Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā

    ปญฺจวีสติอวหารกถาวณฺณนา

    Pañcavīsatiavahārakathāvaṇṇanā

    อากุลาติ สงฺกุลาฯ ลุฬิตาติ วิโลฬิตาฯ กตฺถจีติ เอกิสฺสาย อฎฺฐกถายํฯ เอกํ ปญฺจกํ ทสฺสิตนฺติ ‘‘ปรปริคฺคหิตญฺจ โหติ, ปรปริคฺคหิตสญฺญี จ, ครุโก จ โหติ ปริกฺขาโร ปญฺจมาสโก วา อติเรกปญฺจมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตญฺจ ปจฺจุปฎฺฐิตํ โหติ, อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๑๒๒) เอวํ วุตฺตปญฺจอวหารงฺคานิ เอกํ ปญฺจกนฺติ ทสฺสิตํฯ เทฺว ปญฺจกานิ ทสฺสิตานีติ ‘‘ฉหากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสฯ น จ สกสญฺญี, น จ วิสฺสาสคฺคาหี, น จ ตาวกาลิกํ, ครุโก จ โหติ ปริกฺขาโร ปญฺจมาสโก วา อติเรกปญฺจมาสโก วา, เถยฺยจิตฺตญฺจ ปจฺจุปฎฺฐิตํ โหติ, อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ ฐานา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ เอวํ วุเตฺตสุ ฉสุ ปเทสุ เอกํ อปเนตฺวา อวเสสานิ ปญฺจ ปทานิ เอกํ ปญฺจกนฺติ ทเสฺสตฺวา เหฎฺฐา วุตฺตปญฺจกญฺจ คเหตฺวา เทฺว ปญฺจกานิ ทสฺสิตานิฯ เอตฺถ ปนาติ ‘‘ปญฺจหากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺสา’’ติอาทีสุฯ สเพฺพหิปิ ปเทหีติ ‘‘ปรปริคฺคหิตญฺจ โหตี’’ติอาทีหิ ปเทหิฯ ลพฺภมานานิเยว ปญฺจกานีติ ปญฺจวีสติยา อวหาเรสุ ลพฺภมานปญฺจกานิฯ

    Ākulāti saṅkulā. Luḷitāti viloḷitā. Katthacīti ekissāya aṭṭhakathāyaṃ. Ekaṃ pañcakaṃ dassitanti ‘‘parapariggahitañca hoti, parapariggahitasaññī ca, garuko ca hoti parikkhāro pañcamāsako vā atirekapañcamāsako vā, theyyacittañca paccupaṭṭhitaṃ hoti, āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassā’’ti (pārā. 122) evaṃ vuttapañcaavahāraṅgāni ekaṃ pañcakanti dassitaṃ. Dve pañcakāni dassitānīti ‘‘chahākārehi adinnaṃ ādiyantassa āpatti pārājikassa. Na ca sakasaññī, na ca vissāsaggāhī, na ca tāvakālikaṃ, garuko ca hoti parikkhāro pañcamāsako vā atirekapañcamāsako vā, theyyacittañca paccupaṭṭhitaṃ hoti, āmasati, āpatti dukkaṭassa. Phandāpeti, āpatti thullaccayassa. Ṭhānā cāveti, āpatti pārājikassā’’ti evaṃ vuttesu chasu padesu ekaṃ apanetvā avasesāni pañca padāni ekaṃ pañcakanti dassetvā heṭṭhā vuttapañcakañca gahetvā dve pañcakāni dassitāni. Ettha panāti ‘‘pañcahākārehi adinnaṃ ādiyantassā’’tiādīsu. Sabbehipi padehīti ‘‘parapariggahitañca hotī’’tiādīhi padehi. Labbhamānāniyeva pañcakānīti pañcavīsatiyā avahāresu labbhamānapañcakāni.

    ปญฺจนฺนํ อวหารานํ สมูโห ปญฺจกํ, สโก หโตฺถ สหโตฺถ, เตน นิพฺพโตฺต, ตสฺส วา สมฺพนฺธีติ สาหตฺถิโก, อวหาโรฯ สาหตฺถิกาทิ ปญฺจกํ สาหตฺถิกปญฺจกนฺติ อาทิปทวเสน นามลาโภ ทฎฺฐโพฺพ กุสลาทิตฺติกสฺส กุสลตฺติกโวหาโร วิยฯ อิมินาว นเยน ปุพฺพปโยคาทิ ปญฺจกํ ปุพฺพปโยคปญฺจกํ, เถยฺยาวหาราทิ ปญฺจกํ เถยฺยาวหารปญฺจกนฺติ นามลาโภ ทฎฺฐโพฺพติฯ ตติยปญฺจเมสุ ปญฺจเกสูติ สาหตฺถิกปญฺจกเถยฺยาวหารปญฺจเกสุฯ ลพฺภมานปทวเสนาติ สาหตฺถิกปญฺจเก ลพฺภมานสฺส นิสฺสคฺคิยาวหารปทสฺส วเสน เถยฺยาวหารปญฺจเก ลพฺภมานสฺส ปริกปฺปาวหารปทสฺส จ วเสน โยเชตพฺพนฺติ อโตฺถฯ

    Pañcannaṃ avahārānaṃ samūho pañcakaṃ, sako hattho sahattho, tena nibbatto, tassa vā sambandhīti sāhatthiko, avahāro. Sāhatthikādi pañcakaṃ sāhatthikapañcakanti ādipadavasena nāmalābho daṭṭhabbo kusalādittikassa kusalattikavohāro viya. Imināva nayena pubbapayogādi pañcakaṃ pubbapayogapañcakaṃ, theyyāvahārādi pañcakaṃ theyyāvahārapañcakanti nāmalābho daṭṭhabboti. Tatiyapañcamesu pañcakesūti sāhatthikapañcakatheyyāvahārapañcakesu. Labbhamānapadavasenāti sāhatthikapañcake labbhamānassa nissaggiyāvahārapadassa vasena theyyāvahārapañcake labbhamānassa parikappāvahārapadassa ca vasena yojetabbanti attho.

    อาณตฺติยา นิพฺพโตฺต อวหาโร อาณตฺติโกฯ นิสฺสชฺชนํ นิสฺสโคฺค, สุงฺกฆาตฎฺฐาเน ปริกปฺปิโตกาเส วา ฐตฺวา ภณฺฑสฺส พหิ ปาตนํฯ นิสฺสโคฺคว นิสฺสคฺคิโยฯ กิริยาสิทฺธิโต ปุเรตรเมว ปาราชิกาปตฺติสงฺขาตํ อตฺถํ สาเธตีติ อตฺถสาธโกฯ ‘‘อสุกสฺส ภณฺฑํ ยทา สโกฺกสิ, ตทา อวหรา’’ติ เอวรูโป หิ อาณาปนปโยโค ปรสฺส เตลกุมฺภิยา ปาทคฺฆนกํ เตลํ อวสฺสํ ปิวนกานํ อุปาหนาทีนํ นิเกฺขปปโยโค จ อาณตฺตสฺส ภณฺฑคฺคหณโต อุปาหนาทีนํ เตลปาตนโต จ ปุเรตรเมว ปาราชิกาปตฺติสงฺขาตํ อตฺถํ สาเธติฯ สาหตฺถิกปโยโคปิ หิ เอวรูโป อตฺถสาธโกติ วุจฺจติฯ วุตฺตเญฺหตํ มาติกาฎฺฐกถายํ (กงฺขา. อฎฺฐ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา) –

    Āṇattiyā nibbatto avahāro āṇattiko. Nissajjanaṃ nissaggo, suṅkaghātaṭṭhāne parikappitokāse vā ṭhatvā bhaṇḍassa bahi pātanaṃ. Nissaggova nissaggiyo. Kiriyāsiddhito puretarameva pārājikāpattisaṅkhātaṃ atthaṃ sādhetīti atthasādhako. ‘‘Asukassa bhaṇḍaṃ yadā sakkosi, tadā avaharā’’ti evarūpo hi āṇāpanapayogo parassa telakumbhiyā pādagghanakaṃ telaṃ avassaṃ pivanakānaṃ upāhanādīnaṃ nikkhepapayogo ca āṇattassa bhaṇḍaggahaṇato upāhanādīnaṃ telapātanato ca puretarameva pārājikāpattisaṅkhātaṃ atthaṃ sādheti. Sāhatthikapayogopi hi evarūpo atthasādhakoti vuccati. Vuttañhetaṃ mātikāṭṭhakathāyaṃ (kaṅkhā. aṭṭha. dutiyapārājikavaṇṇanā) –

    ‘‘อตฺถสาธโก นาม ‘อสุกสฺส ภณฺฑํ ยทา สโกฺกสิ, ตทา ตํ อวหรา’ติ อาณาเปติฯ ตตฺถ สเจ ปโร อนนฺตรายิโก หุตฺวา ตํ อวหรติ, อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิกํฯ ปรสฺส วา ปน เตลกุมฺภิยา ปาทคฺฆนกํ เตลํ อวสฺสํ ปิวนกานิ อุปาหนาทีนิ ปกฺขิปติ, หตฺถโต มุตฺตมเตฺตเยว ปาราชิก’’นฺติฯ

    ‘‘Atthasādhako nāma ‘asukassa bhaṇḍaṃ yadā sakkosi, tadā taṃ avaharā’ti āṇāpeti. Tattha sace paro anantarāyiko hutvā taṃ avaharati, āṇāpakassa āṇattikkhaṇeyeva pārājikaṃ. Parassa vā pana telakumbhiyā pādagghanakaṃ telaṃ avassaṃ pivanakāni upāhanādīni pakkhipati, hatthato muttamatteyeva pārājika’’nti.

    ธุรสฺส นิกฺขิปนํ ธุรนิเกฺขโปฯ อารามาภิยุญฺชนาทีสุ อตฺตโน จ ปรสฺส จ ทานคฺคหเณสุ นิรุสฺสาหภาวาปชฺชนํฯ สหตฺถา อวหรตีติ สหเตฺถน คณฺหาติฯ ‘‘อสุกสฺส ภณฺฑํ อวหรา’’ติ อญฺญํ อาณาเปตีติ เอตฺถาปิ อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขเณเยว อาปตฺติ ทฎฺฐพฺพาฯ ยทิ เอวํ อิมสฺส, อตฺถสาธกสฺส จ โก วิเสโสติ? ตงฺขณเญฺญว คหเณ นิยุญฺชนํ อาณตฺติกปโยโค, กาลนฺตเรน คหณตฺถํ นิโยโค อตฺถสาธโกติ อยเมเตสํ วิเสโสฯ เตเนวาห – ‘‘อสุกสฺส ภณฺฑํ ยทา สโกฺกสิ, ตทา อวหราติ อาณาเปตี’’ติฯ เอตฺถ จ อาณาปนปโยโคว อตฺถสาธโกติ ทสฺสิโต, สาหตฺถิกวเสนปิ อตฺถสาธกปโยโค ปน อุปริ อาวิ ภวิสฺสติฯ ธุรนิเกฺขโป ปน อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑวเสน เวทิตโพฺพติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํฯ อารามาภิยุญฺชนาทีสุปิ ตาวกาลิกภณฺฑเทยฺยานํ อทาเนปิ เอเสว นโยฯ

    Dhurassa nikkhipanaṃ dhuranikkhepo. Ārāmābhiyuñjanādīsu attano ca parassa ca dānaggahaṇesu nirussāhabhāvāpajjanaṃ. Sahatthā avaharatīti sahatthena gaṇhāti. ‘‘Asukassa bhaṇḍaṃ avaharā’’ti aññaṃ āṇāpetīti etthāpi āṇāpakassa āṇattikkhaṇeyeva āpatti daṭṭhabbā. Yadi evaṃ imassa, atthasādhakassa ca ko visesoti? Taṅkhaṇaññeva gahaṇe niyuñjanaṃ āṇattikapayogo, kālantarena gahaṇatthaṃ niyogo atthasādhakoti ayametesaṃ viseso. Tenevāha – ‘‘asukassa bhaṇḍaṃ yadā sakkosi, tadā avaharāti āṇāpetī’’ti. Ettha ca āṇāpanapayogova atthasādhakoti dassito, sāhatthikavasenapi atthasādhakapayogo pana upari āvi bhavissati. Dhuranikkhepo pana upanikkhittabhaṇḍavasena veditabboti idaṃ nidassanamattaṃ. Ārāmābhiyuñjanādīsupi tāvakālikabhaṇḍadeyyānaṃ adānepi eseva nayo.

    ‘‘อาณตฺติวเสน ปุพฺพปโยโค เวทิตโพฺพ’’ติ วุตฺตตฺตา อนนฺตราเยน คณฺหนฺตสฺส ‘อสุกสฺส ภณฺฑํ อวหรา’ติ อาณาปนํ ภณฺฑคฺคหณโต ปุพฺพตฺตา ปุพฺพปโยโค, ปโยเคน สห วตฺตมาโน อวหาโร สหปโยโค, ‘‘อสุกํ นาม ภณฺฑํ หริสฺสามา’’ติ สํวิทหิตฺวา สมฺมนฺตยิตฺวา อวหรณํ สํวิทาวหาโรสเงฺกตกมฺมํ นาม ปุพฺพณฺหาทิกาลปริเจฺฉทวเสน สญฺชานนกมฺมํ, นิมิตฺตกมฺมํ นาม สญฺญุปฺปาทนตฺถํ อกฺขินิขณนาทินิมิตฺตกรณํฯ ฐานาจาวนวเสน สหปโยโคติ อิทํ ปน นิทสฺสนมตฺตํ ทฎฺฐพฺพํ, ขิลสงฺกมนาทีสุปิ อสติ จ ฐานาจาวเน สหปโยโค ทฎฺฐโพฺพฯ วุตฺตเญฺหตํ มาติกาฎฺฐกถายํ (กงฺขา. อฎฺฐ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา) ‘‘ฐานาจาวนวเสน ขิลาทีนิ สงฺกาเมตฺวา เขตฺตาทิคฺคหณวเสน จ สหปโยโค เวทิตโพฺพ’’ติฯ

    ‘‘Āṇattivasenapubbapayogo veditabbo’’ti vuttattā anantarāyena gaṇhantassa ‘asukassa bhaṇḍaṃ avaharā’ti āṇāpanaṃ bhaṇḍaggahaṇato pubbattā pubbapayogo, payogena saha vattamāno avahāro sahapayogo, ‘‘asukaṃ nāma bhaṇḍaṃ harissāmā’’ti saṃvidahitvā sammantayitvā avaharaṇaṃ saṃvidāvahāro. Saṅketakammaṃ nāma pubbaṇhādikālaparicchedavasena sañjānanakammaṃ, nimittakammaṃ nāma saññuppādanatthaṃ akkhinikhaṇanādinimittakaraṇaṃ. Ṭhānācāvanavasena sahapayogoti idaṃ pana nidassanamattaṃ daṭṭhabbaṃ, khilasaṅkamanādīsupi asati ca ṭhānācāvane sahapayogo daṭṭhabbo. Vuttañhetaṃ mātikāṭṭhakathāyaṃ (kaṅkhā. aṭṭha. dutiyapārājikavaṇṇanā) ‘‘ṭhānācāvanavasena khilādīni saṅkāmetvā khettādiggahaṇavasena ca sahapayogo veditabbo’’ti.

    เถโน วุจฺจติ โจโร, ตสฺส ภาโว เถยฺยํ, เตน อวหรณํ เถยฺยาวหาโรฯ โย หิ สนฺธิเจฺฉทาทีนิ กตฺวา อทิสฺสมาโน อวหรติ, ตุลากูฎมานกูฎกูฎกหาปณาทีหิ วา วเญฺจตฺวา คณฺหาติ, ตเสฺสวํ คณฺหโต อวหาโร เถยฺยาวหาโรฯ ปสยฺห อภิภวิตฺวา อวหรณํ ปสยฺหาวหาโรฯ โย หิ ปสยฺห พลกฺกาเรน ปเรสํ สนฺตกํ คณฺหาติ คามฆาตกาทโย วิย, อตฺตโน ปตฺตพลิโต วา วุตฺตนเยน อธิกํ คณฺหาติ ราชภฎาทโย วิย, ตเสฺสวํ คณฺหโต อวหาโร ปสยฺหาวหาโรฯ ภณฺฑวเสน จ โอกาสวเสน จ ปริกเปฺปตฺวา อวหรณํ ปริกปฺปาวหาโรฯ ติณปณฺณาทีหิ องฺคุลิมุทฺทิกาทิํ ปฎิจฺฉาเทตฺวา ปจฺฉา ตสฺส ปฎิจฺฉนฺนสฺส อวหรณํ ปฎิจฺฉนฺนาวหาโรฯ กุสํ สงฺกาเมตฺวา อวหรณํ กุสาวหาโร

    Theno vuccati coro, tassa bhāvo theyyaṃ, tena avaharaṇaṃ theyyāvahāro. Yo hi sandhicchedādīni katvā adissamāno avaharati, tulākūṭamānakūṭakūṭakahāpaṇādīhi vā vañcetvā gaṇhāti, tassevaṃ gaṇhato avahāro theyyāvahāro. Pasayha abhibhavitvā avaharaṇaṃ pasayhāvahāro. Yo hi pasayha balakkārena paresaṃ santakaṃ gaṇhāti gāmaghātakādayo viya, attano pattabalito vā vuttanayena adhikaṃ gaṇhāti rājabhaṭādayo viya, tassevaṃ gaṇhato avahāro pasayhāvahāro. Bhaṇḍavasena ca okāsavasena ca parikappetvā avaharaṇaṃ parikappāvahāro. Tiṇapaṇṇādīhi aṅgulimuddikādiṃ paṭicchādetvā pacchā tassa paṭicchannassa avaharaṇaṃ paṭicchannāvahāro. Kusaṃ saṅkāmetvā avaharaṇaṃ kusāvahāro.

    ตุลยิตฺวาติ อุปปริกฺขิตฺวาฯ สามีจีติ วตฺตํ, อาปตฺติ ปน นตฺถีติ อธิปฺปาโยฯ มหาชนสมฺมโทฺทติ มหาชนสโงฺขโภฯ ภเฎฺฐ ชนกาเยติ อปคเต ชนกาเยฯ ‘‘อิทญฺจ กาสาวํ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา เอตเสฺสว ภิกฺขุโน เทหี’’ติ กิํการณา เอวมาห? จีวรสามิเกน ยสฺมา ธุรนิเกฺขโป กโต, ตสฺมา ตสฺส อทินฺนํ คเหตุํ น วฎฺฎติฯ อวหารโกปิ วิปฺปฎิสารสฺส อุปฺปนฺนกาลโต ปฎฺฐาย จีวรสามิกํ ปริเยสโนฺต วิจรติ ‘‘ทสฺสามี’’ติ, จีวรสามิเกน จ ‘‘มเมต’’นฺติ วุเตฺต เอเตนปิ อวหารเกน อาลโย ปริจฺจโตฺต, ตสฺมา เอวมาหฯ ยทิ เอวํ จีวรสามิโกเยว ‘‘อตฺตโน สนฺตกํ คณฺหาหี’’ติ กสฺมา น วุโตฺตติ? อุภินฺนมฺปิ กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถํฯ กถํ? อวหารกสฺส ‘‘มยา สหเตฺถน น ทินฺนํ, ภณฺฑเทยฺยเมต’’นฺติ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปเชฺชยฺย, อิตรสฺส ‘‘มยา ปฐมํ ธุรนิเกฺขปํ กตฺวา ปจฺฉา อทินฺนํ คหิต’’นฺติ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปเชฺชยฺยาติฯ

    Tulayitvāti upaparikkhitvā. Sāmīcīti vattaṃ, āpatti pana natthīti adhippāyo. Mahājanasammaddoti mahājanasaṅkhobho. Bhaṭṭhe janakāyeti apagate janakāye. ‘‘Idañca kāsāvaṃ attano santakaṃ katvā etasseva bhikkhuno dehī’’ti kiṃkāraṇā evamāha? Cīvarasāmikena yasmā dhuranikkhepo kato, tasmā tassa adinnaṃ gahetuṃ na vaṭṭati. Avahārakopi vippaṭisārassa uppannakālato paṭṭhāya cīvarasāmikaṃ pariyesanto vicarati ‘‘dassāmī’’ti, cīvarasāmikena ca ‘‘mameta’’nti vutte etenapi avahārakena ālayo pariccatto, tasmā evamāha. Yadi evaṃ cīvarasāmikoyeva ‘‘attano santakaṃ gaṇhāhī’’ti kasmā na vuttoti? Ubhinnampi kukkuccavinodanatthaṃ. Kathaṃ? Avahārakassa ‘‘mayā sahatthena na dinnaṃ, bhaṇḍadeyyameta’’nti kukkuccaṃ uppajjeyya, itarassa ‘‘mayā paṭhamaṃ dhuranikkhepaṃ katvā pacchā adinnaṃ gahita’’nti kukkuccaṃ uppajjeyyāti.

    สมคฺฆนฺติ อปฺปคฺฆํฯ ทารุอตฺถํ ผรตีติ ทารูหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ สาเธติฯ มยิ สเนฺตติอาทิ สพฺพํ รญฺญา ปสาเทน วุตฺตํ, ‘‘เถเรน ปน อนนุจฺฉวิกํ กต’’นฺติ น มญฺญิตพฺพํฯ

    Samagghanti appagghaṃ. Dāruatthaṃ pharatīti dārūhi kattabbakiccaṃ sādheti. Mayi santetiādi sabbaṃ raññā pasādena vuttaṃ, ‘‘therena pana ananucchavikaṃ kata’’nti na maññitabbaṃ.

    เอกทิวสํ ทนฺตกฎฺฐเจฺฉทนาทินา ยา อยํ อคฺฆหานิ วุตฺตา, สา สพฺพา ภณฺฑสามินา

    Ekadivasaṃ dantakaṭṭhacchedanādinā yā ayaṃ agghahāni vuttā, sā sabbā bhaṇḍasāminā

    กิณิตฺวา คหิตเมว สนฺธาย วุตฺตา, สพฺพํ ปเนตํ อฎฺฐกถาจริยปฺปมาเณน คเหตพฺพํฯ ปาสาณญฺจ สกฺขรญฺจ ปาสาณสกฺขรํธาเรยฺยตฺถํ วิจกฺขโณติ อิมเสฺสว วิวรณํ ‘‘อาปตฺติํ วา อนาปตฺติํ วา’’ติอาทิฯ

    Kiṇitvā gahitameva sandhāya vuttā, sabbaṃ panetaṃ aṭṭhakathācariyappamāṇena gahetabbaṃ. Pāsāṇañca sakkharañca pāsāṇasakkharaṃ. Dhāreyyatthaṃ vicakkhaṇoti imasseva vivaraṇaṃ ‘‘āpattiṃ vā anāpattiṃ vā’’tiādi.

    ปญฺจวีสติอวหารกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Pañcavīsatiavahārakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.

    อกฺขทสฺสาติ เอตฺถ อกฺข-สเทฺทน กิร วินิจฺฉยสาลา วุจฺจติฯ ตตฺถ นิสีทิตฺวา วชฺชาวชฺชํ ปสฺสนฺตีติ อกฺขทสฺสา วุจฺจนฺติ ธมฺมวินิจฺฉนกาฯ หเนยฺยุนฺติ เอตฺถ หนนํ นาม หตฺถปาทาทีหิ โปถนเญฺจว สีสาทิเจฺฉทนญฺจ โหตีติ อาห – ‘‘หเนยฺยุนฺติ โปเถยฺยุเญฺจว ฉิเนฺทยฺยุญฺจา’’ติฯ เตเนว ปทภาชนิยญฺจ ‘‘หเตฺถน วา ปาเทน วา กสาย วา เวเตฺตน วา อฑฺฒทณฺฑเกน วา เฉชฺชาย วา หเนยฺยุ’’นฺติ วุตฺตํฯ ตตฺถ อฑฺฒทณฺฑเกนาติ ทฺวิหตฺถปฺปมาเณน รสฺสมุคฺคเรน เวฬุเปสิกาย วาฯ เฉชฺชายาติ หตฺถปาทสีสาทีนํ เฉทเนนฯ นีหเรยฺยุนฺติ คามนิคมาทิโต นีหเรยฺยุํฯ โจโรสิ…เป.… เถโนสีติ เอตฺถ ‘‘ปริภาเสยฺยุ’’นฺติ ปทํ อชฺฌาหริตฺวา อโตฺถ เวทิตโพฺพติ อาห ‘‘โจโรสีติ เอวมาทีนิ จ วตฺวา ปริภาเสยฺยุ’’นฺติฯ

    Akkhadassāti ettha akkha-saddena kira vinicchayasālā vuccati. Tattha nisīditvā vajjāvajjaṃ passantīti akkhadassā vuccanti dhammavinicchanakā. Haneyyunti ettha hananaṃ nāma hatthapādādīhi pothanañceva sīsādicchedanañca hotīti āha – ‘‘haneyyunti potheyyuñceva chindeyyuñcā’’ti. Teneva padabhājaniyañca ‘‘hatthena vā pādena vā kasāya vā vettena vā aḍḍhadaṇḍakena vā chejjāya vā haneyyu’’nti vuttaṃ. Tattha aḍḍhadaṇḍakenāti dvihatthappamāṇena rassamuggarena veḷupesikāya vā. Chejjāyāti hatthapādasīsādīnaṃ chedanena. Nīhareyyunti gāmanigamādito nīhareyyuṃ. Corosi…pe… thenosīti ettha ‘‘paribhāseyyu’’nti padaṃ ajjhāharitvā attho veditabboti āha ‘‘corosīti evamādīni ca vatvā paribhāseyyu’’nti.

    ๙๓. ยํ ตํ ภณฺฑํ ทสฺสิตนฺติ สมฺพโนฺธฯ ยตฺถ ยตฺถ ฐิตนฺติ ภูมิอาทีสุ ยตฺถ ยตฺถ ฐิตํฯ ยถา ยถา อาทานํ คจฺฉตีติ ภูมิอาทีสุ ฐิตํ ภณฺฑํ สพฺพโส อคฺคหเณปิ เยน เยน อากาเรน คหณํ อุปคจฺฉติฯ

    93. Yaṃ taṃ bhaṇḍaṃ dassitanti sambandho. Yattha yattha ṭhitanti bhūmiādīsu yattha yattha ṭhitaṃ. Yathā yathā ādānaṃ gacchatīti bhūmiādīsu ṭhitaṃ bhaṇḍaṃ sabbaso aggahaṇepi yena yena ākārena gahaṇaṃ upagacchati.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๒. ทุติยปาราชิกํ • 2. Dutiyapārājikaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๒. ทุติยปาราชิกํ • 2. Dutiyapārājikaṃ

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ปญฺจวีสติอวหารกถาวณฺณนา • Pañcavīsatiavahārakathāvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact