Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi

    ๒-๓. มิลินฺทปโญฺห

    2-3. Milindapañho

    ๑. มหาวโคฺค

    1. Mahāvaggo

    ๑. ปญฺญตฺติปโญฺห

    1. Paññattipañho

    . อถ โข มิลิโนฺท ราชา เยนายสฺมา นาคเสโน เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา นาคเสเนน สทฺธิํ สโมฺมทิ, สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ อายสฺมาปิ โข นาคเสโน ปฎิสโมฺมทนีเยเนว 1 มิลินฺทสฺส รโญฺญ จิตฺตํ อาราเธสิฯ อถ โข มิลิโนฺท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘กถํ ภทโนฺต ญายติ, กินฺนาโมสิ ภเนฺต’’ติ? ‘‘นาคเสโน’’ติ โข อหํ, มหาราช, ญายามิ, ‘‘นาคเสโน’’ติ โข มํ, มหาราช, สพฺรหฺมจารี สมุทาจรนฺติ, อปิ จ มาตาปิตโร นามํ กโรนฺติ ‘‘นาคเสโน’’ติ วา ‘‘สูรเสโน’’ติ วา ‘‘วีรเสโน’’ติ วา ‘‘สีหเสโน’’ติ วา, อปิ จ โข, มหาราช, สงฺขา สมญฺญา ปญฺญตฺติ โวหาโร นามมตฺตํ ยทิทํ นาคเสโนติ, น เหตฺถ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติฯ

    1. Atha kho milindo rājā yenāyasmā nāgaseno tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā āyasmatā nāgasenena saddhiṃ sammodi, sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Āyasmāpi kho nāgaseno paṭisammodanīyeneva 2 milindassa rañño cittaṃ ārādhesi. Atha kho milindo rājā āyasmantaṃ nāgasenaṃ etadavoca ‘‘kathaṃ bhadanto ñāyati, kinnāmosi bhante’’ti? ‘‘Nāgaseno’’ti kho ahaṃ, mahārāja, ñāyāmi, ‘‘nāgaseno’’ti kho maṃ, mahārāja, sabrahmacārī samudācaranti, api ca mātāpitaro nāmaṃ karonti ‘‘nāgaseno’’ti vā ‘‘sūraseno’’ti vā ‘‘vīraseno’’ti vā ‘‘sīhaseno’’ti vā, api ca kho, mahārāja, saṅkhā samaññā paññatti vohāro nāmamattaṃ yadidaṃ nāgasenoti, na hettha puggalo upalabbhatīti.

    อถ โข มิลิโนฺท ราชา เอวมาห ‘‘สุณนฺตุ เม โภโนฺต ปญฺจสตา โยนกา อสีติสหสฺสา จ ภิกฺขู, อยํ นาคเสโน เอวมาห ‘น เหตฺถ ปุคฺคโล อุปลพฺภตี’ติ, กลฺลํ นุ โข ตทภินนฺทิตุ’’นฺติฯ อถ โข มิลิโนฺท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘สเจ, ภเนฺต นาคเสน, ปุคฺคโล นูปลพฺภติ, โก จรหิ ตุมฺหากํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ เทติ, โก ตํ ปริภุญฺชติ, โก สีลํ รกฺขติ, โก ภาวนมนุยุญฺชติ, โก มคฺคผลนิพฺพานานิ สจฺฉิกโรติ, โก ปาณํ หนติ, โก อทินฺนํ อาทิยติ, โก กาเมสุมิจฺฉาจารํ จรติ, โก มุสา ภณติ, โก มชฺชํ ปิวติ, โก ปญฺจานนฺตริยกมฺมํ กโรติ, ตสฺมา นตฺถิ กุสลํ, นตฺถิ อกุสลํ, นตฺถิ กุสลากุสลานํ กมฺมานํ กตฺตา วา กาเรตา วา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฎานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, สเจ , ภเนฺต นาคเสน, โย ตุเมฺห มาเรติ, นตฺถิ ตสฺสาปิ ปาณาติปาโต, ตุมฺหากมฺปิ, ภเนฺต นาคเสน, นตฺถิ อาจริโย, นตฺถิ อุปชฺฌาโย, นตฺถิ อุปสมฺปทาฯ ‘นาคเสโนติ มํ, มหาราช, สพฺรหฺมจารี สมุทาจรนฺตี’ติ ยํ วเทสิ, ‘กตโม เอตฺถ นาคเสโน ? กินฺนุ โข, ภเนฺต, เกสา นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติฯ ‘‘โลมา นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติฯ ‘‘นขา…เป.… ทนฺตา…เป.… ตโจ…เป.… มํสํ…เป.… นฺหารุ…เป.… อฎฺฐิ…เป.… อฎฺฐิมิญฺชํ…เป.… วกฺกํ…เป.… หทยํ…เป.… ยกนํ…เป.… กิโลมกํ…เป.… ปิหกํ…เป.… ปปฺผาสํ…เป.… อนฺตํ…เป.… อนฺตคุณํ…เป.… อุทริยํ…เป.… กรีสํ…เป.… ปิตฺตํ…เป.… เสมฺหํ…เป.… ปุโพฺพ…เป.… โลหิตํ…เป.… เสโท…เป.… เมโท…เป.… อสฺสุ…เป.… วสา…เป.… เขโฬ…เป.… สิงฺฆาณิกา…เป.… ลสิกา…เป.… มุตฺตํ…เป.… มตฺถเก มตฺถลุงฺคํ นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิมหาราชา’’ติฯ ‘‘กิํ นุ โข, ภเนฺต, รูปํ นาคเสโน’’ติ? ‘‘นหิ มหาราชา’’ติฯ ‘‘เวทนา นาคเสโน’’ติ?‘‘น หิ มหาราชา’’ติฯ ‘‘สญฺญา นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติฯ ‘‘สงฺขารา นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติฯ ‘‘วิญฺญาณํ นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติฯ ‘‘กิํ ปน, ภเนฺต, รูปเวทนาสญฺญาสงฺขารวิญฺญาณํ นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติฯ ‘‘กิํ ปน, ภเนฺต, อญฺญตฺร รูปเวทนาสญฺญาสงฺขารวิญฺญาณํ นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติฯ ‘‘ตมหํ ภเนฺต, ปุจฺฉโนฺต ปุจฺฉโนฺต น ปสฺสามิ นาคเสนํฯ นาคเสนสโทฺท เยว นุ โข, ภเนฺต, นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติฯ ‘‘โก ปเนตฺถ นาคเสโน, อลิกํ ตฺวํ, ภเนฺต, ภาสสิ มุสาวาทํ, นตฺถิ นาคเสโน’’ติฯ

    Atha kho milindo rājā evamāha ‘‘suṇantu me bhonto pañcasatā yonakā asītisahassā ca bhikkhū, ayaṃ nāgaseno evamāha ‘na hettha puggalo upalabbhatī’ti, kallaṃ nu kho tadabhinanditu’’nti. Atha kho milindo rājā āyasmantaṃ nāgasenaṃ etadavoca ‘‘sace, bhante nāgasena, puggalo nūpalabbhati, ko carahi tumhākaṃ cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānappaccayabhesajjaparikkhāraṃ deti, ko taṃ paribhuñjati, ko sīlaṃ rakkhati, ko bhāvanamanuyuñjati, ko maggaphalanibbānāni sacchikaroti, ko pāṇaṃ hanati, ko adinnaṃ ādiyati, ko kāmesumicchācāraṃ carati, ko musā bhaṇati, ko majjaṃ pivati, ko pañcānantariyakammaṃ karoti, tasmā natthi kusalaṃ, natthi akusalaṃ, natthi kusalākusalānaṃ kammānaṃ kattā vā kāretā vā, natthi sukatadukkaṭānaṃ kammānaṃ phalaṃ vipāko, sace , bhante nāgasena, yo tumhe māreti, natthi tassāpi pāṇātipāto, tumhākampi, bhante nāgasena, natthi ācariyo, natthi upajjhāyo, natthi upasampadā. ‘Nāgasenoti maṃ, mahārāja, sabrahmacārī samudācarantī’ti yaṃ vadesi, ‘katamo ettha nāgaseno ? Kinnu kho, bhante, kesā nāgaseno’’ti? ‘‘Na hi mahārājā’’ti. ‘‘Lomā nāgaseno’’ti? ‘‘Na hi mahārājā’’ti. ‘‘Nakhā…pe… dantā…pe… taco…pe… maṃsaṃ…pe… nhāru…pe… aṭṭhi…pe… aṭṭhimiñjaṃ…pe… vakkaṃ…pe… hadayaṃ…pe… yakanaṃ…pe… kilomakaṃ…pe… pihakaṃ…pe… papphāsaṃ…pe… antaṃ…pe… antaguṇaṃ…pe… udariyaṃ…pe… karīsaṃ…pe… pittaṃ…pe… semhaṃ…pe… pubbo…pe… lohitaṃ…pe… sedo…pe… medo…pe… assu…pe… vasā…pe… kheḷo…pe… siṅghāṇikā…pe… lasikā…pe… muttaṃ…pe… matthake matthaluṅgaṃ nāgaseno’’ti? ‘‘Na himahārājā’’ti. ‘‘Kiṃ nu kho, bhante, rūpaṃ nāgaseno’’ti? ‘‘Nahi mahārājā’’ti. ‘‘Vedanā nāgaseno’’ti?‘‘Na hi mahārājā’’ti. ‘‘Saññā nāgaseno’’ti? ‘‘Na hi mahārājā’’ti. ‘‘Saṅkhārā nāgaseno’’ti? ‘‘Na hi mahārājā’’ti. ‘‘Viññāṇaṃ nāgaseno’’ti? ‘‘Na hi mahārājā’’ti. ‘‘Kiṃ pana, bhante, rūpavedanāsaññāsaṅkhāraviññāṇaṃ nāgaseno’’ti? ‘‘Na hi mahārājā’’ti. ‘‘Kiṃ pana, bhante, aññatra rūpavedanāsaññāsaṅkhāraviññāṇaṃ nāgaseno’’ti? ‘‘Na hi mahārājā’’ti. ‘‘Tamahaṃ bhante, pucchanto pucchanto na passāmi nāgasenaṃ. Nāgasenasaddo yeva nu kho, bhante, nāgaseno’’ti? ‘‘Na hi mahārājā’’ti. ‘‘Ko panettha nāgaseno, alikaṃ tvaṃ, bhante, bhāsasi musāvādaṃ, natthi nāgaseno’’ti.

    อถ โข อายสฺมา นาคเสโน มิลินฺทํ ราชานํ เอตทโวจ ‘‘ตฺวํ โขสิ, มหาราช, ขตฺติยสุขุมาโล อจฺจนฺตสุขุมาโล, ตสฺส เต, มหาราช, มชฺฌนฺหิกสมยํ ตตฺตาย ภูมิยา อุณฺหาย วาลิกาย ขราย สกฺขรกถลิกาย 3 มทฺทิตฺวา ปาเทนาคจฺฉนฺตสฺส ปาทา รุชฺชนฺติ, กาโย กิลมติ, จิตฺตํ อุปหญฺญติ, ทุกฺขสหคตํ กายวิญฺญาณํ อุปฺปชฺชติ, กิํ นุ โข ตฺวํ ปาเทนาคโตสิ, อุทาหุ วาหเนนา’’ติ? ‘‘นาหํ, ภเนฺต, ปาเทนาคจฺฉามิ, รเถนาหํ อาคโตสฺมี’’ติฯ ‘‘สเจ, ตฺวํ มหาราช, รเถนาคโตสิ, รถํ เม อาโรเจหิ, กิํ นุ โข, มหาราช, อีสา รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภเนฺต’’ติฯ ‘‘อโกฺข รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภเนฺต’’ติฯ ‘‘จกฺกานิ รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภเนฺต’’ติฯ ‘‘รถปญฺชรํ รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภเนฺต’’ติฯ ‘‘รถทณฺฑโก รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภเนฺต’’ติฯ ‘‘ยุคํ รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภเนฺต’’ติฯ ‘‘รสฺมิโย รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภเนฺต’’ติฯ ‘‘ปโตทลฎฺฐิ รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภเนฺต’’ติฯ ‘‘กิํ นุ โข, มหาราช, อีสาอกฺขจกฺกรถปญฺชรรถทณฺฑยุครสฺมิปโตทา รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภเนฺต’’ติฯ ‘‘กิํ ปน, มหาราช , อญฺญตฺร อีสาอกฺขจกฺกรถปญฺชรรถทณฺฑยุครสฺมิปโตทา รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภเนฺต’’ติฯ ‘‘ตมหํ, มหาราช, ปุจฺฉโนฺต ปุจฺฉโนฺต น ปสฺสามิ รถํฯ รถสโทฺทเยว นุ โข, มหาราช, รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภเนฺต’’ติฯ ‘‘โก ปเนตฺถ รโถ, อลิกํ, ตฺวํ มหาราช, ภาสสิ มุสาวาทํ, นตฺถิ รโถ, ตฺวํสิ, มหาราช, สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชา, กสฺส ปน ตฺวํ ภายิตฺวา มุสาวาทํ ภาสสิ, สุณนฺตุ เม โภโนฺต ปญฺจสตา โยนกา อสีติสหสฺสา จ ภิกฺขู, อยํ มิลิโนฺท ราชา เอวมาห ‘รเถนาหํ อาคโตสฺมี’ติ, สเจ ตฺวํ, มหาราช, รเถนาคโต‘สิ, รถํ เม อาโรเจหี’ติ วุโตฺต สมาโน รถํ น สมฺปาเทติ, กลฺลํ นุ โข ตทภินนฺทิตุ’’นฺติฯ เอวํ วุเตฺต ปญฺจสตา โยนกา อายสฺมโต นาคเสนสฺส สาธุการํ ทตฺวา มิลินฺทํ ราชานํ เอตทโวจุํ ‘‘อิทานิ โข ตฺวํ, มหาราช, สโกฺกโนฺต ภาสสฺสู’’ติฯ

    Atha kho āyasmā nāgaseno milindaṃ rājānaṃ etadavoca ‘‘tvaṃ khosi, mahārāja, khattiyasukhumālo accantasukhumālo, tassa te, mahārāja, majjhanhikasamayaṃ tattāya bhūmiyā uṇhāya vālikāya kharāya sakkharakathalikāya 4 madditvā pādenāgacchantassa pādā rujjanti, kāyo kilamati, cittaṃ upahaññati, dukkhasahagataṃ kāyaviññāṇaṃ uppajjati, kiṃ nu kho tvaṃ pādenāgatosi, udāhu vāhanenā’’ti? ‘‘Nāhaṃ, bhante, pādenāgacchāmi, rathenāhaṃ āgatosmī’’ti. ‘‘Sace, tvaṃ mahārāja, rathenāgatosi, rathaṃ me ārocehi, kiṃ nu kho, mahārāja, īsā ratho’’ti? ‘‘Na hi bhante’’ti. ‘‘Akkho ratho’’ti? ‘‘Na hi bhante’’ti. ‘‘Cakkāni ratho’’ti? ‘‘Na hi bhante’’ti. ‘‘Rathapañjaraṃ ratho’’ti? ‘‘Na hi bhante’’ti. ‘‘Rathadaṇḍako ratho’’ti? ‘‘Na hi bhante’’ti. ‘‘Yugaṃ ratho’’ti? ‘‘Na hi bhante’’ti. ‘‘Rasmiyo ratho’’ti? ‘‘Na hi bhante’’ti. ‘‘Patodalaṭṭhi ratho’’ti? ‘‘Na hi bhante’’ti. ‘‘Kiṃ nu kho, mahārāja, īsāakkhacakkarathapañjararathadaṇḍayugarasmipatodā ratho’’ti? ‘‘Na hi bhante’’ti. ‘‘Kiṃ pana, mahārāja , aññatra īsāakkhacakkarathapañjararathadaṇḍayugarasmipatodā ratho’’ti? ‘‘Na hi bhante’’ti. ‘‘Tamahaṃ, mahārāja, pucchanto pucchanto na passāmi rathaṃ. Rathasaddoyeva nu kho, mahārāja, ratho’’ti? ‘‘Na hi bhante’’ti. ‘‘Ko panettha ratho, alikaṃ, tvaṃ mahārāja, bhāsasi musāvādaṃ, natthi ratho, tvaṃsi, mahārāja, sakalajambudīpe aggarājā, kassa pana tvaṃ bhāyitvā musāvādaṃ bhāsasi, suṇantu me bhonto pañcasatā yonakā asītisahassā ca bhikkhū, ayaṃ milindo rājā evamāha ‘rathenāhaṃ āgatosmī’ti, sace tvaṃ, mahārāja, rathenāgato‘si, rathaṃ me ārocehī’ti vutto samāno rathaṃ na sampādeti, kallaṃ nu kho tadabhinanditu’’nti. Evaṃ vutte pañcasatā yonakā āyasmato nāgasenassa sādhukāraṃ datvā milindaṃ rājānaṃ etadavocuṃ ‘‘idāni kho tvaṃ, mahārāja, sakkonto bhāsassū’’ti.

    อถ โข มิลิโนฺท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘นาหํ, ภเนฺต นาคเสน, มุสา ภณามิ, อีสญฺจ ปฎิจฺจ อกฺขญฺจ ปฎิจฺจ จกฺกานิ จ ปฎิจฺจ รถปญฺชรญฺจ ปฎิจฺจ รถทณฺฑกญฺจ ปฎิจฺจ ‘รโถ’ติ สงฺขา สมญฺญา ปญฺญตฺติ โวหาโร นามมตฺตํ ปวตฺตตี’’ติฯ

    Atha kho milindo rājā āyasmantaṃ nāgasenaṃ etadavoca ‘‘nāhaṃ, bhante nāgasena, musā bhaṇāmi, īsañca paṭicca akkhañca paṭicca cakkāni ca paṭicca rathapañjarañca paṭicca rathadaṇḍakañca paṭicca ‘ratho’ti saṅkhā samaññā paññatti vohāro nāmamattaṃ pavattatī’’ti.

    ‘‘สาธุ โข, ตฺวํ มหาราช, รถํ ชานาสิ, เอวเมว โข, มหาราช, มยฺหมฺปิ เกเส จ ปฎิจฺจ โลเม จ ปฎิจฺจ…เป.… มตฺถเก มตฺถลุงฺคญฺจ ปฎิจฺจ รูปญฺจ ปฎิจฺจ เวทนญฺจ ปฎิจฺจ สญฺญญฺจ ปฎิจฺจ สงฺขาเร จ ปฎิจฺจ วิญฺญาณญฺจ ปฎิจฺจ ‘นาคเสโน’ติ สงฺขา สมญฺญา ปญฺญตฺติ โวหาโร นามมตฺตํ ปวตฺตติ, ปรมตฺถโต ปเนตฺถ ปุคฺคโล นูปลพฺภติฯ ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, วชิราย ภิกฺขุนิยา ภควโต สมฺมุขา –

    ‘‘Sādhu kho, tvaṃ mahārāja, rathaṃ jānāsi, evameva kho, mahārāja, mayhampi kese ca paṭicca lome ca paṭicca…pe… matthake matthaluṅgañca paṭicca rūpañca paṭicca vedanañca paṭicca saññañca paṭicca saṅkhāre ca paṭicca viññāṇañca paṭicca ‘nāgaseno’ti saṅkhā samaññā paññatti vohāro nāmamattaṃ pavattati, paramatthato panettha puggalo nūpalabbhati. Bhāsitampetaṃ, mahārāja, vajirāya bhikkhuniyā bhagavato sammukhā –

    ‘‘‘ยถา หิ องฺคสมฺภารา, โหติ สโทฺท รโถ อิติ;

    ‘‘‘Yathā hi aṅgasambhārā, hoti saddo ratho iti;

    เอวํ ขเนฺธสุ สเนฺตสุ, โหติ ‘‘สโตฺต’’ติ สมฺมุตี’’’ติ 5

    Evaṃ khandhesu santesu, hoti ‘‘satto’’ti sammutī’’’ti 6.

    ‘‘อจฺฉริยํ, ภเนฺต นาคเสน, อพฺภุตํ, ภเนฺต นาคเสน, อติจิตฺรานิ ปญฺหปฎิภานานิ วิสชฺชิตานิ, ยทิ พุโทฺธ ติเฎฺฐยฺย สาธุการํ ทเทยฺย, สาธุ สาธุ นาคเสน, อติจิตฺรานิ ปญฺหปฎิภานานิ วิสชฺชิตานี’’ติฯ

    ‘‘Acchariyaṃ, bhante nāgasena, abbhutaṃ, bhante nāgasena, aticitrāni pañhapaṭibhānāni visajjitāni, yadi buddho tiṭṭheyya sādhukāraṃ dadeyya, sādhu sādhu nāgasena, aticitrāni pañhapaṭibhānāni visajjitānī’’ti.

    ปญฺญตฺติปโญฺห ปฐโมฯ

    Paññattipañho paṭhamo.







    Footnotes:
    1. ปฎิสโมฺมทิ, เตเนว (สี.)
    2. paṭisammodi, teneva (sī.)
    3. ขรา สกฺขรกฐลวาลิกา (สี. ปี.)
    4. kharā sakkharakaṭhalavālikā (sī. pī.)
    5. ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๗๑
    6. passa saṃ. ni. 1.171

    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact