Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā |
๗. ปญฺหาวารวิภงฺควณฺณนา
7. Pañhāvāravibhaṅgavaṇṇanā
๔๐๑-๔๐๓. ปญฺหาวาเร ‘‘สิยา กุสโล ธโมฺม กุสลสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทินา กุสลตฺติเก อุทฺธริตพฺพปุจฺฉานํ ลพฺภมานวเสน วิสฺสชฺชนํ ทเสฺสตุํ กุสโล ธโมฺม กุสลสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโยติอาทิ วุตฺตํฯ กุสโล จ นาเมส สยํ อุปฺปชฺชโนฺต ฐเปตฺวา ปจฺฉาชาตญฺจ วิปากญฺจ เสเสหิ ทฺวาวีสติยา ปจฺจเยหิ อุปฺปชฺชติฯ กุสลสฺส ปจฺจโย โหโนฺต ฐเปตฺวา ปุเรชาตปจฺฉาชาตวิปากวิปฺปยุเตฺต เสเสหิ วีสติยา ปจฺจเยหิ ปจฺจโย โหติฯ ตสฺมา เยหิ ปจฺจเยหิ กุสโล กุสลสฺส ปจฺจโย โหติ, เต ปจฺจเย ปฎิปาฎิยา ทเสฺสตุํ เหตุปจฺจเยนาติอาทิ อารทฺธํฯ
401-403. Pañhāvāre ‘‘siyā kusalo dhammo kusalassa dhammassa hetupaccayena paccayo’’tiādinā kusalattike uddharitabbapucchānaṃ labbhamānavasena vissajjanaṃ dassetuṃ kusalo dhammo kusalassa dhammassa hetupaccayena paccayotiādi vuttaṃ. Kusalo ca nāmesa sayaṃ uppajjanto ṭhapetvā pacchājātañca vipākañca sesehi dvāvīsatiyā paccayehi uppajjati. Kusalassa paccayo honto ṭhapetvā purejātapacchājātavipākavippayutte sesehi vīsatiyā paccayehi paccayo hoti. Tasmā yehi paccayehi kusalo kusalassa paccayo hoti, te paccaye paṭipāṭiyā dassetuṃ hetupaccayenātiādi āraddhaṃ.
ตตฺถ ยา เอสา ปจฺจยวิภงฺควาเร วิย ‘‘เหตุสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมาน’’นฺติ อกตฺวา ‘‘เหตู สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธาน’’นฺติ เทสนา กตา, ตสฺสา เอว กรเณ อิทํ ปโยชนํ – ตตฺถ หิ สุญฺญฎฺฐํ ทีเปตุํ ธมฺมานนฺติ วุตฺตํฯ อิธ ปจฺจยโต อุปฺปชฺชมานา ธมฺมา ราสิโต อุปฺปชฺชนฺติ, น เอเกกโตติ ราสฎฺฐํ ทีเปตุํ ขนฺธานนฺติ วุตฺตํฯ ปฎิจฺจวาราทีสุ วา ขนฺธวเสน ปจฺจยุปฺปนฺนเทสนา อารุฬฺหาติ เตเนวานุกฺกเมน อิธาปิ อารุฬฺหาติฯ กสฺมา ปเนเตสุ เอวํ อารุฬฺหาติ? อสงฺกรโต วิภาคทสฺสนตฺถํฯ ‘‘เอกํ ธมฺมํ ปฎิจฺจ เสสา ธมฺมา’’ติ หิ อาทินา นเยน วุจฺจมาเน อสุกธมฺมํ นาม นิสฺสาย อสุกธมฺมาติ น สกฺกา อสงฺกรโต ปจฺจเย ปจฺจยุปฺปเนฺน จ ชานิตุํ, เอวํ สเนฺต อุเทฺทสนิเทฺทสา นิพฺพิเสสา สิยุํฯ ตสฺมา อสงฺกรโต วิภาคทสฺสนตฺถํ เอวํ อารุฬฺหาติ เวทิตพฺพาฯ จิตฺตสมุฎฺฐานานนฺติ อิทํ ยสฺส อพฺยากตสฺส กุสโล เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, ตเมว ทเสฺสตุํ วุตฺตํฯ ปจฺจยวิภเงฺค ปน กุสลาทิวเสน วิภาคํ อกตฺวา สามญฺญโต สเพฺพสํ เหตูนํ วเสน อุปฺปนฺนรูปทสฺสนตฺถํ จิตฺตสมุฎฺฐานานนฺติ อวตฺวา ตํสมุฎฺฐานานนฺติ วุตฺตํฯ ตสฺมา ตตฺถ อพฺยากตเหตุสมุฎฺฐานรูปํ, โอกฺกนฺติกฺขเณ กฎตฺตารูปมฺปิ สงฺคหํ คตํฯ อิมินา อุปาเยน เสเสสุปิ เอวรูเปสุ วิสฺสชฺชเนสุ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ
Tattha yā esā paccayavibhaṅgavāre viya ‘‘hetusampayuttakānaṃ dhammāna’’nti akatvā ‘‘hetū sampayuttakānaṃ khandhāna’’nti desanā katā, tassā eva karaṇe idaṃ payojanaṃ – tattha hi suññaṭṭhaṃ dīpetuṃ dhammānanti vuttaṃ. Idha paccayato uppajjamānā dhammā rāsito uppajjanti, na ekekatoti rāsaṭṭhaṃ dīpetuṃ khandhānanti vuttaṃ. Paṭiccavārādīsu vā khandhavasena paccayuppannadesanā āruḷhāti tenevānukkamena idhāpi āruḷhāti. Kasmā panetesu evaṃ āruḷhāti? Asaṅkarato vibhāgadassanatthaṃ. ‘‘Ekaṃ dhammaṃ paṭicca sesā dhammā’’ti hi ādinā nayena vuccamāne asukadhammaṃ nāma nissāya asukadhammāti na sakkā asaṅkarato paccaye paccayuppanne ca jānituṃ, evaṃ sante uddesaniddesā nibbisesā siyuṃ. Tasmā asaṅkarato vibhāgadassanatthaṃ evaṃ āruḷhāti veditabbā. Cittasamuṭṭhānānanti idaṃ yassa abyākatassa kusalo hetupaccayena paccayo hoti, tameva dassetuṃ vuttaṃ. Paccayavibhaṅge pana kusalādivasena vibhāgaṃ akatvā sāmaññato sabbesaṃ hetūnaṃ vasena uppannarūpadassanatthaṃ cittasamuṭṭhānānanti avatvā taṃsamuṭṭhānānanti vuttaṃ. Tasmā tattha abyākatahetusamuṭṭhānarūpaṃ, okkantikkhaṇe kaṭattārūpampi saṅgahaṃ gataṃ. Iminā upāyena sesesupi evarūpesu vissajjanesu attho veditabbo.
๔๐๔. ทานํ ทตฺวาติ เทยฺยธมฺมํ จชิตฺวาฯ ยาย วา เจตนาย โส ทิยฺยติ, สา เจตนา ทานํฯ ทตฺวาติ ตํ เจตนํ ปริโยทาเปตฺวา วิสุทฺธํ กตฺวาฯ สีลํ สมาทิยิตฺวาติ ปญฺจงฺคาทิวเสน นิจฺจสีลํ คณฺหิตฺวาฯ อิมินา สมาทานวิรติเยว ทสฺสิตาฯ สมฺปตฺตวิรติสมุเจฺฉทวิรติโย ปน โลเก สีลนฺติ อปากฎตฺตา น วุตฺตาฯ กิญฺจาปิ น วุตฺตา, อารมฺมณปจฺจยา ปน โหนฺติเยวฯ ตตฺถ สมุเจฺฉทวิรติ เสกฺขานํเยว กุสลสฺส อารมฺมณํ โหติ, น อิตเรสํฯ อุโปสถกมฺมํ กตฺวาติ ‘‘ปาณํ น หเน, น จาทินฺนมาทิเย’’ติ (อ. นิ. ๓.๗๑) เอวํ วุตฺตํ อุโปสถทิวเสสุ อฎฺฐงฺคอุโปสถกิริยํ กตฺวาฯ ตํ ปจฺจเวกฺขตีติ ตํ กุสลํ เสโกฺขปิ ปุถุชฺชโนปิ ปจฺจเวกฺขติ, อรหาปิ ปจฺจเวกฺขเตวฯ อรหโตปิ หิ ปุเพฺพ กตํ กุสลํ กุสลเมว, เยน ปน จิเตฺตน ปจฺจเวกฺขติ, ตํ กิริยจิตฺตํ นาม โหติฯ ตสฺมา ‘‘เอตํ กุสโล ธโมฺม กุสลสฺส ธมฺมสฺสา’’ติ อิมสฺมิํ อธิกาเร น ลพฺภติฯ ปุเพฺพ สุจิณฺณานีติ ‘‘ทตฺวา สมาทิยิตฺวา กตฺวา’’ติ หิ อาสเนฺน กตานิ วุตฺตานิ, อิมานิ น อาสเนฺน กตานีติ เวทิตพฺพานิฯ ทานาทีหิ วา เสสานิ กามาวจรกุสลานิ ทเสฺสตุํ อิทํ วุตฺตํฯ ฌานา วุฎฺฐหิตฺวาติ ฌานา วุฎฺฐหิตฺวาฯ อยเมว วา ปาฬิฯ เสกฺขา โคตฺรภุนฺติ โสตาปนฺนํ สนฺธาย วุตฺตํฯ โส หิ โคตฺรภุํ ปจฺจเวกฺขติฯ โวทานนฺติ อิทํ ปน สกทาคามิอนาคามิโน สนฺธาย วุตฺตํฯ เตสญฺหิ ตํ จิตฺตํ โวทานํ นาม โหติฯ เสกฺขาติ โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิโนฯ มคฺคา วุฎฺฐหิตฺวาติ มคฺคผลภวงฺคาติกฺกมวเสน อตฺตนา ปฎิลทฺธา มคฺคา วุฎฺฐหิตฺวา, สุทฺธมคฺคโตเยว ปน วุฎฺฐาย ปจฺจเวกฺขณํ นาม นตฺถิฯ
404. Dānaṃdatvāti deyyadhammaṃ cajitvā. Yāya vā cetanāya so diyyati, sā cetanā dānaṃ. Datvāti taṃ cetanaṃ pariyodāpetvā visuddhaṃ katvā. Sīlaṃ samādiyitvāti pañcaṅgādivasena niccasīlaṃ gaṇhitvā. Iminā samādānaviratiyeva dassitā. Sampattaviratisamucchedaviratiyo pana loke sīlanti apākaṭattā na vuttā. Kiñcāpi na vuttā, ārammaṇapaccayā pana hontiyeva. Tattha samucchedavirati sekkhānaṃyeva kusalassa ārammaṇaṃ hoti, na itaresaṃ. Uposathakammaṃ katvāti ‘‘pāṇaṃ na hane, na cādinnamādiye’’ti (a. ni. 3.71) evaṃ vuttaṃ uposathadivasesu aṭṭhaṅgauposathakiriyaṃ katvā. Taṃ paccavekkhatīti taṃ kusalaṃ sekkhopi puthujjanopi paccavekkhati, arahāpi paccavekkhateva. Arahatopi hi pubbe kataṃ kusalaṃ kusalameva, yena pana cittena paccavekkhati, taṃ kiriyacittaṃ nāma hoti. Tasmā ‘‘etaṃ kusalo dhammo kusalassa dhammassā’’ti imasmiṃ adhikāre na labbhati. Pubbe suciṇṇānīti ‘‘datvā samādiyitvā katvā’’ti hi āsanne katāni vuttāni, imāni na āsanne katānīti veditabbāni. Dānādīhi vā sesāni kāmāvacarakusalāni dassetuṃ idaṃ vuttaṃ. Jhānā vuṭṭhahitvāti jhānā vuṭṭhahitvā. Ayameva vā pāḷi. Sekkhā gotrabhunti sotāpannaṃ sandhāya vuttaṃ. So hi gotrabhuṃ paccavekkhati. Vodānanti idaṃ pana sakadāgāmianāgāmino sandhāya vuttaṃ. Tesañhi taṃ cittaṃ vodānaṃ nāma hoti. Sekkhāti sotāpannasakadāgāmianāgāmino. Maggā vuṭṭhahitvāti maggaphalabhavaṅgātikkamavasena attanā paṭiladdhā maggā vuṭṭhahitvā, suddhamaggatoyeva pana vuṭṭhāya paccavekkhaṇaṃ nāma natthi.
กุสลํ อนิจฺจโตติ เอตฺถ วิปสฺสนูปคํ เตภูมกกุสลเมว เวทิตพฺพํ, วิปสฺสนากุสลํ ปน กามาวจรเมวฯ เจโตปริยญาเณนาติ รูปาวจรกุสลํ ทเสฺสติฯ อากาสานญฺจายตนนฺติอาทีหิ อรูปาวจรกุสลารมฺมณวเสน อุปฺปชฺชมานํ อรูปาวจรกุสลเมวฯ กุสลา ขนฺธา อิทฺธิวิธญาณสฺสาติอาทีหิ ปุคฺคลํ อนามสิตฺวา ธมฺมวเสน ทเสฺสติฯ เตเนเวตฺถ เหฎฺฐา คหิตมฺปิ เจโตปริยญาณํ ปุน วุตฺตํฯ
Kusalaṃ aniccatoti ettha vipassanūpagaṃ tebhūmakakusalameva veditabbaṃ, vipassanākusalaṃ pana kāmāvacarameva. Cetopariyañāṇenāti rūpāvacarakusalaṃ dasseti. Ākāsānañcāyatanantiādīhi arūpāvacarakusalārammaṇavasena uppajjamānaṃ arūpāvacarakusalameva. Kusalā khandhā iddhividhañāṇassātiādīhi puggalaṃ anāmasitvā dhammavasena dasseti. Tenevettha heṭṭhā gahitampi cetopariyañāṇaṃ puna vuttaṃ.
๔๐๕. อสฺสาเทตีติ โสมนสฺสสหคตโลภสมฺปยุตฺตจิเตฺตหิ อนุภวติ เจว รชฺชติ จ ฯ อภินนฺทตีติ สปฺปีติกตณฺหาวเสน นนฺทติ หฎฺฐปหโฎฺฐ โหติ, ทิฎฺฐาภินนฺทนาย วา อภินนฺทติฯ ราโค อุปฺปชฺชตีติ อสฺสาเทนฺตสฺส ราโค อุปฺปชฺชติ นามฯ อิทํ อฎฺฐปิ โลภสหคตานิ คเหตฺวา วุตฺตํฯ ทิฎฺฐิ อุปฺปชฺชตีติ อภินนฺทนฺตสฺส อตฺตา อตฺตนิยนฺติอาทิวเสน จตูหิปิ จิเตฺตหิ สมฺปยุตฺตา ทิฎฺฐิ อุปฺปชฺชติฯ อสนฺนิฎฺฐานคตสฺส ปเนตฺถ วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชติฯ วิเกฺขปคตสฺส อุทฺธจฺจํ, อกตํ วต เม กลฺยาณนฺติ วิปฺปฎิสาริโน โทมนสฺสํฯ ตํ อารพฺภาติ ตานิ สุจิณฺณานิ อารมฺมณํ กตฺวาติ อโตฺถฯ พหุวจนสฺส เหส เอกวจนาเทโส, ชาติวเสน วา เอกวจนเมเวตํฯ
405. Assādetīti somanassasahagatalobhasampayuttacittehi anubhavati ceva rajjati ca . Abhinandatīti sappītikataṇhāvasena nandati haṭṭhapahaṭṭho hoti, diṭṭhābhinandanāya vā abhinandati. Rāgo uppajjatīti assādentassa rāgo uppajjati nāma. Idaṃ aṭṭhapi lobhasahagatāni gahetvā vuttaṃ. Diṭṭhi uppajjatīti abhinandantassa attā attaniyantiādivasena catūhipi cittehi sampayuttā diṭṭhi uppajjati. Asanniṭṭhānagatassa panettha vicikicchā uppajjati. Vikkhepagatassa uddhaccaṃ, akataṃ vata me kalyāṇanti vippaṭisārino domanassaṃ. Taṃ ārabbhāti tāni suciṇṇāni ārammaṇaṃ katvāti attho. Bahuvacanassa hesa ekavacanādeso, jātivasena vā ekavacanamevetaṃ.
๔๐๖. อรหา มคฺคา วุฎฺฐหิตฺวาติ มคฺควีถิยํ ผลานนฺตรสฺส ภวงฺคสฺส อติกฺกมวเสน วุฎฺฐหิตฺวาฯ ปจฺจเวกฺขณจิตฺตานิ ปนสฺส กิริยาพฺยากตานิฯ เอวํ กิริยาพฺยากตสฺส อารมฺมณปจฺจยํ ทเสฺสตฺวา ปุน วิปากาพฺยากตสฺส ทเสฺสตุํ เสกฺขา วาติอาทิมาหฯ กุสเล นิรุเทฺธติ วิปสฺสนาชวนวีถิยา ปจฺฉินฺนายฯ วิปาโกติ กามาวจรวิปาโกฯ ตทารมฺมณตาติ ตทารมฺมณตาย, ตํ กุสลสฺส ชวนสฺส อารมฺมณภูตํ วิปสฺสิตกุสลํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชตีติ อโตฺถฯ น เกวลญฺจ ตทารมฺมณวเสเนว, ปฎิสนฺธิภวงฺคจุติวเสนาปิฯ วิปาโก หิ กมฺมํ อารมฺมณํ กตฺวา คหิตปฎิสนฺธิกสฺส กุสลารมฺมโณ โหติเยว, โส ปน ทุพฺพิเญฺญยฺยตฺตา อิธ น ทสฺสิโตฯ
406. Arahā maggā vuṭṭhahitvāti maggavīthiyaṃ phalānantarassa bhavaṅgassa atikkamavasena vuṭṭhahitvā. Paccavekkhaṇacittāni panassa kiriyābyākatāni. Evaṃ kiriyābyākatassa ārammaṇapaccayaṃ dassetvā puna vipākābyākatassa dassetuṃ sekkhā vātiādimāha. Kusale niruddheti vipassanājavanavīthiyā pacchinnāya. Vipākoti kāmāvacaravipāko. Tadārammaṇatāti tadārammaṇatāya, taṃ kusalassa javanassa ārammaṇabhūtaṃ vipassitakusalaṃ ārammaṇaṃ katvā uppajjatīti attho. Na kevalañca tadārammaṇavaseneva, paṭisandhibhavaṅgacutivasenāpi. Vipāko hi kammaṃ ārammaṇaṃ katvā gahitapaṭisandhikassa kusalārammaṇo hotiyeva, so pana dubbiññeyyattā idha na dassito.
กุสลํ อสฺสาเทตีติอาทิ อกุสลชวนาวสาเน กุสลารมฺมณวิปากํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํฯ วิญฺญาณญฺจายตนวิปากสฺสาติ อิทํ ทุพฺพิเญฺญยฺยมฺปิ สมานํ มหคฺคตวิปากสฺส ตทารมฺมณภาเวน อนุปฺปตฺติโต ลพฺภมานกวเสน วุตฺตํฯ กิริยสฺสาติ อรหตฺตํ ปตฺวา อสมาปนฺนปุเพฺพ อากาสานญฺจายตเน ปฎิโลมโต วา เอกนฺตริกวเสน วา สมาปนฺนกิริยายฯ เจโตปริยญาณสฺสาติอาทีนิ ปรโต อาวชฺชนาย โยเชตพฺพานิฯ ยา เอเตสํ อาวชฺชนา, ตสฺสา กุสลา ขนฺธา อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโยติ อยเญฺหตฺถ อโตฺถฯ
Kusalaṃ assādetītiādi akusalajavanāvasāne kusalārammaṇavipākaṃ dassetuṃ vuttaṃ. Viññāṇañcāyatanavipākassāti idaṃ dubbiññeyyampi samānaṃ mahaggatavipākassa tadārammaṇabhāvena anuppattito labbhamānakavasena vuttaṃ. Kiriyassāti arahattaṃ patvā asamāpannapubbe ākāsānañcāyatane paṭilomato vā ekantarikavasena vā samāpannakiriyāya. Cetopariyañāṇassātiādīni parato āvajjanāya yojetabbāni. Yā etesaṃ āvajjanā, tassā kusalā khandhā ārammaṇapaccayena paccayoti ayañhettha attho.
๔๐๗-๔๐๙. ราคนฺติ อตฺตโน วา ปรสฺส วา ราคํฯ อตฺตโน ราควเสน ปเนตฺถ วณฺณนา ปากฎา โหติฯ อสฺสาเทตีติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนวฯ วิจิกิจฺฉาทีสุ ปน ตีสุ อสฺสาเทตพฺพตาย อภาเวน ‘‘อสฺสาเทตี’’ติ น วุตฺตํฯ ทิฎฺฐิ ปเนตฺถ อุปฺปชฺชติ, สา อสฺสาเทตีติ ปทสฺส ปริหีนตฺตา อาคตปฎิปาฎิยา ปฐมํ น วุตฺตาฯ วิจิกิจฺฉาทีสุเยว ตํ ตํ สภาคํ ปฐมํ วตฺวา ตสฺส ตสฺส อนนฺตรา วุตฺตาฯ อิเมสุ จ ปน ราคาทีสุ ‘‘กิํ เม ปาปธมฺมา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ อกฺขนฺติวเสน วา, ‘‘กตํ ปาปํ กตํ ลุทฺธ’’นฺติ วิปฺปฎิสาราทิวเสน วา โทมนสฺสุปฺปตฺติ เวทิตพฺพาฯ
407-409. Rāganti attano vā parassa vā rāgaṃ. Attano rāgavasena panettha vaṇṇanā pākaṭā hoti. Assādetītiādīni vuttatthāneva. Vicikicchādīsu pana tīsu assādetabbatāya abhāvena ‘‘assādetī’’ti na vuttaṃ. Diṭṭhi panettha uppajjati, sā assādetīti padassa parihīnattā āgatapaṭipāṭiyā paṭhamaṃ na vuttā. Vicikicchādīsuyeva taṃ taṃ sabhāgaṃ paṭhamaṃ vatvā tassa tassa anantarā vuttā. Imesu ca pana rāgādīsu ‘‘kiṃ me pāpadhammā uppajjantī’’ti akkhantivasena vā, ‘‘kataṃ pāpaṃ kataṃ luddha’’nti vippaṭisārādivasena vā domanassuppatti veditabbā.
๔๑๐. จกฺขุํ อนิจฺจโตติ วิปสฺสนานุกฺกเมน โอฬาริกายตนานิ วตฺถุรูปญฺจาติ เอกาทส รูปานิ ปากฎตฺตา คหิตานิฯ ปุน รูปายตนาทีนิ จกฺขุวิญฺญาณาทีนํ อารมฺมณตฺตา คหิตานิฯ ยสฺมา ปเนสา วิญฺญาณกายวเสน เทสนา, น ธาตุวเสน, ตสฺมา มโนธาตุ น คหิตาฯ เอวํ สพฺพตฺถ คหิตาคหิตํ เวทิตพฺพํฯ
410. Cakkhuṃ aniccatoti vipassanānukkamena oḷārikāyatanāni vatthurūpañcāti ekādasa rūpāni pākaṭattā gahitāni. Puna rūpāyatanādīni cakkhuviññāṇādīnaṃ ārammaṇattā gahitāni. Yasmā panesā viññāṇakāyavasena desanā, na dhātuvasena, tasmā manodhātu na gahitā. Evaṃ sabbattha gahitāgahitaṃ veditabbaṃ.
๔๑๑. ผลํ ปจฺจเวกฺขนฺติ นิพฺพานํ ปจฺจเวกฺขนฺตีติ ปจฺจเวกฺขณกุสลสฺส อารมฺมณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ
411. Phalaṃ paccavekkhanti nibbānaṃ paccavekkhantīti paccavekkhaṇakusalassa ārammaṇadassanatthaṃ vuttaṃ.
๔๑๓-๔๑๖. อารมฺมณาธิปตินิเทฺทเส เสกฺขปุถุชฺชนานํ วเสน จตุภูมกกุสลํ ทสฺสิตํ, ตถา สหชาตาธิปตินิเทฺทเสฯ อรหโต อุตฺตมธมฺมํ อธิคตตฺตา โลกิยกุสเลสุ ครุกาโร นตฺถีติ อคฺคมโคฺคว ทสฺสิโตฯ
413-416. Ārammaṇādhipatiniddese sekkhaputhujjanānaṃ vasena catubhūmakakusalaṃ dassitaṃ, tathā sahajātādhipatiniddese. Arahato uttamadhammaṃ adhigatattā lokiyakusalesu garukāro natthīti aggamaggova dassito.
๔๑๗. อนนฺตรปจฺจเย ปุริมา ปุริมาติ เอกภูมกาปิ นานาภูมกาปิ กุสลา เอกโต กตฺวา วุตฺตาฯ อนุโลมํ โคตฺรภุสฺส, อนุโลมํ โวทานสฺสาติ นานารมฺมณวเสนฯ โคตฺรภุ มคฺคสฺส, โวทานํ มคฺคสฺสาติ นานาภูมิวเสนฯ กุสลํ วุฎฺฐานสฺสาติ เอตฺถ ปน กุสลนฺติ เตภูมกกุสลํฯ วุฎฺฐานนฺติ เตภูมกวิปากํฯ เตหิ กุสลชวนวีถิโต วุฎฺฐหนฺติ, ตสฺมา วุฎฺฐานนฺติ วุจฺจติฯ ตํ ทุวิธํ โหติ – ตทารมฺมณํ ภวงฺคญฺจฯ ตตฺถ กามาวจรกุสลสฺส อุภยมฺปิ วุฎฺฐานํ โหติ, มหคฺคตสฺส ภวงฺคเมวฯ มโคฺค ผลสฺสาติ อิทํ ยสฺมา โลกุตฺตรวิปากํ ชวนวีถิปริยาปนฺนตฺตา วุฎฺฐานํ นาม น โหติ, ตสฺมา วิสุํ วุตฺตํฯ อนุโลมํ เสกฺขายาติ อเสกฺขาย กุสลํ อนนฺตรํ น โหติ, ตสฺมา วิภาคํ กโรติฯ ผลสมาปตฺติยาติ โสตาปตฺติผลสกทาคามิผลอนาคามิผลสมาปตฺติยาปิฯ ผลสมาปตฺติยาติ อนาคามิผลสมาปตฺติยาฯ อกุสเล ทุวิธมฺปิ วุฎฺฐานํ ลพฺภติฯ วิปากาพฺยากตา กิริยาพฺยากตาติ เอตฺถ วิปากาพฺยากตา วิปากาพฺยากตานํเยว, กิริยาพฺยากตา กิริยาพฺยากตานํเยว เวทิตพฺพาฯ ภวงฺคํ อาวชฺชนายาติอาทิ โวมิสฺสกวเสน วุตฺตํฯ ตตฺถ กิริยาติ กามาวจรกิริยาฯ สา ทุวิธสฺสาปิ วุฎฺฐานสฺส อนนฺตรปจฺจโย โหติ, มหคฺคตา ภวงฺคเสฺสวฯ อิติ เย เหฎฺฐา ปจฺจยวิภงฺคนิเทฺทเส ‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ อารภิตฺวา กุสลํ กุสลสฺส, กุสลํ อพฺยากตสฺส, อกุสลํ อกุสลสฺส, อกุสลํ อพฺยากตสฺส, อพฺยากตํ อพฺยากตสฺส, อพฺยากตํ กุสลสฺส, อพฺยากตํ อกุสลสฺสาติ สตฺต วารา ทสฺสิตา; เตสํ วเสน อิธ สเงฺขปโต อนนฺตรปจฺจโย วิภโตฺตฯ
417. Anantarapaccaye purimā purimāti ekabhūmakāpi nānābhūmakāpi kusalā ekato katvā vuttā. Anulomaṃ gotrabhussa, anulomaṃ vodānassāti nānārammaṇavasena. Gotrabhu maggassa, vodānaṃ maggassāti nānābhūmivasena. Kusalaṃ vuṭṭhānassāti ettha pana kusalanti tebhūmakakusalaṃ. Vuṭṭhānanti tebhūmakavipākaṃ. Tehi kusalajavanavīthito vuṭṭhahanti, tasmā vuṭṭhānanti vuccati. Taṃ duvidhaṃ hoti – tadārammaṇaṃ bhavaṅgañca. Tattha kāmāvacarakusalassa ubhayampi vuṭṭhānaṃ hoti, mahaggatassa bhavaṅgameva. Maggo phalassāti idaṃ yasmā lokuttaravipākaṃ javanavīthipariyāpannattā vuṭṭhānaṃ nāma na hoti, tasmā visuṃ vuttaṃ. Anulomaṃ sekkhāyāti asekkhāya kusalaṃ anantaraṃ na hoti, tasmā vibhāgaṃ karoti. Phalasamāpattiyāti sotāpattiphalasakadāgāmiphalaanāgāmiphalasamāpattiyāpi. Phalasamāpattiyāti anāgāmiphalasamāpattiyā. Akusale duvidhampi vuṭṭhānaṃ labbhati. Vipākābyākatā kiriyābyākatāti ettha vipākābyākatā vipākābyākatānaṃyeva, kiriyābyākatā kiriyābyākatānaṃyeva veditabbā. Bhavaṅgaṃ āvajjanāyātiādi vomissakavasena vuttaṃ. Tattha kiriyāti kāmāvacarakiriyā. Sā duvidhassāpi vuṭṭhānassa anantarapaccayo hoti, mahaggatā bhavaṅgasseva. Iti ye heṭṭhā paccayavibhaṅganiddese ‘‘purimā purimā kusalā dhammā pacchimānaṃ pacchimānaṃ kusalānaṃ dhammānaṃ anantarapaccayena paccayo’’ti ārabhitvā kusalaṃ kusalassa, kusalaṃ abyākatassa, akusalaṃ akusalassa, akusalaṃ abyākatassa, abyākataṃ abyākatassa, abyākataṃ kusalassa, abyākataṃ akusalassāti satta vārā dassitā; tesaṃ vasena idha saṅkhepato anantarapaccayo vibhatto.
วิตฺถารโต ปเนตฺถ –
Vitthārato panettha –
ทสธา สตฺตรสธา, สมสฎฺฐิวิเธน จ;
Dasadhā sattarasadhā, samasaṭṭhividhena ca;
พหุธาปิ จ นิเทฺทสํ, สาธุกํ อุปลกฺขเยฯ
Bahudhāpi ca niddesaṃ, sādhukaṃ upalakkhaye.
อยญฺหิ อนนฺตรปจฺจโย น เกวลํ สตฺตธาว นิเทฺทสํ ลภติ, กุสลํ ปน กุสลสฺส วิปากสฺส; อกุสลํ อกุสลสฺส วิปากสฺส; วิปากํ วิปากสฺส กิริยสฺส; กิริยํ กุสลสฺส อกุสลสฺส วิปากสฺส กิริยสฺสาติ เอวํ ทสธาปิ นิเทฺทสํ ลภติฯ น เกวลํ ทสธาเยว, กุสลํ ปน กุสลสฺส กุสลวิปากสฺส อกุสลวิปากสฺส; อกุสลํ อกุสลสฺส อกุสลวิปากสฺส กุสลวิปากสฺส; กุสลวิปากํ กุสลวิปากสฺส อกุสลวิปากสฺส กิริยสฺส; อกุสลวิปากํ อกุสลวิปากสฺส กุสลวิปากสฺส กิริยสฺส; กิริยํ กิริยสฺส กุสลสฺส อกุสลสฺส กุสลวิปากสฺส อกุสลวิปากสฺสาติ เอวํ สตฺตรสธา นิเทฺทสํ ลภติฯ
Ayañhi anantarapaccayo na kevalaṃ sattadhāva niddesaṃ labhati, kusalaṃ pana kusalassa vipākassa; akusalaṃ akusalassa vipākassa; vipākaṃ vipākassa kiriyassa; kiriyaṃ kusalassa akusalassa vipākassa kiriyassāti evaṃ dasadhāpi niddesaṃ labhati. Na kevalaṃ dasadhāyeva, kusalaṃ pana kusalassa kusalavipākassa akusalavipākassa; akusalaṃ akusalassa akusalavipākassa kusalavipākassa; kusalavipākaṃ kusalavipākassa akusalavipākassa kiriyassa; akusalavipākaṃ akusalavipākassa kusalavipākassa kiriyassa; kiriyaṃ kiriyassa kusalassa akusalassa kusalavipākassa akusalavipākassāti evaṃ sattarasadhā niddesaṃ labhati.
น เกวลญฺจ สตฺตรสธาว สมสฎฺฐิวิเธนาปิ นิเทฺทสํ ลภเตวฯ กถํ? กามาวจรกุสลญฺหิ ภูมิเภเทน จตุพฺพิธสฺส กุสลสฺส อนนฺตรปจฺจโย โหติ, รูปาวจรารูปาวจรํ สกสกภูมิกเสฺสวาติ กุสลํ กุสลสฺส ฉพฺพิเธน อนนฺตรปจฺจโยฯ กามาวจรกุสลํ ปน กามาวจรกุสลวิปากสฺส อกุสลวิปากสฺส รูปาวจรวิปากสฺส อรูปาวจรวิปากสฺส โลกุตฺตรวิปากสฺส; รูปาวจรกุสลํ รูปาวจรวิปากสฺส กามาวจรกุสลวิปากสฺส; อรูปาวจรกุสลํ กามาวจรกุสลวิปากสฺส รูปาวจรอรูปาวจรโลกุตฺตรวิปากสฺส; โลกุตฺตรกุสลํ โลกุตฺตรวิปากสฺสาติ กุสลํ วิปากสฺส ทฺวาทสวิเธน อนนฺตรปจฺจโย ฯ อกุสลํ อกุสลสฺส อกุสลวิปากสฺส เตภูมกกุสลวิปากสฺสาติ ปญฺจวิเธน อนนฺตรปจฺจโยฯ
Na kevalañca sattarasadhāva samasaṭṭhividhenāpi niddesaṃ labhateva. Kathaṃ? Kāmāvacarakusalañhi bhūmibhedena catubbidhassa kusalassa anantarapaccayo hoti, rūpāvacarārūpāvacaraṃ sakasakabhūmikassevāti kusalaṃ kusalassa chabbidhena anantarapaccayo. Kāmāvacarakusalaṃ pana kāmāvacarakusalavipākassa akusalavipākassa rūpāvacaravipākassa arūpāvacaravipākassa lokuttaravipākassa; rūpāvacarakusalaṃ rūpāvacaravipākassa kāmāvacarakusalavipākassa; arūpāvacarakusalaṃ kāmāvacarakusalavipākassa rūpāvacaraarūpāvacaralokuttaravipākassa; lokuttarakusalaṃ lokuttaravipākassāti kusalaṃ vipākassa dvādasavidhena anantarapaccayo . Akusalaṃ akusalassa akusalavipākassa tebhūmakakusalavipākassāti pañcavidhena anantarapaccayo.
กามาวจรกุสลวิปากํ กามาวจรกุสลวิปากสฺส อกุสลวิปากสฺส รูปาวจรวิปากสฺส อรูปาวจรวิปากสฺสาติ กามาวจรกุสลวิปากํ วิปากสฺส จตุพฺพิเธน อนนฺตรปจฺจโยฯ รูปาวจรวิปากํ เตภูมกกุสลวิปากสฺสาติ ติวิเธน อนนฺตรปจฺจโยฯ อรูปาวจรวิปากํ อรูปาวจรวิปากสฺส กามาวจรกุสลวิปากสฺสาติ ทุวิเธน อนนฺตรปจฺจโยฯ โลกุตฺตรวิปากํ จตุภูมกกุสลวิปากสฺสาติ จตุพฺพิเธน อนนฺตรปจฺจโยฯ เอวํ กุสลวิปากํ วิปากสฺส เตรสธาปิ อนนฺตรปจฺจโยฯ อกุสลวิปากํ อกุสลวิปากสฺส กามาวจรกุสลวิปากสฺสาติ ทุวิเธน อนนฺตรปจฺจโยฯ เอวํ สพฺพถาปิ วิปากํ วิปากสฺส ปญฺจทสวิเธน อนนฺตรปจฺจโยฯ กามาวจรกุสลวิปากํ ปน กามาวจรกิริยสฺส, ตถา อกุสลวิปากํ, ตถา รูปาวจรวิปากํ, ตถา อรูปาวจรวิปากญฺจาติ วิปากํ กิริยสฺส จ จตุพฺพิเธน อนนฺตรปจฺจโยฯ
Kāmāvacarakusalavipākaṃ kāmāvacarakusalavipākassa akusalavipākassa rūpāvacaravipākassa arūpāvacaravipākassāti kāmāvacarakusalavipākaṃ vipākassa catubbidhena anantarapaccayo. Rūpāvacaravipākaṃ tebhūmakakusalavipākassāti tividhena anantarapaccayo. Arūpāvacaravipākaṃ arūpāvacaravipākassa kāmāvacarakusalavipākassāti duvidhena anantarapaccayo. Lokuttaravipākaṃ catubhūmakakusalavipākassāti catubbidhena anantarapaccayo. Evaṃ kusalavipākaṃ vipākassa terasadhāpi anantarapaccayo. Akusalavipākaṃ akusalavipākassa kāmāvacarakusalavipākassāti duvidhena anantarapaccayo. Evaṃ sabbathāpi vipākaṃ vipākassa pañcadasavidhena anantarapaccayo. Kāmāvacarakusalavipākaṃ pana kāmāvacarakiriyassa, tathā akusalavipākaṃ, tathā rūpāvacaravipākaṃ, tathā arūpāvacaravipākañcāti vipākaṃ kiriyassa ca catubbidhena anantarapaccayo.
กามาวจรกิริยํ เตภูมกกิริยสฺส, รูปาวจรารูปาวจรกิริยํ รูปาวจรารูปาวจรานเญฺญวาติ กิริยํ กิริยสฺส ปญฺจวิเธน อนนฺตรปจฺจโยฯ กามาวจรกิริยํ อกุสลวิปากสฺส เจว จตุภูมกกุสลวิปากสฺส จ, รูปาวจรกิริยํ กามาวจรกุสลวิปากรูปาวจรวิปากานํ อรูปาวจรกิริยํ จตุภูมกกุสลวิปากสฺสาปีติ กิริยํ วิปากสฺส เอกาทสวิเธน อนนฺตรปจฺจโยฯ กามาวจรกิริยํ ปน กามาวจรกุสลสฺส อกุสลสฺสาติ กุสลากุสลานํ ทุวิเธน อนนฺตรปจฺจโย โหติฯ เอวํ สมสฎฺฐิวิเธนาปิ นิเทฺทสํ ลภติฯ
Kāmāvacarakiriyaṃ tebhūmakakiriyassa, rūpāvacarārūpāvacarakiriyaṃ rūpāvacarārūpāvacarānaññevāti kiriyaṃ kiriyassa pañcavidhena anantarapaccayo. Kāmāvacarakiriyaṃ akusalavipākassa ceva catubhūmakakusalavipākassa ca, rūpāvacarakiriyaṃ kāmāvacarakusalavipākarūpāvacaravipākānaṃ arūpāvacarakiriyaṃ catubhūmakakusalavipākassāpīti kiriyaṃ vipākassa ekādasavidhena anantarapaccayo. Kāmāvacarakiriyaṃ pana kāmāvacarakusalassa akusalassāti kusalākusalānaṃ duvidhena anantarapaccayo hoti. Evaṃ samasaṭṭhividhenāpi niddesaṃ labhati.
น เกวลญฺจ สมสฎฺฐิวิเธเนว, พหุวิเธนาปิ ลภเตวฯ กถํ? กามาวจรปฐมมหากุสลจิตฺตํ ตาว อตฺตโน, จตุนฺนญฺจ รูปาวจรกุสลานํ ปาทกโยเคน โสฬสนฺนํ โสมนสฺสโลกุตฺตรานนฺติ เอกวีสติยา จ กุสลานํ, ชวนปริโยสาเน ตทารมฺมณภวงฺควเสน อุปฺปชฺชมานานํ เอกาทสนฺนํ กามาวจรวิปากานํ, ภวงฺควเสเนว ปวตฺตานํ รูปาวจรารูปาวจรวิปากานํ, ผลสมาปตฺติวเสน ปวตฺตานํ ทฺวาทสนฺนํ โลกุตฺตรวิปากานนฺติ เอวํ เอกวีสติยา กุสลานํ; ทฺวตฺติํสาย วิปากานนฺติ เตปญฺญาสาย จิตฺตานํ อนนฺตรปจฺจโย โหติ ฯ ตถา ทุติยกุสลจิตฺตํฯ ตติยจตุตฺถานิ ปน ฐเปตฺวา อุปริภูมกกุสลานิ จ โลกุตฺตรวิปากานิ จ เสสเอกวีสติจิตฺตานํฯ ปญฺจมฉฎฺฐานิ อตฺตโน จ, นวนฺนญฺจ อุปริภูมกอุเปกฺขากุสลานํ, เตวีสติยา จ วิปากานนฺติ เตตฺติํสายฯ สตฺตมอฎฺฐมานิ เอกวีสติยาวฯ
Na kevalañca samasaṭṭhividheneva, bahuvidhenāpi labhateva. Kathaṃ? Kāmāvacarapaṭhamamahākusalacittaṃ tāva attano, catunnañca rūpāvacarakusalānaṃ pādakayogena soḷasannaṃ somanassalokuttarānanti ekavīsatiyā ca kusalānaṃ, javanapariyosāne tadārammaṇabhavaṅgavasena uppajjamānānaṃ ekādasannaṃ kāmāvacaravipākānaṃ, bhavaṅgavaseneva pavattānaṃ rūpāvacarārūpāvacaravipākānaṃ, phalasamāpattivasena pavattānaṃ dvādasannaṃ lokuttaravipākānanti evaṃ ekavīsatiyā kusalānaṃ; dvattiṃsāya vipākānanti tepaññāsāya cittānaṃ anantarapaccayo hoti . Tathā dutiyakusalacittaṃ. Tatiyacatutthāni pana ṭhapetvā uparibhūmakakusalāni ca lokuttaravipākāni ca sesaekavīsaticittānaṃ. Pañcamachaṭṭhāni attano ca, navannañca uparibhūmakaupekkhākusalānaṃ, tevīsatiyā ca vipākānanti tettiṃsāya. Sattamaaṭṭhamāni ekavīsatiyāva.
ปญฺจ รูปาวจรกุสลานิ อตฺตโน อตฺตโน ปจฺฉิมานํ รูปาวจรกุสลานํ, จตุนฺนมฺปิ ญาณสมฺปยุตฺตมหาวิปากานํ, ปญฺจนฺนํ รูปาวจรวิปากานญฺจาติ ทสนฺนํฯ เอเตเนว จ นเยน อรูปาวจรกุสเลสุ ปฐมํ อตฺตโน วิปาเกน สทฺธิํ เอกาทสนฺนํ, ทุติยํ ทฺวาทสนฺนํ, ตติยํ เตรสนฺนํ, จตุตฺถํ จุทฺทสนฺนํ ผลสมาปตฺติยา จาติ ปนฺนรสนฺนํ โลกุตฺตรกุสลํ อตฺตโน อตฺตโน วิปากเสฺสวฯ อฎฺฐสุ โลภสหคเตสุ เอเกกํ อกุสลํ เอกาทสนฺนํ กามาวจรวิปากมโนวิญฺญาณธาตูนํ นวนฺนํ, มหคฺคตวิปากานํ อตฺตโน อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ เอกวีสติยาฯ เทฺว โทมนสฺสสหคตานิ อุเปกฺขาสหคตานํ ฉนฺนํ กามาวจรวิปากมโนวิญฺญาณธาตูนํ อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ สตฺตนฺนํฯ วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตทฺวยํ โสมนสฺสสหคตาเหตุกวิปาเกน สทฺธิํ เอกาทสนฺนํ กามาวจรวิปากมโนวิญฺญาณธาตูนํ นวนฺนํ รูปาวจรารูปาวจรวิปากานํ อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ เอกวีสติยาฯ
Pañca rūpāvacarakusalāni attano attano pacchimānaṃ rūpāvacarakusalānaṃ, catunnampi ñāṇasampayuttamahāvipākānaṃ, pañcannaṃ rūpāvacaravipākānañcāti dasannaṃ. Eteneva ca nayena arūpāvacarakusalesu paṭhamaṃ attano vipākena saddhiṃ ekādasannaṃ, dutiyaṃ dvādasannaṃ, tatiyaṃ terasannaṃ, catutthaṃ cuddasannaṃ phalasamāpattiyā cāti pannarasannaṃ lokuttarakusalaṃ attano attano vipākasseva. Aṭṭhasu lobhasahagatesu ekekaṃ akusalaṃ ekādasannaṃ kāmāvacaravipākamanoviññāṇadhātūnaṃ navannaṃ, mahaggatavipākānaṃ attano attano pacchimassa cāti ekavīsatiyā. Dve domanassasahagatāni upekkhāsahagatānaṃ channaṃ kāmāvacaravipākamanoviññāṇadhātūnaṃ attano pacchimassa cāti sattannaṃ. Vicikicchuddhaccasahagatadvayaṃ somanassasahagatāhetukavipākena saddhiṃ ekādasannaṃ kāmāvacaravipākamanoviññāṇadhātūnaṃ navannaṃ rūpāvacarārūpāvacaravipākānaṃ attano pacchimassa cāti ekavīsatiyā.
กุสลวิปากปญฺจวิญฺญาณา กุสลวิปากมโนธาตุยา, มโนธาตุ ทฺวินฺนํ วิปากมโนวิญฺญาณธาตูนํฯ ตาสุ ทฺวีสุ โสมนสฺสสหคตา ทสนฺนํ วิปากมโนวิญฺญาณธาตูนํ ภวงฺคภูตานํ ตทารมฺมณกาเล อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส โวฎฺฐพฺพนกิริยสฺส จาติ ทฺวาทสนฺนํฯ อุเปกฺขาสหคตาเหตุกมโนวิญฺญาณธาตุ ปน อาวชฺชนมโนธาตุยา ทฺวิฎฺฐานิกาย อาวชฺชนมโนวิญฺญาณธาตุยา ทสนฺนญฺจ วิปากมโนวิญฺญาณธาตูนนฺติ ทฺวาทสนฺนเมวฯ ติเหตุกมหาวิปากา โสมนสฺสสหคตาเหตุกวชฺชานํ ทสนฺนมฺปิ กามาวจรวิปากมโนวิญฺญาณธาตูนํ รูปาวจรารูปาวจรวิปากานํ อาวชฺชนทฺวยสฺส จาติ เอกวีสติยา, ทุเหตุกวิปากา ฐเปตฺวา มหคฺคตวิปาเก เสสานํ ทฺวาทสนฺนํฯ ปญฺจ รูปาวจรวิปากา เตภูมกกุสลวิปากสเหตุกปฎิสนฺธิจิตฺตานํ สตฺตรสนฺนํ อาวชฺชนทฺวยสฺส จาติ เอกูนวีสติยาฯ อรูปาวจรวิปาเกสุ ปฐมํ กามาวจรกุสลวิปากติเหตุกปฎิสนฺธิจิตฺตานํ, จตุนฺนํ อรูปาวจรวิปากจิตฺตานํ จตุนฺนํ มโนทฺวาราวชฺชนสฺส จาติ นวนฺนํฯ ทุติยํ เหฎฺฐิมวิปากํ วเชฺชตฺวา อฎฺฐนฺนํ, ตติยํ เทฺว เหฎฺฐิมานิ วเชฺชตฺวา สตฺตนฺนํ, จตุตฺถํ ตีณิ เหฎฺฐิมานิ วเชฺชตฺวา ฉนฺนํ จตฺตาริ โลกุตฺตรวิปากานิ ติเหตุกวิปากานํ เตรสนฺนํ อตฺตโน อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ จุทฺทสนฺนํฯ
Kusalavipākapañcaviññāṇā kusalavipākamanodhātuyā, manodhātu dvinnaṃ vipākamanoviññāṇadhātūnaṃ. Tāsu dvīsu somanassasahagatā dasannaṃ vipākamanoviññāṇadhātūnaṃ bhavaṅgabhūtānaṃ tadārammaṇakāle attano pacchimassa voṭṭhabbanakiriyassa cāti dvādasannaṃ. Upekkhāsahagatāhetukamanoviññāṇadhātu pana āvajjanamanodhātuyā dviṭṭhānikāya āvajjanamanoviññāṇadhātuyā dasannañca vipākamanoviññāṇadhātūnanti dvādasannameva. Tihetukamahāvipākā somanassasahagatāhetukavajjānaṃ dasannampi kāmāvacaravipākamanoviññāṇadhātūnaṃ rūpāvacarārūpāvacaravipākānaṃ āvajjanadvayassa cāti ekavīsatiyā, duhetukavipākā ṭhapetvā mahaggatavipāke sesānaṃ dvādasannaṃ. Pañca rūpāvacaravipākā tebhūmakakusalavipākasahetukapaṭisandhicittānaṃ sattarasannaṃ āvajjanadvayassa cāti ekūnavīsatiyā. Arūpāvacaravipākesu paṭhamaṃ kāmāvacarakusalavipākatihetukapaṭisandhicittānaṃ, catunnaṃ arūpāvacaravipākacittānaṃ catunnaṃ manodvārāvajjanassa cāti navannaṃ. Dutiyaṃ heṭṭhimavipākaṃ vajjetvā aṭṭhannaṃ, tatiyaṃ dve heṭṭhimāni vajjetvā sattannaṃ, catutthaṃ tīṇi heṭṭhimāni vajjetvā channaṃ cattāri lokuttaravipākāni tihetukavipākānaṃ terasannaṃ attano attano pacchimassa cāti cuddasannaṃ.
อกุสลวิปากปญฺจวิญฺญาณา อกุสลวิปากมโนธาตุยา, มโนธาตุ อกุสลวิปากาเหตุกมโนวิญฺญาณธาตุยาฯ สา ตทารมฺมณกาเล อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จุติกาเล ปฎิสนฺธิวเสน ภวงฺควเสน จ ปวตฺตานํ อิตเรสมฺปิ นวนฺนํ กามาวจรวิปากานํ อุเปกฺขาสหคตานํ ทฺวินฺนํ ปริตฺตกิริยานญฺจาติ ทฺวาทสนฺนํฯ กิริยมโนธาตุ ทสนฺนํ วิญฺญาณานํ หสิตุปฺปาทกิริยา ปญฺจโวกาเร ภวงฺควเสน ปวตฺตานํ นวนฺนํ ติเหตุกวิปากานํ, ตทารมฺมณวเสน ปวตฺตานํ ปญฺจนฺนํ โสมนสฺสสหคตวิปากานํ อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ อคฺคหิตคฺคหเณน เตรสนฺนํฯ โวฎฺฐพฺพนกิริยา ฐเปตฺวา กิริยมโนธาตุํ ทสนฺนํ กามาวจรกิริยานํ, กามาวจรกุสลากุสลานํ ปญฺจโวกาเร ภวงฺควเสน ปวตฺตานํ ปนฺนรสนฺนํ วิปากจิตฺตานญฺจาติ ปญฺจจตฺตาลีสายฯ
Akusalavipākapañcaviññāṇā akusalavipākamanodhātuyā, manodhātu akusalavipākāhetukamanoviññāṇadhātuyā. Sā tadārammaṇakāle attano pacchimassa cutikāle paṭisandhivasena bhavaṅgavasena ca pavattānaṃ itaresampi navannaṃ kāmāvacaravipākānaṃ upekkhāsahagatānaṃ dvinnaṃ parittakiriyānañcāti dvādasannaṃ. Kiriyamanodhātu dasannaṃ viññāṇānaṃ hasituppādakiriyā pañcavokāre bhavaṅgavasena pavattānaṃ navannaṃ tihetukavipākānaṃ, tadārammaṇavasena pavattānaṃ pañcannaṃ somanassasahagatavipākānaṃ attano pacchimassa cāti aggahitaggahaṇena terasannaṃ. Voṭṭhabbanakiriyā ṭhapetvā kiriyamanodhātuṃ dasannaṃ kāmāvacarakiriyānaṃ, kāmāvacarakusalākusalānaṃ pañcavokāre bhavaṅgavasena pavattānaṃ pannarasannaṃ vipākacittānañcāti pañcacattālīsāya.
กามาวจรติเหตุกโสมนสฺสสหคตกิริยทฺวยํ ภวงฺควเสน ปวตฺตานํ เตรสนฺนํ ติเหตุกวิปากานํ ตทารมฺมณวเสน ปญฺจนฺนํ โสมนสฺสสหคตวิปากานํ ปริกมฺมวเสน ปวตฺตมานานํ จตุนฺนํ รูปาวจรกิริยานํ อรหตฺตผลสมาปตฺติยา อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ อคฺคหิตคฺคหเณน ทฺวาวีสติยา ทุเหตุกโสมนสฺสสหคตกิริยทฺวยํ ยถาวุตฺตานํ เตรสนฺนํ ภวงฺคจิตฺตานํ ปญฺจนฺนํ ตทารมฺมณานํ อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ อคฺคหิตคฺคหเณน สตฺตรสนฺนํฯ กามาวจรติเหตุกอุเปกฺขาสหคตกิริยทฺวยํ เตสํเยว เตรสนฺนํ ภวงฺคานํ, ตทารมฺมณวเสน ปวตฺตานํ ฉนฺนํ อุเปกฺขาสหคตวิปากานํ, ปริกมฺมวเสน ปวตฺตานํ เอกิสฺสา รูปาวจรกิริยาย จตุนฺนํ อรูปาวจรกิริยานํ อรหตฺตผลสมาปตฺติยา อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ อคฺคหิตคฺคหเณน จตุวีสติยาฯ ทุเหตุกอุเปกฺขาสหคตกิริยทฺวยํ เตสํเยว เตรสนฺนํ ภวงฺคานํ ฉนฺนํ ตทารมฺมณานํ อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ อคฺคหิตคฺคหเณน อฎฺฐารสนฺนํฯ รูปาวจรกิริเยสุ เอเกกํ นวนฺนํ ปญฺจโวกาเร ติเหตุกภวงฺคานํ อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ ทสนฺนํฯ อรูปาวจรกิริเยสุ ปฐมํ ปญฺจโวกาเร นวนฺนํ ภวงฺคานํ, จตุโวกาเร เอกสฺส อตฺตโน ปจฺฉิมสฺส จาติ เอกาทสนฺนํฯ ทุติยํ จตุโวกาเร เทฺว ภวงฺคานิ ลภติฯ ตติยํ ตีณิ, จตุตฺถํ จตฺตาริ ผลสมาปตฺติญฺจาติ เตสุ เอเกกํ ยถาปฎิปาฎิยา เอกาทสนฺนํ ทฺวาทสนฺนํ เตรสนฺนํ ปญฺจทสนฺนญฺจ อนนฺตรปจฺจโย โหติฯ เอวํ พหุวิเธนาปิ นิเทฺทสํ ลภติฯ เตน วุตฺตํ –
Kāmāvacaratihetukasomanassasahagatakiriyadvayaṃ bhavaṅgavasena pavattānaṃ terasannaṃ tihetukavipākānaṃ tadārammaṇavasena pañcannaṃ somanassasahagatavipākānaṃ parikammavasena pavattamānānaṃ catunnaṃ rūpāvacarakiriyānaṃ arahattaphalasamāpattiyā attano pacchimassa cāti aggahitaggahaṇena dvāvīsatiyā duhetukasomanassasahagatakiriyadvayaṃ yathāvuttānaṃ terasannaṃ bhavaṅgacittānaṃ pañcannaṃ tadārammaṇānaṃ attano pacchimassa cāti aggahitaggahaṇena sattarasannaṃ. Kāmāvacaratihetukaupekkhāsahagatakiriyadvayaṃ tesaṃyeva terasannaṃ bhavaṅgānaṃ, tadārammaṇavasena pavattānaṃ channaṃ upekkhāsahagatavipākānaṃ, parikammavasena pavattānaṃ ekissā rūpāvacarakiriyāya catunnaṃ arūpāvacarakiriyānaṃ arahattaphalasamāpattiyā attano pacchimassa cāti aggahitaggahaṇena catuvīsatiyā. Duhetukaupekkhāsahagatakiriyadvayaṃ tesaṃyeva terasannaṃ bhavaṅgānaṃ channaṃ tadārammaṇānaṃ attano pacchimassa cāti aggahitaggahaṇena aṭṭhārasannaṃ. Rūpāvacarakiriyesu ekekaṃ navannaṃ pañcavokāre tihetukabhavaṅgānaṃ attano pacchimassa cāti dasannaṃ. Arūpāvacarakiriyesu paṭhamaṃ pañcavokāre navannaṃ bhavaṅgānaṃ, catuvokāre ekassa attano pacchimassa cāti ekādasannaṃ. Dutiyaṃ catuvokāre dve bhavaṅgāni labhati. Tatiyaṃ tīṇi, catutthaṃ cattāri phalasamāpattiñcāti tesu ekekaṃ yathāpaṭipāṭiyā ekādasannaṃ dvādasannaṃ terasannaṃ pañcadasannañca anantarapaccayo hoti. Evaṃ bahuvidhenāpi niddesaṃ labhati. Tena vuttaṃ –
‘‘ทสธา สตฺตรสธา, สมสฎฺฐิวิเธน จ;
‘‘Dasadhā sattarasadhā, samasaṭṭhividhena ca;
พหุธาปิ จ นิเทฺทสํ, สาธุกํ อุปลกฺขเย’’ติฯ
Bahudhāpi ca niddesaṃ, sādhukaṃ upalakkhaye’’ti.
สมนนฺตรปจฺจยาทโย อุตฺตานตฺถาเยวฯ
Samanantarapaccayādayo uttānatthāyeva.
๔๒๓. อุปนิสฺสเย สทฺธํ อุปนิสฺสายาติ กมฺมกมฺมผลอิธโลกปรโลกาทีสุ สทฺธํ อุปนิสฺสยํ กตฺวาฯ ยถา หิ ปุริโส เหฎฺฐาปถวิยํ อุทกํ อตฺถีติ สทฺทหิตฺวา ปถวิํ ขนติ, เอวํ สโทฺธ กุลปุโตฺต ทานาทีนํ ผลญฺจ อานิสํสญฺจ สทฺทหิตฺวา ทานาทีนิ ปวเตฺตติฯ ตสฺมา ‘‘สทฺธํ อุปนิสฺสายา’’ติ วุตฺตํฯ
423. Upanissaye saddhaṃ upanissāyāti kammakammaphalaidhalokaparalokādīsu saddhaṃ upanissayaṃ katvā. Yathā hi puriso heṭṭhāpathaviyaṃ udakaṃ atthīti saddahitvā pathaviṃ khanati, evaṃ saddho kulaputto dānādīnaṃ phalañca ānisaṃsañca saddahitvā dānādīni pavatteti. Tasmā ‘‘saddhaṃ upanissāyā’’ti vuttaṃ.
สีลํ อุปนิสฺสายาติอาทีสุปิ อิเม สีลาทโย ธเมฺม อุปนิสฺสยํ กตฺวาติ อโตฺถฯ สีลวา หิ สีลานุภาเวสุ สีลานิสํเสสุ จ กุสโล สีลํ อุปนิสฺสาย สีลวนฺตานํ ทานํ เทติ, อุปรูปริ สีลํ สมาทิยติ สุปริสุทฺธํ อขณฺฑํ, จาตุทฺทสีอาทีสุ ปกฺขทิวเสสุ อุโปสถกมฺมํ กโรติ, สีลสมฺปทํ นิสฺสาย ฌานาทีนิ อุปฺปาเทติฯ พหุสฺสุโตปิ ทานาทิปุญฺญกิริยายตฺตา สพฺพสมฺปตฺติโย ทานาทีนญฺจ สงฺกิเลสโวทานาทิเภทํ สุตมยาย ปญฺญาย ปฎิวิชฺฌิตฺวา ฐิโต สุตํ อุปนิสฺสาย ทานาทีนิ ปวเตฺตติฯ จาควาปิ จาคาธิมุโตฺต อตฺตโน จาคสมฺปทํ อุปนิสฺสาย ทานํ เทติ, สีลวโนฺต หุตฺวา ทินฺนํ มหปฺผลนฺติ สีลํ สมาทิยติ, อุโปสถกมฺมํ กโรติ, ตาย ปฎิปตฺติยา ปริสุทฺธจิโตฺต ฌานาทีนิ อุปฺปาเทติฯ ปญฺญวาปิ อิธโลกปรโลกหิตเญฺจว โลกสมติกฺกมนุปายญฺจ อุปปริกฺขโนฺต ‘‘สกฺกา อิมาย ปฎิปตฺติยา อิธโลกหิตมฺปิ ปรโลกหิตมฺปิ โลกสมติกฺกมนูปายญฺจ สมฺปาเทตุ’’นฺติ ปญฺญํ อุปนิสฺสาย ทานาทีนิ ปวเตฺตติฯ ยสฺมา ปน น เกวลํ สทฺธาทโย ทานาทีนํเยว อุปนิสฺสยา, อตฺตโน อปรภาเค อุปฺปชฺชมานานํ สทฺธาทีนมฺปิ อุปนิสฺสยา เอว, ตสฺมา สทฺธา สีลํ สุตํ จาโค ปญฺญา สทฺธาย สีลสฺส สุตสฺส จาคสฺส ปญฺญายาติ วุตฺตํฯ
Sīlaṃ upanissāyātiādīsupi ime sīlādayo dhamme upanissayaṃ katvāti attho. Sīlavā hi sīlānubhāvesu sīlānisaṃsesu ca kusalo sīlaṃ upanissāya sīlavantānaṃ dānaṃ deti, uparūpari sīlaṃ samādiyati suparisuddhaṃ akhaṇḍaṃ, cātuddasīādīsu pakkhadivasesu uposathakammaṃ karoti, sīlasampadaṃ nissāya jhānādīni uppādeti. Bahussutopi dānādipuññakiriyāyattā sabbasampattiyo dānādīnañca saṅkilesavodānādibhedaṃ sutamayāya paññāya paṭivijjhitvā ṭhito sutaṃ upanissāya dānādīni pavatteti. Cāgavāpi cāgādhimutto attano cāgasampadaṃ upanissāya dānaṃ deti, sīlavanto hutvā dinnaṃ mahapphalanti sīlaṃ samādiyati, uposathakammaṃ karoti, tāya paṭipattiyā parisuddhacitto jhānādīni uppādeti. Paññavāpi idhalokaparalokahitañceva lokasamatikkamanupāyañca upaparikkhanto ‘‘sakkā imāya paṭipattiyā idhalokahitampi paralokahitampi lokasamatikkamanūpāyañca sampādetu’’nti paññaṃ upanissāya dānādīni pavatteti. Yasmā pana na kevalaṃ saddhādayo dānādīnaṃyeva upanissayā, attano aparabhāge uppajjamānānaṃ saddhādīnampi upanissayā eva, tasmā saddhā sīlaṃ sutaṃ cāgo paññā saddhāya sīlassa sutassa cāgassa paññāyāti vuttaṃ.
ปริกมฺมนฺติ อนนฺตรํ อคฺคเหตฺวา ปุพฺพภาเค ปริกมฺมํ คเหตพฺพํฯ ยถากมฺมูปคญาณสฺส อนาคตํสญาณสฺสาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ทิพฺพจกฺขุปริกมฺมเมว, ปริกมฺมํ วิสุํ นตฺถิฯ ทิพฺพจกฺขุเสฺสว ปริภณฺฑญาณานิ เอตานิ, ตสฺมิํ อิชฺฌมาเน อิชฺฌนฺติ เอวํ สเนฺตปิ ตทธิมุตฺตตาย สหิตํ ทิพฺพจกฺขุปริกมฺมํ เตสํ ปริกมฺมนฺติ เวทิตพฺพํฯ น หิ เอตานิ สเพฺพสํ ทิพฺพจกฺขุกานํ สมคติกานิ โหนฺติฯ ตสฺมา ภวิตพฺพเมตฺถ ปริกมฺมวิเสเสนาติฯ ทิพฺพจกฺขุ ทิพฺพาย โสตธาตุยาติ ทูเร รูปานิ ทิสฺวา เตสํ สทฺทํ โสตุกามสฺส ทิพฺพจกฺขุ โสตธาตุวิสุทฺธิยา อุปนิสฺสโย โหติฯ เตสํ ปน สทฺทํ สุตฺวา ตตฺถ คนฺตุกามตาทิวเสน ทิพฺพโสตธาตุ อิทฺธิวิธญาณสฺส อุปนิสฺสโย โหติฯ เอวํ สพฺพตฺถ ตสฺส ตสฺส อุปการกภาววเสน อุปนิสฺสยปจฺจยตา เวทิตพฺพาฯ
Parikammanti anantaraṃ aggahetvā pubbabhāge parikammaṃ gahetabbaṃ. Yathākammūpagañāṇassa anāgataṃsañāṇassāti imesaṃ dvinnaṃ dibbacakkhuparikammameva, parikammaṃ visuṃ natthi. Dibbacakkhusseva paribhaṇḍañāṇāni etāni, tasmiṃ ijjhamāne ijjhanti evaṃ santepi tadadhimuttatāya sahitaṃ dibbacakkhuparikammaṃ tesaṃ parikammanti veditabbaṃ. Na hi etāni sabbesaṃ dibbacakkhukānaṃ samagatikāni honti. Tasmā bhavitabbamettha parikammavisesenāti. Dibbacakkhu dibbāya sotadhātuyāti dūre rūpāni disvā tesaṃ saddaṃ sotukāmassa dibbacakkhu sotadhātuvisuddhiyā upanissayo hoti. Tesaṃ pana saddaṃ sutvā tattha gantukāmatādivasena dibbasotadhātu iddhividhañāṇassa upanissayo hoti. Evaṃ sabbattha tassa tassa upakārakabhāvavasena upanissayapaccayatā veditabbā.
มคฺคํ อุปนิสฺสาย อนุปฺปนฺนํ สมาปตฺตินฺติ เตน เตน มเคฺคน สิถิลีกตปาริปนฺถกตฺตา ปหีนปาริปนฺถกตฺตา จ ตํ ตํ สมาปตฺติํ อุปฺปาเทนฺตีติ เตสํ มโคฺค สมาปตฺติยา อุปนิสฺสโย โหติฯ วิปสฺสนฺตีติ อุปรูปริมคฺคตฺถาย วิปสฺสนฺติฯ อตฺถปฎิสมฺภิทายาติอาทิ ปฎิสมฺภิทานํ มคฺคปฎิลาเภเนว อิชฺฌนโต วุตฺตํฯ เอวํอิทฺธานญฺจ ปเนตาสํ ปจฺฉา เตสุ เตสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺติยา มโคฺคว อุปนิสฺสโย นาม โหติฯ
Maggaṃ upanissāya anuppannaṃ samāpattinti tena tena maggena sithilīkatapāripanthakattā pahīnapāripanthakattā ca taṃ taṃ samāpattiṃ uppādentīti tesaṃ maggo samāpattiyā upanissayo hoti. Vipassantīti uparūparimaggatthāya vipassanti. Atthapaṭisambhidāyātiādi paṭisambhidānaṃ maggapaṭilābheneva ijjhanato vuttaṃ. Evaṃiddhānañca panetāsaṃ pacchā tesu tesu ārammaṇesu pavattiyā maggova upanissayo nāma hoti.
สทฺธํ อุปนิสฺสาย มานํ ชเปฺปตีติ อหมสฺมิ สโทฺธ ปสโนฺนติ มานํ ปวเตฺตติฯ ทิฎฺฐิํ คณฺหาตีติ ตสฺมิํ ตสฺมิํ วจเน สทฺธาวเสเนว คนฺตฺวา ปญฺญาย อตฺถํ อนุปปริกฺขโนฺต ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล’’ติอาทิวเสน ทิฎฺฐิํ คณฺหาติฯ สีลํ สุตํ จาคํ ปญฺญนฺติ อหมสฺมิ สีลวา สุตวา จาคี ปญฺญาสมฺปโนฺนติ มานํ ชเปฺปติฯ สีลสุตจาคปญฺญาสุ ปน มานมญฺญนํ วิย ทิฎฺฐิมญฺญนํ อุปฺปาเทโนฺต ทิฎฺฐิํ คณฺหาติฯ ราคสฺสาติอาทีสุ สทฺธาทิสมฺปทํ อุปนิสฺสาย อตฺตุกฺกํสนกาเล เตสุ เอเกโก ธโมฺม ราคสฺส, ปรวมฺภนกาเล โทสสฺส, อุภเยน สมฺปยุตฺตสฺส โมหสฺส, วุตฺตปฺปการานํ มานทิฎฺฐีนํ, สทฺธาทิสมฺปทํ อุปนิสฺสาย ภวโภคสมฺปตฺติปตฺถนาย อุปนิสฺสโย โหติฯ เอวเมตฺถ โลกิยกุสลเญฺญว ทสฺสิตํฯ โลกุตฺตรํ ปน สนฺตํ ปณีตํ อุตฺตมํ อกุสลวิทฺธํสนํฯ ตสฺมา จโนฺท วิย อนฺธการตมานํ น อกุสลสฺส อุปนิสฺสโย โหตีติ น คหิตํฯ
Saddhaṃ upanissāya mānaṃ jappetīti ahamasmi saddho pasannoti mānaṃ pavatteti. Diṭṭhiṃ gaṇhātīti tasmiṃ tasmiṃ vacane saddhāvaseneva gantvā paññāya atthaṃ anupaparikkhanto ‘‘atthi puggalo’’tiādivasena diṭṭhiṃ gaṇhāti. Sīlaṃ sutaṃ cāgaṃ paññanti ahamasmi sīlavā sutavā cāgī paññāsampannoti mānaṃ jappeti. Sīlasutacāgapaññāsu pana mānamaññanaṃ viya diṭṭhimaññanaṃ uppādento diṭṭhiṃ gaṇhāti. Rāgassātiādīsu saddhādisampadaṃ upanissāya attukkaṃsanakāle tesu ekeko dhammo rāgassa, paravambhanakāle dosassa, ubhayena sampayuttassa mohassa, vuttappakārānaṃ mānadiṭṭhīnaṃ, saddhādisampadaṃ upanissāya bhavabhogasampattipatthanāya upanissayo hoti. Evamettha lokiyakusalaññeva dassitaṃ. Lokuttaraṃ pana santaṃ paṇītaṃ uttamaṃ akusalaviddhaṃsanaṃ. Tasmā cando viya andhakāratamānaṃ na akusalassa upanissayo hotīti na gahitaṃ.
อาตาเปตีติอาทิ กายิกทุกฺขวเสน อพฺยากตธมฺมทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ สโทฺธ หิ สทฺธํ นิสฺสาย อติสีตํ อติอุณฺหนฺติ อโนสกฺกิตฺวา นานปฺปการานิ นวกมฺมเวยฺยาวจฺจาทีนิ กโรโนฺต อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปติ, โภคํ อุปฺปาเทตฺวา ปุญฺญานิ กริสฺสามีติ ปริเยฎฺฐิมูลกํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภติฯ สีลวาปิ สีลานุรกฺขณตฺถํ อโพฺภกาสิกตฺตาทิวเสน อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปติ, ปิณฺฑจาริกตฺตาทิวเสน ปริเยฎฺฐิมูลกํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภติฯ สุตวาปิ พาหุสฺสจฺจานุรูปํ ปฎิปตฺติํ ปฎิปชฺชิสฺสามีติ วุตฺตนเยเนว ปฎิปชฺชโนฺต อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปติ, ปริเยฎฺฐิมูลกํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภติฯ จาควาปิ จาคาธิมุตฺตตาย อตฺตโน ยาปนมเตฺตปิ ปจฺจเย อนวเสเสตฺวา ปริจฺจชโนฺต, องฺคาทิปริจฺจาคํ วา ปน กโรโนฺต อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปติ, ปริจฺจชิตพฺพสฺส วตฺถุโน อุปฺปาทนตฺถํ ปริเยฎฺฐิมูลกํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภติฯ ปญฺญวาปิ อุปรูปริ ปญฺญํ วเฑฺฒสฺสามีติ สปฺปญฺญตํ นิสฺสาย สีตุณฺหาทีนิ อคเณตฺวา สชฺฌายมนสิกาเรสุ โยคํ กโรโนฺต อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปติ, มิจฺฉาชีเว อาทีนวํ สมฺมาชีเว จ อานิสํสํ ทิสฺวา มิจฺฉาชีวํ ปหาย ปริสุเทฺธน อาชีเวน ชีวิตวุตฺติํ ปริเยสโนฺต ปริเยฎฺฐิมูลกํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภติฯ
Ātāpetītiādi kāyikadukkhavasena abyākatadhammadassanatthaṃ vuttaṃ. Saddho hi saddhaṃ nissāya atisītaṃ atiuṇhanti anosakkitvā nānappakārāni navakammaveyyāvaccādīni karonto attānaṃ ātāpeti paritāpeti, bhogaṃ uppādetvā puññāni karissāmīti pariyeṭṭhimūlakaṃ dukkhaṃ paccanubhoti. Sīlavāpi sīlānurakkhaṇatthaṃ abbhokāsikattādivasena attānaṃ ātāpeti paritāpeti, piṇḍacārikattādivasena pariyeṭṭhimūlakaṃ dukkhaṃ paccanubhoti. Sutavāpi bāhussaccānurūpaṃ paṭipattiṃ paṭipajjissāmīti vuttanayeneva paṭipajjanto attānaṃ ātāpeti paritāpeti, pariyeṭṭhimūlakaṃ dukkhaṃ paccanubhoti. Cāgavāpi cāgādhimuttatāya attano yāpanamattepi paccaye anavasesetvā pariccajanto, aṅgādipariccāgaṃ vā pana karonto attānaṃ ātāpeti paritāpeti, pariccajitabbassa vatthuno uppādanatthaṃ pariyeṭṭhimūlakaṃ dukkhaṃ paccanubhoti. Paññavāpi uparūpari paññaṃ vaḍḍhessāmīti sappaññataṃ nissāya sītuṇhādīni agaṇetvā sajjhāyamanasikāresu yogaṃ karonto attānaṃ ātāpeti paritāpeti, micchājīve ādīnavaṃ sammājīve ca ānisaṃsaṃ disvā micchājīvaṃ pahāya parisuddhena ājīvena jīvitavuttiṃ pariyesanto pariyeṭṭhimūlakaṃ dukkhaṃ paccanubhoti.
กายิกสฺส สุขสฺสาติ สทฺธาทิสมฺปตฺติํ อุปนิสฺสาย อุปฺปนฺนานิ สุโขปกรณานิ ปริภุญฺชนกาเล สทฺธาทิสมุฎฺฐานปณีตรูปผุฎกายสฺส จ เตสํ วเสน อวิปฺปฎิสารมูลกปาโมชฺชปีติสมุฎฺฐานรูปผุฎกายสฺส จ สุขุปฺปตฺติกาเล เตสํ กฎตฺตา อุปฺปนฺนวิปากสุขกาเล จ กายิกสฺส สุขสฺส, วุตฺตนเยเนว ทุกฺขุปฺปตฺติกาเล สทฺธาทิคุณสมฺปตฺติํ อสหมาเนหิ ปยุตฺตวธพนฺธนาทิกาเล จ กายิกสฺส ทุกฺขสฺส, สทฺธาทโย อุปนิสฺสาย ปวตฺติตผลสมาปตฺติกาเล ปน ผลสมาปตฺติยา เอเตสุ เอเกโก อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย โหตีติ เวทิตโพฺพฯ กุสลํ กมฺมนฺติ กุสลเจตนา อตฺตโน วิปากสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย, สา ปน พลวเจตนาว ลพฺภติ, น ทุพฺพลาฯ ตตฺริทํ วตฺถุ – เอกา กิร อิตฺถี อุพฺพนฺธิตุกามา รุเกฺข รชฺชุํ ลเคฺคตฺวา สํวิธาตพฺพํ สํวิทหติฯ อเถโก โจโร รตฺติภาเค ตํ เคหํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิมาย รชฺชุยา กิญฺจิเทว พนฺธิตฺวา หริสฺสามี’’ติ สเตฺถน ฉินฺทิตุํ อุปคโตฯ อถ สา รชฺชุ อาสีวิโส หุตฺวา สุสูติ อกาสิฯ โจโร ภีโต อปสกฺกิฯ อิตฺถี อตฺตโน นิเวสนา นิกฺขมิตฺวา รชฺชุปาเส คีวํ ปฎิมุญฺจิตฺวา อุพฺพนฺธา กาลมกาสิฯ เอวํ พลวเจตนา อนฺตราเย นิวาเรตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส อุปนิสฺสโย โหติฯ น ปเนตํ เอกนฺตโต คเหตพฺพํฯ กโตกาสญฺหิ กมฺมํ เอว วิปากสฺส อนฺตรายํ ปฎิพาหิตฺวา วิปจฺจติ, วิปากชนกํ ปน กมฺมํ วิปากสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย น โหตีติ น วตฺตพฺพํฯ กมฺมนฺติ เอตฺถ จตุภูมกมฺปิ เวทิตพฺพํฯ ยํ ปน ปรโต ‘‘มโคฺค ผลสมาปตฺติยา’’ติ วุตฺตํ, ตํ อเจตนาวเสนฯ เตเนตํ ทีเปติ – โย โกจิ วิปากชนโก ธโมฺม, โส อตฺตโน วิปากสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย โหตีติฯ
Kāyikassa sukhassāti saddhādisampattiṃ upanissāya uppannāni sukhopakaraṇāni paribhuñjanakāle saddhādisamuṭṭhānapaṇītarūpaphuṭakāyassa ca tesaṃ vasena avippaṭisāramūlakapāmojjapītisamuṭṭhānarūpaphuṭakāyassa ca sukhuppattikāle tesaṃ kaṭattā uppannavipākasukhakāle ca kāyikassa sukhassa, vuttanayeneva dukkhuppattikāle saddhādiguṇasampattiṃ asahamānehi payuttavadhabandhanādikāle ca kāyikassa dukkhassa, saddhādayo upanissāya pavattitaphalasamāpattikāle pana phalasamāpattiyā etesu ekeko upanissayapaccayena paccayo hotīti veditabbo. Kusalaṃ kammanti kusalacetanā attano vipākassa upanissayapaccayo, sā pana balavacetanāva labbhati, na dubbalā. Tatridaṃ vatthu – ekā kira itthī ubbandhitukāmā rukkhe rajjuṃ laggetvā saṃvidhātabbaṃ saṃvidahati. Atheko coro rattibhāge taṃ gehaṃ upasaṅkamitvā ‘‘imāya rajjuyā kiñcideva bandhitvā harissāmī’’ti satthena chindituṃ upagato. Atha sā rajju āsīviso hutvā susūti akāsi. Coro bhīto apasakki. Itthī attano nivesanā nikkhamitvā rajjupāse gīvaṃ paṭimuñcitvā ubbandhā kālamakāsi. Evaṃ balavacetanā antarāye nivāretvā attano vipākassa upanissayo hoti. Na panetaṃ ekantato gahetabbaṃ. Katokāsañhi kammaṃ eva vipākassa antarāyaṃ paṭibāhitvā vipaccati, vipākajanakaṃ pana kammaṃ vipākassa upanissayapaccayo na hotīti na vattabbaṃ. Kammanti ettha catubhūmakampi veditabbaṃ. Yaṃ pana parato ‘‘maggo phalasamāpattiyā’’ti vuttaṃ, taṃ acetanāvasena. Tenetaṃ dīpeti – yo koci vipākajanako dhammo, so attano vipākassa upanissayapaccayo hotīti.
ราคํ อุปนิสฺสาย ปาณํ หนตีติ ยสฺมิํ วตฺถุสฺมิํ สารโตฺต โหติ, ตสฺมิํ วา วิรุทฺธํ, ตสฺส วา อตฺถาย ปาณํ หนติฯ อทินฺนาทานาทีสุปิ เอเตเนวุปาเยน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ สนฺธิํ ฉินฺทตีติ อทินฺนาทานวเสน วุตฺตํฯ ตตฺถ สนฺธินฺติ เคหสนฺธิํฯ นิโลฺลปํ หรตีติ นิลียิตฺวา หรติฯ เอกาคาริกํ กโรตีติ พหูหิ สทฺธิํ เอกเมว เคหํ ปริวาเรตฺวา วิลุมฺปติฯ ปริปเนฺถ ติฎฺฐตีติ ปนฺถทูหนกมฺมํ กโรติฯ โทสํ อุปนิสฺสายาติอาทีสุ ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติอาทิวเสน อุปฺปนฺนํ โทสํ อุปนิสฺสยํ กตฺวาฯ โมหํ อุปนิสฺสายาติ ปาณาติปาตาทีสุ อาทีนวปฎิจฺฉาทกํ โมหํ อุปนิสฺสยํ กตฺวาฯ มานํ อุปนิสฺสายาติ อหํ กิํ หนิตุํ น สโกฺกมิ, อาทาตุํ น สโกฺกมีติ มานํ อุปนิสฺสยํ กตฺวาฯ เกนจิ วา ปน อวญฺญาโต โหติ ปริภูโต หีฬิโต, ตํ โอมานํ อุปนิสฺสยํ กตฺวาติปิ อโตฺถฯ ทิฎฺฐิํ อุปนิสฺสายาติ ยญฺญาทีสุ พฺราหฺมณาทโย วิย ปาทสิกมิลกฺขุอาทโย วิย จ ทิฎฺฐิํ อุปนิสฺสยํ กตฺวาฯ ปตฺถนํ อุปนิสฺสายาติ ‘‘สเจ เม อิทํ นาม อิชฺฌิสฺสติ, เอวรูปํ เต พลิกมฺมํ กริสฺสามีติ เอวํ เทวตายาจนสงฺขตํ วา, อสุกํ นาม เม ฆาเตตฺวา เทหิ, อสุกสฺส สนฺตกํ อาหร, เอหิ วา เม เอตานิ กมฺมานิ กโรนฺตสฺส สหาโย โหหี’’ติ เอวมาทิํ วา ปตฺถนํ อุปนิสฺสยํ กตฺวาฯ ราโค โทโส โมโห มาโน ทิฎฺฐิ ปตฺถนา ราคสฺสาติฯ เอตฺถ ราโค ราคสฺสาปิ อุปนิสฺสโย โหติ โทสาทีนมฺปิฯ โทสาทีสุปิ เอเสว นโยฯ
Rāgaṃupanissāya pāṇaṃ hanatīti yasmiṃ vatthusmiṃ sāratto hoti, tasmiṃ vā viruddhaṃ, tassa vā atthāya pāṇaṃ hanati. Adinnādānādīsupi etenevupāyena attho veditabbo. Sandhiṃ chindatīti adinnādānavasena vuttaṃ. Tattha sandhinti gehasandhiṃ. Nillopaṃ haratīti nilīyitvā harati. Ekāgārikaṃ karotīti bahūhi saddhiṃ ekameva gehaṃ parivāretvā vilumpati. Paripanthe tiṭṭhatīti panthadūhanakammaṃ karoti. Dosaṃ upanissāyātiādīsu ‘‘anatthaṃ me acarī’’tiādivasena uppannaṃ dosaṃ upanissayaṃ katvā. Mohaṃ upanissāyāti pāṇātipātādīsu ādīnavapaṭicchādakaṃ mohaṃ upanissayaṃ katvā. Mānaṃ upanissāyāti ahaṃ kiṃ hanituṃ na sakkomi, ādātuṃ na sakkomīti mānaṃ upanissayaṃ katvā. Kenaci vā pana avaññāto hoti paribhūto hīḷito, taṃ omānaṃ upanissayaṃ katvātipi attho. Diṭṭhiṃ upanissāyāti yaññādīsu brāhmaṇādayo viya pādasikamilakkhuādayo viya ca diṭṭhiṃ upanissayaṃ katvā. Patthanaṃ upanissāyāti ‘‘sace me idaṃ nāma ijjhissati, evarūpaṃ te balikammaṃ karissāmīti evaṃ devatāyācanasaṅkhataṃ vā, asukaṃ nāma me ghātetvā dehi, asukassa santakaṃ āhara, ehi vā me etāni kammāni karontassa sahāyo hohī’’ti evamādiṃ vā patthanaṃ upanissayaṃ katvā. Rāgo doso moho māno diṭṭhi patthanā rāgassāti. Ettha rāgo rāgassāpi upanissayo hoti dosādīnampi. Dosādīsupi eseva nayo.
ปาณาติปาโต ปาณาติปาตสฺสาติ ปาณาติปาตี อสํวเร ฐิตตฺตา อญฺญมฺปิ ปาณํ หนติฯ โย วา เอเตน หโต, ตสฺส ญาติมิเตฺตหิ อุปทฺทุโต เตสุ อญฺญมฺปิ หนติฯ เอวํ ปาณาติปาโต ปาณาติปาตสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโยฯ ภณฺฑสามิกํ ปน โคปกํ วา ฆาเตตฺวา ปรภณฺฑหรเณ, สามิกํ ฆาเตตฺวา ตสฺส ทาราติกฺกเม, นาหํ หนามีติ มุสาภณเน, กตสฺส ปฎิจฺฉาทนตฺถาย อกตสฺส วา กรณตฺถาย เปสุญฺญํ อุปสํหาเร, เตเนว นเยน ผรุสวาจานิจฺฉารเณ, สมฺผปฺปลาปภณเน, ปรํ หนิตฺวา อภิชฺฌายิตพฺพปรวิตฺตูปกรณาภิชฺฌายเน, โย เตน ฆาติโต โหติ; ตสฺส มิตฺตามจฺจา อุจฺฉิชฺชนฺตูติอาทิจินฺตเน ‘‘เอวํ เม ปาณาติปาโต นิชฺชิโณฺณ ภวิสฺสตี’’ติ ทุกฺกรการิกาทิวเสน ทิฎฺฐิคฺคหณกาเล ปาณาติปาโต อทินฺนาทานาทีนมฺปิ อุปนิสฺสโย โหติฯ อิมินา อุปาเยน อทินฺนาทานาทิมูลเกสุปิ จเกฺกสุ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ
Pāṇātipāto pāṇātipātassāti pāṇātipātī asaṃvare ṭhitattā aññampi pāṇaṃ hanati. Yo vā etena hato, tassa ñātimittehi upadduto tesu aññampi hanati. Evaṃ pāṇātipāto pāṇātipātassa upanissayapaccayena paccayo. Bhaṇḍasāmikaṃ pana gopakaṃ vā ghātetvā parabhaṇḍaharaṇe, sāmikaṃ ghātetvā tassa dārātikkame, nāhaṃ hanāmīti musābhaṇane, katassa paṭicchādanatthāya akatassa vā karaṇatthāya pesuññaṃ upasaṃhāre, teneva nayena pharusavācānicchāraṇe, samphappalāpabhaṇane, paraṃ hanitvā abhijjhāyitabbaparavittūpakaraṇābhijjhāyane, yo tena ghātito hoti; tassa mittāmaccā ucchijjantūtiādicintane ‘‘evaṃ me pāṇātipāto nijjiṇṇo bhavissatī’’ti dukkarakārikādivasena diṭṭhiggahaṇakāle pāṇātipāto adinnādānādīnampi upanissayo hoti. Iminā upāyena adinnādānādimūlakesupi cakkesu attho veditabbo.
มาตุฆาติกมฺมํ มาตุฆาติกมฺมสฺสาติ อญฺญํ มาตรํ หนนฺตํ ทิสฺวา ‘‘วฎฺฎติ เอวํ กาตุ’’นฺติ อตฺตโน มาตรํ หนนฺตสฺส วา, เอกสฺมิํ ภเว หนฺตฺวา อปรสฺมิมฺปิ หนนวเสน วา, เอกสฺมิํเยว ภเว ‘‘คจฺฉ, เม มาตรํ หนาหี’’ติ ปุนปฺปุนํ อาณาปนวเสน วา, ทฺวีหิ ปหาเรหิ นิยตมรณาย ทุติยปหารทานวเสน วา มาตุฆาติกมฺมํ มาตุฆาติกมฺมสฺส อุปนิสฺสโย โหติฯ เสสานิปิ ยถาโยคํ อิมินาว นเยน เวทิตพฺพานิฯ ยสฺมา ปน พลวากุสลํ ทุพฺพลากุสลสฺส อุปนิสฺสโย น โหติ, ตสฺมา กมฺมปถานนฺตริยกมฺมวเสเนว เทสนา กตาติ วทนฺติฯ ตํ น เอกนฺตโต คเหตพฺพํฯ ปาณาติปาตาทีนิ หิ กตฺวา ‘‘กสฺมา เอวมกาสี’’ติ โจทิยมาโน โกปมตฺตกมฺปิ กโรติฯ วิปฺปฎิสารีปิ โหติฯ อปฺปมตฺตเกปิ จ กิเลเส อุปฺปเนฺน ตํ วเฑฺฒตฺวา วีติกฺกมํ กโรติฯ ตสฺมา พลวํ ทุพฺพลสฺส ทุพฺพลญฺจ พลวสฺสาปิ อุปนิสฺสโย โหติเยวฯ ยํ ปน ปจฺจยวิภงฺคสฺส อุเทฺทสวณฺณนายํ วุตฺตํ ‘‘พลวการณเฎฺฐน อุปนิสฺสโย โหตี’’ติ, ตํ การณภาวเสฺสว พลวตาย วุตฺตํ, น อุปนิสฺสยปจฺจยธมฺมานํฯ กมฺมกิเลสา หิ พลวโนฺตปิ ทุพฺพลาปิ พลวการณํ โหนฺติเยวฯ
Mātughātikammaṃ mātughātikammassāti aññaṃ mātaraṃ hanantaṃ disvā ‘‘vaṭṭati evaṃ kātu’’nti attano mātaraṃ hanantassa vā, ekasmiṃ bhave hantvā aparasmimpi hananavasena vā, ekasmiṃyeva bhave ‘‘gaccha, me mātaraṃ hanāhī’’ti punappunaṃ āṇāpanavasena vā, dvīhi pahārehi niyatamaraṇāya dutiyapahāradānavasena vā mātughātikammaṃ mātughātikammassa upanissayo hoti. Sesānipi yathāyogaṃ imināva nayena veditabbāni. Yasmā pana balavākusalaṃ dubbalākusalassa upanissayo na hoti, tasmā kammapathānantariyakammavaseneva desanā katāti vadanti. Taṃ na ekantato gahetabbaṃ. Pāṇātipātādīni hi katvā ‘‘kasmā evamakāsī’’ti codiyamāno kopamattakampi karoti. Vippaṭisārīpi hoti. Appamattakepi ca kilese uppanne taṃ vaḍḍhetvā vītikkamaṃ karoti. Tasmā balavaṃ dubbalassa dubbalañca balavassāpi upanissayo hotiyeva. Yaṃ pana paccayavibhaṅgassa uddesavaṇṇanāyaṃ vuttaṃ ‘‘balavakāraṇaṭṭhena upanissayo hotī’’ti, taṃ kāraṇabhāvasseva balavatāya vuttaṃ, na upanissayapaccayadhammānaṃ. Kammakilesā hi balavantopi dubbalāpi balavakāraṇaṃ hontiyeva.
ราคํ อุปนิสฺสาย ทานํ เทตีติอาทีสุ อโห วตาหํ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปเชฺชยฺยนฺติ อุปปตฺติภเว วา โภเคสุ วา ราคํ อุปนิสฺสาย ทานํ เทติฯ สีลสมาทานอุโปสถกเมฺมสุปิ เอเสว นโยฯ ฌานํ ปน ราควิกฺขมฺภนตฺถาย, วิปสฺสนํ ราคสฺส ปหานตฺถาย, มคฺคํ สมุเจฺฉทนตฺถาย อุปฺปาเทโนฺต ราคํ อุปนิสฺสาย อุปฺปาเทติ นามฯ วีตราคภาวตฺถาย ปน อภิญฺญํ สมาปตฺติญฺจ อุปฺปาเทโนฺต ราคํ อุปนิสฺสาย อุปฺปาเทติ นามฯ เอตฺตาวตา หิ วีตราโค นาม โหติฯ
Rāgaṃupanissāya dānaṃ detītiādīsu aho vatāhaṃ cātumahārājikānaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajjeyyanti upapattibhave vā bhogesu vā rāgaṃ upanissāya dānaṃ deti. Sīlasamādānauposathakammesupi eseva nayo. Jhānaṃ pana rāgavikkhambhanatthāya, vipassanaṃ rāgassa pahānatthāya, maggaṃ samucchedanatthāya uppādento rāgaṃ upanissāya uppādeti nāma. Vītarāgabhāvatthāya pana abhiññaṃ samāpattiñca uppādento rāgaṃ upanissāya uppādeti nāma. Ettāvatā hi vītarāgo nāma hoti.
สทฺธายาติ ทานาทิวเสน ปวตฺตสทฺธาย สีลาทีสุปิ เอเสว นโยฯ ยเถว หิ ทานาทิวเสน สทฺธาทโย อุปฺปาเทโนฺต ราคํ อุปนิสฺสาย อุปฺปาเทติ นาม, เอวํ ราคาทโยปิ สทฺธาทีนํ อุปนิสฺสยปจฺจยา นาม โหนฺตีติ เวทิตพฺพาฯ ตสฺส ปฎิฆาตตฺถายาติ ตสฺส ปฎิพาหนตฺถาย, วิปาโกกาสสฺส อนุปฺปทานตฺถายาติ อโตฺถฯ สปฺปฎิฆาเตสุ ตาว เอวํ โหตุ, ยานิ ปน อปฺปฎิฆาตานิ อานนฺตริยกมฺมานิ, เตสุ ‘‘ตสฺส ปฎิฆาตตฺถายา’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ? ตสฺส อชฺฌาสยวเสนฯ ตปฺปฎิฆาตตฺถาย ปวเตฺตมีติ หิสฺส อชฺฌาสโย, ตํ คเหตฺวา เอวํ วุตฺตํฯ
Saddhāyāti dānādivasena pavattasaddhāya sīlādīsupi eseva nayo. Yatheva hi dānādivasena saddhādayo uppādento rāgaṃ upanissāya uppādeti nāma, evaṃ rāgādayopi saddhādīnaṃ upanissayapaccayā nāma hontīti veditabbā. Tassa paṭighātatthāyāti tassa paṭibāhanatthāya, vipākokāsassa anuppadānatthāyāti attho. Sappaṭighātesu tāva evaṃ hotu, yāni pana appaṭighātāni ānantariyakammāni, tesu ‘‘tassa paṭighātatthāyā’’ti kasmā vuttanti? Tassa ajjhāsayavasena. Tappaṭighātatthāya pavattemīti hissa ajjhāsayo, taṃ gahetvā evaṃ vuttaṃ.
ราคํ อุปนิสฺสาย อตฺตานํ อาตาเปตีติ ยตฺถ รโตฺต, ตสฺส ทุกฺกเรน ปตฺติํ สมฺปสฺสโนฺต เอวํ กโรตีติ สพฺพํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํฯ กายิกสฺส สุขสฺสาติ ราคาทิสมติกฺกมวเสน กุสลํ กตฺวา ปฎิลทฺธสุขสฺส วา ราคาทิวเสน อนาทีนวทสฺสาวิโน กาเม ปริภุญฺชนวเสน อุปฺปนฺนสุขสฺส วาฯ ทุกฺขสฺสาติ อาตาปนาทิวเสน อุปฺปนฺนสุขสฺส วา ราคาทิเหตุ ปวตฺตวธพนฺธนาทิวเสน อุปฺปนฺนทุกฺขสฺส วาฯ ผลสมาปตฺติยาติ ราคาทโย สมุจฺฉินฺทิตฺวา วา อุปฺปาทิตาย เตหิ วา อฎฺฎียมาเนน สมาปนฺนายฯ
Rāgaṃ upanissāya attānaṃ ātāpetīti yattha ratto, tassa dukkarena pattiṃ sampassanto evaṃ karotīti sabbaṃ purimanayeneva veditabbaṃ. Kāyikassa sukhassāti rāgādisamatikkamavasena kusalaṃ katvā paṭiladdhasukhassa vā rāgādivasena anādīnavadassāvino kāme paribhuñjanavasena uppannasukhassa vā. Dukkhassāti ātāpanādivasena uppannasukhassa vā rāgādihetu pavattavadhabandhanādivasena uppannadukkhassa vā. Phalasamāpattiyāti rāgādayo samucchinditvā vā uppāditāya tehi vā aṭṭīyamānena samāpannāya.
กายิกํ สุขนฺติอาทีสุ สุเข อุปฺปเนฺน ตํ อสฺสาเทตฺวา ปุนปฺปุนํ ตถารูเปเหว ปจฺจเยหิ ตํ อุปฺปาเทนฺตสฺส ปุริมํ ปจฺฉิมสฺส อุปนิสฺสโย โหติฯ สีตาทีสุ ปน อคฺคิสนฺตาปนาทีนิ อติเสวนฺตสฺส ปุพฺพภาเค สุขํ อปรภาเค ทุกฺขสฺส, ‘‘สุโข วติ มิสฺสา ปริพฺพาชิกาย ตรุณาย โลมสาย พาหาย สมฺผโสฺส’’ติ กาเมสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชนฺตสฺส อิธ กายิกํ สุขํ เนรยิกสฺส กายิกทุกฺขสฺส, อโรคภาเวน ปน สุขิโน ผลสมาปตฺติํ สมาปชฺชนฺตสฺส กายิกํ สุขํ ผลสมาปตฺติยา อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติฯ ทุกฺขปฎิฆาตาย ปน สุขํ เสวนฺตสฺส ทุกฺขปฎิฆาตาย จ ภควโต วิย อาพาธํ วิกฺขเมฺภตฺวา ผลสมาปตฺติํ สมาปชฺชนฺตสฺส กายิกทุกฺขํ กายิกสุขสฺส เจว ผลสมาปตฺติยา จ, อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติฯ อุตุสปฺปาโย สุขสฺส เจว ผลสมาปตฺติยา จ, อสปฺปาโย ทุกฺขสฺสฯ อุตุอสปฺปายํ วา อภิภวิตฺวา สมาปตฺติสมุฎฺฐิตรูปวเสน อุปฺปนฺนํ สุขํ อนุภวิตุกามสฺส อสปฺปาโยปิ อุตุ ผลสมาปตฺติยา ปจฺจโยวฯ โภชนเสนาสเนสุปิ เอเสว นโยฯ ปุน กายิกํ สุขนฺติอาทีนิ เกวลํ เอกโต ทสฺสิตานิฯ เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว ปเนสํ ปจฺจยภาโว เวทิตโพฺพฯ ผลสมาปตฺติ กายิกสฺส สุขสฺสาติ สมาปตฺติสมุฎฺฐานรูปวเสน อุปฺปนฺนสฺส สุขสฺสฯ ตํ เหส สมาปตฺติโต วุฎฺฐาย อนุภวติฯ
Kāyikaṃ sukhantiādīsu sukhe uppanne taṃ assādetvā punappunaṃ tathārūpeheva paccayehi taṃ uppādentassa purimaṃ pacchimassa upanissayo hoti. Sītādīsu pana aggisantāpanādīni atisevantassa pubbabhāge sukhaṃ aparabhāge dukkhassa, ‘‘sukho vati missā paribbājikāya taruṇāya lomasāya bāhāya samphasso’’ti kāmesu pātabyataṃ āpajjantassa idha kāyikaṃ sukhaṃ nerayikassa kāyikadukkhassa, arogabhāvena pana sukhino phalasamāpattiṃ samāpajjantassa kāyikaṃ sukhaṃ phalasamāpattiyā upanissayapaccayo hoti. Dukkhapaṭighātāya pana sukhaṃ sevantassa dukkhapaṭighātāya ca bhagavato viya ābādhaṃ vikkhambhetvā phalasamāpattiṃ samāpajjantassa kāyikadukkhaṃ kāyikasukhassa ceva phalasamāpattiyā ca, upanissayapaccayo hoti. Utusappāyo sukhassa ceva phalasamāpattiyā ca, asappāyo dukkhassa. Utuasappāyaṃ vā abhibhavitvā samāpattisamuṭṭhitarūpavasena uppannaṃ sukhaṃ anubhavitukāmassa asappāyopi utu phalasamāpattiyā paccayova. Bhojanasenāsanesupi eseva nayo. Puna kāyikaṃ sukhantiādīni kevalaṃ ekato dassitāni. Heṭṭhā vuttanayeneva panesaṃ paccayabhāvo veditabbo. Phalasamāpatti kāyikassa sukhassāti samāpattisamuṭṭhānarūpavasena uppannassa sukhassa. Taṃ hesa samāpattito vuṭṭhāya anubhavati.
กายิกํ สุขํ อุปนิสฺสาย ทานนฺติอาทีสุ ‘‘อโห วต เม อิทํ สุขํ น ปริหาเยยฺยา’’ติ ปตฺตสฺส วา อปริหายนวเสน; ‘‘อโห วตาหํ อายติํ เอวรูปํ สุขํ ปาปุเณยฺย’’นฺติ อปฺปตฺตสฺส วา ปตฺติวเสน; ทุเกฺขปิ ‘‘อโห วต เม ทุกฺขํ ปริหาเยยฺยา’’ติ ปตฺตสฺส ปริหายนวเสน วา; ‘‘อายติํ เอวรูปํ นุปฺปเชฺชยฺยา’’ติ อนุปฺปาทปตฺถนาวเสน วา สุขทุกฺขานํ อุปนิสฺสยตา เวทิตพฺพาฯ อุตุโภชนเสนาสนานิ วุตฺตนยาเนวฯ ปุน กายิกํ สุขนฺติอาทีสุ ยสฺมา ‘‘สาธุ โข, มาริส, โมคฺคลฺลาน, พุทฺธสรณคมนํ โหตี’’ติ สุขปฺปตฺตานมฺปิ, ‘‘สมฺมาสมฺพุโทฺธ วต, โส ภควา, โย เอวรูปสฺส ทุกฺขสฺส ปริญฺญาย ธมฺมํ เทเสตี’’ติ (อุทา. ๑๘) ทุกฺขปฺปตฺตานมฺปิ สทฺธา อุปฺปชฺชติฯ สุขทุเกฺขหิ จ สํโยควิโยคตฺถาย สีลาทิปริปูรณํ กเรยฺย, ตสฺมา สุขทุกฺขานิ สทฺธาทีนํ อุปนิสฺสยภาเวน ทสฺสิตานิฯ อุตุอาทีนิปิ ยถาโยคํ โยเชตพฺพานิฯ กายิกํ สุขํ อุปนิสฺสาย ปาณํ หนตีติอาทีสุปิ วุตฺตนยานุสาเรเนว สุขาทีนํ อุปนิสฺสยตา เวทิตพฺพาฯ
Kāyikaṃ sukhaṃ upanissāya dānantiādīsu ‘‘aho vata me idaṃ sukhaṃ na parihāyeyyā’’ti pattassa vā aparihāyanavasena; ‘‘aho vatāhaṃ āyatiṃ evarūpaṃ sukhaṃ pāpuṇeyya’’nti appattassa vā pattivasena; dukkhepi ‘‘aho vata me dukkhaṃ parihāyeyyā’’ti pattassa parihāyanavasena vā; ‘‘āyatiṃ evarūpaṃ nuppajjeyyā’’ti anuppādapatthanāvasena vā sukhadukkhānaṃ upanissayatā veditabbā. Utubhojanasenāsanāni vuttanayāneva. Puna kāyikaṃ sukhantiādīsu yasmā ‘‘sādhu kho, mārisa, moggallāna, buddhasaraṇagamanaṃ hotī’’ti sukhappattānampi, ‘‘sammāsambuddho vata, so bhagavā, yo evarūpassa dukkhassa pariññāya dhammaṃ desetī’’ti (udā. 18) dukkhappattānampi saddhā uppajjati. Sukhadukkhehi ca saṃyogaviyogatthāya sīlādiparipūraṇaṃ kareyya, tasmā sukhadukkhāni saddhādīnaṃ upanissayabhāvena dassitāni. Utuādīnipi yathāyogaṃ yojetabbāni. Kāyikaṃ sukhaṃ upanissāya pāṇaṃ hanatītiādīsupi vuttanayānusāreneva sukhādīnaṃ upanissayatā veditabbā.
อิมสฺมิํ ปน อุปนิสฺสยภาชนีเย กุสโล กุสลสฺส ติวิเธนาปิ อุปนิสฺสโย, อกุสลสฺส ทุวิเธน, อพฺยากตสฺส ติวิเธนฯ อกุสโล อกุสลสฺส ติวิเธน, กุสลสฺส เอกวิเธน, อพฺยากตสฺส ทุวิเธนฯ อพฺยากโตปิ อพฺยากตสฺส ติวิเธน, ตถา กุสลสฺส, ตถา อกุสลสฺสาติฯ เอวํ กุสโล อฎฺฐวิเธน, อกุสโล ฉพฺพิเธน, อพฺยากโต นววิเธนาติ เตวีสติวิเธน อุปนิสฺสโย ภาชิโตติ เวทิตโพฺพฯ
Imasmiṃ pana upanissayabhājanīye kusalo kusalassa tividhenāpi upanissayo, akusalassa duvidhena, abyākatassa tividhena. Akusalo akusalassa tividhena, kusalassa ekavidhena, abyākatassa duvidhena. Abyākatopi abyākatassa tividhena, tathā kusalassa, tathā akusalassāti. Evaṃ kusalo aṭṭhavidhena, akusalo chabbidhena, abyākato navavidhenāti tevīsatividhena upanissayo bhājitoti veditabbo.
๔๒๔. ปุเรชาเต จกฺขาทีนิ โอฬาริกวเสน วุตฺตานิฯ อาโปธาตุอาทีนิปิ ปน ปุเรชาตารมฺมณานิ โหนฺติเยวฯ วตฺถุ ปุเรชาตํ จกฺขายตนนฺติอาทิ ยํ วตฺถุ หุตฺวา ปุเรชาตํ โหติ, ตํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํฯ วตฺถุ วิปากาพฺยากตานนฺติ ปวตฺติยํ ปุเรชาตปจฺจยํ สนฺธาย วุตฺตํฯ
424. Purejāte cakkhādīni oḷārikavasena vuttāni. Āpodhātuādīnipi pana purejātārammaṇāni hontiyeva. Vatthu purejātaṃ cakkhāyatanantiādi yaṃ vatthu hutvā purejātaṃ hoti, taṃ dassetuṃ vuttaṃ. Vatthu vipākābyākatānanti pavattiyaṃ purejātapaccayaṃ sandhāya vuttaṃ.
๔๒๕. ปจฺฉาชาเต อิมสฺส กายสฺสาติ จาตุมหาภูติกกายสฺสฯ ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโยติ อุปตฺถมฺภนวเสน ปจฺฉาชาโต หุตฺวา ปจฺจโยฯ อุปตฺถมฺภกเฎฺฐน ปจฺจยตฺตาเยว เหส ปจฺฉาชาตปจฺจโยติ อิมสฺมิํ ปญฺหาวาเร อนุโลมโต อาคโตฯ
425. Pacchājāte imassa kāyassāti cātumahābhūtikakāyassa. Pacchājātapaccayena paccayoti upatthambhanavasena pacchājāto hutvā paccayo. Upatthambhakaṭṭhena paccayattāyeva hesa pacchājātapaccayoti imasmiṃ pañhāvāre anulomato āgato.
๔๒๖. อาเสวนปจฺจเย อนุโลมํ โคตฺรภุสฺสาติอาทีนํ วิสุํ คหเณ เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว การณํ เวทิตพฺพํฯ
426. Āsevanapaccaye anulomaṃ gotrabhussātiādīnaṃ visuṃ gahaṇe heṭṭhā vuttanayeneva kāraṇaṃ veditabbaṃ.
๔๒๗. กมฺมปจฺจเย กุสลา เจตนา สมฺปยุตฺตกานนฺติ เอตฺถ สหชาตนานากฺขณิกวิภาคสฺส อภาวโต สหชาตาติ น วุตฺตาฯ อพฺยากตวิสฺสชฺชเน ปน โส วิภาโค อตฺถิ, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตาฯ ปฎิสนฺธิคฺคหณํ กฎตฺตารูปานํ วเสน กตํฯ เจตนา วตฺถุสฺสาติ กิญฺจาปิ ปฎิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุปติฎฺฐิตา อรูปธมฺมา วตฺถุปจฺจยา วตฺตนฺติ, เจตนา ปน วตฺถุสฺสาปิ ปจฺจโยติ ทเสฺสตุํ วุตฺตํฯ
427. Kammapaccaye kusalā cetanā sampayuttakānanti ettha sahajātanānākkhaṇikavibhāgassa abhāvato sahajātāti na vuttā. Abyākatavissajjane pana so vibhāgo atthi, tasmā tattha vuttā. Paṭisandhiggahaṇaṃ kaṭattārūpānaṃ vasena kataṃ. Cetanā vatthussāti kiñcāpi paṭisandhikkhaṇe vatthupatiṭṭhitā arūpadhammā vatthupaccayā vattanti, cetanā pana vatthussāpi paccayoti dassetuṃ vuttaṃ.
๔๒๘. วิปากปจฺจเย ปฎิสนฺธิวาเร อิมินาว นเยน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ
428. Vipākapaccaye paṭisandhivāre imināva nayena attho veditabbo.
๔๒๙-๔๓๘. อาหารปจฺจเย อิมสฺส กายสฺสาติ อิมสฺมิํ จตุสนฺตติวเสน ปวเตฺต จาตุมหาภูติกกาเย อาหารสมุฎฺฐานสฺส ชนกวเสน, เสสสฺส อุปตฺถมฺภกวเสน อาหารปจฺจเยน ปจฺจโยฯ อินฺทฺริยปจฺจยาทีสุปิ ปฎิสนฺธิวาโร วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ
429-438. Āhārapaccaye imassa kāyassāti imasmiṃ catusantativasena pavatte cātumahābhūtikakāye āhārasamuṭṭhānassa janakavasena, sesassa upatthambhakavasena āhārapaccayena paccayo. Indriyapaccayādīsupi paṭisandhivāro vuttanayeneva veditabbo. Sesaṃ sabbattha uttānatthamevāti.
ปญฺหาวารวิภงฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pañhāvāravibhaṅgavaṇṇanā niṭṭhitā.
ปญฺหาวารสฺส ฆฎเน อนุโลมคณนา
Pañhāvārassa ghaṭane anulomagaṇanā
๔๓๙. อิทาเนตฺถ ยถาลทฺธานิ วิสฺสชฺชนานิ คณนาวเสน ทเสฺสตุํ เหตุยา สตฺตาติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ สตฺตาติ กุสเลน กุสลํ, อพฺยากตํ, กุสลาพฺยากตนฺติ ตีณิฯ ตถา อกุสเลน; อพฺยากเตน อพฺยากตเมวาติ เอวํ สตฺตฯ อารมฺมเณ นวาติ เอกมูลกเอกาวสานานิ นวฯ อธิปติยา ทสาติ กุสลํ กุสลสฺส สหชาตโต เจว อารมฺมณโต จ; อกุสลสฺส อารมฺมณโตว อพฺยากตสฺส สหชาตโต เจว อารมฺมณโต จ; กุสลาพฺยากตสฺส สหชาตโตวาติ กุสลมูลกานิ จตฺตาริฯ อกุสลํ อกุสลสฺส สหชาตโต เจว อารมฺมณโต จ; อพฺยากตสฺส สหชาตโตว ตถา อกุสลาพฺยากตสฺสาติ อกุสลมูลกานิ ตีณิฯ อพฺยากโต อพฺยากตสฺส สหชาตโต เจว อารมฺมณโต จ; กุสลสฺส อารมฺมณโตว ตถา อกุสลสฺสาติ อพฺยากตมูลกานิ ตีณีติ เอวํ ทสฯ เอตฺถ ปน อารมฺมณาธิปติปิ สตฺตธา, สหชาตาธิปติปิ สตฺตธาว ลพฺภติฯ
439. Idānettha yathāladdhāni vissajjanāni gaṇanāvasena dassetuṃ hetuyā sattātiādi vuttaṃ. Tattha sattāti kusalena kusalaṃ, abyākataṃ, kusalābyākatanti tīṇi. Tathā akusalena; abyākatena abyākatamevāti evaṃ satta. Ārammaṇe navāti ekamūlakaekāvasānāni nava. Adhipatiyā dasāti kusalaṃ kusalassa sahajātato ceva ārammaṇato ca; akusalassa ārammaṇatova abyākatassa sahajātato ceva ārammaṇato ca; kusalābyākatassa sahajātatovāti kusalamūlakāni cattāri. Akusalaṃ akusalassa sahajātato ceva ārammaṇato ca; abyākatassa sahajātatova tathā akusalābyākatassāti akusalamūlakāni tīṇi. Abyākato abyākatassa sahajātato ceva ārammaṇato ca; kusalassa ārammaṇatova tathā akusalassāti abyākatamūlakāni tīṇīti evaṃ dasa. Ettha pana ārammaṇādhipatipi sattadhā, sahajātādhipatipi sattadhāva labbhati.
อนนฺตเร สตฺตาติ กุสลมูลกานิ เทฺว, ตถา อกุสลมูลกานิ, อพฺยากตมูลกานิ ตีณีติ เอวํ สตฺตฯ สมนนฺตเรปิ เอตาเนวฯ สหชาเต นวาติ กุสลมูลกานิ ตีณิ, อกุสลมูลกานิ ตีณิ, อพฺยากตมูลกํ เอกํ, ตถา กุสลาพฺยากตมูลกํ, อกุสลาพฺยากตมูลกญฺจาติ เอวํ นวฯ อญฺญมเญฺญ ตีณีติ กุสเลน กุสลํ, อกุสเลน อกุสลํ , อพฺยากเตน อพฺยากตนฺติ เอวํ ตีณิฯ นิสฺสเย เตรสาติ สหชาตโตว กุสลมูลกานิ ตีณิ, ตถา อกุสลมูลกานิ, ตถา อพฺยากตมูลกานิฯ เอตฺถ ปน ปุเรชาตมฺปิ ลพฺภติฯ อพฺยากตญฺหิ อพฺยากตสฺส สหชาตมฺปิ โหติ ปุเรชาตมฺปิ; กุสลสฺส ปุเรชาตเมว ตถา อกุสลสฺสฯ ปุน กุสลาพฺยากโต สหชาตปุเรชาตโต กุสลสฺส, สหชาตโตว อพฺยากตสฺส, ตถา อกุสลาพฺยากโตติ เอวํ เตรสฯ อุปนิสฺสเย นวาติ เอกมูลเกกาวสานา นวฯ เตสํ วิภเงฺค เตวีสติ เภทา ทสฺสิตาฯ เตสุ อารมฺมณูปนิสฺสเย สตฺต, อนนฺตรูปนิสฺสเย สตฺต, ปกตูปนิสฺสเย นว โหนฺติฯ ปุเรชาเต ตีณีติ อพฺยากโต อพฺยากตสฺส, กุสลสฺส, อกุสลสฺสาติ เอวํ ตีณิฯ
Anantare sattāti kusalamūlakāni dve, tathā akusalamūlakāni, abyākatamūlakāni tīṇīti evaṃ satta. Samanantarepi etāneva. Sahajāte navāti kusalamūlakāni tīṇi, akusalamūlakāni tīṇi, abyākatamūlakaṃ ekaṃ, tathā kusalābyākatamūlakaṃ, akusalābyākatamūlakañcāti evaṃ nava. Aññamaññe tīṇīti kusalena kusalaṃ, akusalena akusalaṃ , abyākatena abyākatanti evaṃ tīṇi. Nissaye terasāti sahajātatova kusalamūlakāni tīṇi, tathā akusalamūlakāni, tathā abyākatamūlakāni. Ettha pana purejātampi labbhati. Abyākatañhi abyākatassa sahajātampi hoti purejātampi; kusalassa purejātameva tathā akusalassa. Puna kusalābyākato sahajātapurejātato kusalassa, sahajātatova abyākatassa, tathā akusalābyākatoti evaṃ terasa. Upanissaye navāti ekamūlakekāvasānā nava. Tesaṃ vibhaṅge tevīsati bhedā dassitā. Tesu ārammaṇūpanissaye satta, anantarūpanissaye satta, pakatūpanissaye nava honti. Purejāte tīṇīti abyākato abyākatassa, kusalassa, akusalassāti evaṃ tīṇi.
ปจฺฉาชาเต ตีณีติ กุสโล อพฺยากตสฺส, อกุสโล อพฺยากตสฺส, อพฺยากโต อพฺยากตสฺสาติ เอวํ ตีณิฯ อาเสวเน ตีณิ อญฺญมญฺญสทิสานิฯ กเมฺม สตฺต เหตุสทิสานิฯ ตตฺถ ทฺวีสุ วิสฺสชฺชเนสุ นานากฺขณิกกมฺมมฺปิ อาคตํ, ปญฺจสุ สหชาตเมวฯ วิปาเก เอกํ อพฺยากเตน อพฺยากตํฯ อาหารอินฺทฺริยฌานมเคฺคสุ สตฺต เหตุสทิสาเนวฯ อินฺทฺริยํ ปเนตฺถ สหชาตปุเรชาตวเสน อาคตํฯ สมฺปยุเตฺต ตีณิ อญฺญมญฺญสทิสานิฯ วิปฺปยุเตฺต ปญฺจาติ สหชาตปจฺฉาชาตโต กุสเลน อพฺยากตํ, อกุสเลน อพฺยากตํ, สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตโต อพฺยากเตน อพฺยากตํ, วตฺถุปุเรชาตโต อพฺยากเตน กุสลํ, ตถา อกุสลนฺติ เอกํ กุสลมูลํ, เอกํ อกุสลมูลํ, ตีณิ อพฺยากตมูลานีติ เอวํ ปญฺจฯ
Pacchājātetīṇīti kusalo abyākatassa, akusalo abyākatassa, abyākato abyākatassāti evaṃ tīṇi. Āsevane tīṇi aññamaññasadisāni. Kamme satta hetusadisāni. Tattha dvīsu vissajjanesu nānākkhaṇikakammampi āgataṃ, pañcasu sahajātameva. Vipāke ekaṃ abyākatena abyākataṃ. Āhāraindriyajhānamaggesu satta hetusadisāneva. Indriyaṃ panettha sahajātapurejātavasena āgataṃ. Sampayutte tīṇi aññamaññasadisāni. Vippayutte pañcāti sahajātapacchājātato kusalena abyākataṃ, akusalena abyākataṃ, sahajātapurejātapacchājātato abyākatena abyākataṃ, vatthupurejātato abyākatena kusalaṃ, tathā akusalanti ekaṃ kusalamūlaṃ, ekaṃ akusalamūlaṃ, tīṇi abyākatamūlānīti evaṃ pañca.
อตฺถิยา เตรสาติ สหชาตโต กุสเลน กุสลํ, สหชาตปจฺฉาชาตโต กุสเลน อพฺยากตํ, สหชาตโตว กุสเลน กุสลาพฺยากตนฺติ กุสลมูลานิ ตีณิ, ตถา อกุสลมูลานิ, สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตาหารินฺทฺริยโต ปน อพฺยากเตน อพฺยากตํ, วตฺถารมฺมณปุเรชาตโต อพฺยากเตน กุสลํ, ตถา อกุสลํ, สหชาตปุเรชาตโต กุสโล จ อพฺยากโต จ อกุสลสฺส; เสฺวว อพฺยากตสฺส สหชาตปจฺฉาชาตอาหารินฺทฺริยโต สหชาตปุเรชาตโต จ กุสโล จ อพฺยากโต จ กุสลสฺส; เสฺวว อพฺยากตสฺส สหชาตปจฺฉาชาตอาหารินฺทฺริยโตติ เอวํ เตรสฯ นตฺถิวิคเตสุ สตฺต อนนฺตรสทิสานิฯ อวิคเต เตรส อตฺถิสทิสานีติฯ เอวเมตฺถ สตฺต คณนปริเจฺฉทา เอกํ ตีณิ ปญฺจ สตฺต นว ทส เตรสาติฯ เตสุ วิปากวเสน เอกเมว เอกกํ, อญฺญมญฺญปุเรชาตปจฺฉาชาตาเสวนสมฺปยุตฺตวเสน ปญฺจ ติกา, วิปฺปยุตฺตวเสน เอกเมว ปญฺจกํ, เหตุอนนฺตรสมนนฺตรกมฺมอาหารินฺทฺริยฌานมคฺคนตฺถิวิคตวเสน ทส สตฺตกา, อารมฺมณสหชาตอุปนิสฺสยวเสน ตโย นวกา, อธิปติวเสน เอกํ ทสกํ, นิสฺสยอตฺถิอวิคตวเสน ตโย เตรสกาติ เอวํ ตสฺมิํ ตสฺมิํ ปจฺจเย นิทฺทิฎฺฐวาเร คณนวเสน สาธุกํ สลฺลเกฺขตฺวา เตสํ วเสน ทุกติกาทีสุ ปจฺจยสํสนฺทเน คณนา เวทิตพฺพาฯ
Atthiyā terasāti sahajātato kusalena kusalaṃ, sahajātapacchājātato kusalena abyākataṃ, sahajātatova kusalena kusalābyākatanti kusalamūlāni tīṇi, tathā akusalamūlāni, sahajātapurejātapacchājātāhārindriyato pana abyākatena abyākataṃ, vatthārammaṇapurejātato abyākatena kusalaṃ, tathā akusalaṃ, sahajātapurejātato kusalo ca abyākato ca akusalassa; sveva abyākatassa sahajātapacchājātaāhārindriyato sahajātapurejātato ca kusalo ca abyākato ca kusalassa; sveva abyākatassa sahajātapacchājātaāhārindriyatoti evaṃ terasa. Natthivigatesu satta anantarasadisāni. Avigate terasa atthisadisānīti. Evamettha satta gaṇanaparicchedā ekaṃ tīṇi pañca satta nava dasa terasāti. Tesu vipākavasena ekameva ekakaṃ, aññamaññapurejātapacchājātāsevanasampayuttavasena pañca tikā, vippayuttavasena ekameva pañcakaṃ, hetuanantarasamanantarakammaāhārindriyajhānamagganatthivigatavasena dasa sattakā, ārammaṇasahajātaupanissayavasena tayo navakā, adhipativasena ekaṃ dasakaṃ, nissayaatthiavigatavasena tayo terasakāti evaṃ tasmiṃ tasmiṃ paccaye niddiṭṭhavāre gaṇanavasena sādhukaṃ sallakkhetvā tesaṃ vasena dukatikādīsu paccayasaṃsandane gaṇanā veditabbā.
๔๔๐. เย ปน ปจฺจยา เยสํ ปจฺจยานํ วิสภาคา วา วิรุทฺธา วา โหนฺติ, เต เตหิ สทฺธิํ น โยเชตพฺพาฯ เสยฺยถิทํ – เหตุปจฺจยสฺส ตาว อารมฺมณานนฺตรสมนนฺตรูปนิสฺสยปุเรชาตปจฺฉาชาตกมฺมาเสวนาหารฌานนตฺถิวิคตา อธิปติปจฺจเย จ ฐเปตฺวา วีมํสํ เสสาธิปติโน วิสภาคา, สหชาตาทโย สภาคาฯ กสฺมา? ตถา ภาวาภาวโตฯ เหตุปจฺจโย หิ เยสํ เหตุปจฺจโย โหติ, เตสํ สหชาตาทิปจฺจโยปิ โหติ, อารมฺมณาทิปจฺจโย ปน น โหตีติ อารมฺมณาทโย ตสฺส วิสภาคา นามฯ ตสฺมา โส เตหิ, เต วา เตน สทฺธิํ, น โยเชตพฺพาฯ ปุเรชาตปจฺฉาชาตสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตอตฺถินตฺถิวิคตาวิคตา จ อญฺญมญฺญวิรุทฺธา, เตปิ อญฺญมญฺญํ น โยเชตพฺพาฯ ตตฺถ อโยชนีเย วเชฺชตฺวา โยชนีเยหิ โยเค เย วารา ลพฺภนฺติ, เต สเงฺขปโต ทเสฺสตุํ เหตุปจฺจยา อธิปติยา จตฺตารีติอาทิ วุตฺตํฯ
440. Ye pana paccayā yesaṃ paccayānaṃ visabhāgā vā viruddhā vā honti, te tehi saddhiṃ na yojetabbā. Seyyathidaṃ – hetupaccayassa tāva ārammaṇānantarasamanantarūpanissayapurejātapacchājātakammāsevanāhārajhānanatthivigatā adhipatipaccaye ca ṭhapetvā vīmaṃsaṃ sesādhipatino visabhāgā, sahajātādayo sabhāgā. Kasmā? Tathā bhāvābhāvato. Hetupaccayo hi yesaṃ hetupaccayo hoti, tesaṃ sahajātādipaccayopi hoti, ārammaṇādipaccayo pana na hotīti ārammaṇādayo tassa visabhāgā nāma. Tasmā so tehi, te vā tena saddhiṃ, na yojetabbā. Purejātapacchājātasampayuttavippayuttaatthinatthivigatāvigatā ca aññamaññaviruddhā, tepi aññamaññaṃ na yojetabbā. Tattha ayojanīye vajjetvā yojanīyehi yoge ye vārā labbhanti, te saṅkhepato dassetuṃ hetupaccayā adhipatiyā cattārītiādi vuttaṃ.
ตตฺถ กิญฺจาปิ เหตุปจฺจยสฺส อธิปตินา สํสนฺทเน อูนตรคณนวเสน สตฺตหิ วาเรหิ ภวิตพฺพํ, ยสฺมา ปน อธิปตีสุ วีมํสาว เหตุปจฺจโย, น อิตเร, ตสฺมา วิสภาเค วเชฺชตฺวา สภาควเสน ‘‘จตฺตารี’’ติ วุตฺตํฯ ตานิ เอวํ เวทิตพฺพานิ – กุสโล ธโมฺม กุสลสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย; กุสลา วีมํสา สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ, กุสโล ธโมฺม อพฺยากตสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย; กุสลา วีมํสา จิตฺตสมุฎฺฐานานํ รูปานํ, กุสโล ธโมฺม กุสลสฺส จ อพฺยากตสฺส จ ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย; กุสลา วีมํสา สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ จิตฺตสมุฎฺฐานานญฺจ รูปานํ, อพฺยากโต ธโมฺม อพฺยากตสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย; วิปากาพฺยากตา กิริยาพฺยากตา วีมํสา สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ จิตฺตสมุฎฺฐานานญฺจ รูปานนฺติฯ เอตฺถ จ วิปากาพฺยากตา โลกุตฺตรโตว คเหตพฺพาฯ อารมฺมณปจฺจยอนนฺตรปจฺจยาทโย ปน วิสภาคตฺตา น โยชิตาฯ อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ ลพฺภมานญฺจ อลพฺภมานญฺจ ญตฺวา ลพฺภมานวเสน วารา อุทฺธริตพฺพาฯ
Tattha kiñcāpi hetupaccayassa adhipatinā saṃsandane ūnataragaṇanavasena sattahi vārehi bhavitabbaṃ, yasmā pana adhipatīsu vīmaṃsāva hetupaccayo, na itare, tasmā visabhāge vajjetvā sabhāgavasena ‘‘cattārī’’ti vuttaṃ. Tāni evaṃ veditabbāni – kusalo dhammo kusalassa dhammassa hetupaccayena paccayo adhipatipaccayena paccayo; kusalā vīmaṃsā sampayuttakānaṃ khandhānaṃ, kusalo dhammo abyākatassa dhammassa hetupaccayena paccayo adhipatipaccayena paccayo; kusalā vīmaṃsā cittasamuṭṭhānānaṃ rūpānaṃ, kusalo dhammo kusalassa ca abyākatassa ca dhammassa hetupaccayena paccayo adhipatipaccayena paccayo; kusalā vīmaṃsā sampayuttakānaṃ khandhānaṃ cittasamuṭṭhānānañca rūpānaṃ, abyākato dhammo abyākatassa dhammassa hetupaccayena paccayo adhipatipaccayena paccayo; vipākābyākatā kiriyābyākatā vīmaṃsā sampayuttakānaṃ khandhānaṃ cittasamuṭṭhānānañca rūpānanti. Ettha ca vipākābyākatā lokuttaratova gahetabbā. Ārammaṇapaccayaanantarapaccayādayo pana visabhāgattā na yojitā. Iminā upāyena sabbattha labbhamānañca alabbhamānañca ñatvā labbhamānavasena vārā uddharitabbā.
สหชาเต สตฺตาติ เหตุยา ลทฺธาเนวฯ อญฺญมเญฺญ ตีณีติ สุทฺธิกอญฺญมเญฺญ ลทฺธาเนวฯ นิสฺสเย สตฺตาติ เหตุยา ลทฺธาเนวฯ วิปาเก เอกนฺติ สุทฺธิกวิปาเก ลทฺธเมวฯ อินฺทฺริยมเคฺคสุ จตฺตารีติ เหฎฺฐา วุตฺตนยาเนว ฯ สมฺปยุเตฺต ตีณีติ สุทฺธิกสมฺปยุเตฺต ลทฺธาเนวฯ วิปฺปยุเตฺต ตีณีติ กุสลาทิจิตฺตสมุฎฺฐานํ รูปํ ปจฺจยุปฺปนฺนํ กตฺวา เวทิตพฺพานิฯ อตฺถิอวิคเตสุ สตฺตาติ เหตุยา ลทฺธาเนวฯ
Sahajātesattāti hetuyā laddhāneva. Aññamaññe tīṇīti suddhikaaññamaññe laddhāneva. Nissaye sattāti hetuyā laddhāneva. Vipāke ekanti suddhikavipāke laddhameva. Indriyamaggesu cattārīti heṭṭhā vuttanayāneva . Sampayutte tīṇīti suddhikasampayutte laddhāneva. Vippayutte tīṇīti kusalādicittasamuṭṭhānaṃ rūpaṃ paccayuppannaṃ katvā veditabbāni. Atthiavigatesu sattāti hetuyā laddhāneva.
๔๔๑-๔๔๓. เอวํ เยหิ อธิปติปจฺจยาทีหิ เอกาทสหิ ปจฺจเยหิ สทฺธิํ เหตุปจฺจโย โยชนํ ลภติ, เตสํ วเสน ทุมูลกนเย คณนํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ ติมูลกาทีสุ ตสฺส ทสฺสนตฺถํ ลกฺขณํ ฐเปโนฺต เหตุสหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตนฺติ สตฺตาติอาทิมาหฯ โปตฺถเกสุ ปน นิสฺสอุปนิสฺสอธิปาติ เอวํ ปริหีนกฺขรานิ ปจฺจยนามานิ ลิขนฺติ, ตํ สญฺญากรณมตฺตวเสน ลิขิตํฯ ตสฺมา ตาทิเสสุ ฐาเนสุ ปริปุณฺณา ปาฬิ กาตพฺพาฯ ยํ ปนิทํ ลกฺขณํ ฐปิตํ, เตน อิทํ ทีเปติ – อยํ เหตุปจฺจโย สหชาตาทีหิ จตูหิ สทฺธิํ สํสนฺทเน อตฺตโน วิภเงฺค ลทฺธานิ สเตฺตว วิสฺสชฺชนานิ ลภติฯ สเจ ปเนตฺถ อญฺญมญฺญปจฺจโย ปวิสติ, อญฺญมเญฺญ ลทฺธานิ ตีณิ ลภติฯ สเจ สมฺปยุตฺตปจฺจโย ปวิสติ, ตาเนว ตีณิ ลภติฯ สเจ วิปฺปยุตฺตปจฺจโย ปวิสติ, เหตุวิปฺปยุตฺตทุเก ลทฺธานิ ตีณิ ลภติฯ สเจ วิปากปจฺจโย ปวิสติ, สเพฺพหิ วิปากสภาเคหิ สทฺธิํ สํสนฺทเน เอวเมว วิสฺสชฺชนํ ลภติฯ สเจ ปเนตฺถ อินฺทฺริยมคฺคปจฺจยา ปวิสนฺติ, เตหิ สทฺธิํ ทุมูลเก ลทฺธานิ จตฺตาริเยว ลภติฯ สเจ เตหิ สทฺธิํ อญฺญมญฺญปจฺจโย ปวิสติ, เหตาธิปติทุเก ทสฺสิเตสุ จตูสุ วิสฺสชฺชเนสุ ‘‘กุสโล ธโมฺม อพฺยากตสฺส, กุสโล ธโมฺม กุสลสฺส จ อพฺยากตสฺส จา’’ติ เทฺว อปเนตฺวา เสสานิ เทฺว ลภติฯ สเจปิ ตตฺถ สมฺปยุตฺตปจฺจโย ปวิสติ, ตาเนว เทฺว ลภติฯ สเจ ปน วิปฺปยุตฺตปจฺจโย ปวิสติ, อิตรานิ เทฺว ลภติฯ สเจ ปน เตสุ วิปากปจฺจโย ปวิสติ, สพฺพตฺถ เอกเมว ลภติฯ อธิปตินา ปน สทฺธิํ เหตาธิปติทุกโต อูนตรคณเนสุ อปฺปวิสเนฺตสุ จตฺตาริเยว ลภติฯ อูนตรคณเนสุ ปวิสเนฺตสุ เตสํ วเสน เทฺว เอกนฺติ ลภติฯ เอวํ เตสํ เตสํ ปจฺจยานํ สมาโยเค ลพฺภมานํ คณนํ วิทิตฺวา ติมูลกาทีสุ คณนา อุทฺธริตพฺพาติฯ
441-443. Evaṃ yehi adhipatipaccayādīhi ekādasahi paccayehi saddhiṃ hetupaccayo yojanaṃ labhati, tesaṃ vasena dumūlakanaye gaṇanaṃ dassetvā idāni timūlakādīsu tassa dassanatthaṃ lakkhaṇaṃ ṭhapento hetusahajātanissayaatthiavigatanti sattātiādimāha. Potthakesu pana nissaupanissaadhipāti evaṃ parihīnakkharāni paccayanāmāni likhanti, taṃ saññākaraṇamattavasena likhitaṃ. Tasmā tādisesu ṭhānesu paripuṇṇā pāḷi kātabbā. Yaṃ panidaṃ lakkhaṇaṃ ṭhapitaṃ, tena idaṃ dīpeti – ayaṃ hetupaccayo sahajātādīhi catūhi saddhiṃ saṃsandane attano vibhaṅge laddhāni satteva vissajjanāni labhati. Sace panettha aññamaññapaccayo pavisati, aññamaññe laddhāni tīṇi labhati. Sace sampayuttapaccayo pavisati, tāneva tīṇi labhati. Sace vippayuttapaccayo pavisati, hetuvippayuttaduke laddhāni tīṇi labhati. Sace vipākapaccayo pavisati, sabbehi vipākasabhāgehi saddhiṃ saṃsandane evameva vissajjanaṃ labhati. Sace panettha indriyamaggapaccayā pavisanti, tehi saddhiṃ dumūlake laddhāni cattāriyeva labhati. Sace tehi saddhiṃ aññamaññapaccayo pavisati, hetādhipatiduke dassitesu catūsu vissajjanesu ‘‘kusalo dhammo abyākatassa, kusalo dhammo kusalassa ca abyākatassa cā’’ti dve apanetvā sesāni dve labhati. Sacepi tattha sampayuttapaccayo pavisati, tāneva dve labhati. Sace pana vippayuttapaccayo pavisati, itarāni dve labhati. Sace pana tesu vipākapaccayo pavisati, sabbattha ekameva labhati. Adhipatinā pana saddhiṃ hetādhipatidukato ūnataragaṇanesu appavisantesu cattāriyeva labhati. Ūnataragaṇanesu pavisantesu tesaṃ vasena dve ekanti labhati. Evaṃ tesaṃ tesaṃ paccayānaṃ samāyoge labbhamānaṃ gaṇanaṃ viditvā timūlakādīsu gaṇanā uddharitabbāti.
เอเตสุ ปน ฆฎเนสุ สพฺพปฐมานิ จตฺตาริ ฆฎนานิ สามญฺญโต นวนฺนมฺปิ เหตูนํ วเสน วุตฺตานิ อวิปากานิฯ อพฺยากเตน อพฺยากตวิสฺสชฺชเน ปเนตฺถ วิปากเหตุปิ ลพฺภติฯ
Etesu pana ghaṭanesu sabbapaṭhamāni cattāri ghaṭanāni sāmaññato navannampi hetūnaṃ vasena vuttāni avipākāni. Abyākatena abyākatavissajjane panettha vipākahetupi labbhati.
ตโต ปรานิ ปญฺจ ฆฎนานิ วิปากเหตุวเสน วุตฺตานิฯ ตตฺถ สเพฺพปิ สหชาตวิปากา เจว วิปากสหชาตรูปา จฯ เตสุ ปฐเม ฆฎเน วิปากา เจว ตํสมุฎฺฐานรูปา จ ลพฺภนฺติ, ทุติเย วิปากา เจว ปฎิสนฺธิยญฺจ วตฺถุรูปํฯ ตติเย อรูปธมฺมาวฯ จตุเตฺถ วิปากจิตฺตสมุฎฺฐานรูปเมว ลพฺภติฯ ปญฺจเม วตฺถุรูปเมวฯ
Tato parāni pañca ghaṭanāni vipākahetuvasena vuttāni. Tattha sabbepi sahajātavipākā ceva vipākasahajātarūpā ca. Tesu paṭhame ghaṭane vipākā ceva taṃsamuṭṭhānarūpā ca labbhanti, dutiye vipākā ceva paṭisandhiyañca vatthurūpaṃ. Tatiye arūpadhammāva. Catutthe vipākacittasamuṭṭhānarūpameva labbhati. Pañcame vatthurūpameva.
ตโต ปรานิ ปญฺจทส ฆฎนานิ อินฺทฺริยมคฺคยุตฺตานิ อโมหเหตุวเสน วุตฺตานิฯ ตตฺถ ปฐมานิ นว นิราธิปตีนิ, ปจฺฉิมานิ ฉ สาธิปตีนิฯ นิราธิปติเกสุปิ ปฐมานิ จตฺตาริ สามญฺญโต สพฺพตฺถ อโมหวเสน วุตฺตานิ, ปจฺฉิมานิ ปญฺจ วิปากาโมหวเสนฯ ตตฺถ นิราธิปติเกสุ ปฐเม จตฺตารีติ เหฎฺฐา เหตาธิปติทุเก ทสฺสิตาเนวฯ ทุติเย จิตฺตสมุฎฺฐานรูปํ ปริหายติฯ ตติเย วตฺถุรูปํ ปริหายติฯ จตุเตฺถ กุสโล ธโมฺม จิตฺตสมุฎฺฐานานํ, อพฺยากโต ตํสมุฎฺฐานานนฺติ รูปเมว ลพฺภติฯ ตโต ปรานิ วิปากยุตฺตานิ ปญฺจ เหฎฺฐา วุตฺตนยาเนวฯ สาธิปติเกสุ ปฐมานิ ตีณิ ฆฎนานิ สามญฺญโต วิปากาวิปากเหตุวเสน วุตฺตานิฯ เตสุ ปฐเม จตฺตาริ วุตฺตนยาเนวฯ ทุติเย รูปํ ปริหายติ, ตติเย อรูปํ ปริหายติฯ ตโต ปรานิ ตีณิ วิปากเหตุวเสน วุตฺตานิฯ เตสุ ปฐเม รูปารูปํ ลพฺภติ, ทุติเย อรูปเมว, ตติเย รูปเมวฯ เอวมฺปิ เตสํ เตสํ ปจฺจยานํ สมาโยเค ลพฺภมานํ คณนํ วิทิตฺวา ติมูลกาทีสุ คณนา อุทฺธริตพฺพาติฯ
Tato parāni pañcadasa ghaṭanāni indriyamaggayuttāni amohahetuvasena vuttāni. Tattha paṭhamāni nava nirādhipatīni, pacchimāni cha sādhipatīni. Nirādhipatikesupi paṭhamāni cattāri sāmaññato sabbattha amohavasena vuttāni, pacchimāni pañca vipākāmohavasena. Tattha nirādhipatikesu paṭhame cattārīti heṭṭhā hetādhipatiduke dassitāneva. Dutiye cittasamuṭṭhānarūpaṃ parihāyati. Tatiye vatthurūpaṃ parihāyati. Catutthe kusalo dhammo cittasamuṭṭhānānaṃ, abyākato taṃsamuṭṭhānānanti rūpameva labbhati. Tato parāni vipākayuttāni pañca heṭṭhā vuttanayāneva. Sādhipatikesu paṭhamāni tīṇi ghaṭanāni sāmaññato vipākāvipākahetuvasena vuttāni. Tesu paṭhame cattāri vuttanayāneva. Dutiye rūpaṃ parihāyati, tatiye arūpaṃ parihāyati. Tato parāni tīṇi vipākahetuvasena vuttāni. Tesu paṭhame rūpārūpaṃ labbhati, dutiye arūpameva, tatiye rūpameva. Evampi tesaṃ tesaṃ paccayānaṃ samāyoge labbhamānaṃ gaṇanaṃ viditvā timūlakādīsu gaṇanā uddharitabbāti.
เหตุมูลกํ นิฎฺฐิตํฯ
Hetumūlakaṃ niṭṭhitaṃ.
๔๔๔. อารมฺมณมูลเกปิ อธิปติปจฺจยาทโย สตฺต อารมฺมเณน สภาคา, เสสา โสฬส วิสภาคาติ เต อโยเชตฺวา สเตฺตว โยชิตาฯ เตสุ อธิปติยา สตฺตาติ กุสโล ธโมฺม กุสลสฺส ธมฺมสฺส, อกุสลสฺส ธมฺมสฺส, อพฺยากตสฺสาติ เอวํ กุสลมูลานิ ตีณิ, อกุสลมูลํ เอกํ, อพฺยากตมูลานิ ตีณีติ สตฺตฯ นิสฺสเย ตีณีติ วตฺถุวเสน อพฺยากตมูลาเนวฯ อุปนิสฺสเย สตฺต เหฎฺฐิมานิ เอวฯ ปุเรชาเต ตีณีติ วตฺถารมฺมณวเสน อพฺยากตมูลานิฯ วิปฺปยุเตฺต ตีณีติ วตฺถุวเสเนวฯ อตฺถิอวิคเตสุ ตีณีติ วตฺถารมฺมณวเสนฯ ยถา ปน เหตุมูลเก ลกฺขณทสฺสนตฺถํ ฆฎนานิ ฐปิตานิ, ตถา อารมฺมณมูลกาทีสุปิฯ
444. Ārammaṇamūlakepi adhipatipaccayādayo satta ārammaṇena sabhāgā, sesā soḷasa visabhāgāti te ayojetvā satteva yojitā. Tesu adhipatiyā sattāti kusalo dhammo kusalassa dhammassa, akusalassa dhammassa, abyākatassāti evaṃ kusalamūlāni tīṇi, akusalamūlaṃ ekaṃ, abyākatamūlāni tīṇīti satta. Nissaye tīṇīti vatthuvasena abyākatamūlāneva. Upanissaye satta heṭṭhimāni eva. Purejāte tīṇīti vatthārammaṇavasena abyākatamūlāni. Vippayutte tīṇīti vatthuvaseneva. Atthiavigatesu tīṇīti vatthārammaṇavasena. Yathā pana hetumūlake lakkhaṇadassanatthaṃ ghaṭanāni ṭhapitāni, tathā ārammaṇamūlakādīsupi.
๔๔๕. ตตฺถ ยานิ ตาว อิมสฺมิํ อารมฺมณมูลเก ปญฺจ ฆฎนานิ ฐปิตานิฯ ตตฺถ ปฐมํ อารมฺมณาธิปติวเสน สาธิปติกํฯ ตตฺถ สตฺตาติ อารมฺมณาธิปติทุเก ลทฺธวิสฺสชฺชนาเนวฯ ทุติยํ นิราธิปติกํฯ ตตฺถ ตีณีติ วตฺถารมฺมณวเสน อารมฺมณวเสเนว วา อพฺยากตมูลานิฯ ตติยํ นิสฺสเยน วุตฺตํฯ ตตฺถ ตีณีติ วตฺถุวเสน อพฺยากตมูลานิฯ จตุตฺถปญฺจมานิ สาธิปติกานิฯ เตสุ จตุเตฺถ เอกนฺติ วตฺถารมฺมณวเสน อารมฺมณวเสเนว วา อพฺยากตมูลํ อกุสลํฯ ปญฺจเม เอกนฺติ นิสฺสยโต อพฺยากตมูลกํ อกุสลํฯ เอวมิธาปิ ลพฺภมานวเสน ติกาทีสุ คณนา เวทิตพฺพาฯ ตถา อธิปติมูลกาทีสุฯ อารมฺมณอินฺทฺริยวิปากวเสน วิตฺถารโยชนํ ปน อวตฺวา ตตฺถ ตตฺถ วตฺตพฺพยุตฺตกเมว วทามาติฯ
445. Tattha yāni tāva imasmiṃ ārammaṇamūlake pañca ghaṭanāni ṭhapitāni. Tattha paṭhamaṃ ārammaṇādhipativasena sādhipatikaṃ. Tattha sattāti ārammaṇādhipatiduke laddhavissajjanāneva. Dutiyaṃ nirādhipatikaṃ. Tattha tīṇīti vatthārammaṇavasena ārammaṇavaseneva vā abyākatamūlāni. Tatiyaṃ nissayena vuttaṃ. Tattha tīṇīti vatthuvasena abyākatamūlāni. Catutthapañcamāni sādhipatikāni. Tesu catutthe ekanti vatthārammaṇavasena ārammaṇavaseneva vā abyākatamūlaṃ akusalaṃ. Pañcame ekanti nissayato abyākatamūlakaṃ akusalaṃ. Evamidhāpi labbhamānavasena tikādīsu gaṇanā veditabbā. Tathā adhipatimūlakādīsu. Ārammaṇaindriyavipākavasena vitthārayojanaṃ pana avatvā tattha tattha vattabbayuttakameva vadāmāti.
๔๔๖. อธิปติมูลเก สหชาเต สตฺตาติ สหชาตาธิปติวเสน กุสลมูลานิ ตีณิ, อกุสลมูลานิ ตีณิ, อพฺยากตมูลํ เอกํฯ สหชาเตน ปน สทฺธิํ อารมฺมณาธิปติ, อารมฺมณาธิปตินา จ สทฺธิํ สหชาตํ น ลพฺภติฯ อญฺญมเญฺญ ตีณีติ สหชาตาธิปติวเสเนวฯ นิสฺสเย อฎฺฐาติ กุสลมูลานิ ตีณิ, อกุสลมูลานิ ตีณิ, อพฺยากตมูลานิ เทฺวฯ อพฺยากโต หิ อธิปติ อพฺยากตสฺส สหชาตโต เจว อารมฺมณโต จ นิสฺสโย โหติ, อกุสลสฺส อารมฺมณโตวฯ กุสลสฺส ปน อุภยถาปิ น โหตีติ อพฺยากตมูลานิ เทฺวเยวาติ เอวํ อฎฺฐฯ อุปนิสฺสเย สตฺต อารมฺมณสทิสาเนวฯ ปุเรชาเต เอกนฺติ อพฺยากตาธิปติ อารมฺมณวเสน อกุสลสฺสฯ วิปาเก เอกํ อพฺยากเตน อพฺยากตํ โลกุตฺตรํฯ อาหาราทีสุ สตฺต เหฎฺฐา เอกมูลเก ลทฺธาเนวฯ วิปฺปยุเตฺต จตฺตารีติ กุสเลน อพฺยากตํ, ตถา อกุสเลน, อพฺยากเตน อพฺยากตญฺจ กุสลญฺจฯ อตฺถิอวิคเตสุ อฎฺฐ นิสฺสยสทิสาเนวฯ
446. Adhipatimūlake sahajāte sattāti sahajātādhipativasena kusalamūlāni tīṇi, akusalamūlāni tīṇi, abyākatamūlaṃ ekaṃ. Sahajātena pana saddhiṃ ārammaṇādhipati, ārammaṇādhipatinā ca saddhiṃ sahajātaṃ na labbhati. Aññamaññe tīṇīti sahajātādhipativaseneva. Nissaye aṭṭhāti kusalamūlāni tīṇi, akusalamūlāni tīṇi, abyākatamūlāni dve. Abyākato hi adhipati abyākatassa sahajātato ceva ārammaṇato ca nissayo hoti, akusalassa ārammaṇatova. Kusalassa pana ubhayathāpi na hotīti abyākatamūlāni dveyevāti evaṃ aṭṭha. Upanissaye satta ārammaṇasadisāneva. Purejāte ekanti abyākatādhipati ārammaṇavasena akusalassa. Vipāke ekaṃ abyākatena abyākataṃ lokuttaraṃ. Āhārādīsu satta heṭṭhā ekamūlake laddhāneva. Vippayutte cattārīti kusalena abyākataṃ, tathā akusalena, abyākatena abyākatañca kusalañca. Atthiavigatesu aṭṭha nissayasadisāneva.
๔๔๗-๔๕๒. ฆฎนานิ ปเนตฺถ ปฎิปาฎิยา อารมฺมณาทีหิ อโยเชตฺวา ปฐมํ อตฺถิอวิคเตหิ โยชิตานิฯ กิํ การณาติ? อุภยาธิปติมิสฺสกตฺตาฯ ตตฺถ ปฐเม ฆฎเน อารมฺมณาธิปติวเสน วตฺถารมฺมณํ ลพฺภติ , ทุติเย นิสฺสยวเสน ครุํ กตฺวา อสฺสาเทนฺตสฺส วตฺถุเมว, ตติเย สหชาตาธิปติวเสน กุสลาทโย รูปานํ, อารมฺมณาธิปติวเสน วตฺถุ อกุสลสฺสฯ ตโต ปรานิ ตีณิ ฆฎนานิ อารมฺมณาธิปติวเสน วุตฺตานิฯ ตตฺถ ปฐเม สตฺตาติ เหฎฺฐา วุตฺตาเนวฯ ทุติเย เอกนฺติ ปุเรชาตานิ วตฺถารมฺมณานิ อกุสลสฺสฯ ตติเย วตฺถุเมว อกุสลสฺสฯ ตโต ปรานิ ตีณิ ฆฎนานิ วิปากาวิปากสาธารณานิ สหชาตาธิปติวเสน วุตฺตานิฯ ตตฺถ ปฐเม รูปารูปํ ลพฺภติ, ทุติเย อรูปเมว, ตติเย รูปเมวฯ ตโต ปรานิ ตีณิ วิปากาธิปติวเสน วุตฺตานิฯ เตสุปิ ปฐเม รูปารูปํ ลพฺภติ, ทุติเย อรูปํ, ตติเย รูปเมวฯ ตโต ปรานิ ฉ ฆฎนานิ อาหารินฺทฺริยยุตฺตานิ จิตฺตาธิปติวเสน วุตฺตานิฯ ตตฺถ ตีณิ อวิปากานิ, ตีณิ สวิปากานิฯ เตสุ คณนา ปากฎาเยวฯ ตโต ปรานิ ฉ ฆฎนานิ ตเถว วิริยาธิปติวเสน วุตฺตานิฯ นนุ จ อธิปติปฎิปาฎิยา ปฐมํ วิริยาธิปติวเสน วตฺตพฺพานิ สิยุํ, กสฺมา ตถา น วุตฺตานีติ? ปรโต เหตุวเสน วุตฺตฆฎเนหิ สทิสตฺตาฯ ปรโต หิ เหตุวเสน ฆฎนานิ อโมหสฺส วีมํสาธิปติตฺตา วีมํสาย จ สมฺมาทิฎฺฐิภาวโต มคฺคสมฺปยุตฺตานิฯ วิริยมฺปิ จ สมฺมาวายามมิจฺฉาวายามภาเวน มโคฺคติ เตน สทฺธิํ ฆฎนานิ ปรโต เหตุวเสน วุตฺตฆฎเนหิ สทิสานีติ ปริวเตฺตตฺวา วุตฺตานิฯ เตสุปิ คณนา ปากฎาเยวฯ
447-452. Ghaṭanāni panettha paṭipāṭiyā ārammaṇādīhi ayojetvā paṭhamaṃ atthiavigatehi yojitāni. Kiṃ kāraṇāti? Ubhayādhipatimissakattā. Tattha paṭhame ghaṭane ārammaṇādhipativasena vatthārammaṇaṃ labbhati , dutiye nissayavasena garuṃ katvā assādentassa vatthumeva, tatiye sahajātādhipativasena kusalādayo rūpānaṃ, ārammaṇādhipativasena vatthu akusalassa. Tato parāni tīṇi ghaṭanāni ārammaṇādhipativasena vuttāni. Tattha paṭhame sattāti heṭṭhā vuttāneva. Dutiye ekanti purejātāni vatthārammaṇāni akusalassa. Tatiye vatthumeva akusalassa. Tato parāni tīṇi ghaṭanāni vipākāvipākasādhāraṇāni sahajātādhipativasena vuttāni. Tattha paṭhame rūpārūpaṃ labbhati, dutiye arūpameva, tatiye rūpameva. Tato parāni tīṇi vipākādhipativasena vuttāni. Tesupi paṭhame rūpārūpaṃ labbhati, dutiye arūpaṃ, tatiye rūpameva. Tato parāni cha ghaṭanāni āhārindriyayuttāni cittādhipativasena vuttāni. Tattha tīṇi avipākāni, tīṇi savipākāni. Tesu gaṇanā pākaṭāyeva. Tato parāni cha ghaṭanāni tatheva viriyādhipativasena vuttāni. Nanu ca adhipatipaṭipāṭiyā paṭhamaṃ viriyādhipativasena vattabbāni siyuṃ, kasmā tathā na vuttānīti? Parato hetuvasena vuttaghaṭanehi sadisattā. Parato hi hetuvasena ghaṭanāni amohassa vīmaṃsādhipatittā vīmaṃsāya ca sammādiṭṭhibhāvato maggasampayuttāni. Viriyampi ca sammāvāyāmamicchāvāyāmabhāvena maggoti tena saddhiṃ ghaṭanāni parato hetuvasena vuttaghaṭanehi sadisānīti parivattetvā vuttāni. Tesupi gaṇanā pākaṭāyeva.
๔๕๓-๔๕๖. อนนฺตรสมนนฺตรมูลเกสุ สตฺตาติ กุสโล กุสลสฺส อพฺยากตสฺส จ, ตถา อกุสโล, อพฺยากโต ติณฺณนฺนมฺปีติ เอวํ สตฺตฯ กเมฺม เอกนฺติ กุสลา มคฺคเจตนา อตฺตโน วิปากาพฺยากตสฺสฯ ฆฎนานิ ปเนเตสุ ตีณิ ตีณิเยวฯ ตานิ พหุตรปฎิปาฎิยา วุตฺตานิฯ
453-456. Anantarasamanantaramūlakesu sattāti kusalo kusalassa abyākatassa ca, tathā akusalo, abyākato tiṇṇannampīti evaṃ satta. Kamme ekanti kusalā maggacetanā attano vipākābyākatassa. Ghaṭanāni panetesu tīṇi tīṇiyeva. Tāni bahutarapaṭipāṭiyā vuttāni.
๔๕๗-๔๖๐. สหชาตอญฺญมญฺญนิสฺสยมูลเกสุ เย เย ทุกมูลเก ปจฺจยา วุตฺตา เต เตเยว อาทิโต ฐิเตน สภาคาฯ ตสฺมา ทุกมูลเก คณนํ ญตฺวา เย อุปริ ปจฺจยา ฆฎิตา, เตสุ อูนตรคณนสฺส วเสน สพฺพฆฎเนสุ คณนา เวทิตพฺพาฯ ตตฺถ สหชาตมูลเก ทส ฆฎนานิฯ เตสุ ปญฺจ อวิปากานิ, ปญฺจ สวิปากานิฯ ตตฺถ อวิปาเกสุ ตาว ปฐเม กุสโล กุสลสฺส อพฺยากตสฺส , กุสลาพฺยากตสฺส, กุสลาพฺยากโต อพฺยากตสฺสาติ จตฺตาริ, ตถา อกุสโล, อพฺยากโต อพฺยากตเสฺสวาติ เอวํ นวฯ ตตฺถ กุสลากุสลาทิเกสุ อฎฺฐสุ วิสฺสชฺชเนสุ อรูปเญฺจว จิตฺตสมุฎฺฐานรูปญฺจ ลพฺภติฯ อพฺยากเต วตฺถุรูปมฺปิฯ ทุติเย ฆฎเน อพฺยากตวิสฺสชฺชเน รูเปสุ วตฺถุเมว ลพฺภติ, ตติเย ตีสุปิ อรูปเมว, จตุเตฺถ จิตฺตสมุฎฺฐานรูปเมว, ปญฺจเม ปฎิสนฺธิยํ วตฺถุนา สทฺธิํ อรูปธมฺมาฯ สวิปาเกสุ ปฐเม วิปากา เจว วิปากจิตฺตสมุฎฺฐานรูปญฺจ, ทุติเย วิปากา เจว วตฺถุรูปญฺจ, ตติเย วิปากเมว, จตุเตฺถ วิปากจิตฺตสมุฎฺฐานเมว, ปญฺจเม วตฺถุรูปเมว ลพฺภติฯ
457-460. Sahajātaaññamaññanissayamūlakesu ye ye dukamūlake paccayā vuttā te teyeva ādito ṭhitena sabhāgā. Tasmā dukamūlake gaṇanaṃ ñatvā ye upari paccayā ghaṭitā, tesu ūnataragaṇanassa vasena sabbaghaṭanesu gaṇanā veditabbā. Tattha sahajātamūlake dasa ghaṭanāni. Tesu pañca avipākāni, pañca savipākāni. Tattha avipākesu tāva paṭhame kusalo kusalassa abyākatassa , kusalābyākatassa, kusalābyākato abyākatassāti cattāri, tathā akusalo, abyākato abyākatassevāti evaṃ nava. Tattha kusalākusalādikesu aṭṭhasu vissajjanesu arūpañceva cittasamuṭṭhānarūpañca labbhati. Abyākate vatthurūpampi. Dutiye ghaṭane abyākatavissajjane rūpesu vatthumeva labbhati, tatiye tīsupi arūpameva, catutthe cittasamuṭṭhānarūpameva, pañcame paṭisandhiyaṃ vatthunā saddhiṃ arūpadhammā. Savipākesu paṭhame vipākā ceva vipākacittasamuṭṭhānarūpañca, dutiye vipākā ceva vatthurūpañca, tatiye vipākameva, catutthe vipākacittasamuṭṭhānameva, pañcame vatthurūpameva labbhati.
อญฺญมญฺญมูลเก ฉ ฆฎนานิฯ เตสุ ปฐมานิ ตีณิ อวิปากานิ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ สวิปากานิฯ เตสุ คณนา ปากฎาเยวฯ
Aññamaññamūlake cha ghaṭanāni. Tesu paṭhamāni tīṇi avipākāni, pacchimāni tīṇi savipākāni. Tesu gaṇanā pākaṭāyeva.
๔๖๑. นิสฺสยมูลเก นิสฺสยปจฺจยา อารมฺมเณ ตีณีติ วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตกุสลาทิวเสน เวทิตพฺพานิฯ อุปนิสฺสเย เอกนฺติ วตฺถุํ อารมฺมณูปนิสฺสยํ กตฺวา อุปฺปนฺนากุสลํฯ เสสํ ทุมูลเก เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ
461. Nissayamūlake nissayapaccayā ārammaṇe tīṇīti vatthuṃ ārammaṇaṃ katvā pavattakusalādivasena veditabbāni. Upanissaye ekanti vatthuṃ ārammaṇūpanissayaṃ katvā uppannākusalaṃ. Sesaṃ dumūlake heṭṭhā vuttanayeneva veditabbaṃ.
๔๖๒-๔๖๔. อิมสฺมิํ ปน นิสฺสยปจฺจเย วีสติ ฆฎนานิฯ เตสุ ปุริมานิ ฉ ฆฎนานิ ปุเรชาตสหชาตวเสน วุตฺตานิ, ตโต จตฺตาริ ปุเรชาตวเสเนว, ตโต ทส สหชาตวเสเนวฯ ตตฺถ ปฐเม ฆฎเน เตรสาติ นิสฺสยปจฺจยวิภเงฺค วุตฺตาเนวฯ ทุติเย อฎฺฐาติ สหชาตาธิปติวเสน สตฺต, วตฺถุํ ครุํ กตฺวา อกุสลญฺจาติ อฎฺฐฯ ตติเย สตฺต อินฺทฺริยปจฺจเย ลทฺธาเนวฯ จตุเตฺถ ปญฺจ วิปฺปยุเตฺต ลทฺธานิฯ ปญฺจเม จตฺตารีติ กุสลาทีนิ จิตฺตสมุฎฺฐานานํ, วตฺถุ จ อกุสลสฺสฯ ฉเฎฺฐ ตีณีติ กุสลาทีนิ จิตฺตสมุฎฺฐานสฺสฯ ปุเรชาตวเสน จตูสุ ปฐเม ตีณีติ วตฺถุ กุสลาทีนํ, จกฺขาทีนิ จ อพฺยากตสฺสฯ ทุติเย วตฺถุเมว กุสลาทีนํฯ ตติเย เอกนฺติ วตฺถุ อกุสลสฺสฯ จตุเตฺถ จกฺขาทีนิ วิญฺญาณปญฺจกสฺสฯ สหชาตวเสน ทส สวิปากาวิปากวเสน ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา สหชาตมูลเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิฯ
462-464. Imasmiṃ pana nissayapaccaye vīsati ghaṭanāni. Tesu purimāni cha ghaṭanāni purejātasahajātavasena vuttāni, tato cattāri purejātavaseneva, tato dasa sahajātavaseneva. Tattha paṭhame ghaṭane terasāti nissayapaccayavibhaṅge vuttāneva. Dutiye aṭṭhāti sahajātādhipativasena satta, vatthuṃ garuṃ katvā akusalañcāti aṭṭha. Tatiye satta indriyapaccaye laddhāneva. Catutthe pañca vippayutte laddhāni. Pañcame cattārīti kusalādīni cittasamuṭṭhānānaṃ, vatthu ca akusalassa. Chaṭṭhe tīṇīti kusalādīni cittasamuṭṭhānassa. Purejātavasena catūsu paṭhame tīṇīti vatthu kusalādīnaṃ, cakkhādīni ca abyākatassa. Dutiye vatthumeva kusalādīnaṃ. Tatiye ekanti vatthu akusalassa. Catutthe cakkhādīni viññāṇapañcakassa. Sahajātavasena dasa savipākāvipākavasena dvidhā bhinditvā sahajātamūlake vuttanayeneva veditabbāni.
๔๖๕. อุปนิสฺสยมูลเก อารมฺมเณ สตฺตาติ อารมฺมณูปนิสฺสเย ลทฺธาเนวฯ อธิปติยา สตฺตาติ ตาเนวฯ อนนฺตรสมนนฺตเรสุ อนนฺตรูปนิสฺสเย ลทฺธาเนวฯ นิสฺสเย เอกนฺติ วตฺถุ อกุสลสฺสฯ ปุเรชาเต เอกนฺติ ตเสฺสว วตฺถุํ วา อารมฺมณํ วาฯ อาเสวเน ตีณิ อนนฺตรูปนิสฺสยวเสนฯ กเมฺม เทฺว ปกตูปนิสฺสยวเสนฯ โลกุตฺตรกุสลเจตนา ปน อนนฺตรูปนิสฺสโยปิ โหติฯ วิปฺปยุเตฺต เอกํ อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน, ตถา อตฺถิอวิคเตสุฯ นตฺถิวิคเตสุ สตฺต อนนฺตรสมาเนวฯ
465. Upanissayamūlake ārammaṇe sattāti ārammaṇūpanissaye laddhāneva. Adhipatiyā sattāti tāneva. Anantarasamanantaresu anantarūpanissaye laddhāneva. Nissaye ekanti vatthu akusalassa. Purejāte ekanti tasseva vatthuṃ vā ārammaṇaṃ vā. Āsevane tīṇi anantarūpanissayavasena. Kamme dve pakatūpanissayavasena. Lokuttarakusalacetanā pana anantarūpanissayopi hoti. Vippayutte ekaṃ ārammaṇūpanissayavasena, tathā atthiavigatesu. Natthivigatesu satta anantarasamāneva.
๔๖๖. อุปนิสฺสยมูลกานิ ปน สตฺต ฆฎนานิ โหนฺติฯ ตตฺถ ปุริมานิ ตีณิ อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน วุตฺตานิฯ ตตฺถ ปฐเม สตฺตาติ กุสโล กุสลาทีนํ, ตถา อพฺยากโต, อกุสโล อกุสลเสฺสวาติ เอวํ สตฺตฯ ทุติเย เอกนฺติ จกฺขาทิอพฺยากตํ อกุสลสฺสฯ ตติเย วตฺถุ อกุสลสฺสฯ ตโต ปรานิ เทฺว อนนฺตรูปนิสฺสยวเสน วุตฺตานิฯ เตสุ คณนา ปากฎาเยวฯ ตโต เทฺว อนนฺตรปกตูปนิสฺสยวเสน วุตฺตานิฯ ตตฺถ ปฐเม โลกิยกุสลากุสลเจตนาปจฺจยภาวโต คเหตพฺพา, ทุติเย โลกุตฺตรกุสลาวฯ
466. Upanissayamūlakāni pana satta ghaṭanāni honti. Tattha purimāni tīṇi ārammaṇūpanissayavasena vuttāni. Tattha paṭhame sattāti kusalo kusalādīnaṃ, tathā abyākato, akusalo akusalassevāti evaṃ satta. Dutiye ekanti cakkhādiabyākataṃ akusalassa. Tatiye vatthu akusalassa. Tato parāni dve anantarūpanissayavasena vuttāni. Tesu gaṇanā pākaṭāyeva. Tato dve anantarapakatūpanissayavasena vuttāni. Tattha paṭhame lokiyakusalākusalacetanāpaccayabhāvato gahetabbā, dutiye lokuttarakusalāva.
๔๖๗-๔๖๘. ปุเรชาตมูลเก อารมฺมเณ ตีณีติ อพฺยากโต กุสลาทีนํฯ อธิปติยา เอกนฺติ อพฺยากโต อกุสลสฺสฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ เอตฺถ ปน สตฺต ฆฎนานิฯ เตสุ ปฐมํ วตฺถารมฺมณวเสน วุตฺตํ, ทุติยํ วตฺถุวเสเนว, ตติยํ อารมฺมณวเสน, จตุตฺถํ วตฺถุสฺส อารมฺมณกาลวเสน, ปญฺจมํ อารมฺมณาธิปติวเสน, ฉฎฺฐํ วตฺถุโน อารมฺมณาธิปติกาลวเสน, สตฺตมํ จกฺขาทิวเสนฯ
467-468. Purejātamūlake ārammaṇe tīṇīti abyākato kusalādīnaṃ. Adhipatiyā ekanti abyākato akusalassa. Sesesupi eseva nayo. Ettha pana satta ghaṭanāni. Tesu paṭhamaṃ vatthārammaṇavasena vuttaṃ, dutiyaṃ vatthuvaseneva, tatiyaṃ ārammaṇavasena, catutthaṃ vatthussa ārammaṇakālavasena, pañcamaṃ ārammaṇādhipativasena, chaṭṭhaṃ vatthuno ārammaṇādhipatikālavasena, sattamaṃ cakkhādivasena.
๔๖๙-๔๗๒. ปจฺฉาชาตมูลเก วีสติ ปจฺจยา น ยุชฺชนฺติ, ตโยว โยชนํ ลภนฺติฯ เอกเมเวตฺถ ฆฎนํ, ตํ กายสฺส กุสลาทีนํ วเสน เวทิตพฺพํฯ อาเสวนมูลเกปิ เอกเมว ฆฎนํฯ
469-472. Pacchājātamūlake vīsati paccayā na yujjanti, tayova yojanaṃ labhanti. Ekamevettha ghaṭanaṃ, taṃ kāyassa kusalādīnaṃ vasena veditabbaṃ. Āsevanamūlakepi ekameva ghaṭanaṃ.
๔๗๓-๔๗๗. กมฺมมูลเก อนนฺตเร เอกนฺติ มคฺคเจตนาวเสน วุตฺตํฯ อญฺญมเญฺญ ตีณีติ เอตฺถ ปฎิสนฺธิยํ วตฺถุปิ คเหตพฺพํฯ อุปนิสฺสเย เทฺวติ อนนฺตรปกตูปนิสฺสยวเสน เหฎฺฐา วุตฺตาเนวฯ เอวํ เสสานิปิ เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิฯ เอตฺถ ปน เอกาทส ฆฎนานิฯ ตตฺถ ปฐมานิ เทฺว ปกตูปนิสฺสยานนฺตรูปนิสฺสยวิภาคโต นานากฺขณิกกมฺมวเสน วุตฺตานิฯ ตโต ปรานิ จตฺตาริ วิปากาวิปากโต เอกกฺขณิกกมฺมวเสน วุตฺตานิฯ ตตฺถ ปฐเม อรูเปน สทฺธิํ จิตฺตสมุฎฺฐานรูปํ ลพฺภติ, ทุติเย อรูเปน สทฺธิํ วตฺถุ, ตติเย อรูปเมว, จตุเตฺถ จิตฺตสมุฎฺฐานรูปเมวฯ ปฎิสนฺธิยํ ปน กฎตฺตารูปมฺปิ ลพฺภติฯ ตโต ปรานิ ปญฺจ สวิปากานิ, ตานิ เหฎฺฐา วุตฺตนยาเนวฯ วิปากมูลเก ปญฺจ ฆฎานานิ อุตฺตานตฺถาเนวฯ
473-477. Kammamūlake anantare ekanti maggacetanāvasena vuttaṃ. Aññamaññe tīṇīti ettha paṭisandhiyaṃ vatthupi gahetabbaṃ. Upanissaye dveti anantarapakatūpanissayavasena heṭṭhā vuttāneva. Evaṃ sesānipi heṭṭhā vuttanayeneva veditabbāni. Ettha pana ekādasa ghaṭanāni. Tattha paṭhamāni dve pakatūpanissayānantarūpanissayavibhāgato nānākkhaṇikakammavasena vuttāni. Tato parāni cattāri vipākāvipākato ekakkhaṇikakammavasena vuttāni. Tattha paṭhame arūpena saddhiṃ cittasamuṭṭhānarūpaṃ labbhati, dutiye arūpena saddhiṃ vatthu, tatiye arūpameva, catutthe cittasamuṭṭhānarūpameva. Paṭisandhiyaṃ pana kaṭattārūpampi labbhati. Tato parāni pañca savipākāni, tāni heṭṭhā vuttanayāneva. Vipākamūlake pañca ghaṭānāni uttānatthāneva.
๔๗๘-๔๘๓. อาหารมูลเก สตฺตาติอาทีนิ วุตฺตนยาเนวฯ ฆฎนานิ ปเนตฺถ จตุตฺติํสฯ เตสุ ปฐมานิ ปญฺจ วิปากาวิปากสามญฺญโต วุตฺตานิฯ ตตฺถ ปฐเม จตฺตาโรปิ อาหารา ลพฺภนฺติ; ทุติเย ตโย อรูปาหาราวฯ ตติเย วตฺถุปิ ปจฺจยุปฺปนฺนํ โหติ, จตุเตฺถ ตํ ปริหายติฯ ปญฺจเม รูปเมว ปจฺจยุปฺปนฺนํฯ ตโต ปรานิ ปญฺจ สวิปากฆฎนานิ, ตานิ เหฎฺฐา วุตฺตนยาเนวฯ ตโต ปรานิ นว ฆฎนานิ เจตนาหารวเสน วุตฺตานิฯ ตโต ปรานิ นว นิราธิปติวิญฺญาณาหารวเสน ฯ ตโต ปรานิ สาธิปติวิญฺญาณาหารวเสน ฉ ฆฎนานิ วุตฺตานิฯ ตตฺถ ตีณิ วิปากาวิปากสามญฺญวเสน วุตฺตานิฯ ตีณิ วิปากวเสเนวฯ ตตฺถ โลกิยานํ วิปากานํ อภาวโต วตฺถุ ปริหายติฯ
478-483. Āhāramūlake sattātiādīni vuttanayāneva. Ghaṭanāni panettha catuttiṃsa. Tesu paṭhamāni pañca vipākāvipākasāmaññato vuttāni. Tattha paṭhame cattāropi āhārā labbhanti; dutiye tayo arūpāhārāva. Tatiye vatthupi paccayuppannaṃ hoti, catutthe taṃ parihāyati. Pañcame rūpameva paccayuppannaṃ. Tato parāni pañca savipākaghaṭanāni, tāni heṭṭhā vuttanayāneva. Tato parāni nava ghaṭanāni cetanāhāravasena vuttāni. Tato parāni nava nirādhipativiññāṇāhāravasena . Tato parāni sādhipativiññāṇāhāravasena cha ghaṭanāni vuttāni. Tattha tīṇi vipākāvipākasāmaññavasena vuttāni. Tīṇi vipākavaseneva. Tattha lokiyānaṃ vipākānaṃ abhāvato vatthu parihāyati.
๔๘๔-๔๙๕. อินฺทฺริยมูลเก ปุเรชาเต เอกนฺติ จกฺขุนฺทฺริยาทีนํ วเสน อพฺยากเตน อพฺยากตํฯ เสสํ ทุมูลกํ เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ ฆฎนานิ ปเนตฺถ ฉ สตฺตติฯ ตตฺถ ปฐเม สพฺพานิปิ อินฺทฺริยานิ ปจฺจยเฎฺฐน ลพฺภนฺติฯ ทุติเย รูปชีวิตินฺทฺริยํ หายติฯ น หิ ตํ นิสฺสโย โหติฯ ตติเย อรูปินฺทฺริยานิ รูปานํฯ จตุเตฺถ จกฺขาทีนิ จกฺขุวิญฺญาณาทีนํฯ ตโต ปรานิ นว ฆฎนานิ สหชาตอรูปินฺทฺริยวเสน วุตฺตานิ, ตโต นว มคฺคภูตานํ อินฺทฺริยานํ วเสน, ตโต นว ฌานงฺคภูตานํ, ตโต นว ฌานมคฺคภูตานํ, ตโต นว มนินฺทฺริยวเสเนว, ตโต สาธิปตีนิ ฉ, ตโต วีริยวเสน มคฺคสมฺปยุตฺตานิ ฉ, ตโต อโมหเหตุวเสน นิราธิปตีนิ นว, สาธิปตีนิ ฉฯ เตสุ สเพฺพสุ วิปากปจฺจเยน อยุตฺตานิ จ ยุตฺตานิ จ เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิฯ
484-495. Indriyamūlake purejāte ekanti cakkhundriyādīnaṃ vasena abyākatena abyākataṃ. Sesaṃ dumūlakaṃ heṭṭhā vuttanayeneva veditabbaṃ. Ghaṭanāni panettha cha sattati. Tattha paṭhame sabbānipi indriyāni paccayaṭṭhena labbhanti. Dutiye rūpajīvitindriyaṃ hāyati. Na hi taṃ nissayo hoti. Tatiye arūpindriyāni rūpānaṃ. Catutthe cakkhādīni cakkhuviññāṇādīnaṃ. Tato parāni nava ghaṭanāni sahajātaarūpindriyavasena vuttāni, tato nava maggabhūtānaṃ indriyānaṃ vasena, tato nava jhānaṅgabhūtānaṃ, tato nava jhānamaggabhūtānaṃ, tato nava manindriyavaseneva, tato sādhipatīni cha, tato vīriyavasena maggasampayuttāni cha, tato amohahetuvasena nirādhipatīni nava, sādhipatīni cha. Tesu sabbesu vipākapaccayena ayuttāni ca yuttāni ca heṭṭhā vuttanayeneva veditabbāni.
๔๙๖-๕๐๐. ฌานมูลเกปิ ทุมูลกํ เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ ฆฎนานิ ปเนตฺถ ฉตฺติํสฯ เตสุ ปฐมานิ นว อินฺทฺริยมคฺคภาวํ อนามสิตฺวา สาธารณฌานงฺควเสเนว วุตฺตานิฯ ตโต ปรานิ นว อินฺทฺริยภูตฌานงฺควเสน, ตโต นว มคฺคภูตฌานงฺควเสน, ตโต นว อินฺทฺริยมคฺคภูตฌานงฺควเสนฯ จตูสุปิ เจเตสุ นวเกสุ อาทิโต จตฺตาริ จตฺตาริ วิปากาวิปากสาธารณานิฯ อวสาเน ปญฺจ ปญฺจ วิปากาเนว, ตานิ เหฎฺฐา วุตฺตนยาเนวฯ
496-500. Jhānamūlakepi dumūlakaṃ heṭṭhā vuttanayeneva veditabbaṃ. Ghaṭanāni panettha chattiṃsa. Tesu paṭhamāni nava indriyamaggabhāvaṃ anāmasitvā sādhāraṇajhānaṅgavaseneva vuttāni. Tato parāni nava indriyabhūtajhānaṅgavasena, tato nava maggabhūtajhānaṅgavasena, tato nava indriyamaggabhūtajhānaṅgavasena. Catūsupi cetesu navakesu ādito cattāri cattāri vipākāvipākasādhāraṇāni. Avasāne pañca pañca vipākāneva, tāni heṭṭhā vuttanayāneva.
๕๐๑-๕๐๘. มคฺคมูลเกปิ ทุมูลกํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ ฆฎนานิ ปเนตฺถ สตฺตปญฺญาสฯ เตสุ ปฐมานิ นว อินฺทฺริยฌานภาวํ อนามสิตฺวา สุทฺธิกมคฺควเสเนว วุตฺตานิฯ ตโต นว อินฺทฺริยภูตมคฺควเสน, ตโต นว ฌานภูตมคฺควเสน, ตโต นว อินฺทฺริยฌานภูตมคฺควเสน, ตโต ฉ อธิปติภูตมคฺควเสน, ตโต นว นิราธิปติมคฺคเหตุวเสน, ตโต ฉ สาธิปติมคฺคเหตุวเสน, ตตฺถ นวเกสุ ปญฺจ ปญฺจ ฉเกฺกสุ ตีณิ ตีณิ วิปากานิฯ เสสานิ สาธารณานิ, ตานิ เหฎฺฐา วุตฺตนยาเนวฯ
501-508. Maggamūlakepi dumūlakaṃ vuttanayeneva veditabbaṃ. Ghaṭanāni panettha sattapaññāsa. Tesu paṭhamāni nava indriyajhānabhāvaṃ anāmasitvā suddhikamaggavaseneva vuttāni. Tato nava indriyabhūtamaggavasena, tato nava jhānabhūtamaggavasena, tato nava indriyajhānabhūtamaggavasena, tato cha adhipatibhūtamaggavasena, tato nava nirādhipatimaggahetuvasena, tato cha sādhipatimaggahetuvasena, tattha navakesu pañca pañca chakkesu tīṇi tīṇi vipākāni. Sesāni sādhāraṇāni, tāni heṭṭhā vuttanayāneva.
๕๐๙-๕๑๐. สมฺปยุตฺตมูลเก ทุมูลกํ อุตฺตานตฺถเมวฯ เอตฺถ ปน เทฺวเยว ฆฎนานิฯ ตตฺถ เอกํ สาธารณวเสน, เอกํ วิปากวเสน วุตฺตํฯ
509-510. Sampayuttamūlake dumūlakaṃ uttānatthameva. Ettha pana dveyeva ghaṭanāni. Tattha ekaṃ sādhāraṇavasena, ekaṃ vipākavasena vuttaṃ.
๕๑๑-๕๑๔. วิปฺปยุตฺตมูลเกปิ ทุมูลกํ อุตฺตานตฺถเมวฯ ฆฎนานิ ปเนตฺถ เตรสฯ ตตฺถ ปฐเม ปญฺจาติ กุสโล อพฺยากตสฺส, ตถา อกุสโล, อพฺยากโต ติณฺณนฺนมฺปิฯ เอตฺถ จ อิเม วิปฺปยุตฺตาทโย สหชาตาปิ โหนฺติ, ปจฺฉาชาตปุเรชาตาปิฯ ทุติเย ปุเรชาตสหชาตาว ตติเย เตเยว อธิปติวเสนฯ ตตฺถ กุสโล อพฺยากตสฺส ตถา อกุสโล, อพฺยากโต ปน อพฺยากตสฺส จ อารมฺมณาธิปติวเสน อกุสลสฺส จาติ เอวํ จตฺตาริฯ จตุเตฺถ ตีณีติ กุสลาทีนิ อพฺยากตสฺสฯ อินฺทฺริยานิ ปเนตฺถ รูปานิปิ อรูปานิปิฯ ปญฺจเม ปจฺจยา อรูปาว ฉเฎฺฐ วตฺถุวเสน รูปาว สตฺตเม กุสลาพฺยากตานํ วิปสฺสนาวเสน, อกุสลสฺส อสฺสาทนวเสน วตฺถุเมวฯ อฎฺฐเม ตเทวากุสลสฺส, นวเม จกฺขาทีนิ อพฺยากตสฺส, ทสเม กุสลาทโย จิตฺตสมุฎฺฐานานํ, เอกาทสเม ปฎิสนฺธิยํ วตฺถุ ขนฺธานํ, ทฺวาทสเม ปฎิสนฺธิยํ ขนฺธา กฎตฺตารูปานํ, เตรสเม ปฎิสนฺธิยํ ขนฺธา วตฺถุสฺสฯ
511-514. Vippayuttamūlakepi dumūlakaṃ uttānatthameva. Ghaṭanāni panettha terasa. Tattha paṭhame pañcāti kusalo abyākatassa, tathā akusalo, abyākato tiṇṇannampi. Ettha ca ime vippayuttādayo sahajātāpi honti, pacchājātapurejātāpi. Dutiye purejātasahajātāva tatiye teyeva adhipativasena. Tattha kusalo abyākatassa tathā akusalo, abyākato pana abyākatassa ca ārammaṇādhipativasena akusalassa cāti evaṃ cattāri. Catutthe tīṇīti kusalādīni abyākatassa. Indriyāni panettha rūpānipi arūpānipi. Pañcame paccayā arūpāva chaṭṭhe vatthuvasena rūpāva sattame kusalābyākatānaṃ vipassanāvasena, akusalassa assādanavasena vatthumeva. Aṭṭhame tadevākusalassa, navame cakkhādīni abyākatassa, dasame kusalādayo cittasamuṭṭhānānaṃ, ekādasame paṭisandhiyaṃ vatthu khandhānaṃ, dvādasame paṭisandhiyaṃ khandhā kaṭattārūpānaṃ, terasame paṭisandhiyaṃ khandhā vatthussa.
๕๑๕-๕๑๘. อตฺถิปจฺจยมูลเก อุปนิสฺสเย เอกนฺติ อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน อพฺยากตํ อกุสลสฺสฯ เสสํ ทุมูลเก อุตฺตานเมวฯ ฆฎนานิ ปเนตฺถ เอกูนติํสฯ เตสุ ปฐเม อรูปวตฺถารมฺมณมหาภูตอินฺทฺริยาหารานํ วเสน สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตปจฺจยา ลพฺภนฺติฯ ทุติเย ปจฺฉาชาตกพฬีการาหารา น ลพฺภนฺติฯ ปฐมทุติยฆฎนาเนว อธิปตินา สทฺธิํ อุปริ ตติยจตุตฺถานิ กตานิฯ ปุน ปฐมเมว จตูหิ อาหาเรหิ สทฺธิํ ปญฺจมํ, รูปินฺทฺริเยหิ สทฺธิํ ฉฎฺฐํ, รูปารูปินฺทฺริเยหิ สทฺธิํ สตฺตมํ กตํฯ ทุติยเมว วา ปน อินฺทฺริเยหิ สทฺธิํ สตฺตมํ กตํฯ ปฐมทุติยาเนว วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน สทฺธิํ อฎฺฐมนวมานิฯ เตสุ นวมํ อธิปตินา สทฺธิํ ทสมํ กตํฯ ตโต เอกาทสเม ปจฺจยวเสน วตฺถุ หายติฯ ทฺวาทสเม อรูปธมฺมาเยว ปจฺจยา, เตรสเม วตฺถารมฺมณา, จุทฺทสเม วตฺถุเมว, ปนฺนรสเม อารมฺมณเมว, โสฬสเม วตฺถุเมว อารมฺมณํ, สตฺตรสเม ปน ตเทว อารมฺมณาธิปติภาเวน, อฎฺฐารสเมปิ ตเทว อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน, เอกูนวีสติเม จกฺขาทโยว ปจฺจยาฯ อิมานิ เอกูนวีสติ ปกิณฺณกฆฎนานิ นาม สหชาตํ อคฺคเหตฺวา วุตฺตานิฯ ตโต ปรานิ ทส สหชาตวเสน วุตฺตานิฯ
515-518. Atthipaccayamūlake upanissaye ekanti ārammaṇūpanissayavasena abyākataṃ akusalassa. Sesaṃ dumūlake uttānameva. Ghaṭanāni panettha ekūnatiṃsa. Tesu paṭhame arūpavatthārammaṇamahābhūtaindriyāhārānaṃ vasena sahajātapurejātapacchājātapaccayā labbhanti. Dutiye pacchājātakabaḷīkārāhārā na labbhanti. Paṭhamadutiyaghaṭanāneva adhipatinā saddhiṃ upari tatiyacatutthāni katāni. Puna paṭhamameva catūhi āhārehi saddhiṃ pañcamaṃ, rūpindriyehi saddhiṃ chaṭṭhaṃ, rūpārūpindriyehi saddhiṃ sattamaṃ kataṃ. Dutiyameva vā pana indriyehi saddhiṃ sattamaṃ kataṃ. Paṭhamadutiyāneva vippayuttapaccayena saddhiṃ aṭṭhamanavamāni. Tesu navamaṃ adhipatinā saddhiṃ dasamaṃ kataṃ. Tato ekādasame paccayavasena vatthu hāyati. Dvādasame arūpadhammāyeva paccayā, terasame vatthārammaṇā, cuddasame vatthumeva, pannarasame ārammaṇameva, soḷasame vatthumeva ārammaṇaṃ, sattarasame pana tadeva ārammaṇādhipatibhāvena, aṭṭhārasamepi tadeva ārammaṇūpanissayavasena, ekūnavīsatime cakkhādayova paccayā. Imāni ekūnavīsati pakiṇṇakaghaṭanāni nāma sahajātaṃ aggahetvā vuttāni. Tato parāni dasa sahajātavasena vuttāni.
๕๑๙. นตฺถิวิคตมูลเกสุ อนนฺตรสมนนฺตรมูลเกสุ วิย อุปนิสฺสยาเสวนกมฺมวเสน ตีณิเยว ฆฎนานิ, อวิคตมูลกํ อตฺถิมูลกสทิสเมวาติฯ
519. Natthivigatamūlakesu anantarasamanantaramūlakesu viya upanissayāsevanakammavasena tīṇiyeva ghaṭanāni, avigatamūlakaṃ atthimūlakasadisamevāti.
ยานิ ปเนตานิ อิมสฺมิํ ปญฺหาวาเร ฆฎนานิ วุตฺตานิ, ตานิ สพฺพานิปิ ทุวิธานิเยว – ปกิณฺณกโต สหชาตโต จฯ ตตฺถ สเพฺพสมฺปิ อารมฺมณมูลกาทีนํ อาทิโต สหชาตํ อคฺคเหตฺวา วุตฺตานิ ปกิณฺณกานิ นามฯ ตานิ อารมฺมณมูลเก ปญฺจปิ, อธิปติมูลเก ฉ, อนนฺตรมูลเก ตีณิปิ, ตถา สมนนฺตรมูลเก, นิสฺสยมูลเก ทส, อุปนิสฺสยมูลเก สตฺต, ปุเรชาตมูลเก สตฺต, ปจฺฉาชาตมูลเก เอกเมว, ตถา อาเสวนมูลเก, กมฺมมูลเก เทฺว, อาหารมูลเก เอกํ, อินฺทฺริยมูลเก จตฺตาริ, วิปฺปยุตฺตมูลเก นว, อตฺถิมูลเก เอกูนวีสติ, นตฺถิมูลเก ตีณิปิ, ตถาวิคตมูลเกฯ อวิคตมูลเก เอกูนวีสตีติ สพฺพานิปิ สตเญฺจว ตีณิ จ โหนฺติฯ สหชาตนิสฺสยภาเวน ปเนตานิ ปกิณฺณกานีติ วุตฺตานิฯ
Yāni panetāni imasmiṃ pañhāvāre ghaṭanāni vuttāni, tāni sabbānipi duvidhāniyeva – pakiṇṇakato sahajātato ca. Tattha sabbesampi ārammaṇamūlakādīnaṃ ādito sahajātaṃ aggahetvā vuttāni pakiṇṇakāni nāma. Tāni ārammaṇamūlake pañcapi, adhipatimūlake cha, anantaramūlake tīṇipi, tathā samanantaramūlake, nissayamūlake dasa, upanissayamūlake satta, purejātamūlake satta, pacchājātamūlake ekameva, tathā āsevanamūlake, kammamūlake dve, āhāramūlake ekaṃ, indriyamūlake cattāri, vippayuttamūlake nava, atthimūlake ekūnavīsati, natthimūlake tīṇipi, tathāvigatamūlake. Avigatamūlake ekūnavīsatīti sabbānipi satañceva tīṇi ca honti. Sahajātanissayabhāvena panetāni pakiṇṇakānīti vuttāni.
ยานิ ปน สหชาตํ ลพฺภนฺติ, ตานิ สหชาตฆฎนานิ นามาติ วุจฺจนฺติฯ ตานิ อารมฺมณมูลเก อนนฺตรสมนนฺตรปุเรชาตปจฺฉาชาตอาเสวนนตฺถิวิคตมูลเกสุ น ลพฺภนฺติฯ น หิ เต ปจฺจยา สหชาตานํ ปจฺจยา โหนฺติฯ ยถา จ สหชาตานํ น โหนฺติ, ตถา เหตุสหชาตอญฺญมญฺญวิปากฌานมคฺคสมฺปยุตฺตปจฺจยาฯ อสหชาตานนฺติ เหตุมูลเก สพฺพานิ จตุวีสติปิ ฆฎนานิ สหชาตฆฎนาเนวฯ ตถา อธิปติมูลเก จตุวีสติ, สหชาตมูลเก ทสปิ, อญฺญมญฺญมูลเก ฉปิ, นิสฺสยมูลเก ทส, กมฺมมูลเก นว, วิปากมูลเก ปญฺจปิ, อาหารมูลเก เตตฺติํส, อินฺทฺริยมูลเก ทฺวาสตฺตติ ฌานมูลเก ฉตฺติํสาปิ, มคฺคมูลเก สตฺตปญฺญาสมฺปิ, สมฺปยุตฺตมูลเก เทฺวปิ, วิปฺปยุตฺตมูลเก จตฺตาริ, อตฺถิมูลเก ทส, อวิคตมูลเก ทสาติ สพฺพานิปิ ตีณิ สตานิ ทฺวาทส จ โหนฺติฯ อิติ ปุริมานิ สตํ ตีณิ จ อิมานิ จ ทฺวาทสุตฺตรานิ ตีณิ สตานีติ สพฺพานิปิ ปญฺจทสาธิกานิ จตฺตาริ ฆฎนสตานิ ปญฺหาวาเร อาคตานิฯ เตสุ เย เย ปจฺจยธมฺมา นามวเสน น ปากฎา หุตฺวา ปญฺญายนฺติ, เตปิ เหตุมูลกาทีนํ นยานํ อาทิโต วิปากาวิปากสามญฺญโต วุเตฺตสุ ฆฎเนสุ ทเสฺสตพฺพาฯ ทฺวาทเสว หิ เหตู ฉ อารมฺมณา จตฺตาโร อธิปตโย จตฺตาโร อาหารา วีสติ อินฺทฺริยานิ สตฺต ฌานงฺคานิ ทฺวาทส มคฺคงฺคานีติ เอเต ปจฺจยธมฺมา นามฯ เตสุ เย เย ธมฺมา เอกเนฺตน กุสลา, เอกเนฺตเนว อกุสลา, เอกเนฺตน กุสลวิปากา, เอกเนฺตเนวากุสลวิปากา, เอกเนฺตเนว วิปากา, เอกเนฺตเนว อวิปากา เต เต สาธุกํ สลฺลเกฺขตฺวา เย ตตฺถ วิปากา, เต วิปากฆฎเนสุ, เย อวิปากา, เต อวิปากฆฎเนสุ ยถาโยคํ โยเชตพฺพาติฯ
Yāni pana sahajātaṃ labbhanti, tāni sahajātaghaṭanāni nāmāti vuccanti. Tāni ārammaṇamūlake anantarasamanantarapurejātapacchājātaāsevananatthivigatamūlakesu na labbhanti. Na hi te paccayā sahajātānaṃ paccayā honti. Yathā ca sahajātānaṃ na honti, tathā hetusahajātaaññamaññavipākajhānamaggasampayuttapaccayā. Asahajātānanti hetumūlake sabbāni catuvīsatipi ghaṭanāni sahajātaghaṭanāneva. Tathā adhipatimūlake catuvīsati, sahajātamūlake dasapi, aññamaññamūlake chapi, nissayamūlake dasa, kammamūlake nava, vipākamūlake pañcapi, āhāramūlake tettiṃsa, indriyamūlake dvāsattati jhānamūlake chattiṃsāpi, maggamūlake sattapaññāsampi, sampayuttamūlake dvepi, vippayuttamūlake cattāri, atthimūlake dasa, avigatamūlake dasāti sabbānipi tīṇi satāni dvādasa ca honti. Iti purimāni sataṃ tīṇi ca imāni ca dvādasuttarāni tīṇi satānīti sabbānipi pañcadasādhikāni cattāri ghaṭanasatāni pañhāvāre āgatāni. Tesu ye ye paccayadhammā nāmavasena na pākaṭā hutvā paññāyanti, tepi hetumūlakādīnaṃ nayānaṃ ādito vipākāvipākasāmaññato vuttesu ghaṭanesu dassetabbā. Dvādaseva hi hetū cha ārammaṇā cattāro adhipatayo cattāro āhārā vīsati indriyāni satta jhānaṅgāni dvādasa maggaṅgānīti ete paccayadhammā nāma. Tesu ye ye dhammā ekantena kusalā, ekanteneva akusalā, ekantena kusalavipākā, ekantenevākusalavipākā, ekanteneva vipākā, ekanteneva avipākā te te sādhukaṃ sallakkhetvā ye tattha vipākā, te vipākaghaṭanesu, ye avipākā, te avipākaghaṭanesu yathāyogaṃ yojetabbāti.
ปญฺหาวารสฺส ฆฎเน อนุโลมคณนาฯ
Pañhāvārassa ghaṭane anulomagaṇanā.
ปจฺจนียุทฺธารวณฺณนา
Paccanīyuddhāravaṇṇanā
๕๒๗. อิทานิ ปจฺจนียํ โหติฯ ตตฺถ ยถา ปฎิจฺจ วาราทีสุ ‘‘อกุสลํ ธมฺมํ ปฎิจฺจ อกุสโล ธโมฺม อุปฺปชฺชติ นเหตุปจฺจยา’’ติอาทินา นเยน ลพฺภมานา ปญฺหา ลพฺภมานานํ ปจฺจยานํ วเสน สรูปโตว วิตฺถาริตาฯ เอวํ อวิตฺถาเรตฺวา เอเกน ลกฺขเณน สเงฺขปโต ปจฺจนียํ ทเสฺสตุํ ธมฺมสงฺคาหเกหิ กุสโล ธโมฺม กุสลสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโยติอาทินา นเยน อนุโลมโต กุสลาทีนํ ปจฺจยา อุทฺธฎาฯ เต จ โข ปจฺจยา สมูหวเสน, โน เอเกกปจฺจยวเสเนว; ตสฺมา เย ยตฺถ สมูหโต ทสฺสิตา, เต วิภชิตฺวา เวทิตพฺพาฯ สเพฺพปิ หิ อิเม จตุวีสติ ปจฺจยา อฎฺฐสุ ปจฺจเยสุ สงฺคหํ คจฺฉนฺติฯ กตเรสุ อฎฺฐสุ? อารมฺมเณ, สหชาเต, อุปนิสฺสเย, ปุเรชาเต, ปจฺฉาชาเต, กเมฺม, อาหาเร, อินฺทฺริเยติฯ กถํ? ฐเปตฺวา หิ อิเม อฎฺฐ ปจฺจเย เสเสสุ โสฬสสุ เหตุปจฺจโย อญฺญมญฺญวิปากฌานมคฺคสมฺปยุตฺตปจฺจโยติ อิเม ฉ ปจฺจยา เอกเนฺตน สหชาตา หุตฺวา สหชาตานเญฺญว ปจฺจยภาวโต สหชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติฯ อนนฺตรปจฺจโย สมนนฺตรอาเสวนนตฺถิวิคตปจฺจโยติ อิเม ปน ปญฺจ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธา อตฺตโน อนนฺตรํ อุปฺปชฺชมานานเญฺญว ปจฺจยภาวโต อนนฺตรูปนิสฺสยลกฺขเณน อุปนิสฺสเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติฯ นิสฺสยปจฺจโย สหชาตปุเรชาตเภทโต ทุวิโธฯ ตตฺถ สหชาตนิสฺสโย สหชาตานเญฺญว นิสฺสยปจฺจยภาวโต สหชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉติ, ปุเรชาตนิสฺสโย ปุเรชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉติฯ
527. Idāni paccanīyaṃ hoti. Tattha yathā paṭicca vārādīsu ‘‘akusalaṃ dhammaṃ paṭicca akusalo dhammo uppajjati nahetupaccayā’’tiādinā nayena labbhamānā pañhā labbhamānānaṃ paccayānaṃ vasena sarūpatova vitthāritā. Evaṃ avitthāretvā ekena lakkhaṇena saṅkhepato paccanīyaṃ dassetuṃ dhammasaṅgāhakehi kusalo dhammo kusalassa dhammassa ārammaṇapaccayena paccayotiādinā nayena anulomato kusalādīnaṃ paccayā uddhaṭā. Te ca kho paccayā samūhavasena, no ekekapaccayavaseneva; tasmā ye yattha samūhato dassitā, te vibhajitvā veditabbā. Sabbepi hi ime catuvīsati paccayā aṭṭhasu paccayesu saṅgahaṃ gacchanti. Kataresu aṭṭhasu? Ārammaṇe, sahajāte, upanissaye, purejāte, pacchājāte, kamme, āhāre, indriyeti. Kathaṃ? Ṭhapetvā hi ime aṭṭha paccaye sesesu soḷasasu hetupaccayo aññamaññavipākajhānamaggasampayuttapaccayoti ime cha paccayā ekantena sahajātā hutvā sahajātānaññeva paccayabhāvato sahajātapaccaye saṅgahaṃ gacchanti. Anantarapaccayo samanantaraāsevananatthivigatapaccayoti ime pana pañca uppajjitvā niruddhā attano anantaraṃ uppajjamānānaññeva paccayabhāvato anantarūpanissayalakkhaṇena upanissaye saṅgahaṃ gacchanti. Nissayapaccayo sahajātapurejātabhedato duvidho. Tattha sahajātanissayo sahajātānaññeva nissayapaccayabhāvato sahajātapaccaye saṅgahaṃ gacchati, purejātanissayo purejātapaccaye saṅgahaṃ gacchati.
อธิปติปจฺจโยปิ สหชาตาธิปติอารมฺมณาธิปติวเสน ทุวิโธฯ ตตฺถ สหชาตาธิปติ สหชาตานํเยว อธิปติปจฺจยภาวโต สหชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉติฯ อารมฺมณาธิปติ อารมฺมณูปนิสฺสโย โหติเยวาติ อารมฺมณูปนิสฺสยลกฺขเณน อุปนิสฺสยปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉติฯ วิปฺปยุตฺตปจฺจโย สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตเภทโต ติวิโธฯ ตตฺถ สหชาตวิปฺปยุโตฺต สหชาตานเญฺญว วิปฺปยุตฺตปจฺจยภาวโต สหชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉติฯ ปุเรชาตวิปฺปยุโตฺต ปุเร อุปฺปชฺชิตฺวา ปจฺฉา อุปฺปชฺชมานานํ ปจฺจยภาวโต ปุเรชาเต สงฺคหิโตฯ ปจฺฉาชาตวิปฺปยุโตฺต ปจฺฉา อุปฺปชฺชิตฺวา ปุเร อุปฺปนฺนานํ อุปตฺถมฺภนวเสน ปจฺจยภาวโต ปจฺฉาชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉติฯ อตฺถิปจฺจยอวิคตปจฺจยา สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตอาหารินฺทฺริยานเญฺจว อตฺถิอวิคเตสุ จ เอเกกสฺส วเสน ฉหิ เภเทหิ ฐิตาฯ ตตฺถ สหชาตอตฺถิอวิคตา สหชาตานเญฺญว อตฺถิอวิคตปจฺจยภาวโตฯ สหชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติฯ ปุเรชาตา ปุเร อุปฺปชฺชิตฺวา ปจฺฉา อุปฺปชฺชมานานํ ปจฺจยภาวโต ปุเรชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติฯ ปจฺฉาชาตา ปจฺฉา อุปฺปชฺชิตฺวา ปุเร อุปฺปนฺนานํ อุปตฺถมฺภนวเสน ปจฺจยภาวโต ปจฺฉาชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติฯ อาหารภูตา กพฬีการาหารปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉนฺติฯ อินฺทฺริยภูตา รูปชีวิตินฺทฺริยปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ เอวํ อิเม โสฬส ปจฺจยา อิเมสุ อฎฺฐสุ ปจฺจเยสุ สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ เวทิตพฺพาฯ
Adhipatipaccayopi sahajātādhipatiārammaṇādhipativasena duvidho. Tattha sahajātādhipati sahajātānaṃyeva adhipatipaccayabhāvato sahajātapaccaye saṅgahaṃ gacchati. Ārammaṇādhipati ārammaṇūpanissayo hotiyevāti ārammaṇūpanissayalakkhaṇena upanissayapaccaye saṅgahaṃ gacchati. Vippayuttapaccayo sahajātapurejātapacchājātabhedato tividho. Tattha sahajātavippayutto sahajātānaññeva vippayuttapaccayabhāvato sahajātapaccaye saṅgahaṃ gacchati. Purejātavippayutto pure uppajjitvā pacchā uppajjamānānaṃ paccayabhāvato purejāte saṅgahito. Pacchājātavippayutto pacchā uppajjitvā pure uppannānaṃ upatthambhanavasena paccayabhāvato pacchājātapaccaye saṅgahaṃ gacchati. Atthipaccayaavigatapaccayā sahajātapurejātapacchājātaāhārindriyānañceva atthiavigatesu ca ekekassa vasena chahi bhedehi ṭhitā. Tattha sahajātaatthiavigatā sahajātānaññeva atthiavigatapaccayabhāvato. Sahajātapaccaye saṅgahaṃ gacchanti. Purejātā pure uppajjitvā pacchā uppajjamānānaṃ paccayabhāvato purejātapaccaye saṅgahaṃ gacchanti. Pacchājātā pacchā uppajjitvā pure uppannānaṃ upatthambhanavasena paccayabhāvato pacchājātapaccaye saṅgahaṃ gacchanti. Āhārabhūtā kabaḷīkārāhārapaccaye saṅgahaṃ gacchanti. Indriyabhūtā rūpajīvitindriyapaccaye saṅgahaṃ gacchantīti evaṃ ime soḷasa paccayā imesu aṭṭhasu paccayesu saṅgahaṃ gacchantīti veditabbā.
อิเมสมฺปิ ปน อฎฺฐนฺนํ ปจฺจยานํ อญฺญมญฺญํ สงฺคโห อตฺถิเยวฯ อาทิโต นิทฺทิโฎฺฐ หิ อารมฺมณปจฺจโย อธิปติอนธิปติเภเทน ทุวิโธฯ ตตฺถ อธิปติภูโต อารมฺมณูปนิสฺสยลกฺขเณน อุปนิสฺสเย สงฺคหํ คจฺฉติฯ อนธิปติภูโต สุโทฺธ อารมฺมณปจฺจโยวฯ กมฺมปจฺจโยปิ สหชาตนานากฺขณิกวเสน ทุวิโธฯ ตตฺถ สหชาตกมฺมํ อตฺตนา สหชาตานเญฺญว กมฺมปจฺจยภาวโต สหชาเตเยว สงฺคหํ คจฺฉติฯ นานากฺขณิกกมฺมํ พลวทุพฺพลวเสน ทุวิธํฯ ตตฺถ พลวกมฺมํ วิปากธมฺมานํ อุปนิสฺสโยว หุตฺวา ปจฺจโย โหตีติ อุปนิสฺสเย สงฺคหํ คจฺฉติฯ พลวมฺปิ ปน รูปานํ ทุพฺพลญฺจ อรูปานํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจเยเนว ปจฺจโยฯ อาหารปจฺจโยปิ รูปารูปโต ทุวิโธฯ ตตฺถ อรูปาหาโร อตฺตนา สหชาตานเญฺญว ปจฺจโย โหตีติ สหชาตปจฺจเย สงฺคหํ คจฺฉติฯ รูปาหาโร สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตานํ ปจฺจโย น โหติฯ อตฺตโน ปน อุปฺปาทกฺขณํ อติกฺกมิตฺวา ฐิติปฺปโตฺต อาหารปจฺจยตํ สาเธตีติ อาหารปจฺจโยว โหติฯ อินฺทฺริยปจฺจโยปิ รูปารูปโต ทุวิโธฯ ตตฺถ อรูปินฺทฺริยปจฺจโย อตฺตนา สหชาตานเญฺญว อินฺทฺริยปจฺจยตํ สาเธตีติ สหชาเตเยว สงฺคหํ คจฺฉติฯ รูปินฺทฺริยปจฺจโย ปน อชฺฌตฺตพหิทฺธาเภทโต ทุวิโธฯ ตตฺถ อชฺฌตฺตํ อินฺทฺริยปจฺจโย ปุเร อุปฺปชฺชิตฺวา ปจฺฉา อุปฺปชฺชมานานํ สสมฺปยุตฺตธมฺมานํ จกฺขุวิญฺญาณาทีนํ อินฺทฺริยปจฺจโย โหตีติ ปุเรชาเตเยว สงฺคหํ คจฺฉติฯ พาหิโร อินฺทฺริยปจฺจโย นาม รูปชีวิตินฺทฺริยํ, ตํ สหชาตานํ ปจฺจโย โหนฺตมฺปิ อนุปาลนมตฺตวเสเนว โหติ, น ชนกวเสนาติ อินฺทฺริยปจฺจโยว โหติฯ เอวํ อิเม อฎฺฐ ปจฺจยา อญฺญมญฺญมฺปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ เวทิตพฺพาฯ อยํ ตาว อฎฺฐสุ ปจฺจเยสุ อวเสสานํ โสฬสนฺนเญฺจว เตสํเยว จ อฎฺฐนฺนํ อญฺญมญฺญวเสน สงฺคหนโยฯ
Imesampi pana aṭṭhannaṃ paccayānaṃ aññamaññaṃ saṅgaho atthiyeva. Ādito niddiṭṭho hi ārammaṇapaccayo adhipatianadhipatibhedena duvidho. Tattha adhipatibhūto ārammaṇūpanissayalakkhaṇena upanissaye saṅgahaṃ gacchati. Anadhipatibhūto suddho ārammaṇapaccayova. Kammapaccayopi sahajātanānākkhaṇikavasena duvidho. Tattha sahajātakammaṃ attanā sahajātānaññeva kammapaccayabhāvato sahajāteyeva saṅgahaṃ gacchati. Nānākkhaṇikakammaṃ balavadubbalavasena duvidhaṃ. Tattha balavakammaṃ vipākadhammānaṃ upanissayova hutvā paccayo hotīti upanissaye saṅgahaṃ gacchati. Balavampi pana rūpānaṃ dubbalañca arūpānaṃ nānākkhaṇikakammapaccayeneva paccayo. Āhārapaccayopi rūpārūpato duvidho. Tattha arūpāhāro attanā sahajātānaññeva paccayo hotīti sahajātapaccaye saṅgahaṃ gacchati. Rūpāhāro sahajātapurejātapacchājātānaṃ paccayo na hoti. Attano pana uppādakkhaṇaṃ atikkamitvā ṭhitippatto āhārapaccayataṃ sādhetīti āhārapaccayova hoti. Indriyapaccayopi rūpārūpato duvidho. Tattha arūpindriyapaccayo attanā sahajātānaññeva indriyapaccayataṃ sādhetīti sahajāteyeva saṅgahaṃ gacchati. Rūpindriyapaccayo pana ajjhattabahiddhābhedato duvidho. Tattha ajjhattaṃ indriyapaccayo pure uppajjitvā pacchā uppajjamānānaṃ sasampayuttadhammānaṃ cakkhuviññāṇādīnaṃ indriyapaccayo hotīti purejāteyeva saṅgahaṃ gacchati. Bāhiro indriyapaccayo nāma rūpajīvitindriyaṃ, taṃ sahajātānaṃ paccayo hontampi anupālanamattavaseneva hoti, na janakavasenāti indriyapaccayova hoti. Evaṃ ime aṭṭha paccayā aññamaññampi saṅgahaṃ gacchantīti veditabbā. Ayaṃ tāva aṭṭhasu paccayesu avasesānaṃ soḷasannañceva tesaṃyeva ca aṭṭhannaṃ aññamaññavasena saṅgahanayo.
อิทานิ อิเมสํ อฎฺฐนฺนํ ปจฺจยานํ เอเกกสฺมิํ จตุวีสติยาปิ ปจฺจเยสุ เย เย สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, เต เต เวทิตพฺพาฯ ตตฺถ อฎฺฐนฺนํ ตาว สพฺพปฐเม อารมฺมณปจฺจเย อารมฺมณปจฺจโยว สงฺคหํ คจฺฉติ, น เสสา เตวีสติฯ ทุติเย สหชาตปจฺจเย เหตุปจฺจโย สหชาตาธิปติปจฺจโย สหชาตปจฺจโย อญฺญมญฺญปจฺจโย สหชาตนิสฺสยปจฺจโย สหชาตกมฺมปจฺจโย วิปากปจฺจโย สหชาตอาหารปจฺจโย สหชาตอินฺทฺริยปจฺจโย ฌานปจฺจโย มคฺคปจฺจโย สมฺปยุตฺตปจฺจโย สหชาตวิปฺปยุตฺตปจฺจโย สหชาตตฺถิปจฺจโย สหชาตาวิคตปจฺจโยติ อิเม ปนฺนรส ปจฺจยา สงฺคหํ คจฺฉนฺติฯ ตติเย อุปนิสฺสยปจฺจเย อธิปติภูโต อารมฺมณปจฺจโย อารมฺมณภูโต อธิปติปจฺจโย อนนฺตรสมนนฺตรอุปนิสฺสยอาเสวนปจฺจยา นานากฺขณิโก พลวกมฺมปจฺจโย นตฺถิปจฺจโย วิคตปจฺจโยติ อิเม นว ปจฺจยา สงฺคหํ คจฺฉนฺติฯ จตุเตฺถ ปุเรชาตปจฺจเย ปุเรชาตนิสฺสยปจฺจโย ปุเรชาตปจฺจโย ปุเรชาตินฺทฺริยปจฺจโย ปุเรชาตวิปฺปยุตฺตปจฺจโย ปุเรชาตตฺถิปจฺจโย ปุเรชาตาวิคตปจฺจโยติ อิเม ฉ ปจฺจยา สงฺคหํ คจฺฉนฺติฯ ปญฺจเม ปจฺฉาชาตปจฺจเย ปจฺฉาชาตปจฺจโย ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตปจฺจโย ปจฺฉาชาตตฺถิปจฺจโย ปจฺฉาชาตาวิคตปจฺจโยติ อิเม จตฺตาโร ปจฺจยา สงฺคหํ คจฺฉนฺติฯ ฉเฎฺฐ กมฺมปจฺจเย นานากฺขณิกกมฺมปจฺจโยว สงฺคหิโตฯ สตฺตเม อาหารปจฺจเย กพฬีการาหารวเสเนว อาหารปจฺจโย อาหารตฺถิปจฺจโย อาหาราวิคตปจฺจโยติ อิเม ตโย ปจฺจยา สงฺคหิตาฯ อฎฺฐเม อินฺทฺริยปจฺจเย รูปชีวิตินฺทฺริยปจฺจโย อินฺทฺริยตฺถิปจฺจโย อินฺทฺริยาวิคตปจฺจโยติ อิเม ตโย ปจฺจยา สงฺคหํ คจฺฉนฺติฯ เอวํ อิเมสํ อฎฺฐนฺนํ ปจฺจยานํ เอเกกสฺมิํ อิเม จิเม จ ปจฺจยา สงฺคหํ คตาติ ญตฺวา เย ยตฺถ สงฺคหํ คตา, เต ตสฺส คณเนน คหิตาว โหนฺตีติ เวทิตพฺพาฯ
Idāni imesaṃ aṭṭhannaṃ paccayānaṃ ekekasmiṃ catuvīsatiyāpi paccayesu ye ye saṅgahaṃ gacchanti, te te veditabbā. Tattha aṭṭhannaṃ tāva sabbapaṭhame ārammaṇapaccaye ārammaṇapaccayova saṅgahaṃ gacchati, na sesā tevīsati. Dutiye sahajātapaccaye hetupaccayo sahajātādhipatipaccayo sahajātapaccayo aññamaññapaccayo sahajātanissayapaccayo sahajātakammapaccayo vipākapaccayo sahajātaāhārapaccayo sahajātaindriyapaccayo jhānapaccayo maggapaccayo sampayuttapaccayo sahajātavippayuttapaccayo sahajātatthipaccayo sahajātāvigatapaccayoti ime pannarasa paccayā saṅgahaṃ gacchanti. Tatiye upanissayapaccaye adhipatibhūto ārammaṇapaccayo ārammaṇabhūto adhipatipaccayo anantarasamanantaraupanissayaāsevanapaccayā nānākkhaṇiko balavakammapaccayo natthipaccayo vigatapaccayoti ime nava paccayā saṅgahaṃ gacchanti. Catutthe purejātapaccaye purejātanissayapaccayo purejātapaccayo purejātindriyapaccayo purejātavippayuttapaccayo purejātatthipaccayo purejātāvigatapaccayoti ime cha paccayā saṅgahaṃ gacchanti. Pañcame pacchājātapaccaye pacchājātapaccayo pacchājātavippayuttapaccayo pacchājātatthipaccayo pacchājātāvigatapaccayoti ime cattāro paccayā saṅgahaṃ gacchanti. Chaṭṭhe kammapaccaye nānākkhaṇikakammapaccayova saṅgahito. Sattame āhārapaccaye kabaḷīkārāhāravaseneva āhārapaccayo āhāratthipaccayo āhārāvigatapaccayoti ime tayo paccayā saṅgahitā. Aṭṭhame indriyapaccaye rūpajīvitindriyapaccayo indriyatthipaccayo indriyāvigatapaccayoti ime tayo paccayā saṅgahaṃ gacchanti. Evaṃ imesaṃ aṭṭhannaṃ paccayānaṃ ekekasmiṃ ime cime ca paccayā saṅgahaṃ gatāti ñatvā ye yattha saṅgahaṃ gatā, te tassa gaṇanena gahitāva hontīti veditabbā.
เอวํ สพฺพปจฺจยสงฺคาหกานํ อิเมสํ อฎฺฐนฺนํ ปจฺจยานํ วเสน เอกูนปญฺญาสาย ปเญฺหสุ อิมสฺมิํ ปจฺจนีเย ‘‘กุสโล ธโมฺม กุสลสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทโย อิเม ปนฺนรส ปญฺหา อุทฺธริตฺวา วิสฺสชฺชิตาฯ ตตฺถ กุสโล กุสลสฺส, กุสโล อกุสลสฺส, กุสโล อพฺยากตสฺส, กุสโล กุสลาพฺยากตสฺสาติ กุสลาทิกา จตฺตาโร ปญฺหา; ตถา อกุสลาทิกา; อพฺยากโต ปน อพฺยากตสฺส, อพฺยากโต กุสลสฺส, อพฺยากโต อกุสลสฺสาติ อพฺยากตาทิกา ตโย; กุสโล จ อพฺยากโต จ กุสลสฺส; ตถา อพฺยากตสฺส; อกุสโล จ อพฺยากโต จ อกุสลสฺส; ตถา อพฺยากตสฺสาติ ทุมูลเกกาวสานา จตฺตาโร โหนฺติฯ เตสุ ปฐเม ปเญฺห เยหิ ภวิตพฺพํ, เต สเพฺพ สงฺคเหตฺวา ตโย ปจฺจยา วุตฺตาฯ ทุติเย เทฺว, ตติเย ปญฺจ, จตุเตฺถ เอโกว ปญฺจเม ตโย, ฉเฎฺฐ เทฺว, สตฺตเม ปญฺจ, อฎฺฐเม เอโกว นวเม สตฺต, ทสเม ตโย, เอกาทสเม ตโย, ทฺวาทสเม เทฺว, เตรสเม จตฺตาโร, จุทฺทสเม เทฺว, ปนฺนรสเมปิ จตฺตาโรวฯ เต ‘‘สหชาตปจฺจเยนา’’ติ อวตฺวา ‘‘สหชาตํ ปจฺฉาชาต’’นฺติ วุตฺตาฯ ตตฺถ การณํ ปรโต วกฺขามฯ
Evaṃ sabbapaccayasaṅgāhakānaṃ imesaṃ aṭṭhannaṃ paccayānaṃ vasena ekūnapaññāsāya pañhesu imasmiṃ paccanīye ‘‘kusalo dhammo kusalassa dhammassa ārammaṇapaccayena paccayo’’tiādayo ime pannarasa pañhā uddharitvā vissajjitā. Tattha kusalo kusalassa, kusalo akusalassa, kusalo abyākatassa, kusalo kusalābyākatassāti kusalādikā cattāro pañhā; tathā akusalādikā; abyākato pana abyākatassa, abyākato kusalassa, abyākato akusalassāti abyākatādikā tayo; kusalo ca abyākato ca kusalassa; tathā abyākatassa; akusalo ca abyākato ca akusalassa; tathā abyākatassāti dumūlakekāvasānā cattāro honti. Tesu paṭhame pañhe yehi bhavitabbaṃ, te sabbe saṅgahetvā tayo paccayā vuttā. Dutiye dve, tatiye pañca, catutthe ekova pañcame tayo, chaṭṭhe dve, sattame pañca, aṭṭhame ekova navame satta, dasame tayo, ekādasame tayo, dvādasame dve, terasame cattāro, cuddasame dve, pannarasamepi cattārova. Te ‘‘sahajātapaccayenā’’ti avatvā ‘‘sahajātaṃ pacchājāta’’nti vuttā. Tattha kāraṇaṃ parato vakkhāma.
สมาสโต ปเนตฺถ เอโก เทฺว ตโย จตฺตาโร ปญฺจ สตฺตาติ ฉเฬว ปจฺจยปริเจฺฉทา โหนฺติฯ อยํ ปญฺหาวารสฺส ปจฺจนีเย อุกฺกฎฺฐวเสน ปญฺหาปริเจฺฉโท เจว เต เต ปจฺจเย สงฺคเหตฺวา ทสฺสิตปจฺจยปริเจฺฉโท จฯ ‘‘น เหตุปจฺจโย’’ติอาทีสุ หิ จตุวีสติยาปิ ปจฺจยปจฺจนีเยสุ เอกปจฺจนีเยปิ อิโต อุทฺธํ ปญฺหา วา ปจฺจยา วา น ลพฺภนฺติ, เหฎฺฐา ลพฺภนฺติฯ ตสฺมา เยสุ ปเญฺหสุ ‘‘กุสโล ธโมฺม กุสลสฺส จ อพฺยากตสฺส จ ธมฺมสฺส สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอวํ เอโกว ปจฺจโย อาคโต, ตสฺมิํ ปจฺจเย ปฎิกฺขิเตฺต เต ปญฺหา ปริหายนฺติฯ ยสฺมิํ ปน ปเญฺห ‘‘กุสโล ธโมฺม อกุสลสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอวํ เทฺว ปจฺจยา อาคตาฯ ตตฺถ นารมฺมณปจฺจยาติ เอวํ เอกสฺมิํ ปจฺจเย ปฎิกฺขิเตฺตปิ อิตรสฺส ปจฺจยสฺส วเสน โส ปโญฺห ลพฺภเตวฯ เตสุ ปน ทฺวีสุปิ ปจฺจเยสุ ปฎิกฺขิเตฺตสุ โส วาโร ปจฺฉิชฺชติฯ เอวเมว เยสุ ปเญฺหสุ ตโย จตฺตาโร ปญฺจ สตฺต วา ลพฺภนฺติ, เตสุ ฐเปตฺวา ปฎิกฺขิเตฺต ปจฺจเย อวเสสานํ วเสน เต ปญฺหา ลพฺภนฺติเยวฯ สเพฺพสุ ปน ปจฺจเยสุ ปฎิกฺขิเตฺตสุ สเพฺพปิ เต วารา ปจฺฉิชฺชนฺตีติ อิทเมว เจตฺถ ลกฺขณํฯ อิมินา ลกฺขเณน อาทิโต ปฎฺฐาย เตสุ เตสุ ปเญฺหสุ สงฺขิปิตฺวา วุตฺตปจฺจยานํ ปเภโท จ ตสฺมิํ ตสฺมิํ ปจฺจนีเย เตสํ เตสํ ปญฺหานํ ปริหานิ จ เวทิตพฺพาฯ
Samāsato panettha eko dve tayo cattāro pañca sattāti chaḷeva paccayaparicchedā honti. Ayaṃ pañhāvārassa paccanīye ukkaṭṭhavasena pañhāparicchedo ceva te te paccaye saṅgahetvā dassitapaccayaparicchedo ca. ‘‘Na hetupaccayo’’tiādīsu hi catuvīsatiyāpi paccayapaccanīyesu ekapaccanīyepi ito uddhaṃ pañhā vā paccayā vā na labbhanti, heṭṭhā labbhanti. Tasmā yesu pañhesu ‘‘kusalo dhammo kusalassa ca abyākatassa ca dhammassa sahajātapaccayena paccayo’’ti evaṃ ekova paccayo āgato, tasmiṃ paccaye paṭikkhitte te pañhā parihāyanti. Yasmiṃ pana pañhe ‘‘kusalo dhammo akusalassa dhammassa ārammaṇapaccayena paccayo upanissayapaccayena paccayo’’ti evaṃ dve paccayā āgatā. Tattha nārammaṇapaccayāti evaṃ ekasmiṃ paccaye paṭikkhittepi itarassa paccayassa vasena so pañho labbhateva. Tesu pana dvīsupi paccayesu paṭikkhittesu so vāro pacchijjati. Evameva yesu pañhesu tayo cattāro pañca satta vā labbhanti, tesu ṭhapetvā paṭikkhitte paccaye avasesānaṃ vasena te pañhā labbhantiyeva. Sabbesu pana paccayesu paṭikkhittesu sabbepi te vārā pacchijjantīti idameva cettha lakkhaṇaṃ. Iminā lakkhaṇena ādito paṭṭhāya tesu tesu pañhesu saṅkhipitvā vuttapaccayānaṃ pabhedo ca tasmiṃ tasmiṃ paccanīye tesaṃ tesaṃ pañhānaṃ parihāni ca veditabbā.
ตตฺรายํ วิตฺถารกถา – ปฐมปเญฺห ตาว ตีหิ ปจฺจเยหิ เอกูนวีสติ ปจฺจยา ทสฺสิตาฯ กถํ? กุสโล หิ กุสลสฺส ปุเรชาตปจฺฉาชาตวิปากวิปฺปยุเตฺตเหว ปจฺจโย น โหติ , เสเสหิ วีสติยา โหติ, เตสุ อารมฺมณปจฺจโย เอโกว สหชาเต ปน สพฺพสงฺคาหิกวเสน ปนฺนรส ปจฺจยา สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ วุตฺตาฯ เตสุ เหตุปจฺจเย ปฎิกฺขิเตฺต จุทฺทส โหนฺติฯ กุสโล ปน กุสลสฺส เนว วิปากปจฺจโย น, วิปฺปยุตฺตปจฺจโยติ เต เทฺว อปเนตฺวา เสเส ทฺวาทส สนฺธาย สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโยติ วุตฺตํฯ อุปนิสฺสยปจฺจเยปิ สพฺพสงฺคาหิกวเสน นว ปจฺจยา สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ วุตฺตาฯ เตสุ อธิปติภูโต อารมฺมณปจฺจโย อารมฺมณภูโต จ อธิปติปจฺจโย อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน อุปนิสฺสยเมว อนุปวิโฎฺฐฯ กุสโล ปน กุสลสฺส นานากฺขณิกกมฺมปจฺจโย น โหตีติ ตํ อปเนตฺวา เสเส ฉ สนฺธาย อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโยติ วุตฺตํฯ เอวํ ปฐมปเญฺห ตีหิ ปจฺจเยหิ เอกูนวีสติปจฺจยา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพาฯ เตสุ อิมสฺมิํ เหตุปจฺจนีเย ‘‘กุสโล ธโมฺม กุสลสฺส ธมฺมสฺส นเหตุปจฺจเยน ปจฺจโยติ ทานํ ทตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ตํ ปจฺจเวกฺขติ, ปุเพฺพ สุจิณฺณานิ ปจฺจเวกฺขตี’’ติ เอวมาทินา อารมฺมณปจฺจยาทีสุ วุตฺตนเยเนว อุทฺธริตฺวา ปาฬิ ทเสฺสตพฺพาฯ
Tatrāyaṃ vitthārakathā – paṭhamapañhe tāva tīhi paccayehi ekūnavīsati paccayā dassitā. Kathaṃ? Kusalo hi kusalassa purejātapacchājātavipākavippayutteheva paccayo na hoti , sesehi vīsatiyā hoti, tesu ārammaṇapaccayo ekova sahajāte pana sabbasaṅgāhikavasena pannarasa paccayā saṅgahaṃ gacchantīti vuttā. Tesu hetupaccaye paṭikkhitte cuddasa honti. Kusalo pana kusalassa neva vipākapaccayo na, vippayuttapaccayoti te dve apanetvā sese dvādasa sandhāya sahajātapaccayena paccayoti vuttaṃ. Upanissayapaccayepi sabbasaṅgāhikavasena nava paccayā saṅgahaṃ gacchantīti vuttā. Tesu adhipatibhūto ārammaṇapaccayo ārammaṇabhūto ca adhipatipaccayo ārammaṇūpanissayavasena upanissayameva anupaviṭṭho. Kusalo pana kusalassa nānākkhaṇikakammapaccayo na hotīti taṃ apanetvā sese cha sandhāya upanissayapaccayena paccayoti vuttaṃ. Evaṃ paṭhamapañhe tīhi paccayehi ekūnavīsatipaccayā dassitāti veditabbā. Tesu imasmiṃ hetupaccanīye ‘‘kusalo dhammo kusalassa dhammassa nahetupaccayena paccayoti dānaṃ datvā sīlaṃ samādiyitvā uposathakammaṃ katvā taṃ paccavekkhati, pubbe suciṇṇāni paccavekkhatī’’ti evamādinā ārammaṇapaccayādīsu vuttanayeneva uddharitvā pāḷi dassetabbā.
อารมฺมณปจฺจเย ปน ปฎิกฺขิเตฺต ตสฺส วิตฺถารํ อปเนตฺวา เหตุปจฺจยวิตฺถารํ ปกฺขิปิตฺวา สาเยว ปาฬิ ทเสฺสตพฺพา, เสสปจฺจยปฎิเกฺขเปสุปิ เอเสว นโยฯ ตสฺมิํ ปน ปจฺจเย ปฎิกฺขิเตฺต เย วารา ปริหายนฺติ, เต ปรโต วกฺขามฯ
Ārammaṇapaccaye pana paṭikkhitte tassa vitthāraṃ apanetvā hetupaccayavitthāraṃ pakkhipitvā sāyeva pāḷi dassetabbā, sesapaccayapaṭikkhepesupi eseva nayo. Tasmiṃ pana paccaye paṭikkhitte ye vārā parihāyanti, te parato vakkhāma.
ทุติยปเญฺห ปน ทฺวีหิ ปจฺจเยหิ ตโย ปจฺจยา ทสฺสิตาฯ กถํ? กุสโล หิ อกุสลสฺส อนนฺตราทิวเสน ปจฺจโย น โหติฯ ตสฺมา เต อปเนตฺวา อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน สงฺคหิตํ อารมฺมณาธิปติเญฺจว ปกตูปนิสฺสยญฺจ สนฺธาย อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโยติ วุตฺตํฯ ตสฺมา สุโทฺธ อารมฺมณปจฺจโย อารมฺมณาธิปติวเสน อธิปติปจฺจโย อุปนิสฺสยปจฺจโยติ ทุติยปเญฺห ทฺวีหิ ปจฺจเยหิ อิเม ตโย ปจฺจยา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพาฯ
Dutiyapañhe pana dvīhi paccayehi tayo paccayā dassitā. Kathaṃ? Kusalo hi akusalassa anantarādivasena paccayo na hoti. Tasmā te apanetvā ārammaṇūpanissayavasena saṅgahitaṃ ārammaṇādhipatiñceva pakatūpanissayañca sandhāya upanissayapaccayena paccayoti vuttaṃ. Tasmā suddho ārammaṇapaccayo ārammaṇādhipativasena adhipatipaccayo upanissayapaccayoti dutiyapañhe dvīhi paccayehi ime tayo paccayā dassitāti veditabbā.
ตติยปเญฺห ปน ปญฺจหิ ปจฺจเยหิ อฎฺฐารส ปจฺจยา ทสฺสิตาฯ กถํ? กุสโล หิ อพฺยากตสฺส อญฺญมญฺญปุเรชาตาเสวนวิปากสมฺปยุเตฺตหิเยว ปจฺจโย น โหติ, เสเสหิ เอกูนวีสติยา โหติฯ เตสุ อารมฺมณปจฺจโย เอโกฯ ยสฺมา ปน กุสโล อพฺยากตสฺส อญฺญมญฺญวิปากสมฺปยุตฺตวเสน ปจฺจโย น โหติ, เหตุปจฺจโย ปฎิกฺขิโตฺต, กมฺมปจฺจโย วิสุํ คหิโต, ตสฺมา อิเม ปญฺจ อปเนตฺวา สหชาเตน ทส ปจฺจยา ทสฺสิตาฯ อุปนิสฺสเยน เหฎฺฐา วุเตฺตสุ ฉสุ ฐเปตฺวา อาเสวนํ เสสา ปญฺจฯ ปจฺฉาชาโต เอโกว ตถา สหชาตนานากฺขณิกวเสน ทุวิโธปิ กมฺมปจฺจโยติ เอวํ ตติยปเญฺห ปญฺจหิ ปจฺจเยหิ อิเม อฎฺฐารส ปจฺจยา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพาฯ
Tatiyapañhe pana pañcahi paccayehi aṭṭhārasa paccayā dassitā. Kathaṃ? Kusalo hi abyākatassa aññamaññapurejātāsevanavipākasampayuttehiyeva paccayo na hoti, sesehi ekūnavīsatiyā hoti. Tesu ārammaṇapaccayo eko. Yasmā pana kusalo abyākatassa aññamaññavipākasampayuttavasena paccayo na hoti, hetupaccayo paṭikkhitto, kammapaccayo visuṃ gahito, tasmā ime pañca apanetvā sahajātena dasa paccayā dassitā. Upanissayena heṭṭhā vuttesu chasu ṭhapetvā āsevanaṃ sesā pañca. Pacchājāto ekova tathā sahajātanānākkhaṇikavasena duvidhopi kammapaccayoti evaṃ tatiyapañhe pañcahi paccayehi ime aṭṭhārasa paccayā dassitāti veditabbā.
จตุตฺถปเญฺห ปน เอเกน ปจฺจเยน ทสฯ กถํ? กุสโล หิ กุสลาพฺยากตสฺส สหชาเต วุเตฺตสุ ปนฺนรสสุ อญฺญมญฺญวิปากสมฺปยุตฺตวิปฺปยุเตฺตหิ ปจฺจโย น โหติ, เหตุปจฺจโย ปฎิกฺขิโตฺตฯ อิติ อิเม ปญฺจ อปเนตฺวา เสสา ทส ปจฺจยา เอตฺถ เอเกน ปจฺจเยน ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพาฯ
Catutthapañhe pana ekena paccayena dasa. Kathaṃ? Kusalo hi kusalābyākatassa sahajāte vuttesu pannarasasu aññamaññavipākasampayuttavippayuttehi paccayo na hoti, hetupaccayo paṭikkhitto. Iti ime pañca apanetvā sesā dasa paccayā ettha ekena paccayena dassitāti veditabbā.
๕๒๘. ยถา จ อิเมสุ กุสลาทิเกสุ จตูสุ, ตถา อกุสลาทิเกสุปิ จตูสุ ปเญฺหสุ เตหิ เตหิ ปจฺจเยหิ เต เตเยว ปจฺจยา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพาฯ
528. Yathā ca imesu kusalādikesu catūsu, tathā akusalādikesupi catūsu pañhesu tehi tehi paccayehi te teyeva paccayā dassitāti veditabbā.
๕๒๙. ตโต ปรานํ อพฺยากตาทีนํ ติณฺณํ ปญฺหานํ ปฐมปเญฺห สตฺตหิ ปจฺจเยหิ เตวีสติ ปจฺจยา ทสฺสิตาฯ กถํ? อพฺยากโต หิ อพฺยากตสฺส จตุวีสติยาปิ ปจฺจเยหิ ปจฺจโย โหติฯ เหตุปจฺจเย ปน ปฎิกฺขิเตฺต เตวีสติ โหนฺติฯ เตสุ อารมฺมณปจฺจโย เอโกวฯ ยสฺมา ปเนตฺถ อสหชาตานมฺปิ สงฺคหณตฺถํ อาหารินฺทฺริยปจฺจยา วิสุํ คหิตาฯ ตสฺมา อิเม ตโย อปเนตฺวา สหชาเตน ทฺวาทส ปจฺจยา ทสฺสิตาฯ อุปนิสฺสเยน เหฎฺฐา วุตฺตา ฉ, ปุเรชาโต เอโกว ตถา ปจฺฉาชาตอาหารินฺทฺริยปจฺจยาติ เอวเมตฺถ สตฺตหิ ปจฺจเยหิ อิเม เตวีสติ ปจฺจยา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพาฯ ทุติเย ตีหิ ปจฺจเยหิ ทฺวาทส ทสฺสิตาฯ กถํ? อารมฺมณปจฺจโย เอโก, อุปนิสฺสเยน ปน อารมฺมณูปนิสฺสยวเสน อารมฺมณาธิปติอนนฺตรสมนนฺตรนตฺถิวิคตอุปนิสฺสยปจฺจโยติ ฉ ทสฺสิตาฯ ปุเรชาเตน ปุเรชาตนิสฺสยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตา ปญฺจาติ เอวเมตฺถ ตีหิ ปจฺจเยหิ อิเม ทฺวาทส ปจฺจยา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพาฯ ตติเยปิ เอเสว นโยฯ
529. Tato parānaṃ abyākatādīnaṃ tiṇṇaṃ pañhānaṃ paṭhamapañhe sattahi paccayehi tevīsati paccayā dassitā. Kathaṃ? Abyākato hi abyākatassa catuvīsatiyāpi paccayehi paccayo hoti. Hetupaccaye pana paṭikkhitte tevīsati honti. Tesu ārammaṇapaccayo ekova. Yasmā panettha asahajātānampi saṅgahaṇatthaṃ āhārindriyapaccayā visuṃ gahitā. Tasmā ime tayo apanetvā sahajātena dvādasa paccayā dassitā. Upanissayena heṭṭhā vuttā cha, purejāto ekova tathā pacchājātaāhārindriyapaccayāti evamettha sattahi paccayehi ime tevīsati paccayā dassitāti veditabbā. Dutiye tīhi paccayehi dvādasa dassitā. Kathaṃ? Ārammaṇapaccayo eko, upanissayena pana ārammaṇūpanissayavasena ārammaṇādhipatianantarasamanantaranatthivigataupanissayapaccayoti cha dassitā. Purejātena purejātanissayavippayuttaatthiavigatā pañcāti evamettha tīhi paccayehi ime dvādasa paccayā dassitāti veditabbā. Tatiyepi eseva nayo.
๕๓๐. ตโต ปรานํ ทุกมูลกานํ จตุนฺนํ ปญฺหานํ ปฐมปเญฺห ‘‘สหชาตปจฺจเยน ปุเรชาตปจฺจเยนา’’ติ อวตฺวา ‘‘สหชาตํ ปุเรชาต’’นฺติ วุเตฺตหิ ทฺวีหิ นิสฺสยอตฺถิอวิคตวเสน ตโย ปจฺจยา ทสฺสิตาฯ กุสลา หิ ขนฺธา วตฺถุนา สทฺธิํ เอกโต กุสลสฺส ปจฺจยภาวํ สาธยมานา กิญฺจาปิ สหชาตา, สหชาตปจฺจยา ปน น โหนฺติ วตฺถุมิสฺสกตฺตา ฯ ตสฺมา เตสํ สหชาตานํ นิสฺสยอตฺถิอวิคตานํ วเสน สหชาตนฺติ วุตฺตํฯ วตฺถุมฺหิปิ เอเสว นโยฯ ตมฺปิ หิ กิญฺจาปิ ปุเรชาตํ, ขนฺธมิสฺสกตฺตา ปน ปุเรชาตปจฺจโย น โหติฯ เกวลํ ปุเรชาตานํ นิสฺสยาทีนํ วเสน ปุเรชาตนฺติ วุตฺตํฯ
530. Tato parānaṃ dukamūlakānaṃ catunnaṃ pañhānaṃ paṭhamapañhe ‘‘sahajātapaccayena purejātapaccayenā’’ti avatvā ‘‘sahajātaṃ purejāta’’nti vuttehi dvīhi nissayaatthiavigatavasena tayo paccayā dassitā. Kusalā hi khandhā vatthunā saddhiṃ ekato kusalassa paccayabhāvaṃ sādhayamānā kiñcāpi sahajātā, sahajātapaccayā pana na honti vatthumissakattā . Tasmā tesaṃ sahajātānaṃ nissayaatthiavigatānaṃ vasena sahajātanti vuttaṃ. Vatthumhipi eseva nayo. Tampi hi kiñcāpi purejātaṃ, khandhamissakattā pana purejātapaccayo na hoti. Kevalaṃ purejātānaṃ nissayādīnaṃ vasena purejātanti vuttaṃ.
ทุติยปเญฺห ‘‘สหชาตํ ปจฺฉาชาตํ อาหารํ อินฺทฺริย’’นฺติ วุเตฺตหิ จตูหิปิ สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตวเสน จตฺตาโร ปจฺจยา ทสฺสิตาฯ อิมสฺมิญฺหิ วาเร สหชาตปจฺจโย ลพฺภติ, ปจฺฉาชาตปจฺจยาทโย น ลพฺภนฺติฯ ปจฺฉาชาตานํ ปน อาหารินฺทฺริยสงฺขาตานญฺจ อตฺถิอวิคตานํ วเสเนตํ วุตฺตํฯ กุสลา หิ ขนฺธา อพฺยากตา จ มหาภูตา อุปาทารูปานํ สหชาตปจฺจเยน นิสฺสยปจฺจเยน อตฺถิอวิคตปจฺจเยหีติ จตุธา ปจฺจยา โหนฺติฯ ปจฺฉาชาตา ปน กุสลา เตหิเยว ภูเตหิ สทฺธิํ เตสเญฺญว อุปาทารูปานํ อตฺถิอวิคตวเสน ปจฺจโยฯ กพฬีการาหาโรปิ ปจฺฉาชาเตหิ กุสเลหิ สทฺธิํ ปุเรชาตสฺส กายสฺส อตฺถิอวิคตวเสเนว ปจฺจโยฯ รูปชีวิตินฺทฺริยมฺปิ ปจฺฉาชาเตหิ กุสเลหิ สทฺธิํ กฎตฺตารูปานํ อตฺถิอวิคตปจฺจเยเนว ปจฺจโยฯ อิติ อิมํ จตุธา ปจฺจยภาวํ สนฺธาย ‘‘สหชาตํ ปจฺฉาชาตํ, อาหารํ อินฺทฺริย’’นฺติ อิทํ วุตฺตํฯ ปจฺฉาชาตาหารินฺทฺริยปจฺจยา ปเนตฺถ น ลพฺภนฺติเยวฯ ปรโต อกุสลมิสฺสกปญฺหาทฺวเยปิ เอเสว นโยติฯ เอวเมตฺถ เตสุ เตสุ ปเญฺหสุ สงฺขิปิตฺวา วุตฺตปจฺจยานํ ปเภโท เวทิตโพฺพฯ ตสฺมิํ ตสฺมิํ ปน ปจฺจเย เตสํ เตสํ ปญฺหานํ ปริหานาปริหานิํ ปรโต อาวิกริสฺสามาติฯ
Dutiyapañhe ‘‘sahajātaṃ pacchājātaṃ āhāraṃ indriya’’nti vuttehi catūhipi sahajātanissayaatthiavigatavasena cattāro paccayā dassitā. Imasmiñhi vāre sahajātapaccayo labbhati, pacchājātapaccayādayo na labbhanti. Pacchājātānaṃ pana āhārindriyasaṅkhātānañca atthiavigatānaṃ vasenetaṃ vuttaṃ. Kusalā hi khandhā abyākatā ca mahābhūtā upādārūpānaṃ sahajātapaccayena nissayapaccayena atthiavigatapaccayehīti catudhā paccayā honti. Pacchājātā pana kusalā tehiyeva bhūtehi saddhiṃ tesaññeva upādārūpānaṃ atthiavigatavasena paccayo. Kabaḷīkārāhāropi pacchājātehi kusalehi saddhiṃ purejātassa kāyassa atthiavigatavaseneva paccayo. Rūpajīvitindriyampi pacchājātehi kusalehi saddhiṃ kaṭattārūpānaṃ atthiavigatapaccayeneva paccayo. Iti imaṃ catudhā paccayabhāvaṃ sandhāya ‘‘sahajātaṃ pacchājātaṃ, āhāraṃ indriya’’nti idaṃ vuttaṃ. Pacchājātāhārindriyapaccayā panettha na labbhantiyeva. Parato akusalamissakapañhādvayepi eseva nayoti. Evamettha tesu tesu pañhesu saṅkhipitvā vuttapaccayānaṃ pabhedo veditabbo. Tasmiṃ tasmiṃ pana paccaye tesaṃ tesaṃ pañhānaṃ parihānāparihāniṃ parato āvikarissāmāti.
ปจฺจนียุทฺธารสฺส อตฺถวณฺณนาฯ
Paccanīyuddhārassa atthavaṇṇanā.
ปจฺจนียคณนวณฺณนา
Paccanīyagaṇanavaṇṇanā
๕๓๒. อิทานิ เอเต ‘‘กุสโล ธโมฺม กุสลสฺส ธมฺมสฺสา’’ติอาทโย อนุโลมวเสน ปนฺนรส วารา ทสฺสิตาฯ ยสฺมา ปจฺจนีเยปิ เอเตเยว, น อิโต อุทฺธํ; เหฎฺฐา ปน โหนฺติ, ตสฺมา ยสฺส ยสฺส ปจฺจยสฺส ปจฺจนีเย เย เย วารา ลพฺภนฺติ, เต เต อาทิโต ปฎฺฐาย คณนวเสน ทเสฺสตุํ นเหตุยา ปนฺนรสาติอาทิ อารทฺธํฯ
532. Idāni ete ‘‘kusalo dhammo kusalassa dhammassā’’tiādayo anulomavasena pannarasa vārā dassitā. Yasmā paccanīyepi eteyeva, na ito uddhaṃ; heṭṭhā pana honti, tasmā yassa yassa paccayassa paccanīye ye ye vārā labbhanti, te te ādito paṭṭhāya gaṇanavasena dassetuṃ nahetuyā pannarasātiādi āraddhaṃ.
ตตฺถ นเหตุยา สเพฺพสมฺปิ ยถาทสฺสิตานํ ปจฺจยานํ วเสน ปนฺนรส ลพฺภนฺติฯ นารมฺมเณ สหชาเต เหตุปจฺจโย ปวิสติฯ ตสฺมิํ ตสฺมิํ วาเร สุโทฺธ อารมฺมณปจฺจโย ปริหายติ, เสสปจฺจยวเสน เต วารา วิสฺสชฺชนํ ลภนฺติฯ ยถา จ นารมฺมเณ, เอวํ เสเสสุปิฯ สหชาเต เหตุปจฺจโย ปวิสติฯ ตสฺมิํ ตสฺมิญฺจ วาเร นอุปนิสฺสเย นอนนฺตเรติ เอวํ ปจฺจนียโต ฐิตา ปจฺจยา ปริหายนฺติ, อวเสสปจฺจยวเสน เต เต วารา วิสฺสชฺชนํ ลภนฺติฯ นสหชาเต ปน ‘‘กุสโล ธโมฺม กุสลสฺส จ อพฺยากตสฺส จ, อกุสโล ธโมฺม อกุสลสฺส จ อพฺยากตสฺส จ, กุสโล จ อพฺยากโต จ ธมฺมา กุสลสฺส, อกุสโล จ อพฺยากโต จ ธมฺมา อกุสลสฺสาติ อิเม จตฺตาโร วารา ปริหายนฺติฯ เอเตสญฺหิ จตุนฺนํ ปุริเมสุ ทฺวีสุ สหชาตปจฺจเยน ปจฺจโยติ เอกาทสนฺนํ ปจฺจยานํ วเสน เอโกว ปจฺจยสงฺคโห วุโตฺตฯ เต ตสฺมิํ ปฎิกฺขิเตฺต อเญฺญนากาเรน วิสฺสชฺชนํ น ลภนฺติฯ ปจฺฉิเมสุ ทฺวีสุ นิสฺสยอตฺถิอวิคตปจฺจเย สนฺธาย ‘‘สหชาตํ ปุเรชาต’’นฺติ วุตฺตํฯ เต สหชาเต ปฎิกฺขิเตฺต อวเสสานํ เหตุอาทีนญฺจ ปุเรชาตานเญฺจว นิสฺสยอตฺถิอวิคตานํ วเสน วิสฺสชฺชนํ น ลภนฺติ, ตสฺมา อิเม จตฺตาโรปิ วารา ปริหายนฺติฯ อวเสสานํ วเสน ‘‘เอกาทสา’’ติ วุตฺตํฯ
Tattha nahetuyā sabbesampi yathādassitānaṃ paccayānaṃ vasena pannarasa labbhanti. Nārammaṇe sahajāte hetupaccayo pavisati. Tasmiṃ tasmiṃ vāre suddho ārammaṇapaccayo parihāyati, sesapaccayavasena te vārā vissajjanaṃ labhanti. Yathā ca nārammaṇe, evaṃ sesesupi. Sahajāte hetupaccayo pavisati. Tasmiṃ tasmiñca vāre naupanissaye naanantareti evaṃ paccanīyato ṭhitā paccayā parihāyanti, avasesapaccayavasena te te vārā vissajjanaṃ labhanti. Nasahajāte pana ‘‘kusalo dhammo kusalassa ca abyākatassa ca, akusalo dhammo akusalassa ca abyākatassa ca, kusalo ca abyākato ca dhammā kusalassa, akusalo ca abyākato ca dhammā akusalassāti ime cattāro vārā parihāyanti. Etesañhi catunnaṃ purimesu dvīsu sahajātapaccayena paccayoti ekādasannaṃ paccayānaṃ vasena ekova paccayasaṅgaho vutto. Te tasmiṃ paṭikkhitte aññenākārena vissajjanaṃ na labhanti. Pacchimesu dvīsu nissayaatthiavigatapaccaye sandhāya ‘‘sahajātaṃ purejāta’’nti vuttaṃ. Te sahajāte paṭikkhitte avasesānaṃ hetuādīnañca purejātānañceva nissayaatthiavigatānaṃ vasena vissajjanaṃ na labhanti, tasmā ime cattāropi vārā parihāyanti. Avasesānaṃ vasena ‘‘ekādasā’’ti vuttaṃ.
ตตฺถ สิยา – ยถา เหตุมฺหิ ปฎิกฺขิเตฺต เสสานํ อธิปติอาทีนํ วเสน เต วารา ลทฺธา, เอวํ สหชาเต ปฎิกฺขิเตฺต อวเสสานํ เหตุอาทีนํ วเสน กสฺมา น ลพฺภนฺตีติ? นิปฺปเทสตฺตาฯ เหตุอาทโย หิ สหชาตานํ เอกเทสมตฺตโต สปฺปเทสา, ตสฺมา เตสุ ปฎิกฺขิเตฺตสุ อเญฺญสํ วเสน เต วารา ลพฺภนฺติฯ สหชาโต ปน นิปฺปเทโส สเพฺพปิ เหตุอาทโย คณฺหาติ, ตสฺมา ตสฺมิํ ปฎิกฺขิเตฺต สเพฺพปิ เต ปฎิกฺขิตฺตา โหนฺติฯ น หิ อสหชาตา เหตุปจฺจยาทโย นาม อตฺถิ ฯ อิติ สหชาตสฺส นิปฺปเทสตฺตา ตสฺมิํ ปฎิกฺขิเตฺต สเพฺพปิ เต อุโภปิ วารา น ลพฺภนฺติฯ ‘‘สหชาตํ ปุเรชาต’’นฺติ วิสฺสชฺชิตวาเรสุ ปน กิญฺจาปิ สหชาตปจฺจโยเยว นตฺถิ, ยสฺมา ปเนตฺถ สหชาตาว อรูปกฺขนฺธา นิสฺสยอตฺถิอวิคตวเสน ปจฺจยา, สหชาเต จ ปฎิกฺขิเตฺต เอกเนฺตน สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตา ปฎิกฺขิตฺตา โหนฺติ, ตสฺมา ตสฺส ปฎิกฺขิตฺตตฺตา เตปิ วารา น ลพฺภนฺตีติ เอวํ สพฺพถาเปตฺถ อิเม จตฺตาโร วารา ปริหายนฺติฯ อวเสสานเญฺญว วเสน เอกาทสาติ วุตฺตํฯ
Tattha siyā – yathā hetumhi paṭikkhitte sesānaṃ adhipatiādīnaṃ vasena te vārā laddhā, evaṃ sahajāte paṭikkhitte avasesānaṃ hetuādīnaṃ vasena kasmā na labbhantīti? Nippadesattā. Hetuādayo hi sahajātānaṃ ekadesamattato sappadesā, tasmā tesu paṭikkhittesu aññesaṃ vasena te vārā labbhanti. Sahajāto pana nippadeso sabbepi hetuādayo gaṇhāti, tasmā tasmiṃ paṭikkhitte sabbepi te paṭikkhittā honti. Na hi asahajātā hetupaccayādayo nāma atthi . Iti sahajātassa nippadesattā tasmiṃ paṭikkhitte sabbepi te ubhopi vārā na labbhanti. ‘‘Sahajātaṃ purejāta’’nti vissajjitavāresu pana kiñcāpi sahajātapaccayoyeva natthi, yasmā panettha sahajātāva arūpakkhandhā nissayaatthiavigatavasena paccayā, sahajāte ca paṭikkhitte ekantena sahajātanissayaatthiavigatā paṭikkhittā honti, tasmā tassa paṭikkhittattā tepi vārā na labbhantīti evaṃ sabbathāpettha ime cattāro vārā parihāyanti. Avasesānaññeva vasena ekādasāti vuttaṃ.
นอญฺญมญฺญนนิสฺสยนสมฺปยุเตฺตปิ เตเยว วารา ปริหายนฺติฯ กสฺมา? สหชาตคติกตฺตาฯ ยเถว หิ อรูปธมฺมภูโต สหชาตปจฺจโย นิปฺปเทเสน จตฺตาโร อรูปกฺขเนฺธ คณฺหาติ, ตถา อญฺญมญฺญนิสฺสยสมฺปยุตฺตาปีติ สหชาตคติกตฺตา เอเตสุปิ ปฎิกฺขิเตฺตสุ เต วารา น ลพฺภนฺตีติ เวทิตพฺพาฯ เตน วุตฺตํ นอญฺญมเญฺญ เอกาทส, นนิสฺสเย เอกาทส, นสมฺปยุเตฺต เอกาทสาติฯ
Naaññamaññananissayanasampayuttepi teyeva vārā parihāyanti. Kasmā? Sahajātagatikattā. Yatheva hi arūpadhammabhūto sahajātapaccayo nippadesena cattāro arūpakkhandhe gaṇhāti, tathā aññamaññanissayasampayuttāpīti sahajātagatikattā etesupi paṭikkhittesu te vārā na labbhantīti veditabbā. Tena vuttaṃ naaññamaññe ekādasa, nanissaye ekādasa, nasampayutte ekādasāti.
ตตฺถ สิยา – กิญฺจาปิ อิเม อวิเสเสน กุสลาทิเภทานํ จตุนฺนํ ขนฺธานํ สงฺคาหกตฺตา สหชาตคติกา, กุสโล ปน กุสลาพฺยากตสฺส ฐเปตฺวา สหชาตปจฺจยํ อญฺญถา ปจฺจโยว น โหติ, ตสฺมา ตสฺมิํ ปฎิกฺขิเตฺต โส วาโร ปริหายตุฯ กุสโล ปน กุสลาพฺยากตานํ เนว อญฺญมญฺญปจฺจโย โหติ, ตสฺมิํ ปฎิกฺขิเตฺต โส วาโร กสฺมา ปริหายตีติ? อญฺญมญฺญปจฺจยธมฺมวเสน ปวตฺติสพฺภาวโตฯ ยเถว หิ กุสลาพฺยากตา กุสลสฺส สหชาตปจฺจโยว น โหนฺติฯ สหชาตธมฺมวเสน ปน นิสฺสยปจฺจยาทีหิ ปวตฺติสพฺภาวโต ตสฺมิํ ปฎิกฺขิเตฺต โส วาโร ปริหายติ, เอวมิธาปิ อญฺญมญฺญปจฺจยธมฺมวเสน สหชาตาทีหิ ปวตฺติสพฺภาวโต ตสฺมิํ ปฎิกฺขิเตฺต โส วาโร ปริหายติฯ นอญฺญมญฺญปจฺจเยน ปจฺจโยติ ปทสฺส หิ อยมโตฺถ – เย ธมฺมา อญฺญมญฺญปจฺจยสงฺคหํ คตา, น เตหิ ปจฺจโยฯ กุสโล จ กุสลาพฺยากตานํ สหชาตาทิวเสน ปจฺจโย โหโนฺต อญฺญมญฺญปจฺจยธเมฺมเหว ปจฺจโย โหติ, ตสฺมา ตสฺมิํ ปฎิกฺขิเตฺต โส วาโร ปริหายติฯ ยถา จ โส วาโร, ตถา เสสาปิ ตโยติ จตฺตาโรปิ เต วารา ปริหายนฺติฯ
Tattha siyā – kiñcāpi ime avisesena kusalādibhedānaṃ catunnaṃ khandhānaṃ saṅgāhakattā sahajātagatikā, kusalo pana kusalābyākatassa ṭhapetvā sahajātapaccayaṃ aññathā paccayova na hoti, tasmā tasmiṃ paṭikkhitte so vāro parihāyatu. Kusalo pana kusalābyākatānaṃ neva aññamaññapaccayo hoti, tasmiṃ paṭikkhitte so vāro kasmā parihāyatīti? Aññamaññapaccayadhammavasena pavattisabbhāvato. Yatheva hi kusalābyākatā kusalassa sahajātapaccayova na honti. Sahajātadhammavasena pana nissayapaccayādīhi pavattisabbhāvato tasmiṃ paṭikkhitte so vāro parihāyati, evamidhāpi aññamaññapaccayadhammavasena sahajātādīhi pavattisabbhāvato tasmiṃ paṭikkhitte so vāro parihāyati. Naaññamaññapaccayena paccayoti padassa hi ayamattho – ye dhammā aññamaññapaccayasaṅgahaṃ gatā, na tehi paccayo. Kusalo ca kusalābyākatānaṃ sahajātādivasena paccayo honto aññamaññapaccayadhammeheva paccayo hoti, tasmā tasmiṃ paṭikkhitte so vāro parihāyati. Yathā ca so vāro, tathā sesāpi tayoti cattāropi te vārā parihāyanti.
นนิสฺสเย เอกาทสาติ เอตฺถาปิ ยสฺมา เตสํ วารานํ เอเกเนฺตน สหชาตปจฺจยธมฺมาว นิสฺสยภูตา, ตสฺมา นิสฺสเย ปฎิกฺขิเตฺต ปริหายนฺติฯ นปุเรชาเต เตรสาติ สหชาตํ ปุเรชาตนฺติ วุตฺตวิสฺสชฺชเน ทฺวิมูลเก เทฺว อปเนตฺวา เตรสฯ ยถา หิ เต สหชาเต ปฎิกฺขิเตฺต ปุเรชาตานเญฺญว นิสฺสยอตฺถิอวิคตานํ วเสน วิสฺสชฺชนํ น ลภนฺติ, ตถา ปุเรชาเตปิ ปฎิกฺขิเตฺต สหชาตานเญฺญว นิสฺสยอตฺถิอวิคตานํ วเสน วิสฺสชฺชนํ น ลภนฺติ, ตสฺมา เต อปเนตฺวา เตรสาติ เวทิตพฺพาฯ
Nanissayeekādasāti etthāpi yasmā tesaṃ vārānaṃ ekentena sahajātapaccayadhammāva nissayabhūtā, tasmā nissaye paṭikkhitte parihāyanti. Napurejāte terasāti sahajātaṃ purejātanti vuttavissajjane dvimūlake dve apanetvā terasa. Yathā hi te sahajāte paṭikkhitte purejātānaññeva nissayaatthiavigatānaṃ vasena vissajjanaṃ na labhanti, tathā purejātepi paṭikkhitte sahajātānaññeva nissayaatthiavigatānaṃ vasena vissajjanaṃ na labhanti, tasmā te apanetvā terasāti veditabbā.
นปจฺฉาชาเต ปนฺนรสาติ เอตฺถ ‘‘ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วา ‘‘สหชาตํ ปจฺฉาชาตํ อาหารํ อินฺทฺริย’’นฺติ วา อาคตฎฺฐาเนสุ ฐเปตฺวา ปจฺฉาชาตํ อวเสสวเสนปิ เต ปญฺหา ลพฺภนฺติ, ตสฺมา ปนฺนรเสว วุตฺตาฯ นกเมฺมติอาทีสุ ยสฺมา กมฺมวิปากาหารินฺทฺริยฌานมคฺคาปิ กุสลาทิเภทานํ จตุนฺนํ ขนฺธานํ เอกเทโสว ตสฺมา ฐเปตฺวา เต ธเมฺม อวเสสธมฺมวเสน สหชาตธมฺมา ปจฺจยา โหนฺตีติ เอกมฺปิ ปญฺหาวิสฺสชฺชนํ น ปริหีนํ ฯ นสมฺปยุเตฺต เอกาทสาติ ยสฺมา เตสุ จตูสุ วาเรสุ สมฺปยุตฺตธมฺมา สหชาตาทิปจฺจเยน ปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา สมฺปยุตฺตปจฺจยปฎิเกฺขเปน เตเยว วารา ปริหายนฺตีติ เวทิตพฺพาฯ นวิปฺปยุเตฺต นวาติ ทุมูลกเอกาวสานา จตฺตาโร เอกมูลกทุกาวสานา เทฺว จาติ อิเม ฉ วารา เอกเนฺตน วิปฺปยุตฺตปจฺจยธเมฺมหิ ยุตฺตาฯ เตหิ สหชาตาทิวเสน ปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา วิปฺปยุเตฺต ปฎิกฺขิเตฺต สเพฺพปิ เต ปริหายนฺตีติ นเวว ลพฺภนฺติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘นวิปฺปยุเตฺต นวา’’ติฯ โนอตฺถิโนอวิคเตสุปิ เตเยว เวทิตพฺพาฯ เอกเนฺตน หิ เต วารา อตฺถิอวิคตปจฺจยธมฺมยุตฺตา, ตสฺมา เต เตสํ ปฎิเกฺขเป ปริหายนฺติฯ เยปิ ลพฺภนฺติ, เตสุ อารมฺมณวเสน อนนฺตราทิวเสน วา วิสฺสชฺชนานิ กาตพฺพานิฯ สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตอาหารินฺทฺริยเภทโต ปญฺจนฺนํ อตฺถิอวิคตานํ วิปฺปยุตฺตธมฺมานํ วา วเสน น กาตพฺพานีติฯ
Napacchājāte pannarasāti ettha ‘‘pacchājātapaccayena paccayo’’ti vā ‘‘sahajātaṃ pacchājātaṃ āhāraṃ indriya’’nti vā āgataṭṭhānesu ṭhapetvā pacchājātaṃ avasesavasenapi te pañhā labbhanti, tasmā pannaraseva vuttā. Nakammetiādīsu yasmā kammavipākāhārindriyajhānamaggāpi kusalādibhedānaṃ catunnaṃ khandhānaṃ ekadesova tasmā ṭhapetvā te dhamme avasesadhammavasena sahajātadhammā paccayā hontīti ekampi pañhāvissajjanaṃ na parihīnaṃ . Nasampayutte ekādasāti yasmā tesu catūsu vāresu sampayuttadhammā sahajātādipaccayena paccayā honti, tasmā sampayuttapaccayapaṭikkhepena teyeva vārā parihāyantīti veditabbā. Navippayutte navāti dumūlakaekāvasānā cattāro ekamūlakadukāvasānā dve cāti ime cha vārā ekantena vippayuttapaccayadhammehi yuttā. Tehi sahajātādivasena paccayā honti, tasmā vippayutte paṭikkhitte sabbepi te parihāyantīti naveva labbhanti. Tena vuttaṃ ‘‘navippayutte navā’’ti. Noatthinoavigatesupi teyeva veditabbā. Ekantena hi te vārā atthiavigatapaccayadhammayuttā, tasmā te tesaṃ paṭikkhepe parihāyanti. Yepi labbhanti, tesu ārammaṇavasena anantarādivasena vā vissajjanāni kātabbāni. Sahajātapurejātapacchājātaāhārindriyabhedato pañcannaṃ atthiavigatānaṃ vippayuttadhammānaṃ vā vasena na kātabbānīti.
๕๓๓. เอวํ ปจฺจนีเย ลทฺธวาเร คณนโต ทเสฺสตฺวา อิทานิ ทุมูลกาทิวเสน ปจฺจยคณนํ ทเสฺสตุํ นเหตุปจฺจยา นารมฺมเณ ปนฺนรสาติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ นเหตุมูลกทุเกสุ อติเรกคณโน อูนตรคณเนน สทฺธิํ โยชิโต อูนตรคณโนว โหติฯ
533. Evaṃ paccanīye laddhavāre gaṇanato dassetvā idāni dumūlakādivasena paccayagaṇanaṃ dassetuṃ nahetupaccayā nārammaṇe pannarasātiādi āraddhaṃ. Tattha nahetumūlakadukesu atirekagaṇano ūnataragaṇanena saddhiṃ yojito ūnataragaṇanova hoti.
ติมูลเก นอุปนิสฺสเย เตรสาติ กุสโล อกุสลสฺส, อกุสโล กุสลสฺสาติ เทฺว วารา ปริหายนฺติฯ กสฺมา? นารมฺมเณน สทฺธิํ นอุปนิสฺสยสฺส ฆฎิตตฺตาฯ อารมฺมณวเสน หิ อุปนิสฺสยวเสน จ อิเมสํ ปวตฺติฯ ตญฺจ อุภยํ ปฎิกฺขิตฺตํฯ อารมฺมณาธิปติ จ อารมฺมณูปนิสฺสยคฺคหเณน คหิโต โหติเยวฯ
Timūlake naupanissaye terasāti kusalo akusalassa, akusalo kusalassāti dve vārā parihāyanti. Kasmā? Nārammaṇena saddhiṃ naupanissayassa ghaṭitattā. Ārammaṇavasena hi upanissayavasena ca imesaṃ pavatti. Tañca ubhayaṃ paṭikkhittaṃ. Ārammaṇādhipati ca ārammaṇūpanissayaggahaṇena gahito hotiyeva.
ฉมูลเกปิ นอุปนิสฺสเย เตรสาติ เตเยว เตรสฯ สตฺตมูลเก ปน นอุปนิสฺสเย สตฺตาติ นสหชาเตน สทฺธิํ ฆฎิตตฺตา ตตฺถ ปริหีเนหิ จตูหิ สทฺธิํ ‘‘กุสโล กุสลสฺส, กุสโล อกุสลสฺส, อกุสโล อกุสลสฺส, อกุสโล กุสลสฺสา’’ติ อิเม อนนฺตรูปนิสฺสยปกตูปนิสฺสยวเสน ปวตฺตมานา จตฺตาโรติ อฎฺฐ ปริหายนฺติ, ตสฺมา อวเสสานํ วเสน สตฺตาติ วุตฺตํฯ นปุเรชาเต เอกาทสาติ นสหชาเตน สทฺธิํ ฆฎิตตฺตา เอกาทสฯ นปจฺฉาชาเต นวาติ เตสุ เอกาทสสุ สหชาตํ ปจฺฉาชาตํ อาหารํ อินฺทฺริยนฺติ ลทฺธวิสฺสชฺชเนสุ ทุมูลเก อพฺยากตเนฺต เทฺว วาเร อปเนตฺวาฯ เต หิ สหชาเต ปฎิกฺขิเตฺตปิ ปจฺฉาชาตวเสน อปริหีนาฯ สหชาเตน ปน สทฺธิํ ปจฺฉาชาเต ปฎิกฺขิเตฺต ปริหายนฺตีติ เสสานํ วเสน นวาติ วุตฺตํฯ อฎฺฐมูลเก นนิสฺสเย เอกาทสาติ สพฺพํ เหฎฺฐา วุตฺตสทิสเมวฯ นวมูลเก นอุปนิสฺสเย ปญฺจาติ กุสลาทโย อพฺยากตนฺตา ตโย ทุมูลกา อพฺยากตนฺตา เทฺว จาติ ปญฺจฯ เตสุ นานากฺขณิกกมฺมกพฬีการาหารรูปชีวิตินฺทฺริยปจฺฉาชาตธมฺมวเสน วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํฯ
Chamūlakepi naupanissaye terasāti teyeva terasa. Sattamūlake pana naupanissaye sattāti nasahajātena saddhiṃ ghaṭitattā tattha parihīnehi catūhi saddhiṃ ‘‘kusalo kusalassa, kusalo akusalassa, akusalo akusalassa, akusalo kusalassā’’ti ime anantarūpanissayapakatūpanissayavasena pavattamānā cattāroti aṭṭha parihāyanti, tasmā avasesānaṃ vasena sattāti vuttaṃ. Napurejāte ekādasāti nasahajātena saddhiṃ ghaṭitattā ekādasa. Napacchājāte navāti tesu ekādasasu sahajātaṃ pacchājātaṃ āhāraṃ indriyanti laddhavissajjanesu dumūlake abyākatante dve vāre apanetvā. Te hi sahajāte paṭikkhittepi pacchājātavasena aparihīnā. Sahajātena pana saddhiṃ pacchājāte paṭikkhitte parihāyantīti sesānaṃ vasena navāti vuttaṃ. Aṭṭhamūlake nanissaye ekādasāti sabbaṃ heṭṭhā vuttasadisameva. Navamūlake naupanissaye pañcāti kusalādayo abyākatantā tayo dumūlakā abyākatantā dve cāti pañca. Tesu nānākkhaṇikakammakabaḷīkārāhārarūpajīvitindriyapacchājātadhammavasena vissajjanaṃ veditabbaṃ.
ทสมูลเก นปุเรชาเต ปญฺจาติอาทีสุปิ เตเยวฯ นปจฺฉาชาเต ตีณีติ ปจฺฉาชาตวเสน ลพฺภมาเน ทุมูลเก อพฺยากตเนฺต เทฺว อปเนตฺวา อวเสสาฯ นวิปฺปยุเตฺตปิ เตเยว ตโยฯ โนอตฺถิยา เทฺวติ นานากฺขณิกกมฺมวเสน กุสลญฺจ อกุสลญฺจ กฎตฺตารูปสฺสฯ วิปากํ ปเนตฺถ นอุปนิสฺสเยน สทฺธิํ ฆฎิตตฺตา น ลพฺภติฯ เอกาทสมูลเก เหฎฺฐา วุตฺตสทิสาว คณนาฯ ทฺวาทสมูลเก นกเมฺม เอกนฺติ อพฺยากเตน อพฺยากตํฯ ตตฺถ จ อาหารินฺทฺริยวเสน วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํฯ เตรสมูลกาทีสุปิ สพฺพตฺถ เอกนฺติ อาคตฎฺฐาเน อิทเมว คเหตพฺพํฯ นาหาเร ปน อินฺทฺริยวเสน วิสฺสชฺชนํ เวทิตพฺพํฯ นอินฺทฺริเย อาหารวเสนฯ จุทฺทสมูลกาทีสุ นกเมฺมน สทฺธิํ ฆฎิตตฺตา โนอตฺถิโนอวิคตา น ลพฺภนฺตีติ น วุตฺตาฯ นาหารปจฺจยา นฌานปจฺจยาติ นอินฺทฺริยํ อปเนตฺวา วุตฺตํฯ ตสฺมา ตตฺถ อินฺทฺริยวเสน เอกํ เวทิตพฺพํฯ นวิปากปจฺจยา นอินฺทฺริยปจฺจยาติ นาหารํ อปเนตฺวา วุตฺตํ, ตสฺมา ตตฺถ อาหารวเสน เอกํ เวทิตพฺพํฯ อิเมสุ ปน ทฺวีสุ ปจฺจนียโต ฐิเตสุ คณนา นาม นตฺถิ, ตสฺมา เอกโต น ทสฺสิตาติฯ
Dasamūlake napurejāte pañcātiādīsupi teyeva. Napacchājāte tīṇīti pacchājātavasena labbhamāne dumūlake abyākatante dve apanetvā avasesā. Navippayuttepi teyeva tayo. Noatthiyā dveti nānākkhaṇikakammavasena kusalañca akusalañca kaṭattārūpassa. Vipākaṃ panettha naupanissayena saddhiṃ ghaṭitattā na labbhati. Ekādasamūlake heṭṭhā vuttasadisāva gaṇanā. Dvādasamūlake nakamme ekanti abyākatena abyākataṃ. Tattha ca āhārindriyavasena vissajjanaṃ veditabbaṃ. Terasamūlakādīsupi sabbattha ekanti āgataṭṭhāne idameva gahetabbaṃ. Nāhāre pana indriyavasena vissajjanaṃ veditabbaṃ. Naindriye āhāravasena. Cuddasamūlakādīsu nakammena saddhiṃ ghaṭitattā noatthinoavigatā na labbhantīti na vuttā. Nāhārapaccayā najhānapaccayāti naindriyaṃ apanetvā vuttaṃ. Tasmā tattha indriyavasena ekaṃ veditabbaṃ. Navipākapaccayā naindriyapaccayāti nāhāraṃ apanetvā vuttaṃ, tasmā tattha āhāravasena ekaṃ veditabbaṃ. Imesu pana dvīsu paccanīyato ṭhitesu gaṇanā nāma natthi, tasmā ekato na dassitāti.
นเหตุมูลกํฯ
Nahetumūlakaṃ.
๕๓๔. นารมฺมณมูลกาทีสุปิ ปนฺนรสเตรสเอกาทสนวาติ สพฺพทุเกสุ จตฺตาโรว มูลคณนปริเจฺฉทาฯ ติกาทีสุ ปน พหุปจฺจยสมาโยเค อิตรานิปิ สตฺต ปญฺจ ตีณิ เทฺว เอกนฺติ ปริจฺฉินฺนคณนานิ วิสฺสชฺชนานิ ลพฺภนฺติเยวฯ เตสุ เยสํ ปจฺจยานํ สมาโยเค ยํ ยํ ลพฺภติ, ตํ ตํ เหฎฺฐา วุตฺตนเยน สาธุกํ สลฺลเกฺขตฺวา อุทฺธริตพฺพํฯ สเพฺพสุ เจเตสุ นารมฺมณมูลกาทีสุ นารมฺมณาทีนิ ปทานิ อติกฺกเนฺตน เหตุปเทน สทฺธิํ ปฐมํ พนฺธิตฺวาว จกฺกานิ กตานิฯ ยสฺมา ปน ตานิ นเหตุมูลเก วุตฺตสทิสาเนว โหนฺติ, ตสฺมา วิตฺถาเรน อทเสฺสตฺวา สเงฺขปํ กตฺวา ทสฺสิตานิฯ ตตฺถ ยถา นเหตุมูลเก นารมฺมณนอุปนิสฺสยา วิสุํ วิสุํ ปนฺนรส วาเร ลภนฺตาปิ สมาโยเค เตรส ลภิํสุ, เอวํ สพฺพตฺถ เตรเสว ลภนฺติฯ ยถา จ นารมฺมณนสหชาเตหิ สทฺธิํ นอุปนิสฺสเย สตฺต วารา โหนฺติ, เอวํ นอุปนิสฺสยนารมฺมเณหิ สทฺธิํ นสหชาเตปิ สตฺตฯ
534. Nārammaṇamūlakādīsupi pannarasaterasaekādasanavāti sabbadukesu cattārova mūlagaṇanaparicchedā. Tikādīsu pana bahupaccayasamāyoge itarānipi satta pañca tīṇi dve ekanti paricchinnagaṇanāni vissajjanāni labbhantiyeva. Tesu yesaṃ paccayānaṃ samāyoge yaṃ yaṃ labbhati, taṃ taṃ heṭṭhā vuttanayena sādhukaṃ sallakkhetvā uddharitabbaṃ. Sabbesu cetesu nārammaṇamūlakādīsu nārammaṇādīni padāni atikkantena hetupadena saddhiṃ paṭhamaṃ bandhitvāva cakkāni katāni. Yasmā pana tāni nahetumūlake vuttasadisāneva honti, tasmā vitthārena adassetvā saṅkhepaṃ katvā dassitāni. Tattha yathā nahetumūlake nārammaṇanaupanissayā visuṃ visuṃ pannarasa vāre labhantāpi samāyoge terasa labhiṃsu, evaṃ sabbattha teraseva labhanti. Yathā ca nārammaṇanasahajātehi saddhiṃ naupanissaye satta vārā honti, evaṃ naupanissayanārammaṇehi saddhiṃ nasahajātepi satta.
๕๓๘. นนิสฺสยปจฺจยา นอุปนิสฺสยปจฺจยา นปจฺฉาชาเต ตีณีติ กุสลาทีนิ อพฺยากตนฺตานิฯ เตสุ กฎตฺตารูปญฺจ อาหารสมุฎฺฐานญฺจ ปจฺจยุปฺปนฺนํฯ
538. Nanissayapaccayānaupanissayapaccayā napacchājāte tīṇīti kusalādīni abyākatantāni. Tesu kaṭattārūpañca āhārasamuṭṭhānañca paccayuppannaṃ.
๕๔๓-๕๔๔. นาหารนอินฺทฺริยมูลเกสุ จตุเกฺกสุ นกเมฺมน สทฺธิํ อฆฎิตตฺตา นเหตุมูลเก วิย เอเกเนฺตน ลพฺภนฺติฯ นอินฺทฺริยมูลเก นอุปนิสฺสเย จ นปุเรชาเต จ ฐเปตฺวา นาหาเร ตีณีติ กาตพฺพนฺติ นอินฺทฺริยปจฺจยโต ปฎฺฐาย อิเม เทฺว ปจฺจเย ฆเฎตฺวา นอินฺทฺริยปจฺจยา…เป.… นอุปนิสฺสยปจฺจยา นาหาเร ตีณีฯ นอินฺทฺริยปจฺจยา…เป.… นปุเรชาตปจฺจยา นาหาเร ตีณีติ เอวํ อิเมหิ ปจฺจเยหิ สทฺธิํ นาหารปจฺจเย จ คณนา กาตพฺพาติ อโตฺถฯ ตตฺถ ตีณีติ กุสลาทีเนว อพฺยากตสฺสฯ ตตฺถ กุสลากุสลา กฎตฺตารูปานํ ปุเรชาตสฺส จ กายสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจเยน, อพฺยากตา ปน จิตฺตเจตสิกา ปจฺฉาชาตปจฺจเยเนวาติ อิเมสํ วเสน ตีณิ วิสฺสชฺชนานิ กาตพฺพานิฯ ปรโต ปน นปจฺฉาชาเตน สทฺธิํ ฆฎิตตฺตา นาหาเร เทฺวติ วุตฺตํฯ ตตฺถ กฎตฺตารูปวเสน กุสลํ อพฺยากตสฺส, ตถา อกุสลนฺติ เอตฺตกเมว ลพฺภติฯ อาหารสฺส ปน ปฎิกฺขิตฺตตฺตา กพฬีการาหาโร อตฺถิอวิคตวเสนาปิ ปจฺจยภาวํ น ลภติฯ
543-544. Nāhāranaindriyamūlakesu catukkesu nakammena saddhiṃ aghaṭitattā nahetumūlake viya ekentena labbhanti. Naindriyamūlake naupanissaye ca napurejāte ca ṭhapetvā nāhāre tīṇīti kātabbanti naindriyapaccayato paṭṭhāya ime dve paccaye ghaṭetvā naindriyapaccayā…pe… naupanissayapaccayā nāhāre tīṇī. Naindriyapaccayā…pe… napurejātapaccayā nāhāre tīṇīti evaṃ imehi paccayehi saddhiṃ nāhārapaccaye ca gaṇanā kātabbāti attho. Tattha tīṇīti kusalādīneva abyākatassa. Tattha kusalākusalā kaṭattārūpānaṃ purejātassa ca kāyassa pacchājātapaccayena, abyākatā pana cittacetasikā pacchājātapaccayenevāti imesaṃ vasena tīṇi vissajjanāni kātabbāni. Parato pana napacchājātena saddhiṃ ghaṭitattā nāhāre dveti vuttaṃ. Tattha kaṭattārūpavasena kusalaṃ abyākatassa, tathā akusalanti ettakameva labbhati. Āhārassa pana paṭikkhittattā kabaḷīkārāhāro atthiavigatavasenāpi paccayabhāvaṃ na labhati.
๕๔๕. นวิปฺปยุตฺตมูลกสฺส จตุมูลเก นอุปนิสฺสเย ปญฺจาติ กุสโล สหชาตกุสลสฺส, กุสโล กฎตฺตารูปสงฺขาตสฺส อพฺยากตสฺส, อกุสโล สหชาตอกุสลสฺส, ตถา กฎตฺตารูปสงฺขาตสฺส อพฺยากตสฺส, อพฺยากโต สหชาตอพฺยากตสฺสาติ เอวํ ปญฺจฯ นวิปฺปยุตฺตปจฺจยา…เป.… นอุปนิสฺสเย ตีณีติ เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว กุสลาทโย ตโย อพฺยากตสฺสฯ
545. Navippayuttamūlakassa catumūlake naupanissaye pañcāti kusalo sahajātakusalassa, kusalo kaṭattārūpasaṅkhātassa abyākatassa, akusalo sahajātaakusalassa, tathā kaṭattārūpasaṅkhātassa abyākatassa, abyākato sahajātaabyākatassāti evaṃ pañca. Navippayuttapaccayā…pe… naupanissaye tīṇīti heṭṭhā vuttanayeneva kusalādayo tayo abyākatassa.
๕๔๖. โนอตฺถิปจฺจยา นเหตุยา นวาติ นเหตุปจฺจยา โนอตฺถิยา วุตฺตา นเววฯ สเพฺพปิ หิ เต เอกมูลเกกาวสานา อนนฺตรปกตูปนิสฺสยวเสน ลพฺภนฺติฯ นารมฺมเณ นวาติปิ เตเยว นารมฺมเณ ฐตฺวา นอุปนิสฺสเย เทฺว กาตพฺพาฯ ยาว นิสฺสยมฺปีติ โนอตฺถิมูลเก นเย ‘‘โนอตฺถิปจฺจยา นเหตุปจฺจยา นารมฺมณปจฺจยา’’ติ เอวํ จกฺกพนฺธคมเนน นารมฺมณปจฺจเย ฐตฺวา อิเมหิ วา ตีหิ, อิโต ปเรสุ นาธิปติอาทีสุ อญฺญตรญฺญตเรน วา สทฺธิํ ยาว นิสฺสยปจฺจยํ ปาปุณาติ, ตาว คนฺตฺวา นอุปนิสฺสเย เทฺว วิสฺสชฺชนานิ กาตพฺพานีติ อโตฺถฯ
546. Noatthipaccayā nahetuyā navāti nahetupaccayā noatthiyā vuttā naveva. Sabbepi hi te ekamūlakekāvasānā anantarapakatūpanissayavasena labbhanti. Nārammaṇe navātipi teyeva nārammaṇe ṭhatvā naupanissaye dve kātabbā. Yāva nissayampīti noatthimūlake naye ‘‘noatthipaccayā nahetupaccayā nārammaṇapaccayā’’ti evaṃ cakkabandhagamanena nārammaṇapaccaye ṭhatvā imehi vā tīhi, ito paresu nādhipatiādīsu aññataraññatarena vā saddhiṃ yāva nissayapaccayaṃ pāpuṇāti, tāva gantvā naupanissaye dve vissajjanāni kātabbānīti attho.
เอวํ ลกฺขณํ ฐเปตฺวา ปุน นารมฺมณโต ปฎฺฐาย ยาว นิสฺสยา สตฺต ปจฺจเย คเหตฺวา นอุปนิสฺสเย เทฺวติ อาหฯ ตตฺถ โนอตฺถิปจฺจยา นเหตุปจฺจยา นารมฺมณปจฺจยา นอุปนิสฺสเย เทฺว, โนอตฺถิปจฺจยา นเหตุนารมฺมณนาธิปติปจฺจยา นอุปนิสฺสเย เทฺวติ เอวํ นารมฺมณโต ปุริมปจฺฉิเมหิ นิสฺสยปริโยสาเนหิ สพฺพปเทหิ สทฺธิํ โยชนา กาตพฺพาฯ เทฺวติ ปเนตฺถ กุสโล อพฺยากตสฺส, อกุสโล อพฺยากตสฺสาติ นานากฺขณิกกมฺมวเสน กฎตฺตารูปสฺส ปจฺจยวเสน เวทิตพฺพานิฯ นอุปนิสฺสยปเทน สทฺธิํ นปุเรชาตาทีสุ สพฺพตฺถ เทฺวฯ กมฺมปจฺจโย ปเนตฺถ น คหิโตฯ ตสฺมิญฺหิ คหิเต เตปิ เทฺว วารา ฉิชฺชนฺติ, วิสฺสชฺชนเมว น ลพฺภติฯ เอวํ เยน เยน สทฺธิํ ยสฺส ยสฺส สํสนฺทเนฯ ยํ ลพฺภติ, ยญฺจ ปริหายติ, ตํ สพฺพํ สาธุกํ สลฺลเกฺขตฺวา สพฺพปจฺจนีเยสุ คณนา อุทฺธริตพฺพาติฯ
Evaṃ lakkhaṇaṃ ṭhapetvā puna nārammaṇato paṭṭhāya yāva nissayā satta paccaye gahetvā naupanissaye dveti āha. Tattha noatthipaccayā nahetupaccayā nārammaṇapaccayā naupanissaye dve, noatthipaccayā nahetunārammaṇanādhipatipaccayā naupanissaye dveti evaṃ nārammaṇato purimapacchimehi nissayapariyosānehi sabbapadehi saddhiṃ yojanā kātabbā. Dveti panettha kusalo abyākatassa, akusalo abyākatassāti nānākkhaṇikakammavasena kaṭattārūpassa paccayavasena veditabbāni. Naupanissayapadena saddhiṃ napurejātādīsu sabbattha dve. Kammapaccayo panettha na gahito. Tasmiñhi gahite tepi dve vārā chijjanti, vissajjanameva na labbhati. Evaṃ yena yena saddhiṃ yassa yassa saṃsandane. Yaṃ labbhati, yañca parihāyati, taṃ sabbaṃ sādhukaṃ sallakkhetvā sabbapaccanīyesu gaṇanā uddharitabbāti.
ปจฺจนียคณนวณฺณนาฯ
Paccanīyagaṇanavaṇṇanā.
อนุโลมปจฺจนียวณฺณนา
Anulomapaccanīyavaṇṇanā
๕๕๐. อนุโลมปจฺจนีเย ‘‘เหตุยา สตฺต, อารมฺมเณ นวา’’ติ เอวํ อนุโลเม ‘‘นเหตุยา ปนฺนรส, นารมฺมเณ ปนฺนรสา’’ติ เอวํ ปจฺจนีเย จ ลทฺธคณเนสุ ปจฺจเยสุ โย ปจฺจโย อนุโลมโต ฐิโต, ตสฺส อนุโลเม ลทฺธวาเรหิ สทฺธิํ เย ปจฺจนียโต ฐิตสฺส ปจฺจนีเย ลทฺธวาเรสุ สทิสวารา, เตสํ วเสน คณนา เวทิตพฺพาฯ อนุโลมสฺมิญฺหิ เหตุปจฺจเย ‘‘เหตุยา สตฺตา’’ติ สตฺต วารา ลทฺธา, ปจฺจนีเย นารมฺมณปจฺจเย ‘‘นารมฺมเณ ปนฺนรสา’’ติ ปนฺนรส ลทฺธาฯ เตสุ เย เหตุยา สตฺต วุตฺตา, เตหิ สทฺธิํ นารมฺมเณ วุเตฺตสุ ปนฺนรสสุ ‘‘กุสโล กุสลสฺส, อพฺยากตสฺส, กุสลาพฺยากตสฺส, อกุสโล อกุสลสฺส, อพฺยากตสฺส, อกุสลาพฺยากตสฺส, อพฺยากโต อพฺยากตสฺสา’’ติ อิเม สตฺต สทิสาฯ เต สนฺธาย เหตุปจฺจยา นอารมฺมเณ สตฺตาติ วุตฺตํฯ นอธิปติยา สตฺตาติอาทีสุปิ เอเสว นโยฯ
550. Anulomapaccanīye ‘‘hetuyā satta, ārammaṇe navā’’ti evaṃ anulome ‘‘nahetuyā pannarasa, nārammaṇe pannarasā’’ti evaṃ paccanīye ca laddhagaṇanesu paccayesu yo paccayo anulomato ṭhito, tassa anulome laddhavārehi saddhiṃ ye paccanīyato ṭhitassa paccanīye laddhavāresu sadisavārā, tesaṃ vasena gaṇanā veditabbā. Anulomasmiñhi hetupaccaye ‘‘hetuyā sattā’’ti satta vārā laddhā, paccanīye nārammaṇapaccaye ‘‘nārammaṇe pannarasā’’ti pannarasa laddhā. Tesu ye hetuyā satta vuttā, tehi saddhiṃ nārammaṇe vuttesu pannarasasu ‘‘kusalo kusalassa, abyākatassa, kusalābyākatassa, akusalo akusalassa, abyākatassa, akusalābyākatassa, abyākato abyākatassā’’ti ime satta sadisā. Te sandhāya hetupaccayā naārammaṇe sattāti vuttaṃ. Naadhipatiyā sattātiādīsupi eseva nayo.
นสหชาตสฺส ปน เหตุปจฺจยสฺส อภาวา นสหชาเต เอโกปิ น ลพฺภติ, ตสฺมา เตน สทฺธิํ โยชนา น กตาฯ นอญฺญมเญฺญ กุสลาทโย ตโย รูปาพฺยากตสฺส ลพฺภนฺติ, เต สนฺธาย ตีณีติ วุตฺตํฯ ตถา นสมฺปยุเตฺตฯ นวิปฺปยุเตฺต ปน กุสลํ กุสลสฺส, อกุสลํ อกุสลสฺส, อพฺยากตํ อพฺยากตสฺสาติ อรูปธมฺมวเสน ตีณิ เวทิตพฺพานิฯ นนิสฺสยโนอตฺถิโนอวิคตา นสหชาโต วิย น ลพฺภนฺติเยวาติ เตหิปิ สทฺธิํ โยชนา น กตาฯ เอวเมตฺถ สตฺต ตีณีติ เทฺวเยว คณนปริเจฺฉทา, เตสํ วเสน อูนตรคณเนน สทฺธิํ อติเรกคณนสฺสปิ คณนํ ปริหาเปตฺวา ปจฺจยฆฎเนสุ คณนา เวทิตพฺพาฯ
Nasahajātassa pana hetupaccayassa abhāvā nasahajāte ekopi na labbhati, tasmā tena saddhiṃ yojanā na katā. Naaññamaññe kusalādayo tayo rūpābyākatassa labbhanti, te sandhāya tīṇīti vuttaṃ. Tathā nasampayutte. Navippayutte pana kusalaṃ kusalassa, akusalaṃ akusalassa, abyākataṃ abyākatassāti arūpadhammavasena tīṇi veditabbāni. Nanissayanoatthinoavigatā nasahajāto viya na labbhantiyevāti tehipi saddhiṃ yojanā na katā. Evamettha satta tīṇīti dveyeva gaṇanaparicchedā, tesaṃ vasena ūnataragaṇanena saddhiṃ atirekagaṇanassapi gaṇanaṃ parihāpetvā paccayaghaṭanesu gaṇanā veditabbā.
๕๕๑. ตตฺถ เหตุสหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตนฺติ นารมฺมเณ สตฺตาติ กุสโล ธโมฺม กุสลสฺส ธมฺมสฺส เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย, สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย, นารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโยฯ กุสลา เหตู สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย, สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย, นารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโยติ อิมินา นเยน สตฺต วารา อุทฺธริตพฺพาฯ นาธิปติยา สตฺตาติอาทีสุปิ เอเสว นโยฯ ทุติเย ฆฎเน อญฺญมญฺญสฺส ปวิฎฺฐตฺตา ฐเปตฺวา นสมฺปยุตฺตํ เสเสสุ ตีณีติ วุตฺตํฯ นสมฺปยุเตฺต ปน อญฺญมญฺญวิปฺปยุตฺตํ ปฎิสนฺธินามรูปํ สนฺธาย เอกนฺติ วุตฺตํฯ อญฺญมญฺญปจฺจโย เจตฺถ อนุโลมฆฎเน ปวิฎฺฐตฺตา ปจฺจนียโต น ลพฺภติ, ตสฺมา ‘‘นอญฺญมเญฺญ’’ติ น วุตฺตํฯ ยถา เจตฺถ, เอวํ เสสฆฎเนสุปิ ปวิฎฺฐปจฺจยา ปจฺจนียโต น ลพฺภนฺตีติ น วุตฺตาฯ ตติยฆฎเน สมฺปยุตฺตสฺส ปวิฎฺฐตฺตา สพฺพตฺถ ตีณิเยวฯ จตุตฺถฆฎเน วิปฺปยุตฺตสฺส ปวิฎฺฐตฺตา ตีณิ กุสลาทีนิ จิตฺตสมุฎฺฐานรูปสฺสฯ ปญฺจเม วิปากสฺส ปวิฎฺฐตฺตา สพฺพตฺถ เอกํ อพฺยากเตน อพฺยากตํฯ อิโต ปเรสุปิ วิปากสมฺปยุเตฺตสุ เอเสว นโยฯ
551. Tattha hetusahajātanissayaatthiavigatanti nārammaṇe sattāti kusalo dhammo kusalassa dhammassa hetupaccayena paccayo, sahajātanissayaatthiavigatapaccayena paccayo, nārammaṇapaccayena paccayo. Kusalā hetū sampayuttakānaṃ khandhānaṃ hetupaccayena paccayo, sahajātanissayaatthiavigatapaccayena paccayo, nārammaṇapaccayena paccayoti iminā nayena satta vārā uddharitabbā. Nādhipatiyā sattātiādīsupi eseva nayo. Dutiye ghaṭane aññamaññassa paviṭṭhattā ṭhapetvā nasampayuttaṃ sesesu tīṇīti vuttaṃ. Nasampayutte pana aññamaññavippayuttaṃ paṭisandhināmarūpaṃ sandhāya ekanti vuttaṃ. Aññamaññapaccayo cettha anulomaghaṭane paviṭṭhattā paccanīyato na labbhati, tasmā ‘‘naaññamaññe’’ti na vuttaṃ. Yathā cettha, evaṃ sesaghaṭanesupi paviṭṭhapaccayā paccanīyato na labbhantīti na vuttā. Tatiyaghaṭane sampayuttassa paviṭṭhattā sabbattha tīṇiyeva. Catutthaghaṭane vippayuttassa paviṭṭhattā tīṇi kusalādīni cittasamuṭṭhānarūpassa. Pañcame vipākassa paviṭṭhattā sabbattha ekaṃ abyākatena abyākataṃ. Ito paresupi vipākasampayuttesu eseva nayo.
๕๕๒. เหตุสหชาตนิสฺสยอินฺทฺริยมคฺคอตฺถิอวิคตนฺติ นารมฺมเณ จตฺตารีติ กุสโล กุสลสฺส, อพฺยากตสฺส, กุสลาพฺยากตสฺส; อพฺยากโต อพฺยากตสฺสาติ อิเมสํ วเสน เวทิตพฺพานิฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ นอญฺญมเญฺญ เทฺวติ กุสโล อพฺยากตสฺส, ตถา อพฺยากโตฯ ปรโตปิ ทฺวีสุ เอเสว นโยฯ อิมินา อุปาเยน สพฺพฆฎเนสุ ลพฺภมานวเสน คณนา เวทิตพฺพาฯ สพฺพานิปิ เจตานิ อิมสฺมิํ อนุโลมปจฺจนีเย สหชาตวเสน เจว ปกิณฺณกวเสน จ ปนฺนรสาธิกานิ จตฺตาริ ฆฎนสตานิ วุตฺตานิฯ เตสุ ตสฺมิํ ตสฺมิํ ฆฎเน เย อนุโลมโต ฐิตา ปจฺจยา, เตสํ เอโกปิ ปจฺจนียโต น ลพฺภติฯ เหตุมูลเก เจตฺถ ปฐเม ฆฎเน อนุโลมโต ปญฺจนฺนํ ปจฺจยานํ ฐิตตฺตา ปจฺจนียโต เอกูนวีสติ ปจฺจยา อาคตาฯ เอวํ เสเสสุปิ อนุโลมโต ฐิตาวเสสา ปจฺจนียโต อาคตาฯ อนุโลมโต เจตฺถ พหูสุปิ ฐิเตสุ ปจฺจนียโต เอเกโกว อาคโตติ เวทิตโพฺพฯ ยถา จ เหตุมูลเก, เอวํ อารมฺมณาทิมูลเกสุปิ สพฺพเมตํ วิธานํ ยถานุรูปโต เวทิตพฺพนฺติฯ
552. Hetusahajātanissayaindriyamaggaatthiavigatanti nārammaṇe cattārīti kusalo kusalassa, abyākatassa, kusalābyākatassa; abyākato abyākatassāti imesaṃ vasena veditabbāni. Sesesupi eseva nayo. Naaññamaññe dveti kusalo abyākatassa, tathā abyākato. Paratopi dvīsu eseva nayo. Iminā upāyena sabbaghaṭanesu labbhamānavasena gaṇanā veditabbā. Sabbānipi cetāni imasmiṃ anulomapaccanīye sahajātavasena ceva pakiṇṇakavasena ca pannarasādhikāni cattāri ghaṭanasatāni vuttāni. Tesu tasmiṃ tasmiṃ ghaṭane ye anulomato ṭhitā paccayā, tesaṃ ekopi paccanīyato na labbhati. Hetumūlake cettha paṭhame ghaṭane anulomato pañcannaṃ paccayānaṃ ṭhitattā paccanīyato ekūnavīsati paccayā āgatā. Evaṃ sesesupi anulomato ṭhitāvasesā paccanīyato āgatā. Anulomato cettha bahūsupi ṭhitesu paccanīyato ekekova āgatoti veditabbo. Yathā ca hetumūlake, evaṃ ārammaṇādimūlakesupi sabbametaṃ vidhānaṃ yathānurūpato veditabbanti.
อนุโลมปจฺจนียวณฺณนาฯ
Anulomapaccanīyavaṇṇanā.
ปจฺจนียานุโลมวณฺณนา
Paccanīyānulomavaṇṇanā
๖๓๑. ปจฺจนียานุโลเมปิ ‘‘เหตุยา สตฺต, อารมฺมเณ นวา’’ติ เอวํ อนุโลเม ‘‘นเหตุยา ปนฺนรส, นารมฺมเณ ปนฺนรสา’’ติ เอวํ ปจฺจนีเย จ ลทฺธคณเนสุ ปจฺจเยสุ โย ปจฺจนียโต ฐิโต, ตสฺส ปจฺจนียโต ลทฺธวาเรสุ เย อนุโลมโต ฐิตสฺส อนุโลมโต ลทฺธวาเรหิ สทิสา วารา, เตสํ วเสน คณนา เวทิตพฺพาฯ ปจฺจนียสฺมิญฺหิ นเหตุปจฺจเย ‘‘นเหตุยา ปนฺนรสา’’ติ ปนฺนรส วารา ลทฺธา, อนุโลเม อารมฺมณปจฺจเย ‘‘อารมฺมเณ นวา’’ติ นว วารา ลทฺธาฯ ตตฺถ เย นเหตุยา ปนฺนรส วุตฺตา, เตสุ เย วารา อารมฺมเณ วุเตฺตหิ นวหิ สทิสา, เตสํ วเสน คณนา เวทิตพฺพาฯ ตตฺถ เย อารมฺมเณ นว วุตฺตา, เต นเหตุยา วุเตฺตสุ ปนฺนรสสุ กุสโล ‘‘กุสลากุสลาพฺยากตานํ, อกุสโล อกุสลกุสลาพฺยากตานํ, อพฺยากโต อพฺยากตกุสลากุสลาน’’นฺติ อิเมหิ นวหิ สทิสา, เต สนฺธาย นเหตุยา อารมฺมเณ นวาติ วุตฺตํฯ อธิปติยา ทสาติอาทีสุปิ เอเสว นโยฯ อารมฺมณาทีนญฺหิ อนุโลมคณนาย เย วารา วุตฺตา นเหตุปจฺจเยน สทฺธิํ สํสนฺทเนปิ เต สเพฺพ ลพฺภนฺตีติ เวทิตพฺพาฯ ‘‘กุสโล ธโมฺม กุสลสฺส ธมฺมสฺส นเหตุปจฺจเยน ปจฺจโย อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย, ทานํ ทตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ตํ ปจฺจเวกฺขติ, ปุเพฺพ สุจิณฺณานิ ปจฺจเวกฺขตี’’ติ อิมินา อุปาเยน เตสํ ปาฬิ อุทฺธริตพฺพาฯ
631. Paccanīyānulomepi ‘‘hetuyā satta, ārammaṇe navā’’ti evaṃ anulome ‘‘nahetuyā pannarasa, nārammaṇe pannarasā’’ti evaṃ paccanīye ca laddhagaṇanesu paccayesu yo paccanīyato ṭhito, tassa paccanīyato laddhavāresu ye anulomato ṭhitassa anulomato laddhavārehi sadisā vārā, tesaṃ vasena gaṇanā veditabbā. Paccanīyasmiñhi nahetupaccaye ‘‘nahetuyā pannarasā’’ti pannarasa vārā laddhā, anulome ārammaṇapaccaye ‘‘ārammaṇe navā’’ti nava vārā laddhā. Tattha ye nahetuyā pannarasa vuttā, tesu ye vārā ārammaṇe vuttehi navahi sadisā, tesaṃ vasena gaṇanā veditabbā. Tattha ye ārammaṇe nava vuttā, te nahetuyā vuttesu pannarasasu kusalo ‘‘kusalākusalābyākatānaṃ, akusalo akusalakusalābyākatānaṃ, abyākato abyākatakusalākusalāna’’nti imehi navahi sadisā, te sandhāya nahetuyā ārammaṇe navāti vuttaṃ. Adhipatiyā dasātiādīsupi eseva nayo. Ārammaṇādīnañhi anulomagaṇanāya ye vārā vuttā nahetupaccayena saddhiṃ saṃsandanepi te sabbe labbhantīti veditabbā. ‘‘Kusalo dhammo kusalassa dhammassa nahetupaccayena paccayo ārammaṇapaccayena paccayo, dānaṃ datvā sīlaṃ samādiyitvā uposathakammaṃ katvā taṃ paccavekkhati, pubbe suciṇṇāni paccavekkhatī’’ti iminā upāyena tesaṃ pāḷi uddharitabbā.
นเหตุปจฺจยา อธิปติยา ทสาติ เอตฺถ ฐเปตฺวา วีมํสาธิปติํ เสสาธิปติวเสน อนุโลมวิภเงฺค อาคตวารา อุทฺธริตพฺพาฯ เอวเมตฺถ นว ทสสตฺตตีณิเตรสเอกนฺติ ฉ คณนปริเจฺฉทา, เตสํ วเสน อูนตรคณเนน สทฺธิํ อติเรกคณนสฺสาปิ คณนํ ปริหาเปตฺวา นเหตุมูลกาทีนํ นยานํ ติมูลกาทีสุ สพฺพสํสนฺทเนสุ คณนา เวทิตพฺพาฯ อิทํ ตาว สาธารณลกฺขณํ ฯ น ปเนตํ สพฺพสํสนฺทเนสุ คจฺฉติ, เยหิ ปน ปจฺจเยหิ สทฺธิํ เยสํ ปจฺจยานํ สํสนฺทเน เย วารา วิรุชฺฌนฺติ, เต อปเนตฺวา อวเสสานํ วเสนเปตฺถ คณนา เวทิตพฺพาฯ
Nahetupaccayā adhipatiyā dasāti ettha ṭhapetvā vīmaṃsādhipatiṃ sesādhipativasena anulomavibhaṅge āgatavārā uddharitabbā. Evamettha nava dasasattatīṇiterasaekanti cha gaṇanaparicchedā, tesaṃ vasena ūnataragaṇanena saddhiṃ atirekagaṇanassāpi gaṇanaṃ parihāpetvā nahetumūlakādīnaṃ nayānaṃ timūlakādīsu sabbasaṃsandanesu gaṇanā veditabbā. Idaṃ tāva sādhāraṇalakkhaṇaṃ . Na panetaṃ sabbasaṃsandanesu gacchati, yehi pana paccayehi saddhiṃ yesaṃ paccayānaṃ saṃsandane ye vārā virujjhanti, te apanetvā avasesānaṃ vasenapettha gaṇanā veditabbā.
นเหตุปจฺจยา นอารมฺมณปจฺจยา อธิปติยา สตฺตาติ เอตฺถ หิ กุสโล อกุสลสฺส; อพฺยากโต กุสลสฺส, อกุสลสฺสาติ อิเม อารมฺมณาธิปติวเสน ลพฺภมานา ตโย วารา วิรุชฺฌนฺติฯ กสฺมา? นอารมฺมณปจฺจยาติ วุตฺตตฺตาฯ ตสฺมา เต อปเนตฺวา สหชาตาธิปตินเยเนเวตฺถ ‘‘กุสโล กุสลสฺส, อพฺยากตสฺส, กุสลาพฺยากตสฺส; อกุสโล อกุสลสฺส, อพฺยากตสฺส, อกุสลาพฺยากตสฺส; อพฺยากโต อพฺยากตสฺสา’’ติ สตฺต วารา เวทิตพฺพาฯ เตปิ นเหตุปจฺจยาติ วจนโต ฐเปตฺวา วีมํสาธิปติํ เสสาธิปตีนํ วเสนฯ เอวํ สพฺพตฺถ อูนตรคณนปจฺจยวเสน อวิรุชฺฌมานคณนวเสน จ คณนา เวทิตพฺพาฯ
Nahetupaccayā naārammaṇapaccayā adhipatiyā sattāti ettha hi kusalo akusalassa; abyākato kusalassa, akusalassāti ime ārammaṇādhipativasena labbhamānā tayo vārā virujjhanti. Kasmā? Naārammaṇapaccayāti vuttattā. Tasmā te apanetvā sahajātādhipatinayenevettha ‘‘kusalo kusalassa, abyākatassa, kusalābyākatassa; akusalo akusalassa, abyākatassa, akusalābyākatassa; abyākato abyākatassā’’ti satta vārā veditabbā. Tepi nahetupaccayāti vacanato ṭhapetvā vīmaṃsādhipatiṃ sesādhipatīnaṃ vasena. Evaṃ sabbattha ūnataragaṇanapaccayavasena avirujjhamānagaṇanavasena ca gaṇanā veditabbā.
เยสุ จ ปจฺจเยสุ ปจฺจนียโต ฐิเตสุ เย อนุโลมโต น ติฎฺฐนฺติ, เตปิ เวทิตพฺพาฯ เสยฺยถิทํ – อนนฺตเร ปจฺจนียโต ฐิเต สมนนฺตราเสวนนตฺถิวิคตา อนุโลมโต น ติฎฺฐนฺติ, สหชาเต ปจฺจนียโต ฐิเต เหตุอญฺญมญฺญวิปากฌานมคฺคสมฺปยุตฺตา อนุโลมโต น ติฎฺฐนฺติ, นิสฺสเย ปจฺจนียโต ฐิเต วตฺถุปุเรชาโต อนุโลมโต น ติฎฺฐติฯ อาหาเร วา อินฺทฺริเย วา ปจฺจนียโต ฐิเต เหตุอญฺญมญฺญวิปากฌานมคฺคสมฺปยุตฺตา อนุโลมโต น ติฎฺฐนฺติฯ อารมฺมเณ ปน ปจฺจนียโต ฐิเต อธิปติอุปนิสฺสยา อนุโลมโต น ติฎฺฐนฺติ, อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยา ปน น ลพฺภนฺติฯ อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ ยํ ลพฺภติ, ยญฺจ น ลพฺภติ, ตํ ชานิตฺวา ลพฺภมานวเสน วารา อุทฺธริตพฺพาฯ
Yesu ca paccayesu paccanīyato ṭhitesu ye anulomato na tiṭṭhanti, tepi veditabbā. Seyyathidaṃ – anantare paccanīyato ṭhite samanantarāsevananatthivigatā anulomato na tiṭṭhanti, sahajāte paccanīyato ṭhite hetuaññamaññavipākajhānamaggasampayuttā anulomato na tiṭṭhanti, nissaye paccanīyato ṭhite vatthupurejāto anulomato na tiṭṭhati. Āhāre vā indriye vā paccanīyato ṭhite hetuaññamaññavipākajhānamaggasampayuttā anulomato na tiṭṭhanti. Ārammaṇe pana paccanīyato ṭhite adhipatiupanissayā anulomato na tiṭṭhanti, ārammaṇādhipatiārammaṇūpanissayā pana na labbhanti. Iminā upāyena sabbattha yaṃ labbhati, yañca na labbhati, taṃ jānitvā labbhamānavasena vārā uddharitabbā.
ตตฺถ สเพฺพสุปิ ติมูลกาทีสุ อนนฺตเร สตฺตาติอาทโย ทุมูลเก ลทฺธวาราเยว สตฺตมูลกาทีสุ ปน นสหชาตปจฺจยา นิสฺสเย ตีณีติ ปุเรชาตวเสน วตฺถุนิสฺสเย ตีณิฯ กเมฺม เทฺว นานากฺขณิกวเสเนวฯ อาหาเร เอกํ กพฬีการาหารวเสนฯ อินฺทฺริเย เอกํ รูปินฺทฺริยวเสนฯ กเมน คนฺตฺวา วิปฺปยุเตฺต ตีณีติ กุสลาทีนํ อพฺยากตนฺตานิ ปจฺฉาชาตวเสนฯ อตฺถิอวิคเตสุ ปญฺจาติ ตานิ เจว ตีณิ, กุสลาพฺยากตา อพฺยากตสฺส, อกุสลาพฺยากตา อพฺยากตสฺสาติ อิมานิ จ เทฺว ปจฺฉาชาตาหารินฺทฺริยวเสนาติฯ ปจฺฉาชาตปจฺจยสฺส ปจฺจนีกภาวโต ปฎฺฐาย ปน อตฺถิอวิคเตสุ เอกนฺติ อพฺยากโต อพฺยากตสฺส อาหารินฺทฺริยวเสนฯ นาหาเร คหิเต นอินฺทฺริยปจฺจยาติ น คเหตพฺพํฯ ตถา นอินฺทฺริเย คหิเต นาหารปจฺจยาติฯ กสฺมา? ทฺวีสุ เอกโต คหิเตสุ คเณตพฺพวารสฺส อภาวโตฯ ฌานมคฺคาทีสุปิ ปจฺจนีกโต ฐิเตสุ อาหารโต วา อินฺทฺริยโต วา เอกํ อนุโลมํ อกตฺวาว อวสาเน อินฺทฺริเย เอกํ, อตฺถิยา เอกํ, อวิคเต เอกํ, อาหาเร เอกํ, อตฺถิยา เอกํ, อวิคเต เอกนฺติ วุตฺตํฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ
Tattha sabbesupi timūlakādīsu anantare sattātiādayo dumūlake laddhavārāyeva sattamūlakādīsu pana nasahajātapaccayā nissaye tīṇīti purejātavasena vatthunissaye tīṇi. Kamme dve nānākkhaṇikavaseneva. Āhāreekaṃ kabaḷīkārāhāravasena. Indriye ekaṃ rūpindriyavasena. Kamena gantvā vippayutte tīṇīti kusalādīnaṃ abyākatantāni pacchājātavasena. Atthiavigatesu pañcāti tāni ceva tīṇi, kusalābyākatā abyākatassa, akusalābyākatā abyākatassāti imāni ca dve pacchājātāhārindriyavasenāti. Pacchājātapaccayassa paccanīkabhāvato paṭṭhāya pana atthiavigatesu ekanti abyākato abyākatassa āhārindriyavasena. Nāhāre gahite naindriyapaccayāti na gahetabbaṃ. Tathā naindriye gahite nāhārapaccayāti. Kasmā? Dvīsu ekato gahitesu gaṇetabbavārassa abhāvato. Jhānamaggādīsupi paccanīkato ṭhitesu āhārato vā indriyato vā ekaṃ anulomaṃ akatvāva avasāne indriye ekaṃ, atthiyā ekaṃ, avigate ekaṃ, āhāre ekaṃ, atthiyā ekaṃ, avigate ekanti vuttaṃ. Sesamettha uttānatthamevāti.
นเหตุมูลกํฯ
Nahetumūlakaṃ.
๖๓๖. นารมฺมณมูลกาทีสุ นอญฺญมญฺญมูลเก นอญฺญมญฺญปจฺจยา เหตุยา ตีณีติ กุสลาทีนิ จิตฺตสมุฎฺฐานานํฯ อธิปติยา อฎฺฐาติ อธิปติยา วุเตฺตสุ ทสสุ ‘‘กุสโล กุสลาพฺยากตสฺส, อกุสโล อกุสลาพฺยากตสฺสา’’ติ เทฺว อปเนตฺวา เสสานิ อฎฺฐฯ สหชาเต ปญฺจาติ เหตุยา วุเตฺตหิ ตีหิ สทฺธิํ ‘‘กุสโล จ อพฺยากโต จ อพฺยากตสฺส, อกุสโล จ อพฺยากโต จ อพฺยากตสฺสา’’ติ อิเม เทฺวฯ นิสฺสเย สตฺตาติ เตหิ ปญฺจหิ สทฺธิํ ‘‘อพฺยากโต กุสลสฺส, อพฺยากโต อกุสลสฺสา’’ติ อิเม เทฺว วตฺถุวเสนฯ กเมฺม ตีณีติ เหตุยา วุตฺตาเนวฯ เสสติเกสุปิ เอเสว นโยฯ อธิปติยา ตีณีติ เหฎฺฐา วุตฺตาเนวฯ
636. Nārammaṇamūlakādīsu naaññamaññamūlake naaññamaññapaccayā hetuyā tīṇīti kusalādīni cittasamuṭṭhānānaṃ. Adhipatiyā aṭṭhāti adhipatiyā vuttesu dasasu ‘‘kusalo kusalābyākatassa, akusalo akusalābyākatassā’’ti dve apanetvā sesāni aṭṭha. Sahajāte pañcāti hetuyā vuttehi tīhi saddhiṃ ‘‘kusalo ca abyākato ca abyākatassa, akusalo ca abyākato ca abyākatassā’’ti ime dve. Nissaye sattāti tehi pañcahi saddhiṃ ‘‘abyākato kusalassa, abyākato akusalassā’’ti ime dve vatthuvasena. Kamme tīṇīti hetuyā vuttāneva. Sesatikesupi eseva nayo. Adhipatiyā tīṇīti heṭṭhā vuttāneva.
๖๔๔. นาหารมูลเก อญฺญมเญฺญ ตีณีติ ฐเปตฺวา อาหาเร เสสเจตสิกวเสน เวทิตพฺพานิฯ ยถา จ เหฎฺฐา, ตถา อิธาปิ นาหารนอินฺทฺริเยสุ เอเกกเมว คหิตํ, น เทฺว เอกโตฯ
644. Nāhāramūlake aññamaññe tīṇīti ṭhapetvā āhāre sesacetasikavasena veditabbāni. Yathā ca heṭṭhā, tathā idhāpi nāhāranaindriyesu ekekameva gahitaṃ, na dve ekato.
๖๔๘. นสมฺปยุตฺตปจฺจยา เหตุยา ตีณีติ เหฎฺฐา นอญฺญมเญฺญ วุตฺตาเนวฯ อธิปติยา อฎฺฐาติ วุตฺตาเนวฯ นวิปฺปยุตฺตมูลเก กเมฺม ปญฺจาติ กุสลาทิเจตนา สหชาตกุสลาทีนํ, นานากฺขณิกา กุสลากุสลเจตนา กมฺมสมุฎฺฐานรูปสฺสาติ เอวํ ปญฺจฯ อาหารินฺทฺริเยสุ ตีณิ สหชาตสทิสานิฯ ฌานมคฺคาทีสุ ตีณิ เหตุสทิสานิฯ
648. Nasampayuttapaccayāhetuyā tīṇīti heṭṭhā naaññamaññe vuttāneva. Adhipatiyā aṭṭhāti vuttāneva. Navippayuttamūlake kamme pañcāti kusalādicetanā sahajātakusalādīnaṃ, nānākkhaṇikā kusalākusalacetanā kammasamuṭṭhānarūpassāti evaṃ pañca. Āhārindriyesu tīṇi sahajātasadisāni. Jhānamaggādīsu tīṇi hetusadisāni.
๖๕๐. โนอตฺถิมูลเก ยสฺมา เหตุ โนอตฺถิ นาม น โหติ, นิยมโต อตฺถิเยว, ตสฺมา ตํ อคฺคเหตฺวา นารมฺมเณ นวาติ วุตฺตํฯ ยถา จ เหตุ, ตถา อเญฺญปิ อตฺถิปจฺจยลกฺขณยุตฺตา เอตฺถ อนุโลมโต น ติฎฺฐนฺติฯ กเมฺม เทฺวติ อิทํ ปน นานากฺขณิกกมฺมวเสน วุตฺตํฯ ปจฺจนียโต สเพฺพ ลพฺภนฺติฯ ยํ ปน อนุโลมโต ลพฺภมานมฺปิ อคฺคเหตฺวา ตโต ปุเรตรา ปจฺจยา ปจฺจนียโต คยฺหนฺติ, โส ปจฺฉา โยชนํ ลภติฯ เตเนเวตฺถ ‘‘โนอตฺถิปจฺจยา นเหตุปจฺจยา…เป.… โนอวิคตปจฺจยา กเมฺม เทฺว’’ติ วุตฺตํฯ กสฺมา ปเนส สกฎฺฐาเนเยว น คหิโตติ ? ยสฺมา อวเสเสสุปิ ปจฺจนียโต ฐิเตสุ เอโกว อนุโลมโต ลพฺภติฯ อิทญฺหิ อิมสฺมิํ ปจฺจยานุโลเม ลกฺขณํ – โย สเพฺพสุ ปจฺจนียโต ฐิเตสุ เอโกว อนุโลมโต ลพฺภติ, โส ปจฺฉา วุจฺจตีติฯ โนอตฺถิปจฺจยา โนเหตุปจฺจยา…เป.… โนอวิคตปจฺจยา อุปนิสฺสเย นวาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ อิทํ ปน ปกตูปนิสฺสยวเสน วุตฺตํฯ อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ ลพฺภมานํ อลพฺภมานํ ปุเรวุตฺตํ ปจฺฉาวุตฺตญฺจ เวทิตพฺพนฺติฯ
650. Noatthimūlake yasmā hetu noatthi nāma na hoti, niyamato atthiyeva, tasmā taṃ aggahetvā nārammaṇe navāti vuttaṃ. Yathā ca hetu, tathā aññepi atthipaccayalakkhaṇayuttā ettha anulomato na tiṭṭhanti. Kamme dveti idaṃ pana nānākkhaṇikakammavasena vuttaṃ. Paccanīyato sabbe labbhanti. Yaṃ pana anulomato labbhamānampi aggahetvā tato puretarā paccayā paccanīyato gayhanti, so pacchā yojanaṃ labhati. Tenevettha ‘‘noatthipaccayā nahetupaccayā…pe… noavigatapaccayā kamme dve’’ti vuttaṃ. Kasmā panesa sakaṭṭhāneyeva na gahitoti ? Yasmā avasesesupi paccanīyato ṭhitesu ekova anulomato labbhati. Idañhi imasmiṃ paccayānulome lakkhaṇaṃ – yo sabbesu paccanīyato ṭhitesu ekova anulomato labbhati, so pacchā vuccatīti. Noatthipaccayā nohetupaccayā…pe… noavigatapaccayā upanissaye navāti etthāpi eseva nayo. Idaṃ pana pakatūpanissayavasena vuttaṃ. Iminā upāyena sabbattha labbhamānaṃ alabbhamānaṃ purevuttaṃ pacchāvuttañca veditabbanti.
ปญฺหาวารสฺส ปจฺจนียานุโลมวณฺณนาฯ
Pañhāvārassa paccanīyānulomavaṇṇanā.
นิฎฺฐิตา จ กุสลตฺติกปฎฺฐานสฺส วณฺณนาติฯ
Niṭṭhitā ca kusalattikapaṭṭhānassa vaṇṇanāti.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ปฎฺฐานปาฬิ • Paṭṭhānapāḷi / ๑. กุสลตฺติกํ • 1. Kusalattikaṃ