Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā)

    ๘. ปญฺจงฺคิกสุตฺตวณฺณนา

    8. Pañcaṅgikasuttavaṇṇanā

    ๒๘. อฎฺฐเม อริยสฺสาติ วิกฺขมฺภนวเสน ปหีนกิเลเสหิ อารกา ฐิตสฺสฯ ภาวนํ เทเสสฺสามีติ พฺรูหนํ วฑฺฒนํ ปกาสยิสฺสามิฯ อิมเมว กายนฺติ อิมํ กรชกายํฯ อภิสเนฺทตีติ เตเมติ เสฺนเหติ, สพฺพตฺถ ปวตฺตปีติสุขํ กโรติฯ ปริสเนฺทตีติ สมนฺตโต สเนฺทติฯ ปริปูเรตีติ วายุนา ภสฺตํ วิย ปูเรติฯ ปริปฺผรตีติ สมนฺตโต ผุสติฯ สพฺพาวโต กายสฺสาติ อสฺส ภิกฺขุโน สพฺพโกฎฺฐาสวโต กายสฺส กิญฺจิ อุปาทินฺนกสนฺตติปวตฺติฎฺฐาเน ฉวิมํสโลหิตานุคตํ อณุมตฺตมฺปิ ฐานํ ปฐมชฺฌานสุเขน อผุฎํ นาม น โหติฯ

    28. Aṭṭhame ariyassāti vikkhambhanavasena pahīnakilesehi ārakā ṭhitassa. Bhāvanaṃ desessāmīti brūhanaṃ vaḍḍhanaṃ pakāsayissāmi. Imameva kāyanti imaṃ karajakāyaṃ. Abhisandetīti temeti sneheti, sabbattha pavattapītisukhaṃ karoti. Parisandetīti samantato sandeti. Paripūretīti vāyunā bhastaṃ viya pūreti. Parippharatīti samantato phusati. Sabbāvato kāyassāti assa bhikkhuno sabbakoṭṭhāsavato kāyassa kiñci upādinnakasantatipavattiṭṭhāne chavimaṃsalohitānugataṃ aṇumattampi ṭhānaṃ paṭhamajjhānasukhena aphuṭaṃ nāma na hoti.

    ทโกฺขติ เฉโก ปฎิพโล นฺหานียจุณฺณานิ กาตุเญฺจว โยเชตุญฺจ สเนฺนตุญฺจฯ กํสถาเลติ เยน เกนจิ โลเหน กตภาชเนฯ มตฺติกาภาชนํ ปน ถิรํ น โหติ, สเนฺนนฺตสฺส ภิชฺชติฯ ตสฺมา ตํ น ทเสฺสสิฯ ปริโปฺผสกํ ปริโปฺผสกนฺติ สิญฺจิตฺวา สิญฺจิตฺวาฯ สเนฺนยฺยาติ วามหเตฺถน กํสถาลํ คเหตฺวา ทกฺขิณหเตฺถน ปมาณยุตฺตํ อุทกํ สิญฺจิตฺวา สิญฺจิตฺวา ปริมทฺทโนฺต ปิณฺฑํ กเรยฺยฯ เสฺนหานุคตาติ อุทกสิเนเหน อนุคตาฯ เสฺนหปเรตาติ อุทกสิเนเหน ปริคฺคหิตาฯ สนฺตรพาหิราติ สทฺธิํ อโนฺตปเทเสน เจว พหิปเทเสน จ, สพฺพตฺถกเมว อุทกสิเนเหน ผุฎาติ อโตฺถฯ น จ ปคฺฆริณีติ น พินฺทุ พินฺทุ อุทกํ ปคฺฆรติ, สกฺกา โหติ หเตฺถนปิ ทฺวีหิปิ องฺคุลีหิ คเหตุํ โอวฎฺฎิกายปิ กาตุนฺติ อโตฺถฯ

    Dakkhoti cheko paṭibalo nhānīyacuṇṇāni kātuñceva yojetuñca sannetuñca. Kaṃsathāleti yena kenaci lohena katabhājane. Mattikābhājanaṃ pana thiraṃ na hoti, sannentassa bhijjati. Tasmā taṃ na dassesi. Paripphosakaṃparipphosakanti siñcitvā siñcitvā. Sanneyyāti vāmahatthena kaṃsathālaṃ gahetvā dakkhiṇahatthena pamāṇayuttaṃ udakaṃ siñcitvā siñcitvā parimaddanto piṇḍaṃ kareyya. Snehānugatāti udakasinehena anugatā. Snehaparetāti udakasinehena pariggahitā. Santarabāhirāti saddhiṃ antopadesena ceva bahipadesena ca, sabbatthakameva udakasinehena phuṭāti attho. Na ca pagghariṇīti na bindu bindu udakaṃ paggharati, sakkā hoti hatthenapi dvīhipi aṅgulīhi gahetuṃ ovaṭṭikāyapi kātunti attho.

    ทุติยชฺฌานสุขอุปมายํ อุพฺภิโททโกติ อุพฺภินฺนอุทโก, น เหฎฺฐา อุพฺภิชฺชิตฺวา อุคฺคจฺฉนอุทโก, อโนฺตเยว ปน อุปฺปชฺชนอุทโกติ อโตฺถฯ อายมุขนฺติ อาคมนมโคฺคฯ เทโวติ เมโฆฯ กาเลน กาลนฺติ กาเล กาเล, อนฺวฑฺฒมาสํ วา อนุทสาหํ วาติ อโตฺถฯ ธารนฺติ วุฎฺฐิํฯ นานุปฺปเวเจฺฉยฺยาติ นปฺปเวเสยฺย, น วเสฺสยฺยาติ อโตฺถฯ สีตา วาริธารา อุพฺภิชฺชิตฺวาติ สีตา วาริธารา ตํ รหทํ ปูรยมานา อุพฺภิชฺชิตฺวาฯ เหฎฺฐา อุคฺคจฺฉนอุทกญฺหิ อุคฺคนฺตฺวา ภิชฺชนฺตํ อุทกํ โขเภติ, จตูหิ ทิสาหิ ปวิสนอุทกํ ปุราณปณฺณติณกฎฺฐทณฺฑกาทีหิ อุทกํ โขเภติฯ วุฎฺฐิอุทกํ ธารานิปาตพุพฺพุฬเกหิ อุทกํ โขเภติ, สนฺนิสินฺนเมว ปน หุตฺวา อิทฺธินิมฺมิตมิว อุปฺปชฺชมานํ อุทกํ อิมํ ปเทสํ ผรติ, อิมํ น ผรตีติ นตฺถิฯ เตน อผุโฎกาโส นาม น โหติฯ ตตฺถ รหโท วิย กรชกาโย, อุทกํ วิย ทุติยชฺฌานสุขํ, เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํฯ

    Dutiyajjhānasukhaupamāyaṃ ubbhidodakoti ubbhinnaudako, na heṭṭhā ubbhijjitvā uggacchanaudako, antoyeva pana uppajjanaudakoti attho. Āyamukhanti āgamanamaggo. Devoti megho. Kālena kālanti kāle kāle, anvaḍḍhamāsaṃ vā anudasāhaṃ vāti attho. Dhāranti vuṭṭhiṃ. Nānuppaveccheyyāti nappaveseyya, na vasseyyāti attho. Sītā vāridhārā ubbhijjitvāti sītā vāridhārā taṃ rahadaṃ pūrayamānā ubbhijjitvā. Heṭṭhā uggacchanaudakañhi uggantvā bhijjantaṃ udakaṃ khobheti, catūhi disāhi pavisanaudakaṃ purāṇapaṇṇatiṇakaṭṭhadaṇḍakādīhi udakaṃ khobheti. Vuṭṭhiudakaṃ dhārānipātabubbuḷakehi udakaṃ khobheti, sannisinnameva pana hutvā iddhinimmitamiva uppajjamānaṃ udakaṃ imaṃ padesaṃ pharati, imaṃ na pharatīti natthi. Tena aphuṭokāso nāma na hoti. Tattha rahado viya karajakāyo, udakaṃ viya dutiyajjhānasukhaṃ, sesaṃ purimanayeneva veditabbaṃ.

    ตติยชฺฌานสุขอุปมายํ อุปฺปลานิ เอตฺถ สนฺตีติ อุปฺปลินีฯ เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโยฯ เอตฺถ จ เสตรตฺตนีเลสุ ยํกิญฺจิ อุปฺปลเมว, อูนกสตปตฺตํ ปุณฺฑรีกํ, สตปตฺตํ ปทุมํฯ ปตฺตนิยมํ วา วินาปิ เสตํ ปทุมํ, รตฺตํ ปุณฺฑรีกนฺติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโยฯ อุทกานุคฺคตานีติ อุทกโต น อุคฺคตานิฯ อโนฺตนิมุคฺคโปสีนีติ อุทกตลสฺส อโนฺต นิมุคฺคานิเยว หุตฺวา โปสนฺติ วฑฺฒนฺตีติ อโตฺถฯ เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํฯ

    Tatiyajjhānasukhaupamāyaṃ uppalāni ettha santīti uppalinī. Sesapadadvayepi eseva nayo. Ettha ca setarattanīlesu yaṃkiñci uppalameva, ūnakasatapattaṃ puṇḍarīkaṃ, satapattaṃ padumaṃ. Pattaniyamaṃ vā vināpi setaṃ padumaṃ, rattaṃ puṇḍarīkanti ayamettha vinicchayo. Udakānuggatānīti udakato na uggatāni. Antonimuggaposīnīti udakatalassa anto nimuggāniyeva hutvā posanti vaḍḍhantīti attho. Sesaṃ purimanayeneva veditabbaṃ.

    จตุตฺถชฺฌานอุปมายํ ปริสุเทฺธน เจตสา ปริโยทาเตนาติ เอตฺถ นิรุปกฺกิเลสเฎฺฐน ปริสุทฺธํ, ปภสฺสรเฎฺฐน ปริโยทาตํ เวทิตพฺพํฯ โอทาเตน วเตฺถนาติ อิทํ อุตุผรณตฺถํ วุตฺตํฯ กิลิฎฺฐวเตฺถน หิ อุตุผรณํ น โหติ, ตงฺขณโธตปริสุเทฺธน อุตุผรณํ พลวํ โหติฯ อิมิสฺสา หิ อุปมาย วตฺถํ วิย กรชกาโย, อุตุผรณํ วิย จตุตฺถชฺฌานสุขํฯ ตสฺมา ยถา สุนฺหาตสฺส ปุริสสฺส ปริสุทฺธํ วตฺถํ สสีสํ ปารุปิตฺวา นิสินฺนสฺส สรีรโต อุตุ สพฺพเมว วตฺถํ ผรติ, น โกจิ วตฺถสฺส อผุโฎกาโส โหติ, เอวํ จตุตฺถชฺฌานสุเขน ภิกฺขุโน กรชกายสฺส น โกจิ โอกาโส อผุโฎ โหตีติ เอวเมตฺถ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตเมว วา วตฺถํ วิย, ตํสมุฎฺฐานรูปํ อุตุผรณํ วิยฯ ยถา หิ กตฺถจิ กตฺถจิ โอทาตวเตฺถ กายํ อผุสเนฺตปิ ตํสมุฎฺฐาเนน อุตุนา สพฺพตฺถกเมว กาโย ผุโฎ โหติ, เอวํ จตุตฺถชฺฌานสมุฎฺฐาปิเตน สุขุมรูเปน สพฺพตฺถกเมว ภิกฺขุโน กาโย ผุโฎ โหตีติ เอวเมตฺถ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ

    Catutthajjhānaupamāyaṃ parisuddhena cetasā pariyodātenāti ettha nirupakkilesaṭṭhena parisuddhaṃ, pabhassaraṭṭhena pariyodātaṃ veditabbaṃ. Odātena vatthenāti idaṃ utupharaṇatthaṃ vuttaṃ. Kiliṭṭhavatthena hi utupharaṇaṃ na hoti, taṅkhaṇadhotaparisuddhena utupharaṇaṃ balavaṃ hoti. Imissā hi upamāya vatthaṃ viya karajakāyo, utupharaṇaṃ viya catutthajjhānasukhaṃ. Tasmā yathā sunhātassa purisassa parisuddhaṃ vatthaṃ sasīsaṃ pārupitvā nisinnassa sarīrato utu sabbameva vatthaṃ pharati, na koci vatthassa aphuṭokāso hoti, evaṃ catutthajjhānasukhena bhikkhuno karajakāyassa na koci okāso aphuṭo hotīti evamettha attho daṭṭhabbo. Catutthajjhānacittameva vā vatthaṃ viya, taṃsamuṭṭhānarūpaṃ utupharaṇaṃ viya. Yathā hi katthaci katthaci odātavatthe kāyaṃ aphusantepi taṃsamuṭṭhānena utunā sabbatthakameva kāyo phuṭo hoti, evaṃ catutthajjhānasamuṭṭhāpitena sukhumarūpena sabbatthakameva bhikkhuno kāyo phuṭo hotīti evamettha attho daṭṭhabbo.

    ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตนฺติ ปจฺจเวกฺขณญาณเมวฯ สุคฺคหิตํ โหตีติ ยถา เตน ฌานวิปสฺสนามคฺคา สุฎฺฐุ คหิตา โหนฺติ, เอวํ ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตํ อปราปเรน ปจฺจเวกฺขณนิมิเตฺตน สุฎฺฐุ คหิตํ โหติฯ อโญฺญ วา อญฺญนฺติ อโญฺญ เอโก อญฺญํ เอกํ, อตฺตโนเยว หิ อตฺตา น ปากโฎ โหติฯ ฐิโต วา นิสินฺนนฺติ ฐิตกสฺสาปิ นิสิโนฺน ปากโฎ โหติ, เตเนวํ วุตฺตํฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ อุทกมณิโกติ สเมขลา อุทกจาฎิฯ สมติตฺติโกติ สมภริโตฯ กากเปยฺยาติ มุขวฎฺฎิยํ นิสีทิตฺวา กาเกน คีวํ อนาเมตฺวาว ปาตโพฺพฯ

    Paccavekkhaṇanimittanti paccavekkhaṇañāṇameva. Suggahitaṃ hotīti yathā tena jhānavipassanāmaggā suṭṭhu gahitā honti, evaṃ paccavekkhaṇanimittaṃ aparāparena paccavekkhaṇanimittena suṭṭhu gahitaṃ hoti. Añño vā aññanti añño eko aññaṃ ekaṃ, attanoyeva hi attā na pākaṭo hoti. Ṭhito vā nisinnanti ṭhitakassāpi nisinno pākaṭo hoti, tenevaṃ vuttaṃ. Sesesupi eseva nayo. Udakamaṇikoti samekhalā udakacāṭi. Samatittikoti samabharito. Kākapeyyāti mukhavaṭṭiyaṃ nisīditvā kākena gīvaṃ anāmetvāva pātabbo.

    สุภูมิยนฺติ สมภูมิยํฯ ‘‘สุภูเม สุเขเตฺต วิหตขาณุเก พีชานิ ปติฎฺฐาเปยฺยา’’ติ (ที. นิ. ๒.๔๓๘) เอตฺถ ปน มณฺฑภูมิ สุภูมีติ อาคตาฯ จตุมหาปเถติ ทฺวินฺนํ มหามคฺคานํ วินิวิชฺฌิตฺวา คตฎฺฐาเนฯ อาชญฺญรโถติ วินีตอสฺสรโถฯ โอธสฺตปโตโทติ ยถา รถํ อภิรุหิตฺวา ฐิเตน สกฺกา โหติ คณฺหิตุํ, เอวํ อาลมฺพนํ นิสฺสาย ติริยโต ฐปิตปโตโทฯ โยคฺคาจริโยติ อสฺสาจริโยฯ เสฺวว อสฺสทเมฺม สาเรตีติ อสฺสทมฺมสารถิฯ เยนิจฺฉกนฺติ เยน เยน มเคฺคน อิจฺฉติฯ ยทิจฺฉกนฺติ ยํ ยํ คติํ อิจฺฉติฯ สาเรยฺยาติ อุชุกํ ปุรโต เปเสยฺยฯ ปจฺจาสาเรยฺยาติ ปฎินิวเตฺตยฺยฯ

    Subhūmiyanti samabhūmiyaṃ. ‘‘Subhūme sukhette vihatakhāṇuke bījāni patiṭṭhāpeyyā’’ti (dī. ni. 2.438) ettha pana maṇḍabhūmi subhūmīti āgatā. Catumahāpatheti dvinnaṃ mahāmaggānaṃ vinivijjhitvā gataṭṭhāne. Ājaññarathoti vinītaassaratho. Odhastapatodoti yathā rathaṃ abhiruhitvā ṭhitena sakkā hoti gaṇhituṃ, evaṃ ālambanaṃ nissāya tiriyato ṭhapitapatodo. Yoggācariyoti assācariyo. Sveva assadamme sāretīti assadammasārathi. Yenicchakanti yena yena maggena icchati. Yadicchakanti yaṃ yaṃ gatiṃ icchati. Sāreyyāti ujukaṃ purato peseyya. Paccāsāreyyāti paṭinivatteyya.

    เอวํ เหฎฺฐา ปญฺจหิ อเงฺคหิ สมาปตฺติปริกมฺมํ กเถตฺวา อิมาหิ ตีหิ อุปมาหิ ปคุณสมาปตฺติยา อานิสํสํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ ขีณาสวสฺส อภิญฺญาปฎิปาฎิํ ทเสฺสตุํ โส สเจ อากงฺขตีติอาทิมาหฯ ตํ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ

    Evaṃ heṭṭhā pañcahi aṅgehi samāpattiparikammaṃ kathetvā imāhi tīhi upamāhi paguṇasamāpattiyā ānisaṃsaṃ dassetvā idāni khīṇāsavassa abhiññāpaṭipāṭiṃ dassetuṃ so sace ākaṅkhatītiādimāha. Taṃ uttānatthamevāti.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๘. ปญฺจงฺคิกสุตฺตํ • 8. Pañcaṅgikasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๘-๙. ปญฺจงฺคิกสุตฺตาทิวณฺณนา • 8-9. Pañcaṅgikasuttādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact