Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-ปุราณ-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-purāṇa-ṭīkā |
ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ
Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa
ภิกฺขุนีปาติโมกฺขวณฺณนา
Bhikkhunīpātimokkhavaṇṇanā
ปาราชิกกณฺฑํ
Pārājikakaṇḍaṃ
อภิลาปมตฺตเมวาติ เอตฺถ ทหรวเสน ‘‘ภเนฺต’’ติ จ วุฑฺฒวเสน ‘‘อาวุโส’’ติ จ ตตฺถ ทุวิโธ อภิลาโป, อิธ ปน วุฑฺฒทหรานํ ‘‘อยฺยา’’ติ เอกเมวฯ
Abhilāpamattamevāti ettha daharavasena ‘‘bhante’’ti ca vuḍḍhavasena ‘‘āvuso’’ti ca tattha duvidho abhilāpo, idha pana vuḍḍhadaharānaṃ ‘‘ayyā’’ti ekameva.
กายสํสเคฺค วุตฺตนเยนาติ เอตฺถ ตพฺพหุลนเยน กิริยสมุฎฺฐานตา วุตฺตาฯ ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปเชฺชยฺยา’’ติ อวตฺวา ปน ‘‘สาทิเยยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา อกิริยโตปิ สมุฎฺฐาตีติ เวทิตพฺพํฯ ยถา เจตฺถ, เอวํ เหฎฺฐา ‘‘มนุสฺสิตฺถิยา ตโย มเคฺค เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติอาทินา (ปารา. ๕๖) นเยน กิริยสมุฎฺฐานตํ วตฺวา ตทนนฺตรํ ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถิํ ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ อาเนตฺวา วจฺจมเคฺคน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติ, โส เจ ปเวสนํ สาทิยตี’’ติอาทินา (ปารา. ๕๘) นเยน อกิริยสมุฎฺฐานสฺสปิ วุตฺตตฺตา ปฐมปาราชิกายปิ ตพฺพหุลนเยเนว กิริยสมุฎฺฐานตา เวทิตพฺพาฯ น หิ ปเวสนสาทิยนาทิมฺหิ กิริยสมุฎฺฐานตา ทิสฺสติฯ
Kāyasaṃsagge vuttanayenāti ettha tabbahulanayena kiriyasamuṭṭhānatā vuttā. ‘‘Kāyasaṃsaggaṃ samāpajjeyyā’’ti avatvā pana ‘‘sādiyeyyā’’ti vuttattā akiriyatopi samuṭṭhātīti veditabbaṃ. Yathā cettha, evaṃ heṭṭhā ‘‘manussitthiyā tayo magge methunaṃ dhammaṃ paṭisevantassa āpatti pārājikassā’’tiādinā (pārā. 56) nayena kiriyasamuṭṭhānataṃ vatvā tadanantaraṃ ‘‘bhikkhupaccatthikā manussitthiṃ bhikkhussa santikaṃ ānetvā vaccamaggena aṅgajātaṃ abhinisīdenti, so ce pavesanaṃ sādiyatī’’tiādinā (pārā. 58) nayena akiriyasamuṭṭhānassapi vuttattā paṭhamapārājikāyapi tabbahulanayeneva kiriyasamuṭṭhānatā veditabbā. Na hi pavesanasādiyanādimhi kiriyasamuṭṭhānatā dissati.
องฺคชาตจลนเญฺจตฺถ น สารโต ทฎฺฐพฺพํ ‘‘โส เจ ปเวสนํ น สาทิยติ, ปวิฎฺฐํ น สาทิยติ, ฐิตํ น สาทิยติ, อุทฺธรณํ สาทิยติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๘) เอตฺถ ฐิตนสาทิยเน ปกติยาปิ ปริปุณฺณจลนตฺตาฯ สาทิยนปจฺจยา ปฎิเสวนจลนเญฺจตฺถ น ทิสฺสเตวาติ ตพฺพหุลนเยเนว กิริยสมุฎฺฐานตา คเหตพฺพาฯ
Aṅgajātacalanañcettha na sārato daṭṭhabbaṃ ‘‘so ce pavesanaṃ na sādiyati, paviṭṭhaṃ na sādiyati, ṭhitaṃ na sādiyati, uddharaṇaṃ sādiyati, āpatti pārājikassā’’ti (pārā. 58) ettha ṭhitanasādiyane pakatiyāpi paripuṇṇacalanattā. Sādiyanapaccayā paṭisevanacalanañcettha na dissatevāti tabbahulanayeneva kiriyasamuṭṭhānatā gahetabbā.
อปิจ ภิกฺขุนิยาปิ ปฐมปาราชิเก ตสฺส สาทิยนสฺส สรูเปน วุตฺตตฺตา ตทนุรูปวเสน วิภงฺคนยมโนโลเกตฺวา ‘‘กิริยสมุฎฺฐาน’’มิเจฺจว วุตฺตํฯ ยถา เจเตสุ ตพฺพหุลนเยน กิริยสมุฎฺฐานตา วุตฺตา, ตถา สุราทีนํ อกุสเลเนว ปาตพฺพตาฯ อิตรถา ‘‘ยํ อกุสเลเนว อาปชฺชติ, อยํ โลกวชฺชา, เสสา ปณฺณตฺติวชฺชา’’ติ วุเตฺต โลกวชฺชปณฺณตฺติวชฺชานํ นิยมลกฺขณสิทฺธิ โหติ, ตถา ตํ อวตฺวา ‘‘ยสฺสา สจิตฺตกปเกฺข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, อยํ โลกวชฺชา, เสสา ปณฺณตฺติวชฺชา’’ติ (กงฺขา. อฎฺฐ. ปฐมปาราชิกวณฺณนา) วุเตฺต โลกวชฺชวจนํ นิรตฺถกํ สิยา วตฺถุอชานนปเกฺขปิ อกุสเลเนว ปาตพฺพตฺตาฯ ยสฺมา ตตฺถ สุราปานวีติกฺกมสฺส อกุสลจิตฺตุปฺปาโท นตฺถิ, ตสฺมา ขนฺธกฎฺฐกถายํ ‘‘มชฺชปาเน ปน ภิกฺขุโน อชานิตฺวาปิ พีชโต ปฎฺฐาย มชฺชํ ปิวนฺตสฺส ปาจิตฺติยํฯ สามเณโร ชานิตฺวาว ปิวโนฺต สีลเภทํ อาปชฺชติ, น อชานิตฺวา’’ติ (มหาว. อฎฺฐ. ๑๐๘) วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘วตฺถุอชานนปเกฺข ปาณาติปาตาทีนํ สิทฺธิกรอกุสลจิตฺตุปฺปาทสทิเส จิตฺตุปฺปาเท สติปิ สามเณโร สีลเภทํ นาปชฺชตี’’ติฯ อภินิเวสวจนํ ปาณาติปาตาทีหิ สมานคติกตฺตา สามเณรานํ สุราปานสฺสฯ ‘‘สุราเมรยิเม’’ติ วตฺถุํ ชานิตฺวา ปาตพฺพตาทิวเสน วีติกฺกมนฺตสฺส อกุสลสฺส อสมฺภโว นตฺถิฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ยสฺสา สจิตฺตกปเกฺข’’ติอาทิฯ
Apica bhikkhuniyāpi paṭhamapārājike tassa sādiyanassa sarūpena vuttattā tadanurūpavasena vibhaṅganayamanoloketvā ‘‘kiriyasamuṭṭhāna’’micceva vuttaṃ. Yathā cetesu tabbahulanayena kiriyasamuṭṭhānatā vuttā, tathā surādīnaṃ akusaleneva pātabbatā. Itarathā ‘‘yaṃ akusaleneva āpajjati, ayaṃ lokavajjā, sesā paṇṇattivajjā’’ti vutte lokavajjapaṇṇattivajjānaṃ niyamalakkhaṇasiddhi hoti, tathā taṃ avatvā ‘‘yassā sacittakapakkhe cittaṃ akusalameva hoti, ayaṃ lokavajjā, sesā paṇṇattivajjā’’ti (kaṅkhā. aṭṭha. paṭhamapārājikavaṇṇanā) vutte lokavajjavacanaṃ niratthakaṃ siyā vatthuajānanapakkhepi akusaleneva pātabbattā. Yasmā tattha surāpānavītikkamassa akusalacittuppādo natthi, tasmā khandhakaṭṭhakathāyaṃ ‘‘majjapāne pana bhikkhuno ajānitvāpi bījato paṭṭhāya majjaṃ pivantassa pācittiyaṃ. Sāmaṇero jānitvāva pivanto sīlabhedaṃ āpajjati, na ajānitvā’’ti (mahāva. aṭṭha. 108) vuttaṃ, na vuttaṃ ‘‘vatthuajānanapakkhe pāṇātipātādīnaṃ siddhikaraakusalacittuppādasadise cittuppāde satipi sāmaṇero sīlabhedaṃ nāpajjatī’’ti. Abhinivesavacanaṃ pāṇātipātādīhi samānagatikattā sāmaṇerānaṃ surāpānassa. ‘‘Surāmerayime’’ti vatthuṃ jānitvā pātabbatādivasena vītikkamantassa akusalassa asambhavo natthi. Tena vuttaṃ ‘‘yassā sacittakapakkhe’’tiādi.
กิเญฺจตฺถ – ยุตฺติวจเนน อรหนฺตานํ อปฺปวิสนโต สจิตฺตกาจิตฺตกปเกฺขสุ อกุสลนิยโมติ เจ? น, ธมฺมตาวเสน เสกฺขานมฺปิ อปฺปวิสนโตฯ อจิตฺตกปเกฺข อกุสลนิยมาภาวทสฺสนตฺถํ สุปนฺตสฺส มุเข ปกฺขิตฺตชลพินฺทุมิว สุราพินฺทุอาทโย อุทาหริตพฺพาฯ ตพฺพหุลนเยน หิ อเตฺถ คหิเต ปุเพฺพนาปรํ อฎฺฐกถาย สเมติ สทฺธิํ ปาฬิยา จาติฯ อาจริยาปิ สุราปาเน อกุสลนิยมาภาวเมว วทนฺติฯ เอกเจฺจ ปน กิริยสมุฎฺฐานตา ปนสฺส ตพฺพหุลนยเมว, น ปฐมปาราชิเกฯ กถํ? กายสํสคฺคสิกฺขาปทํ ปฐมปาราชิกสมุฎฺฐานํฯ เอตฺถ ภิกฺขุสฺส จ ภิกฺขุนิยา จ กายสํสคฺคภาเว สติ ภิกฺขุนี กายงฺคํ อโจปยมานาปิ จิเตฺตเนว อธิวาเสติ, อาปชฺชติ, น เอวํ ภิกฺขุฯ ภิกฺขุ ปน โจปยมาโนว อาปชฺชติ, เอวเมว ปฐมปาราชิเกปิ โจปเน สติ เอว อาปชฺชติ, นาสติฯ ปเวสนํ สาทิยตีติ เอตฺถ ปเวสนสาทิยนํ นาม เสวนจิตฺตุปฺปาทนํ, มเคฺคน วา มคฺคปฺปฎิปนฺนมฺปิ อิจฺฉนฺติฯ ตสฺสาปิ กายจลนํ เอกนฺตํ อตฺถิ เอวฯ เอวํ สเนฺตปิ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพนฺติ วทนฺตีติ ลิขิตํ
Kiñcettha – yuttivacanena arahantānaṃ appavisanato sacittakācittakapakkhesu akusalaniyamoti ce? Na, dhammatāvasena sekkhānampi appavisanato. Acittakapakkhe akusalaniyamābhāvadassanatthaṃ supantassa mukhe pakkhittajalabindumiva surābinduādayo udāharitabbā. Tabbahulanayena hi atthe gahite pubbenāparaṃ aṭṭhakathāya sameti saddhiṃ pāḷiyā cāti. Ācariyāpi surāpāne akusalaniyamābhāvameva vadanti. Ekacce pana kiriyasamuṭṭhānatā panassa tabbahulanayameva, na paṭhamapārājike. Kathaṃ? Kāyasaṃsaggasikkhāpadaṃ paṭhamapārājikasamuṭṭhānaṃ. Ettha bhikkhussa ca bhikkhuniyā ca kāyasaṃsaggabhāve sati bhikkhunī kāyaṅgaṃ acopayamānāpi citteneva adhivāseti, āpajjati, na evaṃ bhikkhu. Bhikkhu pana copayamānova āpajjati, evameva paṭhamapārājikepi copane sati eva āpajjati, nāsati. Pavesanaṃsādiyatīti ettha pavesanasādiyanaṃ nāma sevanacittuppādanaṃ, maggena vā maggappaṭipannampi icchanti. Tassāpi kāyacalanaṃ ekantaṃ atthi eva. Evaṃ santepi vīmaṃsitvā gahetabbanti vadantīti likhitaṃ
ปาราชิกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pārājikavaṇṇanā niṭṭhitā.