Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā |
๙. ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
9. Paṇītabhojanasikkhāpadavaṇṇanā
‘‘ปณีตโภชนานี’’ติ อิทํ มเชฺฌ ปทโลปํ กตฺวา นิทฺทิฎฺฐนฺติ อาห ‘‘ปณีตสํสฎฺฐานี’’ติอาทิฯ สโพฺพปิ ‘‘โอทโก’’ติ วุตฺตลกฺขโณ มโจฺฉติ ‘‘มโจฺฉ นาม โอทโก วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๐) เอวํ วิภเงฺค วุตฺตลกฺขโณ, สโพฺพปิ มโจฺฉ เอวฯ โย โกจิ อุทเก ชาโต มโจฺฉ นามาติ วุตฺตํ โหติฯ มหานามสิกฺขาปเทนาติ –
‘‘Paṇītabhojanānī’’ti idaṃ majjhe padalopaṃ katvā niddiṭṭhanti āha ‘‘paṇītasaṃsaṭṭhānī’’tiādi. Sabbopi ‘‘odako’’ti vuttalakkhaṇo macchoti ‘‘maccho nāma odako vuccatī’’ti (pāci. 260) evaṃ vibhaṅge vuttalakkhaṇo, sabbopi maccho eva. Yo koci udake jāto maccho nāmāti vuttaṃ hoti. Mahānāmasikkhāpadenāti –
‘‘อคิลาเนน ภิกฺขุนา จตุมาสปจฺจยปวารณา สาทิตพฺพา อญฺญตฺร ปุนปวารณาย อญฺญตฺร นิจฺจปวารณายฯ ตโต เจ อุตฺตริ สาทิเยยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ –
‘‘Agilānena bhikkhunā catumāsapaccayapavāraṇā sāditabbā aññatra punapavāraṇāya aññatra niccapavāraṇāya. Tato ce uttari sādiyeyya, pācittiya’’nti –
อิมินา สิกฺขาปเทน (ปาจิ. ๓๐๖)ฯ เอตฺถ หิ สงฺฆวเสน คิลานปจฺจยปวารณาย ปวาริตฎฺฐาเน สเจ ตตฺถ รตฺตีหิ วา เภสเชฺชหิ วา ปริเจฺฉโท กโต โหติ ‘‘เอตฺติกาเยว รตฺติโย, เอตฺตกานิ วา เภสชฺชานิ วิญฺญาเปตพฺพานี’’ติ, ตโต รตฺติปริยนฺตโต วา เภสชฺชปริยนฺตโต วา อุตฺตริ นเภสชฺชกรณีเยน วา เภสชฺชํ, อญฺญเภสชฺชกรณีเยน วา อญฺญํ เภสชฺชํ วิญฺญาเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ วุตฺตํฯ ตสฺมา อคิลาโน คิลานสญฺญีปิ หุตฺวา ปญฺจ เภสชฺชานิ วิญฺญาเปโนฺต นเภสชฺชกรณีเยน เภสชฺชํ วิญฺญาเปโนฺต นาม โหตีติ ‘‘มหานามสิกฺขาปเทน กาเรตโพฺพ’’ติ วุตฺตํฯ
Iminā sikkhāpadena (pāci. 306). Ettha hi saṅghavasena gilānapaccayapavāraṇāya pavāritaṭṭhāne sace tattha rattīhi vā bhesajjehi vā paricchedo kato hoti ‘‘ettikāyeva rattiyo, ettakāni vā bhesajjāni viññāpetabbānī’’ti, tato rattipariyantato vā bhesajjapariyantato vā uttari nabhesajjakaraṇīyena vā bhesajjaṃ, aññabhesajjakaraṇīyena vā aññaṃ bhesajjaṃ viññāpentassa pācittiyaṃ vuttaṃ. Tasmā agilāno gilānasaññīpi hutvā pañca bhesajjāni viññāpento nabhesajjakaraṇīyena bhesajjaṃ viññāpento nāma hotīti ‘‘mahānāmasikkhāpadena kāretabbo’’ti vuttaṃ.
โย ปน นเภสชฺชตฺถาย วิญฺญาเปติ, อถ โข เกวลํ อตฺตโน ภุญฺชนตฺถาย, โส สูโปทนวิญฺญตฺติยาเยว กาเรตโพฺพฯ วุตฺตเญฺหตํ สมนฺตปาสาทิกายํ ‘‘สุทฺธานิ สปฺปิอาทีนิ วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชโนฺต ปาจิตฺติยํ นาปชฺชติ , เสขิเยสุ สูโปทนวิญฺญตฺติทุกฺกฎํ อาปชฺชตี’’ติ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๒๕๙)ฯ สูโปทนวิญฺญตฺติยา กาเรตโพฺพติ ‘‘น สูปํ วา โอทนํ วา อคิลาโน’’ติอาทินา (ปาจิ. ๖๑๓) สิกฺขาปเทน กาเรตโพฺพ, ทุกฺกเฎน กาเรตโพฺพติ วุตฺตํ โหติฯ อิมินาติ อิมินา ปณีตโภชนสิกฺขาปเทนฯ
Yo pana nabhesajjatthāya viññāpeti, atha kho kevalaṃ attano bhuñjanatthāya, so sūpodanaviññattiyāyeva kāretabbo. Vuttañhetaṃ samantapāsādikāyaṃ ‘‘suddhāni sappiādīni viññāpetvā bhuñjanto pācittiyaṃ nāpajjati , sekhiyesu sūpodanaviññattidukkaṭaṃ āpajjatī’’ti (pāci. aṭṭha. 259). Sūpodanaviññattiyā kāretabboti ‘‘na sūpaṃ vā odanaṃ vā agilāno’’tiādinā (pāci. 613) sikkhāpadena kāretabbo, dukkaṭena kāretabboti vuttaṃ hoti. Imināti iminā paṇītabhojanasikkhāpadena.
‘‘สปฺปิภตฺตํ เทหี’’ติ วุเตฺต กิํ โหตีติ อาห ‘‘สปฺปิภตฺตํ ‘เทหี’ติ วุเตฺต ปนา’’ติอาทิฯ สูโปทนวิญฺญตฺติยา ทุกฺกฎเมว โหตีติ สมฺพโนฺธฯ กสฺมาติ อาห ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิฯ อถ ยถา ‘‘ปณีตโภชนานี’’ติ, เอวํ ‘‘สปฺปิภตฺต’’นฺติ อิทมฺปิ กสฺมา น วิญฺญายตีติ เจ? อเนกนฺติกตฺตาฯ ตถา หิ ‘‘ปณีตโภชนานี’’ติ วุเตฺต ‘‘ปณีตสํสฎฺฐานิ โภชนานิ ปณีตโภชนานี’’ติ อยมโตฺถ เอกนฺตโต ปญฺญายติ, ‘‘สปฺปิภตฺต’’นฺติ วุเตฺต ปน ‘‘สปฺปิมยํ ภตฺตํ สปฺปิภตฺต’’นฺติปิ วิญฺญายมานตฺตา ‘สปฺปิสํสฎฺฐํ ภตฺตํ สปฺปิภตฺต’’นฺติ อยมโตฺถ น เอกนฺตโต ปญฺญายติฯ เอส นโย ‘‘นวนีตภตฺตํ เทหี’’ติอาทีสุปิฯ
‘‘Sappibhattaṃ dehī’’ti vutte kiṃ hotīti āha ‘‘sappibhattaṃ ‘dehī’ti vutte panā’’tiādi. Sūpodanaviññattiyā dukkaṭameva hotīti sambandho. Kasmāti āha ‘‘yasmā’’tiādi. Atha yathā ‘‘paṇītabhojanānī’’ti, evaṃ ‘‘sappibhatta’’nti idampi kasmā na viññāyatīti ce? Anekantikattā. Tathā hi ‘‘paṇītabhojanānī’’ti vutte ‘‘paṇītasaṃsaṭṭhāni bhojanāni paṇītabhojanānī’’ti ayamattho ekantato paññāyati, ‘‘sappibhatta’’nti vutte pana ‘‘sappimayaṃ bhattaṃ sappibhatta’’ntipi viññāyamānattā ‘sappisaṃsaṭṭhaṃ bhattaṃ sappibhatta’’nti ayamattho na ekantato paññāyati. Esa nayo ‘‘navanītabhattaṃ dehī’’tiādīsupi.
ปุริมนเยเนวาติ ‘‘ภตฺตํ ทตฺวา สปฺปิํ กตฺวา ภุญฺชา’’ติ ปุริเมเนว นเยนฯ สเจ ปน ‘‘สปฺปินา’’ติ วุเตฺต เกวลํ เสเสสุ นวนีตาทีสุ อญฺญตเรน เทติ, วิสเงฺกตเมว โหติฯ อนาปตฺตีติ วิสเงฺกตตฺตา สพฺพาหิเยว อาปตฺตีหิ อนาปตฺติฯ ‘‘กิญฺจาปิ อนาปตฺติ, อตฺตโน ปน ปโยเคน นิพฺพตฺตตฺตา น ภุญฺชิตพฺพ’’นฺติ วทนฺติฯ กปฺปิยสปฺปินาติ กปฺปิยมํสสปฺปินาฯ เอส นโย อกปฺปิยสปฺปินาติ เอตฺถาปิฯ กปฺปิยากปฺปิยตา หิ มํสานํเยว, น สปฺปิอาทีนํฯ ฐเปตฺวา เอกํ มนุสฺสวสาเตลํ สเพฺพสํ ขีรทธิสปฺปินวนีตวสาเตเลสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิฯ
Purimanayenevāti ‘‘bhattaṃ datvā sappiṃ katvā bhuñjā’’ti purimeneva nayena. Sace pana ‘‘sappinā’’ti vutte kevalaṃ sesesu navanītādīsu aññatarena deti, visaṅketameva hoti. Anāpattīti visaṅketattā sabbāhiyeva āpattīhi anāpatti. ‘‘Kiñcāpi anāpatti, attano pana payogena nibbattattā na bhuñjitabba’’nti vadanti. Kappiyasappināti kappiyamaṃsasappinā. Esa nayo akappiyasappināti etthāpi. Kappiyākappiyatā hi maṃsānaṃyeva, na sappiādīnaṃ. Ṭhapetvā ekaṃ manussavasātelaṃ sabbesaṃ khīradadhisappinavanītavasātelesu akappiyaṃ nāma natthi.
ปริโภเคปิ ทุกฺกฎเมว อิธ อนธิเปฺปตตฺตาติ อธิปฺปาโยฯ สเจ อสติ อกปฺปิยสปฺปิมฺหิ ปุริมนเยเนว อกปฺปิยนวนีตาทีนิ เทติ ‘‘สปฺปิํ กตฺวา ภุญฺชา’’ติ, อกปฺปิยสปฺปินาว ทินฺนํ โหติฯ ยถา จ ‘‘กปฺปิยสปฺปินา เทหี’’ติ วุเตฺต อกปฺปิยสปฺปินา เทติ, วิสเงฺกตํ, เอวํ ‘‘‘อกปฺปิยสปฺปินา’ติ วุเตฺต กปฺปิยสปฺปินา เทตี’’ติ เอตฺถาปิ ปฎิปาฎิยา เอกเมกํ วิตฺถาเรตฺวา วุจฺจมาเนปิ อยเมวโตฺถ วตฺตโพฺพ สิยา, โส จ สเงฺขเปนปิ สกฺกา วิญฺญาตุนฺติ วิตฺถารนยํ หิตฺวา อิมินาว นเยน สพฺพปเทสุ วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพติ วุตฺตํฯ อยเญฺหตฺถ สเงฺขปโตฺถ – เยน เยน วิญฺญตฺติ โหติ, ตสฺมิํ วา ตสฺส มูเล วา ลเทฺธ ตํ ตํ ลทฺธเมว โหติฯ สเจ ปน อญฺญํ ปาฬิยา อาคตํ วา อนาคตํ วา เทติ, วิสเงฺกตนฺติฯ นานาฎฺฐาเน วาติ ตสฺมิํเยว ฆเร สปฺปิํ, อิตรสฺมิํ นวนีตนฺติอาทินา นานาฎฺฐาเน วาฯ
Paribhogepi dukkaṭameva idha anadhippetattāti adhippāyo. Sace asati akappiyasappimhi purimanayeneva akappiyanavanītādīni deti ‘‘sappiṃ katvā bhuñjā’’ti, akappiyasappināva dinnaṃ hoti. Yathā ca ‘‘kappiyasappinā dehī’’ti vutte akappiyasappinā deti, visaṅketaṃ, evaṃ ‘‘‘akappiyasappinā’ti vutte kappiyasappinā detī’’ti etthāpi paṭipāṭiyā ekamekaṃ vitthāretvā vuccamānepi ayamevattho vattabbo siyā, so ca saṅkhepenapi sakkā viññātunti vitthāranayaṃ hitvā imināva nayena sabbapadesu vinicchayo veditabboti vuttaṃ. Ayañhettha saṅkhepattho – yena yena viññatti hoti, tasmiṃ vā tassa mūle vā laddhe taṃ taṃ laddhameva hoti. Sace pana aññaṃ pāḷiyā āgataṃ vā anāgataṃ vā deti, visaṅketanti. Nānāṭṭhāne vāti tasmiṃyeva ghare sappiṃ, itarasmiṃ navanītantiādinā nānāṭṭhāne vā.
ปณีตโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paṇītabhojanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.