Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อุทาน-อฎฺฐกถา • Udāna-aṭṭhakathā

    ๗. ปปญฺจขยสุตฺตวณฺณนา

    7. Papañcakhayasuttavaṇṇanā

    ๖๗. สตฺตเม ปปญฺจสญฺญาสงฺขาปหานนฺติ ปปเญฺจนฺติ ยตฺถ สยํ อุปฺปนฺนา, ตํ สนฺตานํ วิตฺถาเรนฺติ จิรํ ฐเปนฺตีติ ปปญฺจา, กิเลสาฯ วิเสสโต ราคโทสโมหตณฺหาทิฎฺฐิมานาฯ ตถา หิ วุตฺตํ –

    67. Sattame papañcasaññāsaṅkhāpahānanti papañcenti yattha sayaṃ uppannā, taṃ santānaṃ vitthārenti ciraṃ ṭhapentīti papañcā, kilesā. Visesato rāgadosamohataṇhādiṭṭhimānā. Tathā hi vuttaṃ –

    ‘‘ราโค ปปโญฺจ, โทโส ปปโญฺจ, โมโห ปปโญฺจ, ตณฺหา ปปโญฺจ, ทิฎฺฐิ ปปโญฺจ, มาโน ปปโญฺจ’’ติฯ –

    ‘‘Rāgo papañco, doso papañco, moho papañco, taṇhā papañco, diṭṭhi papañco, māno papañco’’ti. –

    อปิจ สํกิเลสโฎฺฐ ปปญฺจโฎฺฐ, กจวรโฎฺฐ ปปญฺจโฎฺฐฯ ตตฺถ ราคปปญฺจสฺส สุภสญฺญา นิมิตฺตํ, โทสปปญฺจสฺส อาฆาตวตฺถุ, โมหปปญฺจสฺส อาสวา, ตณฺหาปปญฺจสฺส เวทนา, ทิฎฺฐิปปญฺจสฺส สญฺญา, มานปปญฺจสฺส วิตโกฺก นิมิตฺตํฯ เตหิ ปปเญฺจหิ สหคตา สญฺญา ปปญฺจสญฺญาฯ ปปญฺจสญฺญานํ สงฺขา ภาคา โกฎฺฐาสา ปปญฺจสญฺญาสงฺขาฯ อตฺถโต สทฺธิํ นิมิเตฺตหิ ตํตํปปญฺจสฺส ปกฺขิโย กิเลสคโณฯ สญฺญาคหณเญฺจตฺถ ตสฺส เนสํ สาธารณเหตุภาเวนฯ วุตฺตเญฺหตํ – ‘‘สญฺญานิทานา หิ ปปญฺจสงฺขา’’ติ (สุ. นิ. ๘๘๐)ฯ เตสํ ปหานํ, เตน เตน มเคฺคน ราคาทิกิเลสานํ สมุเจฺฉทนนฺติ อโตฺถฯ

    Apica saṃkilesaṭṭho papañcaṭṭho, kacavaraṭṭho papañcaṭṭho. Tattha rāgapapañcassa subhasaññā nimittaṃ, dosapapañcassa āghātavatthu, mohapapañcassa āsavā, taṇhāpapañcassa vedanā, diṭṭhipapañcassa saññā, mānapapañcassa vitakko nimittaṃ. Tehi papañcehi sahagatā saññā papañcasaññā. Papañcasaññānaṃ saṅkhā bhāgā koṭṭhāsā papañcasaññāsaṅkhā. Atthato saddhiṃ nimittehi taṃtaṃpapañcassa pakkhiyo kilesagaṇo. Saññāgahaṇañcettha tassa nesaṃ sādhāraṇahetubhāvena. Vuttañhetaṃ – ‘‘saññānidānā hi papañcasaṅkhā’’ti (su. ni. 880). Tesaṃ pahānaṃ, tena tena maggena rāgādikilesānaṃ samucchedananti attho.

    ตทา หิ ภควา อตีตาสุ อเนกโกฎิสตสหสฺสสงฺขาสุ อตฺตโน ชาตีสุ อนตฺถสฺส นิมิตฺตภูเต กิเลเส อิมสฺมิํ จริมภเว อริยมเคฺคน โพธิมเณฺฑ สวาสเน ปหีเน ปจฺจเวกฺขิตฺวา สตฺตสนฺตานญฺจ กิเลสจริตํ ราคาทิกิเลสสํกิลิฎฺฐํ กญฺชิยปุณฺณลาพุํ วิย ตกฺกภริตจาฎิํ วิย วสาปีตปิโลติกํ วิย จ ทุพฺพินิโมจิยํ ทิสฺวา ‘‘เอวํ คหนํ นามิทํ กิเลสวฎฺฎํ อนาทิกาลภาวิตํ มยฺหํ อนวเสสํ ปหีนํ, อโห สุปฺปหีน’’นฺติ อุปฺปนฺนปีติปาโมโชฺช อุทานํ อุทาเนสิฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข ภควา อตฺตโน ปปญฺจสญฺญาสงฺขาปหานํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสี’’ติฯ

    Tadā hi bhagavā atītāsu anekakoṭisatasahassasaṅkhāsu attano jātīsu anatthassa nimittabhūte kilese imasmiṃ carimabhave ariyamaggena bodhimaṇḍe savāsane pahīne paccavekkhitvā sattasantānañca kilesacaritaṃ rāgādikilesasaṃkiliṭṭhaṃ kañjiyapuṇṇalābuṃ viya takkabharitacāṭiṃ viya vasāpītapilotikaṃ viya ca dubbinimociyaṃ disvā ‘‘evaṃ gahanaṃ nāmidaṃ kilesavaṭṭaṃ anādikālabhāvitaṃ mayhaṃ anavasesaṃ pahīnaṃ, aho suppahīna’’nti uppannapītipāmojjo udānaṃ udānesi. Tena vuttaṃ – ‘‘atha kho bhagavā attano papañcasaññāsaṅkhāpahānaṃ viditvā tāyaṃ velāyaṃ imaṃ udānaṃ udānesī’’ti.

    ตตฺถ ยสฺส ปปญฺจา ฐิติ จ นตฺถีติ ยสฺมา ภควา อตฺตานเมว ปรํ วิย กตฺวา นิทฺทิสติ ตสฺมา ยสฺส อคฺคปุคฺคลสฺส วุตฺตลกฺขณา ปปญฺจา, เตหิ กตา สํสาเร ฐิติ จ นตฺถิฯ เนตฺติยํ ปน ‘‘ฐิติ นาม อนุสโย’’ติ (เนตฺติ. ๒๗) วุตฺตํฯ อนุสโย หิ ภวปวตฺติยา มูลนฺติฯ สเตฺต สํสาเร ปปเญฺจนฺตีติ ปปญฺจาฯ ‘‘ปปญฺจฎฺฐิตี’’ติ จ ปาโฐฯ ตสฺสโตฺถ – ปปญฺจานํ ฐิติ วิชฺชมานตา มเคฺคน อสมุเจฺฉโท ปปญฺจฎฺฐิติ, ปปญฺจา เอว วา อวสิฎฺฐกุสลากุสลวิปากานํ ปวตฺติยา เหตุภาวโต วฎฺฎสฺส ฐิติ ปปญฺจฎฺฐิติ, สา ยสฺส อคฺคปุคฺคลสฺส นตฺถิฯ สนฺทานํ ปลิฆญฺจ วีติวโตฺตติ โย พนฺธนเฎฺฐน สนฺตานสทิสตฺตา ‘‘สนฺทาน’’นฺติ ลทฺธนามา ตณฺหาทิฎฺฐิโย, นิพฺพานนครปเวสนิเสธนโต ปลิฆสทิสตฺตา ปลิฆสงฺขาตํ อวิชฺชญฺจ วีติวโตฺต สวาสนปหาเนน วิเสสโต อติกฺกโนฺตฯ อปเร ปน โกธํ ‘‘สนฺทาน’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํฯ โส หิ ‘‘ปราภิสชฺชนี’’ติ วุโตฺตติฯ

    Tattha yassa papañcā ṭhiti ca natthīti yasmā bhagavā attānameva paraṃ viya katvā niddisati tasmā yassa aggapuggalassa vuttalakkhaṇā papañcā, tehi katā saṃsāre ṭhiti ca natthi. Nettiyaṃ pana ‘‘ṭhiti nāma anusayo’’ti (netti. 27) vuttaṃ. Anusayo hi bhavapavattiyā mūlanti. Satte saṃsāre papañcentīti papañcā. ‘‘Papañcaṭṭhitī’’ti ca pāṭho. Tassattho – papañcānaṃ ṭhiti vijjamānatā maggena asamucchedo papañcaṭṭhiti, papañcā eva vā avasiṭṭhakusalākusalavipākānaṃ pavattiyā hetubhāvato vaṭṭassa ṭhiti papañcaṭṭhiti, sā yassa aggapuggalassa natthi. Sandānaṃ palighañca vītivattoti yo bandhanaṭṭhena santānasadisattā ‘‘sandāna’’nti laddhanāmā taṇhādiṭṭhiyo, nibbānanagarapavesanisedhanato palighasadisattā palighasaṅkhātaṃ avijjañca vītivatto savāsanapahānena visesato atikkanto. Apare pana kodhaṃ ‘‘sandāna’’nti vadanti, taṃ na gahetabbaṃ. So hi ‘‘parābhisajjanī’’ti vuttoti.

    ตํ นิตฺตณฺหํ มุนิํ จรนฺตนฺติ ตํ สพฺพถาปิ ตณฺหาภาเวน นิตฺตณฺหํ, อุภยโลกมุนนโต อตฺตหิตปรหิตมุนนโต จ มุนิํ, เอกเนฺตเนว สพฺพสตฺตหิตตฺถํ จตูหิ อิริยาปเถหิ นานาสมาปตฺติจาเรหิ อนญฺญสาธารเณน ญาณจาเรน จ จรนฺตํฯ นาวชานาติ สเทวโกปิ โลโกติ สโพฺพ สปญฺญชาติโก สตฺตโลโก สเทวโกปิ สพฺรหฺมโกปิ น กทาจิปิ อวชานาติ น ปริโภติ, อถ โข อยเมว โลเก อโคฺค เสโฎฺฐ อุตฺตโม ปวโรติ ครุํ กโรโนฺต สกฺกจฺจํ ปูชาสกฺการนิรโต โหตีติฯ

    Taṃ nittaṇhaṃ muniṃ carantanti taṃ sabbathāpi taṇhābhāvena nittaṇhaṃ, ubhayalokamunanato attahitaparahitamunanato ca muniṃ, ekanteneva sabbasattahitatthaṃ catūhi iriyāpathehi nānāsamāpatticārehi anaññasādhāraṇena ñāṇacārena ca carantaṃ. Nāvajānāti sadevakopi lokoti sabbo sapaññajātiko sattaloko sadevakopi sabrahmakopi na kadācipi avajānāti na paribhoti, atha kho ayameva loke aggo seṭṭho uttamo pavaroti garuṃ karonto sakkaccaṃ pūjāsakkāranirato hotīti.

    สตฺตมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Sattamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อุทานปาฬิ • Udānapāḷi / ๗. ปปญฺจขยสุตฺตํ • 7. Papañcakhayasuttaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact