Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā |
ปญฺจวคฺคิยกถา
Pañcavaggiyakathā
๑๐. ปณฺฑิโตติ ปณฺฑิเจฺจน สมนฺนาคโตฯ พฺยโตฺตติ เวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคโตฯ เมธาวีติ ฐานุปฺปตฺติยา ปญฺญาย สมนฺนาคโตฯ อปฺปรชกฺขชาติโกติ สมาปตฺติยา วิกฺขมฺภิตตฺตา นิกฺกิเลสชาติโก วิสุทฺธสโตฺตฯ อาชานิสฺสตีติ สลฺลเกฺขสฺสติ ปฎิวิชฺฌิสฺสติฯ ภควโตปิ โข ญาณํ อุทปาทีติ สพฺพญฺญุตญฺญาณํ อุปฺปชฺชิ ‘‘อิโต สตฺตมทิวสมตฺถเก กาลํกตฺวา อากิญฺจญฺญายตเน นิพฺพโตฺต’’ติฯ มหาชานิโยติ สตฺตทิวสพฺภนฺตเร ปตฺตพฺพมคฺคผลโต ปริหีนตฺตา มหตี ชานิ อสฺสาติ มหาชานิโย อกฺขเณ นิพฺพตฺตตฺตาฯ อภิโทสกาลํกโตติ หิโยฺย กาลํกโต, โสปิ เนวสญฺญานาสญฺญายตเน นิพฺพโตฺตติ อทฺทสฯ พหูการาติ พหูปการาฯ ปธานปหิตตฺตํ อุปฎฺฐหิํสูติ ปธานตฺถาย เปสิตตฺตภาวํ มุโขทกทานาทินา อุปฎฺฐหิํสุฯ
10.Paṇḍitoti paṇḍiccena samannāgato. Byattoti veyyattiyena samannāgato. Medhāvīti ṭhānuppattiyā paññāya samannāgato. Apparajakkhajātikoti samāpattiyā vikkhambhitattā nikkilesajātiko visuddhasatto. Ājānissatīti sallakkhessati paṭivijjhissati. Bhagavatopi kho ñāṇaṃ udapādīti sabbaññutaññāṇaṃ uppajji ‘‘ito sattamadivasamatthake kālaṃkatvā ākiñcaññāyatane nibbatto’’ti. Mahājāniyoti sattadivasabbhantare pattabbamaggaphalato parihīnattā mahatī jāni assāti mahājāniyo akkhaṇe nibbattattā. Abhidosakālaṃkatoti hiyyo kālaṃkato, sopi nevasaññānāsaññāyatane nibbattoti addasa. Bahūkārāti bahūpakārā. Padhānapahitattaṃ upaṭṭhahiṃsūti padhānatthāya pesitattabhāvaṃ mukhodakadānādinā upaṭṭhahiṃsu.
๑๑. อนฺตรา จ คยํ อนฺตรา จ โพธินฺติ อุปโก โพธิมณฺฑสฺส จ คยาย จ อนฺตเร ภควนฺตํ อทฺทสฯ อทฺธานมคฺคปฺปฎิปนฺนนฺติ อทฺธานมคฺคํ ปฎิปนฺนํฯ
11.Antarā ca gayaṃ antarā ca bodhinti upako bodhimaṇḍassa ca gayāya ca antare bhagavantaṃ addasa. Addhānamaggappaṭipannanti addhānamaggaṃ paṭipannaṃ.
สพฺพาภิภูติ สพฺพํ เตภูมกธมฺมํ อภิภวิตฺวา ฐิโตฯ สพฺพวิทูติ สพฺพํ จตุภูมกธมฺมํ อเวทิํ อญฺญาสิํฯ สเพฺพสุ ธเมฺมสุ อนูปลิโตฺตติ สเพฺพสุ เตภูมกธเมฺมสุ กิเลสเลเปน อลิโตฺตฯ สพฺพญฺชโหติ สพฺพํ เตภูมกธมฺมํ ชหิตฺวา ฐิโตฯ ตณฺหกฺขเย วิมุโตฺตติ ตณฺหกฺขเย นิพฺพาเน อารมฺมณโต วิมุโตฺตฯ สยํ อภิญฺญายาติ สพฺพํ จตุภูมกธมฺมํ อตฺตนาว ชานิตฺวาฯ กมุทฺทิเสยฺยนฺติ กํ อญฺญํ ‘‘อยํ เม อาจริโย’’ติ อุทฺทิเสยฺยํฯ
Sabbābhibhūti sabbaṃ tebhūmakadhammaṃ abhibhavitvā ṭhito. Sabbavidūti sabbaṃ catubhūmakadhammaṃ avediṃ aññāsiṃ. Sabbesu dhammesu anūpalittoti sabbesu tebhūmakadhammesu kilesalepena alitto. Sabbañjahoti sabbaṃ tebhūmakadhammaṃ jahitvā ṭhito. Taṇhakkhaye vimuttoti taṇhakkhaye nibbāne ārammaṇato vimutto. Sayaṃ abhiññāyāti sabbaṃ catubhūmakadhammaṃ attanāva jānitvā. Kamuddiseyyanti kaṃ aññaṃ ‘‘ayaṃ me ācariyo’’ti uddiseyyaṃ.
น เม อาจริโย อตฺถีติ โลกุตฺตรธเมฺม มยฺหํ อาจริโย นาม นตฺถิฯ นตฺถิ เม ปฎิปุคฺคโลติ มยฺหํ ปฎิภาคปุคฺคโล นาม นตฺถิฯ สีติภูโตติ สพฺพกิเลสคฺคินิพฺพาปเนน สีติภูโตฯ กิเลสานํเยว นิพฺพุตตฺตา นิพฺพุโตฯ
Na me ācariyo atthīti lokuttaradhamme mayhaṃ ācariyo nāma natthi. Natthi me paṭipuggaloti mayhaṃ paṭibhāgapuggalo nāma natthi. Sītibhūtoti sabbakilesagginibbāpanena sītibhūto. Kilesānaṃyeva nibbutattā nibbuto.
กาสีนํ ปุรนฺติ กาสิรเฎฺฐ นครํฯ อาหญฺฉํ อมตทุนฺทุภินฺติ ธมฺมจกฺกปฺปฎิลาภาย อมตเภริํ ปหริสฺสามีติ คจฺฉามิฯ
Kāsīnaṃpuranti kāsiraṭṭhe nagaraṃ. Āhañchaṃ amatadundubhinti dhammacakkappaṭilābhāya amatabheriṃ paharissāmīti gacchāmi.
อรหสิ อนนฺตชิโนติ อนนฺตชิโน ภวิตุํ ยุโตฺตฯ หุเปยฺยปาวุโสติ อาวุโส เอวมฺปิ นาม ภเวยฺยฯ สีสํ โอกเมฺปตฺวาติ สีสํ จาเลตฺวาฯ
Arahasi anantajinoti anantajino bhavituṃ yutto. Hupeyyapāvusoti āvuso evampi nāma bhaveyya. Sīsaṃ okampetvāti sīsaṃ cāletvā.
๑๒. สณฺฐเปสุนฺติ กติกํ อกํสุฯ พาหุลฺลิโกติ จีวรพาหุลฺลาทีนํ อตฺถาย ปฎิปโนฺนฯ ปธานวิพฺภโนฺตติ ปธานโต วิพฺภโนฺต ภโฎฺฐ ปริหีโนฯ อาวโตฺต พาหุลฺลายาติ จีวราทิพหุลภาวตฺถาย อาวโตฺตฯ โอทหถ ภิกฺขเว โสตนฺติ อุปเนถ ภิกฺขเว โสตํ; โสตินฺทฺริยํ ธมฺมสวนตฺถํ อภิมุขํ กโรถาติ อโตฺถฯ อมตมธิคตนฺติ อมตํ นิพฺพานํ มยา อธิคตนฺติ ทเสฺสติฯ อิริยายาติ ทุกฺกรอิริยายฯ ปฎิปทายาติ ทุกฺกรปฎิปทายฯ อภิชานาถ เม โนติ อภิชานาถ นุ เม สมนุปสฺสถฯ เอวรูปํ ภาสิตเมตนฺติ เอตํ เอวรูปํ วากฺยํ ภาสิตนฺติ อโตฺถฯ อสกฺขิ โข ภควา ปญฺจวคฺคิเย ภิกฺขู สญฺญาเปตุนฺติ ‘‘อหํ พุโทฺธ’’ติ ชานาเปตุํ อสกฺขิฯ
12.Saṇṭhapesunti katikaṃ akaṃsu. Bāhullikoti cīvarabāhullādīnaṃ atthāya paṭipanno. Padhānavibbhantoti padhānato vibbhanto bhaṭṭho parihīno. Āvatto bāhullāyāti cīvarādibahulabhāvatthāya āvatto. Odahatha bhikkhave sotanti upanetha bhikkhave sotaṃ; sotindriyaṃ dhammasavanatthaṃ abhimukhaṃ karothāti attho. Amatamadhigatanti amataṃ nibbānaṃ mayā adhigatanti dasseti. Iriyāyāti dukkarairiyāya. Paṭipadāyāti dukkarapaṭipadāya. Abhijānātha me noti abhijānātha nu me samanupassatha. Evarūpaṃ bhāsitametanti etaṃ evarūpaṃ vākyaṃ bhāsitanti attho. Asakkhi kho bhagavā pañcavaggiye bhikkhū saññāpetunti ‘‘ahaṃ buddho’’ti jānāpetuṃ asakkhi.
๑๓. จกฺขุกรณีติ ปญฺญาจกฺขุํ สนฺธายาหฯ อิโต ปรํ สพฺพํ ปทตฺถโต อุตฺตานเมวฯ อธิปฺปายานุสนฺธิโยชนาทิเภทโต ปน ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมฎฺฐกถายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํฯ อิโต ปฎฺฐาย หิ อติวิตฺถารภีรุกสฺส มหาชนสฺส จิตฺตํ อนุรกฺขนฺตา สุตฺตนฺตกถํ อวณฺณยิตฺวา วินยกถํเยว วณฺณยิสฺสามฯ
13.Cakkhukaraṇīti paññācakkhuṃ sandhāyāha. Ito paraṃ sabbaṃ padatthato uttānameva. Adhippāyānusandhiyojanādibhedato pana papañcasūdaniyā majjhimaṭṭhakathāyaṃ vuttanayena veditabbaṃ. Ito paṭṭhāya hi ativitthārabhīrukassa mahājanassa cittaṃ anurakkhantā suttantakathaṃ avaṇṇayitvā vinayakathaṃyeva vaṇṇayissāma.
๑๘. สาว ตสฺส อายสฺมโต อุปสมฺปทา อโหสีติ อาสาฬฺหีปุณฺณมาย อฎฺฐารสหิ เทวตาโกฎีหิ สทฺธิํ โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐิตสฺส ‘‘เอหิ ภิกฺขู’’ติ ภควโต วจเนน อภินิปฺผนฺนา สาว ตสฺส อายสฺมโต เอหิภิกฺขูปสมฺปทา อโหสิฯ
18.Sāva tassa āyasmato upasampadā ahosīti āsāḷhīpuṇṇamāya aṭṭhārasahi devatākoṭīhi saddhiṃ sotāpattiphale patiṭṭhitassa ‘‘ehi bhikkhū’’ti bhagavato vacanena abhinipphannā sāva tassa āyasmato ehibhikkhūpasampadā ahosi.
๑๙. อถ โข อายสฺมโต จ วปฺปสฺสาติ อาทิมฺหิ วปฺปเตฺถรสฺส ปาฎิปททิวเส ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ, ภทฺทิยเตฺถรสฺส ทุติยทิวเส, มหานามเตฺถรสฺส ตติยทิวเส, อสฺสชิเตฺถรสฺส จตุตฺถิยนฺติฯ อิเมสญฺจ ปน ภิกฺขูนํ กมฺมฎฺฐาเนสุ อุปฺปนฺนมลวิโสธนตฺถํ ภควา อโนฺตวิหาเรเยว อโหสิฯ อุปฺปเนฺน อุปฺปเนฺน กมฺมฎฺฐานมเล อากาเสน คนฺตฺวา มลํ วิโนเทสิฯ ปกฺขสฺส ปน ปญฺจมิยํ สเพฺพ เต เอกโต สนฺนิปาเตตฺวา อนตฺตสุเตฺตน โอวทิฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อถ โข ภควา ปญฺจวคฺคิเย’’ติอาทิฯ
19.Atha kho āyasmato ca vappassāti ādimhi vappattherassa pāṭipadadivase dhammacakkhuṃ udapādi, bhaddiyattherassa dutiyadivase, mahānāmattherassa tatiyadivase, assajittherassa catutthiyanti. Imesañca pana bhikkhūnaṃ kammaṭṭhānesu uppannamalavisodhanatthaṃ bhagavā antovihāreyeva ahosi. Uppanne uppanne kammaṭṭhānamale ākāsena gantvā malaṃ vinodesi. Pakkhassa pana pañcamiyaṃ sabbe te ekato sannipātetvā anattasuttena ovadi. Tena vuttaṃ ‘‘atha kho bhagavā pañcavaggiye’’tiādi.
๒๔. เตน โข ปน สมเยน ฉ โลเก อรหโนฺต โหนฺตีติ ปญฺจมิยา ปกฺขสฺส โลกสฺมิํ ฉ มนุสฺสา อรหโนฺต โหนฺตีติ อโตฺถฯ
24.Tenakho pana samayena cha loke arahanto hontīti pañcamiyā pakkhassa lokasmiṃ cha manussā arahanto hontīti attho.
ปญฺจวคฺคิยกถา นิฎฺฐิตาฯ
Pañcavaggiyakathā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๖. ปญฺจวคฺคิยกถา • 6. Pañcavaggiyakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā
ปญฺจวคฺคิยกถาวณฺณนา • Pañcavaggiyakathāvaṇṇanā
ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตวณฺณนา • Dhammacakkappavattanasuttavaṇṇanā
อนตฺตลกฺขณสุตฺตวณฺณนา • Anattalakkhaṇasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ปญฺจวคฺคิยกถาวณฺณนา • Pañcavaggiyakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ปญฺจวคฺคิยกถาวณฺณนา • Pañcavaggiyakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๖. ปญฺจวคฺคิยกถา • 6. Pañcavaggiyakathā