Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อิติวุตฺตก-อฎฺฐกถา • Itivuttaka-aṭṭhakathā |
๔. ปญฺญาปริหีนสุตฺตวณฺณนา
4. Paññāparihīnasuttavaṇṇanā
๔๑. จตุเตฺถ สุปริหีนาติ สุฎฺฐุ ปริหีนาฯ เย อริยาย ปญฺญาย ปริหีนาติ เย สตฺตา ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยพฺพยปฎิวิชฺฌเนน จตุสจฺจปฎิวิชฺฌเนน จ กิเลเสหิ อารกา ฐิตตฺตา อริยาย ปริสุทฺธาย วิปสฺสนาปญฺญาย จ มคฺคปญฺญาย จ ปริหีนา, เต โลกิยโลกุตฺตราหิ สมฺปตฺตีหิ อติวิย ปริหีนา มหาชานิกาฯ เก ปน เตติ? เย กมฺมาวรเณน สมนฺนาคตาฯ เต หิ มิจฺฉตฺตนิยตภาวโต เอกเนฺตน ปริหีนา อปริปุณฺณา มหาชานิกาฯ เตนาห ‘‘ทุคฺคติ ปาฎิกงฺขา’’ติฯ วิปากาวรณสมงฺคิโนปิ ปริหีนาฯ อถ วา สุกฺกปเกฺข อปริหีนา นาม ติวิธาวรณวิรหิตา สมฺมาทิฎฺฐิกา กมฺมสฺสกตญาเณน จ สมนฺนาคตาฯ เสสํ วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพํฯ
41. Catutthe suparihīnāti suṭṭhu parihīnā. Ye ariyāya paññāya parihīnāti ye sattā pañcannaṃ khandhānaṃ udayabbayapaṭivijjhanena catusaccapaṭivijjhanena ca kilesehi ārakā ṭhitattā ariyāya parisuddhāya vipassanāpaññāya ca maggapaññāya ca parihīnā, te lokiyalokuttarāhi sampattīhi ativiya parihīnā mahājānikā. Ke pana teti? Ye kammāvaraṇena samannāgatā. Te hi micchattaniyatabhāvato ekantena parihīnā aparipuṇṇā mahājānikā. Tenāha ‘‘duggati pāṭikaṅkhā’’ti. Vipākāvaraṇasamaṅginopi parihīnā. Atha vā sukkapakkhe aparihīnā nāma tividhāvaraṇavirahitā sammādiṭṭhikā kammassakatañāṇena ca samannāgatā. Sesaṃ vuttanayānusārena veditabbaṃ.
คาถาสุ ปญฺญายาติ นิสฺสกฺกวจนํ, วิปสฺสนาญาณโต มคฺคญาณโต จ ปริหาเนนาติฯ สามิวจนํ วา เอตํ, ยถาวุตฺตญาณสฺส ปริหาเนนาติ, อุปฺปาเทตพฺพสฺส อนุปฺปาทนเมว เจตฺถ ปริหานํฯ นิวิฎฺฐํ นามรูปสฺมินฺติ นามรูเป อุปาทานกฺขนฺธปญฺจเก ‘‘เอตํ มมา’’ติอาทินา ตณฺหาทิฎฺฐิวเสน อภินิวิฎฺฐํ อโชฺฌสิตํ, ตโต เอว อิทํ สจฺจนฺติ มญฺญตีติ ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติ มญฺญติฯ ‘‘สเทวเก โลเก’’ติ วิภตฺติ ปริณาเมตพฺพาฯ
Gāthāsu paññāyāti nissakkavacanaṃ, vipassanāñāṇato maggañāṇato ca parihānenāti. Sāmivacanaṃ vā etaṃ, yathāvuttañāṇassa parihānenāti, uppādetabbassa anuppādanameva cettha parihānaṃ. Niviṭṭhaṃ nāmarūpasminti nāmarūpe upādānakkhandhapañcake ‘‘etaṃ mamā’’tiādinā taṇhādiṭṭhivasena abhiniviṭṭhaṃ ajjhositaṃ, tato eva idaṃ saccanti maññatīti ‘‘idameva saccaṃ moghamañña’’nti maññati. ‘‘Sadevake loke’’ti vibhatti pariṇāmetabbā.
เอวํ ปฐมคาถาย สํกิเลสปกฺขํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ ยสฺสา อนุปฺปตฺติยา นามรูปสฺมิํ มญฺญนาภินิเวเสหิ กิเลสวฎฺฎํ วตฺตติ, ตสฺสา อุปฺปตฺติยา วฎฺฎสฺส อุปเจฺฉโทติ ปญฺญาย อานุภาวํ ปกาเสโนฺต ‘‘ปญฺญา หิ เสฎฺฐา โลกสฺมิ’’นฺติ คาถมาหฯ
Evaṃ paṭhamagāthāya saṃkilesapakkhaṃ dassetvā idāni yassā anuppattiyā nāmarūpasmiṃ maññanābhinivesehi kilesavaṭṭaṃ vattati, tassā uppattiyā vaṭṭassa upacchedoti paññāya ānubhāvaṃ pakāsento ‘‘paññā hi seṭṭhā lokasmi’’nti gāthamāha.
ตตฺถ โลกสฺมินฺติ สงฺขารโลกสฺมิํฯ สมฺมาสมฺพุโทฺธ วิย สเตฺตสุ, สงฺขาเรสุ ปญฺญาสทิโส ธโมฺม นตฺถิฯ ปญฺญุตฺตรา หิ กุสลา ธมฺมา, ปญฺญาย จ สิทฺธาย สเพฺพ อนวชฺชธมฺมา สิทฺธา เอว โหนฺติฯ ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สมฺมาทิฎฺฐิสฺส สมฺมาสงฺกโปฺป ปโหตี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๓.๑๔๑; สํ. นิ. ๕.๑)ฯ ยา ปเนตฺถ ปญฺญา อธิเปฺปตา, สา เสฎฺฐาติ โถมิตาฯ ยถา จ สา ปวตฺตติ, ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘ยายํ นิเพฺพธคามินี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตสฺสโตฺถ – ยา อยํ ปญฺญา อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธาทิํ นิพฺพิชฺฌนฺตี ปทาเลนฺตี คจฺฉติ ปวตฺตตีติ นิเพฺพธคามินี, ยาย จ ตสฺมิํ ตสฺมิํ ภวโยนิคติวิญฺญาณฎฺฐิติสตฺตาวาเสสุ สตฺตนิกาเยสุ ขนฺธานํ ปฐมาภินิพฺพตฺติสงฺขาตาย ชาติยา ตํนิมิตฺตสฺส จ กมฺมภวสฺส ปริกฺขยํ ปริโยสานํ นิพฺพานํ อรหตฺตญฺจ สมฺมา อวิปรีตํ ชานาติ สจฺฉิกโรติ, อยํ สหวิปสฺสนา มคฺคปญฺญา เสฎฺฐา โลกสฺมินฺติฯ
Tattha lokasminti saṅkhāralokasmiṃ. Sammāsambuddho viya sattesu, saṅkhāresu paññāsadiso dhammo natthi. Paññuttarā hi kusalā dhammā, paññāya ca siddhāya sabbe anavajjadhammā siddhā eva honti. Tathā hi vuttaṃ ‘‘sammādiṭṭhissa sammāsaṅkappo pahotī’’tiādi (ma. ni. 3.141; saṃ. ni. 5.1). Yā panettha paññā adhippetā, sā seṭṭhāti thomitā. Yathā ca sā pavattati, taṃ dassetuṃ ‘‘yāyaṃ nibbedhagāminī’’tiādi vuttaṃ. Tassattho – yā ayaṃ paññā anibbiddhapubbaṃ apadālitapubbaṃ lobhakkhandhādiṃ nibbijjhantī padālentī gacchati pavattatīti nibbedhagāminī, yāya ca tasmiṃ tasmiṃ bhavayonigativiññāṇaṭṭhitisattāvāsesu sattanikāyesu khandhānaṃ paṭhamābhinibbattisaṅkhātāya jātiyā taṃnimittassa ca kammabhavassa parikkhayaṃ pariyosānaṃ nibbānaṃ arahattañca sammā aviparītaṃ jānāti sacchikaroti, ayaṃ sahavipassanā maggapaññā seṭṭhā lokasminti.
อิทานิ ยถาวุตฺตปญฺญานุภาวสมฺปเนฺน ขีณาสเว อภิตฺถวโนฺต ‘‘เตสํ เทวา มนุสฺสา จา’’ติ โอสานคาถมาหฯ ตสฺสโตฺถ – เตสํ จตูสุ อริยสเจฺจสุ ปริญฺญาทีนํ โสฬสนฺนํ กิจฺจานํ นิฎฺฐิตตฺตา จตุสจฺจสโมฺพเธน สมฺพุทฺธานํ, สติเวปุลฺลปฺปตฺติยา สติมตํ, วุตฺตนเยน สมุคฺฆาติตสโมฺมหตฺตา ปญฺญาเวปุลฺลปฺปตฺติยา หาสปญฺญานํ, ปุพฺพภาเค วา สีลาทิปาริปูริโต ปฎฺฐาย ยาว นิพฺพานสจฺฉิกิริยาย หาสเวทตุฎฺฐิปาโมชฺชพหุลตาย หาสปญฺญานํ, สพฺพโส ปริกฺขีณภวสํโยชนตฺตา อนฺติมสรีรธารีนํ ขีณาสวานํ เทวา มนุสฺสา จ ปิหยนฺติ ปิยา โหนฺติ, ตพฺภาวํ อธิคนฺตุํ อิจฺฉนฺติ ‘‘อโห ปญฺญานุภาโว, อโห วต มยมฺปิ เอทิสา เอวํ นิตฺติณฺณสพฺพทุกฺขา ภเวยฺยามา’’ติฯ
Idāni yathāvuttapaññānubhāvasampanne khīṇāsave abhitthavanto ‘‘tesaṃ devā manussā cā’’ti osānagāthamāha. Tassattho – tesaṃ catūsu ariyasaccesu pariññādīnaṃ soḷasannaṃ kiccānaṃ niṭṭhitattā catusaccasambodhena sambuddhānaṃ, sativepullappattiyā satimataṃ, vuttanayena samugghātitasammohattā paññāvepullappattiyā hāsapaññānaṃ, pubbabhāge vā sīlādipāripūrito paṭṭhāya yāva nibbānasacchikiriyāya hāsavedatuṭṭhipāmojjabahulatāya hāsapaññānaṃ, sabbaso parikkhīṇabhavasaṃyojanattā antimasarīradhārīnaṃ khīṇāsavānaṃ devā manussā ca pihayanti piyā honti, tabbhāvaṃ adhigantuṃ icchanti ‘‘aho paññānubhāvo, aho vata mayampi edisā evaṃ nittiṇṇasabbadukkhā bhaveyyāmā’’ti.
จตุตฺถสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Catutthasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อิติวุตฺตกปาฬิ • Itivuttakapāḷi / ๔. ปญฺญาปริหีนสุตฺตํ • 4. Paññāparihīnasuttaṃ