Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā |
๓. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา
3. Paramparabhojanasikkhāpadavaṇṇanā
คณโภชเน วุตฺตนเยเนวาติ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุเมฺห, ภเนฺต, โอทเนน นิมเนฺตมิ, โอทนํ เม คณฺหถา’’ติอาทินา (ปาจิ. อฎฺฐ. ๒๑๗-๒๑๘) นเยน เยน เกนจิ เววจเนน วา ภาสนฺตเรน วา ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตรสฺส นามํ คเหตฺวา นิมเนฺตตีติ วุเตฺตเนว นเยน ฯ นิมนฺติตสฺสาติ อกปฺปิยนิมนฺตเนน นิมนฺติตสฺสฯ อวิกเปฺปตฺวาติ สมฺมุขาสมฺมุขวเสน อวิกเปฺปตฺวา, อปริจฺจชิตฺวาติ อโตฺถฯ อยญฺหิ ภตฺตวิกปฺปนา นาม สมฺมุขาปรมฺมุขาปิ วฎฺฎติฯ เตนาห ‘‘โย ภิกฺขุ ปญฺจสุ สหธมฺมิเกสู’’ติอาทิฯ
Gaṇabhojane vuttanayenevāti bhikkhuṃ upasaṅkamitvā ‘‘tumhe, bhante, odanena nimantemi, odanaṃ me gaṇhathā’’tiādinā (pāci. aṭṭha. 217-218) nayena yena kenaci vevacanena vā bhāsantarena vā pañcannaṃ bhojanānaṃ aññatarassa nāmaṃ gahetvā nimantetīti vutteneva nayena . Nimantitassāti akappiyanimantanena nimantitassa. Avikappetvāti sammukhāsammukhavasena avikappetvā, apariccajitvāti attho. Ayañhi bhattavikappanā nāma sammukhāparammukhāpi vaṭṭati. Tenāha ‘‘yo bhikkhu pañcasu sahadhammikesū’’tiādi.
อญฺญตฺร นิมนฺตนโภชนวตฺถุสฺมินฺติ อญฺญตฺร ปฐมํ นิมนฺติตา หุตฺวา อญฺญสฺมิํ นิมนฺตเน ภุญฺชนวตฺถุสฺมิํฯ ยทิ ติวิธา อนุปญฺญตฺติ, อถ กสฺมา ปริวาเร ‘‘จตโสฺส อนุปญฺญตฺติโย’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ปริวาเร ปนา’’ติอาทิฯ วิกปฺปนมฺปิ คเหตฺวาติ วิกปฺปนานุชานนมฺปิ อนุปญฺญตฺติสมานนฺติ อนุปญฺญตฺติภาเวน คเหตฺวาฯ เอกสํสฎฺฐานีติ เอกสฺมิํ มิสฺสิตานิฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๒๒๙) – เทฺว ตีณิ กุลานิ นิมเนฺตตฺวา เอกสฺมิํ ฐาเน นิสีทาเปตฺวา อิโต จิโต จ อาหริตฺวา ภตฺตํ อากิรนฺติ, สูปพฺยญฺชนํ อากิรนฺติ, เอกมิสฺสกํ โหติ, เอตฺถ อนาปตฺตีติฯ สเจ ปน มูลนิมนฺตนํ เหฎฺฐา โหติ, ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ อุปริ, ตํ อุปริโต ปฎฺฐาย ภุญฺชนฺตสฺส อาปตฺติฯ หตฺถํ ปน อโนฺต ปเวเสตฺวา ปฐมนิมนฺตนโต เอกมฺปิ กพฬํ อุทฺธริตฺวา ภุตฺตกาลโต ปฎฺฐาย ยถา ตถา วา ภุญฺชนฺตสฺส อนาปตฺติฯ เทฺว ตีณิ นิมนฺตนานิ เอกโต วา กตฺวา ภุญฺชตีติ เทฺว ตีณิ นิมนฺตนานิ เอกโต ปกฺขิปิตฺวา มิเสฺสตฺวา เอกํ กตฺวา ภุญฺชตีติ อโตฺถฯ ‘‘สกเลน คาเมน วา’’ติอาทีสุ สกเลน คาเมน เอกโต หุตฺวา นิมนฺติตเสฺสว ยตฺถ กตฺถจิ ภุญฺชโต อนาปตฺติฯ ปูเคปิ เอเสว นโยฯ นิมนฺติยมาโน วา ‘‘ภิกฺขํ คเหสฺสามี’’ติ วทตีติ ‘‘ภตฺตํ คณฺหา’’ติ นิมนฺติยมาโน ‘‘น มยฺหํ ตว ภเตฺตน อโตฺถ, ภิกฺขํ คเหสฺสามี’’ติ ภณติฯ กิริยากิริยนฺติ เอตฺถ โภชนํ กิริยํ, อวิกปฺปนํ อกิริยํฯ
Aññatra nimantanabhojanavatthusminti aññatra paṭhamaṃ nimantitā hutvā aññasmiṃ nimantane bhuñjanavatthusmiṃ. Yadi tividhā anupaññatti, atha kasmā parivāre ‘‘catasso anupaññattiyo’’ti vuttanti āha ‘‘parivāre panā’’tiādi. Vikappanampi gahetvāti vikappanānujānanampi anupaññattisamānanti anupaññattibhāvena gahetvā. Ekasaṃsaṭṭhānīti ekasmiṃ missitāni. Idaṃ vuttaṃ hoti (pāci. aṭṭha. 229) – dve tīṇi kulāni nimantetvā ekasmiṃ ṭhāne nisīdāpetvā ito cito ca āharitvā bhattaṃ ākiranti, sūpabyañjanaṃ ākiranti, ekamissakaṃ hoti, ettha anāpattīti. Sace pana mūlanimantanaṃ heṭṭhā hoti, pacchimaṃ pacchimaṃ upari, taṃ uparito paṭṭhāya bhuñjantassa āpatti. Hatthaṃ pana anto pavesetvā paṭhamanimantanato ekampi kabaḷaṃ uddharitvā bhuttakālato paṭṭhāya yathā tathā vā bhuñjantassa anāpatti. Dve tīṇi nimantanāni ekato vā katvā bhuñjatīti dve tīṇi nimantanāni ekato pakkhipitvā missetvā ekaṃ katvā bhuñjatīti attho. ‘‘Sakalena gāmena vā’’tiādīsu sakalena gāmena ekato hutvā nimantitasseva yattha katthaci bhuñjato anāpatti. Pūgepi eseva nayo. Nimantiyamāno vā ‘‘bhikkhaṃ gahessāmī’’ti vadatīti ‘‘bhattaṃ gaṇhā’’ti nimantiyamāno ‘‘na mayhaṃ tava bhattena attho, bhikkhaṃ gahessāmī’’ti bhaṇati. Kiriyākiriyanti ettha bhojanaṃ kiriyaṃ, avikappanaṃ akiriyaṃ.
ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paramparabhojanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.