Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā

    ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ

    Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa

    วินยปิฎเก

    Vinayapiṭake

    ปริวาร-อฎฺฐกถา

    Parivāra-aṭṭhakathā

    โสฬสมหาวาโร

    Soḷasamahāvāro

    ปญฺญตฺติวารวณฺณนา

    Paññattivāravaṇṇanā

    วิสุทฺธปริวารสฺส , ปริวาโรติ สาสเน;

    Visuddhaparivārassa , parivāroti sāsane;

    ธมฺมกฺขนฺธสรีรสฺส, ขนฺธกานํ อนนฺตราฯ

    Dhammakkhandhasarīrassa, khandhakānaṃ anantarā.

    สงฺคหํ โย สมารุโฬฺห, ตสฺส ปุพฺพาคตํ นยํ;

    Saṅgahaṃ yo samāruḷho, tassa pubbāgataṃ nayaṃ;

    หิตฺวา ทานิ กริสฺสามิ, อนุตฺตานตฺถวณฺณนํฯ

    Hitvā dāni karissāmi, anuttānatthavaṇṇanaṃ.

    . ตตฺถ ยํ เตน ภควตา…เป.… ปญฺญตฺตนฺติ อาทินยปฺปวตฺตาย ตาว ปุจฺฉาย อยํ สเงฺขปโตฺถ – โย โส ภควา สาสนสฺส จิรฎฺฐิติกตฺถํ ธมฺมเสนาปตินา สทฺธมฺมคารวพหุมานเวคสมุสฺสิตํ อญฺชลิํ สิรสฺมิํ ปติฎฺฐาเปตฺวา ยาจิโต ทส อตฺถวเส ปฎิจฺจ วินยปญฺญตฺติํ ปญฺญเปสิ, เตน ภควตา ตสฺส ตสฺส สิกฺขาปทสฺส ปญฺญตฺติกาลํ ชานตา, ตสฺสา ตสฺสา สิกฺขาปทปญฺญตฺติยา ทส อตฺถวเส ปสฺสตา; อปิจ ปุเพฺพนิวาสาทีหิ ชานตา, ทิเพฺพน จกฺขุนา ปสฺสตา, ตีหิ วิชฺชาหิ ฉหิ วา ปน อภิญฺญาหิ ชานตา, สพฺพตฺถ อปฺปฎิหเตน สมนฺตจกฺขุนา ปสฺสตา, สพฺพธมฺมชานนสมตฺถาย ปญฺญาย ชานตา, สพฺพสตฺตานํ จกฺขุวิสยาตีตานิ ติโรกุฎฺฎาทิคตานิ จาปิ รูปานิ อติวิสุเทฺธน มํสจกฺขุนา จ ปสฺสตา, อตฺตหิตสาธิกาย สมาธิปทฎฺฐานาย ปฎิเวธปญฺญาย ชานตา, ปรหิตสาธิกาย กรุณาปทฎฺฐานาย เทสนาปญฺญาย ปสฺสตา, อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน ‘‘ยํ ปฐมํ ปาราชิกํ ปญฺญตฺตํ, ตํ กตฺถ ปญฺญตฺตํ, กํ อารพฺภ ปญฺญตฺตํ, กิสฺมิํ วตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, อตฺถิ ตตฺถ ปญฺญตฺติ…เป.… เกนาภต’’นฺติฯ

    1. Tattha yaṃ tena bhagavatā…pe… paññattanti ādinayappavattāya tāva pucchāya ayaṃ saṅkhepattho – yo so bhagavā sāsanassa ciraṭṭhitikatthaṃ dhammasenāpatinā saddhammagāravabahumānavegasamussitaṃ añjaliṃ sirasmiṃ patiṭṭhāpetvā yācito dasa atthavase paṭicca vinayapaññattiṃ paññapesi, tena bhagavatā tassa tassa sikkhāpadassa paññattikālaṃ jānatā, tassā tassā sikkhāpadapaññattiyā dasa atthavase passatā; apica pubbenivāsādīhi jānatā, dibbena cakkhunā passatā, tīhi vijjāhi chahi vā pana abhiññāhi jānatā, sabbattha appaṭihatena samantacakkhunā passatā, sabbadhammajānanasamatthāya paññāya jānatā, sabbasattānaṃ cakkhuvisayātītāni tirokuṭṭādigatāni cāpi rūpāni ativisuddhena maṃsacakkhunā ca passatā, attahitasādhikāya samādhipadaṭṭhānāya paṭivedhapaññāya jānatā, parahitasādhikāya karuṇāpadaṭṭhānāya desanāpaññāya passatā, arahatā sammāsambuddhena ‘‘yaṃ paṭhamaṃ pārājikaṃ paññattaṃ, taṃ kattha paññattaṃ, kaṃ ārabbha paññattaṃ, kismiṃ vatthusmiṃ paññattaṃ, atthi tattha paññatti…pe… kenābhata’’nti.

    . ปุจฺฉาวิสฺสชฺชเน ปน ‘‘ยํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน ปฐมํ ปาราชิก’’นฺติ อิทํ เกวลํ ปุจฺฉาย อาคตสฺส อาทิปทสฺส ปจฺจุทฺธรณมตฺตเมว, ‘‘กตฺถ ปญฺญตฺตนฺติ เวสาลิยา ปญฺญตฺตํ; กํ อารพฺภาติ สุทินฺนํ กลนฺทปุตฺตํ อารพฺภา’’ติ เอวมาทินา ปน นเยน ปุนปิ เอตฺถ เอเกกํ ปทํ ปุจฺฉิตฺวาว วิสฺสชฺชิตํฯ เอกา ปญฺญตฺตีติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสเวยฺย ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติ อยํ เอกา ปญฺญตฺติฯ เทฺว อนุปญฺญตฺติโยติ ‘‘อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปี’’ติ จ, ‘‘สิกฺขํ อปจฺจกฺขายา’’ติ จ มกฺกฎิวชฺชิปุตฺตกวตฺถูนํ วเสน วุตฺตา – อิมา เทฺว อนุปญฺญตฺติโยฯ เอตฺตาวตา ‘‘อตฺถิ ตตฺถ ปญฺญตฺติ อนุปญฺญตฺติ อนุปฺปนฺนปญฺญตฺตี’’ติ อิมิสฺสา ปุจฺฉาย เทฺว โกฎฺฐาสา วิสฺสชฺชิตา โหนฺติฯ ตติยํ วิสฺสเชฺชตุํ ปน ‘‘อนุปฺปนฺนปญฺญตฺติ ตสฺมิํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํฯ อยญฺหิ อนุปฺปนฺนปญฺญตฺติ นาม อนุปฺปเนฺน โทเส ปญฺญตฺตา; สา อฎฺฐครุธมฺมวเสน ภิกฺขุนีนํเยว อาคตา, อญฺญตฺร นตฺถิฯ ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อนุปฺปนฺนปญฺญตฺติ ตสฺมิํ นตฺถี’’ติฯ สพฺพตฺถปญฺญตฺตีติ มชฺฌิมเทเส เจว ปจฺจนฺติมชนปเทสุ จ สพฺพตฺถปญฺญตฺติฯ วินยธรปญฺจเมน คเณน ‘‘อุปสมฺปทา, คุณงฺคุณูปาหนา, ธุวนหานํ, จมฺมตฺถรณ’’นฺติ อิมานิ หิ จตฺตาริ สิกฺขาปทานิ มชฺฌิมเทเสเยว ปญฺญตฺติฯ เอเตฺถว เอเตหิ อาปตฺติ โหติ, น ปจฺจนฺติมชนปเทสุฯ เสสานิ สพฺพาเนว สพฺพตฺถปญฺญตฺติ นามฯ

    2. Pucchāvissajjane pana ‘‘yaṃ tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena paṭhamaṃ pārājika’’nti idaṃ kevalaṃ pucchāya āgatassa ādipadassa paccuddharaṇamattameva, ‘‘kattha paññattanti vesāliyā paññattaṃ; kaṃ ārabbhāti sudinnaṃ kalandaputtaṃ ārabbhā’’ti evamādinā pana nayena punapi ettha ekekaṃ padaṃ pucchitvāva vissajjitaṃ. Ekā paññattīti ‘‘yo pana bhikkhu methunaṃ dhammaṃ paṭiseveyya pārājiko hoti asaṃvāso’’ti ayaṃ ekā paññatti. Dve anupaññattiyoti ‘‘antamaso tiracchānagatāyapī’’ti ca, ‘‘sikkhaṃ apaccakkhāyā’’ti ca makkaṭivajjiputtakavatthūnaṃ vasena vuttā – imā dve anupaññattiyo. Ettāvatā ‘‘atthi tattha paññatti anupaññatti anuppannapaññattī’’ti imissā pucchāya dve koṭṭhāsā vissajjitā honti. Tatiyaṃ vissajjetuṃ pana ‘‘anuppannapaññatti tasmiṃ natthī’’ti vuttaṃ. Ayañhi anuppannapaññatti nāma anuppanne dose paññattā; sā aṭṭhagarudhammavasena bhikkhunīnaṃyeva āgatā, aññatra natthi. Tasmā vuttaṃ ‘‘anuppannapaññatti tasmiṃ natthī’’ti. Sabbatthapaññattīti majjhimadese ceva paccantimajanapadesu ca sabbatthapaññatti. Vinayadharapañcamena gaṇena ‘‘upasampadā, guṇaṅguṇūpāhanā, dhuvanahānaṃ, cammattharaṇa’’nti imāni hi cattāri sikkhāpadāni majjhimadeseyeva paññatti. Ettheva etehi āpatti hoti, na paccantimajanapadesu. Sesāni sabbāneva sabbatthapaññatti nāma.

    สาธารณปญฺญตฺตีติ ภิกฺขูนเญฺจว ภิกฺขุนีนญฺจ สาธารณปญฺญตฺติ; สุทฺธภิกฺขูนเมว หิ สุทฺธภิกฺขุนีนํ วา ปญฺญตฺตํ สิกฺขาปทํ อสาธารณปญฺญตฺติ นาม โหติฯ อิทํ ปน ภิกฺขุํ อารพฺภ อุปฺปเนฺน วตฺถุสฺมิํ ‘‘ยา ปน ภิกฺขุนี ฉนฺทโส เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสเวยฺย, อนฺตมโส ติรจฺฉานคเตนปิ ปาราชิกา โหติ อสํวาสา’’ติ ภิกฺขุนีนมฺปิ ปญฺญตฺตํ, วินีตกถามตฺตเมว หิ ตาสํ นตฺถิ, สิกฺขาปทํ ปน อตฺถิ, เตน วุตฺตํ ‘‘สาธารณปญฺญตฺตี’’ติฯ อุภโตปญฺญตฺติยมฺปิ เอเสว นโยฯ พฺยญฺชนมตฺตเมว หิ เอตฺถ นานํ, ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนมฺปิ สาธารณตฺตา สาธารณปญฺญตฺติ, อุภินฺนมฺปิ ปญฺญตฺตตฺตา อุภโตปญฺญตฺตีติฯ อเตฺถ ปน เภโท นตฺถิฯ

    Sādhāraṇapaññattīti bhikkhūnañceva bhikkhunīnañca sādhāraṇapaññatti; suddhabhikkhūnameva hi suddhabhikkhunīnaṃ vā paññattaṃ sikkhāpadaṃ asādhāraṇapaññatti nāma hoti. Idaṃ pana bhikkhuṃ ārabbha uppanne vatthusmiṃ ‘‘yā pana bhikkhunī chandaso methunaṃ dhammaṃ paṭiseveyya, antamaso tiracchānagatenapi pārājikā hoti asaṃvāsā’’ti bhikkhunīnampi paññattaṃ, vinītakathāmattameva hi tāsaṃ natthi, sikkhāpadaṃ pana atthi, tena vuttaṃ ‘‘sādhāraṇapaññattī’’ti. Ubhatopaññattiyampi eseva nayo. Byañjanamattameva hi ettha nānaṃ, bhikkhūnaṃ bhikkhunīnampi sādhāraṇattā sādhāraṇapaññatti, ubhinnampi paññattattā ubhatopaññattīti. Atthe pana bhedo natthi.

    นิทาโนคธนฺติ ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ โส อาวิกเรยฺยา’’ติ เอตฺถ สพฺพาปตฺตีนํ อนุปวิฎฺฐตฺตา นิทาโนคธํ; นิทาเน อนุปวิฎฺฐนฺติ อโตฺถฯ ทุติเยน อุเทฺทเสนาติ นิทาโนคธํ นิทานปริยาปนฺนมฺปิ สมานํ ‘‘ตตฺริเม จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมา’’ติอาทินา ทุติเยเนว อุเทฺทเสน อุเทฺทสํ อาคจฺฉติฯ จตุนฺนํ วิปตฺตีนนฺติ สีลวิปตฺติอาทีนํฯ ปฐมา หิ เทฺว อาปตฺติกฺขนฺธา สีลวิปตฺติ นาม, อวเสสา ปญฺจ อาจารวิปตฺติ นามฯ มิจฺฉาทิฎฺฐิ จ อนฺตคฺคาหิกทิฎฺฐิ จ ทิฎฺฐิวิปตฺติ นาม, อาชีวเหตุ ปญฺญตฺตานิ ฉ สิกฺขาปทานิ อาชีววิปตฺติ นามฯ อิติ อิมาสํ จตุนฺนํ วิปตฺตีนํ อิทํ ปาราชิกํ สีลวิปตฺติ นาม โหติฯ

    Nidānogadhanti ‘‘yassa siyā āpatti so āvikareyyā’’ti ettha sabbāpattīnaṃ anupaviṭṭhattā nidānogadhaṃ; nidāne anupaviṭṭhanti attho. Dutiyena uddesenāti nidānogadhaṃ nidānapariyāpannampi samānaṃ ‘‘tatrime cattāro pārājikā dhammā’’tiādinā dutiyeneva uddesena uddesaṃ āgacchati. Catunnaṃ vipattīnanti sīlavipattiādīnaṃ. Paṭhamā hi dve āpattikkhandhā sīlavipatti nāma, avasesā pañca ācāravipatti nāma. Micchādiṭṭhi ca antaggāhikadiṭṭhi ca diṭṭhivipatti nāma, ājīvahetu paññattāni cha sikkhāpadāni ājīvavipatti nāma. Iti imāsaṃ catunnaṃ vipattīnaṃ idaṃ pārājikaṃ sīlavipatti nāma hoti.

    เอเกน สมุฎฺฐาเนนาติ ทฺวงฺคิเกน เอเกน สมุฎฺฐาเนนฯ เอตฺถ หิ จิตฺตํ องฺคํ โหติ, กาเยน ปน อาปตฺติํ อาปชฺชติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘กายโต จ จิตฺตโต จ สมุฎฺฐาตี’’ติฯ ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมตีติ ‘‘อาปโนฺนสี’’ติ สมฺมุขา ปุจฺฉิยมาโน ‘‘อาม อาปโนฺนมฺหี’’ติ ปฎิชานาติ, ตาวเทว ภณฺฑนกลหวิคฺคหา วูปสนฺตา โหนฺติ, สกฺกา จ โหติ ตํ ปุคฺคลํ อปเนตฺวา อุโปสโถ วา ปวารณา วา กาตุํฯ อิติ สมฺมุขาวินเยน จ ปฎิญฺญาตกรเณน จาติ ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมติ, น จ ตปฺปจฺจยา โกจิ อุปทฺทโว โหติฯ ยํ ปน อุปริ ปญฺญตฺติวเคฺค ‘‘น กตเมน สมเถน สมฺมตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ สมถํ โอตาเรตฺวา อนาปตฺติ กาตุํ น สกฺกาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํฯ

    Ekena samuṭṭhānenāti dvaṅgikena ekena samuṭṭhānena. Ettha hi cittaṃ aṅgaṃ hoti, kāyena pana āpattiṃ āpajjati. Tena vuttaṃ ‘‘kāyato ca cittato ca samuṭṭhātī’’ti. Dvīhi samathehi sammatīti ‘‘āpannosī’’ti sammukhā pucchiyamāno ‘‘āma āpannomhī’’ti paṭijānāti, tāvadeva bhaṇḍanakalahaviggahā vūpasantā honti, sakkā ca hoti taṃ puggalaṃ apanetvā uposatho vā pavāraṇā vā kātuṃ. Iti sammukhāvinayena ca paṭiññātakaraṇena cāti dvīhi samathehi sammati, na ca tappaccayā koci upaddavo hoti. Yaṃ pana upari paññattivagge ‘‘na katamena samathena sammatī’’ti vuttaṃ, taṃ samathaṃ otāretvā anāpatti kātuṃ na sakkāti imamatthaṃ sandhāya vuttaṃ.

    ปญฺญตฺติ วินโยติ ‘‘โย ปน ภิกฺขู’’ติอาทินา นเยน วุตฺตมาติกา ปญฺญตฺติ วินโยติ อโตฺถฯ วิภตฺตีติ ปทภาชนํ วุจฺจติ; วิภตฺตีติ หิ วิภงฺคเสฺสเวตํ นามํฯ อสํวโรติ วีติกฺกโมฯ สํวโรติ อวีติกฺกโมฯ เยสํ วตฺตตีติ เยสํ วินยปิฎกญฺจ อฎฺฐกถา จ สพฺพา ปคุณาติ อโตฺถฯ เต ธาเรนฺตีติ เต เอตํ ปฐมปาราชิกํ ปาฬิโต จ อตฺถโต จ ธาเรนฺติ; น หิ สกฺกา สพฺพํ วินยปิฎกํ อชานเนฺตน เอตสฺส อโตฺถ ชานิตุนฺติฯ เกนาภตนฺติ อิทํ ปฐมปาราชิกํ ปาฬิวเสน จ อตฺถวเสน จ ยาว อชฺชตนกาลํ เกน อานีตนฺติฯ ปรมฺปราภตนฺติ ปรมฺปราย อานีตํฯ

    Paññatti vinayoti ‘‘yo pana bhikkhū’’tiādinā nayena vuttamātikā paññatti vinayoti attho. Vibhattīti padabhājanaṃ vuccati; vibhattīti hi vibhaṅgassevetaṃ nāmaṃ. Asaṃvaroti vītikkamo. Saṃvaroti avītikkamo. Yesaṃ vattatīti yesaṃ vinayapiṭakañca aṭṭhakathā ca sabbā paguṇāti attho. Te dhārentīti te etaṃ paṭhamapārājikaṃ pāḷito ca atthato ca dhārenti; na hi sakkā sabbaṃ vinayapiṭakaṃ ajānantena etassa attho jānitunti. Kenābhatanti idaṃ paṭhamapārājikaṃ pāḷivasena ca atthavasena ca yāva ajjatanakālaṃ kena ānītanti. Paramparābhatanti paramparāya ānītaṃ.

    . อิทานิ ยาย ปรมฺปราย อานีตํ, ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘อุปาลิ ทาสโก เจวา’’ติอาทินา นเยน โปราณเกหิ มหาเถเรหิ คาถาโย ฐปิตา ฯ ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ นิทานวณฺณนายเมว วุตฺตํฯ อิมินา นเยน ทุติยปาราชิกาทิปุจฺฉาวิสฺสชฺชเนสุปิ วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพติฯ

    3. Idāni yāya paramparāya ānītaṃ, taṃ dassetuṃ ‘‘upāli dāsako cevā’’tiādinā nayena porāṇakehi mahātherehi gāthāyo ṭhapitā . Tattha yaṃ vattabbaṃ, taṃ nidānavaṇṇanāyameva vuttaṃ. Iminā nayena dutiyapārājikādipucchāvissajjanesupi vinicchayo veditabboti.

    มหาวิภเงฺค ปญฺญตฺติวารวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Mahāvibhaṅge paññattivāravaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi / ๑. ปาราชิกกณฺฑํ • 1. Pārājikakaṇḍaṃ

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ปญฺญตฺติวารวณฺณนา • Paññattivāravaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ปญฺญตฺติวารวณฺณนา • Paññattivāravaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ปญฺญตฺติวารวณฺณนา • Paññattivāravaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / กตาปตฺติวาราทิวณฺณนา • Katāpattivārādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact