Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๘-๙. ปญฺจงฺคิกสุตฺตาทิวณฺณนา
8-9. Pañcaṅgikasuttādivaṇṇanā
๒๘-๒๙. อฎฺฐเม กโร วุจฺจติ ปุปฺผสมฺภวํ ‘‘คพฺภาสเย กิรียตี’’ติ กตฺวาฯ กรโต ชาโต กาโย กรชกาโย, ตทุปนิสฺสโย จตุสนฺตติรูปสมุทาโยฯ กามํ นามกาโยปิ วิเวกเชน ปีติสุเขน ตถาลทฺธูปกาโร, ‘‘อภิสเนฺทตี’’ติอาทิวจนโต ปน รูปกาโย อิธ อธิเปฺปโตติ อาห ‘‘อิมํ กรชกาย’’นฺติฯ อภิสเนฺทตีติ อภิสนฺทนํ กโรติฯ ตํ ปน อภิสนฺทนํ ฌานมเยน ปีติสุเขน กรชกายสฺส ตินฺตภาวาปาทนํ สพฺพตฺถกเมว ลูขภาวาปนยนนฺติ อาห ‘‘เตเมตี’’ติอาทิฯ ตยิทํ อภิสนฺทนํ อตฺถโต ยถาวุตฺตปีติสุขสมุฎฺฐาเนหิ ปณีตรูเปหิ กายสฺส ปริปฺผรณํ ทฎฺฐพฺพํฯ ปริสเนฺทตีติอาทีสุปิ เอเสว นโยฯ สพฺพํ เอตสฺส อตฺถีติ สพฺพาวา, ตสฺส สพฺพาวโตฯ อวยวาวยวิสมฺพเนฺธ อวยวินิ สามิวจนนฺติ อวยววิสโย สพฺพ-สโทฺท, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สพฺพโกฎฺฐาสวโต’’ติฯ อผุฎํ นาม น โหติ ยตฺถ ยตฺถ กมฺมชรูปํ, ตตฺถ ตตฺถ จิตฺตชรูปสฺส อภิพฺยาปนโตฯ เตนาห ‘‘อุปาทินฺนกสนฺตตี’’ติอาทิฯ
28-29. Aṭṭhame karo vuccati pupphasambhavaṃ ‘‘gabbhāsaye kirīyatī’’ti katvā. Karato jāto kāyo karajakāyo, tadupanissayo catusantatirūpasamudāyo. Kāmaṃ nāmakāyopi vivekajena pītisukhena tathāladdhūpakāro, ‘‘abhisandetī’’tiādivacanato pana rūpakāyo idha adhippetoti āha ‘‘imaṃ karajakāya’’nti. Abhisandetīti abhisandanaṃ karoti. Taṃ pana abhisandanaṃ jhānamayena pītisukhena karajakāyassa tintabhāvāpādanaṃ sabbatthakameva lūkhabhāvāpanayananti āha ‘‘temetī’’tiādi. Tayidaṃ abhisandanaṃ atthato yathāvuttapītisukhasamuṭṭhānehi paṇītarūpehi kāyassa parippharaṇaṃ daṭṭhabbaṃ. Parisandetītiādīsupi eseva nayo. Sabbaṃ etassa atthīti sabbāvā, tassa sabbāvato. Avayavāvayavisambandhe avayavini sāmivacananti avayavavisayo sabba-saddo, tasmā vuttaṃ ‘‘sabbakoṭṭhāsavato’’ti. Aphuṭaṃ nāma na hoti yattha yattha kammajarūpaṃ, tattha tattha cittajarūpassa abhibyāpanato. Tenāha ‘‘upādinnakasantatī’’tiādi.
เฉโกติ กุสโลฯ ตํ ปนสฺส โกสลฺลํ นหานียจุณฺณานํ กรเณ ปิณฺฑิกรเณ จ สมตฺถตาวเสน เวทิตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปฎิพโล’’ติอาทิฯ กํส-สโทฺท ‘‘มหติยา กํสปาติยา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๖๑) สุวเณฺณ อาคโตฯ‘‘กํโส อุปหโต ยถา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๓๔) กิตฺติมโลเหฯ กตฺถจิ ปณฺณตฺติมเตฺต ‘‘อุปกํโส นาม ราชาสิ, มหากํสสฺส อตฺรโช’’ติอาทิ (ชา. อฎฺฐ. ๔.๑๐.๑๖๔ ฆฎปณฺฑิตชาตกวณฺณนา)ฯ อิธ ปน ยตฺถ กตฺถจิ โลเหติ อาห ‘‘เยน เกนจิ โลเหน กตภาชเน’’ติฯ เสฺนหานุคตาติ อุทกสิเนเหน อนุปฺปวิสนวเสน คตา อุปคตาฯ เสฺนหปเรตาติ อุทกสิเนเหน ปริโต คตา สมนฺตโต ผุฎาฯ ตโต เอว สนฺตรพาหิรา ผุฎา เสฺนเหนฯ เอเตน สพฺพโส อุทเกน เตมิตภาวมาหฯ น จ ปคฺฆริณีติ เอเตน ตินฺตสฺสปิ ตสฺส ฆนถทฺธภาวํ วทติฯ เตนาห ‘‘น พินฺทุพินฺทู’’ติอาทิฯ
Chekoti kusalo. Taṃ panassa kosallaṃ nahānīyacuṇṇānaṃ karaṇe piṇḍikaraṇe ca samatthatāvasena veditabbanti āha ‘‘paṭibalo’’tiādi. Kaṃsa-saddo ‘‘mahatiyā kaṃsapātiyā’’tiādīsu (ma. ni. 1.61) suvaṇṇe āgato.‘‘Kaṃso upahato yathā’’tiādīsu (dha. pa. 134) kittimalohe. Katthaci paṇṇattimatte ‘‘upakaṃso nāma rājāsi, mahākaṃsassa atrajo’’tiādi (jā. aṭṭha. 4.10.164 ghaṭapaṇḍitajātakavaṇṇanā). Idha pana yattha katthaci loheti āha ‘‘yena kenaci lohena katabhājane’’ti. Snehānugatāti udakasinehena anuppavisanavasena gatā upagatā. Snehaparetāti udakasinehena parito gatā samantato phuṭā. Tato eva santarabāhirā phuṭā snehena. Etena sabbaso udakena temitabhāvamāha. Na ca pagghariṇīti etena tintassapi tassa ghanathaddhabhāvaṃ vadati. Tenāha ‘‘na bindubindū’’tiādi.
ตาหิ ตาหิ อุทกสิราหิ อุพฺภิชฺชตีติ อุพฺภิทํ, อุพฺภิทํ อุทกํ เอตสฺสาติ อุพฺภิโททโกฯ อุพฺภินฺนอุทโกติ นทีตีเร ขตกูปโก วิย อุพฺภิชฺชนกอุทโกฯ อุคฺคจฺฉนอุทโกติ ธาราวเสน อุฎฺฐหนอุทโกฯ กสฺมา ปเนตฺถ อุพฺภิโททโกว รหโท คหิโต, น อิตโรติ อาห ‘‘เหฎฺฐา อุคฺคจฺฉนอุทกญฺหี’’ติอาทิฯ ธารานิปาตพุพฺพุฬเกหีติ ธารานิปาเตหิ จ อุทกพุพฺพุเฬหิ จฯ ‘‘เผณปฎเลหิ จา’’ติ วตฺตพฺพํ, สนฺนิสินฺนเมว อปริโกฺขภตาย นิจฺจลเมว, สุปฺปสนฺนเมวาติ อธิปฺปาโยฯ เสสนฺติ ‘‘อภิสเนฺทตี’’ติอาทิกํฯ
Tāhi tāhi udakasirāhi ubbhijjatīti ubbhidaṃ, ubbhidaṃ udakaṃ etassāti ubbhidodako. Ubbhinnaudakoti nadītīre khatakūpako viya ubbhijjanakaudako. Uggacchanaudakoti dhārāvasena uṭṭhahanaudako. Kasmā panettha ubbhidodakova rahado gahito, na itaroti āha ‘‘heṭṭhā uggacchanaudakañhī’’tiādi. Dhārānipātabubbuḷakehīti dhārānipātehi ca udakabubbuḷehi ca. ‘‘Pheṇapaṭalehi cā’’ti vattabbaṃ, sannisinnameva aparikkhobhatāya niccalameva, suppasannamevāti adhippāyo. Sesanti ‘‘abhisandetī’’tiādikaṃ.
อุปฺปลานีติ อุปฺปลคจฺฉานิฯ เสตรตฺตนีเลสูติ อุปฺปเลสุ, เสตุปฺปลรตฺตุปฺปลนีลุปฺปเลสูติ อโตฺถฯ ยํ กิญฺจิ อุปฺปลํ อุปฺปลเมว สามญฺญคฺคหณโตฯ สตปตฺตนฺติ เอตฺถ สต-สโทฺท พหุปริยาโย ‘‘สตคฺฆี’’ติอาทีสุ วิยฯ เตน อเนกสตปตฺตสฺสปิ สงฺคโห สิโทฺธ โหติฯ โลเก ปน รตฺตํ ปทุมํ, เสตํ ปุณฺฑรีกนฺติ วุจฺจติฯ ยาว อคฺคา ยาว จ มูลา อุทเกน อภิสนฺทนาทิสมฺภวทสฺสนตฺถํ อุทกานุคฺคตคฺคหณํฯ อิธ อุปฺปลาทีนิ วิย กรชกาโย, อุทกํ วิย ตติยชฺฌานสุขํฯ
Uppalānīti uppalagacchāni. Setarattanīlesūti uppalesu, setuppalarattuppalanīluppalesūti attho. Yaṃ kiñci uppalaṃ uppalameva sāmaññaggahaṇato. Satapattanti ettha sata-saddo bahupariyāyo ‘‘satagghī’’tiādīsu viya. Tena anekasatapattassapi saṅgaho siddho hoti. Loke pana rattaṃ padumaṃ, setaṃ puṇḍarīkanti vuccati. Yāva aggā yāva ca mūlā udakena abhisandanādisambhavadassanatthaṃ udakānuggataggahaṇaṃ. Idha uppalādīni viya karajakāyo, udakaṃ viya tatiyajjhānasukhaṃ.
ยสฺมา ปริสุเทฺธน เจตสาติ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตมาห, ตญฺจ ราคาทิอุปกฺกิเลสมลาปคมโต นิรุปกฺกิเลสํ นิมฺมลํ, ตสฺมา อาห ‘‘นิรุปกฺกิเลสเฎฺฐน ปริสุทฺธ’’นฺติฯ ยสฺมา ปน ปาริสุทฺธิยา เอว ปจฺจยวิเสเสน ปวตฺติวิเสโส ปริโยทาตตา สุธนฺตสุวณฺณสฺส นิฆํสเนน ปภสฺสรตา วิย, ตสฺมา อาห ‘‘ปภสฺสรเฎฺฐน ปริโยทาตํ เวทิตพฺพ’’นฺติฯ อิทนฺติ โอทาตวจนํฯ อุตุผรณตฺถนฺติ อุตุโน ผรณทสฺสนตฺถํฯ อุตุผรณํ น โหติ เสสนฺติ อธิปฺปาโยฯ เตนาห ‘‘ตงฺขณ …เป.… พลวํ โหตี’’ติฯ วตฺถํ วิย กรชกาโยติ โยคิโน กรชกาโย วตฺถํ วิย ทฎฺฐโพฺพ อุตุผรณสทิเสน จตุตฺถชฺฌานสุเขน ผริตพฺพตฺตาฯ ปุริสสฺส สรีรํ วิย จตุตฺถชฺฌานํ ทฎฺฐพฺพํ อุตุผรณฎฺฐานิยสฺส สุขสฺส นิสฺสยภาวโตฯ เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิฯ ตตฺถ จ ‘‘ปริสุเทฺธน เจตสา’’ติ เจโตคหเณน ฌานสุขํ วุตฺตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ เตนาห ‘‘อุตุผรณํ วิย จตุตฺถชฺฌานสุข’’นฺติฯ นนุ จ จตุตฺถชฺฌาเน สุขเมว นตฺถีติ? สจฺจํ นตฺถิ, สาตลกฺขณสนฺตสภาวตฺตา ปเนตฺถ อุเปกฺขา ‘‘สุข’’นฺติ อธิเปฺปตาฯ เตน วุตฺตํ สโมฺมหวิโนทนิยํ (วิภ. อฎฺฐ. ๒๓๒) ‘‘อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิเจฺจว ภาสิตา’’ติฯ
Yasmā parisuddhena cetasāti catutthajjhānacittamāha, tañca rāgādiupakkilesamalāpagamato nirupakkilesaṃ nimmalaṃ, tasmā āha ‘‘nirupakkilesaṭṭhena parisuddha’’nti. Yasmā pana pārisuddhiyā eva paccayavisesena pavattiviseso pariyodātatā sudhantasuvaṇṇassa nighaṃsanena pabhassaratā viya, tasmā āha ‘‘pabhassaraṭṭhena pariyodātaṃ veditabba’’nti. Idanti odātavacanaṃ. Utupharaṇatthanti utuno pharaṇadassanatthaṃ. Utupharaṇaṃ na hoti sesanti adhippāyo. Tenāha ‘‘taṅkhaṇa…pe… balavaṃ hotī’’ti. Vatthaṃ viya karajakāyoti yogino karajakāyo vatthaṃ viya daṭṭhabbo utupharaṇasadisena catutthajjhānasukhena pharitabbattā. Purisassa sarīraṃ viya catutthajjhānaṃ daṭṭhabbaṃ utupharaṇaṭṭhāniyassa sukhassa nissayabhāvato. Tenāha ‘‘tasmā’’tiādi. Tattha ca ‘‘parisuddhena cetasā’’ti cetogahaṇena jhānasukhaṃ vuttanti daṭṭhabbaṃ. Tenāha ‘‘utupharaṇaṃ viya catutthajjhānasukha’’nti. Nanu ca catutthajjhāne sukhameva natthīti? Saccaṃ natthi, sātalakkhaṇasantasabhāvattā panettha upekkhā ‘‘sukha’’nti adhippetā. Tena vuttaṃ sammohavinodaniyaṃ (vibha. aṭṭha. 232) ‘‘upekkhā pana santattā, sukhamicceva bhāsitā’’ti.
ตสฺส ตสฺส สมาธิสฺส สรูปทสฺสนสฺส ปจฺจยตฺตา ปจฺจเวกฺขณญาณํ ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตํฯ สมภริโตติ สมปุโณฺณฯ
Tassa tassa samādhissa sarūpadassanassa paccayattā paccavekkhaṇañāṇaṃ paccavekkhaṇanimittaṃ. Samabharitoti samapuṇṇo.
มณฺฑภูมีติ ปปาวณฺณภูมิฯ ยตฺถ สลิลสิญฺจเนน วินาว สสฺสานิ ฐิตานิ สมฺปชฺชนฺติฯ ยุเค โยเชตพฺพานิ โยคฺคานิ, เตสํ อาจริโย โยคฺคาจริโยฯ เตสํ สิกฺขาปนโต หตฺถิอาทโยปิ ‘‘โยคฺคา’’ติ วุจฺจนฺตีติ อาห ปาฬิยํ ‘‘อสฺสทมฺมสารถี’’ติฯ เยน เยนาติ จตูสุ มเคฺคสุ เยน เยน มเคฺคนฯ ยํ ยํ คตินฺติ ชวสมชวาทิเภทาสุ คตีสุ ยํ ยํ คติํฯ นวเม นตฺถิ วตฺตพฺพํฯ
Maṇḍabhūmīti papāvaṇṇabhūmi. Yattha salilasiñcanena vināva sassāni ṭhitāni sampajjanti. Yuge yojetabbāni yoggāni, tesaṃ ācariyo yoggācariyo. Tesaṃ sikkhāpanato hatthiādayopi ‘‘yoggā’’ti vuccantīti āha pāḷiyaṃ ‘‘assadammasārathī’’ti. Yena yenāti catūsu maggesu yena yena maggena. Yaṃ yaṃ gatinti javasamajavādibhedāsu gatīsu yaṃ yaṃ gatiṃ. Navame natthi vattabbaṃ.
ปญฺจงฺคิกสุตฺตาทิวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pañcaṅgikasuttādivaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya
๘. ปญฺจงฺคิกสุตฺตํ • 8. Pañcaṅgikasuttaṃ
๙. จงฺกมสุตฺตํ • 9. Caṅkamasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā)
๘. ปญฺจงฺคิกสุตฺตวณฺณนา • 8. Pañcaṅgikasuttavaṇṇanā
๙. จงฺกมสุตฺตวณฺณนา • 9. Caṅkamasuttavaṇṇanā