Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā |
ปาราชิกนิคมนวณฺณนา
Pārājikanigamanavaṇṇanā
อิธาติ อิมสฺมิํ ภิกฺขุปาติโมเกฺขฯ อุทฺทิฎฺฐปาราชิกปริทีปนเมวาติ อุทฺทิฎฺฐานํ จตุนฺนํ ปาราชิกานํ ปริทีปนวจนเมวฯ อวธารณํ ปน น อเญฺญสมฺปีติ ทสฺสนตฺถํฯ เตนาห ‘‘สโมธาเนตฺวา ปนา’’ติอาทิฯ ตตฺถ สโมธาเนตฺวาติ ตตฺถ ตตฺถ อาคตานิ เอเตฺถว สโมทหิตฺวา, ปกฺขิปิตฺวา ราสิํ กตฺวาติ อโตฺถฯ ปาฬิยํ อาคตานีติ อุเทฺทสปาฬิยํ อาคตานิ ฯ ภิกฺขุนีนํ อสาธารณานิ จตฺตารีติ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา, วชฺชปฺปฎิจฺฉาทิกา, อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา, อฎฺฐวตฺถุกาติ อิมานิ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ จตฺตาริฯ ปณฺฑกาทีนญฺหิ เอกาทสนฺนํ อภพฺพภาโว ปาราชิกาปตฺติสทิสตฺตา ปาราชิโกติ อาห ‘‘เอกาทสนฺน’’นฺติอาทิฯ อภพฺพภาวสงฺขาเตหีติ วตฺถุวิปนฺนตาทินา ปพฺพชฺชูปสมฺปทาย นอรหภาวสงฺขาเตหิฯ ปณฺฑกติรจฺฉานคตอุภโตพฺยญฺชนกา (ปารา. อฎฺฐ. ๒.๒๓๓) หิ ตโย วตฺถุวิปนฺนา อเหตุกปฺปฎิสนฺธิกา, เตสํ สโคฺค อวาริโต, มโคฺค ปน วาริโตฯ อภพฺพา หิ เต มคฺคปฺปฎิลาภาย วตฺถุวิปนฺนตฺตาฯ ปพฺพชฺชาปิ เนสํ ปฎิกฺขิตฺตา, ตสฺมา เตปิ ปาราชิกาวฯ เถยฺยสํวาสโก, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, มาตุฆาตโก, ปิตุฆาตโก, อรหนฺตฆาตโก, ภิกฺขุนิทูสโก, โลหิตุปฺปาทโก, สงฺฆเภทโกติ อิเม อฎฺฐ อตฺตโน กิริยาย วิปนฺนตฺตา อภพฺพฎฺฐานํ ปตฺตาติ ปาราชิกาวฯ เตสุ เถยฺยสํวาสโก, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, ภิกฺขุนิทูสโกติ อิเมสํ ติณฺณํ สโคฺค อวาริโต, มโคฺค ปน วาริโตวฯ อิตเรสํ ปญฺจนฺนํ อุภยมฺปิ วาริตํฯ เต หิ อนนฺตราว นรเก นิพฺพตฺตนกสตฺตาฯ ยทา ภิกฺขุนี วิพฺภมิตุกามา หุตฺวา กาสาวเมว วา คิหิวตฺถํ วา คิหินิวาสนากาเรน นิวาเสติ, ตทา ปาราชิกมาปนฺนา นาม โหตีติ อาห ‘‘คิหิภาวํ ปตฺถยมานายา’’ติอาทิฯ สา หิ อชฺฌาจารวีติกฺกมํ อกตฺวาปิ เอตฺตาวตา อสฺสมณี นาม โหติฯ
Idhāti imasmiṃ bhikkhupātimokkhe. Uddiṭṭhapārājikaparidīpanamevāti uddiṭṭhānaṃ catunnaṃ pārājikānaṃ paridīpanavacanameva. Avadhāraṇaṃ pana na aññesampīti dassanatthaṃ. Tenāha ‘‘samodhānetvā panā’’tiādi. Tattha samodhānetvāti tattha tattha āgatāni ettheva samodahitvā, pakkhipitvā rāsiṃ katvāti attho. Pāḷiyaṃ āgatānīti uddesapāḷiyaṃ āgatāni . Bhikkhunīnaṃ asādhāraṇāni cattārīti ubbhajāṇumaṇḍalikā, vajjappaṭicchādikā, ukkhittānuvattikā, aṭṭhavatthukāti imāni bhikkhunīnaṃ bhikkhūhi asādhāraṇāni cattāri. Paṇḍakādīnañhi ekādasannaṃ abhabbabhāvo pārājikāpattisadisattā pārājikoti āha ‘‘ekādasanna’’ntiādi. Abhabbabhāvasaṅkhātehīti vatthuvipannatādinā pabbajjūpasampadāya naarahabhāvasaṅkhātehi. Paṇḍakatiracchānagataubhatobyañjanakā (pārā. aṭṭha. 2.233) hi tayo vatthuvipannā ahetukappaṭisandhikā, tesaṃ saggo avārito, maggo pana vārito. Abhabbā hi te maggappaṭilābhāya vatthuvipannattā. Pabbajjāpi nesaṃ paṭikkhittā, tasmā tepi pārājikāva. Theyyasaṃvāsako, titthiyapakkantako, mātughātako, pitughātako, arahantaghātako, bhikkhunidūsako, lohituppādako, saṅghabhedakoti ime aṭṭha attano kiriyāya vipannattā abhabbaṭṭhānaṃ pattāti pārājikāva. Tesu theyyasaṃvāsako, titthiyapakkantako, bhikkhunidūsakoti imesaṃ tiṇṇaṃ saggo avārito, maggo pana vāritova. Itaresaṃ pañcannaṃ ubhayampi vāritaṃ. Te hi anantarāva narake nibbattanakasattā. Yadā bhikkhunī vibbhamitukāmā hutvā kāsāvameva vā gihivatthaṃ vā gihinivāsanākārena nivāseti, tadā pārājikamāpannā nāma hotīti āha ‘‘gihibhāvaṃ patthayamānāyā’’tiādi. Sā hi ajjhācāravītikkamaṃ akatvāpi ettāvatā assamaṇī nāma hoti.
ทีฆตาย ลมฺพมานํ องฺคชาตเมตสฺสาติ ลมฺพี (สารตฺถ. ฎี. ๒.๒๓๓)ฯ น โส เอตฺตาวตา ปาราชิโก, อถ โข ยทา อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ มุเข วา วจฺจมเคฺค วา ปเวเสติ, ตทา ปาราชิโก โหติฯ มุทุกตา ปิฎฺฐิ เอตสฺสาติ มุทุปิฎฺฐิโก, กตปริกมฺมาย มุทุกาย ปิฎฺฐิยา สมนฺนาคโตฯ โสปิ ยทา อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ อตฺตโน มุขมคฺควจฺจมเคฺคสุ อญฺญตรํ ปเวเสติ, ตทา ปาราชิโก โหติฯ ปรสฺส องฺคชาตํ มุเขน คณฺหาตีติ โย อนภิรติยา ปีฬิโต ปรสฺส สุตฺตสฺส วา ปมตฺตสฺส วา องฺคชาตํ มุเขน คณฺหาติฯ ปรสฺส องฺคชาเต อภินิสีทตีติ โย อนภิรติยา ปีฬิโต ปรสฺส องฺคชาตํ กมฺมนิยํ ทิสฺวา อตฺตโน วจฺจมเคฺคน ตสฺสูปริ นิสีทติ, ตํ อตฺตโน วจฺจมคฺคํ ปเวเสตีติ อโตฺถฯ เอตานิ หิ จตฺตาริ ยสฺมา อุภินฺนํ ราควเสน สทิสภาวูปคตานํ ธโมฺม ‘‘เมถุนธโมฺม’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา เอเกน ปริยาเยน เมถุนธมฺมํ อปฺปฎิเสวิตฺวาเยว เกวลํ มเคฺคน มคฺคปฺปเวสนวเสน อาปชฺชิตพฺพตฺตา เมถุนธมฺมปาราชิกสฺส อนุโลเมนฺตีติ ‘‘อนุโลมปาราชิกานี’’ติ วุจฺจนฺติฯ
Dīghatāya lambamānaṃ aṅgajātametassāti lambī (sārattha. ṭī. 2.233). Na so ettāvatā pārājiko, atha kho yadā anabhiratiyā pīḷito attano aṅgajātaṃ mukhe vā vaccamagge vā paveseti, tadā pārājiko hoti. Mudukatā piṭṭhi etassāti mudupiṭṭhiko, kataparikammāya mudukāya piṭṭhiyā samannāgato. Sopi yadā anabhiratiyā pīḷito attano aṅgajātaṃ attano mukhamaggavaccamaggesu aññataraṃ paveseti, tadā pārājiko hoti. Parassa aṅgajātaṃ mukhena gaṇhātīti yo anabhiratiyā pīḷito parassa suttassa vā pamattassa vā aṅgajātaṃ mukhena gaṇhāti. Parassa aṅgajāte abhinisīdatīti yo anabhiratiyā pīḷito parassa aṅgajātaṃ kammaniyaṃ disvā attano vaccamaggena tassūpari nisīdati, taṃ attano vaccamaggaṃ pavesetīti attho. Etāni hi cattāri yasmā ubhinnaṃ rāgavasena sadisabhāvūpagatānaṃ dhammo ‘‘methunadhammo’’ti vuccati, tasmā ekena pariyāyena methunadhammaṃ appaṭisevitvāyeva kevalaṃ maggena maggappavesanavasena āpajjitabbattā methunadhammapārājikassa anulomentīti ‘‘anulomapārājikānī’’ti vuccanti.
เอตฺถาห – มาตุฆาตกปิตุฆาตกอรหนฺตฆาตกา ตติยปาราชิกํ อาปนฺนา, ภิกฺขุนิทูสโก, ลมฺพิอาทโย จตฺตาโร จ ปฐมปาราชิกํ อาปนฺนา เอวาติ กตฺวา กุโต จตุวีสตีติ (สารตฺถ. ฎี. ๒.๒๓๓)? วุจฺจเต – มาตุฆาตกาทโย หิ จตฺตาโร อิธ อนุปสมฺปนฺนา เอว อธิเปฺปตา, ลมฺพิอาทโย จตฺตาโร กิญฺจาปิ ปฐมปาราชิเกน สงฺคหิตา, ยสฺมา ปน เอเกน ปริยาเยน เมถุนธมฺมํ อปฺปฎิเสวิโน โหนฺติ, ตสฺมา วิสุํ วุตฺตาติฯ ทุติยวิกเปฺป กจฺจิตฺถาติ เอตฺถ กจฺจิ อตฺถาติ ปทเจฺฉโท กาตโพฺพฯ
Etthāha – mātughātakapitughātakaarahantaghātakā tatiyapārājikaṃ āpannā, bhikkhunidūsako, lambiādayo cattāro ca paṭhamapārājikaṃ āpannā evāti katvā kuto catuvīsatīti (sārattha. ṭī. 2.233)? Vuccate – mātughātakādayo hi cattāro idha anupasampannā eva adhippetā, lambiādayo cattāro kiñcāpi paṭhamapārājikena saṅgahitā, yasmā pana ekena pariyāyena methunadhammaṃ appaṭisevino honti, tasmā visuṃ vuttāti. Dutiyavikappe kaccitthāti ettha kacci atthāti padacchedo kātabbo.
อิติ กงฺขาวิตรณิยา ปาติโมกฺขวณฺณนาย
Iti kaṅkhāvitaraṇiyā pātimokkhavaṇṇanāya
วินยตฺถมญฺชูสายํ ลีนตฺถปฺปกาสนิยํ
Vinayatthamañjūsāyaṃ līnatthappakāsaniyaṃ
ปาราชิกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pārājikavaṇṇanā niṭṭhitā.