Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā |
๓. ปญฺจวิญฺญาณสมงฺคิสฺส มคฺคกถาวณฺณนา
3. Pañcaviññāṇasamaṅgissa maggakathāvaṇṇanā
๕๗๖. อิทานิ ปญฺจวิญฺญาณสมงฺคิสฺส มคฺคกถา นาม โหติฯ ตตฺถ เยสํ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหตี’’ติ สุตฺตํ นิสฺสาย ‘‘ปญฺจวิญฺญาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนา’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ มหาสํฆิกานํ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฎิญฺญา อิตรสฺสฯ อถ นํ ‘‘สเจ ตสฺส มคฺคภาวนา อตฺถิ, ปญฺจวิญฺญาณคติเกน วา มเคฺคน, มคฺคคติเกหิ วา ปญฺจวิญฺญาเณหิ ภวิตพฺพํ, น จ ตานิ มคฺคคติกานิ อนิพฺพานารมฺมณตฺตา อโลกุตฺตรตฺตา จ, น มโคฺค ปญฺจวิญฺญาณคติโก เตสํ ลกฺขเณน อสงฺคหิตตฺตา’’ติ โจเทตุํ นนุ ปญฺจวิญฺญาณา อุปฺปนฺนวตฺถุกาติอาทิมาหฯ ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ยทิ ปญฺจวิญฺญาณสมงฺคิสฺส มคฺคภาวนา สิยา, เยน มโนวิญฺญาเณน มโคฺค สมฺปยุโตฺต, ตมฺปิ ปญฺจวิญฺญาณสมงฺคิสฺส สิยาฯ เอวํ สเนฺต ยทิทํ ‘‘ปญฺจวิญฺญาณา อุปฺปนฺนวตฺถุกา’’ติอาทิ ลกฺขณํ วุตฺตํ, ตํ เอวํ อวตฺวา ‘‘ฉ วิญฺญาณา’’ติ วตฺตพฺพํ สิยาฯ ตถา ปน อวตฺวา ‘‘ปญฺจวิญฺญาณา’’เตฺวว วุตฺตํ, ตสฺมา น วตพฺพํ ‘‘ปญฺจวิญฺญาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนา’’ติฯ ยสฺมา เจตฺถ อยเมว อธิปฺปาโย, ตสฺมา สกวาที ตํ ลกฺขณํ ปรวาทิํ สมฺปฎิจฺฉาเปตฺวา โน จ วต เร วตฺตเพฺพ ปญฺจวิญฺญาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนาติ อาหฯ
576. Idāni pañcaviññāṇasamaṅgissa maggakathā nāma hoti. Tattha yesaṃ ‘‘cakkhunā rūpaṃ disvā na nimittaggāhī hotī’’ti suttaṃ nissāya ‘‘pañcaviññāṇasamaṅgissa atthi maggabhāvanā’’ti laddhi, seyyathāpi mahāsaṃghikānaṃ, te sandhāya pucchā sakavādissa, paṭiññā itarassa. Atha naṃ ‘‘sace tassa maggabhāvanā atthi, pañcaviññāṇagatikena vā maggena, maggagatikehi vā pañcaviññāṇehi bhavitabbaṃ, na ca tāni maggagatikāni anibbānārammaṇattā alokuttarattā ca, na maggo pañcaviññāṇagatiko tesaṃ lakkhaṇena asaṅgahitattā’’ti codetuṃ nanu pañcaviññāṇā uppannavatthukātiādimāha. Tatrāyaṃ adhippāyo – yadi pañcaviññāṇasamaṅgissa maggabhāvanā siyā, yena manoviññāṇena maggo sampayutto, tampi pañcaviññāṇasamaṅgissa siyā. Evaṃ sante yadidaṃ ‘‘pañcaviññāṇā uppannavatthukā’’tiādi lakkhaṇaṃ vuttaṃ, taṃ evaṃ avatvā ‘‘cha viññāṇā’’ti vattabbaṃ siyā. Tathā pana avatvā ‘‘pañcaviññāṇā’’tveva vuttaṃ, tasmā na vatabbaṃ ‘‘pañcaviññāṇasamaṅgissa atthi maggabhāvanā’’ti. Yasmā cettha ayameva adhippāyo, tasmā sakavādī taṃ lakkhaṇaṃ paravādiṃ sampaṭicchāpetvā no ca vata re vattabbe pañcaviññāṇasamaṅgissa atthi maggabhāvanāti āha.
อปโร นโย – ปญฺจวิญฺญาณา อุปฺปนฺนวตฺถุกา, มโคฺค อวตฺถุโกปิ โหติฯ เต จ อุปฺปนฺนารมฺมณา, มโคฺค นวตฺตพฺพารมฺมโณฯ เต ปุเรชาตวตฺถุกาว มโคฺค อวตฺถุโกปิฯ เต ปุเรชาตารมฺมณา, มโคฺค อปุเรชาตารมฺมโณฯ เต อชฺฌตฺติกวตฺถุกาว มโคฺค อวตฺถุโกปิ โหติฯ เต จ รูปาทิวเสน พาหิรารมฺมณา, มโคฺค นิพฺพานารมฺมโณฯ เต อนิรุทฺธํ วตฺถุํ นิสฺสยํ กตฺวา ปวตฺตนโต อสมฺภินฺนวตฺถุกา, มโคฺค อวตฺถุโกปิฯ เต อนิรุทฺธาเนว รูปาทีนิ อารพฺภ ปวตฺตนโต อสมฺภินฺนารมฺมณา, มโคฺค นิพฺพานารมฺมโณฯ เต นานาวตฺถุกา, มโคฺค อวตฺถุโก วา เอกวตฺถุโก วาฯ เต นานารมฺมณา มโคฺค เอการมฺมโณฯ เต อตฺตโน อตฺตโนว รูปาทิโคจเร ปวตฺตนโต น อญฺญมญฺญสฺส โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภนฺติ, มโคฺค รูปาทีสุ เอกมฺปิ โคจรํ น กโรติฯ เต กิริยมโนธาตุํ ปุเรจาริกํ กตฺวา อุปฺปชฺชนโต น อสมนฺนาหารา น อมนสิการา อุปฺปชฺชนฺติ, มโคฺค นิราวชฺชโนวฯ เต สมฺปฎิจฺฉนาทีหิ โวกิณฺณา อุปฺปชฺชนฺติ, มคฺคสฺส โวกาโรเยว นตฺถิฯ เต อญฺญมญฺญํ ปุพฺพจริมภาเวน อุปฺปชฺชนฺติ, มคฺคสฺส เตหิ สทฺธิํ ปุริมปจฺฉิมตาว นตฺถิ, เตสํ อนุปฺปตฺติกาเล ติกฺขวิปสฺสนาสมเย, เตสํ อนุปฺปตฺติเทเส อารุเปฺปปิ จ อุปฺปชฺชนโตฯ เต สมฺปฎิจฺฉนาทีหิ อนฺตริตตฺตา น อญฺญมญฺญสฺส สมนนฺตรา อุปฺปชฺชนฺติ, มคฺคสฺส สมฺปฎิจฺฉนาทีหิ อนฺตริตภาโวว นตฺถิฯ เตสํ อญฺญตฺร อภินิปาตา อาโภคมตฺตมฺปิ กิจฺจํ นตฺถิ, มคฺคสฺส กิเลสสมุคฺฆาตนํ กิจฺจนฺติฯ ยสฺมา เจตฺถ อยมฺปิ อธิปฺปาโย, ตสฺมา สกวาที อิเมหากาเรหิ ปรวาทิํ มคฺคสฺส อปญฺจวิญฺญาณคติกภาวํ สมฺปฎิจฺฉาเปตฺวา โน จ วต เร วตฺตเพฺพ ปญฺจวิญฺญาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนาติ อาหฯ
Aparo nayo – pañcaviññāṇā uppannavatthukā, maggo avatthukopi hoti. Te ca uppannārammaṇā, maggo navattabbārammaṇo. Te purejātavatthukāva maggo avatthukopi. Te purejātārammaṇā, maggo apurejātārammaṇo. Te ajjhattikavatthukāva maggo avatthukopi hoti. Te ca rūpādivasena bāhirārammaṇā, maggo nibbānārammaṇo. Te aniruddhaṃ vatthuṃ nissayaṃ katvā pavattanato asambhinnavatthukā, maggo avatthukopi. Te aniruddhāneva rūpādīni ārabbha pavattanato asambhinnārammaṇā, maggo nibbānārammaṇo. Te nānāvatthukā, maggo avatthuko vā ekavatthuko vā. Te nānārammaṇā maggo ekārammaṇo. Te attano attanova rūpādigocare pavattanato na aññamaññassa gocaravisayaṃ paccanubhonti, maggo rūpādīsu ekampi gocaraṃ na karoti. Te kiriyamanodhātuṃ purecārikaṃ katvā uppajjanato na asamannāhārā na amanasikārā uppajjanti, maggo nirāvajjanova. Te sampaṭicchanādīhi vokiṇṇā uppajjanti, maggassa vokāroyeva natthi. Te aññamaññaṃ pubbacarimabhāvena uppajjanti, maggassa tehi saddhiṃ purimapacchimatāva natthi, tesaṃ anuppattikāle tikkhavipassanāsamaye, tesaṃ anuppattidese āruppepi ca uppajjanato. Te sampaṭicchanādīhi antaritattā na aññamaññassa samanantarā uppajjanti, maggassa sampaṭicchanādīhi antaritabhāvova natthi. Tesaṃ aññatra abhinipātā ābhogamattampi kiccaṃ natthi, maggassa kilesasamugghātanaṃ kiccanti. Yasmā cettha ayampi adhippāyo, tasmā sakavādī imehākārehi paravādiṃ maggassa apañcaviññāṇagatikabhāvaṃ sampaṭicchāpetvā no ca vata re vattabbe pañcaviññāṇasamaṅgissa atthi maggabhāvanāti āha.
๕๗๗. สุญฺญตํ อารพฺภาติ ‘‘ยถา โลกุตฺตรมโคฺค สุญฺญตํ นิพฺพานํ อารพฺภ, โลกิโย สุทฺธสงฺขารปุญฺชํ อารพฺภ อุปฺปชฺชติ, กิํ เต เอวํ จกฺขุวิญฺญาณ’’นฺติ ปุจฺฉติฯ อิตโร ‘‘จกฺขุญฺจ ปฎิจฺจ รูเป จา’’ติ วจนโต ปฎิกฺขิปติฯ ทุติยํ ปุโฎฺฐ ‘‘น นิมิตฺตคฺคาหี’’ติ วจนโต ยํ ตตฺถ อนิมิตฺตํ, ตเทว สุญฺญตนฺติ สนฺธาย ปฎิชานาติฯ จกฺขุญฺจ ปฎิจฺจาติ ปญฺหทฺวเยปิ เอเสว นโยฯ
577. Suññataṃ ārabbhāti ‘‘yathā lokuttaramaggo suññataṃ nibbānaṃ ārabbha, lokiyo suddhasaṅkhārapuñjaṃ ārabbha uppajjati, kiṃ te evaṃ cakkhuviññāṇa’’nti pucchati. Itaro ‘‘cakkhuñca paṭicca rūpe cā’’ti vacanato paṭikkhipati. Dutiyaṃ puṭṭho ‘‘na nimittaggāhī’’ti vacanato yaṃ tattha animittaṃ, tadeva suññatanti sandhāya paṭijānāti. Cakkhuñca paṭiccāti pañhadvayepi eseva nayo.
๕๗๘-๕๗๙. จกฺขุวิญฺญาณํ อตีตานาคตํ อารพฺภาติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – มโนวิญฺญาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนา, มโนวิญฺญาณญฺจ อตีตานาคตมฺปิ อารพฺภ อุปฺปชฺชติ, กิํ เต เอวํ จกฺขุวิญฺญาณมฺปีติฯ ผสฺสํ อารพฺภาติอาทีสุปิ เอเสว นโยฯ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหีติ เอตฺถ ชวนกฺขเณ น นิมิตฺตคฺคาหิตา วุตฺตา, น จกฺขุวิญฺญาณกฺขเณฯ ตสฺมา โลกิยมคฺคมฺปิ สนฺธาเยตํ อสาธกนฺติฯ
578-579. Cakkhuviññāṇaṃ atītānāgataṃ ārabbhāti ettha ayamadhippāyo – manoviññāṇasamaṅgissa atthi maggabhāvanā, manoviññāṇañca atītānāgatampi ārabbha uppajjati, kiṃ te evaṃ cakkhuviññāṇampīti. Phassaṃ ārabbhātiādīsupi eseva nayo. Cakkhunārūpaṃ disvā na nimittaggāhīti ettha javanakkhaṇe na nimittaggāhitā vuttā, na cakkhuviññāṇakkhaṇe. Tasmā lokiyamaggampi sandhāyetaṃ asādhakanti.
ปญฺจวิญฺญาณสมงฺคิสฺส มคฺคกถาวณฺณนาฯ
Pañcaviññāṇasamaṅgissa maggakathāvaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / กถาวตฺถุปาฬิ • Kathāvatthupāḷi / (๙๗) ๓. ปญฺจวิญฺญาณสมงฺคิสฺส มคฺคกถา • (97) 3. Pañcaviññāṇasamaṅgissa maggakathā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๓. ปญฺจวิญฺญาณสมงฺคิสฺสมคฺคกถาวณฺณนา • 3. Pañcaviññāṇasamaṅgissamaggakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๓. ปญฺจวิญฺญาณสมงฺคิสฺสมคฺคกถาวณฺณนา • 3. Pañcaviññāṇasamaṅgissamaggakathāvaṇṇanā