกฺขายตนเมวาติ ทเสฺสตุํ ‘‘จกฺขายตเนน ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เยหิ ธเมฺมหีติ ขนฺธาทีสุ เยหิฯ สพฺพํ ธมฺมชาตํ เตว รูปาทิเก ธเมฺม อุทาเนติ ปาฬิยํฯ กสฺมา ปเนตํ อุทาเนตีติ อาห ‘‘สทิสวิสฺสชฺชนา’’ติอาทิฯ ปฐเมน อุทาเนนฯ เทฺวติ ‘‘พาหิรา อุปาทา เทฺว’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ เทฺว-สทฺทํ สนฺธายาหฯ ตสฺส อสงฺคหิตสฺสฯ ยถาทสฺสิตสฺสาติ ‘‘รูป’’นฺติอาทินา ทสฺสิตปฺปการสฺสฯ ธมฺมนฺวยญาณุปฺปาทนํ นยทานํฯ ‘‘รูปํ ธมฺมายตน’’นฺติอาทีนํ ปทานํ วเสน เทฺววีสปทิโก เอส นโย

    196. Asaṅgāhakanti ‘‘cakkhāyatanena…pe… asaṅgahitā’’ti evaṃ asaṅgāhakabhāvena vuttaṃ pucchitabbavissajjetabbabhāvena vuttampi kāmaṃ vedanādīheva catūhi asaṅgahitaṃ, taṃ pana na cakkhāyatanamevāti dassetuṃ ‘‘cakkhāyatanena panā’’tiādi vuttaṃ. Yehi dhammehīti khandhādīsu yehi. Sabbaṃ dhammajātaṃ teva rūpādike dhamme udāneti pāḷiyaṃ. Kasmā panetaṃ udānetīti āha ‘‘sadisavissajjanā’’tiādi. Paṭhamena udānena. Dveti ‘‘bāhirā upādā dve’’ti ettha vuttaṃ dve-saddaṃ sandhāyāha. Tassa asaṅgahitassa. Yathādassitassāti ‘‘rūpa’’ntiādinā dassitappakārassa. Dhammanvayañāṇuppādanaṃ nayadānaṃ. ‘‘Rūpaṃ dhammāyatana’’ntiādīnaṃ padānaṃ vasena dvevīsapadiko esa nayo.

    ปญฺจมนยอสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Pañcamanayaasaṅgahitenaasaṅgahitapadavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ธาตุกถาปาฬิ • Dhātukathāpāḷi / ๕. อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทนิเทฺทโส • 5. Asaṅgahitenaasaṅgahitapadaniddeso

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā / ๕. ปญฺจมนโย อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา • 5. Pañcamanayo asaṅgahitenaasaṅgahitapadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๕. ปญฺจมนโย อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา • 5. Pañcamanayo asaṅgahitenaasaṅgahitapadavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact