Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๑๑. ปราภวสุตฺตํ
11. Parābhavasuttaṃ
๓๑. ‘‘สตฺติเม, ภิกฺขเว, อุปาสกสฺส ปราภวา…เป.… สตฺติเม, ภิกฺขเว, อุปาสกสฺส สมฺภวาฯ กตเม สตฺต? ภิกฺขุทสฺสนํ น หาเปติ, สทฺธมฺมสฺสวนํ นปฺปมชฺชติ, อธิสีเล สิกฺขติ, ปสาทพหุโล โหติ, ภิกฺขูสุ เถเรสุ เจว นเวสุ จ มชฺฌิเมสุ จ อนุปารมฺภจิโตฺต ธมฺมํ สุณาติ น รนฺธคเวสี, น อิโต พหิทฺธา ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ, อิธ จ ปุพฺพการํ กโรติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, สตฺต อุปาสกสฺส สมฺภวาติฯ
31. ‘‘Sattime, bhikkhave, upāsakassa parābhavā…pe… sattime, bhikkhave, upāsakassa sambhavā. Katame satta? Bhikkhudassanaṃ na hāpeti, saddhammassavanaṃ nappamajjati, adhisīle sikkhati, pasādabahulo hoti, bhikkhūsu theresu ceva navesu ca majjhimesu ca anupārambhacitto dhammaṃ suṇāti na randhagavesī, na ito bahiddhā dakkhiṇeyyaṃ gavesati, idha ca pubbakāraṃ karoti. Ime kho, bhikkhave, satta upāsakassa sambhavāti.
‘‘ทสฺสนํ ภาวิตตฺตานํ, โย หาเปติ อุปาสโก;
‘‘Dassanaṃ bhāvitattānaṃ, yo hāpeti upāsako;
สวนญฺจ อริยธมฺมานํ, อธิสีเล น สิกฺขติฯ
Savanañca ariyadhammānaṃ, adhisīle na sikkhati.
‘‘อปฺปสาโท จ ภิกฺขูสุ, ภิโยฺย ภิโยฺย ปวฑฺฒติ;
‘‘Appasādo ca bhikkhūsu, bhiyyo bhiyyo pavaḍḍhati;
อุปารมฺภกจิโตฺต จ, สทฺธมฺมํ โสตุมิจฺฉติฯ
Upārambhakacitto ca, saddhammaṃ sotumicchati.
‘‘อิโต จ พหิทฺธา อญฺญํ, ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ;
‘‘Ito ca bahiddhā aññaṃ, dakkhiṇeyyaṃ gavesati;
ตเตฺถว จ ปุพฺพการํ, โย กโรติ อุปาสโกฯ
Tattheva ca pubbakāraṃ, yo karoti upāsako.
‘‘เอเต โข ปริหานิเย, สตฺต ธเมฺม สุเทสิเต;
‘‘Ete kho parihāniye, satta dhamme sudesite;
อุปาสโก เสวมาโน, สทฺธมฺมา ปริหายติฯ
Upāsako sevamāno, saddhammā parihāyati.
‘‘ทสฺสนํ ภาวิตตฺตานํ, โย น หาเปติ อุปาสโก;
‘‘Dassanaṃ bhāvitattānaṃ, yo na hāpeti upāsako;
สวนญฺจ อริยธมฺมานํ, อธิสีเล จ สิกฺขติฯ
Savanañca ariyadhammānaṃ, adhisīle ca sikkhati.
‘‘ปสาโท จสฺส ภิกฺขูสุ, ภิโยฺย ภิโยฺย ปวฑฺฒติ;
‘‘Pasādo cassa bhikkhūsu, bhiyyo bhiyyo pavaḍḍhati;
อนุปารมฺภจิโตฺต จ, สทฺธมฺมํ โสตุมิจฺฉติฯ
Anupārambhacitto ca, saddhammaṃ sotumicchati.
‘‘น อิโต พหิทฺธา อญฺญํ, ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ;
‘‘Na ito bahiddhā aññaṃ, dakkhiṇeyyaṃ gavesati;
อิเธว จ ปุพฺพการํ, โย กโรติ อุปาสโกฯ
Idheva ca pubbakāraṃ, yo karoti upāsako.
‘‘เอเต โข อปริหานิเย, สตฺต ธเมฺม สุเทสิเต;
‘‘Ete kho aparihāniye, satta dhamme sudesite;
อุปาสโก เสวมาโน, สทฺธมฺมา น ปริหายตี’’ติฯ เอกาทสมํ;
Upāsako sevamāno, saddhammā na parihāyatī’’ti. ekādasamaṃ;
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
สารนฺท -วสฺสกาโร จ, ติสตฺตกานิ ภิกฺขุกา;
Sāranda -vassakāro ca, tisattakāni bhikkhukā;
โพธิสญฺญา เทฺว จ หานิ, วิปตฺติ จ ปราภโวติฯ
Bodhisaññā dve ca hāni, vipatti ca parābhavoti.
Footnotes:
Related texts:
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๗-๑๑. สญฺญาสุตฺตาทิวณฺณนา • 7-11. Saññāsuttādivaṇṇanā